รู้ล่ะ ป่าเมืองน่านหายไปไหน ที่แท้มีไอ้ตัวร้ายทำลายป่าเมืองน่านอยู่นี่เอง

รู้ล่ะ ใครคือไอ้ตัวร้าย ทำลายป่าเมืองน่าน
รู้ล่ะ ใครคือไอ้ตัวร้าย ทำลายป่าเมืองน่าน

ดูสารคดี ThaiPBS รายการสามัญชนไทย ของ มาโนช พุฒตาล
เค้าชวนคิด เผื่อว่าจะทำให้เมืองไทยดีขึ้น กับปัญหาทำลายป่าต้นน้ำ
มีคำถามว่าป่าเมืองน่าน หายไปไหน
ขึ้นไปที่ความสูง 9500 ฟุต น่านฟ้า จังหวัดน่าน
นาทีที่ 2.23 เค้าบอกว่า “มีการลุกล้ำเปลี่ยนป่าต้นน้ำ เป็นภูเขาแห่งทุ่งข้าวโพด”
ซึ่งเป็นอาหารของไก่ แล้วเราก็ได้ปีกไก่บนมาเข้าไมโครเวฟในนาทีที่ 2.41
เค้าว่าคนไทยทุกคนกลายเป็นห่วงโซ่แห่งการทำลายล้าง
คุณมาโนช พุฒตาลบอกว่า “คนไทยกินป่าเป็นอาหาร”

การฟื้นฟูสภาพป่ามีหลายวิธี
คนกลุ่มหนึ่งใช้วิธีสร้างจิตสำนึก ตั้งวงดนตรี แต่งเพลง เล่นเพลง
ชื่อเพลง “รักป่านาน”
เห็นภาพภูเขาแล้ว เหมือนภูเขาหัวโล้นกำลังร้องไห้ ยามฝนตก
สิ่งที่เค้าต้องการจากการถางป่าคือข้าวโพด ปลูกได้ปีละ 4 เดือน
ตอนนี้เห็นหัวโล้น อีก 2 เดือนเค้ามาปลูกก็จะเขียว
ที่นี่คือป่าสงวนแห่งชาติ ไม่มีสิทธิตัดไม้ปลูกข้าวโพด
แต่พื้นที่นี้ยังบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ ชาวบ้านและชาวเขายังบุกรุกผืนป่ากันทุกปี
นาที 7.39 “ชาวบ้านก็บอกว่า อยากจับก็จับนายทุนสิ นายทุนจ้างเรามาทำ”
เราไม่สามารถสาวไปถึงนายทุน แต่ท่านปลัดรู้ และรู้กันทุกคน ทั้งประเทศ
นาที 8.44 “ข้าวโพดบุกรุกป่ารึเปล่านี่ ไม่ใช่นะ คนบุกรุก โทษข้าวโพดไม่ได้หรอก”
ข้าวโพดรุกคืบเข้ามาเรื่อย ๆ ด้วยเทคนิควางยาสลบต้นไม้
นาที 11.37 พื้นที่บุกรุกมีทั่วทั้งจังหวัด พื้นที่ป่าลดลง 7หมื่น – แสนไร่ต่อไป
นาที 12.55 ผืนป่าที่ลดลง สัมพันธ์กับ พื้นที่ปลูกข้าวโพด
ผลการศึกษา ทำวิจัยพบว่าพื้นที่ข้าวโพด 60% เคยเป็นพื้นที่ป่า
และเข้าไปทำไร่ข้าวโพดในพื้นที่ป่ามากขึ้น
นาที 14.05 พื้นที่ปลูกข้าวโพดของน่าน มาเป็นอันดับ 5 ของประเทศ
รวมข้าวโพดที่ได้กว่า 4 แสนตันต่อไป
นาที 14.13 พื้นที่ปลูกข้าวโพด
อันดับ 1 เพชรบูรณ์ 1,075,536 ไร่
อันดับ 2 นครราชสีมา 816,805 ไร่
อันดับ 3 จังหวัดเลย 825,735 ไร่
อันดับ 4 จังหวัดตาก 686,013 ไร่
อันดับ 5 น่าน
รวมพื้นที่ทั้งหมด 7,366,996 ไร่
ที่มา สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ปี 2555
นาที 14.30 การวิจัยพบว่า 90% ของข้าวโพด นำไปทำเป็นอาหารสัตว์ทั้งนั้นเลย
ไปให้สัตว์ในฟาร์มกิน ทั้งไก่ ทั้งไข่ ก็เลี้ยงไว้ให้พวกคนไทยนั่นหละครับกิน
นาที 14.50 มาดูความคุ้มค่า ความยั่งยืน ถ้าเราเอาข้าวโพด ไปแลกกับผืนป่า
แสดงว่ากำลังเอาอาหารและความมั่นคงของมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ
ไปแลกกับการปลูกข้าวโพดเท่านั้น
นาที 15.44 ผลสำรวจ คนไทยกินไก่ เฉลี่ย 15 กิโลกรัมต่อปี
คิดเป็นไก่ประมาณ 10 ตัว คนไทย 70 ล้านก็กินไก่ประมาณ 700 ล้านตัว
จำเป็นต้องมีอาหารมาป้อนไก่ ใช้ข้าวโพดประมาณ 53% เป็นวัตถุดิบ
ทำให้เราต้องผลิตข้าวโพดถึง 6.2 ล้านตัน ก็ต้องปลูกบนผืนดิน
นาที 16.43 คนไทยกินไก่ ไก่กินข้าวโพด ไปกระทบผืนป่าภาคเหนือ
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเมืองไทย เช่น อเมริกา เขาไปจ้างบราซิลถางป่าอเมซอล
เพื่อปลูกข้าวโพดมาให้วัวอเมริกากิน
นาที 17.31 พูดถึงเพลง “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” ของวงเฉลียง
เค้าว่า กินแฮมเบอเกอร์ 1 ชิ้น สะเทือนถึงผืนป่าอเมซอลในบราซิล
เช่นเดียวกับการกินไส้กรอก 1 ชิ้น สะเทือนถึงผืนป่าจังหวัดน่าน
นาที 18.30 อยากจะกินไก่ กลายเป็นทำร้ายป่า
นาที 30.40 ชาวบ้านยิ่งทำงานหนัก ยิ่งรายได้น้อย ยิ่งขาดทุน ชีวิตลำบากกว่าเดิม
นายทุนที่เอาข้าวโพดไปทำอาหารสัตว์ กลับรวยขึ้น
นาที 35.01 มี 5 พลังร่วมแห่งการทำลาย
1. กลุ่มชาวบ้าน
2. กลุ่มนายทุน/แปรรูป
3. กลุ่มเงินกู้/กองทุนทุกประเภท
4. กระบวนการส่งเสริม/นักส่งเสริมการเกษตร/นักวิจัย
5. นโยบายส่งเสริมจำนำ/ประกันราคา
นาที 38.43 นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย บอกว่า ส่งเสริมให้ปลูกข้าวโพด
แต่ไม่ส่งเสริมให้ทำลายป่า ไม่มีใครทำอย่างนั้น
เราต้องไปแก้ที่การจัดการ มีมูลค่าทั้งระบบอย่างน้อย 1 ล้านล้าน
นาที 40.01 พูดอีกล่ะ คนไทยกินป่าน่านเป็นอาหาร
นาที 40.45 โรงเรียนมีแนวคิดอนุรักษ์ป่าด้วยการทำโครงการ 1 คน 1 ต้น 1 ปี รวมครูด้วย
นาที 41.58 ถ้าอยากได้ป่าตรงที่โล้นคืน ชาวบ้านก็ยอมคืน แล้วคุณต้องมีที่นาคืนให้เขาทำกิน
มีคนยอมร่วมโครงการป่าแลกนา คือได้นา 1 ไร่ แลกพื้นที่ป่า 3 ไร่
ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากใครคนใดคนหนึ่ง เกิดจากทุกภาพส่วน
โดยเฉพาะ “ตัวเรา สามัญชนคนไทย ที่ต้องกินต้องอยู่”
นาที 45.30 เซ็งเป็ด หรือเซ็งไก่ดี จะไปซื้อไก่กิน เราเป็นไอ้ตัวร้ายทำลายป่าเมืองน่าน
เราต้องกิน ต้องใช้ ต้องบริโภค แต่ไม่มีวิธีกินให้ยั่งยืนหรือ ต้องรู้ต้นกำเนิด ไม่กินทิ้งกินขว้าง

รายชื่อสถาบันการศึกษาที่เปิดรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อเพื่อเป็นพยาบาล

beautiful nurse
beautiful nurse

จากคำถามที่ว่ามีสถาบันการศึกษาใดบ้าง
เปิดรับนักเรียน ม.6 เข้าเรียนพยาบาลเป็นเวลาประมาณ 4 ปี
ค้นดูก็พบว่ามีอยู่หลายสถาบันที่เปิดรับ มีดังนี้

  1. มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
  2. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  3. มหาวิทยาลัยชินวัตร
  4. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  5. มหาวิทยาลัยนครพนม
  6. มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
  7. มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
  8. มหาวิทยาลัยนเรศวร
  9. มหาวิทยาลัยบูรพา
  10. มหาวิทยาลัยพะเยา
  11. มหาวิทยาลัยพายัพ
  12. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  13. มหาวิทยาลัยมหิดล
  14. มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ
  15. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
  16. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
  17. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
  18. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
  19. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
  20. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
  21. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  22. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  23. มหาวิทยาลัยสยาม
  24. มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
  25. มหาวิทยาลัยหัวเฉียว
  26. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  27. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  28. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
  29. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  30. วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก
  31. วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ
  32. วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ
  33. วิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ
  34. วิทยาลัยสภากาชาดไทย
  35. วิทยาลัยเซนต์หลุย
  36. สถาบันพระบรมราชชนก
  37. สภาการพยาบาล
พยาบาล 2559
พยาบาล 2559

http://www.unigang.com/Article/36390
http://www.enttrong.com/tag/73

หนังสือรับรองการศึกษาและใบรายงานผลการศึกษา

ใบแสดงผลการศึกษา
ใบแสดงผลการศึกษาแ

ถึง ศิษย์เก่าโยนก ศิษย์เก่าเนชั่น และบัณฑิตใหม่เนชั่นที่กำลังจะสำเร็จการศึกษา
ว่าท่านใดต้องการ หนังสือรับรองการศึกษา (Certification) หรือ ใบรายงานผลการศึกษา (Transcript)
สามารถติดต่อขอเอกสารได้ที่งานทะเบียนและประมวลผล มหาวิทยาลัยเนชั่น
ขั้นตอนการขอหนังสือรับรองการศึกษา หรือ ใบรายงานผลการศึกษา
1. โทรสอบถามรายละเอียด
โทร. 054265170 ต่อ 130 หรือ 131
2. ไปถ่ายภาพที่ร้านยิ้มหวาน หรือร้านเลเซอร์ติดโรงเรียนอรุโณทัย
มีชุดครุยของมหาวิทยาลัยเนชั่น ให้ยืม เพื่อนำรูปมาติดเอกสาร
– หนังสือรับรองการศึกษา ใช้รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว ต่อเอกสาร 1 ฉบับ
– ใบรายงานผลการศึกษา ใช้รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว ต่อเอกสาร 1 ฉบับ
3. มาทำยื่นคำร้องของเอกสารที่มหาวิทยาลัย หรือส่งเอกสารทางไปรษณีย์
ค่าธรรมเนียบฉบับละ 100 บาท
เท่ากันทั้งหนังสือรับรองการศึกษา และ ใบรายงานผลการศึกษา
4. รอเจ้าหน้าที่ดำเนินการ 3 วัน
5. ติดต่อรับเอกสารด้วยตนเอง หรือประสานส่งทางไปรษณีย์

คลิ๊ปลูกน้องไม่พอใจถูกหัวหน้า จึงเอาคืนโดยแกล้งกลับ

อุ้มหัวหน้า
อุ้มหัวหน้า

เกิดเป็นลูกน้อง ระวังใจตัวเองไว้หน่อย
พลาดพลั้งยั้งใจฆ่าหัวหน้าไป จะไม่คุ้มเอา
แต่ถ้าลูกน้องยึดหลัก “ฆ่าได้ หยามไม่ได้” .. ก็เหนื่อยนะ

คนขับรถธนาคารแค้นที่ผู้จัดการธนาคารจะไล่ออก
ทีแรกจะฆ่าด้วยซ้ำ แต่เปลี่ยนใจเป็นขโมยเงิน
หวังให้เค้าถูกย้าย หรือถูกไล่ออก ไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์
ด้วยการเจาะตู้เซฟแบงค์กรุงเทพ
เป็นลูกจ้างชั่วคราว อายุ 36 ปี
https://www.youtube.com/watch?v=IjYc-Smet8E
คลิ๊ปนี้เค้าห้ามฝัง

การทะเลาะกับหัวหน้าก็มีเยอะนะครับ
เช่น
พ.ค.59 ในสถาบันการศึกษา ระดับอุดมศึกษา
ที่ ดอกเตอร์ 3 คนฆ่ากันตาย
เค้าก็ว่าเป็นปัญหาจากธรรมาภิบาล
กรณีนี้ก็คงเป็นธรรมาภิบาลเหมือนกัน
http://www.matichon.co.th/news/142126
ก.ย.55 หนุ่มโรงงานยิงหัวหน้าหมดโม่
ก็เพราะแค้นที่ถูกด่าเรื่องงานอย่างรุนแรง
http://www.thairath.co.th/content/293746
พ.ย.57 ภาโรงแค้นถูก ผอ.โรงเรียน ดุด่าเป็นประจำ
คว้าปืน ยิ่งต่อหน้าเพื่อนครูกลางวงเหล้า
http://hilight.kapook.com/view/111970
ธ.ค.58 ผู้พิพากษาสมทบหญิง และนักธุรกิจอหังสาริมทรัพย์ และอีกหลายอย่าง
ถูก 5 ลูกน้องอุ้มฆ่า แล้วไปทิ้งในอ่างเก็บน้ำ แต่รอดมาได้
เพราะจับได้ว่าลูกน้องทุจริต ปลอมเอกสารที่ดินมูลค่า 200 ล้าน แล้วจะฟ้อง

ถ้าไม่ชอบหัวหน้าเค้าทำกันยังไงบ้างนะ
อาทิ สั่งอย่างทำอย่าง ไม่ทำงานที่รับปาก ปล่อยเกียร์ว่าง เขี่ยงานส่งไปเลย
หยุดงานบ่อย มางานสาย พักเที่ยงนาน กลับบ้านก่อนเวลา รวมตัวกันออกมาถือป้ายประท้วง
รวมหัวกันนินทาหัวหน้าในห้องน้ำ ซื้อขนมที่หัวหน้าไม่ชอบไปฝาก

แต่ถึงขนาดเจาะเซฟหัวหน้า  หมดโม่ หรืออุ้มทิ้งน้ำ ก็ไม่ควรทำนะครับ

โลกสวยงาม จะเห็นบางด้านที่มืดมน โลกไม่สวยก็จะเห็นว่ามืดไปซะทุกด้าน

beautiful world
beautiful world

25 พ.ค.59 เห็นอาจารย์ใหญ่แชร์เรื่องนี้เข้ามาในกลุ่ม
เป็นประเด็นเผ็ดร้อนว่าวงการอุดมศึกษามีด้านมืด
จากหัวข้อบทความใน posttoday.com มี 3 ด้าน
1. แย่งชิงผลประโยชน์
2. เล่นพวกพ้อง
3. สองมาตรฐาน
พอเห็นหัวข้อผมก็รู้สึกสนใจขึ้นมาเลย
ทำให้นึกถึงคำว่า “โลกนี้สวยงาม (beautiful world)
โลกคงสวยงามถ้าโลกนี้มืดเฉพาะอุดมศึกษา และปัญหานี้มีเฉพาะอุดมศึกษา

ประเด็นทั้ง 3 เชื่อมโยงกับกรณี ดอกเตอร์ทั้ง 3 ของ มรภ.พระนคร ที่เสียชีวิต
เท่าที่อ่านเอกสาร 2 ฉบับของ ดร.วันชัย ปัญหามาจากเรื่องอัตตา ด้วยส่วนหนึ่ง
ซึ่งผมเห็นด้วยกับ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ นะครับ
ที่ว่า “ต้นตอแท้จริงมาจากระบบการบริหารจัดการที่ขาดหลักธรรมาภิบาล
ชอบประเด็นทั้ง 4 ที่ท่านพูดถึงด้วย
– ความขัดแย้งในรั้วมหาวิทยาลัย
– เปิดขุมทรัพย์ หลักสูตรพิเศษ
– สาวไส้ระบบมาเฟีย
– ถึงเวลาผ่าตัดใหญ่
ที่อ่านใน posttoday.com

หลักธรรมมาภิบาล (Good governance) เป็นแนวทางในการบริหารจัดการที่ดี
ผู้บริหารสถาบัน/คณะวิชา/หน่วยงานยึดเป็นแนวปฏิบัติก็เชื่อได้ว่าจะมีการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพการบริหารจัดการการศึกษาที่ดี
ซึ่งเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านคุณภาพทางวิชาการและเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมอย่างเสมอภาค

หลักธรรมาภิบาล หมายถึง การปกครอง การบริหาร การจัดการ การควบคุม ดูแลกิจการต่างๆ ให้เป็นไปในครรลองธรรม นอกจากนี้ ยังหมายถึงการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ทั้งภาครัฐและเอกชน ธรรมที่ใช้ในการบริหารงานนี้มีความหมายอย่างกว้างขวาง กล่าวคือ หาได้มีความหมายเพียงหลักธรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่รวมถึงศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรมและความถูกต้อง ชอบธรรมทั้งปวง ซึ่งวิญญูชนพึงมีและพึงประพฤติปฏิบัติ อาทิ ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ การปราศจากการแทรกแซงจากองค์การภายนอก เป็นต้น

1. หลักประสิทธิผล (Effectiveness)
2. หลักประสิทธิภาพ (Efficiency)
3. หลักการตอบสนอง (Responsiveness)
4. หลักภาระรับผิดชอบ (Accountability)
5. หลักความโปร่งใส (Transparency)
6. หลักการมีส่วนร่วม (Participation)
7. หลักการกระจายอำนาจ (Decentralization)
8. หลักนิติธรรม (Rule of Law)
9. หลักความเสมอภาค (Equity)
10. หลักมุ่งเน้นฉันทามติ (Consensus Oriented)

http://thaiall.blogspot.com/2014/07/blog-post_20.html
อันที่จริงผมว่าโลกนี้ก็ยังสวยงามอยู่นะครับ
แต่ถ้าจะให้มองว่าโลกนี้มีที่มืดอยู่แค่กลุ่มคนกลุ่มนั้น
ก็ทำใจลำบากหน่อย น่าจะมีกันทุกกลุ่ม ทุกประเภทองค์กรกันเลยรึเปล่า
เพราะเห็นในข่าวว่าเรามีปัญหา 3 ด้านนี้ตลอด
1. แย่งชิงผลประโยชน์ (advantage)
พอเป็นผลประโยชน์ก็ต้องแย่งกันสิครับ
ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร
ดร.อาทิตย์ พึ่งบอกว่า ตำแหน่งอย่างว่าซื้อกันเป็นล้าน
หรือเขาหัวโล้นที่น่านก็เป็นเรื่องของผลประโยชน์ของคนที่นั่น
หรือข่าวทุจริตอื่น ๆ ก็เป็นเรื่องผลประโยชน์ทั้งนั้น
ทีวีดิจิตอล ไม่จ่ายงวด 3 ที่เหลือเค้าจ่ายกัน
ก็เป็นเรื่องผลประโยชน์ จากเค้กก้อนเล็ก ๆ ก้อนหนึ่ง
2. เล่นพวกพ้อง (partisan)
ที่นิคมอุตสาหกรรม รับคนไปทำงาน
บางบริษัทมีคนหมู่บ้านนั้น ทั้งหมู่บ้านเพราะ HR ชวนมา
บางบริษัทรับเฉพาะมหาวิทยาลัย X เพราะ HR ชวนมา
ผมไปซื้ออาหารเจ ขนาดชวนรับพระ ยังให้แบ่งพวกเลย
ดูกีฬา ยังแบ่งข้างเชียร์ ไม่รู้จักสักคน ก็ยังอุตสาห์เลือกพวกจนได้
3. สองมาตรฐาน (double standard)
สอบโควต้า รับเด็กในเขต รู้ไหมลูกใคร
มาตรฐานหนึ่งสำหรับคนกลุ่มหนึ่ง
อีกมาตรฐานสำหรับคนนอกกลุ่ม เป็นเรื่องปกติไปแล้ว
ถ้าเป็นคนของเรา เราจะปฏิบัติกับเค้าอย่างหนึ่ง
ถ้าเป็นคนของคนอื่น เราจะปฏิบัติกับเค้าอีกอย่างหนึ่ง
เป็นมาตรฐานที่แบ่งแยกตามผลประโยชน์ทั้งนั้น

สรุปว่า .. ผมก็แค่แลกเปลี่ยนความคิดความเห็น
เพราะรู้ว่าเป็นปัญหาที่เป็นธรรมชาติ และอาจารย์ท่านก็หยิบมาพูด
เพื่อที่จะแก้ไขให้ดีขึ้น
เข้าใจ และเห็นด้วย
http://www.posttoday.com/analysis/interview/433596

ข้อมูลโรงเรียนทั่วประเทศที่ได้จาก Open Government Data ของรัฐบาลไทย

ข้อมูลโรงเรียนในประเทศไทยมีอีเมลไม่ถึงครึ่ง
ข้อมูลโรงเรียนในประเทศไทยมีอีเมลไม่ถึงครึ่ง

อ่านพบจาก techtalkthai.com ว่าเว็บไซต์ Data.go.th
ที่เป็นเว็บไซต์ให้บริการข้อมูล Open Government Data ของรัฐบาลไทย
มีข้อมูลมากมายที่มีการเผยแพร่
ทำให้เราได้อันดับที่ 42 ในปี 2015 Opden Data Index
จากที่เคยอยู่ในอันดับที่ 59 ในปี 2014
หนึ่งในข้อมูลที่เผยแพร่ พบว่ามีข้อมูลของโรงเรียนทั่วประเทศไทย
กว่า 46,259 แห่งโดยกระทรวงศึกษาธิการ
มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ภาคธุรกิจได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้สร้างสรรค์ให้เกิดการพัฒนา
ลองอ่านข้อมูลจาก excel พบ field น่าสนใจเยอะเลย
14 fields ได้แก่

1. SchoolID
2. SchoolName
3. SubDistrict
4. District
5. Province
6. PostCode
7. SchoolType
8. Department
9. Telephone
10. Fax
11. Website
12. Email
เห็น อ.ทรงเกียรติ นำ excel มาประมวลผล ในส่วนของ email
พบว่าโรงเรียนมากกว่า 10000 โรงเรียนใช้บริการของ hotmail.com
แต่มีเพียง 22223 จาก 46259 เท่านั้นที่มีอีเมลติดต่อโรงเรียน
หรือคิดเป็นร้อยละ 48.04 เท่านั้นที่มีอีเมล
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1192138350810557&set=a.111585805532489.13446.100000432096291
13. Latitude
14. Longitude

ในแฟ้ม excel ชื่อ ExportSchoolClickEdu_2.xlsx
ไม่มีการอธิบายข้อมูลมากนัก แต่คำอธิบายไปอยู่ใน json ที่ให้ download
เมื่อดาวน์โหลดออกมาผ่าน json_decode พบว่ามีข้อมูล 23 รายการดังภาพ
รอบต่อไปก็จะได้ใช้ข้อมูลจาก json ได้เลย รายละเอียดใน json มีดังนี้

AccessLevel = Public
AverageScore = 0
Category = การศึกษา
ContactEmail = in@ega.or.th
ContactName = สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
CreateDate = 2559-05-23T00:00:00.000+07:00
DataDictionary =
DataSetItems = Array
Description = ข้อมูลพื้นฐานสถานศึกษา ปีการศึกษา 2558
Frequency = Quarterly
GeoCoverage = Thailand
Id = 8548e3ab-00bf-4eae-b29a-156a4aa52c0d
IsNationalStat =
Name = ข้อมูลพื้นฐานสถานศึกษา ปี 2558
OpennessScore = 2
PublishedDate = 2559-05-23T00:00:00.000+07:00
PublisherOrg = กระทรวงศึกษาธิการ
Status = Published
TempEndDate = 2558-12-31T00:00:00.000+07:00
TempStartDate = 2558-01-01T00:00:00.000+07:00
URL = https://data.go.th/DatasetDetail.aspx?id=8548e3ab-00bf-4eae-b29a-156a4aa52c0d
UpdateDate = 2559-05-23T13:52:15.297+07:00
VoteCount = 0

10 ประเด็นความปลอดภัยไซเบอร์ที่ถูกคาดหวังปี 2559 ในมุมมองด้านอุตสาหกรรม

cybersecurity : whoami
cybersecurity : whoami

10 ประเด็นความปลอดภัยไซเบอร์ที่ถูกคาดหวังปี 2559 ในมุมมองด้านอุตสาหกรรม
1. ผู้นำด้านความปลอดภัยเริ่มยอมรับว่าวิธีรักษาความปลอดภัยแบบเดิมมีจุดบกพร่อง ต้องมองหากลยุทธ์ และวิธีการใหม่ ที่ทำได้ดีกว่าเดิม
2. ปีนี้จะเป็นปีของการแบ่งส่วนย่อย เราจะได้เห็น การแบ่งงานเป็นส่วนย่อย การจำลองเป็นส่วนย่อย การให้สิทธิเป็นส่วนย่อย
ที่จะร่วมกันเปลี่ยนแนวทางการทำงาน
3. เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับ จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มภัยคุกคามที่สำคัญ เมื่อพวกเขาเข้ามาสอดส่องข้อมูล เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ของภาครัฐ
ปล. Thai Netizen Network คุยกันเรื่องนี้ด้วย
4. ผู้บริหารระดับสูงจะเข้ามามีบทบาทและร่วมกำหนดทิศทางเชิงรุกในประเด็นความปลอดภัยให้กับองค์กร
ปล. มีตัวอย่างเป็น single gateway น่าจะพอไหว
5. XP ได้ประกาศยุติการพัฒนาไปแล้ว แต่ยังเหลือคนใช้อยู่ไม่น้อย และจะกลายเป็นช่องโหว่ให้มีการเข้าโจมตีได้โดยง่าย
6. โลกไซเบอร์ได้พบกับความวุ่นวายของสังคม และจะเป็นภัยร้ายแรงได้
7. โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญจะกลายเป็นเป้าหมายการโจมตี
ปล. นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง DieHard 4 ที่แฮกเกอร์ยึดสาธาณูปโภคได้
8. ไวรัสเรียกค่าไถ่จะเข้าถึงองค์กรทางธุรกิจมากขึ้น
9. บริษัทที่เคยทำธุรกิจพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยจะเริ่มเข้ามาแสดงตัวในตลาดให้เห็นเด่นชัดขึ้น
10. ปีนี้จะมีการพัฒนาความเร็วในการสื่อสารที่พุ่งขึ้น พร้อมกับการเข้ารหัสแบบควอนตั้มที่พัฒนาขึ้น

โดย Tom Patterson
Vice president of Global Security Solutions for Unisys

http://www.govtech.com/opinion/10-Cybersecurity-Issues-to-Expect-in-2016.html?platform=hootsuite

8 เหตุผล ทำไมเด็กประสบความสำเร็จหลังเรียนจบ

ระหว่างเด็กหน้าห้อง กับเด็กหลังห้องที่ประสบความสำเร็จ
ระหว่างเด็กหน้าห้อง กับเด็กหลังห้องที่ประสบความสำเร็จ
เด็กหลังห้อง
1. พวกเขาตั้งคำถามเกี่ยวกับระบบการศึกษา
2. พวกเขาไม่ยอมเป็นผู้ติดตามใคร
3. พวกเขามักไม่ประจบประแจง
4. พวกเขามักมีเรื่องใหญ่กว่าที่ต้องกังวล
5. พวกเขามีคำจำกัดความของคำว่า “ความสำเร็จ” เป็นของตัวเอง
6. พวกเขารู้วิธีจะยกระดับความสามารถของผู้อื่น
7. พวกเขามักจะเรียนรู้โดยตรงมากกว่า
8. พวกเขามักเป็นคนช่างฝัน
เด็กหน้าห้อง (เสนอเพิ่มเติม)
1. พวกเขาปรับตัวให้เข้ากับระบบการศึกษา
2. พวกเรารู้ว่าใครเป็นคนที่ควรติดตาม
3. พวกเขารู้จักวางตัวในสังคม
4. พวกเขารู้จัดจัดลำดับเรื่องที่ต้องกังวล
5. พวกเขารู้ความหมายของ “ความสำเร็จ” ที่สังคมยอมรับ
6. พวกเขารู้วิธีจะยกระดับความสามารถของตนเอง
7. พวกเขามักจะเรียนรู้ทฤษฏีก่อนปฏิบัติ
8. พวกเขามักอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง

https://www.facebook.com/thaiall/photos/a.423083752271.195205.350024507271/10153871078767272/

เฝ้าประตูเมืองตามหัวหน้าสั่ง ไม่ใช่เรื่องสามก๊ก แต่เป็นหยางกุ้ยเฟย

คนเฝ้าประตูเมืองมีความสำคัญมากในอดีต
ปัจจุบันเราเรียกว่า รปภ.
ทำให้นึกถึง พระยาจักรี ที่เปิดประตูให้พม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยา

beautiful girl
beautiful girl

ใน หยางกุ้ยเฟย
เมื่อหัวหน้ามีคำสั่งว่า ถ้าเห็นใครถืออาวุธเข้าเมือง
ยิงเกาทัณฑ์ได้เลย อย่าให้เข้าเมืองมาได้
เป็นคำสั่งที่หัวหน้าสั่งไว้
ถ้าอนุญาตให้เข้ามา คนเฝ้าประตูเมืองเองนั่นหละ ที่จะถูกลงทัณฑ์

เมื่อหัวหน้าสั่งไว้ว่า
หากมีใครแอบอ้างว่าเป็นหัวหน้าคนใหม่
อย่าปล่อยให้เข้าเมือง ก็เป็นหน้าที่ที่ถูกกำชับมา
ในภายภาคหน้า ถ้าหัวหน้าคนใหม่เข้ามายึดเมืองได้
ผู้ที่เคยภักดีต่อหัวหน้าคนเก่า คงอยู่ไม่เป็นสุขเป็นแน่
ดังนั้น “เมื่อมีกลุ่มคนถืออาวุธบุกเข้าเมืองยามวิกาล
ยามเฝ้าประตูก็ต้องยิงเกาทัณฑ์ใส่ผู้ที่น่าจะมาก่อกบฎ
และไม่ฟัง แม้เขาจะบอกว่าเป็นราชบุตรของฮ่องเต้ก็ตาม
ที่ไม่ฟังก็คงเพราะเกรงว่าจะเป็นกลลวง

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1451300070

เห็นคุณค่าของการมีชีวิต จากกรณีของ ฌอง-โดมินิค โบบี

The Diving Bell and the Butterfly (2007)
The Diving Bell and the Butterfly (2007)

ภาพยนตร์เรื่อง ชุดประดาน้ำและผีเสื้อ
The Diving Bell and the Butterfly (2007)
เป็น ชีวิตที่ไม่เคยยอมแพ้ ของ ฌอง-โดมินิค โบบี กับ การกะพริบตาเขียนหนังสือ
“ชุดประดาน้ำและผีเสื้อ”
โดยอาการเส้นเลือดในสมองแตก จนก้านสมองเสียหายอยู่ในภาวะ Locked-In Syndrome
เกิดเหตุการณ์ในวันที่ 8 ธันวาคม 1995 ด้วยวัย 43 ปี
ขณะที่  ฌอง-โดมินิค โบบี ลองขับรถคันใหม่กับลูกชาย
ซึ่งเขาเป็นอดีตบรรณาธิการบริหารนิตยสาร ELLE แห่งฝรั่งเศส
หลังหนังสือ Le Scaphandre et Le Papillon
หรือ The Diving Bell and the Butterfly ออกวางบนแผงหนังสือ
และเขาเสียชีวิตด้วยอาการปอดบวมหลังจากหนังสือวางแผงได้เพียง 3 วัน
ในวันที่ 9 มีนาคม 1997
ที่ https://www.gotoknow.org/posts/251988

ภาพยนตร์เรื่องนี้ เข้าชิง OSCARS ถึง 4 รางวัล
ซึ่งปกติผมก็ไม่ค่อยได้ดูหนังชีวิต หรือหนังที่เครียดแบบนี้
แต่เรื่องนี้ เป็นชีวิตของคนที่ใช้ตาข้างเดียวเขียนหนังสือ
ได้ซีดีมาจาก B2S ซื้อแบบโปร 3 แผ่นร้อย
บางแผ่นก็มีหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้อยู่ใน DVD แผ่นเดียว
ดูแล้วทำให้รู้สึกถึงคุณค่าของชีวิต คุณค่าของการมีชีวิต
https://www.youtube.com/watch?v=G69Zh7YIg8c

พูดคุยกับทีมงาน
https://www.youtube.com/watch?v=eUCe0wHZrTY