ไทย และอีก 4 จังหวัดของไทยติดอันดับประเทศระบบนิเวศสตาร์ทอัพดีที่สุดในโลก

ข่าว 8 ธ.ค. 2564 สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เผยข้อมูลจากการจัดอันดับดัชนีระบบนิเวศทางสตาร์ทอัพโลก ประจำปี 2564 (Global Startup Ecosystem Index 2021) ซึ่งเว็บไซต์ StartupBlink ศูนย์กลางข้อมูลด้านระบบนิเวศนวัตกรรมทั่วโลกได้มีการ จัดอับดับ 100 ประเทศ และ 1,000 เมือง ที่มีระบบนิเวศทางสตาร์ทอัพที่ดีที่สุดของโลก
พบว่า กรุงเทพฯ คว้าอันดับ 71 เมืองที่เอื้อต่อการทำสตาร์ทอัพจาก 1,000 เมืองทั่วโลก
ส่วนเชียงใหม่อันดับ 397 ภูเก็ตอันดับที่ 442 และพัทยาอันดับที่ 833 เป็นจังหวัดแจ้งเกิดสตาร์ทอัพระดับโกลบอล

Ranking Methodology (For Top Ecosystems)
– Overall Ranking (The overall global ecosystem ranking is a weighted average of the following factor scores:)


ปัจจัยหลักในการประเมินของเว็บไซต์ StartupBlink.com มีดังนี้

  1. ปัจจัยเชิงปริมาณ ประกอบด้วย
    • จำนวนสตาร์ทอัพ
    • จำนวนโคเวิร์คกิ้งสเปซ
    • จำนวนโปรแกรมเร่งการเติบโต
    • จำนวนกิจกรรมพบปะของสตาร์ทอัพ
  2. คุณภาพของสตาร์ทอัพ และสิ่งอำนวยความสะดวก ประกอบด้วย
    • จำนวนผู้ใช้งานสตาร์ทอัพ
    • จำนวนบริษัท/สาขาของบริษัทที่ดำเนินงานด้านการวิจัยและเทคโนโลยี
    • จำนวนสาขาของบริษัทข้ามชาติ ปริมาณการลงทุน
    • จำนวนลูกจ้าง
    • จำนวนสตาร์ทอัพระดับ Unicorns, Exits และ Pantheon
    • จำนวนสตาร์ทอัพที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ระดับโลก
    • จำนวนเหตุการณ์เกี่ยวกับสตาร์ทอัพระดับโลก
  3. สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ประกอบด้วย
    • ความสะดวกในการทำธุรกิจ
    • ความเร็วอินเทอร์เน็ต
    • อิสระในการใช้อินเทอร์เน็ต
    • การลงทุนด้านงานวิจัย
    • ความพร้อมของเทคโนโลยีด้านการบริการ
    • จำนวนผู้ถือสิทธิบัตรต่อประชากรทั้งหมด
    • ความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษ
      https://www.thaiall.com/mis/startup.htm

การใช้แบบฟอร์มซ้ำ ควรล้างแฟ้มเดิมออก

Google Form คือ ระบบฟอร์มออนไลน์เพื่อบริการผู้สร้างฟอร์มได้ตั้งคำถามแล้วรอรับข้อมูลคำตอบจากผู้ให้ข้อมูล โดยแชร์ลิงค์แบบฟอร์มไปให้ผู้ให้ข้อมูล สามารถสั่งเปิดปิดฟอร์มรับข้อมูลได้ ประยุกต์เป็นแบบสอบถามงานวิจัย หรือแบบทดสอบออนไลน์ได้ มีประเภทของตัวเลือกในแบบฟอร์ม อาทิ คำตอบสั้น คำตอบยาวเป็นย่อหน้า หลายตัวเลือก ช่องทำเครื่องหมาย เลื่อนลง อัพโหลดไฟล์ การกำหนดเงื่อนไข เช่น บังคับตอบ สลับตัวเลือก ตอบได้หลายครั้ง หรือเฉลยคำตอบหลังทำเสร็จ

การลบข้อมูลจาก แบบสอบถามออนไลน์

เมื่อเริ่มต้นภาคการศึกษา หรือปิดภาค ตามกระบวนการ PDCA มักเป็นเวลาที่ต้องจัดการข้อมูลคำตอบ และแฟ้มเอกสารในระบบ ซึ่งจัดการลบข้อมูลได้ง่าย เริ่มจาก Delete all responses ใน Google form แล้วเข้า view folder ใน Google Drive เพื่อลบแฟ้มที่ได้รับจากผู้ส่งเอกสารทั้งหมด แล้วเข้า Sheet เพื่อลบรายการข้อมูล เพียงเท่านี้ก็พร้อมสำหรับเปิดรับคำตอบใหม่ ๆ จากกลุ่มเป้าหมายใหม่ได้แล้ว แต่ถ้าต้องการแยกกลุ่มเป้าหมายใหม่ และเก่า มีตัวเลือก Make a copy เพื่อคัดลอก form ไปใช้งานกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ และมี Folder เก็บเอกสารแยกออกมาโดยชัดเจน

http://www.thaiall.com/google/form.htm

ผลการจัดอันดับ 2021-2022 ของ THE

Mahidol University

พบว่า Times Higher Education ได้ออกผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลก
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2564 เข้าไปดูผลการประเมินแต่ละรายการ ได้พบข้อมูลปี 2022 Rank ดังนี้

601–800 Mae Fah Luang University : Thailand
https://www.timeshighereducation.com/world-university-rankings/mae-fah-luang-university

  • Teaching : 15.0
  • Research : 12.0
  • Citations : 63.3
  • Industry Income : 36.0
  • International Outlook : 53.0

601–800 Mahidol University : Thailand
https://www.timeshighereducation.com/world-university-rankings/mahidol-university

  • Teaching : 33.5
  • Research : 22.4
  • Citations : 42.8
  • Industry Income : 76.2
  • International Outlook : 46.1

Times Higher Education World University Rankings ของประเทศสเปน ได้ออกรายงานเป็นประจำทุกปี โดยคุณภาพของมหาวิทยาลัยไม่ได้มีเฉพาะพันธกิจ 4 ด้านของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย (การผลิตบัณฑิต การวิจัย การบริการวิชาการแก่สังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม) ซึ่งเกณฑ์การพิจารณาอันดับมหาวิทยาลัยแบ่งได้ 5 กลุ่มตัวบ่งชี้ ดังนี้

  1. Teaching (the learning environment – 30%) คือ คุณภาพการสอน สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ของผู้เรียน
  2. Research (volume, income and reputation – 30%) คือ คุณภาพงานวิจัย ปริมาณ รายได้ และชื่อเสียงของงานวิจัย
  3. Citations (research influence – 30%) คือ การอ้างอิงในงานวิจัย การนำงานวิจัยของสถาบันไปใช้อ้างอิง
  4. International outlook (staff, students and research – 7.5%) คือ ความเป็นนานาชาติจากสายตาภายนอก เจ้าหน้าที่ นักศึกษาและงานวิจัยนานาชาติ
  5. Industry income (knowledge transfer – 2.5%) คือ รายได้ทางอุตสาหกรรม นวัตกรรมที่เป็นสิ่งใหม่ในวงวิชาการที่มหาวิทยาลัยได้คิดค้นขึ้น

https://www.thaiall.com/topstory/timeshighereducation_2021_2022.php

การสร้างแบบสอบออนไลน์

15 ขั้นตอน การสร้างแบบสอบออนไลน์อัตนัยเขียนมือ มีคำถามข้อเดียว แล้วให้ upload file
ตัวอย่างนี้เป็นแบบสอบจำนวน 3 ข้อ คือ test100-01 และ test100-02 และ test100-03

  1. เริ่มต้นด้วยการ login เข้าบัญชี gmail.com ซึ่งผู้สร้างข้อสอบ และผู้ทำข้อสอบ ต่างต้องมีบัญชีประจำตัวของตนเอง
  2. เริ่มด้วย ผู้สร้างแบบสอบ เข้าไปที่ google form, คลิ๊ก blank form, เปลี่ยน untitled form เป็น “test100-01” ซึ่งชื่อนี้มีผลต่อชื่อ folder ที่ใช้จัดเก็บแฟ้มข้อสอบใน google drive สามารถเปลี่ยนชื่อได้ตลอดเวลา แม้จะมีผู้ทำข้อสอบไปแล้วก็ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะระบบจะเปลี่ยนชื่อ folder ให้ทันทีที่เปลี่ยนชื่อคำถาม หรือชื่อฟอร์ม
  3. แบบสอบชุดนี้ วางแผนให้เป็นแบบ 1 form สำหรับ 1 คำถาม และตอบคำถามด้วยการอัพโหลดภาพเอกสาร ดังนั้นใต้ title form จึงเลือกที่จะพิมพ์โจทย์ยาวที่ละเอียด เช่น “1. จงบอกเล่าถึง วิชาที่ชอบเรียน และให้เหตุผลประกอบ มาพอเข้าใจ ซึ่งไม่ควรต่ำกว่า 3 บรรทัด และตั้งชื่อแฟ้มให้สอดคล้องกับรหัสนิสิต ชื่อวิชา และคำถาม เช่น 64xxx-test100-01.jpg”
  4. พบคำถาม (First default question) ที่มี radio box มารอนั้น ได้เปลี่ยนเป็น File upload แล้วมีคำถามว่า Let respondants upload files to drive ขึ้นมา ให้คลิ๊กตอบว่า Continue
  5. คำถามนั้น กำหนดสั้น ๆ ว่า “คำถามที่ 1” เพราะชื่อคำถามจะถูกใช้เป็นชื่อ sub folder ภายใต้ folder ชื่อ “test100-01”
  6. คลิ๊กตัวเลือกเปิด option : Allow only specific file types แล้วคลิ๊ก Image เพื่อรับเฉพาะแฟ้มภาพที่ผู้ตอบคำถามต้องส่ง ถ้าจะให้รับได้หลายภาพก็เลือก Maximum numbers of files เป็น 2 หรือมากกว่า
  7. ผลงานภาพที่ผ่านการ crop และแต่งให้คมชัดแล้ว ไม่ควรมีขนาดเกิน 10 MB ซึ่งเป็นค่า default หากลดลงมาจะมี 1 MB ให้เลือก
  8. เลือกเปิด Required เพราะต้องการบังคับอัพโหลดแฟ้มก่อน จึงจะกดปุ่ม submit ได้
  9. ชวนมองกล่อง View folder ขณะสร้างคำถามรับการอัพโหลด เพื่อใช้ดูรายการแฟ้มที่ผู้ตอบส่งเข้ามา พบว่า ขณะสร้างนี้ ในห้องนั้นจะว่างเปล่า เปิดเข้าห้อง “คำถามที่ 1 (File responses)” จะไม่พบอะไร
  10. คลิ๊ก settings ที่เป็นสัญลักษณ์ฟันเฟืองที่มุมบนขวา ในแท็บ General ให้คลิ๊ก collect emails กรณีใช้บัญชีองค์กรให้ยกเลิกการเลือก Restrict to users in [your company] and its trusted organizations เพื่อเปิดให้ผู้ใช้บัญชีบุคคลของ @gmail.com สามารถทำแบบฟอร์มได้
  11. พบตัวเลือก Maximum size of all files uploaded: 1GB ซึ่งหมายความว่าผู้ตอบแบบสอบถามอัพโหลดแฟ้มเข้ามาในแบบสอบแฟ้มนี้ รวมกันแล้วต้องมีขนาดไม่เกิน 1GB (เลือกขยายได้ถึง 1TB) เช่น มีสมาชิก 1000 คน ก็ส่งแฟ้มได้ไม่เกินคนละ 1 MB หรือมีสมาชิก 100 คน ก็ส่งแฟ้มได้ไม่เกินคนละ 10 MB เป็นต้น
  12. ในแท็บ Presentation ไม่ได้คลิ๊ก Show progress bar หรือ Suffle question order เนื่องจากสร้างคำถามเพียงข้อเดียว ต่อหนึ่งแบบฟอร์ม แล้วให้ uncheck : Show link to submit another response เพราะไม่จำเป็นต้องทำแบบฟอร์มอีกครั้งหลัง submit ไปแล้ว
  13. คลิ๊ก Send แล้วเลือก Shorten URL ของคำถามที่ 1 เพื่อนำลิงค์ไปส่งให้กลุ่มเป้าหมาย 72AX7TaKp735o6rm9 (ส่งซ้ำได้ เพราะไม่ได้ lock ครั้งเดียว)
  14. ในแบบฟอร์ม คลิ๊ก 3 จุด มีตัวเลือก Make a copy เมื่อได้แล้วก็เปลี่ยนชื่อแฟ้ม และคำถามใหม่ มีปุ่มให้เลือก restore ก็คลิ๊กทุกครั้ง เพื่อสร้าง folder สำหรับคำถามใหม่ ตัวอย่างคำถาม “2. จงบอกเล่าถึง หนังสือที่ชอบอ่าน และให้เหตุผลประกอบ มาพอเข้าใจ ซึ่งไม่ควรต่ำกว่า 3 บรรทัด และตั้งชื่อแฟ้มให้สอดคล้องกับรหัสนิสิต ชื่อวิชา และคำถาม เช่น 64xxx-test100-02.jpg” จากนั้นก็แชร์และรับลิงค์ คือ v13xs3yzjVEcUhHx8 หรือคำถามที่ 3 ที่ NNUN85pckVbXMMCc8
  15. ผู้ออกข้อสอบสามารถแชร์โฟลเดอร์ที่เก็บคำตอบ ของผู้ตอบที่ส่งแฟ้มภาพผ่าน google form จากคำถามที่ 1 แบบ anyone เพื่อใช้ตรวจสอบอีกทางหนึ่งว่ามีแฟ้มเข้ามาอย่างไร แล้ว preview ได้ หรือจะเข้าไปที่ response ของ form ซึ่งตรวจสอบได้สะดวกเช่นกัน drive.google.com/drive/folders
หน้าตาของ google drive ฝั่ง ผู้สร้างแบบสอบ และผู้ตอบแบบสอบ

https://www.thaiall.com/google/form.htm

heroku login เพื่อ push ผ่าน command line

การใช้งาน heroku.com บน command line นั้น เริ่มต้นจากการสมัครสมาชิกบน heroku.com ให้เรียบร้อย ก็จะมี user และ password เป็นของตนเอง แต่เมื่อต้องการใช้งานโปรแกรม heroku บน command line ต้อง download
โปรแกรม https://devcenter.heroku.com/articles/heroku-cli

หากต้องการใช้งาน เช่น ใช้คำสั่งแสดงรายการแอปพลิเคชันของเรา ด้วยคำสั่ง heroku apps ต้องเริ่มต้นด้วยคำสั่ง heroku login ซึ่งมีรายละเอียดการรักษาความปลอดภัยแบบ Two-factor authentication พบว่า ต้องมีการ Verify บัญชีผู้ใช้ และต้องเลือก method ในการยืนยันตัวตน
พบว่า มี 3 ปุ่มปรากฎขึ้นมาให้เลือก 1) Salesforce Authenticator 2) One-Time Password Generator 3) Security Key โดยวิธีที่สาม จะเกี่ยวข้องกับการใช้ usb drive ที่น่าสนใจลดลงสำหรับการใช้งานในปัจจุบันที่บางอุปกรณ์ไม่มีช่อง usb แล้ว จึงเลือก 2 วิธีแรก และการใช้งาน ต้องไปดาวน์โหลด app จาก Google play store ชื่อ Salesforce Authenticator ไปติดตั้งบน mobile device เพื่อให้พร้อมสำหรับการยืนยันตัวตน

ขั้นตอนการยืนยันตัวตน มีดังนี้ 1) บน PC : ติดตั้งโปรแกรม แล้วตรวจสอบรุ่นด้วย heroku -v แล้วสั่ง heroku login พบว่าจะมีการเปิด browser ให้ยืนยันตัวตน ซึ่งมี 3 method ให้เลือกดำเนิน ซึ่งผมเลือก 2 method แรก 2) บน PC : คลิ๊ก One-Time Password Generator จะพบกับ QR code มาให้ถูก scan ผ่าน application เฉพาะ จึงไม่สามารถ scan ด้วยโปรแกรมใด ๆ แล้วนำ code ไปเปิดบน browser เพราะไม่ใช่ web link 3) บน Mobile : ติดตั้ง Application ชื่อ Salesforce Authenticator บน Smart phone เปิดขึ้นมา แล้วเลือก เพิ่มบัญชี และสแกน QR code ที่พบบน PC จนผ่าน แล้วจะพบตัวเลข 6 หลัก สำหรับนำไปกรอกบน PC และจะเปลี่ยนเร็วมาก โปรดจดจำ แล้วไปกรอกในเวลาที่กำหนด 4) บน PC : คลิ๊ก Salesforce Authenticator พบช่องให้กรอกโค้ด ถ้ากรอกเลข 6 หลักในเวลาที่กำหนดแล้ว คลิ๊กปุ่ม Enable Two-factor Authentication 5) บน PC : ถ้ายืนยันตัวตนผ่าน ในหน้า Command line จะพบรายงานว่ายืนยันผ่านเรียบร้อย แล้วปรากฎรหัสผู้ใช้ขึ้นมา จากนั้นสามารถใช้ คำสั่ง heroku auth:whoami ตรวจสอบได้ว่าฉันคือใคร คำสั่ง heroku apps แสดงรายการแอปที่เคยสร้างไว้ คำสั่ง heroku apps:info react640909 แสดงรายละเอียดของแอปพลิเคชัน

http://www.thaiall.com/heroku/

http://www.thaiall.com/react/

proceeding การประชุมทางวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ

การประชุมทางวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ ครั้งที่ 18 เรื่อง ก้าวนำสังคมวิถีชีวิตใหม่ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม วันที่ 3 – 4 กรกฎาคม 2564 ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Yealink Meeging) มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น

พบว่า มีผลงานวิชาการที่น่าสนใจหลายเรื่อง ที่อ่านทบทวนวรรณกรรมได้ เช่น 1) การคัดแยกแบคทีเรียจากข้าวแต๋นน้ำแตงโมราดน้ำอ้อย จังหวัดลำปาง 2) ความผูกพันของนิสิตระดับปริญญาตรีต่อมหาวิทยาลัยเนชั่น กรณีศึกษา นิสิตที่ได้รับทุนการศึกษาโครงการทุนการศึกษาปริญญาตรีเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเพื่อเยาวชนจังหวัดน่าน
โดยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเนชั่น และธนาคารกสิกรไทย 3) ประสิทธิผลของโปรแกรมการสร้างเสริมสุขภาพด้วยการใช้สมาธิบำบัด SKT ในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ที่ควบคุมไม่ได้และมีความเครียดร่วมด้วย ที่มารักษาในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพบ้านศรีหมวดเกล้า ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง 4) ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมสุขภาพตามหลัก 3อ. 2ส. ของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโทกหัวช้าง ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง 5) การพัฒนาหุ่นจำลองโทษพิษภัยบุหรี่ 6) การออกแบบตราสินค้าของกลุ่มผู้สูงอายุองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งกว๋าว อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง 7) การสำรวจการบริหารจัดการองค์กรสาธารณประโยชน์และองค์กร สวัสดิการชุมชนในจังหวัดลำปาง 8) ผู้บริหารสถานศึกษากับการพัฒนาครูผู้สอนในยุคดิจิทัล 9) การจัดการศึกษากับเศรษฐกิจและสังคมไทย

https://www.facebook.com/groups/thaiebook/posts/2026731970810944

ผลสําเร็จจากการวิจัยและนวัตกรรม


สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ขอเชิญเข้าร่วมรับฟังการชี้แจง กรอบการวิจัยและนวัตกรรม ประจําปีงบประมาณ 2565 และแถลงผลสําเร็จจากการวิจัยและนวัตกรรม NRCT Open House 2021 ระหว่างวันที่ 18 – 25 กรกฎาคม 2564 ผ่านระบบออนไลน์ ใน 8 ด้าน ดังนี้ 1) ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (18 กรกฎาคม 2564) 2) ด้านการพัฒนาเส้นทางอาชีพนักวิจัยและนวัตกรรม และการวิจัยเพื่อฐานทางวิชาการ (19 กรกฎาคม 2564) 3) ด้านเศรษฐกิจและการเกษตร และด้านสัตว์เศรษฐกิจ (20 กรกฎาคม 2564) 4) ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม (21 กรกฎาคม 2564) 5) ด้านการรองรับสังคมสูงวัย (22 กรกฎาคม 2564) 6) ด้านสังคมและความมั่นคง (23 กรกฎาคม 2564) 7) ด้านการรองรับการระบาดของโรคโควิด-19และรองรับโรคติดต่ออุบัติใหม่ (24 กรกฎาคม 2564) 8) ด้านการจัดการความรู้การวิจัยและถ่ายทอดเพื่อการใช้ประโยชน์ (25 กรกฎาคม 2564)

https://openhouse2021.nrct.go.th/


https://www.facebook.com/nrctofficial/videos

https://www.scribd.com/document/516552580/

การวิจัยแบบผสมผสาน

วัลนิกา ฉลากบาง. (2560). การวิจัยแบบผสมผสาน. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม, 7(2), 124 – 132.


บทคัดย่อ
การวิจัยแบบผสมผสานเป็นการวิจัยที่ได้รับอิทธิพลมาจากปรัชญาปฏิบัตินิยมที่ใช้วิธีวิทยาทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพร่วมกันในการดำเนินการวิจัย เพื่อหาคำตอบของการวิจัยที่มีความครอบคลุม ลุ่มลึกและชัดเจน ซึ่งจะทำให้เกิดความเข้าใจในปรากฏการณ์ที่ศึกษา การวิจัยแบบผสมผสานสามารถจำแนกได้ 12 แบบแผน เช่น แบบแผนที่ใช้วิธีวิจัยเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพคู่ขนานกัน โดยให้ความสำคัญกับทั้งสองวิธีอย่างเท่าเทียมกัน แบบแผนที่ดำเนินการไปตามลำดับก่อนหลัง โดยให้ความสำคัญกับวิธีวิจัยวิธีใดวิธีหนึ่งเป็นวิธีหลักแบบแผนที่ใช้วิธีวิจัยวิธีหนึ่งเป็นวิธีหลักและอีกวิธีหนึ่งเป็นวิธีรอง แต่ประเด็นที่ศึกษาด้วยวิธีหลักและวิธีรองไม่ใช่ประเด็นเดียวกันหรือ
ที่เรียกว่าแบบแผนรองรับภายใน เป็นต้น การจะเลือกใช้แบบแผนใดจะต้องคำนึงถึงคำถามวิจัยเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตามนักวิจัยก็ไม่ควรนำวิธีวิทยาแบบใดแบบหนึ่งไปใช้อย่างผิวเผิน แต่จะต้องฝึกฝนตนเองให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทั้งวิธีเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ

https://so03.tci-thaijo.org/index.php/npuj/article/download/86439/76194/

การเผยแผ่พระพุทธศาสนา

การเผยแผ่พระพุทธศาสนา หมายถึง การนําคําสอนในพระพุทธศาสนาไปปรากฏต่อการรับรู้ของบุคคล กลุ่มบุคคลและมวลชน ผ่านสื่อต่าง ๆ ทั้งที่เป็นสื่อบุคคลและสื่อมวลชน โดยมุ่งหวังให้ผู้รับเข้าใจและนําไปปฏิบัติให้ เกิดประโยชน์ คือ สามารถสงบระงับกิเลสในระดับต่าง ๆ จนถึงพระนิพพาน

ซึ่งการเผยแผ่ศาสนาแต่เดิมเป็นการสื่อสารระดับบุคคล ซึ่งแบ่งเป็นการสื่อสารระหว่างบุคคล (Interpersonal Communication) การสื่อสารในกลุ่ม (Group Communication) และการพูดในที่สาธารณะ (Public Speaking) การสื่อสารระดับบุคคลปรากฏอยู่ทุกรูปแบบในการเทศนาของพระพุทธเจ้าสู่พระสาวกและเวไนยสัตว์ การสั่งสอนพระธรรมของพระสาวกสู่ผู้คน แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากสภาพของสังคมมีความเปลี่ยนแปลงไป ทําให้รูปแบบของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาต้องขยายตัวมาสู่สื่อมวลชน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนในสังคมให้มากที่สุด

อ่านจาก พระศรัญพัฒน์ (ชยจิตฺโต) แสงอุทัย และวันพิชิต ศรีสุข. (2562). รูปแบบและวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศมาเลเซียของสํานักสงฆ์จันทรัตนาราม ตําบลยะรม อําเภอเบตง จังหวัดยะลา. วารสาร สจล.ชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ฉบับมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 1(1), 32-39.

https://www.facebook.com/groups/thaiebook/permalink/1958869470930528

ธรรมะออนไลน์ของเจ้าคุณพิพิธ (itinlife

ไอทีในชีวิตประจำวัน # 309  ()

ปลายเดือนกันยายน 2554  ผู้เขียนมีโอกาสฟัง พระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม   กรุงเทพมหานคร บรรยายเรื่อง อย่า 15 อย่า นำมาซึ่งความสามัคคีธรรม ฟังแล้วก็รู้สึกโดนใจ ทันยุค ทันสมัย เข้าถึงใจคนทำงานในยุคคุณปูเป็นนายก แต่ประเด็นมีถึง 15 หัวข้อ แม้จดทันแต่อาจเก็บประเด็นได้ไม่ครบ แล้วท่านก็บอกว่าให้ใช้ MP3 Recorder บันทึกไว้ไ แต่ตอนนั้นไม่มีอุปกรณ์ หลังจากนั้นก็กลับมาปรึกษาอาจารย์กู๋ หรือ google.com แล้วก็พบเว็บไซต์ของพระท่าน คือ katitham.com อ่านเป็นไทยว่า คติธรรมดอทคอม

ความสามัคคีจะเกิดขึ้นได้ คนในองค์กรต้องไม่ประพฤติตัว 15 อย่าง ต่อไปนี้        1) อย่าอวดรู้ 2) อย่าดูแคลน 3) อย่าแสนงอน 4) อย่าซ่อนเงื่อน 5) อย่าเชือนแช 6) อย่าแส่เรื่องของเผือก 7) อย่าเสือกงานของเค้า 8) อย่าเอาแต่งานของตัว 9) อย่ากลัวเขาหาว่า 10) อย่าด่าเจ้านาย 11) อย่าขายความลับ 12) อย่าจ้องจับผิด 13) อย่าคิดไม่ซื่อ 14) อย่าดื้อจนด้าน 15) อย่าค้านจนแค้น ซึ่ง 15 ข้อนี้ถือเป็นข้อพึงระวังและส่งเสริมให้คนในองค์กรมีความสามัคคี แต่ประเด็นเหล่านี้ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการพิจารณาอย่างสมเหตุสมผล เพราะถ้าไม่เข้าใจแล้วนำไปใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ปฏิบัติงานก็อาจเกิดผลเสียตามมา อาทิ การจัดการความรู้ในองค์กร ก็ต้องสนับสนุนในการเปิดเผยความลับหรือเทคนิคแก่เพื่อนร่วมงาน การนำความรู้ที่ตนมีออกมานำเสนอ การให้ข้อเสนอแนะในประเด็นที่คิดต่างเพื่อการพัฒนา การเข้าไปหนุ่นเสริมช่วยเหลืองานของเพื่อนเพื่อให้องค์กรบรรลุพันธกิจ

ปัจจุบันมีเว็บไซต์เผยแพร่สาระด้านธรรมะในพุทธศาสนาอยู่มากมาย ซึ่ง คติธรรมดอทคอม เป็นเว็บไซต์เก่าแก่ที่จดโดเมนมาตั้งแต่ปี 2549 มีคติธรรมและสื่อการเรียนรู้มากมาย มีทั้งผลงาน บทความ สื่อธรรมะในรูปมัลติมีเดีย อาทิ VCD DVD และ MP3 แล้วท่านก็มีผลงานออกทางทีวีบ่อยครั้งที่คอยเตือนสติทั้งต่อเยาวชน บุคคลทั่วไป นักการเมือง และนักบริหาร อาจเรียกได้ว่า คติธรรมของท่าน เด็กฟังได้ ผู้ใหญ่ฟังดี ผู้บริหารบ้านเมืองก็ยิ่งน่าฟัง