1 ม.ค.53 มีโอกาสเป็นตัวแทนนักศึกษา และตัวแทนอาจารย์ ร่วมกับภรรยา และนักศึกษารวมกว่า 8 ชีวิต รับหน้าที่ช่วยผู้ใจบุญที่มาร่วมกิจกรรมตกมัจฉากับกาชาดลำปาง เป็นงานบุญที่ช่วยเหลือผู้ใจบุญที่ไปร่วมให้ทานในงานฤดูหนาวและงานกาชาดจังหวัดลำปาง ประจำปี 2553 จัดขึ้นระหว่าง 26 ธันวาคม 2552 ถึง 4 มกราคม 2553 โดยงานนี้มีนางปริญดา บุญฤทธิพงษ์ นายกเหล่ากาชาด คอยอำนวยการทุกฝ่ายในบูทของกาชาดลำปางอย่างเต็มที่ ทีมนักศึกษาโยนกและผม อยู่กับท่านตั้งแต่ 17.00น. – 24.00น. โดยประมาณ ขนาดผมยังหนุ่ม ๆ ยังเหนื่อยแทบแย่ แต่ท่านนายกอายุปูนนั้นยังกระปรี้กระเปร่ากลับบ้านทีหลังผมซะอีก และท่านก็อยู่ทุกวัน แต่ผมมาวันเดียวก็เหนื่อยแทบแย่แล้ว งานนี้เป็นงานบุญล้วน ๆ เพราะผู้ประกาศบอกว่าภารกิจของกาชาดคือช่วยเหลือผู้เดือดร้อนทั้งในจังหวัด และจังหวัดใกล้เคียง ทุกคนที่มาช่วยงานเป็นอาสาสมัครทั้งสิ้น ไม่มีอามิสสินจ้างใดเลย เย็นวันนี้นอกจากโยนกก็ยังมีเจ้าหน้าที่จากขนส่งและประกันสังคมมาร่วมช่วยงานกันขันแข็ง อีกสิ่งที่ประทับใจคือกาชาดเลี้ยงก๋วยจั๊บแสนอร่อยรอบดึกแก่ทีมงานอาสาทุกคนในเวลาประมาณสี่ทุ่ม
คนกาชาดส่วนใหญ่เป็นคนเสียสละ ผมรู้มาว่าคนกาชาดมักเป็นผู้บริจาคโลหิต หรือเกร็ดเลือด เพราะเป็นทานโดยใช้สิ่งที่มีอยู่ในร่างกายของเราโดยตรง เป็นสิ่งที่เหลือใช้จากร่างกาย จะยากดีมีจนก็มีสิทธิ์เท่าเทียมกัน และยังสามารถทำได้ปีละหลายครั้ง ผู้รับเลือดเราไปก็ยังนำไปใช้ประโยชน์ในร่างกายของเขาได้ง่าย และคนกาชาดมักเป็นผู้บริจาคอวัยวะ ซึ่งเป็นความดีที่ไม่สิ้นสุดคือการอุทิศอวัยวะเมื่อยามสิ้นสูญ แต่ทำได้เพียงครั้งเดียวและต้องพิจารณาความเหมาะสมของอวัยวะเป็นรายไป คนที่มีความประสงค์และมีผู้นำอวัยวะไปใช้ประโยชน์ได้นับว่าเป็นผู้มีโชคที่ได้ทำบุญครั้งสุดท้ายของชีวิตในแบบที่ทำกันได้ยากยิ่ง และคนกาชาดยังเป็นผู้บริจาคร่างกายให้นักศึกษาแพทย์นำไปศึกษา หรือที่เรียกว่าอาจารย์ใหญ่ ทำให้พวกเขาได้เรียนรู้และมีประสบการณ์ตรงจากการเรียนรู้ร่างกายของเราอย่างละเอียด ซึ่งมนุษย์เราทำได้เพียงครั้งเดียว และเงื่อนไขก็ทำให้การบริจาคร่างกายทำได้ยากขึ้น โดยเฉพาะข้อจำกัดเรื่องอายุ โรคที่ทำให้ตาย และความสมบูรณ์ของร่างกาย .. ก็ต้องชื่นชมคนกาชาดที่มีทานเป็นอุดมการณ์นำชีวิตทุกคน และพวกเราชาวโยนกก็จะทะยอยยึดเป็นแนวปฏิบัติกันต่อไป