ประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง นโยบายยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในสถาบันอุดมศึกษา

ต่อไปผู้ประกอบการก็จะทราบว่านักศึกษาที่มาสมัครงาน
มักจะต้องมีเอกสารที่มีผลสอบวัดระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษ
ระดับ B1 ก็จะถือว่าใช้ได้

เทียบระดับที่ใช้ได้
เทียบระดับที่ใช้ได้
เทียบระดับ
เทียบระดับ
CEFR image
https://languageresearch.cambridge.org/956-ep-new/cefr

 Introductory Guide to the CEFR (pdf)

ประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา
เรื่อง นโยบายยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในสถาบันอุดมศึกษา

นโยบายยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในสถาบันอุดมศึกษา
นโยบายยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในสถาบันอุดมศึกษา

เอกสาร PDF แชร์ไว้ที่
https://www.facebook.com/groups/thaiebook/posts/689529874531167/

นโยบายยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในสถาบันอุดมศึกษา
นโยบายยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในสถาบันอุดมศึกษา

ข้อที่ 5 “ให้สถาบันอุดมศึกษาพิจารณาจัดให้นิสิตนักศึกษาทุกคน ทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษตามแบบทดสอบมาตรฐานระดับอุดมศึกษา ที่สถาบันสร้างขึ้น หรือที่เห็นสมควรจะนำมาใช้วัดสมิทธิภาพทางภาษาอังกฤษ (English Proficiency) โดยสามารถเทียบเคียงผลกับ Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) หรือมาตรฐานอื่น เพื่อให้ทราบระดับความสามารถของนิสิตนักศึกษาแต่ละคน และสถาบันอุดมศึกษาอาจพิจารณานำผลการทดสอบความรู้ทางภาษาอังกฤษบันทึกในใบรับรองผลการศึกษา หรือจัดทำเป็นประกาศนียบัตร โดยเริมตั้งแต่ปีการศึกษา 2559

เทียบ placement test กับ CEFR ใน speexx
เทียบ placement test กับ CEFR ใน speexx
certificate equivalency
certificate equivalency

เทียบระดับ SPEEXX กับ CEFR
https://www.speexx.com/portals/speexx-campus/en/cefr.htm

cefr level
cefr level

นโยบายการยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในสถาบันอุดมศึกษา

นโยบายการยกระดับมาตรฐานภาษาอังกษในสถาบันอุดมศึกษา
นโยบายการยกระดับมาตรฐานภาษาอังกษในสถาบันอุดมศึกษา

หลายสถาบันต่างใช้บริการระบบการเรียนออนไลน์ที่ได้มาตรฐาน
เป็นเครื่องมือสนับสนุนการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
สอดรับกับที่ สกอ. มีประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา
เรื่อง นโยบายการยกระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษในสถาบันอุดมศึกษา
เมื่อ 12 เมษายน 2559 โดย รศ.คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ
ประธานกรรมการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ที่กำหนดมาเป็นข้อ ๆ อย่างเป็นระบบ พอสรุปได้ดังนี้
1. กำหนดนโยบาย และเป้าหมายการยกระดับภาษาอังกฤษในระดับที่ใช้งานได้
2. ให้จัดทำแผนเพื่อดำเนินการตามนโยบาย และเป้าหมาย
3. ให้พิจารณาปรับปรุงการสอนวิชาภาษาอังกฤษที่เป็นอยู่
4. ให้จัดกิจกรรมนอกหลักสูตร
5. ให้ทดสอบ แล้วนำผลทดสอบออกเป็นใบรับรองว่าอยู่ระดับใด
ให้เริ่มกันตั้งแต่ปีการศึกษา 2559
https://www.facebook.com/groups/thaiebook/672016736282481/

SPEEXX คือ โปรแกรมเรียนภาษาด้วยตัวเอง
สำหรับนักศึกษา คนทำงาน และผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ
ที่ประกอบด้วยเนื้อหาที่ตอบสองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว
โดยผู้เรียนมีการเรียนรู้ด้วยตนเองและง่ายต่อการใช้งาน
มีบทเรียนในส่วนของไวยากรณ์ คำศัพท์ การออกเสียงและสำเนียงที่ถูกต้อง
รวมไปถึงทักษะความเข้าใจในการอ่านบทความ
http://www.speexx.com
https://www.facebook.com/speexx.thailand/

บริการเรียนออนไลน์ของ SPEEX
นอกจาก Vocabruary และ Grammar และ Reading
ก็ยังมีฟัง (Listening)
 และมีบางบทเรียนที่เทียบเสียงพูด
ควรมีอุปกรณ์ที่จำเป็นคือ หูฟัง โดยเฉพาะการสอบ Placement Test

earphone สำหรับ listening
earphone สำหรับ listening

การแบ่งเนื้อหาของ Speexx แบ่งตามระดับ
ใน CEF (Common European Framework)

CEF : Common European Framework
CEF : Common European Framework

http://inglesenow.blogspot.com/p/common-european-framework.html
https://en.wikipedia.org/wiki/Common_European_Framework_of_Reference_for_Languages

เกณฑ์มาตรฐานความสามารถภาษาอังกฤษ
เกณฑ์มาตรฐานความสามารถภาษาอังกฤษ

มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่ใช้บริการ หรือเคยใช้ SPEEXX
มหาวิทยาลัยพะเยา
http://intra.up.ac.th/speexx/index.php?p=4
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
http://www.dpu.ac.th/news/44/
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
http://speexx.rmutsb.ac.th/home2015/
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร
http://speexx.co.th/mut/speexxmobile/
วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์
http://uruic.uru.ac.th/speexx_user/
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
http://www.rmutp.ac.th/speexx/
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
http://www.library.rmutt.ac.th/?page_id=12049
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย
http://www.lcrru.crru.ac.th/speexx/speexx.html
มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์
http://speexx.co.th/vru/speexxmobile/
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
http://www.sunandhanews.com/2011-10-14-04-41-27/81-education/1921-2014-02-12-09-06-55.html

สถาบันที่ใช้ Speexx.com ข้อมูลปี 2013
รายชื่อกลุ่มผู้ใช้ในแต่ละสถาบัน
https://www.facebook.com/speexx.thailand/posts/490218924403111
1. มหาวิทยาลัยพะเยา
https://www.facebook.com/groups/639454186065071/
2. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
https://www.facebook.com/groups/323848411081864/
3. มหาวิทยาลัยนครพนม
https://www.facebook.com/groups/363152973807898/
4. มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่
https://www.facebook.com/groups/482602575152823/
5. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
https://www.facebook.com/groups/601811029849744/
6. มหาวิทยาลัยนเรศวร
https://www.facebook.com/groups/647747385253570/
7. มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร
https://www.facebook.com/groups/510574289008245/
8. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
https://www.facebook.com/groups/540193626036936/
9. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
https://www.facebook.com/groups/157606047761595/
10. มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา
https://www.facebook.com/groups/367641450031926/
11. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์
https://www.facebook.com/groups/164825937042485/
12. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
https://www.facebook.com/groups/400160780095565/
13. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
https://www.facebook.com/groups/152114971653378/
14. มหาวิทยาลัยเนชั่น
https://www.facebook.com/groups/684482298366452/

ข้อมูลเพิ่มอื่น ๆ
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (พัฒนาขึ้นเอง ไม่เกี่ยวกับ speexx.com)
http://onlineenglish.cmu.ac.th
เคล็ดลับการเรียนด้วยตัวเอง กับ speexx
http://www.thaiall.com/blog/burin/7754/

เวอร์ชั่นก่อนพฤษภาคม 2015 เคยเป็น java
เวอร์ชั่นก่อนพฤษภาคม 2015 เคยเป็น java

เคล็ดลับการเรียนด้วยตัวเอง กับ speexx

speexx
speexx

พบว่าที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ก็ใช้บริการของ Speexx.com
เตรียมความพร้อมนักศึกษาในการเข้าสู่ AEC
เปิดให้นักศึกษาเข้าไปรับบัญชีผู้ใช้ และเรียนรู้ได้ที่ห้องบริการ
http://www.dpu.ac.th/news/44/

ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ก็เปิดให้นักศึกษาได้ใช้โปรแกรมสปีค (SPEEXX)
พบข่าวนี้ในสุนันทานิวส์
ที่ ดร.สมเดช รุ่งศรีสวัสดิ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ได้เล่าเรื่องนี้ไว้
และ  ว่าที่ ร.ต. หนึ่งหฤทัย สนั่นรัมย์ ก็ให้ข้อมูลว่าจะเริ่มใช้กับนักศึกษารหัส 56
http://www.sunandhanews.com/2011-10-14-04-41-27/81-education/1921-2014-02-12-09-06-55.html

แล้วเคยอ่านเรื่องการให้บริการโปรแกรมเรียนภาษาของ Speexx.com ที่สามารถเรียนด้วยตนเอง
สำหรับนักศึกษา คนทำงาน และผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ
ออกแบบโดย Digital publishing ที่ http://www.speexx.com
เนื้อหาประกอบด้วยบทเรียนไวยกรณ์ คำศํพท์ การออกเสียง สำเนียง และการอ่านบทความ
บริการที่ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
มีการพูดคุยเรื่องนี้ตั้งแต่ 4 ธันวาคม 2012
http://www.library.rmutt.ac.th/?page_id=12049

ตั้งเป้าหมายในการเรียน [จาก rmutt]
– การเรียนภาษาแบบ E-learning นั้น ต้องอาศัยแรงจูงใจจากตัวผู้เรียนมากขึ้นกว่าการเรียนในรูปแบบเดิม
– พิจารณาดูว่าปัจจัยใดเป็นแรงจูงใจที่ดีที่สุด และสำคัญที่สุดที่จะเรียนภาษา ให้ตั้งเป้าหมายที่สามารถปฏิบัติได้จริง
– ลำดับความสำคัญ
– เอาชนะการต่อต้านและความขี้เกียจของตนเอง โดยการยึดเหนี่ยวกับแผนการเรียน กำหนดเวลาของการกระทำการสิ่งหนึ่งๆ ให้สำเร็จ
– ให้ความสำคัญกับเป้าหมายที่ตั้งไว้และกำหนดเวลาเรียนที่แน่นอน ดังเช่นในโลกธุรกิจ

จัดการกับเวลาเรียน
– บอกเพื่อนร่วมงานและเจ้านาย ถึงงความจำเป็นและความตั้งใจที่จะเรียนรู้ รวมถึงเป้าหมายที่คุณต้องทำให้สำเร็จ
– บรรลุเป้าหมายในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ ดังนั้นเพื่อยึดอยู่กับแผน ควรกำหนดตารางเวลาเรียนในช่วงระหว่างสัปดาห์และเผื่อเวลาสำรองไว้ด้วย
– เริ่มเรียนจากระยะสั้นๆ ประมาณ 30 นาที
– เมื่อชั่วโมงการเรียนยาวนาน ควรหาเวลาพักบ้าง

ใช้วิธีการที่เหมาะสมกับการเรียน
– ทบทวนเนื้อหาที่เป็นความรู้ใหม่ให้บ่อยครั้ง
– ไม่ลืมที่จะทบทวนสิ่งที่เคยคิดว่ายากในตอนแรก
– จัดตารางเพื่อทบทวนบทเรียนที่ผ่านมาในแผนการเรียนด้วย
– เมื่อเรียนอย่างคร่ำเคร่ง อย่าลืมพักบ้าง
– ให้รางวัลตนเองเมื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

นำสิ่งที่เรียนรู้ด้วยตนเองไปประยุกต์ใช้
– ใช้วิธีการสื่อสารต่างๆ ให้เป็นประโยชน์ (อีเมล์ หรือ โทรศัพท์) เพื่อโต้ตอบกับผู้เรียนคนอื่นและติวเตอร์
– แบ่งปันเคล็ดลับการเรียนรู้และความก้าวหน้าของการเรียนกับเพื่อร่วมงาน

ลดสิ่งที่จะมารบกวนระหว่างการเรียน
– วิเคราะห์ปัจจัยที่อาจรบกวน (โปรแกรมคอมพิวเตอร์อื่น ลักษณะสถานที่เรียน เพื่อร่วมงานบริเวณนั้น)
– สร้างบรรยากาศการเรียนที่ปลอดปัจจัยรบกวนข้างต้น

 

แจกลิงค์ข่าวภาษาอังกฤษด้านไอที แปลไทย ไปเล่าให้นักศึกษาเรียนไอทีเบื้องต้นฟัง

breakingnewsenglish
breakingnewsenglish

รวมข่าวภาษาอังกฤษ สรุปมาแบบสั้น ๆ เพียง 2 ย่อหน้า
อ่านง่ายพร้อมแบบฝึกหัด เพื่อใช้สอนภาษาอังกฤษในหลักสูตร ESL
แต่ละเรื่องนำมาเขียนข่าวให้ยากง่ายหลายระดับ
ตั้งแต่ระดับ 0 ถึงระดับ 6 มีกว่า 2233 บทเรียน (27ก.ค.59)
เริ่มมาตั้งแต่ปี พฤศจิกายน 2004 (2557)
ซึ่งผมสนใจข่าวด้านไอที เพื่อนำไปเล่าให้นักศึกษาในวิชาเทคโนโลยีเบื้องต้น
จึงเลือกข่าว และแปลเป็นไทยไปเล่าให้นักศึกษาฟัง เป็นเรื่องน่าสนใจทั้งนั้น
สามารถอ่านข่าวสั้นทั้งหมดได้
ที่ http://www.breakingnewsenglish.com

Breaking News English

1. Woman Fired for Using Capital Letters
http://www.thaiall.com/blog/burin/6058/
2. Online Gaming
http://www.thaiall.com/blog/burin/6052/
3. Angry Birds Downloads Hit Half a Billion
http://www.thaiall.com/blog/burin/6265/
4. Women More Cautious On Social Media
http://www.thaiall.com/blog/burin/6262/
5. Toyota shows video of driverless car
http://www.thaiall.com/blog/burin/6257/
6. Pass-thoughts to replace passwords
http://www.thaiall.com/blog/burin/6255/
7. Typewriters to stop Russian computer leaks
http://www.thaiall.com/blog/burin/6253/
8. Samsung unveils new smartwatch
http://www.thaiall.com/blog/burin/6250/
9. Police arrest a coconut
http://www.thaiall.com/blog/burin/6247/
10. Amazon.com testing drone delivery service
http://www.thaiall.com/blog/burin/6243/
11. Artificial Intelligence
http://www.thaiall.com/blog/burin/6240/
12. Texting while walking is dangerous
http://www.thaiall.com/blog/burin/6237/
13. EU votes for universal phone charger
http://www.thaiall.com/blog/burin/6233/
14. Google to launch wearable health monitor file
http://www.thaiall.com/blog/burin/6228/
15. People use technology more, sleep less
http://www.thaiall.com/blog/burin/6222/
16. Remote Control Inventor Dies Aged 96
http://www.thaiall.com/blog/burin/6260/

http://www.thaiall.com/mit

Passage 9 by Ian Walker & พชรภรณ์ เค้าสงวนศิลป์

cell phone
cell phone

เป็นเนื้อหาสำหรับสาระภาษาอังกฤษ และเทคโนโลยี
สำหรับผู้เริ่มต้นกับภาษาอังกฤษ

Everyone has a cell phone including me.
My dad gave it to me on my birthday last year.
It is black and shiny.
It has a lot of buttons.
I use it to call my friends.
My dad told me I should not use it too much.
It is use ful when i am out with friends and my parents want to call me.
I carry my phone everywhere with me.
I cannot use it at school when i am in class.
If my teacher sees my cell phone, he will take it from me.
I enjoy listening to music on my cell phone.
Sometimes my friends and i exchange music on our cell phones.
This year, i want a Sony PSP for my birthday.

+ Woman fired : http://www.thaiall.com/blog/burin/6058/
+ 16 news : http://www.thaiall.com/blog/burin/6267/

ท้าทาย ศักยภาพของคนไทยที่จะได้งาน หลังเปิดประเทศ ในกลุ่มอาเซียน

lacking skill for workers
lacking skill for workers

ข้อมูลปี 2007 พบว่า ภาษาก็แย่ ไอทีก็หลงตัวเอง บวกลบก็ไม่เก่ง แล้วจะเอาอะไรไปสู้เขา เป็นความท้าทายศักยภาพของคนไทยที่จะได้งาน หลังเปิดประเทศ ในกลุ่มอาเซียน จึงเป็นประเด็นเกี่ยวกับทักษะที่จำเป็นของคนทำงาน (worker skill) ถ้าจะพัฒนาทักษะที่บกพร่องของคนไทย มีอะไรที่ต้องพัฒนาบ้าง จากข้อมูลกราฟ พบว่าใน 12 ประเด็น และมี 7 ประเด็นที่ผลสำรวจปี 2007 แย่กว่าปี 2004 (หมายถึง คนไทยพัฒนาถอยหลัง แย่ลง ถอยหลังนั่นเอง)
1. ภาษาอังกฤษ
2. เทคโนโลยีสารสนเทศ
3. การคำนวณตัวเลข
4. การสื่อสาร
5. การบริหารเวลา
6. การปรับตัว
7. การทำงานเป็นทีม

ส่วน 5 ประเด็นนี้พัฒนาขึ้นกว่าในอดีตนิดหน่อย
1. ความคิดสร้างสรรค์
2. ความเป็นผู้นำ
3. การแก้ปัญหา
4. การเข้าสังคม
5. ทักษะทางเทคนิค/ความเชี่ยวชาญ

ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ The Nation ฉบับวันที่ 12 มีนาคม 2555
ซึ่ง อ.ดร.อติชาต หาญชาญชัย อ่านแล้วนำมาแบ่งปันใน group ของมหาวิทยาลัย

http://www.nationmultimedia.com/national/Thais-face-challenges-getting-Asean-jobs-30177727.html

มีประเด็นน่าสนใจดังนี้

Assoc Prof Patcharawalai Wongboonsin บอกว่าไม่ง่ายกับคนทำงานจากประเทศไทยที่จะเข้าไปแข่งขันหลังเปิดเสรีแรงงานในกลุ่มประเทศอาเซียน ปี 2015 โดยเฉพาะ ทักษะด้านภาษาอังกฤษ ที่ถูกใช้ในการสื่อสาร.. แม้จับมาฝึกอบรม แต่คนไทยส่วนใหญ่เป็นประเภท polite and not aggressive .. การเข้าไปแย่งงานในต่างประเทศ (ปัจจุบันมีประมาณ 250 ล้าน เมื่อเปิดประเทศน่าจะมีประมาณ 300 ล้าน) ก็คงไม่ง่าย แต่ถ้าจากประเทศอื่นเข้ามาแย่งงานคนไทย .. นี่สิปัญหาใหม่

Boonlert Theeratrakul บอกว่า คนทำงานไทยขาดทักษะสำคัญ 3 เรื่องคือ 1) ภาษาอังกฤษ 2) ทักษะด้านไอที และ 3) ทักษะเชิงตัวเลข