ฟันธงแล้ว เลิกแจกแท็บเล็ต ป.1

tabletpc ป.1
tabletpc ป.1

อวสานประชานิยม!  ‘แจกแท็บเล็ตป.1’
คสช.ยกเลิกโครงการยกพวง สั่งเปลี่ยนแปลงงบประมาณไปใช้อย่างอื่นที่เกิดประโยชน์ต่อเด็กมากกว่า มอบ ศธ.ไปคิดโครงการใหม่มา

http://www.komchadluek.net/detail/20140616/186608.html

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2557  นางสุทธศรี  วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายสังคมจิตวิทยา เพื่อพิจารณาโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน  ว่า ภายหลังหารือร่วมกันโดยวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ของโครงการแจกแท็บเล็ต โดยนำผลการวิจัยที่ทำโดยหน่วยงานที่เป็นกลาง อาทิ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) รวมไปถึงผลการติดตามการดำเนินโครงการตั้งแต่ปีใบประมาณ 2556  ซึ่งเป็นปีแรกที่เริ่มดำเนินโครงการมาร่วมพิจารณาด้วย  ทุกฝ่ายมีมติร่วมกันว่าควรจะเปลี่ยนแปลงงบประมาณของแท็บเล็ตที่เหลือทั้งหมด ไปใช้ทำโครงการอื่นที่เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน มากกว่า

“เหตุผลที่ตัดสินใจยุติโครงการแท็บเล็ต ทั้งในส่วนของปีงบประมาณ 2556 ซึ่งเหลือการจัดซื้อในโซนที่ 4 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ) วงเงิน 1,170 ล้านบาท และการจัดซื้อแท็บเล็ต ปีงบประมาณ 2557 จำนวน 5,800  ล้าน นั้นยึดเรื่องผลประโยชนต่อผู้เรียนเป็นหลัก โดยหลายฝ่ายเห็นว่าถ้านำไปทำโครงการอย่างอื่น อย่างเช่น สมาร์ทคลาสรูม  อีเลิร์นนิ่ง  เป็น ห้องคอมพิวเตอร์ไว้ที่โรงเรียน ให้นักเรียนหมุนเวียนมาใช้ จะเกิดประโยชน์ในวงกว้างมากกว่า ขณะเดียวกันยังไม่ต้องเสียงบประมาณจัดซื้อทุกปี เหมือนโครงการแจกแท็บเล็ต ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบให้ศธ. ตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาโครงการที่เหมาะสมมาแทน”

แหล่งข่าวระดับสูงจาก ศธ. เปิดเผยว่า ประชุมได้มอบให้ปลัด ศธ. ทำเรื่องเสนอไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงรายการ และขอกันเงินงบประมาณแบบไม่มีหนี้ด้วย  ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง โดยมีข้อสรุปว่านักเรียนทุกคนไม่จำเป็นต้องได้รับแจกแท็บเล็ตเป็นของตนเอง เพราะใช้แท็บเล็ตเรียนเพียงแค่ 1-2 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น จึงถือว่าไม่คุ้มค่า และไม่เหมาะสมที่จะจัดซื้อให้แก่นักเรียนทุกคน ขณะเดียวกันยังเห็นว่าแท็บเล็ตไม่เหมาะที่จะนำมาใช้สอนนักเรียนตลอดเวลา ควรใช้ในการเรียนการสอนบางชั่วโมงเท่านั้น และเด็กๆ ควรเรียนรู้จากครูผู้สอน

อีกทั้งแท็บเล็ตถือเป็นครุภัณฑ์ของโรงเรียน จึงไม่เหมาะสมที่จะไปมอบให้นักเรียนเป็นของส่วนตัวได้ โดยคณะกรรมการว่าด้วยพัสดุ กรมบัญชีกลาง ก็ได้ระบุมาว่าจะมอบแท็บเล็ตให้แก่นักเรียนไม่ได้ นอกจากนี้แท็บเล็ตยังมีขนาดหน้าจอที่เล็ก ทำให้นักเรียนมีปัญหาด้านสายตา ส่วนคุณภาพของเครื่องเนื่องจากมีราคาถูก ทำให้แท็บเล็ตมีคุณภาพต่ำ มีอายุใช้งานที่สั้นเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น และไม่คุ้มค่าเมื่อต้องมีการซ่อมแซม

ภาพประกอบจาก
http://www.manager.co.th/politics/ViewNews.aspx?NewsID=9560000107226