สรุปสั้น ๆ โพนี่ หม่า บุรุษผู้ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย ที่อ่านจาก ceoblog.co

Ma Huateng หรือที่รู้กันในชื่อ Pony Ma
กลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชียในเดือนสิงหาคม 2560
จากข้อมูลที่เขียนโดย Russell Flanney (Forbes staff)

Ma Huateng หรือที่รู้กันในชื่อ Pony Ma
Ma Huateng หรือที่รู้กันในชื่อ Pony Ma

ขึ้นมาแทน
แจ็ก หม่า (Alibaba)
ลี กาซิง (Cheung Kong Holdings)
หวัง เจี้ยนหลิน (ต้าเหลียนแวนด้า-บริษัทอสังหาริมทรัพย์)
หรือ ซู เจียหยิน (Evergrande Group-บริษัทอสังหาริมทรัพย์)

https://www.ceoblog.co/ma-huateng-story/
https://www.forbes.com/sites/russellflannery/2017/08/07/tencent-chairman-ma-huateng-overtakes-alibabas-jack-ma-as-chinas-richest-man/

– โพนี่ หม่า เป็นเจ้าของอาณาจักรออนไลน์ยักษ์ใหญ่ที่สุดของจีน นาม Tencent
– เคยเป็นโปรแกรมเมอร์ เงินเดือน 1,100 หยวน ($176 )
– เคยทำงานที่ บริษัท China Motion Telecom Development และ บริษัท Shenzhen Runxun Communications
– โพนี่ หม่า ร่วมกับเพื่อน 3 คน ก่อตั้งบริษัท Tencent ขึ้นมาในปี 1998
– รับบริการวางระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่ายสำหรับองค์กร
– เปิดบริการ OICQ (หรือ Open ICQ) ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1999
– เพิ่มทุนโดย Naspers จากแอฟริกาใต้ เข้ามาร่วมลงทุนกับ Tencent มีหุ้นถึง 46% แลกกับการพยุงธุรกิจ
– Naspers คือเจ้าของ Mweb และเข้าซื้อ Sanook.com และมี Sanook QQ
– ต่อมา MWeb ขาย sanook.com ให้กับ Tencent 341 ล้านบาท (เค้าว่าถูกมากในตอนนั้น)
– AOL (America Online) ซื้อ ICQ 1998 ฟ้อง Tencent ปี 1999 ที่จดโดเมน QICQ.com และ QICQ.net
– ทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น QQ ให้เสียงพ้องกับ Cute และจด QQ.com ทำเป็น Portal website
– Tencent เริ่มมีกำไร 51 ล้านบาท จากค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้น
– QQ ทำรายได้จากการขายการแต่ง Avatar ให้กับผู้ใช้ และมีรายได้ จึงเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพทย์
– 2004 Tencent เข้าตลาดเกมออนไลน์ โดยซื้อลิขสิทธิ์เกมทั้งญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ไปให้บริการในจีน และเริ่มพัฒนาเกมของตนเอง
– 2005 เปิดตัวอีคอมเมิร์ซแบบ C2C : paipai.com ตั้งใจเป็นคู่แข่งกกับ taobao.com ของ alibaba
– 2006 ลงทุนสร้างสถาบันวิจัยด้านอินเทอร์เน็ตแห่งแรกของจีน และเปิด search engine อันดับ 3 คือ soso.com ที่รองจาก baidu และ google
– จีนมีกฎหมาย ตรวจทุกโพสต์ก่อนขึ้นออนไลน์ ทำให้ google, youtube และ facebook ยังเข้าจีนได้ไม่ 100%
– 2011 เปิดตัว wechat/weixin ที่มีผู้ใช้กว่า 800 บ้านคน หรือ 48% ของคนทั่วโลก เป็นตัวแรก
– และซื้อ Whatsapp ที่มีฐานผู้ใช้กว่า 800 ล้านเป็นตัวที่ 2
– ขยายตลาดทำ Fintech เป็นรองก็แต่ Alipay ของ Alibaba
– เริ่มลงทุนใน video, music, ebook, software ทั้ง pc และ mobile, antivirus, browser และ app store
– Tencent ยังเข้าซื้อบริษัทจำนวนมากอีกด้วย ทำให้เติบโตอย่างรวดเร็ว จนเป็นอันดับ 1 จากมูลค่าในหลักทรัพย์

เนื้อหา อ้างอิง จากบทความของ คชาราช วารีสุนทร ใน ceoblog.co
https://www.ceoblog.co/author/admin6/

แล้วผมแชร์ต่อที่ http://www.thaiall.com/digitalcommunity/