5 เม.ย.53 ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีใครหาอะไรมาเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองให้ได้สิ่งที่ต้องการ ตัวอย่างมีให้เห็นบ่อยมากในประเทศไทย แม้ในองค์กรบางแห่งก็มีอยู่เสมอ ที่ขาดความรู้สึกเป็นเจ้าของในองค์กรของตน เช่น 1) การบอกว่าไม่ใช่หน้าที่ 2) การบอกว่าคนนั้นก็ยังไม่ทำจึงเป็นความชอบธรรมที่ตนไม่ทำบ้าง 3) การบอกว่าไม่ใช่เรื่องของเรา 4) การบอกว่าอย่าไปช่วยใครให้เห็นแก่ตัวไว้ก่อน 5) การบอกว่าก็เขาไม่มาบอก 6) การบอกว่ายังไม่ถึงเวลา 7) การบอกว่าอย่าไปยุ่ง 8 ) การบอกว่าเขาทำมาอย่างนั้นจงทำต่อไปทำเหมือนกันไปดีเอง .. คงเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่กลายพันธุ์มาจากลิงได้ไม่นาน คนบางคนจึงพัฒนาไปได้ไม่ไกลนัก มองไปไม่พ้นเงาตนเองสักที ดังนั้นเราจึงเห็นคนที่มีการศึกษา แต่จิตใจไม่พัฒนา บางคนจิตใจดีงามแต่ขาดการศึกษาเป็นฐานความรู้ที่ใช้ประกอบการตัดสินใจอย่างสมเหตุสมผล คนบางคนถูกความโลภ โกรธ หลง ชี้นำพฤติกรรมไปในทางใดทางหนึ่งก็มีตัวอย่างมากมายเกินกว่าจะยกตัวอย่าง .. เราท่านก็รู้เห็นเป็นใจกันอยู่ .. สรุปตรงนี้ว่าผมบ่นเรื่องการเมืองไทย .. แล้วอย่าถามผมว่าคิดอย่างไร เพราะคำตอบผมรุนแรงมากที่เห็นพฤติกรรมมนุษย์เป็นเช่นนี้ และที่สำคัญผมก็เป็นมนุษย์
Tag: มนุษย์
เศร้า .. สัตว์สายพันธุ์ใกล้มนุษย์กินพวกเดียวกัน
ลิงชิมแปนซี (อังกฤษ: Chimpanzee; ชื่อวิทยาศาสตร์: Pan troglodytes) คือ ลิงที่ไม่มีหาง มีขนสีดำ มีลักษณะคล้ายมนุษย์ที่เดินยืดตัวตรงได้ ตัวผู้สูงประมาณ 5 ฟุต ตัวเมียสูงประมาณ 4 ฟุต มีความจำดีเฉลียวฉลาด มีอารมณ์ความรู้สึกเช่นเดียวกับมนุษย์ โดยนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าลิงชิมแปนซีเป็นสัตว์โลกที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์มากที่สุด สัตว์ชนิดนี้กินลิงด้วยกันเป็นอาหาร .. แต่มนุษย์เราแตกต่างออกไป ซึ่งวีดีโอเรื่องนี้ผมเก็บไว้เปิดให้นักศึกษาได้เรียนรู้ว่าชีวิตคือการต่อสู้ ในห้อง downloadx
Chimps killing and eating a monkey
+ http://atcloud.com/stories/64793
+ http://video.showded.com/watch?vdoId=70423
+ http://www.theync.com/media.php
+ http://www.thaiall.com/downloadx/monkeyeating.flv
+ http://www.youtube.com/watch?v=KTPkmH4hWCs
+ http://www.youtube.com/watch?v=XQepG7sD6vk
มนุษย์ผู้ไม่ใช้สารสนเทศ
7 ก.พ.53 แล้วผมก็ได้ตระหนักว่า มนุษย์บางคนขาดความสามารถในการใช้ประโยชน์จากสารสนเทศ เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ใช้ความเชื่อ และความรู้สึกเป็นฐานคิด แม้แต่ผมเองก็ยังใช้ความเชื่อและความรู้สึกเช่นกัน ทำให้ทราบว่าเผ่าพันธุ์เดียวกับผมมีคิดไปแนวใด ตัวอย่างแรกที่เห็นชัด คือ สุรา แม้ในทีวีจะออกมาบอกว่าดื่มสุราขณะขับรถนั้นอันตราย ก็ยังมีคนตายกันหลายร้อยคนปีละ 2 เทศกาล แสดงว่าพวกเขาขาดความตระหนักในโทษของสุรา ไม่เชื่อฟังในคำสอนทางศาสนา และไม่รักชีวิตเหนือสิ่งอื่นใด ตัวอย่างที่สอง คือ เรารู้ว่าอาหารมัน กินไหม้ กินดิบ กินรสจัด กินอาหารขยะ กินไม่เป็นเวล่ำเวลา กินเกินกว่าที่ร่างกายต้องการนั้นเป็นภัยต่อสุขภาพ เคยได้ยินหลายคนบอกว่าก็ชอบนี่ .. แล้วสารสนเทศที่เรารับมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยไม่ซึมเข้าไปในสายเลือดเลยหรือว่ากินอย่างไรให้คุ้มค่า
ตัวอย่างที่สาม คือ การพนัน (การที่รัฐบาลจำหน่ายฉลากกินแบ่งนั้นผมถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดถึง ) เรารู้กันดีว่า หวยใต้ดินเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ตำรวจจับถ้าไปซื้อก็คือผิดกฎหมายและไม่ใช่สิ่งจำเป็น ถึงซื้อถูกก็ได้ไม่กี่บาท ก็รู้กันอยู่ว่าได้ไม่คุ้มเสีย มีสารสนเทศว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม และส่งเสริมกิเลสในใจเรา ทำให้ใจไม่สงบ แล้วเมื่อไรจะลดกิเลสให้เบาบางลงได้ ตัวอย่างที่สี่ คือ ใส่เกียร์ว่างในการทำงาน คอรัปชั่น ทุจริต ปล่อยให้องค์กรหรือท้องถิ่นของตนเสียหาย ก็จะทำให้ที่พึ่งพิงของตนบกพร่อง มีสารสนเทศมากมายว่า การไม่วางระบบเป็นขั้นตอนย่อมไม่มีแนวปฏิบัติให้ดำเนินการ การคอรัปชั่นย่อมเสี่ยงต่อการถูกจับ แต่ก็ต้องทำใจเพราะมนุษย์มีความมักง่าย ไม่รู้จักวางแผน เห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้า และมีความโลภเป็นที่ตั้ง เหมือนมีคนถามว่าเมื่อใดเมืองไทยจะไม่ซื้อเสียง สรุปได้ว่ามนุษย์ไม่ตระหนักในผลข้างเคียงของกิจกรรมที่ทำในวันนี้ ไม่พะวงถึงสิ่งที่ทำวันนี้ว่าจะมีผลต่อวันพรุ่งนี้ เพราะไม่เชื่อในอนาคต แล้วคุณล่ะเชื่อในอนาคตหรือไม่ .. ผมพูดกับเพื่อนหลายท่านว่ามนุษย์บางคน “กินบนเรือนขี้บนหลังคา” ซึ่งผมดีใจที่คิดคำเปรียบเปรยนี้ออก เพราะเป็นคำพูดที่ให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ของผม มากกว่าคำอื่นที่ผมคิดก่อนหน้านี้
+ http://www.thaiall.com/mis/mis02.htm
อยากเห็นผู้คนมีมารยามากกว่านี้
14 ธ.ค.52 ผมว่ามนุษย์เรามีมารยากันน้อยลง ทำอะไรไม่ค่อยได้คิดกัน ไม่ค่อยเกรงใจ ไม่ค่อยเสแสร้งเพื่อให้คนรอบข้างมีความสุข คนมีมารยาก็จะทำอะไรขัดกับความรู้สึกจริง ก็เพื่ออยู่ในกฎในกรอบที่สังคม องค์กร หรือกลุ่มได้ตั้งไว้ เช่น เกียจคนเจ้าชู้ก็ต้องยิ้มให้ จะฉี่ข้างถนนก็ไม่ได้ต้องหาห้องน้ำ เดินก็ต้องเดินให้สวยทำขากระเพกก็อายเขา จะแก้ผ้าเดินเพราะร้อนก็ไม่ได้ จะกินมูมมามก็เกรงสายตาคนรอบข้าง ไม่อยากฟังอาจารย์ก็ฝืนฟัง ไม่ชอบเสื้อเหลืองเสื้อแดงก็ต้องหุบปาก
แต่สมัยนี้เราไม่ค่อยมีมารยา เช่น ฟังวิทยากรพูดเรื่องแผนการสอนก็หยิบคอมพิวเตอร์มาเล่นเอ็ม นั่งประชุมอยู่ก็เล่นเกมหรืออ่านนิตยสาร อาจารย์สอนกลับนั่งยิ่มกับเครื่องคอม องค์กรให้เงินเดือนก็ทำตัวเนรคุณ จะเกษียณก็ใส่เกียร์ว่าง นักศึกษาแต่งโป๊ก็ไปด่า ไม่ชอบเจ้านายก็เขียนเมล์ตำหนิ น่าจะเป็นการดีที่เราใส่หน้ากากเข้าหากัน เมื่อก่อนเราเป็นสยามเมืองยิ้ม เจอใครไม่รู้จักยิ้มให้หมด ผมว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่นะครับ เจอคนแปลกหน้าก็ไปเรียกเขาลุง เจอเด็กสาวก็เรียกน้อง มีมารยาให้กันและกัน อะไรทำนองนี้ (สมัยนี้แค่แดงเห็นเหลืองก็ตาขวางเข้าใส่ แต่เห็นเป็นพระสงฆ์ก็ละสายตาลง) อยู่บนโลกนี้ชั่วคราว น่าจะปล่อยวาง แล้วหันมาทำให้ตัวเรา คนรอบข้าง และสังคมรอบตัวเรามีความสุข น่าจะคุ้มค่ากับชีวิตที่เหลือบนโลกใบนี้