ค่าสถิติตรวจสอบการรับรู้ และการปฏิบัติ หรือพฤติกรรมในข้อเดียวกัน

crosstab chisquare
crosstab chisquare
question
question
crosstab aware action
crosstab aware action

ดร.ลภัสรดา จ่างแก้ว แนะนำนักศึกษาที่เขียนกรอกแนวคิดในการวิจัย
แล้วหาตัวแปรตามไม่พบ ด้วยเหตุว่า 2 แนวคิดเหมือนที่ผ่านมานั้นง่ายไป
เช่น มี demographic เป็นตัวแปรอิสระแล้ว 4Psหรืออื่น เป็นตัวแปรตาม
จึงแนะนำว่าปีนี้ สำหรับ 4Ps หรือ 7Ps นั้น สามารถเป็นตัวแปรอิสระได้
ส่วน [ตัวแปรตามเป็นพฤติกรรม] ก็ได้ สำหรับหัวข้อที่เข้ากรอบนี้ได้
โดยพฤติกรรมจะถาม “การรับรู้ เปรียบเทียบกับ การปฏิบัติ”
ว่าที่มีระดับการรับรู้เท่าใด และการปฏิบัติเป็นเท่าใด
จากนั้นก็ใช้การวิเคราะห์ด้วยการใช้ตาราง crosstab
แล้วแสดงค่า sig ของ chi-square
ที่ใช้ทดสอบสมมติฐานว่า “การรับรู้กับการปฏิบัติมีความสัมพันธ์กัน
หรือ “การยอมรับกับการดำเนินการมีความสัมพันธ์กัน”
แล้วผลใน crosstab ก็จะทำให้รู้ว่าคำถามข้อใดจับคู่กันอย่างไร
ผลการจับคู่ของ 2 คำถามก็จะมี 4 รูปแบบ ดังนี้
– รู้แล้ว และไปปฎิบัติ
– ไม่รู้ จึงไม่ไปปฏิบัติ
– รู้แล้ว แต่ไม่ไปปฏิบัติ
– ไม่รู้ และไม่คิดไปปฏิบัติ
ซึ่งระดับพฤติกรรมอาจเป็น 3 หรือ 5 ก็ได้

+ http://www.thaiall.com/spss/chisquare_crosstab.xlsx
+ http://www.thaiall.com/research/whatisresearch.htm
+ http://www.thaiall.com/pptx/stat_fac_score.pptx ***
+ http://www.thaiall.com/spss/

คำแนะนำเรื่องการบริการวิชาการ ของรศ.ดร.เอกชัย แสงอินทร์

รศ.ดร.เอกชัย แสงอินทร์
รศ.ดร.เอกชัย แสงอินทร์

จากการฟัง ดร.เอกชัย แล้วนำมาเรียบเรียง
พบว่าความหมายของนิยาม 3 คำที่ใกล้เคียงกัน
ของคำว่า “เผยแพร่ ถ่ายทอด และให้ความรู้”
ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร จึงจะตอบคำทั้งสามนี้ได้อย่างถูกต้อง
นำมาเรียบเรียงได้ ดังนี้
1. เผยแพร่ (broadcast)
คือ การทำให้คนทั้งภายใน และภายนอกได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร
สามารถเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ เว็บบอร์ด หรือบอร์ดประชาสัมพันธ์ก็ได้
2. ถ่ายทอด (Communicate)
คือ การทำให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้ข้อมูลข่าวสาร อย่างชัดเจน
อาจดำเนินการโดยการจัดประชุมสัมมนา และมีการลงทะเบียนชัดเจน
3. การให้ความรู้ (Educate)
คือ การทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างเป็นระบบ
อาจดำเนินการโดยการจัดอบรม หรือเปิดเป็นหลักสูตรที่มีการประเมินผล
ว่ากลุ่มเป้าหมายได้รับความรู้ไปได้มากน้อยเพียงใด

อีก 2 คำที่ท่านให้ความหมายไว้คือ
1. การบริการวิชาการที่บูรณาการกับการวิจัย
ซึ่งมองว่าถ้าบูกับวิจัยแล้ว
ก็น่าจะมีผลงานเหล่านั้นปรากฎในรูปบทความวิชาการ (Paper)
ที่เผยแพร่ให้คนทั่วไปได้รับทราบ
เช่น ไปบริการวิชาการและนำประเด็นมาทำวิจัยกับกลุ่มเป้าหมายที่เคยบริการ
จนได้ผลงานที่นำไปเผยแพร่ในการประชุมวิชาการ หรือวารสารได้
2. การบริการวิชาการที่บูรณาการกับการเรียนการสอน
ซึ่งมองว่าถ้าบูกับการเรียนการสอนแล้ว
ก็น่าจะได้เอกสารประกอบการสอนที่สามารถนำไปใช้ในกลุ่มเป้าหมาย (Handbook)
หรือได้ประโยชน์ทั้งชุมชน และนักศึกษาไปพร้อมกัน

คำแนะนำเรื่องการทำแผนกลยุทธ์ ของรศ.นพ.อำนาจ อยู่สุข

รศ.นพ.อำนาจ อยู่สุข
รศ.นพ.อำนาจ อยู่สุข

หมออำนาจ หรือ  รศ.นพ.อำนาจ อยู่สุข
ได้ให้คำแนะนำเรื่องการทำแผนกลยุทธ์ไว้ถึง 2 เวที
แล้วได้เรียบเรียงมาเป็นข้อพึงระวังในการจัดทำแผนกลยุทธ์ ไว้ดังนี้
1. การทำแผนกลยุทธ์ต้องนั่งคุยกันหลายคน  (Real participation)
และหลายครั้ง ให้เกิดการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน
เพื่อให้ได้ประเด็นจากหน่วยต่าง ๆ อย่างครบถ้วน และเข้าใจถูกต้องตรงกัน
2. ในแผนกลยุทธ์ก็ต้องกำหนดตัวบ่งชี้ และเกณฑ์ให้ชัดเจน (Numeric indicator)
ควรเป็นตัวเลขจะได้วัดง่าย และกำหนดแต่ละปีจะได้เห็นพัฒนาการ
ว่าปีแรกทำเท่าไร ปีที่สองเท่าไร และเมื่อถึงปีสุดท้ายทำได้เท่าใด
3. การทำแผนปฏิบัติการก็ต้องล้อกันกับแผนกลยุทธ์ (Check & action)
ว่าปีนี้ทำแค่ไหน ปีต่อไปทำแค่ไหน และมีการประเมินผลความสำเร็จในแต่ละปี
ตามแผนปฏิบัติการ และแผนกลยุทธ์
เป็นวงจร Plan Do Check and Action
4. วิสัยทัศน์อยากเห็นอะไร (Follow on vision & mission)
ก็ต้องอยู่ในแผนกลยุทธ์ และแผนปฏิบัติการ
ถ้าไม่เขียนไว้ก็จะไม่มีงบประมาณมาดูแลให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์
ประเด็นพันธกิจก็ต้องชัดเจน ถ้าไม่ชัดเจนเวลาตั้งงบก็จะไม่ชัดเจนไปด้วย
5. แผนกลยุทธ์ทางการเงินต้องมีกลยุทธ์สอดรับกับแผนกลยุทธ์ (Budget in plan)
และมีการจัดสรรงบประมาณให้กับแต่ละประเด็นยุทธศาสตร์
ตามแผนงบประมาณอย่างสมเหตุสมผล ไม่ควรไปกันคนละทิศละทาง

16 ข่าวเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันเป็นภาษาอังกฤษ โดย Sean Banville

http://www.breakingnewsenglish.com/1406/140618-wearable-health-device.html
http://www.breakingnewsenglish.com/1406/140618-wearable-health-device.html

รวมข่าวด้านเทคโนโลยีจาก breakingnewsenglish.com
เป็นเว็บสอนภาษาอังกฤษสำหรับชาวต่างชาติ สอนโดย Sean Banville
เจ้าของเว็บไซต์บอกว่า ตอนเรียนโทที่ Birmingham University
ได้อ่านหนังสือ “Appropriate Methodology and Social Context
ทำให้คิดเกี่ยวกับข่าวหนังสือพิมพ์ประจำวันที่อ่านไปก็นั่งดื่มชาไปด้วย
แล้วทำให้นึกถึงบทเรียนข่าวภาษาอังกฤษ
จากนั้นอีก 18 เดือนก็ทำเป็นหัวข้อวิทยานิพนท์
เขาทำข่าวภาษาอังกฤษสำหรับโรงเรียนสอนภาษาในญี่ปุ่น และมีคุณครูมากมายให้คำแนะนำต่าง ๆ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.breakingnewsenglish.com/about.html
http://www.breakingnewsenglish.com/technology.html

ถ้าคุยกับนักศึกษา ผมจะเคยเรื่องข่าว แล้วให้นักศึกษานำเสนอเรื่องหมวก 6 ใบ
ว่าคิดอย่างไรกับข่าวที่ผมเล่าไปนั้น โดยให้นักศึกษาเลือกสีหมวกกันเอง

1. White Hat: ใช้ข้อมูลข่าวสาร
2. Red Hat: ใช้อารมณ์ความรู้สึก
3. Black Hat: ใช้การตั้งคำถามหรือตั้งข้อสงสัยมุมลบ
4. Yellow Hat: ใช้การมองในแง่ดี และมีความหวัง
5. Green Hat: ใช้การคิดอย่างสร้างสรรค์
6. Blue Hat: ใช้การควบคุมความคิดทั้งหมดให้มองเห็นภาพรวมของการคิด
http://www.thaiall.com/blog/admin/4249/

1. ไม่เป็นธรรมถ้าถูกไล่ออกเพราะใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่

ไม่เป็นธรรมถ้าถูกไล่ออกเพราะใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่



http://www.breakingnewsenglish.com/0909/090904-capital_letters.html

2. นักเล่นเกมเกาหลีตายหลังเล่นต่อเนื่องยาวนานกว่า 50 ชั่วโมง

นักเล่นเกมเกาหลีตายหลังเล่นต่อเนื่องยาวนานกว่า 50 ชั่วโมง



http://www.breakingnewsenglish.com/0508/050811-gaming-e.html

3. นกโกรธถูกดาวน์โหลดไปครึ่งพันล้านแล้ว

นกโกรธถูกดาวน์โหลดไปครึ่งพันล้านแล้ว


http://www.breakingnewsenglish.com/1111/111103-angry_birds.html


4. เตือนผู้หญิงในการใช้สื่อสังคม

เตือนผู้หญิงในการใช้สื่อสังคม


http://www.breakingnewsenglish.com/1202/120225-social_media.html


5. ผู้ประดิษฐ์อุปกรณ์ควบคุมทางไกลเสียชีวิตด้วยวัย 96 ปี

ผู้ประดิษฐ์อุปกรณ์ควบคุมทางไกลเสียชีวิตด้วยวัย 96 ปี


http://www.breakingnewsenglish.com/1205/120523-remote_control.html


6. รถโตโยต้านำเสนอวีดีโอการทำงานของรถไร้คนขับ

รถโตโยต้านำเสนอวีดีโอการทำงานของรถไร้คนขับ


http://www.breakingnewsenglish.com/1301/130108-driverless_car.html


7. คิดจากสมองส่งรหัสผ่านแทนการพิมพ์รหัสผ่าน

คิดจากสมองส่งรหัสผ่านแทนการพิมพ์รหัสผ่าน


http://www.breakingnewsenglish.com/1304/130412-passwords.html


8. เครื่องพิมพ์ดีดจะช่วยหยุดการรั่วไหลของข่าวสาร

เครื่องพิมพ์ดีดจะช่วยหยุดการรั่วไหลของข่าวสาร


http://www.breakingnewsenglish.com/1307/130715-computer_leaks.html


9. ซัมซุงเปิดเผยสมาร์ทนาฬิกาเครื่องใหม่

ซัมซุงเปิดเผยสมาร์ทนาฬิกาเครื่องใหม่


http://www.breakingnewsenglish.com/1309/130907-smartwatch.html


10. ตำรวจจับมะพร้าวลูกหนึ่งไปไว้ที่สถานีตำรวจ

ตำรวจจับมะพร้าวลูกหนึ่งไปไว้ที่สถานีตำรวจ


http://www.breakingnewsenglish.com/1309/130909-coconuts.html


11. เว็บไซต์ขายหนังสือระดับโลกทดสอบใช้ drone ให้บริการส่งหนังสือ

เว็บไซต์ขายหนังสือระดับโลกทดสอบใช้ drone ให้บริการส่งหนังสือ


http://www.breakingnewsenglish.com/1312/131204-drone-delivery-service.html


12. หุ่นจะฉลาดกว่ามนุษย์ในปี 2029

หุ่นจะฉลาดกว่มนุษย์ในปี 2029


http://www.breakingnewsenglish.com/1402/140226-artificial-intelligence.html


13. ส่งข้อความไปเดินไปอันตรายนะ เข้าโรงพยาบาลกว่า 6000 คนทีเดียว

ส่งข้อความไปเดินไปอันตรายนะ เข้าโรงพยาบาลกว่า 6000 คนทีเดียว


http://www.breakingnewsenglish.com/1403/140312-texting-while-walking.html


14. อียูโหวตให้มีการใช้ที่ชาร์ตโทรศัพท์แบบมาตรฐาน

อียูโหวตให้มีการใช้ที่ชาร์ตโทรศัพท์แบบมาตรฐาน


http://www.breakingnewsenglish.com/1403/140318-phone-charger.html


15. กูเกิ้ลออกอุปกรณ์ตรวจสอบสุขภาพแบบสวมใส่

กูเกิ้ลออกอุปกรณ์ตรวจสอบสุขภาพแบบสวมใส่


http://www.breakingnewsenglish.com/1406/140618-wearable-health-device.html


16. เด็กอังกฤษหกขวบ รู้ว่าจะใช้เทคโนโลยีอย่างไรเท่าผู้ใหญ่วัย 45 ขวบ

เด็กอังกฤษหกขวบ รู้ว่าจะใช้เทคโนโลยีอย่างไรเท่าผู้ใหญ่วัย 45 ขวบ


http://www.breakingnewsenglish.com/1408/140809-sleeping.html

จรรยาบรรณของอาจารย์ที่ปรึกษา ในคู่มืออาจารย์ที่ปรึกษา

handbook
handbook

จรรยาบรรณของอาจารย์ที่ปรึกษา ในคู่มืออาจารย์ที่ปรึกษา
advisor handbook of yonok university
ของมหาวิทยาลัยโยนก มีดังนี้

1. อาจารย์ที่ปรึกษาต้องคำนึงถึงสวัสดิภาพและสิทธิประโยชน์ของนักศึกษา
โดยจะต้องไม่กระทำการใด ๆ ที่จะก่อให้เกิดผลเสียหายแก่นักศึกษาอย่างไม่เป็นธรรม
2. อาจารย์ที่ปรึกษาต้องรักษาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของนักศึกษา
ในความดูแลให้เป็นความลับ
3. อาจารย์ที่ปรึกษาต้องพยายามช่วยเหลือนักศึกษาจนสุดความสามารถ
หากมีปัญหาใดที่เกินความสามารถที่จะช่วยเหลือได้ก็ควรดำเนินการส่งนักศึกษา
ไปรับบริการจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
4. อาจารย์ที่ปรึกษาไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์บุคคลหรือมหาวิทยาลัย
ให้นักศึกษาฟังในทางที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียแก่บุคคลหรือมหาวิทยาลัย
5. อาจารย์ที่ปรึกษาต้องเป็นผู้มีความประพฤติที่เหมาะสมตามจรรยาแห่งวิชาชีพ
และมีศีลธรรมจรรยาที่ดีงาม เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นักศึกษา
6. อาจารย์ที่ปรึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ในการให้คำปรึกษาวิชาการแก่นักศึกษา
ในความดูแลทุกคนด้วยความเสมอภาค
7. อาจารย์ที่ปรึกษาต้องปฏิบัติตนด้วยความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อื่น สังคม และประเทศชาติ

หัวข้อต่าง ๆ ในหนังสือการจัดการความรู้เก่า 7 เล่ม

หัวข้อต่าง ๆ ในหนังสือการจัดการความรู้เก่า 7 เล่ม
มีเหตุผลมากมาย ที่คนไทยสนใจเรื่องการจัดการความรู้
พบในหนังสือการจัดการความรู้ ฉบับขับเคลื่อน LO ของ ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด
หน้า 16 ว่า ตามที่ระบุในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
พ.ศ.2546 (หมวด 3 มาตรา 11) ดังใจความตอนหนึ่งว่า
"ส่วนราชการมีหน้าที่พัฒนาความรู้ในส่วนราชการ เพื่อให้มีลักษณะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ"
โดยที่สำนักงาน ก.พ.ร. ได้กำหนดให้ทุกส่วนราชการดำเนินการเรื่อง KM และ LO
ตามที่ระบุไว้ในคำรับรองปฏิบัติราชการ (มิติที่ 4 -มิติด้านการพัฒนาองค์กร)

ผมสนใจเรื่องนี้เพราะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาระบบฐานข้อมูล ตามแนวทางการจัดการความรู้
แล้วก็ไปค้นหนังสือเก่า ๆๆๆ ในห้องสมุดพบ 7 เล่ม
แล้วนำชื่อหนังสือ ชื่อผู้แต่งไปสอบถามกับ se-ed.com พบว่าเหลือเล่มเดียว
ของ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช แล้วนอกนั้นก็ขายหมดแล้ว และไม่พิมพ์ใหม่ มีดังนี้
1. การจัดการความรู้ ฉบับนักปฏิบัติ วิจารณ์ พานิช 9744096861
พิมพ์ครั้งที่ 4 กันยายน 2551
สถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.)
บทที่ 1 ปฐมบท
บทที่ 2 คนสำคัญของการจัดการความรู้
บทที่ 3 การจัดระบบการจัดการความรู้
บทที่ 4 การฝึกอบรม
บทที่ 5 การเริ่มต้นการจัดการความรู้
บทที่ 6 การดำเนินการจัดการความรู้
บทที่ 7 เครื่องมือ
บทที่ 8 ฐานข้อมูลความรู้
บทที่ 9 เครือข่ายจัดการความรู้
บทที่ 10 ทางแห่งความล้มเหลว
บทที่ 11 แนวทางแห่งความสำเร็จ
บทที่ 12 การจัดการความรู้ในสังคมไทย

2. การจัดการความรู้ ฉบับขับเคลื่อน ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด 9744914998
พิมพ์ครั้งที่ 6 กันยายน 2550
สำนักพิมพ์ใยไหม
บทนำ มองภาพใหญ่ เข้าใจภาพรวม
บทที่ 1 สิ่งที่แตกต่างระหว่างความรู้สองประเภท
บทที่ 2 การจัดการความรู้ไม่รู้จบ "infinity KM"
บทที่ 3 โมเดลปลาทู สำหรับผู้ที่เป็น "มือใหม่"
บทที่ 4 LO คืออะไร เกี่ยวข้องกับ KM อย่างไร
บทที่ 5 ประสบการณ์จากหน่วยงานที่ "ทำจริง"
บทที่ 6 ไขข้อข้องใจ ก่อนใส่เกียร์ "เดินหน้า"
บทส่งท้าย ไหลลื่นไปกับคลื่นแห่งปัญญา

3. KM วันละคำ "จากนักปฏิบัติ KM สู่ นักปฏิบัติ KM" ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช 9744098384
พิมพ์ครั้งที่ 1 พฤศจิกายน 2549
ฝ่ายโรงพิมพ์ บริษัทตถาตา พับลิเคชั่น จำกัด
หมวดที่ 1 ความสำคัญในการจัดการความรู้
- ผู้บริหารกับการจัดการความรู้
- คุณเอื้อ
- คนสำคัญอื่น ๆ
- ความสำคัญอื่น ๆ
หมวดที่ 2 เครื่องมือเรียนรู้
- โมเดล
- เครื่องมือชุดธารปัญญา
- เครื่องมืออื่น ๆ
- Appreciative Inquiry (AI)
หมวดที่ 3 อภิธาน KM : สร้างบ้าน KM
- เสาเข็มและคาน
- เสาและฝา
- หลังคา
หมวดที่ 4 กลเม็ด KM
หมวดที่ 5 กระบวนทัศน์ KM
หมวดที่ 6 เครือข่าย KM
หมวดที่ 7 หลากมิติหลายมุมมองของ KM

4. การจัดการความรู้ จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ นงลักษณ์ ประสพสุขโชคชัย บุญดี บุญญากิจ 9749239598
พิมพ์ครั้งที่ 2 พฤษภาคม 2548
บริษัท จิรวัฒน์ เอ็กซ์เพรส จำกัด
บทที่ 1 ความสำคัญของการจัดการความรู้
บทที่ 2 ความหมายของการจัดการความรู้
บทที่ 3 กรอบความคิดการจัดการความรู้
บทที่ 4 วงจรการจัดการความรู้แบบ 3 มิติ
บทที่ 5 จากทฤษฎีสู่การปฏิบัติ
บทที่ 6 เรียนรู้เพื่อปรับปรุง ภาคผนวก
ภาคผนวก ก.ความสำคัญของการจัดการความรู้ต่อองค์กร
ภาคผนวก ข.Most Admired Knowledge Enterprises(MAKE)
ภาคผนวก ค.เครื่องมือในการจัดการความรู้
ภาคผนวก ง.แบบประเมินการจัดการความรู้ขององค์กร
ภาคผนวก จ.บรรณานุกรมเว็บไซต์

5. องค์การแห่งความรู้ จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ
The Knowledge Organization : From Concept to Practice รศ.ดร.ทิพวรรณ  หล่อสุวรรณรัตน์ 9742316589
พิมพ์ครั้งที่ 5 เมษายน 2552
สำนักพิมพ์รัตนไตร กรุงเทพมหานคร
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 2 ความหมายของข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
บทที่ 3 คุณลักษณะของความรู้
บทที่ 4 แนวคิดการจัดการความรู้
บทที่ 5 กระบวนการจัดการความรู้
บทที่ 6 การเรียนรู้ขององค์การและการจัดการความรู้
บทที่ 7 กลยุทธ์การจัดการความรู้
บทที่ 8 การจัดการทรัพยากรมนุษย์กับการจัดการความรู้
บทที่ 9 เทคโนโลยีสารสนเทศกับการจัดการความรู้
บทที่ 10 การประเมินผลการจัดการความรู้
บทที่ 11 กรณีศึกษาองค์การแห่งความรู้

6. การจัดการความรู้ พื้นฐานและการประยุกต์ใช้ Knowledge management พรธิดา วิเชียรปัญญา 9749209087
พิมพ์ครั้งที่ 1 เมษายน 2547
ธรรกมลการพิมพ์
บทที่ 1 บทนำ การจัดการความรู้ สังคมแห่งความรู้ และการบริหารองค์การยุคใหม่
บทที่ 2 แนวคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการความรู้
บทที่ 3 การจัดการความรู้กับการบริหารองค์การยุคใหม่
บทที่ 4 การประยุกต์ใช้การจัดการความรู้ในสังคมไทย

7. การจัดการความรู้กับคลังความรู้
Knowledge management and Knowledge center ผศ.ดร.น้ำทิพย์ วิภาวิน 9749191595
พิมพ์ครั้งที่ 1 2547
บริษัท เอสอาร์ พริ้นติ้ง แมสโปรดักส์ จำกัด
บทนำ การแสวงหาความรู้
บทที่ 1 การจัดการความรู้
บทที่ 2 ความรู้ในองค์กร
บทที่ 3 องค์กรจัดการความรู้
บทที่ 4 เทคโนโลยีกับการจัดการความรู้
บทที่ 5 คลังความรู้

การวิเคราะห์ แล้วก็การสังเคราะห์

การสังเคราะห์ synthesis

25 ก.ค.2557 หัวหน้าเช ส่งอีเมลมาแจ้งว่ากัลยาณมิตรแนะนำว่า เวลาทำอะไรที่มีเป้าหมายสูงสุดชัดเจน ก็ควรจะมีการวิเคราะห์และสังเคราะห์ ว่าที่ทำลงไปน่ะถูกแล้วรึเปล่า วิเคราะห์หา swot ด้วยก็จะดี แล้วก็นำมาทำให้ต่อเนื่อง กลับมาดูความหมายของการวิเคราะห์ และสังเคราะห์ ที่แรกอยู่ในกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ทั้ง strategic plan, action plan, identity(เอกลักษณ์) uniqueness (อัตลักษณ์) หรือ aim (เป้าหมาย)

ในการทำวิจัยเพื่อท้องถิ่น เห็นเพื่อน ๆ ใช้การจัดเวทีคืนองค์ความรู้สู่ชุมชน
เรียกว่า การสังเคราะห์
ในการเขียนรายงานการวิจัยบทที่ 5 ก็เป็นการสังเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่
เรียกว่า การอภิปรายผล
ในการทำงาน ด้วยการนำงานต่าง ๆ มาบูรณาการให้ได้งานใหม่ที่มีประโยชน์และเผยแพร่ได้ก็
เรียกว่า สังเคราะห์

การวิเคราะห์ (Analysis) หมายถึง การแยกแยะสิ่งที่จะพิจารณาออกเป็นส่วนย่อยที่มีความสัมพันธ์กัน เพื่อทำความเข้าใจแต่ละส่วนให้แจ่มแจ้ง รวมทั้งการสืบค้นความสัมพันธ์ของส่วนต่าง ๆ เพื่อดูว่าส่วนประกอบปลีกย่อยนั้นสามารถเข้ากันได้หรือไม่ สัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันอย่างไร ซึ่งจะช่วยให้เกิดความเข้าใจต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดอย่างแท้จริง โดยพื้นฐานแล้ว การวิเคราะห์ถือเป็นทักษะที่มนุษย์ฝึกได้
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C

การสังเคราะห์ (อังกฤษ: Synthesis) มาจากคำว่า syn- แปลว่า ร่วม ส่วนคำว่า thesis แปลว่า ปรากฏการณ์ใหม่ ซึ่งการสังเคราะห์ หมายถึง กระบวนบูรณาการปัจจัยต่าง ๆ ตั้งแต่สองปัจจัยขึ้นไป ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งคน สัตว์ สิ่งของรวมทั้งเหตุการณ์และสิ่งที่อยู่ในรูปของแนวคิดเข้ามาเป็นองค์ประกอบร่วมกัน เพื่อให้เกิดสิ่งใหม่หรือเกิดปรากฏการใหม่ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นการบูรณาภาพ โดยปัจจัยหรือองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เข้ามาสู่กระบวนบูรณาการในการสังเคราะห์นั้น บางปัจจัยอาจจะได้ผ่านการวิเคราะห์แยกแยะสืบค้นมาก่อนแล้ว ขณะที่บางปัจจัยก็อาจจะยังไม่ได้ผ่านการวิเคราะห์แยกแยะสืบค้นมาก่อน สภาวะรูปของปัจจัยและองค์ประกอบต่าง ๆ ที่นำมาเป็นปัจจัยและองค์ประกอบในการสังเคราะห์นั้นอาจเป็นไปได้ทั้งแบบรูปธรรมและนามธรรม ซึ่งบูรณภาพที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่หรือสิ่งใหม่อันเกิดขึ้นจากการสังเคราะห์นั้น ก็เป็นไปได้ทั้งแบบรูปธรรมและนามธรรมเช่นกัน
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C

ภาพตัวอย่างได้จากเว็บไซต์ข้างล่างนี้
แต่ผมเข้าไปแล้วเขาบอกว่า จากประเทศไทยไม่ยินดีต้อนรับ
http://www.wilmington.will.k12.il.us/blog/wmcgee/?p=497

gateway filter


คำว่าแผนยุทธศาสตร์ (Strategic plan) มีแนวการเขียนที่ดี
ที่ http://plan.rmutsb.ac.th/plan/data_information/file/4_SI_135.pdf

คำว่า แผนปฏิบัติการ (Action Plan) มีแนวการเขียนที่ดี
ที่ https://dpl.wu.ac.th/strategy_actionplan/

ตำแหน่งดาวน์โหลดเอกสาร [ร่าง] คู่มือประกันคุณภาพ สกอ. และสมศ. 2557

คู่มือประกันคุณภาพ สกอ. และสมศ. 2557″]ตำแหน่งดาวน์โหลดเอกสาร [ร่าง] คู่มือประกันคุณภาพ สกอ. และสมศ. 2557

ปีการศึกษา 2557 มีการจัดทำร่างเกณฑ์ประกันคุณภาพการศึกษา
ทั้งของ สกอ. และ สมศ. และในการประชุมเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2557
ผู้ใหญ่ให้แขวนเอกสารฉบับร่างคู่มือประกันคุณภาพการศึกษา
ทั้งภายใน และภายนอกรวม 2 เล่ม ในเว็บไซต์
เพื่อให้ทุกท่านเข้าถึงได้โดยสะดวก

จึงนำคู่มือทั้ง 2 เล่มในแบบ pdf
แขวนไว้ที่ http://www.nation.ac.th/handbooks
เพื่อสามารถ download มาใช้อ้างอิงในการทำงานต่อไป

ตำแหน่งดาวน์โหลดปรากฎตามภาพ หรือดาวน์โหลดโดยตรงผ่านลิงค์
https://www.facebook.com/download/815582165118469/iqa_57.pdf
และ
https://www.facebook.com/download/469687779800252/onesqa_57.pdf
หากทาง สกอ. และสมศ. ปรับเอกสารรุ่นใหม่ ก็จะนำเข้าเว็บเพจและทับแฟ้มเดิมนี้ต่อไป

ข้อมูลเกี่ยวกับการประกันคุณภาพฯ ระดับอุดมศึกษา ปี 2557
http://www.thaiall.com/iqa

แหล่งนำเสนอผลงานทางวิชาการ

2 dean from 2 university : national and international conference
2 dean from 2 university : national and international conference

นิยามศัพท์ ที่เกี่ยวข้องกับ การประชุมวิชาการระดับชาติ และ การประชุมวิชาการระดับนานาชาติ

การเผยแพร่ผลงานวิจัยในที่ประชุมวิชาการระดับชาติ หมายถึง การนำเสนอบทความวิจัยในที่ประชุมวิชาการและบทความฉบับสมบูรณ์(Fullpaper)ได้รับการตีพิมพ์ในรายงานสืบเนื่องจากการประชุม (Proceedings) โดยมี กองบรรณาธิการจัดทำรายงานการประชุม หรือคณะกรรมการจัดประชุม ประกอบด้วย ศาสตราจารย์หรือผู้ทรงคุณวุฒิระดับปริญญาเอก หรือผู้ทรงคุณวุฒิที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับในสาขาวิชานั้นๆ จากนอกสถาบันเจ้าภาพ อย่างน้อยร้อยละ 25 โดยต้องมีผู้ประเมินบทความที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นด้วย และมีบทความที่มาจากหน่วยงานภายนอกสถาบันอย่างน้อย 3 หน่วยงาน และรวมกันแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 25

การเผยแพร่ผลงานวิจัยในที่ประชุมวิชาการระดับนานาชาติ หมายถึง การนำเสนอบทความวิจัยในที่ประชุมวิชาการ และบทความฉบับสมบูรณ์ (Full paper) ได้รับการตีพิมพ์ในรายงานสืบเนื่องจากการประชุม(Proceedings) โดยมีกองบรรณาธิการจัดทำรายงานฯ หรือคณะกรรมการจัดประชุม ประกอบด้วยศาสตราจารย์ หรือผู้ทรงคุณวุฒิระดับปริญญาเอกหรือผู้ทรงคุณวุฒิที่มีผลงานเป็นที่ยอมรับในสาขาวิชานั้นๆ จากต่างประเทศอย่างน้อยร้อยละ 25 และมีผู้ประเมินบทความที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น และบทความที่มาจากต่างประเทศอย่างน้อย 3 ประเทศ และรวมกันแล้วไม่น้อยกว่าร้อยละ 25

** บทความในการประชุมวิชาการทั้งระดับชาติและนานาชาติ ที่นำเสนอให้กองบรรณาธิการหรือคณะกรรมการจัดประชุมพิจารณาคัดเลือก ต้องเป็นฉบับสมบูรณ์ (Full paper) และได้รับการตีพิมพ์ ซึ่งสามารถอยู่ในรูปแบบเอกสารหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้

อ้างอิง คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษภายใน ระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2557 หน้า 35 – 36


Proceedings คือ เอกสารหรือหนังสือที่รวบรวมบทความวิจัย บทคัดย่อ หรือเอกสารนำเสนอในการประชุมวิชาการหรือวิชาชีพ ที่จัดขึ้นทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ โดยสมาคม หน่วยงาน หรือองค์กร จัดให้มีการประชุม เพื่อเป็นการพบปะระหว่างนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาชีพ ในสาขาวิชาเดียวกันอย่างต่อเนื่อง วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และความร่วมมือกัน มีการนำเสนอผลการค้นคว้าวิจัยใหม่ในที่ประชุม

รายงานการประชุมที่เผยแพร่เป็นรูปเล่ม (Proceedings) ดำเนินการตีพิมพ์ผลงานฉบับสมบูรณ์เผยแพร่หลังการประชุม แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. การประชุมวิชาการระดับนานาชาติ (International Conference)
2. การประชุมวิชาการระดับชาติ (National Conference)
เช่น http://202.44.34.144/nccitedoc/
หรือ  http://www.techno.edu.nu.ac.th/proceedingsEdtech.pdf
http://thaiglossary.org/node/10552

การประชุมระดับนานาชาติ (International Conferences) คือ การประชุมระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการระหว่าง ผู้แทนผู้มีอำนาจเต็มจากหลาย ๆ ประเทศ เพื่อพิจารณาหาทางระงับปัญหาระหว่างประเทศ การประชุมเช่นนี้บางทีเรียกว่า คองเกรสระหว่างประเทศ แม้จะเรียกต่างกัน แต่ก็ไม่มีอะไรแตกต่างกันที่สำคัญระหว่างสองคำนี้ บ้างมีความเห็นว่า ใช้คำคองเกรส ดูจะมีความสำคัญและมีลักษณะเป็นทางการมากกว่าใช้คำ คอนเฟอเรนซ์ผู้แทนจากประเทศที่ร่วมการประชุมในบางโอกาส ได้แก่บุคคลในระดับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือเอกอัครราชทูต แล้วแต่ว่าการประชุมนั้น ๆ มีความสำคัญระดับใดในการประชุมระหว่างประเทศ แต่เดิมใช้ภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสกันมากทั้งสองภาษา มาในภายหลังมักนิยมใช้ภาษาอังกฤษเกือบทั้งหมด ส่วนการประชุมระหว่างประเทศที่องค์การสหประชาชาติเป็นผู้จัด จะใช้ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน รัสเซีย และจีน รวม 5 ภาษาตามปกติ มักจะเลือกหัวหน้าคณะผู้แทนของประเทศเจ้าภาพให้ทำหน้าที่ประธานการประชุม ส่วนเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ของการประชุม ได้แก่ รองประธาน เลขานุการของการประชุม ประธานกรรมการ และผู้บันทึกรายงานสำหรับรายงานการประชุม ข้อมติของที่ประชุมและข้อเสนอแนะนั้น จะรวมเข้าไว้ในเอกสารที่เรียกว่า กรรมสารสุดท้าย (Final Act) ซึ่งผู้แทนประเทศผู้มีอำนาจเต็มจะเป็นผู้ลงนามในเอกสารนั้นในการประชุมครั้งสุดท้าย

http://thaiglossary.org/node/36943


กระบวนการพิจารณา (Review Procedures)
KST = Knowledge and Smart Technology
http://kst.buu.ac.th/2017/submit_paper.html

review procedures
review procedures

เกณฑ์มาตรฐานวารสารวิชาการกลุ่มสาขาวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๒

ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้ร่วมมือกันในการที่จะยกมาตรฐานการเผยแพร่งานวิชาการในประเทศให้มีคุณภาพและเพื่อผลักดันให้เกิดมาตรฐานที่ใกล้เคียง หรือเทียบได้กับนานาชาติ มาตรการหนึ่งในบรรดามาตรการทั้งหลายคือการสนับสนุนให้เกิดวารสารทางวิชาการกลางอันจะเป็นที่รวมและเผยแพร่ความรู้ของประชาคมวิชาการในประเทศไทยโดยไม่เพียงแต่สนองความต้องการของสถาบันใดสถาบันหนึ่ง

เพื่อให้วารสารวิชาการของสถาบันการศึกษาในประเทศไทยได้ทำหน้าที่เป็นแหล่งกลางในการเผยแพร่งานวิชาการของประชาคมอุดมศึกษาให้มีมาตรฐานเทียบเคียงกับระดับนานาชาติ ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาจึงกำหนดเกณฑ์คุณภาพวารสารวิชาการที่สมควรได้รับการสนับสนุนไว้ ดังนี้

๑. กองบรรณาธิการของวารสารวิชาการในประเทศต้องมีศาสตราจารย์ หรือผู้ทรงคุณวุฒิระดับปริญญาเอกจากภายนอกสถาบันที่จัดพิมพ์วารสารนั้น หรือผู้ทรงคุณวุฒิที่มีผลงานโดดเด่นอย่างต่อเนื่องเป็นที่ยอมรับในสาขาวิชานั้นๆ

๒. ผู้ประเมินบทความต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น ทำ งานวิจัยและมีผลงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง

๓. บทความที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ ต้องมีบทความที่ผู้เขียนมาจากสถาบันอื่นที่มิใช่สถาบันที่จัดทำวารสารนั้นไม่น้อยกว่า ๑๐% ของจำนวนบทความทั้งหมด ในอนาคตควรมีการเพิ่มจำนวนบทความประเภทดังกล่าวให้ถึง ๒๕% ของบทความทั้งหมดเพื่อเป็นการพัฒนา คุณภาพวิชาการของประเทศ

๔. บทความที่เขียนโดยนักวิชาการในสถาบันที่จัดทำวารสารนั้นต้องมีผู้ประเมินจากสถาบันภายนอกไม่ต่ำกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้ประเมินทั้งหมด

๕. กำหนดให้มีการประเมินคุณภาพวารสารทุกๆ ๒ ปี ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้

๖. บทความแต่ละบทความต้องมีบทคัดย่อภาษาอังกฤษ ในกรณีที่ตีพิมพ์เป็นภาษาต่างประเทศต้องมีบทคัดย่อเป็นภาษาไทยด้วย

๗. วารสารต้องออกตรงตามเวลาอย่างต่อเนื่อง

๘. วารสารต้องมีบทวิจารณ์หนังสือ (book review)

๙. วารสารควรมีการตีพิมพ์บทความปริทรรศน์ (review article) เป็นครั้งคราว

http://www.kmutt.ac.th/jif/public_html/document/gain.pdf

เกณฑ์คุณภาพวารสารวิชาการระดับนานาชาติ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

http://www.kmutt.ac.th/jif/public_html/document/gain%20vit-techno.pdf

ฟันธงแล้ว เลิกแจกแท็บเล็ต ป.1

tabletpc ป.1
tabletpc ป.1

อวสานประชานิยม!  ‘แจกแท็บเล็ตป.1’
คสช.ยกเลิกโครงการยกพวง สั่งเปลี่ยนแปลงงบประมาณไปใช้อย่างอื่นที่เกิดประโยชน์ต่อเด็กมากกว่า มอบ ศธ.ไปคิดโครงการใหม่มา

http://www.komchadluek.net/detail/20140616/186608.html

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2557  นางสุทธศรี  วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา เพื่อพิจารณาโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน  ว่า ภายหลังหารือร่วมกันโดยวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ของโครงการแจกแท็บเล็ต โดยนำผลการวิจัยที่ทำโดยหน่วยงานที่เป็นกลาง อาทิ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) รวมไปถึงผลการติดตามการดำเนินโครงการตั้งแต่ปีใบประมาณ 2556  ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มดำเนินโครงการมาร่วมพิจารณาด้วย  ทุกฝ่ายมีมติร่วมกันว่าควรจะเปลี่ยนแปลงงบประมาณของแท็บเล็ตที่เหลือทั้งหมด ไปใช้ทำโครงการอื่นที่เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน มากกว่า

“เหตุผลที่ตัดสินใจยุติโครงการแท็บเล็ต ทั้งในส่วนของปีงบประมาณ 2556 ซึ่งเหลือการจัดซื้อในโซนที่ 4 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ) วงเงิน 1,170 ล้านบาท และการจัดซื้อแท็บเล็ต ปีงบประมาณ 2557 จำนวน 5,800  ล้าน นั้นยึดเรื่องผลประโยชนต่อผู้เรียนเป็นหลัก โดยหลายฝ่ายเห็นว่าถ้านำไปทำโครงการอย่างอื่น อย่างเช่น สมาร์ทคลาสรูม  อีเลิร์นนิ่ง  เป็น ห้องคอมพิวเตอร์ไว้ที่โรงเรียน ให้นักเรียนหมุนเวียนมาใช้ จะเกิดประโยชน์ในวงกว้างมากกว่า ขณะเดียวกันยังไม่ต้องเสียงบประมาณจัดซื้อทุกปี เหมือนโครงการแจกแท็บเล็ต ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบให้ศธ. ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาโครงการที่เหมาะสมมาแทน”

แหล่งข่าวระดับสูงจาก ศธ. เปิดเผยว่า ประชุมได้มอบให้ปลัด ศธ. ทำเรื่องเสนอไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงรายการ และขอกันเงินงบประมาณแบบไม่มีหนี้ด้วย  ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง โดยมีข้อสรุปว่านักเรียนทุกคนไม่จำเป็นต้องได้รับแจกแท็บเล็ตเป็นของตนเอง เพราะใช้แท็บเล็ตเรียนเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น จึงถือว่าไม่คุ้มค่า และไม่เหมาะสมที่จะจัดซื้อให้แก่นักเรียนทุกคน ขณะเดียวกันยังเห็นว่าแท็บเล็ตไม่เหมาะที่จะนำมาใช้สอนนักเรียนตลอดเวลา ควรใช้ในการเรียนการสอนบางชั่วโมงเท่านั้น และเด็กๆ ควรเรียนรู้จากครูผู้สอน

อีกทั้งแท็บเล็ตถือเป็นครุภัณฑ์ของโรงเรียน จึงไม่เหมาะสมที่จะไปมอบให้นักเรียนเป็นของส่วนตัวได้ โดยคณะกรรมการว่าด้วยพัสดุ กรมบัญชีกลาง ก็ได้ระบุมาว่าจะมอบแท็บเล็ตให้แก่นักเรียนไม่ได้ นอกจากนี้แท็บเล็ตยังมีขนาดหน้าจอที่เล็ก ทำให้นักเรียนมีปัญหาด้านสายตา ส่วนคุณภาพของเครื่องเนื่องจากมีราคาถูก ทำให้แท็บเล็ตมีคุณภาพต่ำ มีอายุใช้งานที่สั้นเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น และไม่คุ้มค่าเมื่อต้องมีการซ่อมแซม

ภาพประกอบจาก
http://www.manager.co.th/politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000107226