25 พ.ย.52 ในคณะวิทย์ใครต่อใครต่างรู้จัก น้องอิทธิพล หรือที่ผมเรียกว่าลูกศิษย์ เพราะ ร.คณบดีก็พูดถึง อาจารย์ผู้สอบหัวข้อก็พูดถึง ส่วนผมรับช่วงเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่ ก็ต้องดูแลศิษย์คนนี้ให้เต็มที่หน่อย ก็ต้องบอกว่าตอนนี้ลงทะเบียนเรียนเรียบร้อยแล้ว จึงมีเวลาทำงานอีกหลายเดือน แต่เขาก็จะเร่งให้เสร็จในวันนี้วันพรุ่ง ผมก็เอาใจช่วย เพราะเขาว่างเฉพาะตอนเย็น 1)การเข้าพบที่จริงจังนับได้ว่าวันนี้วันพุธเป็นครั้งที่ 2 โดยดูเพียงเอกสารก็ถือว่าเอกสารผ่านไปแล้วกว่า 80% 2)โดยครั้งแรกวันจันทร์ดูทั้งโปรแกรมและเอกสาร ซึ่งถ้าประเมินความสมบูรณ์ให้ได้เพียง 70% เพื่อนที่มาด้วยก็ยังชมเลยว่า ถ้าเมื่อก่อนมาพบอาจารย์ใต้บรรไดบ้านอย่างนี้บ่อย ๆ ป่านนี้จบไปแล้ว ผมก็เชื่อว่าถ้ามีเพื่อนคุมอย่างนี้ น่าจะสำเร็จการศึกษาได้ในไม่ช้า เพราะเขามีศักยภาพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว .. ดูจากภาพแล้วเขาก็ช่างพูดอยู่ไม่น้อยนะครับ
Author: บุรินทร์ รุจจนพันธุ์
เล่าเรื่องเสนอแผน KM ที่เกือบถูกล้ม
25 พ.ย.52 ในการประชุมวันนี้ อ.บุ๋มและผม ได้ร่วมกันยกร่างแผน KM ของคณะ มีการกำหนดเป้าหมาย และหน่วยที่วัดผลได้เป็นรูปธรรม ซึ่งใช้เป็นต้นแบบประกอบการประชุม ประกอบด้วย 1)แผนการจัดการความรู้ 2)แบบฟอร์มกรอกประเด็นความรู้ในหัวข้อต่าง ๆ สำหรับการบ่งชี้ความรู้ เช่น หลักธรรม วิธีการ เครื่องมือ และประสบการณ์ 3)ความหมายของการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในคู่มือประกันคุณภาพ 4)รายงานการประชุมที่มีการดำเนินการตามกิจกรรมที่ 1 มาแล้ว
หลังจากเริ่มประชุมเพียง 5 นาทีแรก ผมก็เกือบล้มแผน KM ตามแนวทางในแผนซึ่ง ก.พ.ร. และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ กำหนดแนวทางไว้ นี่นับเป็นอีกครั้งที่ผมเกือบจะยอมแพ้ต่อโชคชะตา ซึ่งมติที่ประชุมจะหันไปมุมการทำแผนแก้ปัญหา หรือแผนปรับการเรียนการสอน เฉพาะวิชาหนึ่งของคณะ ในเป้าหมายเรื่อง “การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ” ซึ่งไม่ใช่แผนการจัดการความรู้ในแบบที่มีการปฏิบัติกันทั่วไป แต่งานนี้ อ.บุ๋ม ท่านไม่ยอมให้แผนถูกล้มหรือผลิกเป็นแผนอะไรก็ไม่รู้ เพราะท่านเข้าใจอย่างถ่องแท้ และรู้ว่าถ้าพลิกแผนจะตอบคำถาม อย่างที่เคยถูก อ.ทัน เคยเคี่ยวในเวทีประเมินมาแล้วได้ลำบากขึ้น ท่านจึงเปิดเวทีแลกเปลี่ยนใช้เวลาทำความเข้าใจมากกว่าหนึ่งชั่วโมงให้ทุกคนได้เข้าใจ ว่าขั้นตอนเหล่านี้มีรายละเอียดอย่างไร จะพลิกแผนเป็นแผนอื่นก็จะผิดไปจากที่ควร .. สรุปว่าแผนครั้งนี้ไม่ถูกล้ม ยังคงเป็นแผนตามมาตรฐานการจัดการความรู้เช่นเดิม .. แต่ผมขู่ อ.บุ๋ม ไปว่า ถ้าครั้งต่อไปอาจารย์ไม่ร่วมประชุมล่ะก็มีหวังผมล้มแผน KM ในที่ประชุมเป็นแน่ .. ขอเอาใจช่วยให้แผน KM ยังคงเป็นแผน KM ไม่ถูกปรับแก้ไปตามความเข้าใจเดิมเดิม
งานนี้สรุปได้อย่างหนึ่งว่า ถ้าแผน KM ไม่มีชื่อผมก็คงจะไม่มีการเสนอล้มแผน KM เป็นแผนอื่น เพราะผมเป็นพวกเคยชินกับความล้มเหลว ใครกำหนดอะไรมาแปลกผมเป็นต้องร้องทักไปแต่ถ้าการทำตัวเป็นจิ้งจกร้องทักของผมทำแล้วไม่เกิดผล ผมก็จะทำใจยอมรับกับชะตานั้น คงเพราะผมเคยชินกับการเขียนโปรแกรมแล้ว compile ไม่ผ่านมามาก เคยชินกับการเขียนโปรแกรมแล้วไม่มีคนใช้ ก็เลยชินครับ .. สรุปว่าผมเขียนเล่าเรื่องวิบากกรรมที่ผมกับอ.บุ๋ม พบในวันนี้ ก็เท่านั้นเอง
+ http://www.thaiall.com/km/indexo.html
+ http://www.thaiall.com/km/handbook_2549.doc
บริการวิชาการ 2 โครงการที่บ้านดง
18 พ.ย.52 อาจารย์ทนงศักดิ์ เมืองฝั้น หัวหน้าสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และ อาจารย์เกศริน อินเพลา หัวหน้าสาขาวิชาระบบสารสนเทศคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยโยนก เป็นวิทยากรให้บริการวิชาการใน โครงการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และ โครงการความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แก่บุคลากรอบต.บ้านดง อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ณ ที่ทำการอบต.บ้านดง เมื่อวันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 โดย นายศุกร์ ไทยธนสุกานต์ นายกอบต.บ้านดง และ นางสาวณภัทร หวันแก้ว ปลัดอบต.บ้านดง ให้การต้อนรับ มีบุคลากรร่วมรับการอบรมจำนวน 21 คน
+ http://www.bandongmaemoh.ob.tc/council.html
+ http://www.thaiall.com/yonok/52_service_bandong.zip
การเลื่อนตำแหน่งของภรรยาแบบวาปมิใช่ก้าวกระโดด
21 พ.ย.52 ช่วงนี้มีใครหลายคน แซวและชวนภรรยาของผมไปเลี้ยงฉลองตำแหน่งใหม่ หรืออาจได้รับตำแหน่งใหม่ในเร็ววันนี้ ผมได้แต่ดีใจด้วย ด้วยทัศนคติส่วนตัวคิดว่าเธอ เลื่อนตำแหน่งแบบวาร์ปไป (warp) มิใช่ก้าวกระโดด (jump) มีหลายประเด็นให้ได้พิจารณาคือ 1)ทำงานมา 10 กว่าปี เปลี่ยนหัวหน้ามา 11 คนในองค์กรเดียว เปลี่ยนหน่วยงานมา 4 หน่วย มีประสบการณ์มากในการเป็นเลขาฯ 2)สำเร็จการศึกษา ป.ตรี ด้านการจัดการ จากราชภัฏ ทำงาน เป็น เจ้าหน้าที่ในสำนักรับนักศึกษา เลขานุการในฝ่ายวิชาการ เลขานุการในสถาบันวิจัย เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์และธุรการในสำนักประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่ในสำนักรับนักศึกษา แล้วกำลังจะวาร์ปไปเป็น หัวหน้างานประชาสัมพันธ์และรับนักศึกษา ซึ่งมีภาระรับผิดชอบงานที่ชี้ชะตาองค์กร ตามผลการวิเคราะห์ risk โดยกลุ่มผู้บริหาร แสดงว่าเธอเป็นตัวเลือกเดียวที่ดีที่สุดเป็นแน่ 3)หลายท่านให้กำลังใจว่าไม่ต้องเป็นกังวลเพราะเราทำงานในรูปคณะกรรมการ บูรณาการ ทุกคนช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย มีผู้เชี่ยวชาญทั้ง ด้านการตลาด (marketing) ด้านประชาสัมพันธ์ (public relation) ด้านการออกแบบ (design) ที่พร้อมให้คำแนะนำอยู่ใกล้ชิด อย่างอบอุ่น 4)ใจของเธอในฐานะปุถุชนยังกังวลในการได้รับความไว้วางใจในครั้งนี้ ว่าจะภูมิใจภาระใหม่ที่ไหลมาตามกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลง หรือหนักใจที่ได้รับภาระในภาวะวิกฤต ซึ่งเคยปราบทุกเซียนมาแล้ว ก็ดูว่าเธอจะใช้อะไรมาต่อสู้กับสถานการณ์ที่เป็นอีกหนึ่งวิกฤตขององค์กร .. งานนี้มีแต่ต้องเอาใจช่วย เพราะเป็นงานใหม่ที่ท้าทายอีกงานหนึ่ง
เวทีวิจัยจากทุน CBPUS เกี่ยวกับสื่อขยายองค์ความรู้งานศพ
คืนวันศุกร์ที่ 20 พ.ย.52 นักศึกษามหาวิทยาลัยโยนก ได้แก่ นายกร ศิริพันธุ์ และ น.ส.อรพรรณ สงเคราะห์ธรรม และ ผศ.บุรินทร์ รุจจนพันธุ์ ตามทุนวิจัยโครงการ “แนวทางการผลิตสื่อวีดีทัศน์เพื่อขยายผลองค์ความรู้เรื่องการจัดการงานศพบ้านไหล่หิน ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง” ได้จัดเวทีวิจัย ณ ศาลาหมู่ 2 บ้านไหล่หิน มีตัวแทนชาวบ้านที่จะเป็นผู้แสดงและเคยเป็นนักวิจัยในโครงการ “รูปแบบการจัดการงานศพโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง บ้านไหล่หิน ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง” จากทุน CBR มาพิจารณาวิเคราะห์ความสอดคล้องของโครงวีดีโอ และสคริปต์ร่วมกัน ก่อนดำเนินการถ่ายทำและตัดต่ออย่างเป็นระบบ ที่เป็นกิจกรรมที่ 5 ของโครงการจากทั้งหมด 8 กิจกรรมหลัก และเตรียมสำหรับการนำเสนอความก้าวหน้าต่อผู้ให้ทุน ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2552 ณ สกว.ศูนย์ลำปาง
วาระในเวทีประกอบด้วย 1)ทบทวนวัตถุประสงค์ และกิจกรรมโครงการ 2)นำเสนอการดำเนินการที่ผ่านมาของนักศึกษากับชุมชน 3)นำเสนอโครงวีดีโอ 2 เรื่องคือ “ประเด็นปัญหา การแก้ไข และผลที่ได้” และ “กระบวนการวิจัย” 4)พิจารณาปรับปรุงโครงวีดีโอ บทวิเคราะห์โครง สคริปต์บทพูด 5)นัดหมายเพื่อถ่ายทำวีดีโอแต่ละท่านตามแผนในสคริปต์บทพูด
กว่าจะถึงวันนี้ นักศึกษาทำงานไปแล้วตามขั้นตอน ดังนี้ 1)เข้าไปศึกษาชุมชน เดินสำรวจหมู่บ้าน สำรวจแหล่งทุนชุมชน นอนวัด นอนบ้าน เข้าพบ ผู้นำชุมชน และพระสงฆ์ 2)ศึกษาวรรณกรรมจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่นประวัติชุมชน กระบวนการวิจัย และการจัดงานศพ 3)เข้าเรียนรู้งานศพในบ้านไหล่หิน 2 งาน 4)เข้าสัมภาษณ์และบันทึกวีดีโอการนำเสนอองค์ความรู้จากนักวิจัยโครงการ CBR 5)ฝึกตัดต่อวีดีโอต้นแบบที่บันทึกมาแล้ว 6)ยกร่างโครงวีดีโอทั้ง 2 เรื่อง คือ “ประเด็นปัญหา การแก้ไข และผลที่ได้” และ “กระบวนการวิจัย” 7)ยกร่างสคริปต์บทพูด 8)จัดทำบทวิเคราะห์ และปรับแก้ทั้งความสัมพันธ์ของบท จัดวางพระเอกนางเอกให้เหมาะ กับบทพูด จัดลำดับ แก้ไขประเด็นคำพูด 9)นำสคริปต์บทพูดเข้าเวทีพิจารณาอีกครั้ง 10)เรียบเรียงทั้งหมดเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ www.webprodee.com/research
+ ตากล้องวันนี้คือ นายสุทัศน์ หรือบอย เพื่อนของกรกับปรางที่รับอาสาบันทึกภาพ
ร้องเพลงชาติที่ลำปาง 18.00น.
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2552 ชาวจังหวัดลำปางหลายแสนคน ที่มาจากทุกองค์กร ๆ ละประมาณ 500 คน ไปรวมตัวกันที่ข่วงนคร หรือห้าแยกหอนาฬิกา เพื่อร้อง เพลงชาติไทย ออกทีวีให้คนทั้งประเทศฟัง มีบุคลากรมหาวิทยาลัยโยนกที่นำโดย ผศ.ดร.จินดา งามสุทธิ อธิการบดี และครอบครัวของผมไปร่วมร้องเพลงในครั้งนี้ ตอนไปถึงผมแยกออกไปต้องหาที่จอดรถ ได้พยายามเดินเข้าจุดนัดหมาย แต่ไปไม่ถึงเพราะมีผู้คนมากมายทั้งเด็ก สตรี ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน พ่อค้าแม่ค้า และประชาชนไปรวมแสดงพลังในครั้งนี้ ก็ได้ภาพหลังเวทีมาฝาก เพราะจุดที่กล้องทีวีจะเก็บภาพอยู่หน้าเวทีทั้งหมด ซึ่งมีชาวลำปางแน่นขนัดแบบที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน กว่าการจราจรจะคลายตัวลงจากข่วงนครก็ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง เป็นเหตุกาณ์ในประวัติศาสตร์อีกครั้งที่จะต้องบันทึกและจดจำไว้
คำร้องโดย พันเอก หลวงสารานุประพันธ์ (นวล ปาจิณพยัคฆ์) ในนามกองทัพบก “ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทุกส่วน อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล ด้วยไทยล้วนหมาย รักสามัคคี ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่ สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี เถลิงประเทศชาติไทยทวี มีชัย ชโย“
วิพากษ์ระบบอินทราเน็ต(1)
19 พ.ย.52 คุณธรณินทร์ สุรินทร์ปันยศ ได้พัฒนาระบบอินทราเน็ต พยายามเชื่อมโยงระบบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยเปิดให้มีการวิพากษ์ภายในสำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย คุณอรรถชัย เตชะสาย และ คุณอนุชิต ยอดใจยา โดยเริ่มจาก 1)ระบบฐานข้อมูลบุคลากรเป็นระบบฐาน ที่เปิดให้บุคลากรเข้าไปจัดการข้อมูลของตน 2)ระบบสารสนเทศบุคลากร ที่อ่านตรงมาจากระบบฐานข้อมูลบุคลากร ให้บุคคลทั่วไป หรือนักศึกษา ได้เข้าค้นข้อมูลตั้งแต่รายชื่อผู้บริหาร คณะวิชา ไปถึงข้อมูลบุคคล ที่สามารถเชื่อมตรงกับเว็บไซต์คณะวิชา 3)รายชื่อเว็บไซต์อีเลินนิ่ง รายชื่อบทความ รายชื่องานวิจัย รายชื่อเว็บบล็อก หรือรายชื่อระบบแฟ้มเอกสาร ที่แสดงในภาพรวมขององค์กร ผ่านการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลที่เชื่อมโยงใช้ร่วมกัน โดยกำหนดให้นำเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาระบบฐานข้อมูลฯ ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2552 เวลา 13.00น. – 14.30น. นี่เป็นอีกก้าวย่างที่สำคัญของการระบบฐานข้อมูลในมหาวิทยาลัย
บ่นเรื่องลูกศิษย์ให้เขาฟังทางโทรศัพท์
19 พ.ย.52 เรื่องเล่าว่า ผมนัดลูกศิษย์ชายมาคุยงานวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์ที่บ้านครั้งที่ 3 แต่ล้มเหลวอีกแล้ว ลูกศิษย์ลงทะเบียนมาแล้ว 3 ภาคเรียนในวิชาโครงงานฯ ที่ผ่านมาลงแล้วก็หายไปเป็นภาคเรียน แต่มีข่าวว่าเขาติดเกม ผู้ปกครองจึงเปิดร้านเกมให้ที่บ้านก็น่าจะเป็นการส่งเสริมให้ใช้ความสนใจ ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองได้ในระดับหนึ่ง นัดไปที่มหาวิทยาลัยก็ไม่สะดวก เพราะต้องดูแลร้านในเวลากลางวัน ตกเย็นต้องรอคุณพ่อคุณแม่มาดูร้านต่อ จะสะดวกก็ค่ำแล้ว
มีเล่าต่อว่า ครั้งแรก เป็นวันสุดสัปดาห์ที่นัดลูกศิษย์มาคุย แต่เขามาไม่ได้เพราะฝนตกเดินทางไม่สะดวก ซึ่งเป็นวันที่ผมต้องเลื่อนนัดครอบครัวไปทานข้าวนอกบ้าน ครั้งที่สอง เป็นวันจันทร์ซึ่งผมเลื่อนนักลูกศิษย์อีก 2 คนออกไป เพราะลูกศิษย์คนนี้ต้องมาก่อนเนื่องจากมีปัญหาชัดเจน แต่เขาก็ไม่สะดวกที่จะมาพบ ครั้งที่สาม คือวันนี้ได้นัดไว้หลายวันแล้วและย้ำอีกครั้งเมื่อตอนกลางวันว่าพบกันเย็นนี้ แล้วผมก็ต้องเลื่อนไปส่งคุณแม่ที่ต่างอำเภอ เพราะไม่กล้าเลื่อนลูกศิษย์คนนี้ที่นัดไว้หลายวัน แต่สุดท้ายผมก็ต้องโทรไปถามว่าดึกแล้วทำไมยังมาไม่ถึง ก็พบคำตอบที่ไม่ประทับใจว่าวันนี้ไม่สะดวกขอเป็นพรุ่งนี้ .. ทำให้ผมต้องอธิบายเรื่องความผิดหวังต่อตัวเขาในฐานะเยาวชนของชาติที่ผมพยายามจะช่วยให้เขาสามารถสำเร็จการศึกษาและออกไปรับใช้ชาติของผมตามระบบและกลไกที่มหาวิทยาลัยได้วางไว้ แต่ผมก็ล้มเหลวเนื่องจากองค์ประกอบของความสำเร็จมีเขาเป็นปัจจัยสำคัญ .. ก็บ่นไปตามประสาของมนุษย์ผู้ยังมีหวังต่ออะไรอะไรอีกมากมาย
เปลี่ยนหัวหน้าอีกแล้ว เป็นความต่างของคนสองคน
19 พ.ย.52 วันนี้ภรรยาของผม น้องนก น้องจ๋อม น้องตุ๊ก ตามแต่เธอจะตั้ง ได้ปรารภให้ฟังว่า เปลี่ยนหัวหน้าอีกแล้ว โดย เปลี่ยนหน่วยงานมา 5 หน่วย คือ 1)รับน.ศ. 7 ปี 2)วิชาการ 3 ปี 3)วิจัย 1 ปี 4)ปชส 1 ปี 5)รับน.ศ. 1ปี และ เปลี่ยนหัวหน้าถึง 11 ครั้ง คือ 1)ปี39 อ.เอ 2)ปี40 พี่ดล 3)ปี41 พี่ตา 4)ปี42 อ.ศิริ 5)ปี43 อ.ปภัส 6)ปี43 อ.เดชา 7)ปี44 พี่ปอง 8)ปี45 อ.ศรี 9)ปี51 อ.เอก 10)ปี51 อ.ติ 11)ปี52 อ.เอก สำหรับตัวสามีเปลี่ยนหัวหน้ามาก็ไม่น้อย มีหัวหน้าสายตรงในบทบาทอาจารย์ เปลี่ยนมา 8 ท่าน คือ 1)ปี37 อ.สุวรรณ 2)ปี43 อ.บุ๋ม 3)ปี44 อ.นิยม 4)ปี45 อ.สุจิน 5)ปี46 อ.ศรีนวล 6)ปี47 อ.บุ๋ม 7)ปี อ.สันติ 8)อ.ศศิ
ทัศนคติในการทำงาน ของผมกับภรรยาไม่ค่อยต่างกันนัก ได้แก่ “ชีวิตคืองานบันดาลสุข” เราเคยทำงาน side line มาไม่น้อย เช่น 1)ขายแอมเวย์ 2)ขายยูนิรีเวอร์ 3)ขายประกัน 4)ทำสวนมะลิ 5)เปิดร้านขายเสื้อผ้า 6)ขายโดเมนเนม 7)ขายโฮสติ้ง 8)รับทำเว็บไซต์ 9)ขายผ้าห่ม 10)เล่นหุ้น แต่งานประเภทอยู่บ้านเฉย ๆ แล้วรวยอย่าง work at home นี่ไม่เคยทำ จากการมีประสบการณ์ไม่น้อยในการล้มเหลวจากการทำธุรกิจ มีงานอะไรเข้ามาก็มักไม่ค่อยจะขัดแข้งขัดขากัน จากการล้มเหลวมาหลายครั้ง ผมกับภรรยามีสิ่งที่เหมือนกัน คือ 1)ไม่ชอบเห็นความล้มเหลวของคนรอบตัวเป็นของสนุก เราจึงชอบไม่ดูมวยที่มีความสุขกับการห้ำหั่นกัน 2)ไม่สนับสนุนการทำลายองค์กรที่เกิดการเห็นแก่เล็กแก่น้อยบนความโลภส่วนบุคคลที่เกิดในสังคม เพราะเข็ดขยาดที่เห็นความล้มเหลวของปุถุชนเผยแพร่ในสื่อมานับไม่ถ้วน
ส่งผลออก 2 จอภาพ มีเทคนิคเสริมใน PPT
17 พ.ย.52 ได้รับคำแนะนำจาก อ.วิเชพ ใจบุญ ว่าการใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ส่งผลลัพธ์ออก 2 จอภาพ สามารถทำได้ และมีเทคนิคเสริมใน Powerpoint เพราะทดสอบกับ อ.อติชาต หาญชาญชัย และ อ.เกศริน อินเพลา แล้วพบว่าส่ง Powerpoint ออกได้เฉพาะจอภาพที่ 1 แต่โดยปกติเราจะส่งออกจอภาพที่ 2 และจอภาพที่ 1 จะใช้สำหรับค้นข้อมูล พิมพ์งาน หรือแก้ไขเอกสาร เป็นต้น
วิธีส่งผลออกจอภาพที่ 2 คือ 1)เข้าเมนูบาร์ 2)เลือกการนำเสนอภาพนิ่ง 3)การตั้งค่าการนำเสนอ 4)แก้ไขตัวเลือกใน แสดงภาพนิ่งบน เท่านี้ก็เลือกได้แล้วว่าจะให้แสดงที่จอภาพที่ 1 หรือจอภาพที่ 2