ภาพแบบทดสอบด้านบนเป็นคำถามชวนคิด ไม่สามารถนำไปเป็นข้อสอบสอบนักเรียนได้
ยกเว้นว่ามีสถานการณ์ประกอบ หรือมีข้อมูลมากกว่านี้
กรณีแรก
ตื่นเข้ามา กำลังจะเข้าห้องน้ำ พบว่าไฟฟ้าดับ
ขณะอยู่ในหอพัก อุปกรณ์ก็ยังไม่ได้เปิด ไม่มีอะไรเสียบปลั๊กทิ้งไว้
เมื่อไฟดับ ที่ทำได้คือนั่งรอเฉย ๆ
กรณีที่สอง
อยู่ในองค์กรระดับกลาง มีเครื่องบริการต่อพ่วงกับเครื่องสำรองไฟฟ้า
เมื่อไฟฟ้าดับจะมีเสียงเตือนจากอุปกรณ์ ก็ควรหยุดใช้ แล้วรีบไปปิดอุปกรณ์
เพราะเครื่องสำรองไฟฟ้าส่งไปเลี้ยงต่อเนื่องได้ไม่นาน
กรณีที่สาม
อยู่ในองค์กรระดับกลาง มีเครื่องบริการต่อพ่วงกับเครื่องสำรองไฟฟ้า
เมื่อไฟฟ้าดับจะมีเสียงเตือนจากอุปกรณ์ ก็ควรหยุดใช้
ก่อนหน้านี้มีช่างไฟในองค์กรบอกว่าจะตัดไฟฟ้า และเปลี่ยนอุปกรณ์ไม่เกิน 5 นาที
ถ้าไฟฟ้าดับไม่นาน ก็ไม่ควรไปปิดอุปกรณ์ รอก่อน เดี๋ยวไฟฟ้าก็มา
จะให้ดีไปดูที่ไซต์งานด้วยว่าเค้าเปลี่ยนเสร็จใน 5 นาทีรึเปล่า ลดความเสี่ยง
กรณีที่สี่
ผ่าตัดไส้ติ่งให้คนไข้ ไฟฟ้าของการไฟฟ้าดับ แต่ไฟฟ้าในห้องผ่าตัด
ยังมีอยู่ และใช้เครื่องปั่นไฟฟ้า ร่วมกับเครื่องสำรองไฟฟ้า
ถ้ายังผ่าไม่เสร็จก็ควรผ่าต่อไป ไม่ต้องรีบร้อน เติมน้ำมันให้เครื่องปั่นไฟฟ้าได้
ไฟฟ้าดับ คงเกิดไฟฟ้ากระชาก
เป็นเหตุให้เครื่องถ่ายเอกสารแบบมัลติฟังก์ชันเกเรไปด้วย
ที่หน้าจอบอกว่าถ่ายเอกสารไม่สามารถทำงานได้
ให้คุณสมบัติอื่น ๆ ไปก่อน
มีคำแนะนำว่า ลองปิด และเปิดเครื่องใหม่ ถอดปลั๊กทิ้งไว้สักครู่ก็ได้
แล้วเปิดขึ้นมาใหม่ หากยังไม่กลับมาทำงานเหมือนเดิม
ก็ให้เรียกเจ้าหน้าที่ หรือตัวแทนขายเครื่องมาแก้ไข
เครื่องสำรองไฟฟ้า เป็นพระเอกเสมอ
ทุกครั้งที่ไฟฟ้าดับ อุปกรณ์จะไม่ดับไปด้วย หากมีอุปกรณ์นี้ช่วยส่งไฟฟ้าให้ต่อเนื่อง
ฝ่ายบัญชีการเงิน เค้าเตอร์ธนาคาร หรือหน่วยงานหลายแห่งจะมีเครื่องนี้คู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์
อุปกรณ์จะทำงานต่อไปสักระยะหนึ่ง จนกว่าไฟฟ้าในเครื่องสำรองไฟฟ้าจะหมด
ปัญหา คือ แบตเตอรี่เสื่อม และต้องซื้อแบตเตอรี่เปลี่ยน .. เสียตังอีกแล้ว
