โรคกระเพาะ คืออะไรกัน มาดูกันเลย
ทำความเข้าใจกันก่อนว่า ” โรคกระเพาะ ” นั้น จริงๆแล้วชื่อเต็มๆของเค้าคือ “โรคเเผลในกระเพาะอาหาร” มีอาการปวดท้องเรื้อรัง ปวดตอนนอนหลับ บางคนปวดเมื่อกินยาแก้ปวดต่างๆ โดยโรคกระเพาะนั้น จะมีสาเหตุหลักๆ มี 3 ประการ คือ
1. เกิดจากการกินยาแก้ปวดบางกลุ่มต่อเนื่อง
2. เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
3. เกิดจากพฤติกรรมกินอาหารไม่ตรงเวลา ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่
แล้ว โรคกรดไหลย้อน ล่ะต่างจาก โรคกระเพาะ ยังไง?
สำหรับโรคกรดไหลย้อนนั้น ส่วนใหญ่อาการจะคล้ายๆ กับ โรคกระเพาะ ค่ะ นั่นก็คืออาการ จุก เสียด เพียงแต่จะแตกต่างตรงตำแหน่งของอาการของโรค โรคกรดไหลย้อน จะมีอาการ “Heatburn” ซึ่งจะมีอาการแสบร้อนบริเวณกลางอกไปจนถึงลิ้นปี่ รวมไปถึงอาการ เรอเปรี้ยวได้ เพราะกรดมีการไหลย้อนขึ้นมาบริเวณทางหลอดอาหารซึ่งอยู่ที่บริเวณอกของเรานั่นเองค่ะ ส่วนสาเหตุหลักๆนั้นก็มาจากพฤติกรรมของเรา เช่นกัน คือ
พฤติกรรมการบริโภค และ พฤติกรรมการใช้ชีวิต ทำให้เกิด กรดไหลย้อน
1. ทานอาหารแต่ละมื้อในปริมาณมากเกินไป ควรปรับเป็นทานบ่อยครั้งๆ ละน้อย
2. ชอบทานอาหารประเภททอด อาหารไขมันสูง อาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด/เผ็ดจัดเป็นประจำ
3. ชอบดื่มน้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม ดื่มเหล้า และสูบบุหรี่จัด
4. ชอบนอนทันทีหลังจากรับประทานอาหาร
5. ไม่ยอมรักษาน้ำหนักตัวให้พอเหมาะ ปล่อยตัวให้อ้วนเกินไป
6. ไม่ชอบออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
7. พักผ่อนไม่เพียงพอ และทำงานเครียด
8. สวมใส่เสื้อผ้าหลวมสบายตัว ไม่รัดเข็มขัดแน่น
จะเห็นได้ว่าโรคทั้งสองโรคนี้มีความแตกต่างกันตรงตำแหน่งที่เกิดอาการเป็นหลัก ถ้าปวดท้องเด่นก็อาจเป็น โรคกระเพาะ ถ้าแสบอกมากกว่าก็มีความเสี่ยงของ กรดไหลย้อน มากกว่าแต่งานวิจัยหลายๆชิ้นบ่งบอกว่า 20% ของคนที่มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งมักมีอาการอีกอย่างร่วมด้วยเสมอ ดังนั้นใครที่สังเกตอาการปวดท้องของตนเองแล้วพบว่ามีอาการตามที่บอกควรจะต้องรีบปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้โรครุนแรงขึ้นจนเรื้อรัง
สำหรับใครที่มีอาการทั้งสองโรคหรือไม่แน่ใจขอแนะนำให้ลองทานยาน้ำ ที่สร้างชั้นเจลและช่วยปรับสภาพกรดในกระเพาะอาหารให้เป็นกลางเพื่อลดอาการปวด และไม่สบายท้องที่มีสาเหตุจากกรดจะช่วยรักษา โรคกรดไหลย้อน ได้ โดยจะช่วยรักษาอาการของทั้งสองโรคทั้ง โรคกระเพาะ และ กรดไหลย้อน ในตัวเดียว ลองหาตามร้านขายยาทั่วไปดูค่ะ
ไม่ว่าจะเป็น โรคกระเพาะ หรือ โรคกรดไหลย้อน ต่างก็อันตรายด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นหากมีอาการปวดท้องเรื้อรัง ทานยาไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์ไว้เนิ่นๆนะคะ
ขอบคุณภาพจาก http://www.theunintelligencer.com