ซิงเกิล เกตเวย์ single gateway (itinlife 521)

ในแวดวงไอทีวิพากษ์เรื่องซิงเกิลเกตเวย์ (Single Gateway) กันมาก โดยเฉพาะการแสดงความเห็นที่ส่วนใหญ่จะออกไปในแนวว่าไม่เห็นด้วย ในความจริงแล้วองค์กรในประเทศไทยมีช่องทางเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปยังต่างประเทศได้อย่างอิสระในระดับหนึ่ง ส่วนผู้ใช้แต่ละคนใช้อุปกรณ์สื่อสารและบริการของแต่ละค่าย ซึ่งแต่ละค่าย (ISP) ก็จะมีเส้นทางออกไปต่างประเทศตามที่ค่ายนั้นเลือกใช้ ปัจจุบันมี 13 การเชื่อมต่อ แต่ภาครัฐกำลังศึกษาว่าจะควบคุมการเชื่อมต่ออย่างไร เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม เป็นการคิดแบบรวมศูนย์เชื่อมต่อ (Centralization) หรือแบบหลอมรวม (Convergence) จากเดิมเป็นแบบกระจายศูนย์เชื่อมต่อ (Decentralization) ที่ไม่มีการควบคุม

ถ้าหลอมรวมเป็นช่องทางเดียวก็จะทำให้การกำกับดูแลการเข้าใช้มีความปลอดภัยสูง ควบคุมให้เป็นตามนโยบายได้ง่าย ปิดกั้นเว็บไซต์หรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กและเยาวชน ซึ่งมีข้อกังวล แล้ววิจารณ์ว่าข้อมูลจะไปอยู่ในมือภาครัฐ แล้วเจ้าหน้าที่บางคนที่ดูแลอาจเป็นคนที่ไม่น่าไว้ใจ คำว่าซิงเกิลแปลว่าช่องเดียว หากล่มก็จะไม่มีสำรอง นักลงทุนจากต่างประเทศเห็นปัญหาข้างต้นก็จะไม่เข้ามาลงทุน ประเทศที่ใช้นโยบายซิงเกิลเกตเวย์ คือ จีน เกาหลีเหนือ และลาว ซึ่งผู้เกี่ยวข้องก็ชี้แจงว่าซิงเกิลเกตเวย์จะไม่กระทบภาคธุรกิจ อยู่ระหว่างศึกษา ยังไม่มีโมเดลที่ชัดเจน และต้องไม่กระทบในสิ่งที่สังคมกังวล

ถ้าทำจริงแบบที่กังวลแล้ว การหลอมรวมผสานเครือข่ายที่แตกต่างกันมีเรื่องที่ท้าทายอีกหลายเรื่อง เช่น การผสานเครือข่ายระหว่างองค์กรที่แตกต่างกัน การผสานแอพพลิเคชัน การผสานขั้นตอนการทำงาน การหลอมรวมนโยบายการให้บริการ ซึ่งคาดว่าความเห็นของผู้ดูแลเครือข่ายของแต่ละองค์กรที่มีอยู่ก็เดิมย่อมไม่เห็นด้วย เพราะจะทำให้ต้องปรับเปลี่ยนระบบทั้งหมด การบอกเลิกสัญญากับเครือข่ายเดิม การลดบุคลากรที่รับผิดชอบดูแลเครือข่าย และปรับนโยบายขององค์กรให้เข้ากับส่วนกลาง ซึ่งทั้งหมดเป็นภาระ และบางครั้งการเปลี่ยนแปลงอาจไม่ได้นำไปสู่สิ่งที่ดีกว่าสำหรับบางคน จึงเป็นที่มาของการต่อต้านการรวมศูนย์ด้วยการกดปุ่ม F5 ต่อเว็บไซต์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เห็นปัญหาของการรวมศูนย์เชื่อมโยง และข้อกังวลของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย

http://www.dailynews.co.th/article/334074

https://www.youtube.com/watch?v=IhGDvaXxgwE

https://en.wikipedia.org/wiki/Internet_in_Thailand

http://hilight.kapook.com/view/126924

ทบทวนอดีตในปัจจุบันเพื่ออนาคตที่ดี (itinlife502)

Mermaid of Kendy Joseph
Mermaid of Kendy Joseph

การจดบันทึกสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตหรือการเขียนไดอารี่ก็เพื่อเก็บข้อมูลไว้ทบทวนในภายหลัง มีเหตุการณ์มากมายที่เป็นตัวอย่างประโยชน์ของการจดบันทึกที่ดี ในทางทฤษฎีมีการจัดตั้งสาขาวิชาด้านการจัดการความรู้ (Knowledge Management) เป็นการพัฒนาความรู้ฝังลึกให้เป็นความรู้ชัดแจ้ง ที่นำมาใช้ประโยชน์ได้ ในทางคอมพิวเตอร์ก็มีพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่ระบุให้ผู้ประกอบการต้องเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งหมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลาชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น ไว้อย่างน้อย 90 วันตามรายละเอียดในมาตรา 26

ในด้านการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้เผยแพร่คู่มือการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับอุดมศึกษา ฉบับปีการศึกษา 2557 ซึ่งกำหนดให้การศึกษาระดับหลักสูตรในประเทศไทยที่มีหลายพันหลักสูตร ทุกหลักสูตรต้องเขียนระบบ ขั้นตอน หรือกระบวนการทำงาน อย่างน้อย 7 เรื่องจาก 14 ตัวบ่งชี้ไว้ให้ชัดเจน เพื่อให้มีการประเมินระบบหรือกระบวนการ ต้องปรับปรุงตามผลประเมิน นำกระบวนการใหม่ไปใช้ จึงจะได้คะแนนในระดับดี ถ้าหลักสูตรไม่ได้เขียนระบบหรือกระบวนการไว้ในอดีต ก็คงจะไม่มีอดีตมาให้ประเมิน แล้วจะนำกระบวนการที่ไหนไปใช้ในอนาคต ถ้ายังไม่มีระบบหรือกระบวนการในปัจจุบันก็จะต้องสร้างขึ้นมาในวันนี้ เพื่อวันพรุ่งนี้ที่เป็นระบบ

ในทางคอมพิวเตอร์มีซอฟท์แวร์สำหรับให้บริการมากมาย แต่ที่นิยมกันมากคือเว็บไซต์ อาจใช้ apache หรือ nginx ซึ่งการเก็บข้อมูลการเข้าเว็บไซต์จะบันทึกใน access.log หรือ error.log เมื่อเวลาผ่านไปผู้ดูแลก็ต้องเข้าไปตรวจสอบติดตามว่ารายการที่บันทึกไว้มีความปกติหรือไม่อย่างไร เช่นการเข้ามาผ่านช่องทางที่ไม่ได้คาดคิดก็อาจเกิดจากความพยายามของแฮกเกอร์ที่จะเข้าทางประตูหลัง ในบ้านที่สร้างไว้หลายปีแล้ว เมื่อเดินสำรวจตรวจสอบก็จะพบร่องรอยการเสื่อมสภาพ เช่น ผนังร้าว เสาร้าว หลังคารั่วซึม พื้นดินทรุด ซึ่งการตรวจสอบและแก้ไขได้ทันก็จะไม่นำไปสู่หายนะ ซึ่งการติดตามตรวจสอบเป็นสิ่งที่จำเป็นในทุกระบบ ไม่ว่าจะตรวจสภาพบ้าน ตรวจการเข้าใช้เครื่องบริการ ตรวจผลการดำเนินงานเพื่อยืนยันความมีคุณภาพของหลักสูตร เป็นต้น

http://www.thaiall.com/article/law.htm

http://www.thaiall.com/iqa

http://variety.teenee.com/foodforbrain/69370.html

http://www.flagfrog.com/cartoon-mermaid-teach-human/

https://www.facebook.com/WeAfricanNations/posts/877523445653098

การรู้ว่าโทรศัพท์อยู่ที่ใดบนโลก (itinlife496)

find my phone
find my phone

ในอดีตการใช้โทรศัพท์สื่อสารระหว่างผู้ส่งกับผู้รับด้วยเสียงเป็นนวัตกรรมที่โลกต้องจดจำ จากผลงานการประดิษฐ์ของ อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander Graham Bell)  เมื่อปีค.ศ.1876 ปัจจุบันมีการพัฒนาต่อยอดจากโทรศัพท์ธรรมดาไปเป็นสมาร์ทโฟน (Smart Phone) ที่มีหน้าที่มากมายจนอาจเรียกว่าคอมพิวเตอร์มือถือ (Handheld Computer) ผลกระทบจากความนิยมต่อสมาร์ทโฟนที่สูงขึ้น ทำให้ยอดจำหน่ายเครื่องคอมพิวเตอร์ วิทยุติดตามตัว เครื่องจีพีเอส กล้องดิจิตอล วิทยุ และทีวีมีแนวโน้มลดลง แล้วบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์ที่ไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่เคยมียอดจำหน่ายสูงก็ทะยอยปิดตัวกันไป

สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่มีฟังก์ชันเชื่อมต่อกับดาวเทียม ทำให้ทราบตำแหน่งของอุปกรณ์ที่อยู่บนพื้นโลก แล้วบริษัทกูเกิ้ลได้พัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนนำไปพัฒนาต่อยอดจนเป็นที่นิยม แล้วกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ iPhone ที่พัฒนาโดยบริษัท Apple นอกจากนี้บริษัทกูเกิ้ลยังนำภาพถ่ายจากดาวเทียมมาให้ชาวโลกได้มองเห็นสถานที่ และมีรถยนต์ถ่ายภาพคอยเก็บภาพถนนหนทาง แล้วบริการให้ผู้เดินทางได้เห็นเส้นทางจากกล้องบนพื้นโลก จากหลายบริการข้างต้นได้นำมารวมกันเป็นบริการค้นหาตำแหน่งโทรศัพท์ มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ทำโทรศัพท์หาย หรือมีไว้ค้นหาว่าปัจจุบันโทรศัพท์อยู่ตำแหน่งใดบนพื้นโลก

บริการนี้ต้องเป็นสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และเปิดบริการ GPS ระบุตำแหน่งของโทรศัพท์ ลงทะเบียนด้วยอีเมลของ Gmail.com มีการต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน wifi หรือ 3G ในขณะค้นอุปกรณ์ ทำให้มีการเชื่อมอีเมลเข้ากับโทรศัพท์โดยอัตโนมัติ หากลงทะเบียนอีเมลไว้ในหลายอุปกรณ์ก็จะเลือกดูตำแหน่งแต่ละตัวได้ บางครอบครัวอาจใช้สมาร์ทโฟนใส่ไว้ในรถยนต์ แล้วเปิดดูผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านได้ว่าปัจจุบันสมาร์ทโฟนที่ติดไว้ที่รถยนต์ไปอยู่ที่แห่งหนตำบลใด สามีภรรยาหรือลูกหลานบอกว่าจะกลับบ้านค่ำมืด ก็หาโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเครื่องละพันสองพันใส่ไว้ใต้เบาะเปิดเครื่องทิ้งไว้ แล้วปิดเสียง ก็จะทราบว่าเย็นนั้นรถยนต์ไปแวะที่ใด ด้วยบริการ “find my phone” ของกูเกิ้ล

http://trendblog.net/how-to-track-your-lost-android-phone-without-tracking-app/

เลือกซื้อสมาร์ทโฟนให้คุ้มกับราคา (itinlife495)

smartphone
smartphone

https://www.facebook.com/ajburin/posts/10153160836798895

คำว่าคุ้มค่าขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ และการใช้สมาร์ทโฟน (Smart Phone) ก็เช่นกัน บางท่านแค่พกติดตัว และยกขึ้นมารับโทรศัพท์เป็นครั้งคราวให้เพื่อนได้เห็นก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว อาจมีบางท่านบอกว่าที่เปลี่ยนโทรศัพท์จากรุ่นกดปุ่มเป็นรุ่นถูไถ เพราะทุกครั้งที่รับโทรศัพท์รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่อยากรู้สึกว่าแตกต่างกับเพื่อนกลุ่มเดียวกัน ปล่อยให้ความรู้สึกของเพื่อนมามีอิทธิพลต่อการตัดสนใจซื้อโทรศัพท์ ซึ่งสมาร์ทโฟนในปัจจุบันถูกพัฒนาจนอาจเรียกได้ว่าคอมพิวเตอร์มือถือ (Handheld Computer) เพราะทำงานได้คล้ายกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันมีโปรแกรมประยุกต์ หรือแอพที่ถูกออกแบบให้ทำงานบนสมาร์ทโฟนได้ดีกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ เช่น โปรแกรมไลน์ (Line) หรืออินสตาแกรม (Instagram) แต่ก็มีบางโปรแกรมที่บนสมาร์ทโฟนทำงานได้ด้อยกว่า เช่น แผนที่กูเกิ้ล (Google Map) หรือโปรแกรมสำนักงาน (MS Office)

โทรศัพท์ก็เหมือนกับรถยนต์ที่มีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น และมีราคาแตกต่างกันมาก ตั้งแต่ไม่กี่แสนไปถึงหลายสิบล้าน แม้จะเคลื่อนที่ด้วย 4 ล้อเท่ากัน สมาร์ทโฟนก็มีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาท ตามที่บริษัท Dtac กับ True ได้จัดโปรโมชั่นเก่าแลกใหม่ราคาไม่ถึงพันบาท แต่ก็มีรุ่นที่ดีกว่า กล้องชัดกว่า หน่วยความจำสูง หน่วยประมวลผลทำงานเร็ว จอกว้างและละเอียดกว่า ก็มีราคาตั้งแต่ไม่กี่พันไปถึงหลายหมื่นบาท ผมซื้อมาหนึ่งเครื่องราคา 2900 บาทกว้างหน้านิ้วครึ่ง แล้วเรียกว่าเครื่องราคา 2 อัพ สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมประยุกต์ (Application) มาใช้ได้ไม่ต่างกับเครื่องราคาหลายหมื่นบาทมากนัก  ถ้าซื้อสมาร์ทโฟนแล้วใช้เหมือนโทรศัพท์ราคาไม่กี่ร้อยบาท ก็ไม่เห็นจะต้องเสียตังซื้อเครื่องหนึ่งอัพ หรือหลายสิบอัพ

ถ้าใช้สมาร์ทโฟนในแบบที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์มือถือ ไม่ใช่มีไว้โทรเข้าออกก็จะได้ใช้ในหลายหน้าที่ เช่น การสแกนเอกสาร การถ่ายพาโนราม่า การอ่านอีบุ๊กหรือแฟ้มเอกสารสำนักงาน เครื่องบันทึกภาพ วีดีโอ และเสียง ปฏิทินนัดหมายเหมือนเลขาส่วนบุคคล จำลองเป็นเว็บเซิร์ฟเวอร์ไว้พัฒนาเว็บไซต์ ใช้ออกแบบชิ้นงานด้วยโปรแกรมวาดภาพที่หลากหลาย ใช้สืบค้นบุคคล ข้อมูล สถานที่ สินค้าและบริการ ใช้เข้าควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นจากระยะไกล ใช้สื่อสารกับเครือข่ายเพื่อนเพื่อการเรียน ทำงาน หรือเล่นเกม ใช้ติดตามตำแหน่งที่อยู่ว่าคนในครอบครัวไปที่ไหนบ้างในแต่ละวัน จากข้อมูล GPS ได้ ซึ่งยังมีบริการอีกมากมายที่เป็นนวัตกรรมให้ผู้ใช้ได้ดาวน์โหลดใช้ฟรี หรือทดลองใช้ ที่เป็นเสน่ห์สำคัญของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน

การใช้คอมพิวเตอร์ของหน่วยงานภาครัฐในสหรัฐ (itinlife493)

browser ranking
browser ranking

ข้อมูลทางสถิติถือเป็นสารสนเทศที่ใช้ประกอบการตัดสินใจได้ เมื่อมีนาคม 2558 ได้เข้าไปอ่านบทความของ Steven J. Vaughan-Nichols ใน Zdnet.com ที่เล่าถึงข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรมบราวเซอร์ (Browser) และประเภทของอุปกรณ์สืบค้นเว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐในประเทศสหรัฐโดยเก็บข้อมูล 90 วันจาก 37 หน่วยงาน มีข้อมูลการเข้าเว็บไซต์กว่า 1.39 พันล้านครั้ง ซึ่งมากพอที่จะนำมาวิเคราะห์ว่าใช้โปรแกรมและอุปกรณ์ประเภทใด

อุปกรณ์ที่มีใช้ในหน่วยงานสหรัฐแบ่งได้ 3 ประเภท พบว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop) ถูกใช้มากที่สุดมีร้อยละ 67.5 รองลงมาคือสมาร์ทโฟน (Mobile) มีร้อยละ 24.9 และอันดับสุดท้ายคือแท็บเล็ต (Tablet) มีร้อยละ 7.6 ทำให้เห็นว่าหน่วยงานของสหรัฐใช้งานสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตในการทำงาน ต่างกับภาครัฐของไทยที่ยังไม่มีนโยบายสนับสนุนการใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ในที่ทำงานที่ชัดเจน ส่วนหน่วยงานเอกชนที่ยังไม่มีนโยบายก็น่าจะนำไปพิจารณาสนับสนุน และควบคุมตรวจสอบ เพราะการส่งเสริมก็ต้องมาพร้อมกับกฎระเบียบ ข้อบังคับ หรือกติกาในการใช้อุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการทำงาน ปัจจุบันสมาร์ทโฟนราคาถูกลง ค่าเชื่อมต่อเครือข่ายก็ลดลงมากจนเป็นเจ้าของได้ทุกคน ทำให้พนักงานบริษัทอาจปฏิเสธการสนับสนุน เพราะต้องการใช้อุปกรณ์กับเรื่องส่วนตัวในเวลางานเป็นหลัก ถ้าเจ้าของบริษัทเข้าใจก็จะต้องออกมาตรการกำกับดูแล เพื่อไม่ให้มีการใช้เทคโนโลยีในเวลางานที่ไม่ตรงกับนโยบาย แล้วส่งผลเสียต่อบริษัทได้

สถิติการใช้โปรแกรมบราวเซอร์ พบว่า Chrome มาเป็นอันดับหนึ่ง มีร้อยละ 34.7 อันดับสองคือ IE มีร้อยละ 28.3 อันดับสามคือ Safari มีร้อยละ 20.3 อันดับสี่คือ Firefox มีร้อยละ 11 ซึ่งสถิติโดยทั่วไปจะพบว่า Firefox มีอันดับสูงกว่า Safari แต่ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าอุปกรณ์ส่วนหนึ่งติดตั้งระบบปฏิบัติการ iOS ที่มีโปรแกรม Safari มาให้ใช้งาน ส่วน IE ก็พบว่ารุ่น 11 ถูกใช้งานมากที่สุดในกลุ่มเดียวกัน มีร้อยละ 14.8 การต่อสู้ของโปรแกรมบราวเซอร์ยังไม่ยุติ ในเวทีนี้ IE ชิงอันดับสองมาได้ แต่ในเวทีอื่น ก็ยังเป็นของ Firefox แล้วท่านล่ะเลือกใช้อุปกรณ์และโปรแกรมใดอยู่

http://internet-browser-review.toptenreviews.com/

http://www.w3schools.com/browsers/browsers_stats.asp

http://www.zdnet.com/article/the-most-u-s-popular-web-browsers/

การทำการตลาดนาฬิกาของเอซุส (itinlife491)

i-mobile istyle 215
i-mobile istyle 215

ในประเทศทุนนิยมนั้น การแข่งขันทางธุรกิจที่เรียกว่ามือใครยาวสาวได้สาวเอา แต่ก็มีธุรกิจบางประเภทที่ผู้ประกอบการรวมตัวกันเพื่อความเข้มแข็ง และใช้การรวมกันเป็นประโยชน์ในการต่อรองบางอย่าง ความสามัคคีมักต้องมีการพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยน ในบางสมาคมธุรกิจมีการจัดกีฬาสี หรือกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่จัดให้บริษัทลูกมาแข่งกีฬาสีสร้างความสามัคคีระหว่างบริษัทในเครือ ในด้านการศึกษาก็จะพบการจัดกิจกรรมฟุตบอลประเพณีจุฬาธรรมศาสตร์ ที่จัดมาแล้วกว่า 70 ครั้งในปี 2558 เป็นต้น

ในธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจะพบความสามัคคีได้ยาก เพราะมีการแข่งขันสูงมาก ส่งผลให้หลายปีมานี้มีบริษัทจำนวนไม่น้อยต้องปรับโครงสร้างบริษัทด้วยการลดคนงาน เช่น บริษัท รีเสิร์ชอินโมชัน จำกัด ผู้จำหน่าย Black Berry บริษัทซีเมนส์ บริษัทโมโตโรลา บริษัทโกดัก บริษัทโนเกีย บริษัทอีริคสัน บริษัทโซนี่ บริษัทฮิวเลตต์-แพ็คการ์ด บริษัทคอมแพค เป็นต้น ซึ่งบริษัทที่จะอยู่รอดได้ต้องมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมที่จะทำให้ผู้ซื้อสนใจ เช่น นวัตกรรมของบริษัทแอปเปิลที่มี ipod, ipad, iphone ออกมาจำหน่ายจนทำให้โทรศัพท์แบบดั่งเดิมอาจหายไปจากโลกในไม่ช้า เมื่อต้นปี 2558 มีโปรโมชั่นของค่ายโทรศัพท์ที่เปิดให้นำโทรศัพท์เครื่องเก่าไปแลกซื้อ SmartPhone เครื่องใหม่ในราคาเพียง 600 บาทที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 ซึ่งย้ำว่าในอนาคตอาจไม่มีที่ยืนให้กับโทรศัพท์แบบดั่งเดิม

พบใน thumbsup.in.th ว่าบริษัทเอซุส (ASUS) ได้โพสต์ภาพผังงานตั้งคำถามแปลเป็นไทยว่า ฉันควรซื้อแอปเปิลทองคำไหม ซึ่งดูแล้วก็คงจะเปรียบเทียบนาฬิกา 2 รุ่น ระหว่าง Asus ZenWatch กับ Apple Watch โดยมีข้อความ 3 ประโยคในการชี้นำ คือ นี่คุณเสียสติไปแล้วรึเปล่า หรือคุณมีเงินเป็นถุงเป็นถังที่พร้อมจะเสียใช่ไหม หรือคุณแน่ใจนะว่าไม่มีหนี้จากการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ซึ่งเป็นการทำตลาดที่ดูจะก้าวร้าวต่อคู่แข่งอย่างรุนแรง ก็พอจะเข้าใจได้ว่าเอซุสก็ทำเพื่อความอยู่รอดของบริษัทนั่นเอง

http://pantip.com/topic/32898390/page2

http://www.chiangraifocus.com/forums/index.php?topic=668968.0

http://thumbsup.in.th/2015/03/asus-attacks-apple-watch-with-flowchart/

http://venturebeat.com/2015/03/11/asus-attacks-apple-watch-buyers-with-flow-chart-that-concludes-you-are-really-out-of-your-mind/

nokia 2330c-2
nokia 2330c-2

เล่นโซเชียลในเวลางานผิดด้วยเหรอ (itinlife485)

online love
online love

ปลายเดือนมกราคม 2558 กรมการปกครองออกหนังสือถึงผู้ว่าทั่วประเทศว่า ได้รับแจ้งว่าบุคลากรภาครัฐบางท่านใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และเวลาของทางราชการเข้า Social media ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการ ที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย เพื่อความเรียบร้อย จึงให้ใช้เฉพาะในงานราชการเท่านั้น โดยย้ำว่าห้ามใช้ในทางส่วนตัว ซึ่งผู้บังคับบัญชาต้องทำหน้าที่กำกับดูแล ถ้าไม่ควบคุมดูแลแล้วเกิดเป็นคดีความ ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดด้วย สอดรับกับเมื่อกันยายน 2555 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยพบว่า ข้าราชการส่วนหนึ่งโหลดคลิ๊ปและภาพในเวลางานที่ไม่เกี่ยวกับงานกันมาก ทำให้ช่องสัญญาณ (Bandwidth) ไม่พอกับการใช้งาน จึงระงับการเข้าถึงเว็บไซต์ที่บริการดาวน์โหลดข้อมูลภาพและเสียงที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน

จากข้อมูลทำให้เข้าใจว่ากรณีแรกนั้นมีประชาชนไปพบว่าข้าราชการเข้าใช้ Social media ในเวลาราชการ ทั้งโพสต์ แชท เม้นท์ และแชร์ที่ไม่เกี่ยวกับงาน ผู้รับผิดชอบจึงมีหนังสือตักเตือนว่าถ้ามีการแชร์แล้วเข้าข่ายผิดกฎหมายใด จะถือว่าผู้บังคับบัญชามีความผิดด้วยในฐานะที่ไม่ควบคุมดูแลลูกน้องให้รู้จักกาลเทศะ ก็คงมีข้าราชการที่ติดเฟสบางกลุ่มออกมาแสดงทัศนะไม่เห็นด้วย  ส่วนพนักงานบริษัทที่ติดโซเชียลก็คงมีกังวลเล็กน้อยว่าจะมีมาตรการนี้เข้าบริษัทหรือไม่ หากเจ้านายที่ไม่ติดโซเชียลเกิดคิดได้ขึ้นมาก็อาจทำให้ต่อไปต้องลักลอบเข้าเน็ต ทำให้นึกถึงละครเรื่องแอบรักออนไลน์ ที่นางเอกต้องแอบคุยกับหนุ่มไม่ให้ใครรู้

กรณีที่สองเกิดขึ้นเมื่อปี 2555 ผู้รับผิดชอบเรื่องช่องสัญญาณพบว่าช่องที่มีอยู่มีปริมาณการใช้หนาแน่น ตรวจสอบแล้วพบว่าดาวน์โหลดคลิ๊ปหนัง (Video) กันมาก ผมก็ไม่รู้จะเป็นซีรี่เกาหลีรึเปล่าเพราะในหนังสือไม่ได้ระบุไว้ คาดว่ามีวัตถุประสงค์เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียงบประมาณเช่าช่องสัญญาณเพิ่มรองรับความต้องการที่หนาแน่น จึงปรึกษาผู้ใหญ่แล้วผลคือมีหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าจะปิดกั้นการเข้าถึงบางเว็บไซต์ แล้วเชื่อได้ว่าข้าราชการในสมัยนั้นอาจมองหาทางเลือกใหม่ในการเข้าถึงคลิ๊ปหนังในเวลาราชการผ่านบริการ 3G ซึ่งปัจจุบันมีราคาลดลง และอาจเร็วกว่าเน็ตของส่วนราชการบางแห่ง ก็ต้องมาติดตามว่าจะมีหนังสือแบบนี้ฉบับต่อไปจากหน่วยงานใดหรือไม่ เพราะเชื่อว่ากระแสโซเชียลในกลุ่มราชการจะไม่ต่างไปจากเดิมมากนัก ถ้าบอสไม่เอาจริง

+ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000011774

+ http://www.manager.co.th/Drama/ViewNews.aspx?NewsID=9570000145325

+ http://news.mthai.com/general-news/188920.html

ท่านเป็นเจนใดในแปดเจน (itinlife482)

ท่านเป็นเจนใดในแปดเจน
ท่านเป็นเจนใดในแปดเจน

ได้อ่านผลงานของ ผศ.ดร.ภูเบศร์ สมุทรจักร มหาวิทยาลัยมหิดล เรื่องเจนวาย แล้วไปอ่านภาพอินโฟกราฟฟิคของ kapook.com เรื่องคน 8 เจเนอเรชั่น ซึ่งคำว่าเจน (Gen) มาจาก Generation แปลว่า สายพันธุ์ ยุค หรือรุ่น ที่แบ่งช่วงอายุตามพฤติกรรม ได้เห็นการจำแนกมนุษย์ที่สัมพันธ์กับช่วงอายุ มีนักธุรกิจ หรือนักการตลาดใช้เป็นสารสนเทศในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย มีผลการศึกษาอย่างแพร่หลาย อีกเจนหนึ่งนอกจากแปดเจนที่พบในผลงานเรื่อง Gen-M Lifestyle ของ ม.หอการค้าไทย มี อายุระหว่าง 18-24 ปี เป็นกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัย หรือเริ่มทำงานใหม่ เป็นสมาชิกของครอบครัวที่ถูกดูแลสั่งสอนเป็นพิเศษ เป็นที่คาดหวังของพ่อแม่ไม่ให้ตกอยู่ในอำนาจของสิ่งยั่วยุ รักครอบครัว เคารพผู้ใหญ่ ตัดสินใจด้วยความคิดของตนเอง เปิดรับข้อมูลข่าวสารโดยใช้สื่อดิจิตอล

คนรุ่นแรกหรือรุ่นสูญหาย (Lost Gen.) เกิดช่วง 2426-2443 ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นการเริ่มต้นของความเจริญที่ชัดเจน คนรุ่นสองหรือรุ่นผู้ยิ่งใหญ่ (Greatest Gen.) เกิดช่วง 2444-2467 ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้ที่เกิดช่วงนี้จะเป็นกำลังหลักในการทำสงคราม มีความคิดเห็น ความเชื่อไปในทางเดียวกัน คนรุ่นสามหรือรุ่นเงียบ (Silent Gen.) เกิดช่วง 2468-2488 ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 มีประชากรไม่มากเพราะเป็นช่วงสงคราม เศรษฐกิจตกต่ำ ชีวิตยากลำบาก คนรุ่นสี่หรือรุ่นลูกเยอะ (Baby Boomer) เกิดช่วง 2489-2507 ยุคสิ้นสุดสงคราม มีการส่งเสริมการมีลูก เพื่อมาช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง เคารพกฎเกณฑ์ มีความอดทนสูง ถูกสั่งสอนให้เป็นคนประหยัด อดออม ใช้จ่ายอย่างรอบคอบระมัดระวัง

คนรุ่นห้าหรือรุ่นเอ็กซ์ (Gen-X) เกิดช่วง 2508-2522 ยุคโลกมั่งคั่ง เริ่มควบคุมการเกิด ชอบอะไรง่าย ไม่เรื่องมาก มีความคิดสร้างสรรค์ พึ่งมาตนเอง มีความสมดุลระหว่างงานกับครอบครัว คนรุ่นหกหรือรุ่นวาย (Gen-Y) เกิดช่วง 2523-2540 ยุคเทคโนโลยี เป็นตัวของตนเอง ช่างเลือก  ชอบมีชีวิตอิสระ ทำอะไรหลายอย่างพร้อมกันได้ เปิดรับข้อมูลข่าวสาร มีส่วนร่วมกับเครือข่ายสังคม กล้าแสดงออก มีความเห็นตรงไปตรงมา มักไม่เกรงใจ คนรุ่นเจ็ดหรือรุ่นแซด (Gen-Z) เกิดช่วง 2540 ถึงปัจจุบัน เป็นยุคเด็กใช้เทคโนโลยี เรียนรู้ได้เร็ว เป็นรุ่นสุดท้ายในยุคนี้ที่โตมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก สภาพแวดล้อมด้านไอทีที่พร้อมบริบูรณ์ คนรุ่นแปดหรือรุ่นซี (Gen-C) ไม่แบ่งตามอายุ เป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรมใช้โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย เสพติดการเชื่อมต่อ กดแชร์ กดไลค์ทุกเวลาที่มีโอกาส มักเป็นสมาชิกของสังคมก้มหน้า

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1420337305

http://www.thaipost.net/x-cite/090114/84364

http://hilight.kapook.com/view/83492

http://pantip.com/topic/30807680

http://sara-dd.com/index.php?option=com_content&view=article&id=227:consumer-%20behavior-gen-

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/lifestyle/20100106/93930/Y-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%9B-M-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7.html

ในที่สุด สงครามบราวเซอร์จบอีกครั้งแล้ว (itinlife479)

การสนทนาระหว่างบราวเซอร์ : กูมีไว้โหลดพวกมึง
การสนทนาระหว่างบราวเซอร์ : กูมีไว้โหลดพวกมึง

สิบกว่าปีก่อนมีสงครามบราวเซอร์ (Browser) ระหว่าง IE (Internet Explorer) กับ Netscape ซึ่งครั้งนั้นจบลงด้วยการยกธงขาวของ Netscape หลังจากนั้นปี 2004 ก็มี Firefox ที่เข้ามาในการแข่งขันจนกระทั่งเขย่าบัลลังของ IE ได้สำเร็จ แล้วปี 2008 บริษัทกูเกิ้ลได้เผยแพร่ Chrome จนกระทั่งปี 2012 ได้เข้ามาเป็นคู่แข่งสำคัญของ Firefox  จากโพสต์ของ Ed Bott นักเขียนใน Zdnet.com ทำให้ทราบว่าการแข่งขันของบราวเซอร์น่าจะจบลงในสิ้นปี 2014 นี้

บราวเซอร์  คือ โปรแกรมสำหรับเปิดดูเว็บไซต์ผ่านโปรโตคอล HTTP (HyperText Transfer Protocol) ถ้าไม่มีโปรแกรมบราวเซอร์ ผู้ใช้ก็จะเปิดดูเว็บไซต์ไม่ได้ เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งถูกใช้งานมากที่สุดในโลก จากสถิติใน w3schools.com พบว่าโปรแกรมที่ใช้เปิดเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมี 5 โปรแกรม มีสถิติการใช้งานเมื่อพฤศจิกายน 2014 เรียงจากมากไปน้อย ดังนี้ 1) Chrome  มีร้อยละ 60.1 2) Firefox มีร้อยละ 23.4 3) IE มีร้อยละ 9.8  4) Safari มีร้อยละ 3.7 และ 5) Opera มีร้อยละ 1.6 ดังนั้นการจะมีโปรแกรมน้องใหม่เข้ามาท้าทาย Chrome ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะโปรแกรมเหล่านี้สังกัดค่ายด้านไอทีที่เข้มแข็ง คือ Chrome เป็นของ google.com ส่วน Firefox เป็นของ Mozilla ส่วน IE เป็นของ Microsoft ส่วน Safari เป็นของ Apple หากจะมีโปรแกรมน้องใหม่เข้ามาขอส่วนแบ่งตลาดก็คงไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นนักวิเคราะห์จึงมองว่าสงครามนี้น่าจะจบลงด้วยการที่ Chrome มีชัยเหนือบราวเซอร์ทั้งปวง

ปัจจุบัน Chrome กินส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด มีหลายปัจจัยสนับสนุน อาทิ อุปกรณ์สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตส่วนใหญ่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ที่ติดตั้ง Chrome มาให้ใช้ ส่วนผู้ใช้บนระบบปฏิบัติการวินโดว์ที่นิยมสืบค้นข้อมูลผ่าน google.com ก็จะนิยมใช้ Chrome ไปด้วย เมื่อเข้า Chrome ก็สนับสนุนให้สืบค้นผ่าน google.com โดยง่าย อีกเหตุผลคือ ประสิทธิภาพ หน้าตา และฟังก์ชันที่ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีการเปรียบเทียบก็มักจะพบว่า Chrome ใช้งานง่าย และตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว แล้วท่านล่ะใช้บราวเซอร์ที่คนทั้งโลกนิยมใช้กันอยู่หรือไปไม่

http://www.w3schools.com/browsers/browsers_stats.asp

http://www.zdnet.com/article/did-the-browser-wars-finally-end-in-2014/

ชะตากรรมต้นไม้ใต้สายไฟฟ้า กับการหยุดปลูกต้นไม้ใต้สายไฟฟ้า (itinlife 477)

ชะตากรรมต้นไม้ใต้สายไฟฟ้า
ชะตากรรมต้นไม้ใต้สายไฟฟ้า
เป็นเรื่องปกติที่เราจะเห็นต้นไม้กับสายไฟฟ้าอยู่ร่วมกันใกล้ชิด เคยมีข่าวว่าเถาฟักไปออกลูกบนเสาไฟ ต้นไม้ตามถนนหนทางเกาะเกี่ยวสายไฟจนมองไม่ออก เพราะสายไฟผ่านเข้าด้านหนึ่ง และออกมาอีกด้านหนึ่งของต้นไม้ เป็นที่รู้กันว่าสายไฟฟ้ามีสัญญาณไฟฟ้าไหลอยู่ หากรั่วขึ้นมาแล้วมนุษย์ไปสัมผัสก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิต การที่ต้นไม้เติบโตขึ้นเองใกล้กับเสาไฟฟ้าถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ การตั้งใจปลูกต้นไม้ใต้สายไฟฟ้า ซึ่งพบเห็นได้เป็นปกติในประเทศไทย
เมื่อฝนตกแล้วไฟฟ้าดับ เชื่อว่าคนไทยนอกเมืองหลวงเคยพบกันมาแล้วทุกคน สาเหตุหนึ่งมาจากต้นไม้ทั้งประเภทที่ขึ้นใต้สายไฟฟ้า หรือขึ้นขนานกับสายไฟฟ้า ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะมีมาตรการป้องกันและแก้ไขโดยการลิดรอนตัดไม้และกิ่งไม้อยู่เสมอ แต่ถ้าป้องกันปัญหาแต่แรกด้วยการหยุดปลูกต้นไม้ใต้สายไฟฟ้าตามถนนหนทาง ก็เชื่อได้ว่าปัญหาจะลดลง ไม่ต้องเสียงบประมาณหาต้นไม้มาปลูก และต้องหาคนมาตัดกิ่งไม้ และต้องหาคนมาคอยแก้ปัญหาสายไฟฟ้าพันกับกิ่งไม้ สายโทรศัพท์พันกับกิ่งไม้ การที่อินเทอร์เน็ตในบางบ้านมีปัญหา ก็เชื่อได้ว่าสายโทรศัพท์อาจผูกพันธ์กับกิ่งไม้มากไปจนสัญญาณอาจสูญหายไปบ้าง
กิ่งไม้ไม่อยากจากสายโทรศัพท์
กิ่งไม้ไม่อยากจากสายโทรศัพท์
เคยอ่านผลการวิจัยเรื่อง วิเคราะห์สาเหตุกระแสไฟฟ้าขัดข้องของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยคุณวสันต์ เรืองศรี ศึกษาข้อมูลระหว่างปี 2548 – 2552 พบว่าสาเหตุที่ทำให้ไฟฟ้าขัดข้องเกิดจากต้นไม้เป็นอันดับ 4 เกิดขึ้นมากถึง 186 ครั้ง ในพื้นที่อื่นที่ปลูกต้นไม้ใต้สายไฟฟ้ากันมากก็อาจมีสถิติของปัญหามากกว่าที่ปทุมธานีก็ได้ สรุปสาเหตุเกี่ยวกับต้นไม้ที่ส่งผลให้ไฟฟ้าดับ คือ การตัดต้นไม้ใกล้แนวสายไฟฟ้า การเผาวัชพืชใกล้สายไฟฟ้า ต้นไม้ล้มทับสายไฟฟ้า กิ่งไม้พาดสายไฟทำให้ไฟฟ้ารั่วลงดิน นอกจากสายไฟฟ้าจะได้รับผลกระทบแล้ว ก็ยังมีสายโทรศัพท์ สายเคเบิ้ลทีวี ส่วนต้นไม้ก็ได้รับผลกระทบเพราะเคยเห็นต้นไม้กำลังโต แต่ก็ต้องมาถูกตัด เพื่อไม่ให้ไปพันสายไฟ ถ้าใช้งบประมาณส่วนนี้ไปปลูกต้นไม้ที่อื่นแล้วปล่อยให้เติบใหญ่งอกงามเป็นเครื่องฟอกอากาศตามธรรมชาติอย่างยั่งยืนก็จะดีไม่น้อย สรุปว่าเสียดายต้นไม้ที่ต้องถูกตัดไม่ให้สูงไปกว่าสายไฟฟ้า