หกสิบคาถาชีวิตของวิกรม กรมดิษฐ์

คาถาชีวิต โดย วิกรม กรมดิษฐ์
คาถาชีวิต โดย วิกรม กรมดิษฐ์


วิกรม กรมดิษฐ์…เขียนในวาระอายุคบ 60 ปี
เปิดตัว
18 ธ.ค.55 ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร (สี่แยกปทุมวัน)
ประภัสสร เสวิกุล…เรียบเรียง
มูลนิธิอมตะ ราคา 20 บาท

http://www.seventeenthailand.com/17_lifestyle/detail.php?topic=entertainment&hID=288

คาถา หมายถึง คำประพันธ์ประเภทร้อยกรอง
และคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นก็เป็นการสอนโดยใช้คาถาเช่นกัน
คนไทยเราคุ้นเคยกับคาถา หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าสุภาษิตนั่นเอง
และคาถาชีวิตของคุณวิกรมนั้น
ก็เป็นข้อความที่ผ่านการเรียงร้อยมาเป็นอย่างดี
เป็นคาถาที่เกิดขึ้นจากการใช้ชีวิต
เพื่อนำมาถ่ายทอดเป็นอุทาหรณ์และแนวทางให้กับอีกหลายชีวิต

คุณวิกรม บอกว่า หนังสือเล่มนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการสะท้อนประสบการณ์ชีวิต
ที่บ้านเขาใหญ่ด้วยการเขียนหนังสือ..ผมจะเป็นคนดี..
ในการเขียนต้นฉบับมีข้อความหลายประโยคของความรู้สึกนึกคิดและมุมมองใหม่ ๆ
ผุดขึ้นมาจากความทรงจำ แต่คงไม่สำคัญเท่ากับการที่ได้จับสิ่งเหล่านั้น
มาแปรรูปเป็นความรู้ ความคิด
ใช้เป็นข้อเตือนใจเตือนสติตนเองให้ห่างไกลจากปัญหา
และเป็นเครื่องนำทางในการก้าวไปสู่อนาคต
และครั้งนี้คุณวิกรมขอแบ่งปันคาถาชีวิตจำนวน 60 ข้อความ
ประกอบรูปภาพชีวิตตั้งแต่เด็กถึงปัจจุบัน
ให้กับทุก ๆ ท่านนำไปปรับใช้กับชีวิต

จาก คาถาชีวิต ที่ว่า
1. เรียนก่อนที่จะรู้ รู้ก่อนที่จะทำ
2. อยู่ให้ได้ทุกสถานการณ์
3. เกียรติยศของคน อยู่ที่ผลของความดี
4. ชีวิต มีค่ากว่าอารมณ์
5. ยอมจำนนกับอดีต แต่ไม่ยอมแพ้กับอนาคต
6. ทำดี ไม่ต้องมีคำชม
7. ห้วงรัก-เหวลึก
8. เก่งแต่ไม่โกง
9. แต่ละคน มีวิธีการทำที่แตกต่างกัน แต่เป้าหมายเดียวกัน
10. ไม่มีอะไรดีที่สุด แต่ต้องทำให้ดีกว่าเดิม
11. หยุดคิด ชีวิตจะล้าหลัง
12. ตัวเราเล็กลง เมื่อมองเห็นโลกกว้างขึ้น
13. มองให้ไกล ไปให้ถึง
14. พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้
15. ให้ก่อนได้
16. เวลาคือต้นทุน ชีวิตสุดท้ายคือศูนย์
17. พอดี พอควร
18. ไม่มีอะไรสาย สำหรับวันนี้
19. อิ่มสุข ทุกข์หมด
20. อารมณ์คือปัญหา ปัญญาคือทางออก
21. ความงมงายคือภัยร้ายต่อชีวิต
22. เตียงมีไว้นอน โต๊ะมีไว้ทำงาน
23. หมดฝัน เมื่อหมดลมหายใจ
24. การท้าทายตนเอง ถือเป็นการพิสูจน์ตนเอง
25. ทุกชีวิตคิดไม่เหมือนกัน
26. เดินบนถนนที่ตนรู้
27. เกิดมามีบุญ ต้องรู้จักบุญที่ตนเองมี
28. อย่ายอมแพ้ ถ้ายังมีโอกาส
29. ความรักคือความยั่งยืนของครอบครัว
30. มองกระจกเวลาโกรธ
31. ทำงานเยอะก็พักเยอะ
32. หากไม่รู้จักตนเองเป็นใคร คงไปไกลลำบาก
33. ความฝันไม่ต้องเสียเงิน
34. หลงทางดีกว่าหลงตัว
35. สิ่งที่เรามี ถ้าเราไม่ได้ใช้ ก็ไม่ใช่ของเรา
36. เตรียมตัวมาก ปัญหายิ่งน้อยลง
37. จนเงินทอง แต่ไม่จนความสะอาด
38. สมองมีไว้คิด กระดาษมีไว้จด
39. คนขี้เกียจอายุสั้น คนขยันอายุยืน
40. อย่าให้ชีวิตเราเป็นแบบหมู หมา กา ไก่
41. แม้แต่พระอาทิตย์ก็มีจุดบอด
42. อย่าโกงความจริง อย่าหลอกตัวเอง
43. ความสุขเกิดได้ทุกหนแห่ง ถ้าเราเป็นคนมีสุข
44. ปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ
45. ความหวังคือพลังชีวิต
46. ทำในสิ่งที่ตนพอใจ และพอใจในสิ่งที่ตนทำ
47. ความโลภ ทำลายโลก
48. จริงจัง แต่ไม่เครียด
49. ไม่มีอะไรหยุดความคิดได้
50. รู้จักกิน รู้จักใช้
51. อย่าเอาเปรียบ หรือข่มเหงผู้ที่อ่อนแอกว่า
52. หากปัญหาเกิดด้วยตัวเรา ต้องแก้ด้วยตัวเรา
53. ตนคือผู้กำหนด หนทางของตน
54. ความด้อยไม่ใช่ข้อจำกัด ของการเป็นคนดี
55. ความยากจนจะเกิดกับคนที่กลัวลำบาก
56. คิดดีไม่มีต้นทุน
57. คิดก่อนพูดจะไม่เสียใจในอนาคต
58. ความโง่เขลาคือการไม่อยากเรียนรู้
59. หนังสือเป็นเข็มทิศแห่งปัญญาและอนาคต
60. อย่าคิดว่าตนเองดีหรือวิเศษกว่าผู้อื่นเสมอ

หนังสือราคา 20 บาท
หาซื้อได้ในร้านเซเว่นทุกสาขา (ถ้าไม่หมดซะก่อน)

1 ล้านเล่มแรกหมด พิมพ์ครั้งที่สอง 250,000 เล่ม
1 ล้านเล่มแรกหมด พิมพ์ครั้งที่สอง 250,000 เล่ม


http://www.vikrom.net
http://www.booksmile.co.th/index.php?lay=show&ac=cat_show_pro_detail&pid=248216

หนังสือ ผมรวยด้วยการเขียนโปรแกรมขายได้ยังไง

book
book

หนังสือ “ผมรวยด้วยการเขียนโปรแกรมขายได้ยังไง
โดย ยุทธนา ท้าวนอก


ผมได้หนังสือเล่มนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ธ.ค.55 ตอนไปส่งครอบครัวแถวห้างเสรี แล้วไปเดินโต๋เต๋ในร้าน se-ed หนังสือเล่มนี้เป็นเล่มแรกที่หยิบออกจากชั้นมาดู เห็นว่าหลายบทน่าสนใจก็หยิบไปจ่ายตัง (295 บาท) เลย เป็นครั้งแรกที่ใช้เวลาในร้านหนังสือน้อย และตัดสินใจเร็วกว่าทุกครั้ง  คาดว่า 3 นาที
ประโยคสำคัญ ที่ทำให้ผมตัิดสินใจซื้อ คือ ผลงานของผู้เขียนชนะเลิศระดับประเทศ 2 ครั้ง ในการประกวด “Thailand ICT Awards” ซึ่งสะท้อนอะไรบ้างอย่าง จึงทำให้ผมไม่ลังเลที่จะมีหนังสือเล่มนี้ในบ้านอีกเล่ม

http://www.cargooptimizer.com/OSC/Softbiz.php?language=th

หนังสือพ็อกเกตบุ๊คความหนา 400 หน้า ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความเป็นมาของผู้ก่อตั้งกิจการ Dreamsofts Optimization ltd. part. กิจการซอฟต์แวร์ของไทยที่ก้าวไกลออกไปทั่วโลก ด้วยจำนวนลูกค้าที่มากกว่า 500 รายทั่วโลก ประสบการณ์สิบปีเต็มในการบริหารกิจการซอฟต์แวร์จนประสบความสำเร็จถูกนำมาบรรจงถ่ายทอดลงในหนังสือเล่มนี้แล้ว

ใช้เวลาเขียนถึง 1 ปีเต็ม (ม.ค. – ธ.ค. 55) เพื่อให้ได้ผลงานที่มีเนื้อหากระชับและครบถ้วนที่สุด


บทที่ 1. บทนำ

จาก คนที่มีความรู้เรื่องการเขียนโปรแกรมอันน้อยนิดจนกลายมาเป็นเจ้าของกิจการ ซอฟต์แวร์ที่สามารถขายผลงานได้ทั่วโลก มีรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ 2 รางวัลเป็นเครื่องยืนยันคุณภาพ ซึ่งกว่าผมจะมาถึงจุดนี้ได้มีองค์ประกอบหลายๆอย่างที่เป็นส่วนช่วยเสริมและ ผลักดันให้ผมประสบความสำเร็จได้ แต่จุดเปลี่ยนหลักๆที่ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ได้คือการเปลี่ยนตัวเองจาก โปรแกรมเมอร์มาเป็นนักธุรกิจซอฟต์แวร์

รู้จักกันก่อน
มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับซอฟต์แวร์กันอีกนิด
จากโปรแกรมเมอร์มาเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์และกลายมาเป็นนักธุรกิจ
ไม่ต้องเขียนโปรแกรมเก่งมาก แต่ต้องรู้จักคำว่าจุดขาย
กว่าจะเป็น Dreamsofts
เรียนตอนไหนก็ได้ จบมาก็ต้องหางานทำอยู่ดี
กลับมาเรียนดีกว่า พอแล้วงานมันหนัก

ขายได้ตั้งสามพันห้า
ได้หน้าแต่ไม่ได้เงิน
วันนี้ที่รอคอย

ลูกค้าของ Dreamsofts
ผลของ Dreamsofts

โปรแกรมคำนวณการจัดเรียงสินค้าใส่คอนเทนเนอร์
โปรแกรมคำนวณการตัดชิ้นงาน 1 และ 2 มิติ
โปรแกรมออกแบบบรรจุภัณฑ์แบบ 3 มิติ
โปรแกรมสร้างภาพโมเสค
เกมหวย[หนทางรวยหรือจน]

มาตกลงกันก่อนไปต่อ


บทที่ 2. การพัฒนาโปรแกรมให้มีคุณภาพ

ผมจะมาเล่าการคัดเลือกโปรแกรมที่มีจุดขายเพื่อนำมาพัฒนา รวมถึงขั้นตอนในการพัฒนา เพื่อที่คุณจะได้รู้จักการพัฒนาผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพ

พัฒนาโปรแกรมอะไรดี?

เลือกโปรแกรมที่เราเข้าใจระบบและสามารถพัฒนาได้
เลือกเป้าหมายของโปรแกรมในเชิงธุรกิจ
จุดขายของโปรแกรม
โปรแกรมที่มีกลุ่มเป้าหมายใหญ่ที่สุด

ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม

1. ศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโปรแกรม
2. วิเคราะห์ระบบเพื่อกำหนดความสามารถของผลิตภัณฑ์
3. ออกแบบระบบเพื่อใช้ในการพัฒนา
4. พัฒนาโปรแกรม
5. ทดสอบและประเมินผล
6. ทำการผลิต
7. แจกจ่ายและสนับสนุน


บทที่ 3. ส่วนประกอบเสริมโปรแกรม

ถ้าคุณคิดว่าการทำธุรกิจซอฟต์แวร์มีเพียงการพัฒนาให้โปรแกรมทำงานได้เท่านั้นแล้วล่ะก็ คุณคิดผิดแล้วล่ะครับ เพราะยังมีส่วนประกอบเสริมอื่นๆ ที่จะทำให้ซอฟต์แวร์ของเรา ดูมีคุณภาพและขายได้ เรามาดูกันซิว่ามีอะไรบ้าง

ตัวโปรแกรม

ข้อมูลโปรแกรม
มาตรฐานที่โปรแกรมควรจะต้องมี
รุ่นของโปรแกรม

การป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์

ดีคอมไพล์
ดีบั๊ก
ผลิตภัณฑ์สำหรับป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์

ส่วนเสริมโปรแกรม

เนื้อหาที่ควรมีในส่วนเสริมโปรแกรม
ไฟล์ช่วยเหลือ

ไฟล์ติดตั้ง (Installation File)

โปรแกรมที่ใช้สร้างไฟล์ติดตั้ง
บรรจุภัณฑ์
สื่อจัดเก็บไฟล์ทั้งหมด
กล่องใส่แผ่น
กล่องใส่สินค้า


บทที่ 4. การตั้งราคาขาย

โปรแกรม ที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์อาจจะไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้โปรแกรมนั้นขายได้ ราคาของโปรแกรมเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ผู้ซื้อใช้พิจารณา เราจะมาศึกษาถึงการตั้งราคาขายที่จะทำให้โปรแกรมของเราขายได้ง่ายและมีกำไร มากที่สุด

ตั้งราคาขายยังไงไม่ให้ขาดทุน

ต้นทุนสินค้า
วิธีตั้งราคาขาย
แยกย่อยรุ่นสินค้า
ค่าใช้จ่ายเสริม

ภาษี

ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย

วิธีการชำระเงิน
การตั้งราคาสำหรับต่างประเทศ


บทที่ 5. เว็บไซต์สำหรับขายซอฟต์แวร์

สินค้า ดีก็ต้องมีหน้าร้านเพื่อวางจำหน่าย การมีเว็บไซต์ก็เปรียบเสมือนมีหน้าร้านสำหรับธุรกิจซอฟต์แวร์ คุณคิดว่าเว็บไซต์สำหรับขายซอฟต์แวร์ควรจะมีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง ผมจะมาบอกถึงการตั้งชื่อเว็บไซต์ รายละเอียดภายในเว็บไซต์รวมไปจนถึงส่วนเสริมในการทำให้เว็บไซต์ของเราเป็น เว็บไซต์ที่เหมาะกับการขายซอฟต์แวร์จริงๆ

การพัฒนาเว็บไซต์
โดเมนเนม

ประเภทของโดเมนเนม
การจดโดเมนเนม
คำแนะนำเกี่ยวกับโดเมนเนม

โฮสต์

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโฮสต์
การเช่าโฮสต์
เว็บฝากไฟล์

การส่งเว็บไซต์เข้าสู่โฮสต์

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโฮสต์
การเช่าโฮสต์
เว็บฝากไฟล์

สิ่งที่ควรมีในเว็บไซต์

รองรับหลายภาษา
ระบบสมาชิก
รายละเอียดสินค้า
ดาวน์โหลด
ราคา
วิธีการสั่งซื้อ
วิธีการจัดส่ง
ส่วนส่งเสริมการขาย
ลูกค้าอ้างอิง
คำรับรองจากผู้ใช้งาน
รางวัล
ประชาสัมพันธ์
คำถามที่ถามบ่อย
สนับสนุนการใช้งาน
ข้อมูลการติดต่อ
ความน่าเชื่อถือ
ส่วนเสริมในเว็บไซต์


บทที่ 6. จำหน่ายซอฟต์แวร์สำหรับต่างประเทศ

ถ้า ซอฟต์แวร์ของคุณมีความเหมาะสมที่จะจำหน่ายออกสู่ต่างประเทศได้ คุณอาจจะยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่ตรงไหนดี ผมมีขั้นตอนและประสบการณ์อันมีค่าเกี่ยวกับการจำหน่ายซอฟต์แวร์ให้กับต่าง ประเทศมาเล่าให้คุณผู้อ่านได้นำไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติได้

ข้อควรรู้เกี่ยวกับซอฟต์แวร์สำหรับต่างประเทศ
วิธีการชำระเงิน

บัตรเครดิต
โอนเงินระหว่างประเทศ
PayPal
ผู้ให้บริการรับและส่งเงินระหว่างประเทศ

วิธีการจัดส่ง

การจัดส่งสินค้าแบบออนไลน์
การจัดส่งสินค้าแบบออฟไลน์

บริการตัวกลางในการขายซอฟต์แวร์
share-it! เครื่องมือชั้นดีในการขายซอฟต์แวร์

การสมัครเพื่อใช้บริการของ share-it!
การยอมรับข้อตกลงการเป็นผู้ขายของ share-it!
การแจ้งข้อมูลบัญชีธนาคารสำหรับรับเงินจาก share-it!
การเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าสู่ระบบ
รายการส่งเสริมการขายโดยใช้ coupon code
เครือข่ายการตลาดของ share-it!
ผู้ช่วยขายผ่านระบบ Affiliate ของ share-it!


บทที่ 7. คุณรู้ไหม? ลูกค้าของคุณคือใคร

สินค้าดีก็มีแล้ว หน้าร้านก็มีแล้ว เหลือแต่การเรียกลูกค้าเข้ามาในร้าน แล้วลูกค้าของเราคือใครล่ะพวกเขาเหล่านั้นอยู่ที่ไหนกันบ้าง? เราจะหาข้อมูลของพวกเขาได้อย่างไร? และเมื่อได้ข้อมูลมาแล้วมีวิธีการติดต่อลูกค้าอย่างไรบ้าง? มาพบคำตอบของคำถามเหล่านี้ในบทนี้กัน

สินค้าของเรามีประโยชน์อย่างไร
ใครคือลูกค้าของเรา?
เราจะหาข้อมูลลูกค้าจากที่ไหน?
เราสามารถติดต่อลูกค้าได้ทางใดบ้าง

การติดต่อทางตรง
การติดต่อทางอ้อม


บทที่ 8. มาเรียกลูกค้าเข้าเว็บไซต์กันเถอะ

เมื่อเรารู้จักข้อมูลการติดต่อของลูกค้าและสถานที่ๆลูกค้ารวมตัวกันอยู่มากแล้ว เราจะมีวิธีการเรียกให้เขามาเข้าเว็บไซต์ของเราอย่างไร? มาพบคำตอบของคำถามเหล่านี้ในบทนี้กัน

ส่งโปรแกรมเข้าเว็บดาวน์โหลดซอฟต์แวร์
PAD สิ่งมหัศจรรย์สำหรับการตลาดซอฟต์แวร์

PAD คืออะไร?
การสร้าง PAD
เว็บไซต์ที่รองรับ PAD
การส่งข้อมูลเข้าเว็บไซต์ดาวน์โหลดโปรแกรมด้วย PAD
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PAD

การใช้เสิร์ชเอนจิ้นในการตลาด

การส่งข้อมูลเว็บไซต์เข้าเสิร์ชเอนจิ้น
ลงโฆษณากับเสิร์ชเอนจิ้น
ทำการปรับปรุงเว็บไซต์ด้วย SEO

ส่งโปรแกรมเข้าเว็บท่าและเว็บไซต์สำหรับขายสินค้า
การแลกลิงก์

บทที่ 9. การส่งเสริมการขาย

เมื่อเราเรียกลูกค้าให้เข้ามายังเว็บไซต์ของเราได้แล้ว เราจะมีวิธีการใดที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อโปรแกรมของเราได้เร็วที่สุด? การส่งเสริมการขายเป็นคำตอบของคำถามนี้ครับ

ข้อเสนอพิเศษ

การลดราคา
การแลกซื้อ
การแจกสินค้า
การแถม
การขายพ่วง
ส่วนลดตามจำนวน

ข้อจำกัดของข้อเสนอพิเศษ

จำนวนสิทธิ์
ระยะเวลาในการได้รับสิทธิ์
ประเภทของลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์

รายการส่งเสริมการขาย
คำแนะนำเรื่องการส่งเสริมการขาย

บทที่ 10 ความรู้ในการทำระบบควบคุมลิขสิทธิ์เบื้องต้น

คุณอาจจะยินดีมากๆ ที่โปรแกรมของคุณเป็นที่นิยมจนได้รับการกล่าวขานไปทั่ว แต่พอมาดูยอดขายแล้วกลับพบสิ่งที่ตรงกันข้าม เกิดอะไรขึ้น? มันน่าจะทำเงินให้คุณมากกว่านี้สิ และแล้วคุณก็พบว่าโปรแกรมที่คุณขายไปหนึ่ง แต่กับมีผู้ร่วมใช้งานเป็นร้อย วิธีป้องกันขั้นพื้นฐานสำหรับปัญหานี้เป็นสิ่งที่คุณควรจะรู้และผมกำลังจะบอกครับ

การควบคุมสิทธิ์การใช้งานซอฟต์แวร์
หลักการควบคุมลิขสิทธิ์การใช้งานขั้นพื้นฐาน

รหัสประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (Machine code)
ข้อมูลการใช้งาน
รหัสปลดล็อค (License code)
การทำงานของระบบควบคุมลิขสิทธิ์
ระบบการลงทะเบียน
การบังคับปิด

การทำให้ระบบควบคุมลิขสิทธิ์ของเราซับซ้อนยิ่งขึ้น

การบีบอัดข้อมูล
การเข้ารหัสข้อมูล
การเพิ่มรหัสตรวจสอบ
การเขียนและอ่านข้อมูลในสถานที่ปลอดภัย

ระบบนี้ต่อกรกับใครได้บ้าง
คำแนะนำอื่นๆ เกี่ยวกับการควบคุมลิขสิทธิ์

ข้อจำกัดของรุ่นทดลองใช้
ทำระบบโอนย้ายสิทธิ์การใช้งานดีไหม
จำนวนครั้งในการขอปลดล็อก
จำนวนครั้งในการขอปลดล็อก
ทำระบบปลดล็อกบนเว็บไซต์กันไหม
ทำระบบปลดล็อกด้วย Hardlock ใช้เองกันไหม

เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือฟ้าอีกทีคืออะไร?


บทที่ 11. ความรู้เพิ่มเติมในธุรกิจซอฟต์แวร์

เรื่อง ราวในบทนี้คือ สิ่งที่จะต้องทำเมื่อเป็นนักธุรกิจซอฟต์แวร์ ปัญหาต่างๆ ที่จะพบและ วิธีแก้ไขปัญหาเหล่านั้น พร้อมคำแนะนำ รวมทั้งเคล็ดลับต่างๆ ที่จะเป็นส่วนเสริมสำคัญให้คุณประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจซอฟต์แวร์

ขั้นตอนการทำธุรกิจซอฟต์แวร์มีอะไรบ้าง ?

ขั้นตอนที่ 1 คิดสินค้าที่แปลกใหม่ มีจุดขาย และเราสามารถพัฒนาได้
ขั้นตอนที่ 2 ตั้งชื่อกิจการและชื่อโดเมน
ขั้นตอนที่ 3 บัญชีธนาคาร โทรศัพท์และแฟกซ์
ขั้นตอนที่ 4 พัฒนาผลิตภัณฑ์และพัฒนาเว็บไซต์
ขั้นตอนที่ 5 ทำการตลาดให้กับสินค้าและเว็บไซต์ของเรา
ขั้นตอนที่ 6 บริหารกิจการของเรา

เคล็ดลับการประสบความสำเร็จ

คำแนะนำที่ 1 คุณภาพของสินค้าต้องมาก่อน
คำแนะนำที่ 2 ส่วนเสริมผลิตภัณฑ์ต้องมีให้ครบถ้วน
คำแนะนำที่ 3 ราคาสินค้าต้องมีความเหมาะสม
คำแนะนำที่ 4 การตลาดต้องมีตลอดเวลา
คำแนะนำที่ 5 การส่งเสริมการขายต้องมีบางโอกาส
คำแนะนำที่ 6 ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อถือ
คำแนะนำที่ 7 อย่าทิ้งลูกค้าเดิม
คำแนะนำที่ 8 ตอบสนองด้วยความรวดเร็ว
คำแนะนำที่ 9 ปัญหามีไว้ป้องกัน

วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์

เกิดมาหน้าตาสดใส
บาดเจ็บจากการทำงานต้องรักษาเยียวยา
คุณภาพดีก็มีอายุยืน
โปรแกรมไม้ใกล้ฝั่ง
ตายซะเถอะ
เกิดใหม่ไฉไลกว่าเดิม
ตายไปสองแต่เกิดมาใหม่แค่หนึ่ง
ขายไปด้วยกันดีกว่า

คำแนะนำเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการทำธุรกิจซอฟต์แวร์

วางแผนให้ดีก่อนสร้างเว็บไซต์ ?
ขจัดปัญหาคนเข้าเว็บมาก แต่ขายไม่ได้
อะไรที่พิมพ์บ่อยๆสร้างเทมเพลตไว้เลย
Mail signature คือหน้าตาของผู้ส่ง
จงสร้างและพัฒนาระบบการทำงานของคุณเอง
ทำคนเดียวแล้วลูกค้าเชื่อถือเหรอ ?
มีงานต้องทำหลายอย่างพร้อมกัน ทำอย่างไรดี ?
ซอฟต์แวร์กับทรัพย์สินทางปัญญา
ต้องซื้อเครื่องมือที่มีลิขสิทธิ์มาใช้หรือไม่
ระบบ OEM สำหรับตัวแทนจำหน่าย
ทำอย่างไรกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์

จงสร้างโอกาสในการประสบความสำเร็จให้กับตัวเอง

วันนี้ท่านไปถึงขั้นไหนแล้ว

วันนี้ท่านอยู่ขั้นไหนแล้ว
วันนี้ท่านอยู่ขั้นไหนแล้ว

วันนี้ท่านไปถึงขั้นไหนแล้ว
Which step have you reached today?

1. ข้าน้อยไม่ทำ มีคนเป็นทุกข์แน่
(I won’t do it)
2. ข้าน้อยไม่สามารถทำ ไม่รู้ ทำไม่เป็น
(I can’t do it)
3. ข้าน้อยต้องการทำ ทำแล้วมีคนเป็นสุขก็ดีเหมือนกัน
(I want to do it)
4. ข้าน้อยต้องทำอย่างไร ต้องหาวิธีการแล้ว อยากทำแล้ว
(How do i do it)
5. ข้าน้อยจะพยายามทำ รู้วิธีแล้ว ต้องลองสักตั้ง
(I ‘ll try to do it)
6. ข้าน้อยสามารถทำได้ แล้วทุกอย่างต้องพร้อม
(I can do it)
7. ข้าน้อยจะทำให้สำเร็จ พร้อมแล้วนะ
(I will do it)
8. ไชโย ข้าน้อยได้ทำแล้ว
(Yes, i do it?)

http://9gag.com/gag/4419707

http://www.thaiall.com/office

ขอ refresh หรือ reload link ที่วางใน facebook

object debugger for URL Refresh
object debugger for URL Refresh

23 ธ.ค.55 หลายปีก่อน หัวหน้าบอกว่าเวลาวางลิงค์ใน fb แล้วทำไม thumb ที่ปรากฎเป็นของเก่า เพราะเรามีการเปลี่ยนแปลง มาวันนี้ต้องวางลิงค์ youtube.com แต่ข้อมูลที่มาเป็นของเก่า จึงต้องบังคับ refresh หรือ reload ข้อมูลระหว่าง link กับ facebook ใหม่ เพราะ facebook มีฐานข้อมูลสำหรับทุกลิงค์ หากเรานำลิงค์ไม่เหมาะสมไปวาง ก็จะวางไม่ได้ ส่วนลิงค์ที่ถูกต้องก็จะเก็บเป็นข้อมูลในฐานข้อมูลของ facebook โดยคลิ๊ก http://developers.facebook.com/tools/debug แล้วระบุ link หรือ url ที่ต้องการตรวจสอบ มีผลให้ facebook อ่านข้อมูลจากเว็บเพจนั้นใหม่
+ http://www.thaiall.com/facebook/

บางคนว่าเกรดนั้นไม่สำคัญ แต่นายจ้างบางคนบอกว่าใช้เลือกคน

http://www.youtube.com/watch?v=sbDX-dcEqkg

มีผู้คนมากมายบอกว่าเกรดจากการเรียนหนังสือนั้นไม่สำคัญ
สิ่งสำคัญคือความรู้ที่ได้รับระหว่างเป็นนักศึกษา และการปรับตัวในสังคมหลังสำเร็จการศึกษา
แต่เกรดเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ผู้ประกอบการบางคน ให้โอกาสในการทำงาน
โดยใช้พิจารณาเลือกรับเข้าทำงาน
เพราะถ้าบอกว่าได้ 3 กว่า ย่อมได้รับโอกาสให้เข้าไปทำงาน มากกว่าคนที่ได้ 2 นิด ๆ
ดังนั้นหากรู้ตัวสักนิดว่าตอนนี้เรียนแล้วได้เกรดอย่างไรบ้าง .. ก็น่าจะช่วยได้บ้าง

Perl source code
$fm = join “”, “https://chart.googleapis.com/chart?chs=700×400&chd=t:”
,  $gda , “,” ,  $gdbp , “,” ,  $gdb , “,” ,  $gdcp , “,” ,  $gdc , “,”
,  $gddp , “,” ,  $gdd , “,” ,  $gdf
, “&chco=00FF00|00AA00|004400|0000FF|8888FF|FFFF00|FF4444|FF0000&cht=p&chl=A ”
,  $gda , “|B%2B ” ,  $gdbp , “|B ” ,  $gdb , “|C%2B ” ,  $gdcp , “|C ” ,  $gdc , “|D%2B ” ,  $gddp , “|D ” ,  $gdd , “|F ” ,  $gdf , “&chdl=A ” ,  $gda , ” : ”
, substr($gda/$tgd*100,0,4) ,  “% |B%2B ” ,  $gdbp , ” : “, substr($gdbp/$tgd*100,0,4)
, “% |B ” ,  $gdb, ” : “, substr($gdb/$tgd*100,0,4)  , ‘% |C%2B ‘ ,  $gdcp , ” : ”
, substr($gdcp/$tgd*100,0,4)  , ‘% |C ‘ ,  $gdc , ” : “, substr($gdc/$tgd*100,0,4)
, ‘% |D%2B ‘ ,  $gddp , ” : “, substr($gddp/$tgd*100,0,4)  , ‘% |D ‘ ,  $gdd , ” : ”
, substr($gdd/$tgd*100,0,4)  , ‘% |F ‘ ,  $gdf , ” : “, substr($gdf/$tgd*100,0,4)
, ‘%’;
print “<iframe width=’760′ height=’450′ src='”,  $fm , “‘></iframe>”;

output in URL
https://chart.googleapis.com/chart?chs=700×400&chd=t:4,1,2,6,1,2,0,0
&chco=00FF00|00AA00|004400|0000FF|8888FF|FFFF00|FF4444|FF0000&cht=p
&chl=A%204|B%2B%201|B%202|C%2B%206|C%201|D%2B%202|D%200|F%200
&chdl=A%204%20:%2025%%20|B%2B%201%20:%206.25%%20|B%202%20:%2012.5%%20
|C%2B%206%20:%2037.5%%20|C%201%20:%206.25%%20|D%2B%202%20:%2012.5%%20
|D%200%20:%200%%20|F%200%20:%200%

grade classification
grade classification

รวมคลิ๊ปโครงการกรุงเทพฯ สีขาว
http://www.mcot.net/site/streaming?id=50ce975e150ba01f1e000382&type=video#.UNHLna55dwj

การแสดงรายชื่อตารางทั้งหมดใน MSSQL

EMS : MSSQL Manager
EMS : MSSQL Manager

มีโอกาสเข้าใช้ MSSql หรือ SQL Server แต่ผู้ดูแลไม่ได้แจ้งว่าตารางที่ผมเข้าถึงได้ คือ ตารางชื่ออะไร
จึงเขียน 2 โปรแกรม สำหรับตรวจสอบข้อมูล
เพื่อจัดทำโปรแกรม insert, delete, update, select ต่อไป

1. โปรแกรมแสดงรายการตารางทั้งหมด

$strSQL = “SELECT * FROM sys.Tables”; // order by name”;
$strQuery =  mssql_query($strSQL);
while($result = mssql_fetch_array($strQuery)) { echo $result[0]  . “<br/>”; }

2. โปรแกรมแสดงรายการเขตข้อมูลทั้งหมด
$strSQL = “SELECT * FROM sys.columns”;
$strQuery =  mssql_query($strSQL);
$f0 = “”;
while($result = mssql_fetch_array($strQuery)) {
if ($f0 != $result[0]) echo “<hr/>”;
echo $result[0]  . ” ” . $result[1]  . “<br/>”;
$f0 = $result[0];
}

ปล. อันที่จริงถ้าใช้ SQL Manager จะดีกว่านั่งเขียน Script เพราะ host กับ user ก็รู้หมดแล้ว

EMS : MSSQL Manager
http://www.sqlmanager.net/en/downloads

Microsoft SQL Server  2008 Management Studio Express
http://www.microsoft.com/en-us/download/details.aspx?id=7593

ลงทุนกับอุปกรณ์เสริมการสอนปีละหลายล้านกับโรงเรียนในอังกฤษ แต่ได้ไม่คุ้ม

windows 8 ในอุปกรณ์ต่าง ๆ
windows 8 ในอุปกรณ์ต่าง ๆ

http://reviews.cnet.com/8301-3121_7-57531284-220/windows-8-the-complete-new-pc-launch-list/

UK schools waste ‘millions’ a year on useless gadgets

ประเด็นแรก .. งบประมาณกับประสิทธิภาพ
Summary: Are school budgets being battered (ทำลาย) by teachers who buy but never use the latest(ล่าสุด) gadget(อุปกรณ์เชิงกล)?

In the last five years, UK schools have spent over £1 billion pounds on buying the latest must-have gadgets, digital learning tools and software.
[1 British pound = 49.404908 Thai baht]

But how much of this investment is actually put to good use?

According to research released by non-profit organisation Nesta, although such a vast (มหาศาล) amount has been invested to modernize the British education system, there is “little evidence of substantial success” in improving learning through newly-acquired digital tools.
[อันดับระบบการศึกษา 2555 อังกฤษอยู่อันดับ 6 สหรัฐอยู่อันดับ 17 ไทย 37 จากทั้งหมด 40]
http://www.thaiall.com/blogacla/admin/2176/

Although technological advances can offer better access to educational material and interactive ways to learn, it isn’t an effortless process. In order to integrate technology within the classroom effectively, from replacing traditional textbooks with iPads to smart whiteboards, structured teaching and a balance between technology and core lesson aims have to be maintained.

As the report notes, it’s too easy to forget that not everyone is tech-savvy (เข้าใจ). As a former teacher, I recall working in several schools that would furnish their classrooms with the latest sparkly product, but forget to train their staff in its use, or assist them in ways to integrate technology within lesson plans. A desktop computer, tablet, smartphone or gaming system takes time to understand, and for busy teachers, finding methods to use this technology to achieve a learning aim may not be so simple.

The report suggests that spending £450 million pounds a year without evidence that it is improving education is nothing more than counter-productive. Instead of “fetishising (เครื่องราง) the latest kit“, Nesta says that teachers should make better use of what they already have.

In addition, the researchers say that many businesses are offering only “superficial (เพียงผิวเผิน)” benefits to learning, and too many apps and digital games are used to sugar-coat dull and misdirected lessons.

However, teachers also need support, and must become “confident users of digital technology in order to deal with (ขับเคี่ยว) the complexity and safety of digital tools.” Rather than using technology in an isolated way — only for tablets to be returned to the cupboard (ตู้อาหาร) after a lesson ends — it should act as a conduit (รางน้ำ) to keep learning going outside of school. By using the Internet to keep a learning network open and accessible, “social” tools, cloud computing and online groups could result in more effective teaching.

Rather than leaving millions of pounds’ worth of equipment “languish (เหี่ยวเฉา)  unused or underused in school cupboards”, the researchers suggest that in a time where economic problems are causing educational cutbacks, technology should serve as a tool rather than a distraction (เครื่องล่อใจ). Instead of giving in to the “hype” of digital learning, schools should reconsider how technology can serve as method to boost (ส่งเสริม)  education — rather than a way to make ineffective teaching methods look innovative and exciting.

#share in my facebook page
ที่อังกฤษพึ่งรู้ว่าการใช้ไอทีในโรงเรียน ไม่ใช่เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเท่าที่คาด เขาคิดว่าเสียเงินมากไปเมื่อเทียบกับผล แต่ผมว่ามีการหมุนเวียนของงบประมาณไปที่บริษัทไอที
The English know how to do it in schools is not only powerful tools that expect him to lose much thought when compared with the results, but I have a turnover of budget to it.
+ http://www.zdnet.com/uk-schools-waste-millions-a-year-on-useless-gadgets-7000007520/

+ http://www.zdnet.com/meet-the-team/uk/charlie.osborne/

ประเด็นที่ 2 .. ปัญหาของ online course
ผู้จัดการเรียนการสอนออนไลน์ในต่างประเทศกังวลเรื่องการควบคุมการโกง แล้วพบมาแล้วว่าเทคนิคการโกงจากการเรียนผ่าน online course มีดังนี้
1. บทความขโมยความคิด (plagiarized essays)
2. ร่วมกันทำข้อสอบ (illicitly collaborated on exams)
3. โพสออนไลน์ (posted solutions to test questions online)
4. ส่งคำตอบให้เพื่อน (emailed answers to classmates)
+ http://nation.time.com/2012/11/19/mooc-brigade-can-online-courses-keep-students-from-cheating/
“We need to be sure that the student who took the course is indeed who they say they are—that they did all the work,” said edX President Anant Agarwal. “That’s a real problem for MOOCs.”
MOOCs = Massive Open Online Courses

ประเด็นที่ 3 .. คำแนะนำต่อผู้กำหนดนโยบาย
5 บทเรียนสำหรับผู้กำหนดนโยบาย (Five lessons for education policymakers)
1. ไม่ใช่มายากล ต้องใช้งบประมาณ (There are no magic bullets)
2. ยอมรับครู (Respect teachers)
3. วัฒนธรรมไปร่วมกับการศึกษา (Culture can be changed)
4. พ่อแม่ต้องไม่เป็นอุปสรรค (Parents are neither impediments to nor saviours of education)
5. การศึกษาไม่ใช่อนาคต แต่เป็นปัจจุบัน (Educate for the future, not just the present)
http://thelearningcurve.pearson.com/the-report/executive-summary

ประเด็นที่ 4 .. แนะนำเกมขยับกันหน่อย (ต.ย.เกมบน android)

x-runner for android
x-runner for android

https://play.google.com/store/apps/details?id=com.droidhen.game.xrunner.apps

http://thaidroid-appvisor.blogspot.com/2012/10/x-runner.html

ข่าวบริการวิชาการ ณ โรงเรียนวัดหัวฝาย

โรงเรียนวัดหัวฝาย ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
โรงเรียนวัดหัวฝาย ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง

6 ธ.ค.55 ผศ.ดร.พงษ์อินทร์ รักอริยะธรรม อธิการบดี มหาวิทยาลัยเนชั่น และนายศุกร์ ไทยธนสุกานต์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ร่วมกันจัดกิจกรรมบริการวิชาการเรื่อง การใช้ Social Media สำหรับเยาวชน โดยมี ผศ.บุรินทร์  รุจจนพันธุ์ และ อ.เกศริน อินเพลา นำนักศึกษาสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำกิจกรรม ณ โรงเรียนวัดหัวฝาย ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง โดยมี ผอ.พีระพงษ์  ลี้ตระกูล ให้การสนับสนุนนำนักเรียนระดับประถมศึกษาเข้าเรียนรู้ในห้องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 ธันวาคม 2555 เวลา 13.00น. – 15.00น.

โรงเรียนวัดหัวฝาย ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
โรงเรียนวัดหัวฝาย ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง

นักศึกษาทั้ง 7 คน
นักศึกษาทั้ง 7 คน

นักศึกษา : อาสา ภสุ บอลอุดร บอลน่าน ขุน อ๋อง ตี้

ปัญหากับ ldap ล้มอาการใหม่ แต่วิธีแก้เหมือนเดิม

stop on swap space after ldap service
stop on swap space after ldap service

อาการขอวันนี้
1. fedora core 4 บูทไม่ขึ้นอีกแล้วหลังไฟดับ .. บูทแล้วค้าง โดยฟ้องคำว่า swap
2. reboot แล้วกด i ตามคำแนะนำ press ‘I’ to enter interactive startup
3. กดปุ่ม y เลือกบริการไปเรื่อย ๆ แล้วก็พบ ldap ผมเลือก n เพราะถ้า y ก็จะค้างอยู่ตรงนั้นอีก
4. หลังเข้าไปก็ทดสอบ start แบบ manual
พบคำว่า Checking configuration files for slapd: แล้วก็ค้างตรงนั้น
ผมต้องกดปุ่ม ctrl-c ออกมา

วิธีแก้ไข

1. สั่ง recover ด้วยคำสั่งต่อไปนี้ แต่ถ้าท่านใช้ต้องเปลี่ยนคำว่า myname
#/usr/sbin/slapd_db_recover -v -h /var/lib/ldap/myname
2. ต้องแก้ไขสิทธ์ของแฟ้ม จึงจะ start ได้สำเร็จ
โดยเข้าห้อง /var/lib/ldap/myname
แล้วสั่ง #chown ldap:ldap *
3. สั่ง #/etc/init.d/ldap start
หรือ #/etc/init.d/ldap status พบว่ามาบริการเหมือนเดิม

press 'I' to enter interactive startup
press 'I' to enter interactive startup

http://www.thaiall.com/blog/burin/4571/

แนวโน้มการรับชมทีวีสดลดลง (itinlife371)

online tv
online tv

1 ธ.ค.55 ทีวีสด หรือทีวีแบบดั้งเดิม (Traditional TV) หมายถึง การรับชมทีวี (Receive) จากสัญญาณที่มีการถ่ายทอดในขณะนั้น แต่ถ้าเป็นทีวีออนไลน์ (Online TV) หรืออินเทอร์เน็ตทีวี (Internet TV) มักเป็นการเข้าชม (Access) รายการที่ถูกบันทึกไว้ เรียกดูย้อนหลัง หรือรับชมซ้ำได้ หรืออาจเป็นรายการสดก็ได้ จากผลสำรวจในอเมริกาแม้ยอดผู้ชมทีวีผ่านเคเบิ้ลทีวีจะลดลง แต่ยอดจำหน่ายทีวีแบบ HD (High Definition) ที่ให้ความละเอียดในการแสดงผลสูงกลับมียอดจำหน่ายสูงอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างการชมอินเทอร์เน็ตทีวี เช่น ผู้ชมที่ติดละครเรื่องแรงเงาที่ออกฉายในปี 2544 นำแสดงโดยคุณแอน ทองประสม หรือปี 2555 ที่นำแสดงโดยคุณเจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ สามารถชมย้อนหลังได้ทุกตอน ไม่ต้องรอชมทีวีสดเหมือนในอดีตที่เป็นเพียงทางเลือกเดียว

ในรายงานเรื่อง How People Watch-A Global Nielsen Consumer Report ของเนลสัน บริษัทวิจัยตลาดรายใหญ่ สำรวจจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตประมาณ 27,000 คน จาก 55 ประเทศ พบว่าคนไทยดูทีวีสดน้อยที่สุด ส่วนชาวอเมริกันดูทีวีสดมากที่สุด แต่คนจีนดูวีดีทัศน์ผ่านคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนมากที่สุดในโลก เมื่อผมสอบถามนักศึกษาในห้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมการรับรู้ข่าวสารก็พบว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะมีน้อยมากที่ดูทีวีสดอย่างหน้าพร้อมตากันในครอบครัว และส่วนใหญ่จะรับชมคลิ๊ปวีดีโอที่หาดาวน์โหลดได้จากอินเทอร์เน็ตเป็นการส่วนตัว หรือหมกตัวอยู่กับเครือข่ายสังคม หรือเล่นเกมออนไลน์

ในอดีตคนไทยรับชมช่องทีวีได้เพียงไม่กี่ช่อง แต่ปัจจุบันสามารถติดตั้งจานดาวเทียม หรือเคเบิ้ลทีวี แล้วรับชมได้นับร้อยช่อง สถิติการรับชมทีวีสดมักมีปัจจัยมาจากการศึกษา อาชีพ ฐานะ ครอบครัว ความชอบ และสภาพแวดล้อม ส่วนปัจจัยที่ทำให้การรับชมทีวีสดลดลงได้แก่ รับชมรายการทีวีย้อนหลังจากอินเทอร์เน็ต หรือ TV on demand โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และมีให้เลือกชมแบบไม่จำกัดจากหลายเว็บไซต์ อาทิ การรับชมคลิ๊ปกังนัมสไตล์ที่มียอดการรับชมสูงที่สุดในโลก เวลานี้มียอดไปแล้วมากกว่า 800 ล้านวิว โค่นแชมป์เพลงเบบี้ของจันติน บีเบอร์ ไปแล้ว หรือการชมหนังซูมตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ก็สามารถสืบค้นได้ไม่ยากนัก หรือการชมหนังแผ่นแบบ 8 เรื่อง 100 บาท ตามร้านสะดวกซื้อก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เวลาที่จะรับชมทีวีสดลดลงเช่นกัน

http://variety.thaiza.com/detail_189254.html

http://www.thairath.co.th/content/oversea/259158