โหนกระแส จากบทความที่พูดถึง ตูน ตนบุญ กับท่าน ว.

เคยอ่านบทความ
เรื่องที่ ท่าน ว. วชิรเมธี พูดชื่นชมพี่ตูน ในความเสียสละ
แล้วเทียบสิ่งที่ทำได้คล้ายกับ ตนบุญแห่งล้านนา ครูบาศรีวิชัย
แล้ว คุณณัฐพงศ์ ดวงแก้ว นำประเด็นมาวิพากษ์ในเรื่องข้อมูล
ว่าข้อมูลของท่าน ว. วชิรเมธี คลาดเคลื่อน
แล้วให้อธิบายข้อมูลที่ถูกต้อง จากแหล่งที่ท่านคิดว่าเชื่อถือได้
หากสนใจข้อมูลเรื่องวิถีของพี่ตูน กับวิถีของครูบาศรีวิชัย
ต่างกันเช่นใดแล้ว ไปอ่านกันได้ใน GM Live

ตูน ตนบุญแห่งล้านนา
ตูน ตนบุญแห่งล้านนา

อีกคำที่น่าสนใจ คือ “โหนกระแส” เป็นชื่อบทความเลย
ผมเองทำประจำเลย
มีงานฤดูหนาว ผมหยิบกระแสหนาว ๆ มาพูด
ไม่ได้รอหน้าร้อนแล้วพูด พูดตอนหนาว ๆ นั่นหละ
หรือ
ช่วงร้อนแล้ง ห้ามเผา ก็จะโหนว่าเจอเผา เจอร้อน
ไม่ไปพูดเรื่องร้อน ตอนฝนตก
หรือ
เลขจำนวนวัด 58 106 108 ในบทความ
ผมก็โหนกระแสตอบเม้นท์ อ.เกียรติ
ว่าเลขน่าสน แต่ออก 98
น่าถ้าออก 58 คงดราม่าได้อีก
หรือ
ตอนที่ตูน วิ่งผ่านเกาะคา 19 ธ.ค.60
ผมก็โพสต์เพราะชื่นชม เข้าไปให้ข้อมูลครับ
ของผมเรียก ตามกระแสหลัก ใน Lampang City
เพราะโพสต์กันสนั่นหวั่นไหวเหมือนกัน

savetoon
savetoon

มาทบทวนนิยาม โหนกระแส อีกที
โหน = โหน + กระแส
ผมว่านะ จะใช้โหนกระแส ต้องแรงหน่อย
ถ้ากระแสหลักไม่แข็งพอ
กระแสหลักอาจถูกโหนจนเอียงไปได้
หากไม่สะเทือน ก็น่าจะใช้คำว่า เกาะกระแส แทน
เพราะไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดเลย
ส่วน รีวิวหนัง ก็เป็นได้ทั้ง เกาะกระแส และ สร้างกระแส
#เจ้าประจำ #ตามกระแส #เกาะกระแส #โหนกระแส #สร้างกระแส

คำนี้ เป็นชื่อรายการทีวีเลย คือ รายการโหนกระแส
https://www.facebook.com/HKS2017/

คำว่า โหนกระแส นั้น
จะใช้โหนกระแส ต้องมีผลกระทบที่แรงพอ
จนกระแสหลักเอียงเล็กน้อย หรือเห็นได้ชัดพอ
หากไม่สะเทือนกระแสหลัก
ก็น่าจะใช้คำว่า เกาะกระแส ก็พอ
เพราะไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใด
อีกคำที่น่าจะใช้ได้ คือ ตามกระแส
หากกระแสเค้าไปของเค้า เราแค่ตามไปใกล้ไกลก็แล้วแต่
กระแสหลักอาจไม่รู้ว่าถูกตามก็ได้

คนขี้อาย กับคนไม่ขี้อาย

คนขี้อาย กับคนไม่ขี้อาย
คนขี้อาย กับคนไม่ขี้อาย

วันศุกร์ที่ 27 มี.ค.58 (วันที่ในภาพผิดครับ)
คุยให้ใครคนหนึ่งฟ้ง ผู้ฟัง .. หัวเราะหึหึ
ผมบอกว่า พบคนขี้อาย และคนไม่ขี้อาย
สำหรับคนที่ไม่ขี้อายก็เห็นมีแต่พระสงฆ์
ท่านมีวิถีสมถะ ปล่อยวาง สงบเย็น น่าชื่นชม
สมัยนี้คนเราอายกันง่าย .. มี ต.ย. ที่น่าสนใจ
– ใช้โทรศัพท์เก่า ก็อาย ไม่กล้ารับโทรศัพท์ต่อหน้าใคร
– สวมเสื้อผ้าสีไม่เข้ากัน สีไม่สดใส ก็อาย ไม่อยากไปไหน
– หน้าตาไม่ได้ทาแป้ง ก็อาย ไม่กล้าให้ใครเห็นหน้าสด
– ผมหงอก ก็อาย กลัวเขาว่าแก่เฒ่า เห็นเส้นหนึ่งก็ต้องถอน
– ทานเตี๋ยว ก็อาย ไม่กล้าอัพรูป จะอัพอาหารฝรั่ง กับญี่ปุ่น
– ขับรถเก่า ก็อาย ไม่อยากให้ใครเห็น ไปซื้อรถใหม่
ผมว่าเป็นธรรมชาติของคนขี้อายครับ
แต่ทั้งหมดนั่น พระท่านที่ปล่อยวาง พูดว่า “มันเป็นเช่นนั้นแล”

หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด

หลวงตามหาบัว กับคำสั่งเสีย
หลวงตามหาบัว กับคำสั่งเสีย

5 มี.ค.54 หลวงตามหาบัวแห่งวัดป่าเกสรศีลคุณ (วัดป่าบ้านตาด)
ละสังขารแล้วเมื่อวันที่ 30 ม.ค.2554 เวลา 03.53 น. สิริรวมอายุ 98 ปี หลังอาพาธด้วยอาการปอดติดเชื้อมาเป็นเวลานาน ในเวลาต่อมาชาวพุทธเข้าสักการะสรีระสังขารหลวงตามหาบัว ณ วัดป่าบ้านตาด และร่วมพิธีพระราชทานเพลิงในวันที่ 5 มี.ค.2554 เริ่ม 13.00น.
คำสั่งเสีย “มือของครูอาจารย์ กับมือของลูกศิษย์ลูกหา ญาติมิตรเพื่อนฝูง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ใช้แทนกันได้ ไว้ใจกันได้” และมีคำสั่งเสียอื่น อาทิ ใช้หีบไม้ และไม่สร้างเจดีย์ .. เป็นธรรมทานให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้สัจธรรม .. คล้ายกับพระพุทธทาส
http://www.atnnonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=26828:2011-03-03-15-26-35&catid=83:variety&Itemid=77
http://www.thairath.co.th/today/view/153594
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJNU5qUXdNREV5TVE9PQ==

พระสงฆ์-สามเณร ฮิตเล่นบีบี มส.สั่งเจ้าอาวาสกวดขันการห้ามที่สาธารณะ

blackberry chat
blackberry chat

2 ม.ค.54 นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 1 มกราคมว่า ปี 2553 ที่ผ่านมา มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระสงฆ์ประมาณ 400 เรื่อง น้อยกว่าปี 2552 ที่มีกว่า 500 เรื่อง เรื่องที่มีการร้องเรียน อาทิ พระปลอมอาศัยผ้าเหลืองหากิน พระสงฆ์ออกมาบิณฑบาตไม่เหมาะสม เป็นต้น รวมทั้งปัญหาความไม่เหมาะสมในการใช้เทคโนโลยีของพระสงฆ์และสามเณร เช่น พบว่ามีพระสงฆ์บวชใหม่ (บวชระยะสั้น) และสามเณร นิยมเล่นบีบี (แบล็กเบอร์รี่) โทรศัพท์มือถือสุดฮิต ที่สื่อสารด้วยโปรแกรมแช็ตในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น สถานที่สาธารณะ เป็นต้น

“ผมมองว่าการใช้บีบีของวัยรุ่นยุคนี้ไม่เหมาะสม เพราะดูแล้วเกินความจำเป็น ส่วนกรณีพระสงฆ์และสามเณรนิยมใช้บีบีในสถานที่สาธารณะยิ่งไม่เหมาะสม ที่ผ่านมาสำนักเลขาธิการ มส.ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองระดับต่างๆ รวมทั้งเจ้าอาวาสที่อยู่ใกล้ชิดกับพระสงฆ์และสามเณรมากที่สุด ให้เข้มงวด และกวดขันดูแลเรื่องการใช้เทคโนโลยีของสามเณร โดยเฉพาะพระสงฆ์บวชใหม่ในปกครองให้มากขึ้น เพราะพบว่าปัจจุบันพระสงฆ์และสามเณรนิยมเล่นบีบีในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมมาก ขึ้น” นายอำนาจกล่าว

นายอำนาจกล่าวว่า “หากพระสงฆ์หรือสามเณรนำเทคโนโลยีไปใช้เป็นเครื่องมือเผยแผ่ธรรมะ ถือเป็นเรื่องดี และไม่น่าเสื่อมเสีย แต่หากนำไปใช้ในทางที่ผิด อาจเกิดความเสียหาย และถูกสังคมติติงว่าไม่เหมาะสมได้ ที่ผ่านมาปรากฏเป็นข่าวตลอดว่าพระสงฆ์บางรูปที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาทิ พระสงฆ์ใช้เฟซบุ๊กพูดคุยกับผู้หญิง และใช้คำพูดไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ปัญหาการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสม ส่วนใหญ่จะเกิดกับพระสงฆ์ที่เพิ่งบวชใหม่และสามเณร เนื่องจากยังไม่ทราบกฎระเบียบชัดเจน และยังละทางโลกไม่ได้ จึงต้องให้เจ้าอาวาสเข้มงวดเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด”

ข่าว : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1293938410

เว็บมาสเตอร์ : ในความเห็นของผมแล้ว .. เห็นด้วยกับคุณอำนาจทุกประเด็น ปัญหาอยู่ที่พระบางรูป ยังไม่ทราบกฎระเบียบชัดเจน และยังละทางโลกไม่ได้ .. ถ้าละทางโลกได้ปัญหาการใช้ BB ในทางไม่ถูก ไม่ควร คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

งานศพบนวิถีการให้เกียรติ 360 องศา

ภาพประกอบจาก พิธีศพของท่านพุทธทาส
ภาพประกอบจาก พิธีศพของท่านพุทธทาส

      ได้รับเชิญไปร่วมพิธีประชุมเพลิง หรือพิธีฌาปนกิจศพ ของผู้สูงอายุในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ท่านเป็นครูเก่าบวชเรียนมาแต่เยาว์ และมีลูกหลานหลายคน ลูกแต่ละคนก็มีหน้าที่การงานที่ดี ในหมู่หลานนับสิบคน ก็มีหลานที่เรียนจบแล้วอยู่หลายคน
        ไปร่วมประมาณ 10.00 น. ทำพิธีและทานอาหารกันเสร็จก็ประมาณ 12.00 น. ผมไปรอที่วัด ส่วนผู้สูงอายุในหมู่บ้านก็ทะยอยกันกลับบ้าน ยกเว้นคนหนุ่มสาว กับเพื่อนบ้านใกล้ชิด ที่ไปร่วมพิธีประชุมเพลิง ช่วยกันลากล้อที่มีศาลาราคา 2 หมื่นกว่าบาทเป็นหนึ่งในเครื่องทาน ส่วนผู้มีเกียรติมากหน่อยก็จะไปรอที่ฌาปนสถาน เพื่อร่วมพิธีประชุมเพลิง ระหว่างลากรถไปฌาปนสถานจะโปรยทานไปด้วย ใครได้เบอร์ที่ห่อไว้ในเหรียญตรงกับอายุ ก็ให้ออกไปรับซองรางวัล เป็นการชิงโชค หรือความเอื้ออาทรของเจ้าภาพ
       กว่าจะลากศพไปถึงฌาปนสถาน ก็ประมาณ 13.00 น. เพราะรอแม่บ้านล้างจาน และเตรียมชื่อแขก เพราะมีผู้มีเกียรติในงานที่ต้องออกไปวางผ้า 99 ท่านพอดี ประกอบด้วยผ้าตามอายุ 85 ผืน และผ้าไตรบังสุกุลอีก 14 ผืน พระสงฆ์ใช้เวลาสวดไม่นาน ก็เริ่มเชิญแขกไปวางผ้าทั้ง 99 ผืน แล้วเจ้าภาพก็มอบซองเงินสนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ เช่น โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก สถานีอนามัย และกลุ่ม รวม 12 ซอง จากนั้นก็ให้ตัวแทนเจ้าภาพอ่านประวัติผู้ล่วงลับในหนังสือที่แจกให้ สุดท้ายเสร็จพิธีด้วยการเปิดให้ผู้ร่วมงานนำดอกไม้จันทร์ไปวางหน้าศพบนเมรุ ในเวลาประมาณ 14.30 น.