น็อต ถ้ามีไว้กับตัว และใช้ถูกที่ถูกเวลา ก็คิดราคาเป็นแสนได้

น็อตตัวละแสน 🚘 ถ้ามีน็อตไว้กับตัว แล้วใช้คล่อง ถูกที่ ถูกเวลา ราคาย่อมสูงขึ้น – 22 ธ.ค.2018

เศรษฐีคนนึงได้กลับไปบ้านเกิดของพ่อเขาที่จากไป
เขาได้ไปเห็นรถคันโปรดของพ่อ และเป็นรถคันแรกของครอบครัว
เป็นรถที่พ่อใช้พาเขาไปไหนต่อไหนในวัยเด็กจนโต เขาเองก็รักรถคันนี้มากจึงตัดสินใจให้ลูกน้องลากกลับไปบ้านของเขาในเมือง

ตลอดหลายปีเขาให้ช่างใหญ่ ช่างที่มีชื่อเสียง อู่ใหญ่ อู่เล็ก พยายามมาซ่อมให้มันวิ่งได้ แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่จะสามารถทำให้รถสตาร์ทติดได้เลย

วันหนึ่งมีช่างคนนึงผ่านมาเมืองนี้พอดี ได้ยินคนพูดกันถึงเรื่องรถเศรษฐีว่าไม่มีใครซ่อมได้เลย เขาจึงออกปากว่าจะซ่อมให้

ช่างคนนี้ไปถึงบ้านเศรษฐี ก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ไม่กี่นาที เขาก็หยิบน็อตตัวนึงออกจากกระเป๋าเครื่องมือเขา แล้วนำมาใส่ให้กับรถของเศรษฐี ปรากฎว่ารถสตาร์ทติดขึ้นมาได้

เสียงท่อรถที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก กระชากความทรงจำเก่า ๆ ที่เขามีความสุขกับพ่อขึ้นมา เศรษฐีรีบวิ่งลงมาดูรถของพ่อที่กลับมามีชีวิตอีกครั้งด้วยความดีใจ

เศรษฐีถามช่างว่า “ท่านจะคิดค่าแรงเท่าไร ในการซ่อมครั้งนี้?”

ช่างตอบว่า… “ 1 แสนเหรียญ”

เศรษฐีตกใจทำไมท่านถึงคิดแพงขนาดนี้เล่า ?
ลูกน้องข้า บอกว่าเจ้าใช้น็อตเพียงตัวเดียวนี่ ?

ช่างตอบ… “ใช่ ข้าใช้น็อตเพียงตัวเดียว”
“1 แสนเหรียญ ไม่แพงหรอก เพราะข้า ทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้
ข้าแก้ปัญหาที่คนอื่นแก้ไม่ได้ ข้ารู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้
นี่ต่างหากค่าแรงของข้า!
หาใช่น็อตตัวเดียว ตามที่ท่านตีคุณค่า”

เศรษฐีได้ยินเช่นนั้น จึงให้คนรับใช้ไปหยิบเงิน มาให้ช่าง 1 แสนเหรียญ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าหากคุณ มีความสามารถ ที่คนอื่นไม่มี ทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ รู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ ทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ แบบคุณ คุณจะได้รับผลตอบแทน ในแบบที่คนอื่นไม่ได้กัน!

หากคุณทำได้เท่าๆกับคนอื่น
หรือทำในสิ่งที่ใคร ๆ ก็ทำได้
คุณก็จะได้รับผลตอบแทน
ในแบบที่ใคร ๆ ก็ได้กัน

เพราะโลกจ่ายผลตอบแทนตามความสามารถ
ไม่งั้นคนขับรถเมล์กับคนขับเครื่องบินก็คงเงินเดือนเท่ากันแล้ว

หนทางเดียวที่คุณจะได้มีชีวิตดี ๆ ได้รับผลตอบแทนมาก ๆ
คือต้อง ”พัฒนาตัวเอง” ให้ดีขึ้น ดีกว่านี้
พยายามมากกว่านี้ ตั้งใจกว่านี้ ทุ่มเทกว่านี้
นั่นแหละ…
ทางแห่งความสำเร็จ

หากอยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ก็เปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่เดี๋ยวนี้
หากชอบชีวิตแย่ ๆ ของคุณตอนนี้ก็ไม่ต้องเปลี่ยนอะไร….

ตัวใครตัวมัน

🏆สิริทัศน์ สมเสงี่ยม เขียน

ศูนย์ข้อมูลส่งเสริมศีลธรรม

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=564396697355889&id=273995653062663

ความแตกต่างของ id และ class

CSS : Cascading Style Sheets กลายเป็นข้อควรรู้ที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
CSS : Cascading Style Sheets กลายเป็นข้อควรรู้ที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

วันนี้ 11 มิ.ย.59 ว่าจะจัดการเรื่อง float:left ใน web2 ให้เรียบร้อย แต่มาใช้เวลากับการนั่งทดสอบ Developer tools ของ chrome นานไปหน่อย ติดใจเลย
ทำให้ได้เรียนรู้ว่า chrome ช่วยให้การปรับแต่งเว็บไซต์ง่ายกว่าใช้ editor ธรรมดาอย่าง editplus มาก
http://www.thaiall.com/web2

เรื่อง CSS : Cascading Style Sheets กลายเป็นข้อควรรู้ที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัจจุบัน CSS มีถึงรุ่น 3 แล้ว ในการใช้งานจริงมักสร้าง CSS แบบ External style sheet เพราะแฟ้มอื่นเรียกใช้ได้ ส่วน Internal style sheet ก็จะเรียกใช้ได้เฉพาะในแฟ้มนั้น ส่วน Inline style ก็จะพิมพ์คำว่า style ต่อท้าย tag นั้นไปเลย ซึ่งตัวแปรหลัก 2 แบบที่กำหนดเองใน CSS มี 2 แบบคือ id กับ class

การกำหนด และการเรียกใช้ต่างกันไป
ถ้าเป็น id จะขึ้นต้นด้วย # แต่เป็น class จะขึ้นต้นด้วย . ถ้าเรียกใช้ id จะใช้ properties name ว่า id ส่วนเรียกใช้ class จะใช้ properties name ว่า class

สิ่งที่แตกต่างกัน คือ id จะเรียกใช้ครั้งเดียว แต่ class เรียกใช้ได้หลายครั้ง ถ้าวางแผนอย่างใจเย็นก็จะใช้ประโยชน์จาก css ได้อย่างเต็มที่ มีตัวอย่างที่ css_sample.htm หากจะทดสอบการปรับแต่ง css ทำได้ที่ w3schools.com

 

<html><head><style type=”text/css”>
#header {background:yellow;font-size:20px;}
.title-text {color:red;}
p.big { font-size:40px; }
span.small { font-size:10px; }
table, th, td { border: 1px solid black; }
.burin1 {color:red;border: 2px}
.burin2 {font-size:20px;float:left;}
.burin3 {color:blue;font-size:30px;float:left;}
</style><body id=”header” class=”title-text”>
<span style=”color:green;”>hello</span><p class=”big”>my</p>
<span class=”small”>friend</span><span class=”small”>is tom.</span>
<table class=”burin1″><tr><td>one</td></tr></table>
<table class=”burin2″><tr><td>two</td></tr></table>
<table class=”burin3″><tr><td>three</td></tr></table>
http://www.w3schools.com/css/css_table.asp
</body></html>