อบรม ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารหลักสูตรของจุฬฯ

cu-cas & tqf
cu-cas & tqf

21 ก.ค.54 มีโอกาสเข้ารับฟังการบรรยายเรื่อง “ระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารหลักสูตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” หัวข้อเปรียบเทียบ TQF กับ CU-CAS โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับ อัตลักษณ์ คุณลักษณะบัณฑิตพึงประสงค์ (เดินทางกับคุณเรณู ฝ่ายวิชาการของมหาวิทยาลัย ไปประชุมครึ่งวัน) ซึ่งเป็นระบบที่จุฬาฯ พัฒนาขึ้น ใช้เป็นกรอบมาตรฐานของจุฬาฯ ต่อมา สกอ.เปิดช่องให้ทุกมหาวิทยาลัยสามารถพัฒนาระบบของตนเองที่ต่างไปจาก มคอ.1-7 ได้ แต่ถ้ามีการตรวจสอบ ต้องให้ข้อมูลได้ครบถ้วน ซึ่งระบบ cu-cas มีความสมบูรณ์มาก โดยแบบฟอร์ม และระบบถูกพัฒนาควบคู่กันไป มีตัวอย่างฟอร์มดังนี้
– Course Specification (CU-CS)
– Course Specification (CU-CS)
– Program Curriculum Mapping (CU-PCM)
– Department Curriculum Mapping (CU-DCM)
– E-portfolio (CU-EP)
– Faculty Course Evaluation (CU-FCE)
– Faculty Course Evaluation (CU-FCE)
– Student Course Evaluation (CU-SCE)
– Department Report (CU-DR)
– Program Report (CU-PR)
– Subject Report (CU-SR)
– Faculty Report (CU-FR)

หลังกลับจากการประชุมได้เขียนรายงานนำเสนอหัวหน้า 6 ประเด็นใน บันทึก 17/54 และขออนุมัตินำไปจัดเวที KM เรื่องหลักสูตร สอดรับกับตัวบ่งชี้ 7.2

ต่อมา 23 มี.ค.55 มีโอกาสได้ฟัง ผศ.ดร.วีระพันธ์ รังสีวิจิตรประภา อาจารย์จากจุฬาฯ นำเสนอเรื่องนี้ที่เชียงใหม่ ในงาน “อุดมศึกษากับการพัฒนาประเทศไทย” ก็ยิ่งเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น ว่าอัตลักษณ์ และมาตรฐานการเรียนรู้นั้น มีที่มา ที่ไป อย่างไร
http://www.scribd.com/doc/87611391

คุณลักษณะบัณฑิตพึงประสงค์ กับคนไทยพึงประสงค์
http://www.thaiall.com/blog/burin/3842/

วิธีการสอน/พัฒนา 37 วิธี

เรียบเรียงจากวิธีการสอน/พัฒนาใน Course Specification ของ CU-CAS
1. การบรรยาย (Lecture)
2. การอภิปราย (Discussion)
3. การสอนแบบสัมมนา (Seminar)
4. การสอนโดยใช้การนิรนัย/อนุมาน (Deductive) คือ อ้างความรู้เดิมให้ได้ความรู้ใหม่หรือข้อสรุป
5. การสอนโดยใช้การอุปนัย/อุปมาน (Inductive) คือ การสรุปจากความจริงย่อยหลายข้อมาเป็นข้อสรุป
6. การใช้กรณีศึกษา (Case)
7. การแสดงบทบาทสมมติ (Role Playing)
8. ภาคสนาม (Field Work)
9. การไปทัศนศึกษา (Site Tour)
10. การใช้สถานการณ์จำลอง (Simulation)
11. การแสดงละคร (Dramatization)
12. การสาธิต (Demonstration)
13. การสอนแบบศูนย์การเรียน (Learning Center)
14. การใช้เกม (Game)
15. การทดลอง (Experiment)
16. การสอนแบบโปรแกรม (Programmed Instruction)/ การเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน /การเรียนแบบผสมผสาน/การเรียนแบบออนไลน์
17. การฝึกปฏิบัติ (Practice)
18. การฝึกงาน/การฝึกสอน (Training)
19. การสอนโดยใช้วิจัยเป็นฐาน (Research-based Instruction)
20. การสอนโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based Instruction)
21. การสะท้อนความคิด (Reflective Thinking)
22. การสอนแบบสืบสอบ (Inquiry-based instruction)
23. การศึกษาค้นคว้าโดยอิสระ (Independent Study)
24. การเรียนรู้ด้วยการนำตนเอง (Self-directed Learning)
25. การสอนโดยใช้โครงงาน (Project-based Instruction)
26. การเรียนรู้จากบุคคลต้นแบบ/ปราชญ์ (Professional Model)
27. การเรียนการสอนแบบจุลภาค (Micro Teaching)
28. การนิเทศการปฏิบัติการวิชาชีพ (Supervision)
29. การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning)
30. การให้คำปรึกษารายบุคคล (Individual Advisor)
31. กลุ่มติวเตอร์ (Tutorial Group)
32. การระดมสมอง (Brain Storming)
33. การสรุปประเด็นสำคัญ / การนำเสนอผลของการสืบค้นที่ได้รับมอบหมาย (Conclusion Presentation)
34. กิจกรรม (Activities)
35. การสอนข้างเตียง/เรียนจากผู้ป่วย (Problem Learning)
36. การฝึกแสดงออกทางพฤติกรรม (Behavior Presentation)
37. การเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self Study)