ตอนที่ 8 งานพาร์ทไทม์ กับ เดย์เวิร์เรื่องเล่า สังคมคนรักอ่าน

เราทุกคนต่างมีเรื่องเล่า
วันนี้ .. พบเรื่อง งานพาร์ทไทม์
ค้นข้อมูลต่อไป ก็พบ
เว็บไซต์ daywork.co / เด็กฝึกงาน.com
เป็นแพลตฟอร์มหางานพาร์ทไทม์ / งานประจำ
ที่พัฒนามาจาก startup
โดย ศศิวิมล เสียงแจ้ว หรือ ฝ้าย
ค้นข้อมูลก็จะพบในสื่ออย่างมากมาย
ซึ่ง จุดเด่นของแพลตฟอร์ม
จำแนกได้ 4 กลุ่ม ดังนี้

  1. ครบจบที่เดียว
  2. หาคนต้องได้คน
  3. รวดเร็วทันใจ มีคุณภาพ
  4. หาคนด่วน งานเร่ง หายห่วง
    https://www.thaiall.com/job/appjob.htm
    ทุกเนื้อหาที่ถูกเรียบเรียง คัดกรอง
    แล้วเผยแพร่ ล้วนมีความสำคัญ
    ที่เป็นเอกลักษณ์ ที่สะท้อนทักษะของตน
    ส่งผลให้กลุ่มเป้าหมายจดจำได้
    และเชื่องโยงกับความต้องการของตนเอง
    และนั่นคือวัตถุประสงค์ของการเล่าเรื่อง

https://vt.tiktok.com/ZSYgtnjWc

ตอนที่ 8 #งานพาร์ทไทม์ กับ #เดย์เวิร์ค
เรื่องเล่า #สังคมคนรักอ่าน

content

blog

job

student

internships

ตอนที่ 4 เป็นโรงเรียนใหญ่พิเศษ เพราะมีเพื่อนเรียนด้วยเยอะ เรื่องเล่า สังคมคนรักอ่าน

หาอ่านข้อมูลโรงเรียน
จากเว็บไซต์ สพม. ลำปาง ลำพูน มาครับ

เมื่อมองดูสังคม และข้อมูลนักเรียน
พบข้อมูลโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา
จำแนกรายอำเภอ รายจังหวัด ที่เผยแพร่โดย สพม.
.
ทำให้รู้ว่าที่จังหวัดลำปางมีโรงเรียนรัฐ ระดับมัธยมศึกษา ทั้งหมด 30 โรงเรียน
– มีโรงเรียนใหญ่พิเศษ 2 โรงเรียน
– มีโรงเรียนใหญ่ 8 โรงเรียน
– มีโรงเรียนกลาง 18 โรงเรียน
– มีโรงเรียนเล็ก 2 โรงเรียน

ดังนั้น นักเรียนที่สนใจ
หาที่เรียนระดับมัธยมศึกษา
แล้วต้องการมีเพื่อนร่วมรุ่นเยอะ
การเลือกขนาดโรงเรียนใหญ่พิเศษ
ก็เป็นทางเลือกที่ดี

แต่ถ้าต้องการเรียนใกล้บ้าน พบว่า ทั้ง 13 อำเภอ
มีโรงเรียนอยู่ในทุกอำเภอ
แต่ที่อำเภอเมือง มีมากที่สุด คือ 7 โรงเรียน
รองลงมาคือ อำเภอเมืองปาน คือ 4 โรงเรียน
.
ซึ่งจำนวนโรงเรียนตามข้อมูลชุดนี้ เป็นข้อมูลโรงเรียนรัฐ
ส่วนโรงเรียนเอกชน และประเภทอื่น ๆ
ที่มีการสอนเฉพาะด้านแตกต่างกันไป
เช่น โรงเรียนเอกชนมี 27 โรงเรียน หรือ กศน. มี 13 แห่ง อยู่ในแต่ละอำเภอ
.
ปัจจุบัน เราสืบค้นสารสนเทศโรงเรียน
ตามความสนใจมาอ่านได้ง่าย
เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะพัฒนาตนเอง ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง
พบว่า มีที่เรียนให้เลือกมากมาย ที่เราสามารถหาสืบค้นข้อมูล ได้จากอินเทอร์เน็ต

สารสนเทศ สพม. ลำปาง ลำพูน

https://vt.tiktok.com/ZSYSodVUd/

ตอนที่ 4 เป็นโรงเรียนใหญ่พิเศษ
เพราะมีเพื่อนเรียนด้วยเยอะ
เรื่องเล่า #สังคมคนรักอ่าน
#รักการอ่าน
#โรงเรียน
#school
#สารสนเทศ
#ห้องเรียน
#ข้อมูล
#สพม
#ลำปาง
#น่าเรียน

http://www.sesalpglpn.go.th/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-%E0%B8%9E-%E0%B8%A8-2565-10-%E0%B8%A1%E0%B8%B4/

ตอนที่ 4 การตลาดออนไลน์ ผ่าน SEO และบทความอัตลักษณ์
เล่าเรื่อง โค้ดดิ้ง

มีเพื่อนคนหนึ่งกล่าวไว้
เพื่อนคือของขวัญของชีวิต
.
ดังนั้น วันนี้ อยากเล่าเรื่อง
เพื่อนใหม่ที่ชวนคบกันยาว ๆ
เค้าชวนคุยเรื่องการทำ SEO
สามารถหาอ่าน
สิ่งที่เพื่อนเขียน และให้บริการ ได้จาก
เว็บไซต์ searchmonopoly.com
.
ในโฮมเพจของเพื่อนท่านนี้
มีบทความที่น่าสนใจมากมาย
เช่น Search engine
และ การตลาดออนไลน์
.
ซึ่งเค้าเน้นการทำ SEO ซึ่งหมายถึง
การกระทำต่าง ๆ
เพื่อทำให้หน้าเว็บเพจ
สื่อสารกับ Search Engine ได้ดียิ่งขึ้น
ตามมาตรฐานการพัฒนาเว็บ
มีผลโดยตรงต่อการทำการตลาดออนไลน์
.
การพัฒนาเว็บ มีเครื่องมือที่หลากหลาย
และ การโค้ดดิ้งมากมาย เช่น
PHP Framework , Python, WordPress,
React หรือ Next.js
.
หนึ่งในบริการของเพื่อนคนนี้
ที่ผมรู้สึกชอบมาก
เมื่ออ่านจากเว็บไซต์ของเค้า
คือ การเขียนบทความ
ซึ่งสัมพันธ์กับ content is king
.
ทำให้นึกถึงองค์กรต่าง ๆ ที่มีเนื้อหา
เช่น มหาวิทยาลัย โรงเรียน บริษัท
ห้างร้าน ชมรม สมาคม เทศบาล จังหวัด
หน่วยงานทั้งเอกชน และภาครัฐ
.
หากมีบทความที่ดี หรือเนื้อหาที่เยี่ยม
ที่เขียนโดย ผู้อำนวยการ ผู้จัดการ
อธิการบดี นายก หรือ หัวหน้าสำนักงาน
ที่สะท้อน เอกลักษณ์ และอัตลักษณ์ได้
ย่อมเป็นการทำการตลาดออนไลน์
ที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก

https://vt.tiktok.com/ZSYrTg1Et/

ตอนที่ 4 #การตลาดออนไลน์
ผ่าน #SEO และ #บทความอัตลักษณ์
เล่าเรื่อง #โค้ดดิ้ง
#friend
#searchengine
#article
#marketing
#content
#cms


นิสิตเลือกแฟน เลือกจากอะไร {หล่อ/สวย, รวย, ฉลาด}

เล่าสู่กันฟังเรื่อง “นิสิตเลือกแฟน
มีโอกาสพูดคุยเรื่องการจัดตารางงาน (Scheduling)
หัวข้อ Priority ที่เลือกตามระดับความสำคัญมาก่อน
กำหนดให้กลุ่มตัวอย่าง คือ หนุ่ม ๆ สาว ๆ ในห้องเรียน
(ยังมีแบบสั้นก่อน เหลือน้อยก่อน แบ่งระดับ ที่ยังไม่นำมาแบ่งปัน)

peach girl เธอสุดแสบที่แอบรัก
peach girl เธอสุดแสบที่แอบรัก

https://en.wikipedia.org/wiki/Peach_Girl

คำถาม คือ
ถ้าต้องเลือกแฟน จะเลือกตามอะไรเป็นอันดับแรก
หากมี 3 ตัวเลือก คือ หล่อ/สวย รวย หรือฉลาด
ให้เวลานิสิตเลือกสักพัก เมื่อผ่านไปอึดใจหนึ่ง
ให้แต่ละคน เขียนคำตอบลงกระดาษที่เตรียมไว้
เพื่อไม่ให้คำตอบของคนหนึ่ง มีอิทธิพลต่อคนอื่น
คำตอบ คือ
ครึ่งหนึ่งเลือก รวย
อีกครึ่งหนึ่งเลือก ฉลาด
ไม่มีใครเลือก หล่อ/สวย
??? น่าสนใจที่นิสิตไม่เลือกคนหล่อ/สวย เป็นอันดับแรก ???
ถามใหม่
คำถาม คือ
นิสิต เห็นเพื่อนนิสิตที่เค้ามีแฟนกัน
คิดว่า เพื่อน ๆ เค้าเลือกตามอะไร เท่าที่เห็น
คำตอบ เป็นเสียงเดียวกัน โดยมิได้นัดหมาย
ทุกคน ร้อยละ 100 บอกว่า เลือกสวย/หล่อ
พอฟังเท่านั้นหละ
ผมก็บอกเลยว่า “เอ๊ะ นี่ปากไม่ตรงกับใจกันเลยนะ”
มีนิสิตคนหนึ่งบอกว่า
ตอนกำลังคิดนี่ เห็นมอง ๆ กันในห้องนั้นหละ
ดั่งโบราณว่า “ปากอย่าง ใจอย่าง
แล้วก็เล่าเรื่อง “การเมือง
ว่าข่าวเช้า 11 ก.พ.2562
ว่ามีสมาชิกพรรคการเมือง
บ่นเรื่องการจัดอันดับ Party list
ว่าตนอยู่อันดับท้าย ๆ ของความเป็นไปได้
ที่จะได้เข้าไปนั่งในสภาฯ
การเลือกของผู้จัดทำ Party list มี 2 เกณฑ์
1. นายทุน/ผู้สนับสนุน/คนใกล้ชิด
2. ผู้อุทิศตนเพื่อพรรคมาโดยตลอด
ถามนิสิตไปว่า เกณฑ์สำคัญ
ที่จะเลือกจัดคิวเข้า Party list
จะเลือกจากข้อ 1 หรือข้อ 2
ทุกคนเลือกเหมือนกัน และเหตุผลดีด้วย

f4 series
f4 series

https://thestandard.co/f4-2018/

10 อาชีพที่น่าแนะนำเยาวชนว่าเรียนแล้วมีอนาคตสดใส

10 อาชีพที่น่าจะรายได้ดี และมีโอกาสได้งานทำสูง
ในยุคอินดัสทรี (Industry) 4.0

ธนวรรธน์ พลวิชัย” ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ให้ข้อมูลอาชีพในอนาคต ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างสูงในไทย 10 อันดับ ได้แก่

1. อาชีพเขียนโปรแกรมเมอร์  (Programmer)
ผู้ที่คิดค้นแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ตามเทรนด์สังคมโลกเปลี่ยนผ่าน
จาก analog สู่ digital จากกดปุ่มเป็นจอสัมผัส
และไปสู่อินดัสทรี 4.0 ที่มีดิจิตอลเป็นหัวใจ

2.อาชีพที่เกี่ยวข้องกับความสวย ความงาม (Beauty)
ผู้รับทำให้ผู้คนสวยงาม ได้แก่ แพทย์ศัลยกรรม แพทย์ผิวหนัง ทันตแพทย์ เภสัชกร พนักงานขายสินค้าด้านความงาม ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับหญิงและชาย ซึ่งในไทยเป็นที่นิยมอย่างมาก

3.อาชีพดูแลด้านสุขภาพ (Health)
ครอบคลุมตั้งแต่เด็กถึงวัยชรา เทรนด์นี้ทั้งโลกให้ความสำคัญ โดยเฉพาะไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อยากมีอายุยืนยาวขึ้น ยอมจ่ายเเพื่อตรวจสุขภาพประจำปีกับโรงพยาบาล รับประทานอาหารที่เน้นดูแลตัวเอง และธุรกิจฟิตเนส เทรนเนอร์ จะได้รับความนิยม

4.อาชีพที่เรียนด้านวิทยาศาสตร์เคมี ชีวเคมี  (Science)
ผู้ที่เรียนทางวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันมีการใช้สารเคมีที่มาจากธรรมชาติ จากพืช อาทิ การใช้พลาสติกจากชานอ้อย บริษัทที่ผลิตสินค้าที่ผลิตจากพืชจะได้รับความนิยม เพราะโลกจะให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม

5.อาชีพที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน (Energy)
ผู้ที่มีความรู้เรื่องพลังงาน พลังงานทดแทน การดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้ามีบทบาทในชีวิตประจำวัน

พลังงานทดแทน
พลังงานทดแทน

6.อาชีพที่มีความชำนาญด้านเครื่องกลขั้นสูง (Mechanical specialist)
ผู้ที่จะเป็นกลไกสำคัญพาประเทศปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม

7.อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษา (Language)
ผู้ที่มีความรู้ในภาษา มีทักษะทั้งการพูด การเขียน การคิดสโลแกน ถ้อยคำ ภาษาสำคัญ คือ อังกฤษและจีน ที่ใช้ทั่วโลก และภาษาอารบิกสำหรับชาวมุสลิมที่กระจายอยู่ทั่วโลก รวมถึงภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น

8.อาชีพนักกฎหมายธุรกิจ (Law)
นักกฎหมายที่มีความรู้เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ

9.อาชีพที่ดูแลสิ่งแวดล้อม (Environment)
ผู้มีความรู้เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการฟื้นฟูธรรมชาติ

10.  อาชีพที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง (Pet)
อาชีพสัตวแพทย์ ผู้ผลิตวัคซีนสำหรับสัตว์เลี้ยง ร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง แฟชั่นสัตว์เลี้ยง และการผลิตอาหารสัตว์

อาชีพทั้งหมดนี้ประเมินจากโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่มุ่งสู่อุตสาหกรรม 4.0 ที่มีระบบดิจิตอลเป็นหัวใจสำคัญ ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงจากโรบอติก เชื่อมโยงโลก ต้องการแรงงานทักษะ แต่ลดการใช้แรงงานทั่วไป การเปลี่ยนของโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศที่เกิดขึ้น “อรรชกา สีบุญเรือง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แสดงความเห็นว่า ต่อไปประเทศไทยต้องก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ใช้เทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำมากขึ้น ทำให้ความต้องการแรงงานทั่วไปลดลง แต่ต้องการแรงงานที่มีทักษะสูง โดยขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งภาคเอกชน ได้หารือร่วมกัน เพื่อปรับหลักเกณฑ์การเรียนการสอนให้นักศึกษาใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการแรงงานของภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวยังมั่นใจว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้าจะเห็นภาพการเปลี่ยนแปลง คือ ความต้องการแรงงานที่ต้องใช้ทักษะอาชีพที่มีความเชี่ยวชาญขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบจนเลิกจ้างงาน หรืออัตราการว่างงานเพิ่มมากขึ้น เพราะตอนนี้แรงงานในภาคบริการยังขาดอยู่มาก อาทิ ภาคท่องเที่ยว ซึ่งอัตราการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาจมีการโยกแรงงานจากอุตสาหกรรมการผลิต เข้าสู่อุตสาหกรรมภาคบริการเพิ่มขึ้น แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจะเตือนให้รับมืออนาคต แต่ที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน คือนโยบายลดพนักงานลงแบบสมัครใจออก ของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ที่จัดโครงการ “จากกันด้วยใจ” โดยเป็นพนักงานในส่วนของการรับเหมาค่าแรง (ซับคอนแทร็กต์) ที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1,000 คน สาเหตุที่โตโยต้าปรับลดพนักงาน บริษัทให้ข้อมูลว่า เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงชะลอตัว ประกอบกับความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีผลต่อการส่งออก ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ต้องปรับลดกำลังการผลิตลง และมีพนักงานเกินความจำเป็นในการผลิต แต่ยืนยันว่าหากกำลังผลิตกลับมาปกติจะกลับมาจ้างงานกลุ่มที่ลาออกแน่นอน แม้จะเป็นการจากลาแบบ “สมยอม” แต่ลึกๆ ในกลุ่มแรงงานเองต่างหวาดหวั่นกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งหวาดหวั่นกับสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวจนบริษัทใหญ่ต้องลดพนักงาน เกิดการตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่า จริงๆ แล้วเศรษฐกิจไทยกำลังดี หรือชะลอตัว เพราะในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน หัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาล “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี เพิ่งประกาศกับนักลงทุนญี่ปุ่นภายในการประชุมแบงค็อก นิกเกอิ ฟอรั่ม 2559 จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตดี โดยเฉพาะไตรมาส 2 มากกว่า 3% อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลบ่งชี้สถานการณ์การจ้างงานของไทย เปิดเผยโดยกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ตัวเลขการว่างงานของไทยช่วง 3 เดือนของปีนี้ พบว่าเดือนเมษายน มีตัวเลขผู้ว่างงาน 1% เดือนพฤษภาคม 1.2% และเดือนมิถุนายน 1% โดยกระทรวงแรงงานยืนยันว่าตัวเลขดังกล่าวอยู่ในภาวะปกติ แต่หลายคนก็มองว่าตัวเลขการว่างงานดังกล่าวดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องปกตินักเพราะสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เอง ก็กำลังจับตาการจ้าง 5 เดือนแรกของปีนี้ ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม พบว่า มีอัตราการว่างงานเฉลี่ยอยู่ที่ 385,682 คน จากกำลังแรงงานทั้งหมด 38.5 ล้านคน หรือคิดเป็น 1.07% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ระดับ 0.93% นอกจากนี้ สำนักเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ยังให้ข้อมูลว่าแนวโน้มการจ้างงานในปี 2559 จะมีบัณฑิตจบใหม่ 100,000 คน และ 1 ใน 4 อาจไม่มีงานทำ แม้สถานการณ์จ้างงานจะไม่สู้ดีนัก แต่ถ้ารู้จักรับมือและมองเทรนด์โลกให้ออก เชื่อว่าไม่มีคำว่า “ตกงาน” แน่นอน

 

ที่มา คอลัมน์ เศรษฐกิจ
มติชนสุดสัปดาห์ หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์
วันที่: 23 ก.ค. 59 เวลา: 07:46 น.

 

อ้างอิง http://www.matichon.co.th/news/220863
อ้างอิง  http://www.kroobannok.com/article-79488-10-อาชีพในอนาคต-ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างสูงในไทย.html
ข้อมูลเพิ่มเติม

แรงงานเชี่ยวชาญ

             การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 9 เมื่อ 7 ตุลาคม 2546 ที่บาหลี อินโดนีเซีย ได้กำหนดจัดทำข้อตกลงร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangements : MRAs) เกี่ยวกับคุณสมบัติของวิชาชีพหลัก แรงงานเชี่ยวชาญ หรือผู้มีความสามารถพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรี โดยจะเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2558

ในเบื้องต้นได้ทำข้อตกลงร่วมกันแล้ว 7 สาขา

    1. วิศวกรรม (Engineering Services)
    2. พยาบาล (Nursing Services)
    3. สถาปัตยกรรม (Architectural Services)
    4. การสำรวจ (Surveying Qualifications)
    5. แพทย์ (Medical Practitioners)
    6. ทันตแพทย์ (Dental Practitioners)
    7. บัญชี (Accountancy Services)

แรงงานเชี่ยวชาญ
แรงงานเชี่ยวชาญ

http://www.thaiall.com/asean/

ณธิดา ขลุ่ยภิรมย์รัตน์ เข้ารอบนางสาวไทย 2559

ณธิดา ขลุ่ยภิรมย์รัตน์ เข้ารอบนางสาวไทย 2559
ณธิดา ขลุ่ยภิรมย์รัตน์ เข้ารอบนางสาวไทย 2559

https://www.facebook.com/nathida.kluiphiromrat
ทุก ๆ  ปีจะมีการประกวดนางสาวไทย ในประเทศไทย
http://www.missthailandofficial.com/
แล้วปีนี้นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเนชั่น
ที่ได้เข้ารอบ 34 คนสุดท้าย คือ
น้องแตงกวา นางสาวณธิดา ขลุ่ยภิรมย์รัตน์ (Nathida Kluiphiromrat)
นักศึกษานิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 2
มหาวิทยาลัยเนชั่น ศูนย์เนชั่นบางนา

เชิญชวนชาวเนชั่น ให้กำลังใจในการประกวดนางสาวไทยปีนี้


เมื่อมีนาคม 2015 น้องแตงกว่าเข้ารอบ 25 คนสุดท้าย
ของการประกวด Miss Motor Show Thailand
https://www.facebook.com/MissMotorshowThailand/photos/t.100000432666727/789338437782795/

ณธิดา ขลุ่ยภิรมย์รัตน์
ณธิดา ขลุ่ยภิรมย์รัตน์

เข้ารอบนางสาวไทย 34 คนสุดท้าย
การประกวด นางสาวไทย 2559
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1195076070516804&set=a.385463871478032.97213.100000432666727

Nathida Kluiphiromrat ใน Missthailand2016

Nathida Kluiphiromrat ใน Missthailand2016
Nathida Kluiphiromrat ใน Missthailand2016

https://www.facebook.com/missthailandofficial/photos/a.275202056163519.1073741846.255567001460358/275202216163503/

ที่สุดแห่งปี 2558 โดย Nation U Poll ทาง Nation TV

nation u poll
nation u poll

มีโอกาสพบข้อมูลจาก รายการเก็บตกจากเนชั่น (ภาคเที่ยง) ของ Nation TV
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2558
ที่ อ.ดรรชกร ศรีไพศาล แชร์มาในกลุ่ม Nation_University
หรือ คุณอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ แชร์ใน กลุ่ม Line
จึงได้พบผล Nation U Poll ที่สำรวจโดยสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยเนชั่น
ที่สอบถามในพื้นที่ของกรุงเทพฯ จำนวน 1083 คน
ระหว่าง 22 – 28 ธ.ค.58
เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ประทับใจที่สุด และเศร้างใจที่สุดของปี 2558
และความคาดหวังปี 2559 มีผลสำรวจดังนี้

ประทับใจที่สุด
ประทับใจที่สุด

เหตุการณ์ประทับใจที่สุด ในปี 2558
อันดับที่ 1 กิจกรรม Bike for Dad 22.8%
อันดับที่ 2 ฟุตบอลไทยลุ้นไปฟุตบอลโลก 14.6%
อันดับที่ 3 การจัดระเบียบจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล 11.9%
อันดับที่ 4 Miss Universe Thailand เข้ารอบ Top 10 Miss Universe 10.3%
อันดับที่ 5 การเตรียมความพร้อมเปิด AEC 9.1%

เศร้าใจที่สุด 2558
เศร้าใจที่สุด 2558

เหตุการณ์เศร้าใจที่สุด ในปี 2558
อันดับที่ 1 อาการป่วยของนักแสดง ปอ ทฤษฎี 22.0%
อันดับที่ 2 การโจมตีกรุงปารีส 17.4%
อันดับที่ 3 เหตุระเบิดย่านราชประสงค์ 12.3%
อันดับที่ 4 หลวงพ่อคูณมรณภาพ 9.4%
อันดับที่ 5 ขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญา 8.7%

ความคาดหวังในปี 2559
ความคาดหวังในปี 2559

ความคาดหวังในปี 2559
อันดับที่ 1 เศรษฐกิจดีขึ้นและมีเสถียรภาพ 19.9%
อันดับที่ 2 การเลือกตั้ง 14.3%
อันดับที่ 3 การกำจัดปัญหาทุจริตคอรัปชั่น 11.9%
อันดับที่ 4 บ้านเมืองสงบสุข คนในชาติมีความสามัคคีกัน 10.5%
อันดับที่ 5 รายได้และสวัสดิการเพิ่มขึ้น 10.2%

ประเทศไทยมีคนตายจากอุบัติเหตุทางถนน อันดับ 3 ของโลก

สืบเนื่องจาก อ.ทรงเกียรติ แชร์ข่าวมาให้อ่าน ว่าไทยเราติดที่ 3 เรื่องภัยทางถนน พอติดตามก็ทำให้รู้สึกกังวล เพราะมีผู้คนที่รู้จักจำนวนไม่น้อยจากไป หรือประสบภัยทางถนนในหลายรูปแบบ .. ต่อไปจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัย อย่างเอาจริงเอาจังซะแล้ว ก็เพราะไทยที่ 3 ของโลกนี่หละ

ประเทศไทยมีคนตายจากอุบัติเหตุทางถนน อันดับ 3 ของโลก
ประเทศไทยมีคนตายจากอุบัติเหตุทางถนน อันดับ 3 ของโลก

http://www.thairath.co.th/content/edu/359132

อึ้ง .. ไทยติดที่ 3 ของโลก ‘ประเทศที่มีคนตายจากอุบัติเหตุทางถนน’

องค์การอนามัยโลกเผยรายงานสถานะประเทศ 2013 ไทยมีอัตราส่วนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นที่ 3 ของโลก มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน และเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เฉลี่ยทุกๆ 1 ชั่วโมงมีคนเจ็บ-ตาย 2 คน
เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2556 นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือแห่งองค์การอนามัยโลกด้านการป้องกันอุบัติเหตุ เปิดเผยรายงานความปลอดภัยทางถนนของโลก พ.ศ.2556 (Global Status Report on Road Safety 2013) จัดทำโดยองค์การอนามัยโลก พบอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของไทยพุ่งสูงขึ้นเป็นอันดับ 3 ของโลก เสียชีวิตถึง 38.1 คนต่อประชากร 1 แสนคน รองจากประเทศเกาะนีอูเอ และสาธารณรัฐโดมินิกัน

นพ.วิทยา กล่าวว่า ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน รวมจากทุกพาหนะและคนเดินเท้าแล้วถึง 13,766 คน จากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2554  (ปี ค.ศ.2010) เป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “แต่จากการประมาณการการเสียชีวิตจากอุบัติภัยบนท้องถนนของประเทศไทย โดยองค์การอนามัยโลก ในปี ค.ศ. 2010 สูงถึง 26,312 คน คิดเป็นอัตรา 38.1 ต่อประชากร 100,000 คน”
นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบอัตราการเสียชีวิตของแต่ละประเทศ ด้วยบรรทัดฐานเดียวกันคือ จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนต่อประชากร 1 แสนคน แล้วกลายเป็นว่า ไทยมีอัตราผู้เสียชีวิต 38.1 คนต่อจำนวนประชากร 1 แสนคน นับเป็นอันดับ 3 รองจากอันดับ 1 คือ นีอูเอ (Niue) มีอัตราผู้เสียชีวิต 68.3 คน ต่อจำนวนประชากร 1 แสนคน อันดับ 2  คือ สาธารณรัฐโดมินิกัน มีอัตราผู้เสียชีวิต 41.7 คนต่อจำนวนประชากร 1 แสนคน
โดยเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2556 องค์การอนามัยโลกได้เปิดเผยในรายงานความปลอดภัยทางถนนของโลก พ.ศ. 2556 (Global Status Report on Road Safety 2013) ภาพรวมของการสำรวจจาก 182 ประเทศ มี 6 ประเทศที่ลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้อย่างน่าชื่นชม ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวีเดน และอังกฤษ ส่วนที่เหลืออีก 176 ประเทศ มี 88 ประเทศที่ลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้จริง ขณะที่ 87 ประเทศ อีก 1 ประเทศไม่ระบุ มีสถิติผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ในรายงานยังบอกว่า 3 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตเป็นคนหนุ่มสาวอายุระหว่าง 15-29 ปี  ถ้าแต่ละประเทศไม่ป้องกัน การเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจะขึ้นมาเป็นอันดับ 5 ของการเสียชีวิตของคนทั้งโลกภายในปี พ.ศ. 2573
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา องค์กรอนามัยโลก ร่วมกับศูนย์ความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลกกับโรงพยาบาลขอนแก่น แถลงผลการรายงานสถานะความปลอดภัยทางถนนโลก ปี 2556 และจัดประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในหัวข้อ ทำไมประเทศไทยถึงมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุอยู่อันดับต้นของโลกเพื่อหา แนวทางแก้ไขและแลกเปลี่ยนข้อเสนอแนะในการบรรเทาผู้เสียจากอุบัติเหตุทางถนน ซึ่ง ดร.นิมา อัสการี รักษาการผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า
รายงานความปลอดภัยทางถนนของโลกปี 2556 (Global Stabal Report on Road 2013) พบอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนของไทยพุ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยมีผู้เสียชีวิต 38.1 รายต่อประชากร 1 แสนราย รองจากอันดับ 1 แสนราย อันดับ 2 คือ สาธารณรัฐโดมินิกัน มีอัตราผู้เสียชีวิต 41.7 รายต่อประชากร 1 แสนราย และองค์การอนามัยโลกกำลังเป็นห่วงในเรื่องนี้ เพราะจากตัวเลขยานพาหนะที่จดทะเบียนทั่วโลกมีมากขึ้นร้อยละ 15 และในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากอับุติเหตุเป็น 1.24 ล้านราย
ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศที่มีรายได้ระดับต่ำถึง ระดับปานกลาง มียอดผู้เสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 33 บางประเทศสูงถึงร้อยละ 75 และจากการสำรวจระหว่างปี 2550-2553 ใน 182 ประเทศ มีประเทศออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวีเดน และอังกฤษ ที่สามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้อย่างน่าชื่นชม
อย่างไรก็ตาม นพ.วิทยา กล่าวย้ำว่า เป็นที่น่าตกใจที่ข้อมูลของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.2554 มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน รวมจากทุกพาหนะและคนเดินเท้าแล้ว แค่ 13,766 คน ต่างจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ที่ทำการประเมินในปีเดียวกัน มีจำนวนสูงถึง 26,312 ราย คิดเป็นอัตรา 38.1 ต่อประชากร 1 แสนราย เป็นอันดับ 1 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตัวเลขที่ต่างกันอาจเกิดจากวิธีการเก็บข้อมูลที่ต่างกัน แต่ก็มีความหมายเดียวกันว่า ปัญหาเรื่องอุบัติเหตุทางท้องถนนของประเทศไทย ถือว่าค่อนข้างวิกฤติมีคนเจ็บ คนตาย เฉลี่ยชั่วโมงละ 2คน และทุกคนมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเหมือนกัน.

โดย ทีมข่าวไทยรัฐทีวี 25 กรกฎาคม 2556, 05:15 น.

http://www.autoyim.com/252081/%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94-jpg2

อาชีพนักข่าวจัดว่าต่ำสุดที่สหรัฐอเมริกา

ดูเรื่องมายาตวัน ผมชอบครับ รู้สึก Drama
มีคนบอกว่า ชีวิตจริงดั่งละคร ก็ไม่รู้หมายความว่าอย่างไร
แต่ผมชอบ อุรัสยา  สเปอร์บันด์ หรือ ญาญ่า น่ารักดี

drama แปลว่า ละคร
drama แปลว่า ละคร


จาก 4 เกณฑ์ที่ใช้จัดอันดับอาชีพ
1. สภาพแวดล้อมในการทำงาน (Environment)
2. รายได้ (Income)
3. โอกาสในการจ้างงาน  (Outlook)
4. ความเครียดของงาน (Stress)
http://www.thairath.co.th/content/edu/341959

อาชีพนักข่าวถูกจัดให้เป็นอาชีพที่ตกต่ำที่สุด เป็นอาชีพที่ต่ำต้อยที่สุด ในบรรดาการงานอาชีพที่ทำกันอยู่ในอเมริกา 200 ชนิด ตกต่ำยิ่งเสียกว่าพนักงานเก็บขยะ คนโค่นต้นไม้และตัดไม้ คนงานล้างจาน และอื่น ๆ อีกหลายอย่าง

บริษัทพัฒนาทรัพยากรบุคคล “คาเรีย แคสท์” ผู้จัดอันดับได้อ้างว่าจัดโดยถือหลักตัวแปร 4 ตัวด้วยกัน ตั้งแต่สภาพแวดล้อมในการทำงาน รายได้ โอกาสในการจ้างงาน และความเครียดของงาน โดยหลักเกณฑ์ 4 ประการนี้ บริษัทได้ยกย่องให้อาชีพผู้คิดอัตราค่าประกัน เป็นงานที่อยู่อันดับสูงส่งที่สุด

โดยพิจารณาจากข้อมูลสำรวจรายปี อาชีพนักข่าวได้เริ่มส่อเค้าตกต่ำ มาเป็นต่ำต้อยที่สุด ตั้งแต่ปีกลาย โดยถูกจัดรวมอยู่ในอาชีพที่ตกต่ำที่สุด 5 อาชีพด้วยกัน

ขณะที่ผลการจัดอันดับในปีนี้ ได้เลือกให้อาชีพนักข่าวเป็นอาชีพที่ตกต่ำที่สุดกว่าเพื่อน อยู่อันดับที่ 200 โดยมีอาชีพคนโค่นต้นไม้และตัดไม้ อยู่อันดับที่ 199 อาชีพทหารเกณฑ์ อันดับที่ 198 ดารา อันดับ 197 คนงานขุดเจาะน้ำมัน อันดับ 196 และคนงานในฟาร์มโคนม อันดับ 195 อาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน อันดับ 191 ช่างภาพหนังสือพิมพ์ อันดับ 188

บริษัทกล่าวว่า รัศมีอาชีพนักข่าวได้หม่นหมองลงตั้งแต่ 5 ปีมาแล้ว และยังวิตกว่ากว่าจะถึง พ.ศ.2563 จะยิ่งตกต่ำยิ่งกว่านี้ลงไปอีก

ทางด้านอันดับสูง ๆ นอกจากอาชีพผู้คิดอัตราค่าประกันแล้ว ยังตามด้วยอาชีพวิศวกรด้านวิศวกรรมชีวเวช วิศวกรซอฟต์แวร์ นักโสตสัมผัสวิทยา และนักวางแผนทางการเงิน.

โดย ไทยรัฐออนไลน์ 1 พฤษภาคม 2556, 12:00 น.

http://www.careercast.com/jobs-rated/best-worst-jobs-2013 (all)
http://www.careercast.com/jobs-rated/best-jobs-2013
http://www.careercast.com/jobs-rated/worst-jobs-2013
http://www.careercast.com/jobs-rated/jobs-rated-2013-methodology
http://drama.kapook.com/view56016.html

หนังไทย พี่มากพระโขนง มีรายได้ 3 ร้อยกว่าล้าน

อันดับหนังทำเงิน เทียบรายการไทยกับฝรั่ง
อันดับหนังทำเงิน เทียบรายการไทยกับฝรั่ง

เห็นปกนิตยสารเนชั่นสุดสัปดาห์ บอกว่า พี่มากพระโขนง ทำรายได้แซงโกโบริไปมากมาย ก็มากกว่าถึง 10 เท่า ทำให้ผมสนใจว่า คนไทยดูภาพยนตร์เรื่องอะไรกันบ้าง
พบว่า การทำภาพยนตร์ของไทย ใน 30 อันดับ มีหนังประวัติศาสตร์ 7 เรื่อง มีหนังผีระทึก 4 เรื่อง มีหนังบู้ 3 เรื่อง มีหนังตลก และรัก 16 เรื่อง
แต่ไม่รู้จะเทียบหนังไทยกับหนังฝรั่งอย่างไร เพราะปัจจัยของการดูภาพยนตร์น่าจะอยู่ที่คนดู สำหรับประเทศไทย ผมรู้สึกไปเองว่าประเภทของภาพยนตร์ไทยขึ้นอยู่กับผู้สร้าง เพราะผู้ดูก็จะไปดูทุกเรื่องที่มีให้ดู แต่ผู้สร้างไม่ได้สร้างให้ดูก็คงจะไม่เห็นในรายการจัดอันดับหนังทำเงินของไทย เพราะเห็นความแตกต่างระหว่างรายการหลังไทย กับหนังฝรั่ง  แล้วหนังฝรั่งคนไทยก็ดูนะครับ อย่างรายการ top 50 นั่นผมดูแล้วทุกเรื่อง ส่วนหนังไทยยังดูไ่ม่ครบครับ
อันที่จริงมีคำถามในใจ ว่า “ทำไมคนไทยไปดูหนังเรื่องพี่มากพระโขนง มากถึง 3 ล้านคนเลยเหรอ” เพราะรายได้ 300 ร้อยกว่าล้าน ที่ได้จากผู้ชมคนละร้อย ก็น่าจะมีคนชมกว่า 3 ล้านคน
1. สุริโยไท
2. พี่มากพระโขนง
3. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 1
4. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2
5. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๓ ยุทธนาวี
6. ต้มยำกุ้ง
7. ATM เออรัก เออเร่อ
8. บางระจัน
9. นางนาก
10. รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ
11. หลวงพี่เท่ง
12. แฟนฉัน
13. ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค ๔ ศึกนันทบุเรง
14. กวน มึน โฮ
15. สุดเขตสเลดเป็ด
16. มือปืน/โลก/พระ/จัน
17. ลัดดาแลนด์
18. 5 แพร่ง
19. ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ
20. 32 ธันวา
21. องค์บาก 2
22. คุณนายโฮ
23. แหยมยโสธร
24. องค์บาก
25. สตรีเหล็ก
26. แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า
27. สาระแนห้าวเป้ง
28. ก้านกล้วย
29. วงศ์คำเหลา
30. โหน่งเท่ง นักเลงภูเขาทอง