พระปลัดบรรยายธรรมวันแห่งความรัก

วันวาเลนไทน์

3 ก.พ.53 อ.อ้อม คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ร่วมกับทุกคณะวิชา อาทิ อ.บอย คณะบริหารเป็นพิธีกร อ.น้ำผึ้ง คณะนิเทศรับลงทะเบียน อ.แต คณะวิทย์เก็บแบบสอบถาม จัดโครงการธรรมะเพื่อชีวิต นิมนต์พระครูปลัดอนันต์ ญาณสํวโร มาเทศให้ข้อคิดเตือนสติเตือนใจหลายเรื่อง อาทิ ไม่โหดร้าย ไม่มือไว ไม่ใจเร็ว ไม่พูดปด ไม่หมดสติ หรือ วัยพึ่ง วัยพบ วัยเพียร วัยพัก และวัยพราก ก่อนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เพื่อปรามมนุษย์เยาวชนให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท มีนักศึกษาจากทุกคณะ ผู้บริหาร อาจารย์และเจ้าหน้าที่ สนใจเข้าฟังพร้อมเพียงกัน และมีประเด็นเล่าให้ฟังมากมาย เรื่องหนึ่งคือประวัติวันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) ซึ่งพอสรุปได้ว่า เทศกาลวาเลนไทน์ เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีถูกจัดให้เป็นวันหยุด เพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโนผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศและการแต่งงานและในวันที่ 15 กุมภาพันธ์เป็นวันเริ่มต้น เทศกาลเฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย
     ในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอโหดร้าย นิยมการทำสงคราม ทรงตระหนักว่าชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วมกองทัพ เนื่องจากไม่อยากพรากจากคู่รักและครอบครัวไป จึงมีพระราชโองการห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นหรือแต่งงานในโรม ทำให้ประชาชนทุกข์ใจยิ่งและขณะนั้นมีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์หรือวาเลนตินัส ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ ทำให้วาเลนไทน์ถูกจับ ระหว่างเป็นนักโทษเชื่อกันว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะถูกตัดศีรษะ เขาส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” และวาเลนไทน์ก็ถูกประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270
     หลังจากนั้นศพของเขาถูกเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของวาเลนตินัส โดยต้นอามันต์สีชมพูเป็นตัวแทนแห่งรักนิรันดร์และมิตรภาพอันสวยงาม ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกเลือกให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายังคงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือกหญิงสาวที่ตนพอใจในวันวาเลนไทน์จนถึงทุกวันนี้

+ กุหลาบแดง (Red Rose) : แทนประโยคว่า “ฉันรักเธอ”
+ กุหลาบขาว (White Rose) : แทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์
+ กุหลาบชมพู (Pink Rose) : แทนความรักแบบโรแมนติก
+ กุหลาบเหลือง (Yellow Rose) : แทนความรักแบบเพื่อน เป็นสีแห่งความสดใส

Author: บุรินทร์ รุจจนพันธุ์

I am Lecturer, Developer, Researcher, Columnist, Writer, Photographer, and Webmaster - L@mpang man

Leave a Reply