รายงานการประชุมแสวงหาความรู้จากอาจารย์แต่ละคน

ทัศนะของรุ่นพี่ ที่ฉายภาพในคณะวิทย์

6 เม.ย.53 มีโอกาสทำรายงานการประชุมตามแผนการจัดการความรู้ (KM : Knowledge Management) ของอาจารย์กลุ่มหนึ่ง เรื่องการพัฒนาการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ หลายท่านขอสงวนนามไว้ แต่มีรายละเอียดชวนให้เรียนรู้ เป็นแนวคิดของแต่ละคน ที่มีความมุ่งมั่นพัฒนาการเรียนการสอน ดังนี้
     1) อ.อติบุ๋มให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการความรู้ (Knowledge Management) ในฐานะที่เป็นผู้มีประสบการณ์ตรงในด้านนี้ว่า ในการพัฒนาสู่การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ที่มีบรรยากาศในการเรียนรู้ในระดับบุคคลและกลุ่มบุคคล จำเป็นต้องมีการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และสามารถประมวลผลความรู้ในแต่ละด้าน เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งการแสวงหา แลกเปลี่ยน และพัฒนาความรู้ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการปฏิบัติงาน อันเป็นผลมาจากความรู้ใหม่ อันจะนำไปสู่การสร้างบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและเกิดการเรียนรู้ร่วมกัน
      2) อ.ศศิแนนให้ความคิดเห็นว่าการพัฒนาการเรียนการสอนนั้นมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องมากมาย ทั้งบุคลากร นักศึกษา อาจารย์ สิ่งอำนวยความสะดวก สภาพแวดล้อม กระบวนการจัดการเรียนการสอน การดูแลเอาใจใส่ แหล่งค้นคว้า ทัศนคติ เป้าหมายที่ต้องเป็นไปในทางเดียวกัน เสริมซึ่งกันและกัน จึงจะทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิผล โดยเฉพาะการให้คะแนนนั้นต้องเป็นไปในทางเดียวกันคือมีคะแนนพัฒนาการวิชาละ 5 คะแนน เพื่อวัดพัฒนาการหรือความก้าวหน้าในการเรียนรายบุคคล จากประสบการณ์ใช้วิธีบันทึกว่านักศึกษาแต่ละคนก่อนเรียนเป็นอย่างไร เมื่อให้งานแล้วผลการเรียน หรือผลสอบพัฒนาขึ้นมากน้อยเพียงไร ก็จะใช้เป็นเกณฑ์ในการให้คะแนนพัฒนาการ
     3) อ.วิบุญให้ความคิดเห็นว่าอาจารย์จำเป็นต้องเห็นนักศึกษาคือลูก ต้องทำตัวเป็นพ่อผู้ให้ความรักอย่างเอื้ออาทร และแสดงออกให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ เพราะทุกคนมีคุณค่า หากเริ่มต้นด้วยจิตใจที่ดีแล้ว ทุกอย่างก็จะดีงามเป็นเงาตามตัว ขอให้ทุกคนคิดดีด้วยจิตใจที่งามเห็นนักศึกษาเป็นลูกหลาน แล้วการให้คำปรึกษา การสอน หรือการปฏิบัติตนต่อนักศึกษาก็จะเป็นไปในแบบกัลยาณมิตร นักศึกษาก็จะเข้าเรียนอย่างมีความสุขกับพ่อพระที่ทำหน้าที่อบรมสั่งสอน ชี้แนะลูกทุกคน อย่างมีความสุขด้วยความเท่าเทียม การจัดการความรู้เป็นสิ่งที่ดีทำให้ทุกคนได้มาประชุมร่วมกันหากมีสิ่งดี ๆ ก็จะได้นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้แบบนี้อีก ทำให้เกิดกำลังใจหนุ่นเสริมให้การทำงานเป็นไปอย่างมีความสุข และไม่รู้สึกว่าทำงานอีกต่อไป แต่รู้สึกว่าเป็นการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและเป็นสุขอยู่ตลอดเวลา
     4) อ.ทนงเมืองให้ความคิดเห็นว่าการพัฒนาการเรียนการสอนต้องมีเทคนิควิธีในการจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน ซึ่งต้องบูรณาการเทคนิคเข้ากับวิชาที่ตนสอน โดยมีประเด็นนำเสนอทั้งหมด 5 ประเด็น คือ 1) การอภิปรายกลุ่มใหญ่ (Whole – Class Discussion) 2) การอภิปรายกลุ่มย่อย (Small – Group Discussion) 3) การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Participatory Learning) 4) สถานการณ์จำลอง (Simulation) 5) ละคร (Dramatization) นำเสนอประสบการณ์ว่าได้จัดกิจกรรมกลุ่มที่เปิดให้นักศึกษารวมกันเป็นกลุ่มเล็ก แบ่งหน้าที่กันทำงาน เรียนรู้ที่จะทำงานอย่างบูรณาการ รู้หน้าที่ของกันและกัน จำลองเหตุการณ์เพื่อแก้ปัญหา เช่นวิชาด้านความปลอดภัยที่เปิดให้ค้นคว้า แบ่งกันหาข้อมูล นำมาแลกเปลี่ยนและสรุปร่วมกัน และนำเสนออย่างรู้หน้าที่ร่วมกัน
     5) อ.เกศลาเห็นพร้องกับ อ.ทนงเมือง และเสนอประเด็นหรือเทคนิคที่สามารถนำไปใช้ในชั้นเรียนอีก 6 ประเด็นคือ 1) กระบวนการสืบค้น (Inquiry Process) 2) การตั้งคำถาม (Questioning) 3) การศึกษาเป็นรายบุคคล (Individual Study) 4) การจัดการเรียนการสอนที่ใช้เทคโนโลยี (Technology – Related Instruction) 5) การฝึกปฏิบัติการ (Practice) 6) กรณีศึกษา (Case Studies) ตัวอย่างเช่นวิชาคอมพิวเตอร์เบื้องต้นที่ให้นักศึกษาทำโครงงานประจำวิชา ได้สืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ตั้งโจทย์ด้วยตนเองที่ต้องนำเสนอหน้าชั้นเรียนเป็นรายบุคคล ฝึกปฏิบัติสร้างภาพยนต์ด้วยโปรแกรม Flash หรือเรียนรู้จากกรณีศึกษา และวิเคราะห์ร่วมกัน ซึ่งถูกใช้ในหลายวิชา และสอดแทรกไปอยู่เสมอ การใช้เทคนิคเหล่านี้เป็นไปโดยธรรมชาติ การได้นำเสนอให้เกิดการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้รู้สึกดี และเสนอให้จัดขึ้นบ่อย ๆ เพราะถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นในชั้นเรียนก็จะได้นำมาแลกเปลี่ยนร่วมกันได้
     6) อ.บุพันธุ์ เสริมว่ายังมีอีก 2 ประเด็นคือ การเรียนแบบค้นพบ   (Discovery Learning) และ  การเรียนแบบแก้ปัญหา (Problem-solving) ตัวอย่างเช่นวิชาการโปรแกรมจาวาที่ให้นักศึกษาเรียนการใช้ฟังก์ชัน และสร้างฟังก์ชันขึ้นใช้เอง เพื่อใช้สำหรับแก้ปัญหาที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีรหัสต้นฉบับให้กับนักศึกษาและให้นักศึกษาค้นหาว่ารหัสต้นฉบับที่ให้นั้นมีคำสั่งใด รูปแบบ หรือผลลัพธ์ผิดพลาดอย่างไร ถ้าพบปัญหาแล้วจะต้องแก้ไขอย่างไร
     7) นางสาวพัชวรรณ เสริมว่าแผนการสอน หรือเอกสารประกอบการสอนขออาจารย์ทุกท่านสามารถขอดูได้ที่เลขานุการเพื่อนำไปเรียนรู้ หรือเป็นบทเรียนในการพัฒนาการเรียนการสอนภายในคณะ ปัจจุบันคณะมีคลังแผนการสอนที่สั่งสมมาหลายปีหากมีการนำไปใช้อย่างเป็นรูปธรรมก็จะเกิดประโยชน์ได้

ร่าง แผนที่ยุทธศาสตร์ ปีการศึกษา 2553

strategy map ยกร่างโดย อ.ทันฉลอง รุ่งวิทู

5 เม.ย.53 แผนที่ยุทธศาสตร์ (Strategy Map) คือ แผนภาพที่จะใช้แสดงทิศทาง การเชื่อมโยงแต่ละเป้าหมายขององค์กรและการพัฒนาในแต่ละด้านอย่างเป็นรูปธรรม  เป็นเครื่องมือสื่อสาร และถ่ายทอดกลยุทธ์ไปสู่คนในองค์กรให้มีเข้าใจชัดเจน ตรงกัน และเป็นรูปธรรม
     เมื่อวันที่ 2 เม.ย.53 อ.ทันฉลอง รุ่งวิทู เป็นผู้ยกร่าง Strategy map ของมหาวิทยาลัยโยนกและจัดอบรมการเขียนแผนปฏิบัติการ โดยแผนที่ยุทธศาสตร์นี้แบ่งยุทธศาสตร์เป็น 2 กรอบคือ กรอบยุทธศาสตร์ตามพันธกิจ และกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาองค์การ โดยเชื่อมโยงกับมิติ 4 ด้านคือ 1) การพัฒนาบุคลากร 2) การบริหารจัดการ 3) คุณภาพการให้บริการ 4) ประสิทธิผลตามพันธกิจ ซึ่งสอดรับกับที่ไปอ่านพบว่า Professor  Robert  Kaplan และ Dr.David Norton ได้เสนอในวารสาร Harvard Business Review  ปี 1992 ว่าการประเมินองค์การควรมี 4 ด้านคือ 1) มิติด้านการเงิน (Financial Perspective) 2) มิติด้านลูกค้า (Customer Perspective) 3) มิติด้านกระบวนการภายใน (Internal Process Perspective) 4) มิติด้านการเรียนรู้และการพัฒนา (Learning and Growth Perspective)
+ http://www.thaiall.com/swot
+ http://www.naewna.com/news.asp?ID=86939 (ประวัติ อ.ทันฉลอง รุ่งวิทู)

แผนที่ยุทธศาสตร์ (Strategy map)

ติดตั้ง cheqa ในเครื่องบริการจำลองของสถาบัน

cheqa คืออะไร

17 มี.ค.53 cheqa (Commission on Higher Education Quality Assessment) online system คือ ระบบฐานข้อมูลด้านการประกันคุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษา พัฒนาโดย CITCOMS Innovation Center เพื่อให้สถาบันการศึกษาใช้ส่งข้อมูลให้สกอ. ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด และมีการพัฒนาต่อยอดให้นำไปใช้บริหารจัดการข้อมูลด้านการประกันคุณภาพในแต่ละมหาวิทยาลัย
     มีสองเรื่องที่เป็นแรงจูงใจให้เขียนเรื่องนี้คือ อ.แหม่ม ชวนไปประชุมเตรียมความพร้อมการใช้ CHE QA Online และ อ.วิเชพ เสนอว่าระบบที่พัฒนาขึ้นต้องสอบถามความต้องการของผู้ใช้ เป็นเหตุให้นึกถึงระบบฐานข้อมูลด้านการประกันคุณภาพ ที่สกอ. พัฒนาร่วมกับ CITCOMS เพราะท่านเสนอว่าการพัฒนาระบบต้องเกิดจากความต้องการของผู้ใช้เหมือนที่เคยสอนนักศึกษา ในวิชาการวิเคราะห์และออกแบบระบบ ซึ่งผู้ใช้ระบบฐานข้อมูลประกันคุณภาพก็มีทั้งประชาชน มหาวิทยาลัย คณะวิชา และนักคอมพิวเตอร์ ที่จะส่งผลให้ผู้ใช้ทุกระดับได้ใช้โปรแกรมอย่างมีความสุขเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เหมือนที่ได้สอนนักศึกษาไป .. คิดว่าท่านว่าอย่างนั้น
      การติดตั้งระบบตามคู่มือในฐานะมือใหม่ ซึ่งต้องไปสื่อสารกับทีมงานไอทีของมหาวิทยาลัยก็ต้องเรียนรู้กันใหม่หลายเรื่อง จึงเขียนบทเรียนเป็นขั้นตอนการติดตั้งไว้ดังนี้ 1) Download โปรแกรม Cheqa รุ่นใหม่ เผยแพร่วันที่ 31 ม.ค.53 เนื่องจากรุ่นก่อนหน้านี้หมดอายุวันที่ 6 มี.ค.53 จะย้อนวันที่ก็คงไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เพื่อเข้าไปจัดการข้อมูลเก่าอย่างต่อเนื่อง จาก www.cheqa.mua.go.th โดยใช้ account ของผู้ดูแลระบบ จะได้แฟ้ม che.sql แฟ้มคู่มือ และโปรแกรมสำหรับติดตั้ง  2) ติดตั้ง SQL Express Server, Framework และ IIS ในเครื่องบริการ โดยกำหนด User : sa และ Password : 1234 เป็นต้น 3) คลายโปรแกรมติดตั้งไว้ในห้อง c:\build แล้วใช้ Web Sharing ชื่อ build เพื่อให้เปิด localhost/build 4) ดำเนินการเกี่ยวกับ SQL Express ซึ่งพบว่า sqlservr.exe ใน Task Manager แสดงว่าเปิดบริการอยู่
– DOS>regedit แก้ MSSQL.1\MSSQLServer\LoginMode จาก 1 เป็น 2
– DOS>sqlcmd -S.\SQLEXPRESS -E
> alter login sa enable
> go
> sp_password @old = null, @new = ‘1234’, @loginame = ‘sa’
> go
> create database cheuniv
> go
– DOS> osql -U sa -S .\SQLEXPRESS -i che.sql
     5) เข้า www.cheqa.mua.go.th ไปลงทะเบียนจะได้ web.config แล้วนำไปทับในห้อง c:\build กำหนด เซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูล = .\sqlexpress ชื่อฐานข้อมูล = cheuniv Username = sa Password = 1234 website 1: http://localhost/build และ website 2: http://localhost 6) เข้า www.cheqa.mua.go.th/chetest/genuser.aspx ไปขอ sql สำหรับสร้างรหัสผู้ใช้เข้าระบบในเครื่องบริการจำลอง แล้วนำ code ไปวางไว้ใน Microsoft SQL SERVER Managment Studio Express แล้ว Execute โดยใช้ user: test password:1234 เป็นตัวอย่างผู้ดูแลระบบ 7) คัดลอกห้อง c:\build\pix ไปไว้ใน root directory 8) กำหนดห้อง c:\build\security ของห้อง log ให้ Users เป็น Modify Allow 9) เปิด http://localhost/build/default.aspx 10) ทดสอบเพิ่มปีแล้วมีปัญหา ข้อความแจ้งว่าไม่พบ procedure ชื่อ usp_InsertObjectFromPolicy ใน D:\Project สกอ \Projects \CHEOnlineSolution \CHEOnlineWebUniv \YearEdit.aspx.vb
ซึ่งโปรแกรมได้จากการคลาย zip 11) ติดตั้งโปรแกรมอีกครั้งด้วยชุดติดตั้ง cheunivsetup.msi และต้องติดตั้ง dotnetfx 3.5 ผลคือสร้าง virtual directory ชื่อ cheqa ซึ่งเป็นการสร้าง directory ใน root directory 12) นำแฟ้ม web.config มาแก้ไขแล้ว ส่งเข้าห้อง cheqa  13) เปิด http://localhost/cheqa ผลคือไม่พบ usp_InsertObjectFromPolicy เหมือนเดิม 14) คงต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม หรือหาโปรแกรมรุ่นใหม่มาติดตั้งซะแล้วครับ .. เพราะไปต่อไม่ได้
เอกสารอ้างอิง
http://www.npu.ac.th/QA/txt/che.txt
http://www.thaiall.com/sqlserver/cheqa_setup_handbook.pdf
http://www.thaiall.com/sqlserver/netfx35sp1.zip
http://www.cheqa.mua.go.th ใช้จริง
http://www.cheqa.mua.go.th/chetest ใช้ทดสอบ

เศร้า .. สัตว์สายพันธุ์ใกล้มนุษย์กินพวกเดียวกัน

ชิมแปนซีกินลิงพวกเดียวกัน

ลิงชิมแปนซี (อังกฤษ: Chimpanzee; ชื่อวิทยาศาสตร์: Pan troglodytes) คือ ลิงที่ไม่มีหาง มีขนสีดำ มีลักษณะคล้ายมนุษย์ที่เดินยืดตัวตรงได้ ตัวผู้สูงประมาณ 5 ฟุต ตัวเมียสูงประมาณ 4 ฟุต มีความจำดีเฉลียวฉลาด มีอารมณ์ความรู้สึกเช่นเดียวกับมนุษย์ โดยนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าลิงชิมแปนซีเป็นสัตว์โลกที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์มากที่สุด สัตว์ชนิดนี้กินลิงด้วยกันเป็นอาหาร .. แต่มนุษย์เราแตกต่างออกไป ซึ่งวีดีโอเรื่องนี้ผมเก็บไว้เปิดให้นักศึกษาได้เรียนรู้ว่าชีวิตคือการต่อสู้ ในห้อง downloadx
Chimps killing and eating a monkey
+ http://atcloud.com/stories/64793
+ http://video.showded.com/watch?vdoId=70423
+ http://www.theync.com/media.php
+ http://www.thaiall.com/downloadx/monkeyeating.flv
+ http://www.youtube.com/watch?v=KTPkmH4hWCs
+ http://www.youtube.com/watch?v=XQepG7sD6vk

กระบวนการวิจัยเพื่อท้องถิ่นจากเวที CBPUS

กระบวนการวิจัยเพื่อท้องถิ่น

21 ก.พ.53 อาจารย์วิเชพ ใจบุญ รักษาการคณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำทีมอาจารย์มหาวิทยาลัยโยนก ร่วม “เวทีสรุปบทเรียนการขยายผลกระบวนการใช้งานวิจัย ชุดโครงการวิจัยเพื่อท้องถิ่นสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี (CBPUS) พื้นที่จังหวัดลำปาง”  ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารอาลัมพางค์ มหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง โดยมีนักศึกษาของคณะฯ จำนวน 2 คนนำเสนอรายงานการวิจัยโครงการ “แนวทางการผลิตสื่อวีดีทัศน์เพื่อขยายผลองค์ความรู้เรื่องการจัดการงานศพบ้านไหล่หิน  ตำบลไหล่หิน อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง” ที่รับทุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น) ซึ่งผลการวิจัยได้วีดีทัศน์ในรูปซีดีภาพยนต์ 2 เรื่องคือ 1) รูปแบบการจัดการงานศพโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง และ 2) กระบวนการวิจัยรูปแบบการจัดการงานศพ ซึ่งนักศึกษาได้จัดทำซีดีเผยแพร่ให้กับผู้ร่วมเวทีในครั้งนี้ เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ กระบวนการและบทเรียนจากการทำงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นในบทบาทของนักศึกษา
+ http://www.youtube.com/watch?v=0FE19fyfrk4 วีดีโอ 9 นาที
+ http://www.thaiall.com/researchenlarge หน้าที่ 6 ล่าสุด

กรกับปรางนำเสนองานวิจัยที่อาคารอาลัมพางค์

เวทีสรุปบทเรียนการขยายผลกระบวนการใช้งานวิจัย

21 ก.พ.53 น.ส.อรพรรณ  สงเคราะห์ธรรม และ นายกร  ศิริพันธุ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยโยนก นำเสนอรายงานผลโครงการวิจัยในเวทีสรุปบทเรียนการขยายผลกระบวนการใช้งานวิจัย ชุดโครงการวิจัยเพื่อท้องถิ่นสำหรับนักศึกษาปริญญาตรี (CBPUS) พื้นที่จังหวัดลำปาง ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารอาลัมพางค์ มรภ.ลำปาง โดยมีเพื่อนนักวิจัยทุน CBPUS จาก มรภ.ลำปาง มทร.ล้านนา และมจร.ห้องเรียนวัดบุญวาทย์ ที่สำคัญงานนี้มี อ.วิเชพ ใจบุญ และ อ.เกศริน อินเพลา ในฐานะอาจารย์ผู้อบรมสั่งสอนนักศึกษา และกรรมการสอบโครงงานฯ เข้าร่วมในเวทีนี้ เพราะการสำเร็จการศึกษาหรือไม่ มีโครงงานนี้เป็นเดิมพัน และผู้พิจารณาก็มาร่วมเวทีนี้หลายท่าน .. ต้องขอบคุณ น.ส.ภัทรา มาน้อย จากสถาบันนวัตกรรมกระบวนการเรียนรู้ชุมชน และศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น และ รศ.ดร.จิราพร  ตยุติวุฒิกุล (อ.ฉิ่ง) ผู้ประสานงานศูนย์ประสานงานวิจัยเพื่อชุมชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ช่วยหนุนจนนักศึกษาและอาจารย์ทุกคนมีวันนี้ร่วมกัน .. วันที่งดงามและมีความสุข

บทคัดย่อ (Abstract) ปรับปรุง 21 ก.พ.2553
     โครงการวิจัย  “แนวทางการผลิตสื่อวีดีทัศน์เพื่อขยายผลองค์ความรู้เรื่องการจัดการงานศพบ้านไหล่หิน  ตำบลไหล่หิน อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง” เป็นงานวิจัยเชิงปฎิบัติการมีวัตถุประสงค์ 3 ข้อคือ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการหาประเด็นข้อตกลงในการจัดการงานศพโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงบ้านไหล่หิน ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง  2) เพื่อจัดทำสื่อวีดีโอเผยแพร่ประเด็นข้อตกลง และกระบวนการทำงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นของโครงการวิจัยรูปแบบการจัดการงานศพโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงบ้านไหล่หิน ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง  3) เพื่อศึกษาทิศทาง หรือแนวโน้มในการขยายผลการนำสื่อวีดีโอที่จัดทำไปใช้ในกลุ่มเป้าหมาย
     กระบวนการวิจัยมีขั้นตอนดังนี้ รวบรวมข้อมูลพื้นฐาน เรียนรู้ท้องถิ่น สัมภาษณ์ผู้รู้ในชุมชน ศึกษาการจัดงานศพในหมู่บ้าน วิเคราะห์ข้อมูลและจัดทำโครงเรื่อง บันทึกวีดีโอของคนในชุมชนแล้วตัดต่อลงสื่อวีดีทัศน์ แล้วนำไปขยายผลในชุมชนและโรงเรียนเป้าหมาย จากการทำงานวิจัยในท้องถิ่น พบว่า ผู้เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีและเข้าร่วมกิจกรรมอย่างมีความสุข เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อชุมชนชัดเจน เชื่อมโยงผู้คนหลากหลายบทบาท ได้มีประสบการณ์เชิงบวกร่วมกันเชิงบูรณาการ
     ผลการวิจัยพบว่า จากการขยายผลผ่านสื่อวีดีทัศน์ลงไปยังกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่มคือ ในชุมชน โรงเรียนบ้านไหล่หิน และโรงเรียนไหล่หินวิทยา มีผลการประเมินความพึงพอใจจากการรับชมวีดีทัศน์ด้วยแบบสอบถามในภาพรวมระดับมากที่สุด (X=4.37, S.D.=0.62) มีผลประเมินความพึงพอใจของตัวแทนชุมชนจากกลุ่มตัวอย่าง 13 คนอยู่ระดับมากที่สุด (X=4.31, S.D.=0.64) มีผลประเมินความพึงพอใจของนักเรียนโรงเรียนบ้านไหล่หินจากกลุ่มตัวอย่าง 25 คนอยู่ระดับมากที่สุด (X=4.35, S.D.=0.64) และมีผลประเมินความพึงพอใจของนักเรียนโรงเรียนไหล่หินวิทยาจากกลุ่มตัวอย่าง 31 คนอยู่ระดับมากที่สุด (X=4.42, S.D.=0.59)
คำสำคัญ   วีดีทัศน์  วีดีโอ งานศพ กระบวนการ บ้านไหล่หิน
+ http://www.youtube.com/watch?v=0FE19fyfrk4 ชุดเล็ก9นาที
+ http://www.facebook.com/video/ ชุดเต็ม 11.50 นาที
+ http://www.facebook.com/album.php?aid=150012 อาจารย์ในเวที
+ http://www.thaiall.com/research/abstract_vdo_v1.doc บทคัดย่อ

เกณฑ์สำหรับประเมินความพึงพอใจ

เกณฑ์การให้คะแนน และ เกณฑ์ประเมิน

18 ก.พ.53 มีกลุ่มเพื่อนจัดทำโครงการอบรม แล้วใช้แบบสอบถามประเมินความพึงพอใจโดยใช้ scale 5 ระดับ หรือที่เรียกว่าวัดเจตคติตามเทคนิคของของลิเคิร์ท (Likert technique) หรือ แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับของลิเคิร์ทสเกล สถิติที่ใช้ คือ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  ซึ่งมีเกณฑ์กำหนดไว้ 2 แบบคือ เกณฑ์การให้คะแนน และเกณฑ์การประเมิน (โดยนำระดับสูงสุดลบระดับต่ำสุดแล้วหารด้วยจำนวนช่วงที่ตั้งไว้) ซึ่งผลการใช้เกณฑ์ทั้งสองมีตัวอย่างการเขียน (อันที่จริงผมพบปัญหาในตัวอย่างนี้ แต่ไม่ได้แก้ไข .. ท่านมองเห็นหรือไม่ .. ผมเพียงแต่ถามนะครับ) ดังนี้ มีการจัดทำแบบสอบถามประเมินความพึงพอใจผู้เข้าร่วมโครงการแต่ละครั้ง โดยใช้คำถามที่แบ่งระดับความพึงพอใจ ๕ ระดับ มีคำถามจำนวน ๘ คำถาม ดังนี้ ๑) ความเข้าใจก่อนเข้ารับการอบรม  ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง (X = ๓.๑๖ , S.D = ๑.๑๗)   ๒) ห้องอบรม ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (X = ๔.๐๔ , S.D = ๐.๖๕) ๓) วิทยากร ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (X = ๔.๒๔ , S.D = ๐.๖๕)  ๔) หัวข้อการบรรยาย  ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (X = ๔.๒๑ , S.D = ๐.๖๐)  ๕) ช่วงเวลาในการจัดกิจกรรม ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (X = ๓.๘๘ , S.D = ๐.๗๗)  ๖) สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์  ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (X = ๔.๓๓, S.D =๐.๖๕)  ๗) ความเข้าใจหลังรับการอบรม ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (X =๔.๓๑, S.D =๐.๖๙) ๘) ภาพรวมของโครงการ ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด (X = ๔.๓๓, S.D =๐.๖๑) โดยสรุปผลประเมินทั้งหมดมีค่าเฉลี่ยความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (X = ๔.๐๖ , S.D = ๐.๕๒)
+ http://sunee5.multiply.com/journal/item/2 รวมบทความวิจัย
+ http://en.wikipedia.org/wiki/Likert_scale
+ http://tulip.bu.ac.th/~wathna.s/reliability.htm วิเคราะห์ข้อสอบ

ความกว้างของอันตรภาคชั้น = คะแนนสูงสุด – ต่ำสุด หารด้วย จำนวนชั้น
Class Interval (ชัชวาลย์ เรืองประพันธ์, 2543,หน้า 30)
ชัชวาลย์ เรืองประพันธ์. (2543). สถิติพื้นฐานพร้อมตัวอย่างการวิเคราะห์ด้วยโปรแกรม Minitab SPSS และ SAS. ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ชัชวาลย์ เรืองประพันธ์. (2539). สถิติพื้นฐาน . ขอนแก่น : โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
http://digi.library.tu.ac.th/thesis/sw/2680/13REFERENCES.pdf
http://pru3.pnru.ac.th/offi/graduate/upload-files/pictures/63/H_711_7586.pdf
http://prezi.com/p9x1rkhj_cej/presentation/

ลิเคิร์ทสเกล (Likert Scale) 5 ระดับ โดย เร็นสิส เอ. ลิเคิร์ท (Rensis A. Likert)
Likert, Rensis A. (1961). New Patterns of Management. New York: McGraw-Hill Book Company Inc.

สมการกำหนดกลุ่มตัวอย่าง
Yamane, Taro. (1967). Statistics: An Introductory Analysis.(2 ed.). New York: Harper and Row.

รง.ประชุม KM กิจกรรมที่ 2 บ่งชี้ความรู้

ผู้ร่วมกิจกรรมที่ 2 ตามขั้นตอน km ของ กพร.

7 ก.พ.53 ได้รับมอบหมายจาก อ.อติชาต หาญชาญชัย และ อ.วิเชพ ใจบุญ ให้ร่วมกับคุณพัชรินทร์ สันสุวรรณ จัดทำรายงานการประชุม “โครงการสนับสนุนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ” กิจกรรมที่ 2 ตามแผนการจัดการความรู้ ปีการศึกษา 2552 ห้อง 1204 วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553  เวลา  15.00 – 17.00 น. ซึ่งจะเป็นหลักฐานแสดงร่องรอยการจัดการความรู้ของคณวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างร่างรายงานในส่วนของแจ้งเพื่อทราบแบ่งเป็น 3 เรื่องคือ ที่มา กิจกรรมตามแผน แนวทางที่เป็นความรู้จากคู่มือของสกอ.
     สำหรับประเด็นบ่งชี้ความรู้จากแต่ละบุคคล ถูกแบ่งเป็น 5 เรื่อง คือ 1) การบ่งชี้เรื่องความเป็นมา และเป้าประสงค์ของวิชา 2) การบ่งชี้เรื่องประเด็นมาตรฐานหรือแนวทางของโครงงาน 3) การบ่งชี้เรื่องประเด็นมาตรฐานการให้คะแนนสำหรับแต่ละแนวทาง 4) การบ่งชี้เรื่องประเด็นสารสนเทศที่ควรตกลงร่วมกัน 5) การบ่งชี้เรื่องประเด็นปัญหาอยากหาทางแก้ไข แล้วปิดรายงานด้วยสรุปผลการบ่งชี้ความรู้ที่จะนำไปใช้ต่อในกิจกรรมต่อไป
     ในรายงานการประชุมกิจกรรมที่ 2 นี้มีแผนทำรายงานที่มีหัวข้อย่อยแบ่งไปตามการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากแต่ละท่าน อาทิ หัวข้อที่หนึ่งมีตอนหนึ่ง อ.วิเชพ ใจบุญ ชวนให้ในเวทีแลกเปลี่ยนเรื่องเป้าประสงค์ของวิชา แล้ว อ.ศศิวิมล  แรงสิงห์ เสนอว่า “เพื่อให้นักศึกษาทำงานเป็น และประกอบอาชีพได้ เมื่อสำเร็จการศึกษา” อ.ทนงศักดิ์ เมืองฝั้น เสนอว่า “เพื่อให้นักศึกษาสามารถนำองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมาไปประยุกต์ใช้กับการทำงานจริง” หรือ อ.ศิรดา ชัยบุตร โดยคำถามเข้าในเวทีว่าวิชานี้ทำกันอย่างไร มีความเป็นมาอย่างไร ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยน และมีหลายเรื่องที่ผมไม่เคยทราบก็ได้รับความรู้มากมายจาก อ.วิเชพ ใจบุญ และอ.ศศิวิมล แรงสิงห์ หลังจากการประชุมครั้งนี้แล้ว ก็มีแผนจัดกิจกรรมที่ 3 คือการรวบรวมความรู้ และกิจกรรมที่ 4 คือคัดแยกความรู้

เคลียร์งานวิจัยเพื่อท้องถิ่นที่เว็บโปรซอฟท์

เว็บโปรซอฟท์ (webprosoft.net)
เว็บโปรซอฟท์ (webprosoft.net)

5 ก.พ.53 หกโมงเย็นถึงสามทุ่มไปคุยเรื่องการเขียนรายงานวิจัย และการนำเสนอโครงการวิจัยเพื่อท้องถิ่น ที่กรกับปรางรับทุน CBPUS และอยู่ในช่วงสุดท้ายของโครงการ มีกำหนดพบผู้ประสานงานวันที่ 16 ก.พ. และ 21 ก.พ.53 เพื่อส่งรายงานแล้วประชุมเตรียมพร้อมที่ศูนย์ฯ และนำเสนอที่ ณ ห้องประชุมอาคารอาลัมพาง มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ซึ่งนักศึกษาได้ประสานกับ อ.เกศริน อินเพลา และ อ.วิเชพ ใจบุญ ที่เป็นอาจารย์ผู้สอบโครงการไปร่วมกิจกรรมในเวทีนำเสนอผลการวิจัยแล้ว โดยประเด็นที่พูดคุยกันที่ร้านเว็บโปรซอฟท์กับนักศึกษา คือ การเขียนสรุปผล การเขียนบทคัดย่อ ปัญหาและข้อเสนอแนะ การเชื่อมโยงกับทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง แล้วเตรียมนำเสนอด้วย social map, mind map, การเผยแพร่วีดีโอ และการนำเสนอด้วยเว็บไซต์ เพื่อให้เห็นกระบวนการ กิจกรรม บทเรียน และผลการวิจัย
     สถานที่เคลียร์งานวิจัย คือบ้านกร ซึ่งเปิดเป็นร้านรับพัฒนาโปรแกรม มีชื่อร้านว่า เว็บโปรซอฟท์ (webprosoft.net และ goto69.com) ช่วงนี้ยังไม่เปิดเป็นทางการ เป็นร้านที่ดำเนินการกัน 2 คน แต่คิดว่าญาติของทั้งคู่คงช่วยเหลืออะไรได้ไม่น้อย เท่าที่ได้แลกเปลี่ยนกันก็พบว่านักศึกษามีพื้นฐานความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาแหล่งจำหน่ายคอมพิวเตอร์ราคาส่ง การเป็น domain reseller หรือการพัฒนาโปรแกรม ที่มีพื้นฐานที่ดีมาก ก็ต้องเป็นกำลังใจให้กับกิจการใหม่ที่จะก้าวหน้าต่อไป