ข่าวถูกโอนเงิน 9 แสน เป็นของผู้ขายเครื่องประดับยนต์ทางเฟซบุ๊ค

ข่าวถูกโอนเงิน 9 แสน เป็นของผู้ขายเครื่องประดับยนต์ทางเฟซบุ๊ค
ข่าวถูกโอนเงิน 9 แสน เป็นของผู้ขายเครื่องประดับยนต์ทางเฟซบุ๊ค

ขั้นตอนที่ต้องระวังในการทำธุรกรรมบนไซเบอร์
1. ตกลงขายสินค้าให้ลูกค้ารายหนึ่งเรียบร้อยแล้ว
2. ให้เลขบัญชี เพื่อลูกค้าจะได้โอนจ่ายค่าสินค้า
3. ลูกค้าอ้างว่ากลัวโดนหลอก ขอดูบัตรประชาชนของผู้ขาย
จึงส่งให้ โดยปิดเลข 13 หลักไว้แล้ว เพื่อความปลอดภัย
4. ลูกค้าอ้างว่าไม่สะดวก อยากให้ผู้ขายใช้ Bank-Cyber ของธนาคารแห่งหนึ่ง
ก็ไปสมัคร เพราะต่อไปน่าจะสะดวกขึ้น ในการทำธุรกรรมออนไลน์
5. แล้วลูกค้าก็เงียบหายไป
6. ต่อมาโทรศัพท์ที่ใช้กับค่ายหนึ่ง โดนตัดสัญญาณ
ไปถามเค้าบอกว่ามีคนมาขอซิมใหม่แต่เบอร์เดิมที่ศูนย์ในห้างที่เมกะบางนา
7. ศูนย์บอกว่า คนร้ายอ้างว่าทำเป๋าเงินและโทรศัพท์หาย
พร้อมแสดงสำเนาบัตรประชาชน ที่ถูกดัดแปลงเอาหน้าผู้ร้ายใส่เข้าไป
8. ไปตรวจเงินในบัญชี พบว่าเงินหายไปเยอะ
9. โทรถาม call center ของธนาคารแห่งหนึ่ง
ก็ได้ทราบว่ามีคนโทรของเปลี่ยนรหัส Bank-Cyber
10. ตรวจสอบพบว่ามีการกดเงินไป 20 ครั้งจากหลายห้าง
11. ทวงถามกับธนาคาร และศูนย์บริการของค่ายมือถือ
ก็ไม่คืบหน้าจึงไปแจ้งความ
12. พบเลขบัญชีปลายทางที่เงินถูกโอนไป ก็ต้องไปติดตามว่าบัญชีจริงหรือไม่
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1470741983

https://www.youtube.com/watch?v=vBy3PYQTeTk

ในหนังเรื่อง CSI Cyber สะท้อนอาชญากรรมออนไลน์ได้อย่างชัดเจน

บ้านไผ่ร่วมใจพัฒนา

ติดตามงานของ อ.ธวัชชัย แสนชมภู กับ อ.วีระพันธุ์ แก้วรัตน์
เป็นโครงการเพื่อท้องถิ่นเหมือนกัน เชิงพัฒนาชุมชนแบบมีส่วนร่วม
ชื่อโครงการ “บ้านไผ่ร่วมใจพัฒนา สร้างคุณค่าให้ยั่งยืน
นำนักศึกษากลุ่มใหญ่ ๆ ทำเรื่องขยะเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน

โครงการนี้ใช้ทีมเยอะ เพราะมีโครงการย่อยหลายโครงการ
1.โครงการ “รายจ่ายน้อยใช้สอยประหยัด”
2.โครงการ “เห็ดฟางจากเปลือกข้าวโพด ”
3.โครงการ “ดอกไม้สีขาว”
4.โครงการ “ผักสวนครัวในรั้วชุมชน”
5.โครงการ “ปุ๋ยมูลสัตว์และน้ำหมักจากพืช”

โดยหัวใจของงานนี้น่าจะเป็นการใช้สิ่งที่ไม่มีใครคิดว่ามีประโยชน์แล้ว
กลับมาใช้ประโยชน์ได้ นั่นคือ เปลือกข้าวโพด
ที่สามารถนำมาเพาะเห็ดฟางได้
.. ใจผมเรียกว่า นวัตกรรมเลยหละครับ

https://www.facebook.com/ajarnburin/posts/733940776620056

.. ร่มใหญ่ของโครงการคือ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นั่นเอง

บ้านไผ่ร่วมใจพัฒนา สร้างคุณค่าให้ยั่งยืน
บ้านไผ่ร่วมใจพัฒนา สร้างคุณค่าให้ยั่งยืน

โครงการ กรุงไทย ต้นกล้าสีขาว ประจำปี 2556 ทีม CIM Nation – UA ได้ส่งโครงการเข้าร่วมโดยใช้ชื่อว่า “บ้านไผ่ร่วมใจพัฒนา สร้างคุณค่าให้ยั่งยืน” โดยมีแนวคิดว่า “จากเปลือกข้าวโพดไร้ราคา พัฒนาด้วยแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง หล่อเลี้ยงชีวิตชุมชนบ้านไผ่อย่างยั่งยืน” ซึ่งทีม CIM Nation UA ได้ใช้หลักการทฤษฎี องค์ความรู้ของแต่ละวิชาที่มีการจัดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยเนชั่น มาประกอบในการทำโครงการเพื่อให้ชุมชนหมู่ที่ 4 บ้านไผ่งาม หมู่ที่ 5 บ้านไผ่แพะและหมู่ที่ 6 บ้านไผ่ทอง ตำบลเมืองมาย อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง สามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเองตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบไปด้วย 5 โครงการย่อยในโครงการหลัก คือ 1.โครงการ “รายจ่ายน้อยใช้สอยประหยัด” 2.โครงการ “เห็ดฟางจากเปลือกข้าวโพด ”3.โครงการ “ดอกไม้สีขาว” 4.โครงการ “ผักสวนครัวในรั้วชุมชน” และ 5.โครงการ “ปุ๋ยมูลสัตว์และน้ำหมักจากพืช” ในการดำเนินโครงการได้น้อมนำพระราชดำริ เรื่อง “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประสานกับแนวคิดการพัฒนาอย่างยังยืน ของ John Elkington ผู้เขียนหนังสือ “Cannibals with forks: The Triple Bottle line of 21 th Century Business” (1977)

ธปท.ออกกฎเข้ม คุมแบงก์-ประกันขายพ่วง

99 บาท
99 บาท

เห็นว่า ธปท. จะออกกฎเข้มว่า
เวลาขายสินค้า อย่าขายพ่วง
และให้ชี้แจงให้ละเอียด
แล้วนึกถึงภาพรถ 99 บาท
หรือเครื่องดื่มที่ดื่มแล้วเป็นหมอ บอกงั้นแล้วขายดี
จะให้บอกความจริงเหรอว่า เป็นแค่น้ำหวาน+สารนิดนึง
ผมว่าบางทีให้ข้อมูลมาก ๆ แล้ว
ลูกค้าอาจเปลี่ยนใจได้
.. ยอดขายก็สำคัญนะครับ

http://bit.ly/10DMxhB
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ธปท.ได้หารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) รวมทั้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อออกประกาศกำหนดมาตรการกำกับดูแลการขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์ และด้านประกันภัยผ่านธนาคารพาณิชย์ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และให้มีผลบังคับใช้กับธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งที่ได้รับอนุญาตขายผลิตภัณฑ์ด้านธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจประกันภัยจากก.ล.ต.และคปภ.ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ปี2556 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ธปท.ให้เหตุผลว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภค เกี่ยวกับการขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัยของธนาคารพาณิชย์เป็นระยะๆ เช่น กรณีเจ้าหน้าที่ธนาคารพาณิชย์เสนอขายประกันชีวิตพ่วงกับบริการตู้นิรภัย ให้สินเชื่อหรือชักชวนผู้บริโภคซื้อหน่วยลงทุน ตราสารหนี้ หรือทำประกันชีวิตแทนการฝากเงิน โดยไม่ชี้แจงถึงความเสี่ยงหรือให้ข้อมูลผู้บริโภคไม่ชัดเจน ซึ่งธปท.เห็นว่าเรื่องร้องเรียนดังกล่าวอาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

สำหรับสาระสำคัญในประกาศดังกล่าว ได้คำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้บริโภค ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง สิทธิที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์และบริการการเงินได้อย่างอิสระ สิทธิที่จะร้องเรียนเพื่อความเป็นธรรม และสิทธิที่จะได้รับพิจารณาค่าชดเชยหากเกิดความเสียหาย

นอกจากนี้ได้กำหนดหน้าที่ให้ธนาคารพาณิชย์ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค กำหนดแนวทางเสนอขายผลิตภัณฑ์ให้ธนาคารพาณิชย์ ต้องแสดงความต่างให้ผู้บริโภคเห็นชัดระหว่างผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัย ไม่ใช่เงินฝากเหมือนผลิตภัณฑ์ธนาคารพาณิชย์ อาจมีความเสี่ยงได้รับเงินต้นไม่เต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน และไม่คุ้มครองเงินต้น รวมถึงเปิดเผยข้อมูลผลตอบแทน ทรัพย์สินที่จะได้รับนอกจากดอกเบี้ย เช่น อัตราผลตอบแทนรายปี รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่สามารถและไม่สามารถคำนวณอัตราผลตอบแทนได้

กฎระเบียบยังห้ามธนาคารพาณิชย์บังคับขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัย ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ของธนาคารพาณิชย์ หรือกำหนดเงื่อนไขขายหรือให้บริการผลิตภัณฑ์หลัก เช่น ให้ผู้บริโภคทำประกันภัยกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง เพื่อเป็นเงื่อนไขพิจารณาให้สินเชื่อ หรือให้ผู้บริโภคทำประกันชีวิตก่อนเมื่อขอใช้บริการเช่าตู้นิรภัย โดยธนาคารต้องให้สิทธิผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เอง และเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคปฏิเสธซื้อผลิตภัณฑ์ได้

ทั้งนี้ ยังห้ามธนาคารพาณิชย์ส่งเสริมการขาย ในลักษณะชิงโชคจับฉลาก เว้นแต่เป็นกรณี ลด แลก แจก แถม การใช้สื่อการตลาดต้องไม่ชวนเชื่อเกินจริง ไม่ทำผู้บริโภคเข้าใจผิด ไม่เป็นเท็จ ซึ่งการเสนอขายผลิตภัณฑ์ทุกช่องทางควรอยู่ในช่วงเวลาเหมาะสม ไม่ทำให้ผู้บริโภครำคาญหรือสูญเสียความเป็นส่วนตัว เป็นต้น

“แบงก์ต้องมีมาตรการ วิธีการทำให้ลูกค้าผู้บริโภคมั่นใจว่า ผู้ขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัยมีความรู้เข้าใจในผลิตภัณฑ์ สามารถให้ข้อมูลความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ ผลตอบแทนและการคุ้มครองที่ผู้บริโภคจะได้รับ ตลอดจนผลดำเนินงานของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านมา รวมถึงภาษีที่ผู้บริโภคจะต้องจ่ายหรือได้รับการผ่อนผัน และสิทธิตามความเป็นจริง โดยไม่ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิด”

นอกจากนี้ กฎระเบียบยังกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ ต้องแยกเคาน์เตอร์ขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัยออกจากเคาน์เตอร์ ที่ให้บริการรับฝากถอนเงินของธนาคารพาณิชย์ โดยมีป้ายบ่งบอกหรือสัญลักษณ์ที่แสดงให้ผู้บริโภคเห็นชัดเจน เว้นแต่การทำธุรกรรมต่อเนื่องกับการขายหรือให้บริการผลิตภัณฑ์ เช่นทำธุรกรรมโอนเงินหรือฝากเงินหลังซื้อหลักทรัพย์ สามารถให้บริการที่เคาน์เตอร์ขายผลิตภัณฑ์ด้านหลักทรัพย์และด้านประกันภัยได้ เพื่อประโยชน์ให้บริการ ณ จุดเดียว

ธปท.ได้กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ต้องมีกระบวนการหลังการขาย และรับเรื่องร้องเรียน ดูแลและอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภค หากพิสูจน์แล้วว่าธนาคารพาณิชย์ไม่ได้ปฏิบัติตาม โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย ธนาคารพาณิชย์ต้องชดเชยตามความเหมาะสม อีกทั้งต้องรักษาข้อมูลของผู้บริโภคไว้เป็นความลับ และห้ามให้ข้อมูลผู้บริโภคแก่หน่วยงานอื่นตลอดจนบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินที่ได้รับอนุญาตจาก ธปท.เพื่อนำไปใช้เสนอขายบริการอื่น เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้บริโภค

http://bit.ly/10DMxhB

กลุ่มออมทรัพย์วันละบาท

กองทุน
กองทุน

5 พ.ค.52  21.00น. – 22.00น. ได้ฟังบรรยายเรื่อง “กลุ่มออมทรัพย์วันละบาท” มีวิทยากรคือหัวหน้ากลุ่มออมทรัพย์วันละบาท ของต.ป่าตัน ได้รับเชิญจากพระครูสังฆรักษ์วิชพงษ์ให้บรรยายเรื่องการทำกองทุนสวัสดิการชุมชน โดยมาในชื่อ “การประชุมสัมมนา สร้างกระบวนการเรียนรู้การจัดสวัสดิการชุมชน” สนับสนุนโดย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงาน การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดลำปาง (พมจ.)
     วิทยากรเล่าว่าออมกันวันละบาทต่อคนจ่ายทุกต้นเดือนก็เพียง 30 บาท  มีนโยบายจ่ายเพียง 10 ปี ก็ตกอยู่ที่ 3600 บาทเท่านั้น หลังจาก 10 ปีก็จะได้รับความคุ้มครองตลอดไป  ถ้าเสียชีวิตก็รับเงิน 3600 บาทคืนไปได้เลย แต่กองทุนนี้จะมีนโยบายอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการพูดคุยกันในชุมชน ในลำปางมีกองทุนที่เข้มแข็ง 3 พื้นที่ คือ อ.เถิน อ.แม่พริก และต.ป่าตัน เพราะเป็นพื้นที่นำร่องที่ภาครัฐ และอบต. จะจ่ายเงินสมทบให้ เช่นออมมา 10 ปีจ่ายไป  3600 บาท ก็จะได้อีก 3600 + 3600 บาท รวมเป็น 10800 บาทญาติก็จะรับไปเมื่อเจ้าตัวเสียชีวิต นอกจากนี้กลุ่มยังสามารถเขียนโครงการส่งเข้าไปรับการพิจารณาของบประมาณมาพัฒนาชุมชน ได้ทุกเดือนจาก พมจ. สำหรับตัวอย่างที่กองทุนจัดสวัสดิการให้คนชุมชน เช่น มีเงินวันละ 100 บาทถ้าต้องนอนโรงพยาบาลแต่ไม่เกิน 500 บาท และไม่เกิน 2 ครั้ง เป็นต้น ส่วนระบบฐานข้อมูลจะใช้คอมพิวเตอร์ ใช้สมุดแบบธนาคาร หรือใช้ระบบใดก็ได้ หากใช้ระบบคอมพิวเตอร์ก็จะมีวิทยากรจากเชียงใหม่ หรือสนใจไปดูงานทาง พมจ. ก็จะมีงบประมาณค่าเดินทางให้คนในหมู่บ้านไปดู เพื่อนำมาพัฒนากลุ่มต่อไป

โครงการจัดทำบัญชีครัวเรือนสู่แผนพัฒนาชุมชน

 

การทำบัญชีครัวเรือน
การทำบัญชีครัวเรือน

5 พ.ค.52  20.00น. – 21.00น. ได้ฟังบรรยายเรื่อง “การทำบัญชีครัวเรือน” มีวิทยากรคือหัวหน้าฝ่ายสินเชื่อดูแลเขตอำเภอเกาะคา ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส. ท่านย้ายมาเมื่อวันที่ 16 เม.ย.52 อาศัยอยู่อ.ห้างฉัตร และได้รับเชิญจากพระครูสังฆรักษ์วิชพงษ์ให้มาร่วมกันทำ “โครงการจัดทำบัญชีครัวเรือนสู่แผนพัฒนาชุมชน” ที่จัดโดยวัดชัยมงคลธรรมวรารามร่วมกับ ธ.ก.ส. มีคนในบ้านไหล่หินหมู่ 6 เป็นส่วนใหญ่นำโดยพ่อกำนัน มาร่วมประมาณ 40 ถึง 50 คน เท่าที่สังเกตุจะเป็นกลุ่มแม่บ้าน เพราะมีการตั้งโต๊ะเก็บเงินสมาชิกกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ ผมได้ความรู้วิธีการทำบัญชีครัว โดยใช้สมุดเล่มเขียวมีกิจกรรมให้บันทึกทุกวัน ประกอบด้วย 5 ช่องคือ วันที่ กิจกรรม รายรับ รายจ่าย และหมายเหตุ ยังมีเรื่องหม้อที่รับน้ำเข้า และจะอุดรอยรั่วอย่างไรไม่ให้น้ำไหลออกมากเกินไป เรื่องนี้ทาง ธ.ก.ส.สนับสนุนมาตั้งแต่ปี 2548 แล้ว เพราะเห็นว่าทั้งประเทศแจกไปหลายล้านเล่ม
     วิทยากรเล่าว่าการที่ธนาคารเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน เพราะธนาคารมิได้มีหน้าที่เพียงปล่อยกู้ แล้วตามทวงหนี้ แต่ต้องสนับสนุนให้คนในชุมชน หรือลูกหนี้ รู้จักทำอาชีพ รู้จักการใช้เงิน และออมเงินอย่างเป็นระบบ หากทุกคนเข้าใจการออมเงิน รู้ซึ้งคำว่าพอเพียงแล้ว ย่อมทำให้การพัฒนาชุมชนตามที่วางแผนไว้ในโอกาสต่อไป สามารถดำเนินการได้ง่าย จนทำให้การแก้ปัญหาความยากจน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างชุมชนน่าอยู่ และมีความสุขอยู่ไม่ไกล ในตอนท้ายพระครูแจ้งว่าทาง ธ.ก.ส.เคยประกวดและให้บ้านเป็นรางวัลราคา 5 แสนแก่ผู้ที่เขียนได้ดี สำหรับในหมู่บ้านไหล่หิน พระครู จะมีรางวัลให้แต่เป็นอะไรขออุบไว้ก่อน ก็คงมีรายละเอียดในการประชุมหมู่บ้านครั้งต่อไปของพ่อกำนัน
     ผมสังเกตุว่าพระครูท่านฉันท์ข้าวมื้อเดียว และสวมชุดสีเดียว หากคนไหล่หิน ลดจำนวนมื้ออาหารลงสักหนึ่งมื้อ และลดปัจจัยปรุงแต่งลงบ้าง ก็คงลดค่าใช้จ่ายไปได้มาก เพื่อลดความต้องการ ลดความอยากลงนิดหนึ่ง ความสุขจากความรู้จักพอก็จะเพิ่มขึ้นตามมา