การใช้ scratch สร้างโปรแกรมพิมพ์ 1 ถึง 5

scratch programming tool
scratch programming tool

ทราบข่าวว่า google สนับสนุนให้เด็กที่สหรัฐ
เรียนรู้ วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science)
มีคลิ๊ปและรายละเอียดที่ https://www.cs-first.com/overview
เคยสนใจเรื่องพิมพ์ตัวเลข
จึงลองใช้ scratch ที่ https://scratch.mit.edu สร้างโปรแกรม
เพื่อพูด 1 ถึง 5 แบบทำซ้ำ
พูด 1 จำนวน 1 ครั้ง คั่นด้วย , ทุกครั้ง แล้วเลื่อนเป็น 2
พูด 2 จำนวน 2 ครั้ง คั่นด้วย , ทุกครั้ง แล้วเลื่อนเป็น 3
ไปถึง 5
พูด 5 จำนวน 5 ครั้ง คั่นด้วย , ทุกครั้ง แล้วหยุด
โดยพิมพ์ผ่าน say

ตัวอย่างการใช้ randomnumber กับภาษาจาวา
http://wpbcsc115.weebly.com/uploads/1/3/6/8/13682593/simplerandomnumbers.pdf

ยุคใหม่ของวิทยาการคอมพิวเตอร์ (itinlife537)
โอบาม่ากล่าวผ่าน whitehouse.gov ที่เผยแพร่เมื่อ 30 มกราคม 2559 ว่า “ในเศรษฐกิจยุคใหม่ วิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science) จะไม่เป็นเพียงทักษะทางเลือก แต่จะเป็นทักษะพื้นฐาน” ที่มีทั้งการอ่าน การเขียน และการคำนวณ แล้วเขาจะหางบ 4 พันล้านเหรียญมาผลักดันหลักสูตรวิทยาการคอมพิวเตอร์ให้มีการเรียนในระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา ซึ่งเดิมจะเน้นให้อ่านออกเขียนได้ แต่ยุคใหม่ต้องให้การคำนวณเป็นทักษะพื้นฐานของเยาวชนทุกคน แม้ว่าหางบประมาณก้อนใหญ่ไม่ได้ ก็ยังหน่วยงาน National Science Foundation ได้เตรียมงบ 135 ล้านเหรียญไว้อบรมพัฒนาครูผู้สอนให้มีความสามารถทางวิทยากรคอมพิวเตอร์ไว้แล้ว
อเมริกาเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ถือเป็นจุดแข็ง เพราะเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน มีผลงานของคนในประเทศ อาทิ Facebook.com, Microsoft.com, Google.com, Apple.com, Oracle.com ดังนั้นการเสริมจุดแข็งจึงเป็นสิ่งที่ตอกย้ำความสำเร็จว่าเดินไปถูกทาง โดยมองไปที่การพัฒนาการศึกษาที่บูรณาการกับวิทยาการคอมพิวเตอร์สำหรับเด็กตั้งแต่เริ่มอ่านออกเขียนได้ ในอนาคตเศรษฐกิจของทุกประเทศทั่วโลกจะยึดโยงกับเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่ประเทศจีนมีคุณแจ็ค หม่า ที่ทำ Alibaba.com บริการ B2B ก็ขึ้นอันดับหนึ่งของคนรวยที่สุดในจีนแล้ว ที่ประเทศอังกฤษในอดีตมีคุณอลัน ทัวริ่ง ผู้คิดค้นเครื่องถอดรหัสเครื่อง Enigma ของเยอรมันจนทำให้สงความยุติลงเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ถือเป็นผลงานที่ต้องจดจำ และได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งวิทยาการคอมพิวเตอร์
จากการสำรวจทักษะคนงานไทยเพื่อเตรียมออกไปทำงานในประเทศกลุ่มอาเซียน พบว่า ทักษะภาษาอังกฤษน่าเป็นห่วงมากที่สุด และทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นปัญหารองลงมา เราคงไม่ต้องถามว่าแข่งกับใครอย่างไร คงต้องถามว่าจะพัฒนาคนไทยอย่างไรมากกว่า เพราะปัญหาความเข้าใจในเทคโนโลยีสารสนเทศของคนไทยมีกันในทุกระดับ ตั้งแต่ปัญหาโรงเรียนเล็กที่มีเด็กไม่ถึง 60 คน ส่งผลถึงจำนวนครูในโรงเรียน และส่งผลถึงงบประมาณทุกด้าน ปัญหาการให้ความสำคัญของภาครัฐและเอกชนที่จะใช้และให้บริการสารสนเทศอย่างจริงจัง ปัญหาผู้บริหารที่จะใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารจัดการในองค์กร เพราะถ้าเด็กในปัจจุบันขาดทักษะไอทีก็เชื่อได้ว่าทักษะของผู้ใหญ่ในปัจจุบันก็ต้องอ่อนแอถึงอ่อนมากเป็นธรรมดา
http://tinyurl.com/js9ssod


ม.3 ของไทยก็เรียน C# นะครับ
ได้อ่านหนังสือวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำหรับ ม.3
มีบทที่ 3 การพัฒนาโปรแกรม หน้า 39 – 68
มีเนื้อหาสอนการใช้โปรแกรมประเภท IDE คือ Sharpdevelop
http://www.thaiall.com/csharp/sharpdevelop/
น่าสนใจครับ กับแนวทางพัฒนา Computer Science ของประเทศต่าง ๆ

สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่าน่าร็อก

แตกต่างได้ พ่อแม่รับได้มากขึ้นแล้ว
แตกต่างได้ พ่อแม่รับได้มากขึ้นแล้ว

วันนี้เลือกดูหนังเรื่องนี้
เพราะเห็นหน้าตานางเอก เหมือนเคยเห็นที่ไหนสักแห่ง
นั่งดูแล้วก็ไม่ผิดหวัง
เนื้อเรื่องสอนให้เรายอมรับในความแตกต่าง
เพลงก็ดีครับ เห็นร้องตั้ง 3 รอบ
ชื่อเพลง “เกิดมาเพื่อสิ่งนี้
เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ สิ่งเล็กเล็กที่น่าร็อก
[มีประเด็นชวนคิด]
ตอนช่วงท้าย ๆ ก่อนจบ ดูแล้วรู้สึกขาดความสมเหตุสมผล
ที่นางเอกจะขอให้หยุดการประกาศผลการแข่งขันวงดนตรี
แล้วรอให้ทุกคนได้ดู ได้เห็นความสำคัญว่า “ตนเองกำลังบอกรักแฟน”
ในชีวิตจริงไม่น่าเป็นอย่างนี้ .. ดูแล้วก็อย่าไปเชื่อหนังมาก
แล้วมีคำถามเรื่อง การเล่นดนตรีชนะของนักเรียน
เคยมีคนตั้งคำถามว่า โรงเรียนสนับสนุนอะไร ตามสาระการเรียนรู้ไหน
ถ้าไม่เคยสอนอะไร จะถือเป็นผลงานของโรงเรียนได้อย่างไร
ท่านยกตัวอย่างว่า เรียนหมอ แต่มีอาชีพเสริมไปเป็นนักบิน
หรือ เรียนกฎหมาย แต่ไปแข่งชนะร้องเพลง เป็นต้น

เห็นต่างไม่เห็นแปลก ไม่เหมือนแล้วไง
แค่ไม่ต้องไปรบกวนใครก็พอ
ทุกคน ทุกอย่าง ต่างเกิดมาเพื่อเป็น
ในสิ่งที่เป็นได้ดี แค่นี้พอ

เข้าใจตรงกันนะ ว่าเราไม่เหมือนกัน
เธอก็เป็นของเธอ ไอ้ฉันก็เป็นของฉัน

เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ถูกสร้างมาอย่างนี้
ดีกันไปคนละอย่าง
เกิดมาเพื่อสร้างสรรค์ จินตนาการของฉัน
มันเป็นคนละทาง

ขออภัยถ้าเกิดไปรบกวน
ให้ขบวนต้องรวนเป็นบางครั้ง
ไม่เข้าใจ ก็อย่าขวาง
แค่ปล่อยไปให้ฉันเป็น

โลกยัง กว้างใหญ่ ยังคงมีพื้นที่
ให้เรากระจายได้ฝันกัน อย่าได้แคร์
เข้าใจตรงกันนะ ว่าเราไม่เหมือนกัน
เธอก็เป็นของเธอ ไอ้ฉันก็เป็นของฉัน

เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ถูกสร้างมาอย่างนี้
ดีกันไปคนละอย่าง
เกิดมาเพื่อสร้างสรรค์ จินตนาการของฉัน
มันเป็นคนละทาง

ขออภัยถ้าเกิดไปรบกวน
ให้ขบวนต้องรวนเป็นบางครั้ง
ไม่เข้าใจ ก็อย่าขวาง
แค่ปล่อยไปให้ฉันเป็น

อยากทำอะไรก็ทำไป
แต่อยากแจมเมื่อไรก็เข้ามา
ก็เข้ามา ก็เข้ามา ก็เข้ามา

เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ถูกสร้างมาอย่างนี้
ดีกันไปคนละอย่าง
เกิดมาเพื่อสร้างสรรค์ จินตนาการของฉัน
มันเป็นคนละทาง

ขออภัยถ้าเกิดไปรบกวน
ให้ขบวนต้องรวนเป็นบางครั้ง
ไม่เข้าใจ ก็อย่าขวาง
แค่ปล่อยไปให้ฉันเป็น
แค่ปล่อยไปให้ฉันเป็น

ขออภัยถ้าเกิดไปรบกวน
ให้ขบวนต้องรวนเป็นบางครั้ง
ไม่เข้าใจ ก็อย่าขวาง
แค่ปล่อยไปให้ฉันเป็น

คำร้อง/ทำนอง สุทธิพงษ์ วัฒนจัง
เรียบเรียง Rupee, มัชฌา งามสุทธิ, ชลทัศน์ ชาญศิริเจริญกุล

สิงโต กับมด (lion and ant)

เรื่องแต่งเกี่ยวกับ สิงโต กับ มด เปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมงานอีกหลายประเภท และการทำงานอย่างเป็นระบบ เป็นทีม มีกลไกชัดเจน ที่อาจไปสอดคล้องกับบริษัท หรือหน่วยงานใดก็ได้
* ของฝรั่งมี 1) สิงโต 2) มด 3) แมลงสาบ (หัวหน้า) 4) แมงมุม (เลขา) 5) แมลงวัน (ฝ่ายไอที) 6) จั๊กจั่น (หัวหน้าแผนก) 7) นกฮูก (ที่ปรึกษา)
* ของไทยมี 1) สิงโต 2) มด 3) แมลงสาบ (หัวหน้า) 4) ควาย (เลขา) 5) ตัวเห็บ (ฝ่ายไอที) 6) ตัวทาก (หัวหน้าแผนก) 7) ตัวเหี้ย (ที่ปรึกษา)

ปัญหาเรื่อง สิงโต กับมด เป็นเรื่องของ Leader ship ล้วน ๆ เลย
จะไปโทษปี่โทษกลองไม่ได้แน่ ๆ แต่ถ้าสิงโตมาอ่านก็คงบอกว่า
มด คือ ตัวปัญหา ตามคำแนะนำของ นกฮูก

เรื่องราวแนวนี้ .. ทำให้นึกถึงหนังสือ “โศกนาฏกรรมองค์กรหลงทิศ
เกี่ยวกับการบริหารจัดการของบริษัทน้ำพริก ที่เห็นภาพปัญหาได้ชัดมาก
ที่เขียนโดย สุธี ปิงสุทธิวงศ์ สุรีพันธุ์ เสนานุช และยิ่งศักดิ์ นันทิวรรณกุล
http://www.thaiall.com/blogacla/admin/1490/

สิงโต กับมด
สิงโต กับมด

ชอบตรง ไอทีนี่หละ เค้ายกสัตว์มา 2 ชนิด
คือ ตัวเห็บ กับ แมลงวัน
555 หัวหน้าจะคิดว่าเรา
เป็น “ตัวเห็บ” หรือ “แมงวัน” นะ

Story ..
Every day, a small ant arrives at work very early and starts work immediately.
.
She produces a lot and she was happy.
.
The chief, a lion, was surprised to see that the ant was working without supervision.
.
He thought if the ant can produce so much without supervision, wouldn’t she produce even more if she had a supervisor!
.
So he recruited a cockroach who had extensive experience as supervisor and who was famous for writing excellent reports.
.
The cockroach’s first decision was to set up a clocking in attendance system.
.
He also needed a secretary to help him write and type his reports and …
.. he recruited a spider, who managed the archieves and monitored all phone calls.
.
The lion was delighted with the cockroach’s reports and asked him to produce graphs to decribe production rates and to analyse trends, so that he could use them for presentations at Board’s meetings.
.
So the cockroach had to buy a new computer and a laser printer and …
… recruited a fly to manage the IT department.
.
The ant, who had once been so productive and relaxed, hated this new plethora (มากมาย) of paperwork and meetings which used up most her time…!
.
The lion came to the conclusion that it was high time to nominate (ระบุชื่อ) a person in charge of the department where the ant worked.
.
The position was given to the cicada (จั๊กจั่น), whose first decision was to buy a carpet and an erogonomic (เหมาะกับการทำงาน) chair for his office.
.
The new person in charge, the cicada, also needed a computer and a personal assistant, who he brought from his previous department, to help him prepare a Work and Budget Control Strategic Optimisation Plan…
.
The Department where the ant works is now a sad place, where no body laughs anymore and everybody has bcome upset…
.
It was at that time that the cicada convinced (โน้มน้าว) the boss, the lion, of the absolute necessity to start a climatic study of the environment.
.
Having reviewed the charges for running the ant’s department, the lion found out that the production was much less than before.
.
So he recuited the owl, a prestigious (มีเกียรติ) and renowned (ชื่อเสียง) consultant to carry out an audit and suggest solutions.
.
The owl spent three months in the department and came up with a enormous report, in several volumnes, that concluded : “the department is overstaffed …”
.
Guess who the lion fires first?
.
The ant, of course, because she “showed lack of motivation and had a negative attitude”.
http://lib.edu.chula.ac.th/cuappl/libedu2007/lib_talk/aspboard_Question.asp?GID=150
13 มิถุนายน 2554

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/08/B8181968/B8181968.html
9 สิงหาคม 2552

http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2011/06/B10686404/B10686404.html
14 มิถุนายน 2554

http://wijitrood.blogspot.com/2014/05/blog-post.html
พฤษภาคม 2557

http://btsstation.com/31510
5 พฤศจิกายน 2558

ขนมจีนบางรายก็มีสารกันบูดที่อาจทำให้ตับไตพัง

ขนมจีน
ขนมจีน

พบข้อมูลในนิตยสารฉลาดซื้อ ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2559
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคได้สุ่มตรวจขนมจีน (Khanom chin) ทั้งหมด 12 ยี่ห้อ
พบว่ามีสารกันบูดตกค้างทั้ง 12 ตัวอย่าง
มากบ้าง น้อยบ้างต่างกันไป แต่เบื้องต้นมีกันทุกยี่ห้อ ถ้าไม่ใส่ก็จะเสียนั่นเอง
ปัญหาคือ สารกันบูดทำให้มีความเสี่ยงเรื่องตับไตพัง
ถ้าขับออกทันก็สะสมปัญหากันไป หากขับออกไม่ทันถึงพิการได้เลย


สุ่มตรวจมา 12 ราย พบว่าใส่ทุกราย
แต่ใส่แล้วไม่เกินที่กำหนดมี 10 ราย
ที่เกินกำหนดมี 2 ราย คือ 1114.30 และ 1121.37
มาตรฐานหรือที่กำหนดไว้คือไม่เกิน 1000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

สรุปว่าทานขนมจีนมาก ๆ เสี่ยงตับไตพัง
แต่คนที่ขายขนมจีนแบบสด และหมดใน 1 วัน เค้าก็ไม่จำเป็นต้องใส่นะครับ
http://health.sanook.com/2897/

ขนมจีน ทำมาจากข้าวจ้าวที่นำไปหมักที่ใช้จุลินทรีย์เข้าย่อยแป้ง แล้วนำไปบด ไปต้ม แล้วคั้นผ่านรูให้ออกมาเป็นเส้นลงในน้ำเดือดก็จะได้ขนมจีนที่สุกแล้วจุ่มลงน้ำเย็น และนำไปทานได้


ขนมจีน เป็นอาหารคาวชนิดหนึ่ง ทำด้วยแป้งเป็นเส้นกลม ๆ คล้าย เส้นหมี่ รับประทานกับน้ำยา น้ำพริก เป็นต้น อาหารชนิดนี้ ภาษาเหนือเรียก “ขนมเส้น” และภาษาอีสานเรียก “ข้าวปุ้น”
https://en.wikipedia.org/wiki/Khanom_chin

ข้อมูลเรื่องสารกันบูด
ที่ http://guru.sanook.com/4320/

Social media ในหนังสือพิมพ์

หนังสือพิมพ์ใน Social Media
social media ในหนังสือพิมพ์

ตามที่ อ.ปุ้ม มอบหมายให้ผมพูดคุยเรื่อง “Social Media ในการเผยแพร่ข่าว” ให้นักศึกษาฟัง จึงเข้าไปสำรวจเว็บไซต์ข่าวในส่วนกลางที่ทำด้านหนังสือพิมพ์ ได้ข้อมูลจาก 9accounting.com ว่ามีทั้งหมด 20 หนังสือพิมพ์ แล้วเข้าไปในแต่ละเว็บไซต์จะพบลิงค์ไปยังสื่อสังคม (Social Media) ไม่เหมือนกัน ข้อมูลที่ได้มานี้สำรวจเมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2559 หากตกหล่นด้วยประการใดก็ขออภัย เพราะบางลิงค์เข้าไม่ได้ และอาจมีบางบริการในสื่อสังคม แต่ไม่ทำลิงค์ในเว็บไซต์ก็เป็นได้

ข้อมูลที่น่าสนใจ พบว่า หนังสือพิมพ์ทุกฉบับเชื่อมโยงกับ facebook.com แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่เป็น fan page และมีถึงร้อยละ 90 ที่ใช้บริการของ twitter.com และมีร้อยละ 45 ที่ให้บริการ RSS Feed และมีเพียงร้อยละ 40 ที่เชื่อมโยงกับ youtube.com ส่วน google+ และ instagram มีเท่ากัน คือร้อยละ 25 แต่มีเพียงรายเดียว หรือร้อยละ 5 ที่ให้บริการข้อมูลใน Line

สำหรับการให้ข้อมูลข่าวสาร บางหนังสือพิมพ์ก็เคลื่อนไหวทุกวัน แต่บางหนังสือพิมพ์ก็นาน ๆ ครั้ง จะบ่อยหรือไม่บ่อยเพียงใด เข้าไปติดตามกันได้ เพราะจะมีการเคลื่อนไหวให้เห็นแตกต่างกันไป ตั้งแต่ทุกชั่วโมง ทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือนตามนโยบายของแต่ละหนังสือพิมพ์

คดีแป้งฝุ่น เหมือน Minority report เกี่ยวกับมะเร็ง

รังไข่
รังไข่

มีผลิตภัณฑ์มากมายที่ทำให้ร่างกายเราเปลี่ยนแปลง
มีโทษมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป
ดังคำว่าใช้มากไปเป็นโทษ ใช้แต่พอดีเป็นคุณ
กรณีแป้งฝุ่นทาจุดซ่อนเร้น จนส่งผลถึงการเป็นมะเร็งรังไข่
นี่ก็คงทำให้สาว ๆ อึ้งไปเหมือนกันว่า
แป้งฝุ่นอันตรายขนาดนี้เลยเหรอ
ผู้ประกอบการเองทำอะไรออกมาจำหน่ายให้เขียนคำเตือนไปเยอะ ๆ
เหมือนบุหรี่ สุรา เขียนไปเลยว่าสูบแล้วดื่มแล้ว จะเกิดอะไรขึ้น
จะได้ไม่โดนฟ้องเสียเงินสองพันล้านแบบกรณีของคุณ Jackie Fox
เพราะสารที่ชื่อว่าแร่ทัลก์ (Talc) ทำเหตุ
http://www.bloomberg.com/news/articles/2016-02-23/j-j-ordered-to-pay-72-million-over-talc-tied-to-ovarian-cancer
http://health.kapook.com/view142426.html

ภาพจาก
http://drchawtoo.com/2014/06/19/%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-vs-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A0%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89/

Minority report พูดถึงรายงานเล็ก ๆ แต่สำคัญ

มีการแบ่งปันคำศัพท์ 3000 คำ ใน blog ของ eduzones.com

vocab 3000 eslwise
vocab 3000 eslwise

หัวหน้าส่งอีเมลมาให้ทราบว่าน่าสนใจ มีหัวข้อในเว็บเพจ คือ
เอาไปดูให้ตาแฉะ รวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่สุดในสหรัฐอเมริกา 3000 คำ
1. ได้เห็นก็ scan ก่อนเลยครับ
ไปติดคำที่ 197 หรือ 204 พอเห็นก็คิดต่อเลยว่า
set นี้ไม่ใช่รวมคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่สุดแน่
เพราะเลข 1 ไม่ใช่คำศัพท์
https://blog.eduzones.com/advisor/155998

2. เห็นว่าที่มาคือ eslwise.com
2970Ellen 2966Hill
แล้วตามหาที่มาผ่าน google ก็พบ
http://eslwise.com/3000_frequency_order.doc
ต้นฉบับเป็น word พบสิ่งผิดปกติเหมือนใน eduzones เลย
เช่น t, P, 70 ไม่ใช่คำศัพท์แน่ในตัวที่ 2938 – 2940

3. คาดว่าคำเหล่านี้มาจากการนำบทความมา split (Text to Column)
แล้วนำมาจัดเรียงตามปกติ แล้วเรียงตามความถี่
แต่เห็น 1the กับ 684The ก็เริ่มไม่แน่ใจว่าเรียงตามความถี่

4. อยากชวนนักศึกษานำข้อมูล
มาชัดการด้วย excel ฝึกการประมวลผลกันหน่อย
ด้วยการ split, count, len, mid, crosstab เป็นต้น

5. เก็บเว็บเพจใน eduzones เป็น .mht
จะได้เปิดด้วย ie ในภายหลังได้ง่าย ๆ
https://www.facebook.com/groups/thaiebook/586864671464355/

เรื่องการแชร์ดอกไม้ในไลน์ .. พูดยากเนอะ

ด้วยความห่วงใย เนื่องจากกฎหมายลิขสิทธิ์
ด้วยความห่วงใย เนื่องจากกฎหมายลิขสิทธิ์
เรื่องราวของดอกไม้ จาก 2 ข้อความ ของผู้เยาว์ 2 คน
ที่น่าจะสัมพันธ์กัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
1. หัวข้อ “มีวิธีบอกญาติหรือผู้ใหญ่ในไลน์ยังไงดีคะ ว่าไม่ต้องส่งรูปสวัสดี หรือดอกไม้ให้ทุกวันก็ได้”
ตามหัวข้อเลยค่ะ ไม่รู้จะบอกยังไง บอกไม่ต้องส่งก็ได้
ก็กลัวว่าเดี๋ยวจะน้อยใจอีก
มีวิธีบอกยังไงดีคะ ญาติๆผู้ใหญ่ส่งเข้าทั้งไลน์กลุ่มทั้งแชทส่วนตัวเลย
แม้กระทั่งลูกค้าผู้ใหญ่ที่ติดต่องานกันอยู่
มันอาจจะมีความหมายลึกซึ้งเกินไปจนเราไม่เข้าใจ ไม่อาจเข้าถึงได้ 5555555
เราเองก็ไม่ได้อะไรนะคะ แต่ก็เกรงใจ พอส่งมาให้เรา
เราก็ตอบไม่ถูก และไม่รู้จะตอบไปว่าไงดีจะส่งเป็นรูปกลับก็ยังไงอยู่
มีคนเป็นแบบเราปะ ?
หรือขอแนะนำวิธีตอบกลับข้อความแบบนี้ ก็ได้ค่ะ
ยังไงดีคะ ยังไงดี
ด้วยความห่วงใย เนื่องจากกฎหมายลิขสิทธิ์
ด้วยความห่วงใย เนื่องจากกฎหมายลิขสิทธิ์
2. หัวข้อ “ข้อความเตือนเรื่องดอกไม้ผ่านไลน์ตามกฎหมายลิขสิทธิ์”
เรียน สมาชิกไลน์ทุกท่าน
ด้วยความห่วงใย เนื่องจากกฎหมายลิขสิทธิ์ จะมีผลเริ่ม 4 สิงหาคมนี้
จึงจำเป็นต้องยุติการส่งไลน์ ภาพดอกไม้ เพราะภาพเหล่านั้นเป็นภาพที่มีลิขสิทธิ์กว่า 95%
แม้ว่าจะก๊อปมาจากกูเกิ้ลทั้งหมด สองสามวันมานี้ขยายภาพเพื่อก๊อปไม่ได้จอดำมืด
มีข้อความเตือนว่า image may be subject to copy right
จึงยุติการก๊อปปี้ และจะยุติการเผยแพร่ภาพดอกไม้
เป็นการถาวรด้วย ท่านใดที่เก็บสะสมภาพเก่า ๆ ไว้
โปรดสะสมเป็นส่วนตัว อย่าได้ส่งต่อให้ผู้ใดเป็นอันขาด
เพราะจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์เจ้าของภาพ แทบทุกภาพมีลิขสิทธิ์ทั้งสิ้น
ถ่ายโดยช่างภาพมีชื่อเสียง และเป็นดอกไม้ประเภทแปลกที่สุดในโลก,
สวยที่สุดในโลก, แพงที่สุดในโลก, หายากที่สุดในโลก ฯลฯ
ด้วยความเป็นห่วงค่ะ และก็จะขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมาย
เพราะภาพทุกภาพมีลิขสิทธิ์ และเบอร์โทรของท่านได้ลงทะเบียนไว้แล้ว
ว่าท่านอยู่ที่ไหน ด้วยความห่วงใย ตื่นเช้ามาก็ให้พิมพ์สวัสดีกันไปก่อน
บอกต่อพี่ ๆ น้อง ๆ ไปด้วย
หากโดนหมายศาลมาถึงจะงงกันไปใหญ่

มหาลัยวัวชน (Mahalai Wua chon)

มหาลัยวัวชน Mahalai Wua chon [english version]
วงพัทลุง [Official MV]

 

Lyric:
What should i do just glance (ชำเลือง) at you
I am scared (กลัว) to be close to you
Love for my heart I’d like you to know
If i see you i get really tense (เครียด)
Just have a look and walk away
don’t know when i can let you know
That there is someone who likes you
But my look is not your type
I am a country boy who looks after cows
I am not very good – looking
I don’t carry papers just hold a sickle (เคียว)
Mahalai Wua chon

I get up and take my cow for a walk alone the street
Lady you really don’t know
You make this country boy really shake
Each time you look at me
I am really shy and hide my face
Only my cow is my companion
I am really shy to let you know
I’m a country boy who look after cows
Worry you won’t like me
I’m a country boy not good enough
Not special like Hat Yai boys
I am a country boy but I can’t be humble (เจียมตัว)
Just know i already love you
Just a country boy who love you too much
but too scared to let you know
Just a country boy
I get up and take my cow for a walk alone the street
Lady you really don’t know
You make this country boy really shake
Each time you look at me
I am really shy and hide my face
Only my cow is my companion
I am really shy to let you know
I’m a country boy who look after cows
Worry you won’t like me
I’m a country boy not good enough
Not special like Hat Yai boys
I am a country boy but I can’t be humble (เจียมตัว)
Just know i already love you
Just a country boy who love you too much
but too scared to let you know
I am a country boy who looks after cows
Worry you won’t like me
I’m a country boy not good enough
Not special like Hat Yai boys
I am a country boy but I can’t be humble (เจียมตัว)
Just know i already love you
“Mum where is tom”
“Tom is over there He is looking after the cow”
“Thanks”

Just a country boy who love you too much
but too scared to let you know
Just a country boy
“Didn’t the hat yai boy pick you up today?”
“I’d rather have a country boy pick me up”

https://www.youtube.com/watch?v=vwOOqIow6dM

วงพัทลุง ก่อตั้งเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2556 มีสมาชิก 6 คน ได้แก่

  1. นายเทอดพงศ์ เภอบาล (พงศ์) ตำแหน่ง นักร้องนำ
  2. นายวรากร แป้นสดใส (พีร์) ตำแหน่ง กีตาร์
  3. นายจิรายุทธ กูลสุวรรณ์(เค) ตำแหน่ง กีตาร์
  4. นายณัฐวุฒิ ถึงเกื้อ(บิว) ตำแหน่ง เบส
  5. นายทศพล ยางสูง(กาย) ตำแหน่ง คีบอร์ด
  6. นายอรรถพงศ์ ชุมแก้ว(ต๊ะ) ตำแหน่ง กลอง

ภาพขนาดนี้ เตือนขนาดนั้น เลิกขายเลยดีกว่าไหม

ภาพขนาดนี้ เตือนขนาดนั้น เลิกขายเลยดีกว่าไหม

บุหรี่ สุรา ทำให้ข้างในดำ
บุหรี่ สุรา ทำให้ข้างในดำ

คำเตือนบนซองบุหรี่ในรูปประกอบ
เขียนชัดเลยว่า “วอน นิ่ง”
บุหรี่เป็นสาเหตุของสมองขาดเลือด
เขียนกันขนาดนี้ “เลิกขายไปเลยดีกว่าไหม”
ใครที่ไหนเค้าจะไปกล้าสูบกัน ???
เหตุผลที่ไม่สูบ ตามมาเป็นหางว่าว …
http://teen.mthai.com/variety/42165.html

มีเรื่องราวมากมาย ไม่ต้องแปล ไม่ต้องคิดลึก ตรงตัวเลย
1. บุหรี่ออกจะแพง
2. ทำให้สมองขาดเลือด
3. ทั้งรูป และเขียนเตือนจนน่ากลัว

เจตนาไม่ให้สูบออกจะชัด

โฆษณาซะขนาดนี้ คงไม่มีใครสูบล่ะมั้ง