ปรับขนาดจอภาพรองรับ responsive web design

ทำให้ดีที่สุด เพื่อคะแนน performance / optimization หรือ user experience ที่ดีที่สุด จึงกลับไปดูหัวข้อ ขนาดจอภาพ (screen resolution) ที่ถูกบันทึกไว้ บนระบบ website tracker / counter / web stats / web analytics / usage statistics / hit stats พบว่า โลกเราเปลี่ยนไปจาก พ.ศ. 2541 อย่างมาก

ปัจจุบัน ขนาดจอภาพ ยอดนิยมเป็น 1366*768 หรือ 1920*1080 แม้จะคลาดเคลื่อนกันบ้าง แต่ห่างจากที่ผมมองไว้ ที่ 800*600 แบบไม่เห็นฝุ่น ดังนั้นการออกแบบ responsive web design แบบ fixed width เพื่อควมคุม layout ให้ผู้ใช้รู้สึกดี จึงต้องปรับชุด resolution ที่รองรับกันใหม่ แต่ปีนี้ผมยังไม่ย้ายออกจาก comfort zone ที่ width 728px นะครับ ปรับเฉพาะที่ต่ำกว่าขนาดนี้เท่านั้น

สิ่งสำคัญในการปรับเทมเพจรุ่นนี้ (9.2) คือ วิเคราะห์ front-end design อย่างละเอียด เพื่อให้ได้คะแนน 400 เต็ม จาก pagespeed insights ซึ่งปัญหาสุดท้ายที่กว่าจะแก้ได้ก็นาน คือ การยกเลิกการ load css ที่ต้นแฟ้ม แต่แยกประกาศ style ในแท็ก head เฉพาะส่วนที่จำเป็น แล้วส่วนที่เหลืออยู่ในแฟ้ม css ที่รองรับงาน responsive แยกออกเป็นแฟ้ม แล้วค่อยดึงมาใช้หลัง onload ที่เขียนโค้ดไว้หลังปิดแท็ก html และทำงานแบบ async=true

สิ่งที่แก้ไม่ได้ที่ทำให้คะแนน pagespeed ไม่เต็ม 100 มี 4 เรื่องที่แก้ไม่ได้ คือ 1) กูเกิ้ลแอด ที่เรียกโค้ดภายนอก 2) histats หรือ truehits ที่เรียกโค้ดภายนอก 3) การโหลด js และ css จาก cdn จำนวนมาก 4) ขนาด DOM ที่ใหญ่เกินไป เค้าแนะนำว่าไม่ควรเกิน 1500 nodes

ส่วนผลการตัดโค้ดที่ทำให้คะแนนลดออกไป จนทำให้เหลือเฉพาะเนื้อหาจะได้คะแนน 400 เต็ม อยู่ใน link ด้านล่างครับ สามารถนำ url ไปโยนใส่ pagespeed ดูได้ ส่วนโฮมเพจที่ใช้จริงอยู่ที่ หน้าแรก thaiall ซึ่งได้คะแนน mobile คือ 37,100,57,100 เพราะมีปัญหา ใน 4 เรื่องข้างต้น

https://thaiall.com/web2/file_pagespeed.php?file=web2main
https://thaiall.com/web2/file_pagespeed.php?file=web2main&fieldset=blank

performance ของเว็บเพจ บน pagespeed insights

เว็บเพจหน้านี้ ยกร่างโค้ดเว็บเพจขนาดเล็ก ชื่อ index90_100 เพื่อทดสอบให้ผ่านการประเมินตามเงื่อนไข Diagnose Performance Issue ของ pagespeed insights ทั้ง 4 หัวข้อ คือ Performance , Accessibility , Best practice และ SEO ไดคะแนน 100 ทั้ง 4 หัวข้อ โดยมีการปรับแก้ ดังนี้ 1) ปรับลดขนาดแฟ้ม .css ให้มีขนาดเล็กที่สุด 2) ปรับ layout แก้ปัญหา layout shift 3) ใช้ภาพ .webp แทน .jpg 4) ลดขนาดภาพ และเพิ่มความคมชัด และรักษา ratio ให้เท่าเดิม 5) ยกเลิกการโหลด font, css, js จากภายนอกทั้งหมด ซึ่งอิงกับโค้ดเดิม คือ การปรับแก้โค้ดเว็บเทมเพจเดิมในรุ่น 9.0 ที่เคยได้คะแนน 100 มาก่อน ซึ่งการลดขนาดแฟ้มและแปลงเป็น .webp เลือกใช้โปรแกรม irfanview เนื่องจากโปรแกรมมีขนาดเล็ก ทำงานได้รวดเร็ว และใช้งานง่าย

เว็บเพจหน้านี้ ประกาศ style ก่อน body
จึงเขียนโค้ดแบบ responsive web design และใช้ top bar menu แบบแยก desktop กับ mobile แล้วไม่กระทบคะแนน pagespeed

เว็บเพจหน้านี้ มีการเรียกใช้ bootstrap.min.css เมื่อส่งตรวจสอบกับ pagespeed insights พบว่า การเรียกใช้ bootstrap โดยตรงก่อนเปิด tag body จะทำให้คะแนนได้ไม่เต็ม 100 เนื่องจากต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง ในการ Load แฟ้มจากภายนอก ซึ่งวิธีหนึ่งในการแก้ไขการ Load bootstrap คือ เขียน function ใน javascript ไว้ท้าย script เพื่อตรวจสอบ EventListener ว่าเป็น load หรือ onload มีผลให้ การแสดงผลหน้าแรก ผ่านการตรวจสอบของ pagespeed เสร็จสิ้นลง จึงจะมีการ load bootstrap ทำให้เงื่อนไขการโหลด bootstrap ไม่มีผลต่อคะแนน pagespeed insights

ส่วนการ load font .ttf นั้น เว็บเพจหน้านี้ เลือกใช้ font-display:optional; กับทุกฟอนต์ที่นำมาใช้ ซึ่งมีผลให้ ระยะเวลาในการ load font มาใช้งานนั้น แน่ใจได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นใน 100ms แรก หรือเป็นการโหลดแบบ background with low priority ทำให้มั่นใจได้ว่า pagespeed insights จะตรวจสอบจนจบแล้ว การโหลดฟอนต์มาใช้จึงจะเกิดขึ้น ต่างกับ font-display:swap; ที่ font จะถูก render ทันทีเมื่อมีการโหลด และพร้อมแสดงฟอนต์ ทำให้เกิดปัญหา layout shift ขึ้นได้ และคะแนนส่วนนี้ก็จะไม่ได้ 100 คะแนนเต็ม

Webpage
Bootstrap

https://thaiall.com/web2/index100.htm

https://thaiall.com/web2/index90_100.htm

การใช้ php คุมการเรียก truehits บน https

เนื่องจากผมมี host ที่เรียกใช้ได้ทั้ง http และ https ตัวหนึ่ง ทำให้การทำงานกับ content ยุคปลอดภัย และไม่ปลอดภัย ในการรับส่งข้อมูลดำเนินร่วมทางกันไปแบบคู่ขนาน
..
โดยบริการของ truehits เพื่อเก็บสถิติการเข้าใช้งานเว็บเพจนั้น เปิดให้เจ้าของเว็บไซต์สมัครได้ใน 2 ประเภทหลัก คือ ฟรี และ สนับสนุน ซึ่งแบบสนับสนุน แบ่งได้ 6 แบบ โดยแบบที่ 4 ถึง 6 จะมีบริการ https
หากเป็นแบบฟรีก็ต้องเรียกใช้โค้ดผ่าน http แต่ถ้าแบบสนับสนุนแบบที่ 4 ขึ้นไป ก็จะเรียกใช้ได้ทั้ง http และ https ให้ใช้งานได้ โดยมีค่าบริการตามบริการที่เลือกไว้

/web2/index100.php


แต่การเรียกใช้ truehits แบบ http ใน  https host นั้น ระบบของ truehits ไม่ให้บริการ https สำหรับสมาชิกแบบฟรี ทำให้ค่าสถิติที่แสดงบน truehits เป็นค่าที่มาจากผู้ใช้ที่เข้าถึงเว็บไซต์แบบ http เท่านั้น ซึ่งการดู statistic การ access host นั้น มีผู้ให้บริการอยู่หลายราย แล้วเราสามารถเปรียบเทียบค่าสถิติเหล่านั้นได้
..
พบผลการประเมินของ pagespeed insights ของ Google ว่าขณะเปิดเว็บเพจแบบ https แล้วในเพจ เรียกใช้ script ของ truehits แบบ http จะมีผลประเมินในหัวข้อ Best practice ได้คะแนนลดลงมากกว่า 20 คะแนน ซึ่งได้เขียนโค้ดทดสอบ Library ต่าง ๆ ไว้ที่ /web2/index100 . php จึงรู้ถึงการลดคะแนนนี้
..
ซึ่ง host ที่บริการ php จะมี variables ดูได้จาก phpinfo() ให้เรียกใช้ได้มากมาย ดังนั้นการเรียก url แบบ http และ https จะมีตัวแปรหนึ่ง ที่ระบุว่าเรียกใช้ URL แบบใด เมื่อใช้ตัวแปร _SERVER[“HTTPS”] ทำการทดสอบด้วย isset() แล้วไปสั่งพิมพ์การแสดง JavaScript ของ truehits เพื่อเรียกเปิดการทำงานของ truehits และถ้าเป็น URL แบบ https ก็จะไม่เรียกใช้ สำหรับผู้ใช้แบบฟรี ทำให้ผล pagespeed insights ใน https ได้ 100 คะแนน เนื่องจากไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนการเปิด URL แบบ http ยังได้คะแนนลดลงเช่นเดิม เนื่องจากในโค้ดของ truehits ยังมีการทำงานเชื่อมกับ host แบบ https ในฝั่งของ truehits
..
การเรียกใช้ truehits ยังมีวิธีอื่นที่ truehits แนะนำไว้ เช่น iframe หรือ perl ส่วนการใช้งานค่าสถิติก็มีบริการข้อมูลอีกมากมายที่นำมาใช้ประโยชน์ เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ของตน หรือองค์กรได้

https://www.thaiall.com/web2/index.php

Truehits.net
phpinfo()

ยอดเว็บไซต์ หมวดการศึกษา ปี ค.ศ. 2003

เว็บไซต์ก็เปรียบเสมือน
บ้าน โรงเรียน หรือ มหาวิทยาลัย
บริษัท และ หน่วยงานราชการ
แบ่งเป็นห้อง เป็นชั้น ไว้มากมาย
.
เพื่อนที่อยู่ในแวดวงการศึกษา
ทั้ง ผู้สร้าง และ ผู้สืบค้น
ย่อมคุ้นชิน กับ เว็บไซต์
ที่จัดว่าเป็น เทคโนโลยีทางการศึกษา
.
กิจวัตรของ.ทุกคน คือ เข้าถึงเว็บไซต์
ตามหมวดที่ตนเอง สนใจอยู่เป็นประจำ
.
ตามที่ประเทศไทยมีการรวบรวม
ข้อมูลเว็บไซต์ผ่านบริการ
ของ ศูนย์รวมสถิติเว็บไทย
สารบัญเว็บไทย truehits.net
ที่จำแนกข้อมูลออกเป็นหลายหมวด
.
สำหรับ หมวด .การศึกษา
มีการเสนอเว็บไซต์ 20 อันดับแรก
ที่ได้รับความนิยม
เป็นข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า
เว็บไซต์ใดที่มีเนื้อหา
ถูกใจคนไทยมากที่สุด
.
ตามข้อมูลในปี ค.ศ. 2003
พบว่า
อันดับแรก คือ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
อันดับที่สอง คือ  เอ็ดดูโซน
อันดับที่สาม คือ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
อันดับที่สี่ คือ เน็ตดีไซน์
.
ซึ่งในหมวดการศึกษา
มีจำนวนเว็บไซต์สูงสุด
.
จึงแสดงให้เห็นว่าสมัยนั้น
เว็บไซต์ด้านการศึกษา
เป็น อีกสื่อที่สำคัญ
เพื่อใช้ในการสื่อสาร
.
เมื่อมองย้อนกลับ
ไปในอดีตแล้ว
เราทุกคนมีเรื่องราว
ที่ชวนให้คิดถึงเสมอครับ

#tiktokuni
#website
#homepage
#education
#school
#university
#ranking
#information

https://vt.tiktok.com/ZSFxqUqxV/

https://web.archive.org/web/20041010044640fw_/http://truehits.net/index_index.php

https://web.archive.org/web/20040929025128/http://truehits.net:80/

คำสั่งตรวจข้อมูลบุคคลอ่านแฟ้มชนิด csv

พบการสุ่มข้อมูล
มาสร้างชุดข้อมูลตัวอย่าง
ที่รวบรวมขึ้น เพื่อฝึกปฏิบัติ
จัดเก็บ
บนแฟ้มชนิด csv
.
ในเอกสารการวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ
ในระบบสาธารณสุขไทย
โดยใช้โปรแกรมอาร์
พบว่า หน้า 55 เป็นต้นไป
อธิบายเรื่อง การตรวจสอบข้อมูล
.
เอกสารนี้จัดพิมพ์โดย
สถาบันวิจัยและพัฒนาสุขภาพภาคใต้
คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
.
มีคำสั่งที่น่าสนใจ
ซึ่งตัวแปลภาษาสร้างไว้ให้ใช้
มีตัวอย่างการใช้งานกับแฟ้มบุคคล
ในหัวข้อนี้มี 5 คำสั่ง ประกอบด้วย
1. คำสั่ง read.csv
ใช้อ่านแฟ้มข้อมูล ลงใน กรอบข้อมูล
.
2. คำสั่ง head
ใช้แสดงหกแถวแรกของชุดข้อมูล
.
3. คำสั่ง tail
ใช้แสดงหกแถวสุดท้ายของชุดข้อมูล
.
4. คำสั่ง names
ใช้แสดงชื่อตัวแปรของชุดข้อมูล
.
5. คำสั่ง str
ใช้แสดงรายละเอียดของชุดข้อมูล
.
ซึ่งชุดข้อมูลตัวอย่าง
เกี่ยวกับบุคคลที่ใช้บริการโรงพยาบาล
มีข้อมูล 33 ตัวแปร
เช่น รหัสโรงพยาบาล
เพศ วัน เดือน ปีเกิด สัญชาติ
.
เมื่อทดสอบคำสั่งในภาษาอาร์
บนเครื่องคอมพิวเตอร์
ที่ติดตั้งตัวแปลภาษาแล้ว
พบว่า แสดงผลได้ตามปกติ
เช่นเดียวกับที่พบบนคู่มือ
.
สรุปว่า ชวนอ่านหนังสือกันครับ

https://vt.tiktok.com/ZSFUb8CAw/

คำสั่งตรวจข้อมูลบุคคล
อ่านแฟ้ม ด้วยโปรแกรมอาร์
#function
#computing
#psu
#language
#bigdata

ค้นหาเพื่อแก้ไขใน wordpress

วันนี้เพื่อนเก่าคนหนึ่ง
ทักมาให้ช่วยหาสิ่งหนึ่ง
ใน wordpress ว่าแก้ไขตรงไหน
ปัจจุบันองค์การมากมายใช้งาน
ระบบ content management system
เพราะรองรับความต้องการได้ครบ
และถูกพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
สรุปว่าเพื่อนเค้าก็เลือกใช้ระบบนี้ครับ
และมีสิ่งหนึ่งที่หาวิธีแก้ไขไม่พบ
.
เป็นงานฟื้นฝอยหาตะเข็บ
ว่าสิ่งที่จะแก้ไขนั้น
อยู่ตรงไหนในเมนูหลักหลังบ้าน
เพราะคลิกหาแล้วไม่พบ
มีตัวเลือกมากมาย และอยู่ลึก
เข้าไปแก้ไขข้อมูลไม่บ่อย
นานทีมีหน ถึงจะเข้าระบบหลังบ้าน
.
พอทราบความต้องการ
และสิ่งที่จะแก้ไข
ผมก็ใช้ browser เปิดดู
แล้วเปิด developer tools
จากนั้นก็ใช้ mouse ชี้ไปตำแหน่งนั้น
.
มองหาชื่อ class
พบว่าคุ้นเคยชื่อนี้มาก
แต่ก็ยังนึกไม่ออก
เพราะเป็นระบบของเพื่อน
ที่ผมก็ไม่เคยใช้งานสิ่งนี้
.
จึงนำชื่อ class
ส่งไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต
จนพบว่านี่เป็นชื่อ plug in ตัวหนึ่ง
จึงกลับไปดูรายชื่อ plug in
ในระบบ administrator ที่อยู่หลังบ้าน
ก็พบว่าสามารถแก้ไขข้อมูลได้
ตามโจทย์ที่เพื่อนต้องการ
.
สรุปว่า ส่งข้อความไปบอกเพื่อนแล้ว
ว่าจะเข้าไปแก้ไขจากตรงไหน
มีเพื่อนก็ช่วยเพื่อน พอช่วยได้ก็ช่วยกัน
ไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ช่วยกันไป
ตามประสาน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่าครับ

#searching
#wordpress
#cms
#backend
#school
#coding

https://vt.tiktok.com/ZSFjMjqGK/

https://fb.watch/qeuTQsj9Xw/

การเรียกใช้คลาสในภาษาจาวา

ภาษาจาวา ถูกจัดเป็นภาษาเริ่มต้น
สำหรับเรียนรู้การเขียนโปรแกรม
โดยเฉพาะการโปรแกรมเชิงวัตถุ
Object oriented programming
.
นอกจากนี้ยังนิยมใช้เป็นเครื่องมือ
ในหลายแพลตฟอร์ม
ทั้งอุปกรณ์เคลื่อนที่ เว็บไซต์
และแอปพลิเคชันอย่างแพร่หลาย
.
สำหรับการโปรแกรมเชิงวัตถุ
ก็ออกแบบมาให้รองรับเทคนิคพื้นฐาน
และยังถูกพัฒนาให้มีโครงสร้าง
ที่เป็นมาตรฐาน ปรับใ้ช้ได้อย่างยืดหยุ่น
.
ช่วงนี้ได้ปรับบทเรียนออนไลน์
จึงเลือกโค้ดที่เกี่ยวกับ
การเรียกใช้ class และ method มาแบ่งปัน
ให้เห็นถึงการเรียกใช้คลาสและซับคลาส
.
จากตัวอย่างจะมี 3 คลาส
แต่ละคลาสมี method
โดยคลาสหลักมี method ชื่อ main
และแสดงผลผ่าน System.out
ปรากฎ output บน console
.
นำโค้ดไปทดสอบ
บน Online java compiler
จะทำให้เห็นการทำงานของ
constructor, super, และ this ได้
ลองเปรียบเทียบผลลัพธ์กับโค้ดกันได้
.
สรุปว่า ท่านใดที่ยังวนเวียน
อยู่ในยุคจาวา ยังสนใจเรื่องนี้อยู่
ลองนำโค้ดไปทดลอง หรือปรับปรุงได้ครับ
สามารถสืบค้นคำว่า
รหัสต้นฉบับเพื่อการศึกษา ก็ได้

j0404

https://fb.watch/qaxiS4cWN-/?mibextid=2JQ9oc

#javalanguage
#computerlanguage
#programming
#coding
#method
#algorithm

การปรับโค้ดซีชาร์ปกับเอเอสพีดอทเน็ต

เมื่อวานนั่งแก้โค้ดเก่า
ที่เคยทำงานบนวินเซิร์ฟศูนย์แปด
ให้ทำงานบนรุ่นสองศูนย์สิบหก
เพราะเพื่อนเก่ารุ่นน้องเค้าทักถามมา
เค้าใช้เอเอสพีดอทเน็ตกับซีชาร์ป
ทีแรกคิดว่าเป็นเอเอสพีคลาสสิก
พอได้เห็นโค้ดถึงรู้ว่าฟอร์มหลัก
ใช้เอเอสพีดอทเน็ต และ
โค้ดใช้ซีชาร์ปควบคุมการติดต่อ
และเชื่อมฐานเอสคิวแอลเซิร์ฟเวอร์
.
พอดีเช่าโฮสต์
ที่เป็นวินโดว์ไว้ตัวหนึ่ง
เคยทำระบบสมาชิกให้สมาคม
ตอนนั้นใช้แอคเซสรุ่นเก่าเก็บข้อมูล
พอมีกฎเรื่องความเป็นส่วนตัว
ก็ได้หยุดบริการลงไป
เหลือเพียงบล็อกข้อมูล
ที่ใช้ฐานข้อมูลมายเอสคิวแอล
.
เมื่อได้นำโค้ดมารัน
พบว่า นโยบายการเขียนโค้ด
เปลี่ยนไปในเครื่องรุ่นสองศูนย์สิบหก
รูปแบบเดิมใช้ไม่ได้เยอะทีเดียว
ทำให้ต้องแก้โค้ดอยู่พอควร
.
การเปลี่ยนที่สำคัญ เช่น
คำสั่งในเอเอสพีดอทเน็ต
เป็น case sensitive แล้ว
การเขียนและเรียกใช้คลาส
ต้องอยู่ในแฟ้มซีชาร์ปเดียวกัน
จะแบ่งคลาสไปเขียนแยกแฟ้ม
แล้วมีตัวหลักเรียกมารวมกันไม่ได้
และการสั่ง response หรือแสดงผล
ทำไม่ได้ในกรณีที่เป็นเว็บแอป
ในโค้ดนี้ใช้การส่งค่ากลับมาที่ฟอร์ม
ผ่านตัวแปรแบบ cookie
.
ตัวอย่างนี้เน้นทดสอบการเชื่อมต่อ
แบบ ole กับ mysql
และการทำงานแบบ User interface
ของฟอร์มหลัก
หากจะทดสอบโค้ดต้องมี
โฮสต์ ฐานข้อมูล ผู้ใช้และรหัส
ขอให้โชคดีกับการทดสอบเชื่อมต่อครับ
.
เคยเขียนบทเรียนออนไลน์
เรื่องเอเอสพีคลาสสิก
เอเอสพีดอทเน็ต และซีชาร์ป
รวมถึงหนังสือรวมโค้ดเล่มหนึ่ง
ถ้ามีโอกาสก็จะไปปรับโค้ด
ให้เป็นปัจจุบันยิ่งขึ้น

C#
ASP.Net

https://fb.watch/q2Jwj_qIzJ/

การเรียนรู้การเขียน SEO คู่มือที่ครอบคลุมในการสร้างบทความที่ติดอันดับบน Google

ในโลกที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี การเขียนบทความที่มีอันดับสูงในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (SERP) ของ Google ถือเป็นทักษะที่เป็นที่ต้องการ การเขียน SEO ที่มีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่ปรับปรุงการมองเห็นเท่านั้น แต่ยังดึงดูดปริมาณการเข้าชมทั่วไป เพิ่มการเข้าถึงและผลกระทบของเนื้อหาของคุณ ในคู่มือที่ครอบคลุมนี้ เราจะสำรวจองค์ประกอบสำคัญของการเขียนที่เป็นมิตรต่อ SEO ตั้งแต่การวิจัยคำหลักและโครงสร้างเนื้อหาไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในหน้าและแนวโน้ม SEO ล่าสุด ด้วยการเรียนรู้เทคนิคเหล่านี้ คุณสามารถสร้างบทความที่ไม่เพียงแต่โดนใจผู้ชมของคุณ แต่ยังไต่อันดับใน Google อีกด้วย

ทำความเข้าใจ SEO และความสำคัญของ SEO

การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา (SEO) คือแนวทางปฏิบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาออนไลน์เพื่อปรับปรุงการมองเห็นในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา โดยเฉพาะ Google เป้าหมายคือการทำให้เนื้อหาของคุณมีความเกี่ยวข้องและดึงดูดทั้งเครื่องมือค้นหาและผู้ใช้มากขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะเป็นการกระตุ้นการเข้าชมทั่วไปให้กับเว็บไซต์ของคุณ

ความสำคัญของ SEO

SEO ช่วยให้เนื้อหาของคุณปรากฏอย่างเด่นชัดในผลการค้นหา เพิ่มการมองเห็นให้กับผู้ใช้ที่ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
การอยู่ในอันดับที่สูงบน Google ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการเข้าชมที่เกิดขึ้นเองจะไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง ลดการพึ่งพาการโฆษณาที่เสียค่าใช้จ่าย และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณ
เนื้อหาที่ได้รับการจัดอันดับที่ดีมักจะถูกมองว่ามีความน่าเชื่อถือและน่าเชื่อถือจากผู้ใช้มากกว่า ซึ่งมีส่วนทำให้เกิดชื่อเสียงทางออนไลน์ในเชิงบวก และในปัจจุบันมีบริษัท Digital Marketing Agency รับทำ SEO คุณภาพดีจำนวนมากเพื่อตอบสนองการเติบโตของโลกธุรกิจออนไลน์

การเลือกคำค้นหาหลักที่เหมาะสม

  • ความเกี่ยวข้อง: เลือกคำหลักที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับหัวข้อบทความของคุณ ใช้เครื่องมือเช่น Google เครื่องมือวางแผนคำหลัก, SEMrush หรือ Ahrefs เพื่อระบุคำหลักที่เกี่ยวข้องซึ่งมีปริมาณการค้นหาสูง
  • คำหลักหางยาว: รวมคำหลักหางยาวซึ่งมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นและมีการแข่งขันที่ต่ำกว่า คำหลักหางยาวมักจะตอบสนองผู้ใช้ที่มีจุดประสงค์ในการค้นหาที่ชัดเจนกว่า
  • จุดประสงค์ของผู้ใช้: เข้าใจจุดประสงค์ของผู้ใช้ที่อยู่เบื้องหลังคำค้นหา พวกเขากำลังมองหาข้อมูล ผลิตภัณฑ์ บทวิจารณ์ หรือวิธีแก้ปัญหาอยู่ใช่ไหม? ปรับแต่งคีย์เวิร์ดของคุณให้ตรงกับจุดประสงค์ของผู้ใช้

การวางตำแหน่งของคำค้นหาหลัก

  • แท็กชื่อ: รวมคำหลักของคุณไว้ในแท็กชื่อเรื่องของบทความ ทำให้ทั้งผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาทราบอย่างชัดเจนว่าเนื้อหาของคุณเกี่ยวกับอะไร
  • โครงสร้าง URL: เพิ่มประสิทธิภาพ URL ของบทความของคุณโดยรวมคำหลักที่เกี่ยวข้อง โครงสร้าง URL ที่สะอาดและกระชับช่วยเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้และความเข้าใจเครื่องมือค้นหา
  • แท็กหัวเรื่อง: รวมคำหลักไว้ในแท็กหัวเรื่อง (H1, H2, H3 ฯลฯ ) เพื่อจัดโครงสร้างเนื้อหาของคุณและส่งสัญญาณถึงความสำคัญของส่วนเฉพาะต่อเครื่องมือค้นหา

การสร้างเนื้อหาคุณภาพสูง

  • สร้างเนื้อหาที่ครอบคลุมและให้ข้อมูลที่ครอบคลุมหัวข้อที่เลือกอย่างทั่วถึง Google มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนบทความที่ยาวและมีการวิจัยอย่างดี
  • สร้างสรรค์เนื้อหาที่ดึงดูดผู้อ่าน ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ และมอบคุณค่า ตัวชี้วัดการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ เช่น เวลาบนหน้าเว็บและอัตราตีกลับ เป็นปัจจัย SEO ที่สำคัญ
  • เสนอมุมมองหรือมุมที่ไม่ซ้ำใครในหัวข้อ โดดเด่นจากคู่แข่งด้วยการให้ข้อมูลเชิงลึกที่สดใหม่หรือนำเสนอข้อมูลในลักษณะที่โดดเด่น

การเพิ่มประสิทธิภาพ SEO บนหน้าเว็บไซต์
คำอธิบาย Meta และ Meta Tags

คำอธิบาย Meta ที่น่าสนใจ เขียนคำอธิบาย Meta ที่น่าสนใจซึ่งแสดงถึงเนื้อหาของคุณอย่างถูกต้อง และดึงดูดผู้ใช้ให้คลิก รวมคำหลักที่เกี่ยวข้องแต่เน้นที่การให้คุณค่า

ข้อความแสดงแทนรูปภาพ ปรับข้อความแสดงแทนรูปภาพให้เหมาะสมด้วยวลีที่สื่อความหมายและเต็มไปด้วยคำสำคัญ สิ่งนี้จะปรับปรุงการเข้าถึงสำหรับผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น และช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจเนื้อหารูปภาพ

Meta Tags: ใช้ Meta Tags ที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหมวดหมู่และอธิบายเนื้อหาของคุณ แม้ว่าจะไม่ส่งผลกระทบมากเท่าที่เคยเป็นมา แต่เมตาแท็กยังคงสามารถช่วยทำความเข้าใจเครื่องมือค้นหาได้

การเชื่อมโยงภายในและภายนอก

ลิงค์ภายใน: รวมลิงค์ภายในไปยังหน้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องบนเว็บไซต์ของคุณ สิ่งนี้ช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจลำดับชั้นของเนื้อหาของคุณและสนับสนุนให้ผู้ใช้สำรวจไซต์ของคุณมากขึ้น

ลิงก์ภายนอก: รวมลิงก์ภายนอกที่เชื่อถือได้ไปยังแหล่งที่เชื่อถือได้ภายในเนื้อหาของคุณ สิ่งนี้จะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบทความของคุณและเป็นการส่งสัญญาณไปยังเครื่องมือค้นหาว่าเนื้อหาของคุณได้รับการวิจัยอย่างดี

การเพิ่มประสิทธิภาพข้อความ Anchor: เมื่อใช้ Anchor Text สำหรับลิงก์ ควรทำให้คำอธิบายและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่เชื่อมโยง หลีกเลี่ยงวลีทั่วไป เช่น “คลิกที่นี่” และใช้คำหลักที่ให้บริบทแทน

การเพิ่มประสิทธิภาพมือถือ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณมีการออกแบบที่ตอบสนองซึ่งปรับให้เข้ากับขนาดหน้าจอที่แตกต่างกัน Google จัดลำดับความสำคัญของเว็บไซต์ที่เหมาะกับมือถือในการจัดอันดับ ทำให้การเพิ่มประสิทธิภาพมือถือมีความสำคัญ เพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ของคุณ โดยเฉพาะบนอุปกรณ์มือถือ ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาชอบหน้าที่โหลดเร็วเพื่อประสบการณ์โดยรวมที่ดีขึ้น สร้างสรรค์เนื้อหาที่สามารถอ่านและเข้าถึงได้ง่ายบนอุปกรณ์มือถือ พิจารณาประสบการณ์ผู้ใช้ในหน้าจอขนาดต่างๆ เมื่อออกแบบและจัดรูปแบบบทความของคุณ

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านเทคนิค SEO
site map XML

  • สร้างแผนผังไซต์ XML: สร้างแผนผังไซต์ XML เพื่อให้เครื่องมือค้นหาเห็นภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณ ช่วยให้โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหาจัดทำดัชนีเนื้อหาของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ส่งไปยัง Search Console: ส่งแผนผังไซต์ XML ของคุณไปที่ Google Search Console เพื่อให้แน่ใจว่า Google ทราบทุกหน้าในไซต์ของคุณ อัปเดตและส่งแผนผังไซต์ของคุณอีกครั้งเป็นประจำเมื่อมีการเพิ่มเนื้อหาใหม่

ไฟล์ Robots.txt

  • ปรับแต่ง Robots.txt ของคุณ: ใช้ไฟล์ robots.txt เพื่อแนะนำโปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหาเกี่ยวกับวิธีการนำทางและจัดทำดัชนีเว็บไซต์ของคุณ ไฟล์นี้สามารถป้องกันการจัดทำดัชนีของหน้าหรือไดเร็กทอรีเฉพาะเจาะจง ซึ่งช่วยให้คุณควบคุมสิ่งที่ปรากฏในผลการค้นหาได้
  • หลีกเลี่ยงการบล็อกหน้าสำคัญ: โปรดใช้ความระมัดระวังเมื่อใช้ไฟล์ robots.txt เพื่อหลีกเลี่ยงการบล็อกหน้าสำคัญจากการจัดทำดัชนีโดยไม่ได้ตั้งใจ ตรวจสอบและอัปเดตไฟล์เป็นประจำตามความจำเป็น

การเข้ารหัส HTTPS

  • รักษาความปลอดภัยเว็บไซต์ของคุณด้วย HTTPS: ใช้การเข้ารหัส HTTPS บนเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยระหว่างผู้ใช้และเซิร์ฟเวอร์ของคุณ Google ถือว่า HTTPS เป็นปัจจัยในการจัดอันดับ และไซต์ที่ปลอดภัยจะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ใช้ไว้วางใจมากขึ้น
  • ใบรับรอง SSL: รับใบรับรอง SSL จากผู้ออกใบรับรองที่มีชื่อเสียงเพื่อเปิดใช้งาน HTTPS บนไซต์ของคุณ ผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้งหลายรายเสนอใบรับรอง SSL ฟรี

อัปเดตอยู่เสมอด้วยเทรนด์ SEO

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการอัปเดตอัลกอริทึมหลักของ Google ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่ออันดับการค้นหา ตรวจสอบประกาศอย่างเป็นทางการและแหล่งข่าว SEO ที่มีชื่อเสียงเป็นประจำเพื่อดูข้อมูลล่าสุด และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในอัลกอริธึมการค้นหา ทำความเข้าใจว่าการอัปเดตอาจส่งผลต่อเนื้อหาของคุณอย่างไร และปรับกลยุทธ์ SEO ของคุณให้สอดคล้องกัน

การเพิ่มประสิทธิภาพเนื้อหาสำหรับการค้นหาด้วยเสียงโดยผสมผสานภาษาธรรมชาติและคำสำคัญในการสนทนา การค้นหาด้วยเสียงมักจะเลียนแบบภาษาพูดอย่างใกล้ชิดมากกว่าข้อความค้นหาที่พิมพ์ และให้ความสนใจกับ Core Web Vitals ซึ่งเป็นชุดสัญญาณประสบการณ์ผู้ใช้ที่ Google ถือว่ามีความสำคัญต่อการจัดอันดับ ซึ่งรวมถึงตัวชี้วัดต่างๆ เช่น ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ การโต้ตอบ และความเสถียรของภาพ

เนื่องจากมีการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่เพิ่มมากขึ้น Google จึงได้เปลี่ยนมาใช้การจัดทำดัชนีเพื่ออุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นอันดับแรก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณเหมาะกับมือถือและมอบประสบการณ์ผู้ใช้ที่ยอดเยี่ยมบนอุปกรณ์ต่างๆ

บทสรุป

การสร้างบทความที่ติดอันดับบน Google เกี่ยวข้องกับการผสมผสานระหว่างการวางแผนเชิงกลยุทธ์ การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ และการปรับตัวอย่างต่อเนื่องให้เข้ากับแนวโน้ม SEO ที่เปลี่ยนแปลงไป ด้วยการทำความเข้าใจความซับซ้อนของการวิจัยคำหลัก โครงสร้างเนื้อหา การเพิ่มประสิทธิภาพในหน้า และแนวทางปฏิบัติด้านเทคนิค SEO ที่ดีที่สุด คุณสามารถยกระดับงานเขียนของคุณให้ตรงกับความต้องการของเครื่องมือค้นหาและผู้ใช้ได้ รับข่าวสารเกี่ยวกับการพัฒนา SEO ล่าสุด ปรับกลยุทธ์ของคุณตามนั้น และสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงและเกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าบทความของคุณไม่เพียงแต่จัดอันดับ แต่ยังให้คุณค่าแก่ผู้ชมของคุณในโลกดิจิทัลที่พัฒนาอยู่ตลอดเวลา ด้วยแนวทางที่ถูกต้อง บทความของคุณจะสามารถขึ้นสู่อันดับต้นๆ ของผลการค้นหา รวบรวมการมองเห็นที่เพิ่มขึ้น และดึงดูดปริมาณการเข้าชมทั่วไปมายังเว็บไซต์ของคุณ

ช่องทางติดต่อ:
Website: https://asiasearch.co.th
Facebook: https://www.facebook.com/asiasearch
Linkedin: https://www.linkedin.com/company/asia-search-solutions/
Line: https://page.line.me/729bcdpc

เข้ารหัสตัวอักษรในอดีต

ในอดีตคนไทยที่เขียนเว็บเพจ
จะใช้ charset เป็น tis-620
หรือ windows-874 หรือ iso-8859-11
ส่วนแฟ้มเว็บเพจ
มีการเข้ารหัสแบบ ansi
คือ 1 ตัวอักษร = 1 ไบท์

ปัจจุบันการเข้ารหัสตัวอักษร
จะใช้ utf-8 ซึ่งรองรับได้เกือบทุกภาษา
และเครื่องมือต่าง ๆ ก็ใช้ utf-8
แต่ตัวอักษรที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ
จะใช้พื้นที่ในการเขียนเว็บเพจ
หรือการเก็บข้อมูลมากกว่า 1 byte
เช่น ก จะใช้พื้นที่ 3 byte
เปลี่ยนจาก A1 ฐาน 16 ในตาราง ascii
เป็น E0B881 ฐาน 16 ใน UTF-8

เว็บเพจเดิม
ใช้ windows-874 และเข้ารหัสแบบ ansi
แต่เครื่องบริการกำหนด default
ให้ charset เป็น utf-8
ทำให้ต้องกลับไปแก้ไขเว็บเพจทั้งหมด
เนื่องจากพัฒนาเว็บเพจเป็นแบบ static
ทำให้ต้องตามกลับไปแก้ไขทุกแฟ้ม

ถ้าระบบใดพัฒนาเป็นแบบ dynamic
มีการแยก header ให้ include เข้าไป
ก็จะแก้ไขได้โดยง่าย

ซึ่งข้อดีข้อเสียของ
ทั้ง dynamic และ static ก็ต่างกันไป
เช่นเดียวกับระบบรวมศูนย์
และกระจายศูนย์ ที่อยู่ระบบใด
ก็จะเห็นข้อดีของระบบอื่น
และต้องการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

https://thaiall.com/fonts/[:])
Font
ปรับปรุง charset