ข้อเสนอแนะ และเพิ่มเติม หลังมอง 17 ข้อ ของ ลอย ชุนพงษ์ทอง

ชำแหละ #แผนการศึกษา #จุดจบความคิดสร้างสรรค์ #ใส่กรอบแบบเดียวกัน

ข้อเสนอแนะ และเพิ่มเติม หลังมอง 17 ข้อ ของ ลอย ชุนพงษ์ทอง
#1 รัฐจัดให้เด็กได้เรียนรู้
– ตามความถนัด จัดให้เรียนที่ถนัด (คณิต อังกฤษ จีน เกาหลี เป็นต้น)
– ตามท้องถิ่น จัดให้เรียนตามภูมิปัญญาท้องถิ่น (ประมง เกษตร เลี้ยงสัตว์ สิ่งทอ เป็นต้น)
– ตามความเชื่อ จัดให้เรียนที่เชื่อ (นวัตกรรม ศาสนา วัฒนธรรม เป็นต้น)
– ตามศักยภาพ จัดให้เรียนตามศักยภาพ (ดนตรี กีฬา วิชาการ ค้าขาย เป็นต้น)
#2 รัฐส่งเสริมสนับสนุน และมีช่องทาง
– ให้ภาคเอกชน มีส่วนร่วมจัดการศึกษา (ฝึกงาน สหกิจศึกษา งานพิเศษ เป็นต้น)
– ให้องค์กรท้องถิ่น มีส่วนร่วมจัดการศึกษา (ครูพี่เลี้ยง จิตอาสา ภูมิปัญญา เป็นต้น)
#3 ภาคประชาชนมีสิทธิตรวจสอบ
– ร่วมตรวจสอบความโปร่งใสการใช้งบการเงิน
– ร่วมกันโหวตให้คะแนนที่นำไปสู่การจัดสรรงบประมาณ
#4 ระบุให้ชัดเจนถึงสิ่งที่ทำได้ และทำไม่ได้
– หน้าที่ของพ่อแม่
– หน้าที่ของผู้ปกครอง
– หน้าที่ของเด็ก
– หน้าที่สถานศึกษา
โดย หน้าที่ คือ ข้อปฏิบัติของบุคคลที่จะต้องกระทำให้เกิดประโยชน์เป็นผลดี
#5 ระบุสิทธิ เสรีภาพ ขอบเขต การแสดงออก
– สิทธิของพ่อแม่
– สิทธิของผู้ปกครอง
– สิทธิของเด็ก
– สิทธิของสถานศึกษา
โดย สิทธิ คือ อำนาจอันชอบธรรม ซึ่งบุคคลทุกคนพึงมีพึงได้ โดยไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น
#6 ระบุสิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่
– สิทธิและหน้าที่ของครูในสถานศึกษา
– สิทธิและหน้าที่ของครูนอกสถานศึกษา
#7 สนับสนุน พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ
– แก้ไขกฎกระทรวงต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ฯ
– จัดคนให้เหมาะสมกับงาน และเป็นตัวแบบที่ดีให้เด็ก

https://www.thaiall.com/student/law.htm

ดีเจมะตูม จัดงานปาร์ตี้วันเกิด ณ บริเวณโรงแรมบันยันทรี เขตสาทร

ดีเจมะตูม จัดงานปาร์ตี้วันเกิด เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2564 ที่ถือว่าเป็นกรณีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายในการจัดงานปาร์ตี้วันเกิด ที่มีผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก จนเป็นเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
– https://mgronline.com/crime/detail/9640000009485
– https://www.hfocus.org/content/2021/01/20960
– https://www.prachachat.net/general/news-604573

https://www.thairath.co.th/news/crime/2035735

ประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง การสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 16) ลงวันที่ 3 มกราคม 2564 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) จึงทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักอนามัยมัยกรุงเทพมหานคร(กทม.) โดยเห็นว่า เข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ(พรบ.)โรคติดต่อ พ.ศ.2558 รวมถึงกฎหมายอื่นๆ ดังนี้
1.ความผิดฐานขัดขวาง ไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามมาตรา 55 แห่ง พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท
2.ความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ตามมาตรา 37 กฎหมายอาญา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
3.สถานที่ใช้จัดงานเลี้ยงอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนการห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงแพร่โรค ไม่มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด
4.บุคคลที่ร่วมงานเลี้ยงก็อาจเข้าข่าย ฝ่าฝืนการห้ามทำกิจกรรม มั่วสุมในสถานที่แออัด ในข้อกำหนดมาตรา 9 พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาทหรือทั้งจำและปรับ

พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558
https://ddc.moph.go.th/law.php?law=1
https://ddc.moph.go.th/uploads/ckeditor/c74d97b01eae257e44aa9d5bade97baf/files/001_1gcd.PDF

สำนึกรักสัตว์ป่า ตามที่ คุณสืบ นาคะเสถียร เขียนร้องกรองปลุกสติ

สืบ นาคะเสถียร
เกิด เมื่อวันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2492
เสียชีวิต เมื่อเช้ามืดวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2533

มีร้องกรองบทหนึ่ง ที่ประทับใจ
และมีการพูดถึงกันมากเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2561
ปลุกกระแสสำนึกรักสัตว์ป่า ขึ้นมาอีกครั้ง

โทษไหนจึงประหาร ศาลไหนพิพากษา
ถ้าลูกท่านเป็นสัตว์ล่ะ ใครเข่นฆ่าท่านยอมไหม
ชีวิตใครใครก็รัก ท่านประจักษ์บ้างหรือไม่
โปรดเถิดจงเห็นใจ สัตว์นั้นไซร้ก็เหมือนกัน

กรณีศึกษา เมื่อ 4 ก.พ.2561
พกอาวุธ เข้าป่าสงวน ตั้งแคมป์ ล่าสัตว์ ซุกซ่อนซากสัตว์ที่ชำแหละแล้ว
มีความผิดตามกฎหมาย และมีการตั้งข้อหา 6 ข้อหา
อ่านเพิ่มเติม

ตะโกนก้อง่ จากพงไพร
ตะโกนก้อง่ จากพงไพร

สัตว์ป่าของ สืบ นาคะเสถียร
สัตว์ป่าของ สืบ นาคะเสถียร

ภาพจาก https://www.trendsmap.com

พบกฎหมาย ที่บังคับผู้ปกครองให้ส่งเด็กเข้าโรงเรียน ไม่ส่งโดนปรับหนึ่งหมื่นบาท

ห้องเรียน ที่ทุกคนมีความสุข
ห้องเรียน ที่ทุกคนมีความสุข

พบกฎหมายเกี่ยวข้อง ๓ ฉบับ
ฉบับแรก บอกว่า รัฐต้องจัดให้เรียนถึง ม.๓ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ฉบับที่ ๒ บอกว่า พ่อแม่หรือผู้ปกครอง ต้องส่งเด็กไปเรียนหนังสือ
ฉบับที่ ๓ บอกว่า ให้ส่งเด็กไปเรียนหนังสือ ถ้าไม่ส่งมีโทษปรับ ๑๐๐๐ หรือ ๑๐๐๐๐

ฉบับแรก
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐
ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๔๐ก
ตราไว้ ณ วันที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐
http://www.ratchakitcha.soc.go.th
กำหนดในหมวด ๕ หน้าที่ของรัฐ
มาตรา ๕๔ “รัฐต้องดำเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลาสิบสองปี
ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษาภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย

สรุปว่า
เด็กทุกคน ต้องได้รับการศึกษาระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ ๓
เป็นเวลา ๑๒ ปี โดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย
เป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่ชัดเจน

ฉบับที่ ๒
พระราชบัญญัติ คุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖
ให้ไว้ ณ วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๖
https://dep.go.th/images/uploads/Downloads/pdf/888_08.pdf
มาตรา ๒๓ “ผู้ปกครองต้องให้การอุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน และพัฒนาเด็ก
ที่อยู่ในความปกครองดูแลของตนตามสมควรแก่ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมแห่งท้องถิ่น
แต่ทั้งนี้ต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานขั้นต่ำตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
และต้องคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลของตน
มิให้ตกอยู่ในภาวะอันน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ

สรุปว่า พ่อแม่หรือผู้ปกครอง ต้องส่งเด็กไปเรียนหนังสือ
“ไม่ต่ำกว่ามาตรฐานขั้นต่ำตามที่กำหนดในกฎกระทรวง”

ฉบับที่ ๓
พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.๒๕๔๕
ให้ไว้ ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๕
https://www.ssk4.go.th/Upload/compulsory-education.pdf
มาตรา ๖ “ให้ผู้ปกครองส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา
เมื่อผู้ปกครองร้องขอให้สถานศึกษามีอำนาจผ่อนผันให้เด็ก
เข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้
ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด
และ มาตรา ๑๓ “ผู้ปกครองที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๖
ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
และ มาตรา ๑๕ “ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอันสมควร
กระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นเหตุให้เด็กมิได้เรียนในสถานศึกษา
ตามพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท

สรุปว่า ถ้าผู้ปกครองไม่ส่งเด็กไปเรียน
อาจถูกปรับ ๑๐๐๐ บาท
ถ้าปราศจากเหตุอันสมควร โดนปรับ ๑๐๐๐๐ บาท

เมื่อสรุปจากการอ่านกฎหมายทั้ง ๓ ฉบับ

พบว่า ถ้าเด็กไม่ยอมไปเรียน ผู้ปกครองก็ตีเด็กไม่ได้
เพราะมีกฎหมายคุ้มครองเด็ก
ดังนั้น ถ้าเด็กไม่อยากเรียน ก็ไม่ได้เรียน
แม้รัฐจะดำเนินการให้เด็กทุกคน
ได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่ายแล้วก็ตาม
ถ้าให้การศึกษา แล้วเด็กไม่รับการศึกษา
สิ่งที่จะให้ย่อมไม่ถึงมือผู้รับ

กองเชียร์ กับ กองค้าน สุดท้ายขึ้นอยู่กับกฎที่บัญญัติไว้

กฎหมายบอกว่าไม่ผิด
กฎหมายบอกว่าไม่ผิด

มีปัญหามากมายในสังคม
ที่เกิดปัญหาจากการไม่ยึดกฎ
บางคนก็บอกว่าเป็นปัญหา หรือไม่เป็น
บางคนก็บอกว่าทำดี ไถ่โทษ
บางคนก็บอกว่าทำดีส่วนดี ทำชั่วก็ส่วนชั่ว
บางคนก็ใช้กำลังเป็นเครื่องชี้ถูกชี้ผิด
เอาหละ .. ในความเห็นของผม
มนุษย์ตั้งกฎขึ้นมา และในกฎนั้นก็บอกว่า
มนุษย์ทำสิ่งใดที่เรียกว่า ถูก สิ่งใดเรียกว่า ผิด

มาแล้ว! กองเชียร์บิ๊กป้อม โผล่ชุมนุมหน้ากห. ชี้โดนการเมืองเล่นงาน วอนให้อยู่ต่อ (คลิป)

ถ้ามนุษย์ผู้นั้นออกกฎ และบอกว่าสิ่งที่ตนทำนั้นถูกแล้ว
แม้คนอื่นจะบอกว่าผิด แต่ในกฎ บอกว่าคุณไม่ผิด
ผล คือ “ไม่ผิด วันยันค่ำ
เช่น
1. กินสุนัขตุ่นยาจีน เคยมีคนกินสุนัข ให้ตนเองมีชีวิตอยู่
แต่อยู่มาวันหนึ่ง กฎใหม่ก็บอกว่ากินสุนัขติดคุก
2. ตัดไม้ขายทำบ้าน เคยมีคนตั้งบริษัทตัดไม้ขายจนรวย
แต่อยู่มาวันหนึ่ง กฎใหม่ก็บอกว่าตัดไม้ไม่ได้ติดคุก
3. เผาหญ้าในบ้าน เคยมีคนทำไร่ ทำสวน หญ้าเยอะ
แต่อยู่มาวันหนึ่ง กฎใหม่ก็บอกว่าเผาหญ้านี่เค้าจับนะ
4. กินเหล้าเมาสุรา เคยนั่งกินเหล้า จนเมามาย แล้วขับรถกลับบ้าน
แต่อยู่มาวันหนึ่ง กฎใหม่ก็บอกว่ากินเหล้าขับรถ ติดคุกเชียว

ปัญหาที่เห็นเหมือนกัน แต่เห็นไม่เหมือนกัน
https://www.facebook.com/ajburin/posts/10156052934733895

ผลการลงคะแนนเสียง #พรบคอม ไม่เห็นด้วย 0% แสดงว่าต้องดีจริง

ผล vote ict law
ผล vote ict law

วันที่ 16 ธันวาคม 2559 ที่ประเทศไทยมีการประชุม
ของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ #สนช
ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมประชุมจำนวนทั้งสิ้น 172 ท่าน
เพื่อลงคะแนนพิจารณา
ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ..
https://www.blognone.com/node/88369

 

ผลการลงคะแนน #voteictlaw ในจำนวนนี้ พบว่า
ไม่แน่ใจ มี 5 ท่าน คิดเป็นร้อยละ 2.91
เห็นด้วย มี 167 ท่าน คิดเป็นร้อยละ 97.09
ไม่เห็นด้วย มี 0 ท่าน คิดเป็นร้อยละ 0

 

https://ictlawcenter.etda.or.th/de_laws/detail/de-laws-computer-related-crime-act

เมื่อเข้าไปค้นใน wiki พบว่า
ปัจจุบัน สนช. คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2557 (31 กรกฎาคม 2557 – ปัจจุบัน)
ตั้งโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติหลังรัฐประหาร
และประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
แทน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550
เมื่อ 8 สิงหาคม 2557 สมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติได้มีการลงมติ
เลือกประธานและรองประธาน ผลปรากฏว่า
ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธาน
และ สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย เป็นรองประธานคนที่ 1
และ พีระศักดิ์ พอจิต เป็นรองประธานคนที่ 2

แล้วพบว่ารายชื่อที่แต่งตั้งทั้ง 4 รอบ
แสดงรายชื่อทุกท่านใน wiki
ล้วนเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา
ที่จะเข้ามาช่วยกันทำงานเพื่อประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ .. มีการทักท้วงเรื่อง พรบคอม
การไม่มีใครไม่เห็นด้วยเลย น่าจะเป็นคำตอบว่า
การทักท้วงไม่เป็นผล

ปัญหาในพรบคอม ที่มีการทักท้วงกัน
ปัญหาในพรบคอม ที่มีการทักท้วงกัน

http://www.posttoday.com/politic/470517

ปี 2559 และ 2558 ผลสอบแอดมิชชั่น 6 อันดับแรกเลือกสายสังคมศาสตร์ทั้งหมด

นั่งดูข้อมูลเด็ก ๆ ทั้ง 12 คน พบว่า
ปี 2559 จุฬา 4 ธรรมศาสตร์ 2 ปี 2558 จุฬา 4 ธรรมศาสตร์ 1 เชียงใหม่ 1
แสดงว่า เด็กในประเทศไทยที่เก่งเลือกเรียนจุฬากับธรรมศาสตร์เป็นส่วนใหญ่
เด็กทั้ง 12 คน เป็นเด็กต่างจังหวัด 6 คน กรุงเทพฯ 6 คน
แสดงว่า เด็กเก่งทั้ง 76 จังหวัดมีจำนวนเท่ากับเด็กเก่งที่กรุงเทพฯ จังหวัดเดียว
เด็กทั้ง 12 คน มาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา 3 คน ปรินส์ 2 คน สาธิตปทุมวัน 2
แสดงว่า โรงเรียนที่มีเด็กเก่งเข้าเรียนคงหนีไม่พ้น 3 โรงเรียนนี้ และโรงเรียนที่เหลือ

ศึกษานารี สายวิทย์ สอบติดยกห้อง
ศึกษานารี สายวิทย์ สอบติดยกห้อง

ก็อยากสรุปเหมือนกันนะครับ ว่า เดี๋ยวนี้เด็กเก่งเลือกเรียนสายสังคมมากกว่าสายวิทย์
แต่หลังผลสอบออก ข่าวโรงเรียนศึกษานารี ห้อง 6/3 จะดังกลบข่าวอื่นซะหมด
เด็กห้องนี้ 29 สายวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สอบติดยกห้อง
ส่วนห้องอื่นก็สอบได้มหาวิทยาลัยของรัฐทั้งสอบตรง และแอดมิชชั่น เฉลี่ย 95%
http://www.thairath.co.th/content/633720

จากข้อมูลที่มีการเผยแพร่โดย ทปอ. ปี 2559
ถึงผลสอบนักเรียน ม.6 เข้ามหาวิทยาลัย มีผู้สมัครแอดมิชชั่นส์ทั้งสิ้น 105,046 คน
มีผู้ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกาย จำนวน 85,834 คน
จากจำนวนรับทั้งสิ้น 156,216 คน
พบว่าคนที่สอบได้คะแนนสูง 6 อันดับแรก เลือกสายสังคมศาสตร์ มีดังนี้
ที่หนึ่ง เลือก คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ธรรมศาสตร์
จาก เตรียมอุดมศึกษา (สมัครรอบ 2)
ที่สอง เลือก คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่
ที่สาม เลือก คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ธรรมศาสตร์
จาก สุรนารีวิทยา นครราชสีมา
ที่สี่ เลือก คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก สาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ที่ห้า เลือก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก เตรียมอุดมศึกษา
ที่หก เลือก คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก อัสสัมชัญสมุทรปราการ
http://www.komchadluek.net/news/detail/229003
http://www.tlcthai.com/education/admission/111928.html
http://www.thairath.co.th/content/632708

สอดคล้องกับ ปี 2558 ที่ผลสอบแอดมิชชั่นได้คะแนนสูง
ที่หนึ่ง เลือก คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์-โฆษณา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน กรุงเทพฯ
http://www.thairath.co.th/content/504739
ที่สอง เลือก คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่
ที่สาม เลือก คณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน กรุงเทพฯ
ที่สี่ เลือก คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ธรรมศาสตร์
จาก โรงเรียนสตรีวิทยา กรุงเทพฯ
ที่ห้า เลือก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ
ที่หก เลือก คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
จาก โรงเรียนผดุงปัญญา ตาก
http://teen.mthai.com/education/94484.html

การทำผิดพรบ.คอมฯ 2550 ผ่าน fb ด้วยการโพสต์กระทบร่างรัฐธรรมนูญ

นั่งดูข่าว #now26
เห็นพูดถึง พรบ.คอมพิวเตอร์ด้วย น่าสนใจครับ
เพราะเป็นประเด็นที่ออกข้อสอบ
คำสำคัญในข่าวคือ
โพสต์เฟซบุ๊กด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ก้าวร้าว รุนแรง
เชื่อมโยงไปสู่การชี้นำว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
http://www.now26.tv/view/75913
อ่านดูผมว่า
น่าจะเป็น  มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
(๓) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

ดราม่าไปตามที่นักข่าวเขียนเล่า .. บอกซ้ายก็ซ้าย บอกขวาก็ขวา เขาบอกว่าอย่าเชื่อข่าว

ดราม่าไปตามที่นักข่าวเขียนเล่า .. บอกซ้ายก็ซ้าย บอกขวาก็ขวา เขาบอกว่าอย่าเชื่อข่าว

coconut 3 ลูก
coconut 3 ลูก

มีข้อมูลมาแชร์ครับ
ข้อมูลที่ 1 ขโมยมะพร้าว 3 ลูกไปให้เมียท้อง เจ้าของเรียกค่าเสียหาย 5 หมื่น ไม่จ่ายต้องเข้าคุก
https://www.facebook.com/dailynewsonlinefan/posts/1084607568249415
http://www.thairath.co.th/content/586573
ข้อมูลที่ 2 ชาวเน็ตแห่เห็นใจหนุ่มรักเมีย บอกว่าเจ้าของมะพร้าวแร้งน้ำใจ
ดราม่ากันยกใหญ่
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1457237211
ข้อมูลที่ 3 เจ้าของบอก เข้ามาขโมยของนับสิบ จนต้องติดกล้องแล้วถึงจับได้นี่หละ
และรู้สึกสังคมไม่ให้ความเป็นธรรมกับเจ้าของมะพร้าว
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1457252214
ข้อมูลที่ 4 คุณบุ๋มไปสืบมาแล้ว ประวัติผู้ขโมยไม่ธรรมดา
พึ่งพ้นโทษเสพยา และมีเพื่อนร่วมด้วย ออกหมายจับอยู่
ใครที่ดราม่าไปก็คงไม่แปลก
นักข่าวเค้าเลือกให้ข่าวครึ่งเดียว สื่อมาอย่างนั้น เขียนให้ดูว่าคนร้ายน่าเห็นใจ
แต่ใครนำไปใส่สีตีไข่ ป้าบอกว่าจะฟ้องตาม พรบ.คอมด้วยครับ
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1457194546
http://news.mthai.com/hot-news/general-news/482081.html

media power
media power