ทักษะการอ่านถดถอย ของเด็กสหรัฐ

พบว่า ปัจจุบัน เด็กนักเรียนที่สหรัฐอเมริกา มีทักษะการอ่านถดถอยลง เป็นข้อมูลข่าวที่ค้นหาได้ด้วย “Reading skill 2024 in NAEP The New York Times” ซึ่งพบการรายงานใน 3 ภาษา คือ ภาษาจีน ใน xinhua ภาษาไทย ใน สำรวจโลก และ ภาษาอังกฤษใน เดอะนิวยอร์กไทมส์

National Assessment of Educational Progress คือ เป็นการทดสอบระดับชาติของสหรัฐอเมริกา ที่ใช้วัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในวิชาหลัก เช่น คณิตศาสตร์, การอ่าน, วิทยาศาสตร์, และประวัติศาสตร์

ในรายละเอียด พบว่า เด็ก ม.2 มีทักษะการอ่าน #ต่ำกว่าเกณฑ์ จากการประเมินของ เอ็นเออีพี และสูงสุดในรอบ 30 ปี ที่มีถึงร้อยละ 33 ส่วนเด็ก ป.4 ที่มีทักษะการอ่าน ต่ำกว่าเกณฑ์ สูงสุดในรอบ 20 ปี มีถึงร้อยละ 40

https://www.thaiall.com/readbookt/

สรุปได้ว่า การอ่าน  เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ที่จำเป็นสำหรับการเข้าถึงเนื้อหาใหม่ ๆ ทั้งต่อ คนจีน คนไทย และ คนอเมริกา และการเสนอข่าวสารข้อมูล ให้ผู้คนสืบค้นจนพบถือเป็น การทำตลาดดิจิทัล Digital marketing ทำการตลาดออนไลน์ ที่ผู้นำเสนอข้อมูล หรือ ผู้ดูแลระบบ ต้องให้ความสำคัญ และหวังผลว่าข่าวสารของเราจะไปถึงเขา ผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา รวมถึงเอไอที่ควรสืบค้นนำไปใช้ได้เช่นกัน สรุปว่า ผู้รักการอ่านสามารถสืบค้นได้ด้วยตนเองว่าเด็กเขามีทักษะการอ่านเป็นอย่างไร

https://www.nytimes.com/2025/01/29/us/reading-skills-naep.html
..
https://www.facebook.com/share/p/1BNRHxQFdM/

https://www.thansettakij.com/real-estate/617840

ตลาดแบบถนนคนเดิน คืออะไร

ตลาดแบบถนนคนเดิน (Walking Street Market) คือ ตลาดที่ตั้งอยู่บนถนนหรือทางเดินที่ถูกปิดไม่ให้รถสัญจรชั่วคราว เพื่อให้ผู้คนสามารถเดินเลือกซื้อสินค้าได้สะดวก ส่วนใหญ่จะจัดในช่วงเย็นถึงกลางคืน และมักเป็นที่นิยมในแหล่งท่องเที่ยวหรือชุมชนเมือง 

ลักษณะเด่นของตลาดถนนคนเดิน
1. ขายสินค้าหลากหลาย – มีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า ของที่ระลึก งานฝีมือ และสินค้าแฮนด์เมด 
2. เปิดเฉพาะช่วงเวลา – มักจัดเป็นประจำทุกสัปดาห์ เช่น ศุกร์ เสาร์ หรืออาทิตย์ 
3. ไม่มีรถสัญจร – ทำให้เดินซื้อของได้สะดวกและปลอดภัย 
4. บรรยากาศคึกคัก – มีนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นจำนวนมาก อาจมีการแสดงดนตรี ศิลปะ หรือกิจกรรมบันเทิงอื่น ๆ 
5. ราคาเข้าถึงได้ – สินค้าส่วนใหญ่มักมีราคาย่อมเยา และสามารถต่อรองได้ 

ตัวอย่างตลาดถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงในไทย ได้แก่ ถนนคนเดินเชียงใหม่, ถนนคนเดินพัทยา (Walking Street Pattaya), ถนนคนเดินวัวลาย เชียงใหม่, และตลาดนัดจตุจักรกลางคืน
[.CP.]

https://thaiall.com/walkingstreet/

ตลาดแบบถนนคนเดิน หรือ ถนนคนเดิน (Walking Street) เป็นพื้นที่ที่จัดให้มีการขายสินค้าและทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยมักจะปิดการจราจรชั่วคราวเพื่อให้คนเดินเท้าสามารถเข้าถึงได้สะดวก

ลักษณะของตลาดถนนคนเดิน:
– สถานที่: มักตั้งอยู่ในใจกลางเมืองหรือแหล่งท่องเที่ยว เช่น ถนนข้าวสารในกรุงเทพฯ หรือถนนคนเดินเชียงใหม่
– สินค้าที่ขาย: มีทั้งอาหาร, เสื้อผ้า, ของใช้มือสอง และสินค้าท้องถิ่น
– กิจกรรม: มักมีการแสดงศิลปะ ดนตรี และกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้มาเยือน

ประโยชน์:
– ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่โดยการสร้างรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ขาย
– เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมและการแสดงออกของชุมชน

ตลาดแบบถนนคนเดินเป็นสถานที่ที่มีชีวิตชีวาและเป็นที่นิยมสำหรับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว
[.PP.]

ถนนคนเดิน หรือ ตลาดถนนคนเดิน หมายถึง ตลาดที่จัดขึ้นบนถนน โดยจะปิดถนนไม่ให้รถสัญจรไปมาในช่วงเวลาที่ตลาดเปิด เพื่อให้คนสามารถเดินเลือกซื้อสินค้าและอาหารได้อย่างอิสระ ตลาดถนนคนเดินมักจะจัดขึ้นในสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน เช่น ย่านชุมชน แหล่งท่องเที่ยว หรือใจกลางเมือง

ลักษณะของตลาดถนนคนเดิน

* บรรยากาศ: ตลาดถนนคนเดินมักจะมีบรรยากาศที่คึกคักและมีชีวิตชีวา มีผู้คนเดินจับจ่ายซื้อของและรับประทานอาหารกันอย่างสนุกสนาน
* สินค้า: สินค้าที่ขายในตลาดถนนคนเดินมีความหลากหลาย ตั้งแต่สินค้าพื้นเมือง สินค้าหัตถกรรม สินค้าแฟชั่น ไปจนถึงอาหารและเครื่องดื่ม
* อาหาร: ตลาดถนนคนเดินเป็นแหล่งรวมอาหารอร่อยหลากหลาย ทั้งอาหารคาว อาหารหวาน และอาหารทานเล่น
* กิจกรรม: นอกจากซื้อของและทานอาหารแล้ว ตลาดถนนคนเดินบางแห่งยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ทำ เช่น การแสดงดนตรี การแสดงศิลปะ หรือการละเล่นพื้นเมือง

ตัวอย่างตลาดถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย
* ถนนคนเดินท่าแพ (เชียงใหม่): เป็นตลาดถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีสินค้าหลากหลาย ทั้งสินค้าพื้นเมือง สินค้าหัตถกรรม และอาหาร
* ถนนคนเดินวัวลาย (เชียงใหม่): เป็นตลาดถนนคนเดินที่เน้นสินค้าหัตถกรรมและเครื่องเงิน
* ถนนข้าวสาร (กรุงเทพฯ): เป็นตลาดถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีสินค้าหลากหลาย ทั้งสินค้าที่ระลึก สินค้าแฟชั่น และอาหาร
* ตลาดนัดจตุจักร (กรุงเทพฯ): เป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ที่มีสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ ไปจนถึงสัตว์เลี้ยงและต้นไม้

ตลาดถนนคนเดินเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศการค้าขายแบบดั้งเดิม เลือกซื้อสินค้าที่มีเอกลักษณ์ และลิ้มลองอาหารอร่อยหลากหลาย

[.GM.]

ตลาดแบบถนนคนเดิน (Market Street) คือ ตลาดที่จัดขึ้นบนถนนโดยเฉพาะ โดยที่ผู้ขายหรือคนค้าจะวางขายสินค้าและบริการบนถนนหรือในพื้นที่ที่กำหนด มักจะมีจำนวนผู้เข้าชมเป็นจำนวนมากและมักจะมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ

ตลาดแบบถนนคนเดินมักจะจัดขึ้นในสถานที่ที่มีลักษณะพิเศษ เช่น ในเมืองเก่าหรือในพื้นที่ที่มีชีวิตชีวา ทำให้ตลาดนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม

สินค้าขายในตลาดแบบถนนคนเดินสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท เช่น

– สินค้าโบราณหรือสินค้าที่มีความพิเศษ
– อาหารและเครื่องดื่ม
– ของใช้ส่วนตัว
– สินค้าเพื่อความงาม
– และอื่นๆ

ตลาดแบบถนนคนเดินไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม มักจะมีลักษณะเด่นๆ ที่ทำให้ต่างจากตลาดทั่วไป ได้แก่

– พื้นที่ขายที่กว้างขวาง
– จำนวนผู้ขายและผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก
– มีการแสดงหรือพิธีกรรมที่น่าสนใจ
– มีการขายอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย
– และอื่นๆ
[.DP.]

ตลาดแบบถนนคนเดิน หรือที่เรียกว่า Walking Street เป็นตลาดที่จัดขึ้นในพื้นที่ถนนที่ปิดให้รถยนต์เข้า-ออก เพื่อให้ผู้คนสามารถเดินชมและเลือกซื้อสินค้าต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย โดยทั่วไปแล้ว ตลาดเหล่านี้มักจะมีการจัดตั้งในช่วงเย็นหรือกลางคืน และมีบรรยากาศที่คึกคัก มีการขายอาหาร ขนม ของที่ระลึก และสินค้าท้องถิ่นต่างๆ

ตลาดแบบถนนคนเดินมีความนิยมในหลายเมืองทั่วประเทศไทย เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ซึ่งแต่ละแห่งจะมีเอกลักษณ์และบรรยากาศที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้ ตลาดเหล่านี้ยังเป็นสถานที่ที่ดีในการสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นและพบปะกับผู้คน
[.YOU.]

ตลาดถนนคนเดินเป็นรูปแบบตลาดที่จัดขึ้นในพื้นที่ถนนที่ปิดการจราจร โดยให้คนเดินเท้าสามารถเดินเลือกซื้อสินค้าและบริการได้อย่างสะดวกสบาย ลักษณะเด่นของตลาดถนนคนเดิน มีดังนี้:
1. มักจัดในช่วงเย็นถึงกลางคืน โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์หรือวันหยุด
2. มีการจำหน่ายสินค้าหลากหลาย เช่น:
– อาหารพื้นเมือง
– ของที่ระลึก
– งานหัตถกรรม
– เสื้อผ้าและเครื่องประดับ
– สินค้าพื้นเมืองต่างๆ
3. มักมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน เช่น ดนตรี การแสดง หรือการสาธิตงานฝีมือ
4. เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว
5. ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น
ตัวอย่างตลาดถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย เช่น ถนนคนเดินเชียงใหม่ ถนนคนเดินขอนแก่น และถนนคนเดินหัวหิน
[.CL.]

ตลาดแบบถนนคนเดิน (Walking Street Market) คือ ตลาดเปิดโล่งที่จัดขึ้นบนถนนหรือพื้นที่สาธารณะที่ปิดการจราจรชั่วคราว เพื่อให้ผู้คนสามารถเดินเที่ยวชมและซื้อสินค้าได้อย่างสะดวกสบาย โดยมักจะจัดขึ้นในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น วันเสาร์-อาทิตย์ หรือช่วงเย็นถึงค่ำ

ลักษณะสำคัญของตลาดถนนคนเดิน:
1. พื้นที่ปิดการจราจร: ถนนถูกปิดไม่ให้รถผ่าน ช่วยสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้คนเดินเที่ยว
2. ร้านค้าและแผงลอย: มีร้านค้าแบบชั่วคราวหรือแผงลอยขายสินค้าหลากหลาย เช่น อาหารท้องถิ่น เสื้อผ้า งานหัตถกรรม ของที่ระลึก
3. บรรยากาศคึกคัก: มักมีดนตรีสด การแสดงวัฒนธรรม หรือกิจกรรมสันทนาการเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
4. ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน: เป็นช่องทางให้ผู้ผลิตเล็กๆ หรือชุมชนนำสินค้ามาขายโดยตรง
5. เป็นจุดท่องเที่ยว: ดึงดูดทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว

ตัวอย่างตลาดถนนคนเดินที่มีชื่อเสียง:
– ไทย: ถนนคนเดินเชียงใหม่ (Walking Street Chiang Mai), ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ (กรุงเทพฯ)
– ต่างประเทศ: ตลาดนัดถนนคนเดินที่ไทเป (ไต้หวัน), ตลาดสปานาเซียร์ (ฮ่องกง)
ตลาดแบบนี้ไม่เพียงสร้างสีสันให้เมือง แต่ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและอนุรักษ์วัฒนธรรมได้
[.DS.]

ตลาดแบบถนนคนเดิน (Walking Street Market) คือ ตลาดที่จัดขึ้นบนถนนหรือพื้นที่สาธารณะ โดยมีร้านค้าและผู้ขายสินค้าหลากหลายประเภท เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ของที่ระลึก เสื้อผ้า และอื่นๆ
ตลาดแบบถนนคนเดินมักจะมีลักษณะดังต่อไปนี้:
1. จัดขึ้นบนถนนหรือพื้นที่สาธารณะ
2. มีร้านค้าและผู้ขายสินค้าหลากหลายประเภท
3. มีการขายอาหารและเครื่องดื่ม
4. มีการขายของที่ระลึกและ souvenir
5. มีการแสดงศิลปะและวัฒนธรรม
6. มีการจัดงานและกิจกรรมต่างๆ
ตลาดแบบถนนคนเดินมักจะจัดขึ้นในเวลากลางคืนหรือวันหยุด และมักจะมีการควบคุมการจราจรและความปลอดภัยในพื้นที่
ตัวอย่างของตลาดแบบถนนคนเดินในประเทศไทย ได้แก่:
1. ตลาดน้ำดำเนิน (Damnoen Saduak Floating Market)
2. ตลาดน้ำท่าพระจันทร์ (Tha Phra Chan Floating Market)
3. ตลาดถนนคนเดินสุขุมวิท (Sukhumvit Walking Street Market)
4. ตลาดถนนคนเดินข้าวสาร (Khao San Walking Street Market)
[.MT.]

ความหมาย ตรุษจีน กับ คำอวยพร

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้
เป็นภาษา จีนแต้จิ๋ว
มีความหมายดังนี้
ซินเจียยู่อี่ (新正如意):
ขอให้สมปรารถนาในปีใหม่
ซินนี้ฮวดไช้ (新年发财):
ขอให้ร่ำรวยและเจริญรุ่งเรืองในปีใหม่
..
ตรุษจีน (Chinese New Year)
เป็นเทศกาลสำคัญของชาวจีน
และชาวไทยเชื้อสายจีน
ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่
ตามปฏิทินจันทรคติจีน
ซึ่งมักตรงกับช่วงปลายเดือนมกราคม
หรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี 

ความสำคัญของตรุษจีน
– เป็นวันเริ่มต้นปีใหม่ของชาวจีน 
– เป็นช่วงเวลาของการไหว้บรรพบุรุษ
และเทพเจ้าเพื่อความเป็นสิริมงคล 
– เป็นโอกาสให้ครอบครัว
ได้กลับมาพบปะกัน 
– เป็นเทศกาลที่เชื่อว่า
เป็นการเริ่มต้นสิ่งดี ๆ ในชีวิต 

กิจกรรมสำคัญในช่วงตรุษจีน
1. วันจ่าย (ก่อนวันตรุษจีน 1 วัน)
ผู้คนจะออกไปซื้อของสำหรับไหว้เจ้า
และบรรพบุรุษ 
2. วันไหว้ (วันก่อนวันตรุษจีน)
มีการไหว้เทพเจ้าและ
บรรพบุรุษด้วยอาหารและของไหว้ 
3. วันเที่ยว (วันตรุษจีน)
เป็นวันที่ผู้คนแต่งกาย
ด้วยเสื้อผ้าสีแดง อวยพรญาติพี่น้อง
และแจกอั่งเปาให้เด็ก ๆ 

ตรุษจีนยังถือเป็นเทศกาล
แห่งความโชคดี
มีการเชื่อถือในเรื่องโชคลาง
เช่น ห้ามกวาดบ้าน
(เชื่อว่าจะกวาดโชคออกไป)
และนิยมพูดแต่คำมงคล
เช่น ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้

ผลการคัดเลือกประโยคเด่น ที่เขียนโดยเจ้าของร้าน ชุดที่ 4

ผลการคัดเลือกประโยคเด่น ที่เขียนโดยเจ้าของร้าน ชุดที่ 4 จาก เอกสารแนะนำร้านอาหารกินดีจังหวัดลำปาง ที่มีถึง 199 ร้าน ที่สืบค้นได้ มีอีบุ๊คให้อ่าน ที่ผู้สร้างยินดีเผยแพร่ และแจ้งเพิ่มเติมเนื้อหาร้านใหม่ในสื่อสังคม ได้ตามรูปแบบเอกสาร เพื่อเป็นข้อมูลให้นักกิน นักชิม ได้ใช้ประกอบการตัดสินใจ

(ชุดที่ 4)
ชวน ทายชื่อร้านอาหาร
ใน จังหวัดลำปาง จากประโยคเหล่านี้
31. ร้านก๋วยเตี๋ยวโบราณยุคแรก ๆ ใกล้เชิงสะพานรัษฎา
32. ขนมจีนหล่มเก่า เมนูทานเล่น อาหารว่าง ของหวาน  พื้นที่กว้างขวาง
33. ข้าวซอย สูตรจีนฮ้อโบราณ 50 ปี หมูสะเต๊ะย่างเตาถ่าน
34. ร้านพิซซ่าต้นตำรับสไตล์อเมริกันแป้งบาง จัดบาร์ให้เห็นการทำพิซซ่าเพิ่มอรรถรส
35. พิซซ่าแป้งสดสไตล์อิตาเลี่ยนแท้ ประยุกต์อาหารพิเศษพื้นถิ่น ร่มรื่นด้วยสวนและน้ำพุ
36. เบอร์เกอร์สุดฟิน ร้านลึกลับ สเต็กเนื้อวัวแองกัสขุนด้วยธัญพืชเกรดจากออสเตรเลีย
37. ร้านห้องแอร์บรรยากาศโคโลเนียล เบอร์เกอร์โฮมเมด พิซซ่าอบด้วยเตาฟืน
38. ร้านอาหารเกาหลีเล็ก ๆ ในบ้านไม้รีโนเวท มีทั้งปิ้งย่าง หม้อไฟเกาหลี
39. ร้านฮาลาล แนวมุสลิม ข้าวหมกเนื้อ ข้าวหมกไก่แกงฮังเล กระเพราเนื้อดีเด่น
40. ร้านอาหารอิตาเลียนฟิวชั่น ครัวเป็นแบบ open kitchen พาสต้า คาโบนาร่า bakery

ปล. เป็นข้อความสั้นที่ตัดมา ที่เจ้าของร้านเขียนลงแผนที่กินดีจังหวัดลำปาง

http://www.thaiabc.com/restaurant/cp_search_csv.php

ผู้ที่ต้องการรู้คำตอบ สามารถหาคำตอบด้วยตนเอง ด้วยการสืบค้นเอกสารจากคำว่า “แผนที่กินดีจังหวัดลำปาง” ส่วนข้อมูลร้านใหม่ตามรูปแบบเอกสารนี้ ที่จะเพิ่มเข้าไปในอนาคต ต้องรอเจ้าของร้านเขียนแนะนำจุดเด่นของร้านที่จะทำให้ลูกค้าหรือนักชิมจดจำ และบอกต่อ เป็นผู้เขียนและเผยแพร่ด้วยตนเองต่อไป

E-book แผนที่กินดีจังหวัดลำปาง

สืบค้นร้านอาหารกินดี

สืบค้นร้านอาหารกินดีเล่าให้เพื่อนฟัง ว่า นำข้อมูลแผนที่กินดีจังหวัดลำปาง มาแปลงเป็นแฟ้มข้อมูล แบบ CSV และ Tab delimited ซึ่งมีข้อมูลแนะนำร้าน รายการอาหารที่แนะนำ และภาพจากอีบุ๊ก ขั้นต่อมา คือ การเขียนโค้ดเรียกใช้แฟ้มข้อมูล lampangkindee_utf8 . csv ที่มีฟังก์ชันการสืบค้น เช่น ลาบหมู , steak , ก๋วยเตี๋ยว , กาแฟ แล้วแสดงข้อมูลร้านละ 1 บรรทัด ทำให้ทราบว่าในจังหวัดลำปาง มีร้านใดขายสิ่งที่เราค้นหา หรือมีอาหารที่เราอยากรับประทาน ก่อนเดินทางไปพบความจริงภายในร้าน
..
ข้อมูลเซตนี้ ยังไม่นิ่ง ถ้าพบว่า มีข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ก็จะต้องแก้ไข หรือ มีชาวลำปางแจ้งข้อมูลร้านอาหารใหม่ที่ไม่อยู่ใน 199 ร้าน ก็ต้องเพิ่มข้อมูลเอกสารร้านอาหารใหม่ต่อท้ายตารางข้อมูล ดังนั้นฐานข้อมูลร้านอาหารในแฟ้ม csv เซตนี้ก็จะมีการอัพเดทตลอดเวลา ตามที่เจ้าของร้านอาหารแจ้งเข้ามา ส่วน code ที่ให้บริการสืบค้นร้านอาหารกินดี ก็จะปรับปรุงให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นตามโอกาสอำนวย ส่วน code version 1 ที่ขอให้ A.I. [.cp.] ช่วยเขียนขึ้นมา แล้วนำมาปรับปรุงใหม่นี้ ได้เปิดให้บริการบนเครื่องบริการ thaiabc . com ห้อง /restaurant/ แบบ http และได้ open source อยู่ด้านล่างนี้
..
โดย Prompt ที่ใช้สร้างโค้ด คือ Create PHP scripts and form that searches for a keyword in a CSV file on the server and displays the matching results

http://www.thaiabc.com/restaurant/cp_search_csv.php

Search restaurant
Code from A.I.

ทางเลือกใหม่สำหรับงานพาร์ทไทม์คุณภาพกับ Daywork แพลตฟอร์มสรรหาพนักงานชั้นนำ

สังคมการทำงานยุคปัจจุบันที่ตลาดแรงงานเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ความท้าทายในการสรรหาและบริหารจัดการพนักงานพาร์ทไทม์ที่มีทักษะและประสิทธิภาพสูงนั้นกลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับผู้ประกอบการ แพลตฟอร์มออนไลน์และโมบายแอปพลิเคชันถึงแม้จะช่วยขยายฐานผู้สมัคร แต่ก็ยังคงมีข้อจำกัดในการจัดการข้อมูลผู้สมัครที่ยุ่งยากซับซ้อน รวมถึงการตรวจสอบประวัติและความน่าเชื่อถือของผู้สมัครอย่างแม่นยำ

เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว Daywork บริษัท Startup ชั้นนำด้านเทคโนโลยีการจัดการทรัพยากรบุคคล ได้พัฒนาแพลตฟอร์มนวัตกรรมเพื่อปฏิวัติวิธีการสรรหาและบริหารจัดการพนักงานพาร์ทไทม์แบบ “On-demand” ด้วยการนำเทคโนโลยี Location Based Service มาใช้ในการจับคู่งานกับผู้สมัครในพื้นที่ใกล้เคียง ช่วยลดระยะทางและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพิ่มโอกาสในการสมัครงานและตอบโจทย์ความต้องการของนายจ้าง

Daywork: ก้าวแรกจากความคิดสู่ความสำเร็จของแพลตฟอร์มสำหรับคนทำงานพาร์ทไทม์

ในโลกของการประกอบธุรกิจ แรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์มักเป็นจุดเริ่มต้นของนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลก และเรื่องราวของ Daywork ก็ไม่ต่างไป จากนั้น ศศิวิมล เสียงแจ้ว หรือคุณฝ้าย ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพสุดล้ำนี้ เผยว่าแรงบันดาลใจในการสร้าง Daywork มาจากประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับนักศึกษา ซึ่งทำให้เธอได้เห็นถึงความต้องการหางานพาร์ทไทม์ทำเป็นรายได้เสริม ในช่วงเวลาว่างของพวกเขา

จากการสังเกตและพูดคุยอย่างใกล้ชิด คุณฝ้ายจึงมีแนวคิดในการสร้างแพลตฟอร์มสำหรับการหางานพาร์ทไทม์แบบ On-Demand ทั้งฝั่งนายจ้างและลูกจ้าง ผ่านช่องทางหลากหลายเช่น Google Form, Line และ Facebook เพื่อเข้าใจกลไกและอุปสรรคในการทำงานอย่างถ่องแท้ ก่อนจะนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบอย่าง Daywork

หลังจากเริ่มต้นธุรกิจมาได้กว่า 6 ปี Daywork กลายเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในหมู่วัยรุ่นและนักศึกษา มีผู้ใช้งานมากกว่า 600,000 คน และบริษัทลูกค้ากว่า 700 แห่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของแนวคิดที่เกิดจากการสังเกตและเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง Daywork จึงกลายเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีของการนำความคิดสร้างสรรค์ไปสู่ความสำเร็จในในการเป็นแพลตฟอร์มสำหรับคนทำงานพาร์ทไทม์ในเชิงพาณิชย์อย่างยั่งยืน

Daywork: นำร่องอนาคตของตลาดแรงงานพาร์ทไทม์ด้วยนวัตกรรม

ในขณะที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ Daywork ผู้นำด้านแพลตฟอร์มจัดหางานพาร์ทไทม์แบบ On-Demand ก็มิได้นิ่งนอนใจ ด้วยมุ่งมั่นที่จะสร้าง Ecosystem ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับงานแบบ Gig Work โดยให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่น ความรวดเร็ว และมีคุณภาพ

โดยเป้าหมายสูงสุดของ Daywork คือการสร้างโอกาสให้คนทำงานได้สั่งสมประสบการณ์ พัฒนาทักษะ และเพิ่มรายได้ตามศักยภาพของตน โดยแนวทางการเติบโตในอนาคตของ Daywork จะมุ่งเน้นไปที่ 3 เสาหลักดังนี้

  1. ขยายขอบเขต Ecosystem เพื่อเป็นแพลตฟอร์มหางานพาร์ทไทม์อันดับหนึ่งในประเทศไทยและครองใจผู้ประกอบการทั่วทั้งประเทศ ด้วยการขยายฐานผู้ใช้งานทั้งฝั่งนายจ้างและลูกจ้าง สร้าง Ecosystem ที่ครอบคลุมและหลากหลาย โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่
  2. พัฒนาระบบที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการหางานพาร์ทไทม์ โดยมุ่งเน้นไปที่ความสะดวกรวดเร็ว ความแม่นยำ และความปลอดภัย เพื่อมอบโซลูชันที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ พร้อมทั้งแพลตฟอร์มที่เปิดทางสู่โอกาสการทำงานที่หลากหลาย ค่าตอบแทนที่ยุติธรรม และโอกาสในการพัฒนาทักษะให้กับคนหางาน
  3. ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพของพนักงาน แม้จะเป็นพนักงานพาร์ทไทม์แต่ก็มีระบบบันทึกข้อมูลด้านวินัยและการออกแบบระบบให้คำติชมแก่พนักงานในแบบสองทาง ทั้งนายจ้างและลูกจ้างสามารถแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นซึ่งกันและกัน เพื่อยกระดับคุณภาพงานและศักยภาพของพนักงานในระบบ

นอกจากนี้ Daywork ระบบยังมีฟีเจอร์การบันทึกประวัติการทำงานอัตโนมัติ ซึ่งรวมถึงข้อมูลการขาด ลา มาสาย การทิ้งงาน และคะแนนประเมินจากงานก่อนหน้า ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถคัดเลือกผู้สมัครงานพาร์ทไทม์ได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมระบบตรวจเช็คเวลาเข้าออกงานที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดการพนักงานจำนวนมาก

สิ่งสำคัญที่สุด Daywork ยังลดความซ้ำซ้อนและข้อผิดพลาดในการจ่ายค่าแรงให้กับพนักงานพาร์ทไทม์ โดยผู้สมัครสามารถผูกบัญชีธนาคารกับระบบและทำการยืนยันตัวตน ผู้ประกอบการโอนเงินเข้าระบบเพียงครั้งเดียว ระบบจะจัดการจ่ายเงินให้พนักงานแต่ละคนโดยอัตโนมัติ ลดขั้นตอนและความผิดพลาดจากการดำเนินการด้วยมนุษย์

ด้วยนวัตกรรมเหล่านี้ Daywork จึงเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์ความท้าทายในการจัดการพนักงานพาร์ทไทม์ยุคใหม่ได้อย่างครบวงจร มอบประสบการณ์การจ้างงานที่สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุดให้แก่ผู้ประกอบการ ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ Daywork จึงพร้อมนำร่องการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของตลาดแรงงานพาร์ทไทม์ ไปพร้อมกับการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเศรษฐกิจแบบ Gig Work ในอนาคต

วิธีการ 7 ขั้นตอน
ทำรีวิวงานของเพื่อน
เขียนบล็อก และ ทำคลิปสั้น
แล้วส่งไปแปดแวดวง

ตั้งแต่ต้นเมษายน เป็นต้นมา
ผมเริ่มรีวิวงานเขียนของเพื่อน
ที่เค้าเน้นแบ่งปันความรู้ผ่านบทความ
เป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์
เลือกมาครั้งละหนึ่งเรื่อง
ในสายผลิตภัณฑ์ที่เพื่อนเค้าถนัด
ที่สะท้อน
ความเป็นมืออาชีพของเพื่อน
.
ผมสรุปเป็นบล็อก และทำคลิปให้เพื่อน
เพราะเราคิด และเชื่อเหมือนกัน
คือ เราให้ความสำคัญ
กับการแบ่งปันเนื้อหาให้เป็นสาธารณะ
ให้ไปถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
.
วิธีดำเนินการในแต่ละครั้ง ที่สรุปไว้นี้
เพื่อนที่สนใจลองนำไปปรับใช้กันได้
มีขั้นตอน ดังนี้
1. เลือกเนื้อหา มาเขียนสรุปให้สั้น
เพราะ แหล่งเผยแพร่
คือ สื่อที่รองรับคลิปสั้น
2. ใช้บริการแปลงข้อความเป็นเสียง
ให้มีเวลาประมาณหนึ่งนาที
ถ้าเกินกว่านี้ก็เร่งความเร็ว
3. รวบรวมแฟ้มเสียง คลิป และภาพ
ให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่เลือกมา
ที่สำคัญคือภาพปกต้องเรียกแขกได้
4. นำไปตัดต่อในแคปคัท
ซึ่งเป็นที่นิยม และใช้งานง่ายมาก
5. อัพโหลดไปยังแปดแวดวง ได้แก่

TikTok, Line, Instagram, YouTube,

Twitter, WordPress, Facebook page and profile

6. แต่ละแวดวง กำหนดเสียงประกอบ
ที่เหมาะสม และ แตกต่างกันไป
7. ถ้าเป็นไปได้ ควรมีแผนเรื่องผู้ติดตาม
โดยเชิญชวน เพื่อนร่วมงาน
ให้มาช่วยกันเป็นผู้ติดตามที่ดี
ด้วยการกดไลก์ กดแชร์ ตามความชอบ
.
ดังคำโบราณที่ว่า
อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย
ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น
เพราะถ้าหน่วยงานของเราเข้มแข็ง
อาชีพการงานของเราก็จะมั่นคง

https://vt.tiktok.com/ZSFg1oM1F/

เจ็ดขั้นตอน การทำรีวิวงานของเพื่อน
เขียนบล็อก และ ทำคลิปสั้น
แล้วส่งไปแปดแวดวง
#friend
#network
#relationship
#ttpcargo
#premiumperfect
#review
#wordpress
#engagemment
#seo
#csr

เหตุผล 6 ข้อ ที่ปากกายังเป็น
ของขวัญทรงคุณค่า

เครื่องมือของนักขีด นักเขียน
ที่ขาดไม่ได้ก็คงต้องเป็นปากกา
จะเขียนหนังสือ เขียนนิยาย หรือการ์ตูน
จะเขียนที่คาเฟ่ ตามป่าเขา หรือ ที่บ้าน
ก็จำเป็นต้องใช้ปากกา
.
วันนี้ ขอเล่าเรื่อง ของสามัญประจำตัว
ที่เป็นของรักของหวง ของใครหลายคน
.
ตามที่ได้อ่านบทความในบล็อก
เรื่อง ทำไม ปากกา
จึงยังคงเป็นของขวัญที่ดีที่สุดอันหนึ่ง
จากเว็บไซต์ pen-perfect.com
.
ทำให้เห็นเหตุผล 6 ข้อ ที่สนับสนุนว่า
ปากกาเป็นของขวัญเบอร์หนึ่ง มีดังนี้
1. ปากกาดีนั้น เหมาะสมอย่างยิ่ง
ที่จะเป็นของขวัญได้ในทุกโอกาส
2. มีราคา และรูปแบบ
ให้เลือกได้หลากหลาย
3. เหมาะกับทุกคน
4. ไม่มีวันตกยุค
5. มีความหมายในตัวที่ดี
6. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เพราะ เครื่องเขียนยุคใหม่
ถูกออกแบบ ให้สามารถ
เปลี่ยนน้ำหมึก หรือ เติมน้ำหมึก
ไม่จำเป็นต้องทิ้ง สามารถใช้ต่อได้
และเป็นของสะสม อันทรงคุณค่าได้
.
ดังนั้น ปากกา พรีเมี่ยม
ที่มีตราสัญลักษณ์ของผู้ให้ติดอยู่
ก็จะเป็นปากกา
ที่อยู่ในใจของผู้รับตลอดไป
.
ท่านล่ะ ถ้ามีปากกาคู่ใจที่เก็บสะสมไว้
ก็หยิบจับออกมาเล่าสู่กันฟัง แบ่งปันกันได้ครับ

https://vt.tiktok.com/ZSFbyrCyL/

Fika cafe


เหตุผล 6 ข้อ
ที่ปากกายังเป็น
ของขวัญทรงคุณค่า
#pen
#premiumperfect
#gift
#writer
#collection
#blog
#wordpress
#หลืบคาเฟ่

ไอเดียของพรีเมี่ยม สำหรับสายเทคโนโลยี มีอะไรบ้าง

มีเพื่อนกัลยาณมิตร ในหลายองค์กร
จัดทำ ของที่ระลึก หรือ ของพรีเมี่ยม มอบให้กันอยู่เสมอ
ทำให้นึกถึงของที่ได้รับอยู่ภายในบ้าน
.
เมื่อได้เห็นของที่ได้รับมาครั้งใด
ก็มีเรื่องราวที่ชวนให้คิดถึงอีกมากมาย
.
ถ้าได้เล่าสู่กันฟัง
ก็คงมีความทรงจำ
ที่พร้อมพรั่งพรู
เกี่ยวกับผู้คน และเหตุการณ์ได้เยอะเลย
.
ของพรีเมี่ยม มีหลายสาย
จากการอ่านบทความ
ในบล็อก บน โรงงานของพรีเมี่ยม
พบบทความเรื่อง ของพรีเมี่ยม
สำหรับสายเทคโนโลยี
ประจำปี ค.ศ. 2024
.
มีไอเดีย ของ พรีเมี่ยม
ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
มาแนะนำ 5 รายการ ดังนี้
.
1. Power bank
หรือ อุปกรณ์แบตสำรองแบบพกพา
ใช้เป็นแหล่งพลังงานสำรอง
สำหรับอุปกรณ์ได้หลากหลาย
มิใช่แค่สมาร์ทโฟนเท่านั้น
.
2. แท่นชาร์จอุปกรณ์ไร้สาย
ปัจจุบันสมาร์ทโฟน รุ่นใหม่
รองรับ เทคโนโลยีการชาร์จไร้สาย
ได้แล้ว ไม่ต้องเสียบสายชาร์จแบบในอดีต
.
3. พัดลมมือถือ
เป็นของพรีเมี่ยมที่เหมาะกับ
อากาศในบ้านเราอย่างยิ่ง
เมื่อรู้สึกร้อน
ก็หยิบพัดลมมือถือ ที่ห้อยคอ
มาช่วยคลายร้อนได้ทันที
.
4. หูฟัง
เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เสริมอย่างหนึ่ง
อยากฟังเพลง ประชุม หรือเรียนหนังสือ
แบบเป็นส่วนตัว
ใช้ได้ทั้งในขณะทำงาน
ขณะที่ออกกำลังกาย
หรือระหว่างการเดินทางก็ได้
.
5. เม้าส์ไร้สาย
เป็นอุปกรณ์ที่วัยทำงานหลายคน
ขาดไม่ได้ เพราะใช้งานง่าย
พกพาสะดวกกว่าแบบมีสายมาก
.
สรุปว่า ของพรีเมี่ยมรายการไหน
โดนใจคนรุ่นใหม่
วัยทำงาน หรือ วัยเรียน บ้างครับ
ชวนแลกเปลี่ยน กันได้ครับ

ไอเดียของพรีเมี่ยม
สำหรับสายเทคโนโลยี
ปี 2024 มีอะไรบ้าง
#ไอเดีย
#suggestion
#คำแนะนำ
#โรงงานของพรีเมี่ยม
#premiumperfect
#ของที่ระลึก

เล่าเรื่อง โยนหินถามทาง ไปทางไหนดี

บันทึก เรื่อง จับเข่าคุยกัน
นั่งดื่มกาแฟที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
แล้วนึกถึงเหตุการณ์ในอดีต
ที่ผมจำต้องเข้าไปอยู่
ท่ามกลางแม่น้ำสองสาย
ในวันที่แม่น้ำร้อยสายมาบรรจบกัน
.
สิ่งที่เจรจาร้องขอ
คือ แม่น้ำสายใดสายหนึ่ง
ช่วยปรับลดเงื่อนไขลงนิดนึง
แล้วจะทำให้ผู้คนอีกมากมายยิ้มได้
เดินทางสะดวกขึ้น
ถ้าแต่ละสายพิทักษ์สิทธิ์ของตน
ก็คงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
มีแต่ทางตัน เป็นคำตอบสุดท้าย
เหมือนการพบกันของเสื้อสองสี
เมื่อหลายปีก่อนที่มือที่สาม
เข้ามา คืนความสุข ให้ทุกสาย
.
แม่น้ำสายแรก
ยึกหลักว่า กลัวเสียหายจากสายน้ำอื่น
self protection
เพราะการลดเงื่อนไข
ทำให้เกิดเรื่องไม่พึงประสงค์จากสายน้ำอื่น
เรื่องนี้ฟังคำอธิบายแล้ว เห็นใจเลยครับ
เช่น ช่วยเป็นพื้นที่รับน้ำท่วมหน่อย
.
แม่น้ำสายที่สอง
ยึดหลักว่า กลัวแผนธุรกิจจะเสียหาย
business protection
เพราะการเสียสละของเขา
ย่อมทำให้ธุรกิจกระทบกระเทือน
เรื่องนี้ต้องยึดหลักใจเขาใจเรา
เช่น ช่วยลดกำลังผลิตไฟฟ้าลงหน่อย
.
สรุปว่า ทั้งแม่น้ำสองสาย
มีเหตุผลที่ต้องปกป้องตนเอง
ดังนั้น หลังการขอให้แม่น้ำสองสาย
ปรับเงื่อนไขไม่สำเร็จแล้ว
ส่งผลทำให้ผู้คนอีกมากมาย
ต้องปรับตัวเอง เพราะยอมรับปัญหา
และปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตต่อไป
.
กรณีตัวอย่างข้างต้น
ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่พบได้ในข่าว
ทำให้นึกถึงเหตุการณ์
น้ำท่วมเมื่อหลายปีก่อน ที่เราคงไม่ลืม
ที่แต่ละหมู่บ้าน อำเภอ หรือจังหวัด
ต้องยอมรับน้ำ แทนพื้นที่อื่น
ที่ไหลจากเหนือลงใต้
บางหมู่บ้านก็ไม่ยินดีรับมวลน้ำ
บางหมู่บ้านก็จำต้องยินดีรับ
บางหมู่บ้านกล่าวขอบคุณ
ที่หลายฝ่ายช่วยเปลี่ยนทางน้ำ
ออกไปจากพื้นที่ของตน
.
สรุปว่า ชวนมองสายน้ำ แหล่งน้ำ
และภัยแล้งที่กำลังจะมาถึงช่วงหน้าแล้ง
การแก้ปัญหาย่อม
มีคนได้ประโยชน์
มีคนเสียประโยชน์เป็นธรรมดา


https://fb.watch/q73N7j3Sjh/

#casestudy
#decisionmaking
#brainstorm
#management
#selfprotection
#storytelling