การเดินทางในเมืองหลวงที่แสนวุ่นวาย

แผนที่ผิด กับผู้ชี้ตำแหน่งใหม่

4 มิ.ย.53 เรื่องราวในวันที่ 2 และ 3 มิ.ย.53 เริ่มต้นจากทีมอาจารย์ของมหาวิทยาลัย เดินทางไปกรุงเทพฯ ร่วมประชุมวิชาการ nccit ในเวลากลางวันด้วยรถตู้ของมหาวิทยาลัย และเข้าพักค้างแรมในโรงแรม eastin (2300=1500) สุดหรูหนึ่งคืน โดยมีผมเป็นผู้กำแผนที่ในมือ จากแผนที่เราก็ไปถูกที่ถูกทาง แต่พบว่าแผนที่ระบุตำแหน่งผิด เมื่อสอบถามจากน้องเป็ก (คุณกาญจนา วิริยะพันธ์) และน้องแคทแว่น (คุณวัชรีวรรณ จิตตสกุล) ซึ่งเป็นกรรมการจัดงานและช่วยจองโรงแรม จึงไปถูกโรงแรมในเวลาเย็นแต่ฝนตกทำให้ไปไหนได้ไม่ไกล แล้วเราก็ลุยฝนไปทานอาหารเย็นร่วมกัน รวมค่าอาหาร 550 บาท สำหรับ 6 คน (ถูกเหลือเชื่อเพราะสั่งกว่า 10 รายการ)
     การค้างแรมเรามี 6 คน จึงเช่า 3 ห้อง แต่มีอาจารย์ผู้หญิงโสดหนึ่งท่าน ที่พักกับใครก็ไม่ได้ ถือเป็นจุดอ่อนของทีม ทำให้ผู้ชาย 3 คนพักห้องเดียวกัน แล้วบังเอิญผมพกเสื่อจากที่บ้านไป 1 ผืน จึงสรุปกันว่าใครเอาเสื่อมาคนนั้นก็นอนเสื่อ วันรุ่งขึ้นเริ่มทำงานในฐานะตัวแทนของมหาวิทยาลัยมาร่วมจัดงาน ช่วงเช้าฟังบรรยายจาก Prof.Dr.Wolfgang A. Halang และ Prof. Dr.Jesse Jin พักเที่ยงผมให้คูปองอาหารกับพี่ตี๋ แล้วผมก็เดินเท้าพร้อมเป้คอมพิวเตอร์จากโรงแรมหลงไปถึง Zen พอรู้ตัวก็ถ่ายภาพไว้ และเดินกลับโรงแรม
     เดินกลับมาเข้าฟังการนำเสนอช้าไปสิบนาที พอ break เพื่อนร่วมทีมก็ขอตัวกลับลำปาง เพราะเกรงว่าอยู่ฟังการนำเสนอผลงานวิชาการอีก 1.5 ชั่วโมง จะพบกับรถติด ทำให้กลับถึงลำปางดึกยิ่งขึ้นไป ตกเย็นผมเดินไป pantip ได้ภาพยนต์ csi ny+mi กับ dvd karaoke สำหรับครอบครัว แล้วมาร่วมงานเลี้ยง 19.00น. ตกดึกไปเล่นเน็ตในห้องนอน แต่มีปัญหาต้องเรียกช่างมาเปลี่ยน settopbox ที่นำเข้าจากมาเลเซีย เล่นได้สักพัก settopbox ก็ hang อีก ทำให้ผม video conference กับครอบครัวที่บ้านไม่สำเร็จ .. และแล้วก็เข้านอน ดึกมาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ในโรงแรมสุดหรู ในใจก็คิดว่าคงเป็นคนข้างห้อง และทำใจนอนต่อ
+ http://www.nccit.net
+ http://www.thaiall.com/project/nccit07.htm
     เพิ่มเติม : ผมจำได้ว่าในทีมของเรา อาจารย์ผู้หญิงเพียงคนเดียวของทีม เดินเข้าไปถามผู้นำเสนออย่างสนใจ ฟังอย่างตั้งใจในประเด็นที่ผู้นำเสนอได้ศึกษาวิจัยมา .. มิเสียแรงที่เขาศึกษามา แล้วมานำเสนอครับ และมิเสียแรงที่อาจารย์ผู้หญิงในทีมไปร่วมเข้าประชุมวิชาการในครั้งนี้ ..

ทำบุญ เปิดเรียน เลื่อนบทความ ถูกฉลาก

17 พ.ค.52 1) ที่บ้านไหล่หินทำบุญบ้าน ได้นิมนต์ เจ้าคณะตำบล ตุ๊ภาพ และพระครูสังฆรักษ์วิชพงษ์ พร้อมพระสงฆ์อีก 2 รูปจากวัดลุ่ม ตั้งแต่ลุงแสนเสียก็ยังไม่ได้ทำบุญบ้าน จึงถือโอกาสทำบุญ 100 วัน ทำบุญบ้าน และทำบุญให้ยายนีไปด้วย ผู้สูงอายุไปร่วมทำพิธีที่บ้านประมาณ 20 ท่าน ต้องถือว่ามาร่วมกันมากกว่าปกติ แม้ไม่ได้บอกใคร   คงเพราะเป็นครอบครัวใหญ่ และชุมชนเป็นเครือญาติที่ใกล้ชิด คนหนุ่มก็เข้าครัว ผู้สูงอายุก็อยู่บนบ้านฟังธรรม 2) พรุ่งนี้เปิดเรียนวันแรกของลูกทั้งสาม เราจึงกลับไปนอนที่บ้านอัศวิน แต่ลืมไปเอาชุดใหม่ ที่ใช้เงินหลวงแจกให้ไปซื้อชุดเป็นเงิน 350 บาท ส่วนหนังสือคงได้จากการยืมเรียน ก็ตกลงกันว่าวันพรุ่งนี้สวมชุดเก่าไปก่อนคงไม่เป็นไร ฝนดาวเข้า ป.5/8 พีพี ป.4/1 มาหยา ป.4/5 ส่วนชื่อครูจะให้ลูกไปจดมาชัด ๆ วันพรุ่งนี้ค่อยลงเว็บเพจของพวกเขา 3) ตรวจกำหนดการนำเสนอบทความ ที่ มจพ. (www.nccit.net และ nccit09-it04) พบว่านำเสนอบทความของผมเลื่อนเป็นวันที่ 23 พค. ตรงกับวันที่นัดจิ๋มไว้ที่บ้านเสานัก ทำให้ ppt ที่เตรียมไว้คงไม่ได้ใช้งานนี้แน่ จึงขอให้ อ.สุวรรณ กับ อ.ราตรี เป็นตัวแทนนักวิจัยบ้านไหล่หิน เพราะท่านมีบทความที่ถอดประสบการณ์ได้ชัดเจน และเหมาะที่จะนำเสนอประสบการณ์ในฐานะนักวิจัยชุมชน เป็นมุมมองของนักวิชาการในชุมชน ผลการประสานงานก็เรียบร้อยด้วยดี จะขอเลื่อนทาง มจพ. ก็คงไม่เหมาะ เพราะเขากำหนด และเผยแพร่ไปแล้ว ถ้าเลื่อนก็เป็นการแซงคิวเขา ซึ่งผมจะไม่ทำ คิดซะว่าเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ที่จะได้อยู่ฟังทั้ง 2 วัน จึงตัดสินใจนอนกรุงเทพฯ อีกคืน ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร เพราะทีมคณะวิทย์ฯ ที่ไปด้วยเขาก็กลับคืนวันศุกร์ ตามกำหนดเดิมได้ 4) ตกเย็นก็กลับบ้านมาตรวจฉลากกินแบ่งรัฐบาลพบว่าถูกเลข 2 ตัว 1 ใบ ก็ให้ย่าลัดดาไปขึ้นตัง ซื้อ 2 ใบจ่ายไป 200 บาท แต่ได้มา 2000 บาท ที่ได้มานี่ยังไม่พอทำบุญวันนี้เลย เพราะใส่ซองพระ 7 ซอง ๆ ละ 200 บาท ก็ 1400 บาทเข้าไปแล้ว แต่วันนี้เราทำบุญ และการทำบุญคือการให้ โดยไม่หวังผลตอบแทน ทำแล้วก็มีความสุข คิดอย่างนั้นก็จะสบายใจ