short topics from Steve Jobs book

ทุกคนต่างไม่ผิด แต่ความคิดเราต่างกัน .. แล้วผมรู้สึกว่า Steve jobs เป็น hero
ทุกคนต่างไม่ผิด แต่ความคิดเราต่างกัน .. แล้วผมรู้สึกว่า Steve jobs เป็น hero

5 พ.ค.55 อ่านหนังสือ Steve jobs by Walter Isaacson บางหน้า แล้วได้บทเรียนของชีวิต อ่านไปก็เขียนไปว่าหน้าไหนน่าสนใจ พออ่านจบก็มาลงบล็อก .. เพื่อ บันทึกไว้ว่าผมชอบ (Favor) หน้าไหน และมีประเด็นอะไรบ้าง

Pages

p.11 Moore’s law กฎนี้ได้รับการยืนยันในปี 1971 เป็นกราฟแสดงความเร็วในการเติบโตของวงจรรวม (Integrated Circuit : IC) เป็นทฤษฎีที่กอร์ดอนมัวร์ค้นพบในปี 1965 ที่แสดงอัตราการเติบโตแบบทวีคูณของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

p.16 Jobs ประกาศว่าเขาไม่บูชาศาสนาตามพ่อแม่ แต่หันมาสนใจศาสนาพุทธจนกระทั่งเสียชีวิต

p.25 ENIAC (Electronic Numerical Integrator and Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ดิจิทอลอิเล็กทรอนิกส์อเนกประสงค์เครื่องแรกของโลก พัฒนาโดยกองทัพบกสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อใช้คำนวณวิธีการโจมตีของอาวุธแบบต่าง ๆ เป็นต้น

p.27 วอซคิดสร้างโปรแกรมคำนวณเลขฟีโบนัชชี (bonacci number) ที่ต้องใช้เวลาคอมพิวเตอร์ยาวนานมากจนมหาวิทยาลัยขู่ว่าจะเรียกเก็บเงินค่าเวลาคอมพิวเตอร์จากเขา

p.36 ในอดีต ทิโมธี่ เลียรี่ เผยแพร่แนวคิดของ League (สหพันธ์) for Spiritual Discovery = LSD องค์กรทางศาสนา เพื่อรณรงค์ให้การใช้ LSD อย่างถูกต้องเป็นเรื่องถูกกฎหมาย

p.37 อยากเป็นเหมือนเด็กกำพร้าที่ร่อนเร่

p.39 Diet for a small planet .. พฤติกรรมการกินที่ประหลาด

p.44 มหาวิทยาลัยบังคับอ่าน มหากาพย์อีเลียด (iliad) และสงครามเพโลพอนเนเซียน (Peloponnesian War)

p.46 ทิโมธี่ เลียรี่ เป็นผู้เสนอว่า LSD ซึ่งเป็นยาเสพติดที่ออกฤทธิ์กระตุ้นและหลอนประสาท ถ้าใช้ภายใต้การควบคุมอย่างเหมาะสม จะมีประโยชน์ต่อจิตวิญญาณ  (1920 – 1996) (สมัยนี้ผิดกฎหมายแล้ว)

p.49 มีพฤติกรรมยโสโอหัง .. มักด่าเพื่อนร่วมงาน ว่า “โง่เหมือนควาย

p.60 วอซเนียกถูกสตีฟโกงเงิน .. “ผมคิดว่าตอนนั้นสตีฟคงต้องการเงิน เลยไม่บอกความจริงกับผม”

p.74 สินค้าล็อตสำคัญคือขายให้ the byte shop โดยเดินเท้าเปล่าเข้าไปขายสินค้า

p.88 มาร์คคูล่า เขียนหลักปรัชญาการทำงานด้านการตลาด The Apple Marketing Philosophy 1) เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น (empathy) 2) จับเฉพาะจุดหมายสำคัญ (focus) และ 3) สร้างภาพ (impute) (สำหรับคำว่า impute มีความหมายอีกแบบคือใส่ร้าย ซึ่งไม่ใช่ความหมายของ มาร์คคูล่า)

p.90 เลโอนาโด ดาวินซี่ เคยกล่าวไว้ว่า “ความเรียบง่ายคือสุดยอดของศาสตร์ (Simplicity is the ultimate sophistication)”

p.97 เธออยู่กินกับเกร็ก แต่บางทีก็กลับมาหาสตีฟ พวกเราส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ กลับไปกลับมา ยุค 70 ก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น

p.101 จ็อบแพ้คดี .. ศาลแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียสั่งให้จ็อบส์จ่ายค่าเลี้ยงดูลูกเดือนละ 385 เหรียญ

p.104 คอมพิวเตอร์ Lisa เป็นชื่อลูกของสตีฟ แต่ทีมบอกว่าย่อมาจาก Local Integrated Systems Architecture แล้ววิศวกรเรียกว่า Lisa Invented Stupid Acronym

p.106 อลัน เคย์ มีหลัก 2 อย่างที่สตีฟชอบ 1) วิธีที่ดีที่สุดในการคาดการณ์อนาคต คือ สร้างอนาคตนั้นขึ้นมาเอง “The best way to predict the future is to invent it.” และคนที่จริงจังกับเรื่องซอฟท์แวร์ควรสร้างฮาร์ดแวร์ขึ้นมาเอง “People who are serious about software should make their own hardware”

p.107 ส่วนประสานงานผู้ใช้แบบกราฟฟิก (graphical user interface : GUI กูอี้) ใช้หลักการสร้างภาพแบบบิตแมปปิ้ง และส่วนประสานงานผู้ใช้แบบกราฟฟิก กลายเป็นคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์ต้นแบบของ Xerox PARC .. การร่วมมือครั้งนี้เพราะ Jobs ยอมให้ Xerox เข้าลงทุนใน Apple 1 ล้านเหรียญ

p.109 จ็อบส์เล่าความรู้สึก
ในครั้งที่เขาฟัง เทสเลอร์ที่ Xerox Parc สาธิตคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของ smalltalk 3 ข้อ
1) คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายได้อย่างไร
2) โปรแกรมเชิงอ็อบเจ็กต์
3) ส่วนประสานงานผู้ใช้แบบกราฟิก และภาพบิตแมปที่ปรากฎบนจอ
แนวคิดที่จ็อบส์ได้ดูงานที่ Xerox Parc นี้เขาต้องจ่ายครับ
เป็นการเปิดโลกทัศน์เหมือนการเข้าไปล้วงความลับจากคู่แข่ง

http://en.wikipedia.org/wiki/Smalltalk

p.116 แอนดี้ เฮิร์ตซเฟลด์ ให้ความเห็นเรื่องที่สตีฟ ไม่ให้ stock option กับแดเนียล ค็อตเคว่า “สตีฟเป็นอะไรที่อยู่ตรงข้ามกับความภักดี เขาเป็นพวกไม่เคยภักดีกับใคร เขาทิ้งคนที่อยู่ใกล้ชิดเขา” คงเป็นคุณลักษณะหนึ่งของผู้บริหารอย่างสตีฟ จ็อบส์ แม้ร็อด โฮลท์ เข้าไปเจรจาแล้วบอกว่าคุณให้เพื่อนรักคุณเท่าไร ผมก็จะให้เท่านั้น แต่คำตอบคือ “ผมให้เขาศูนย์หุ้น” ต่อมา สตีฟ วอซเนียก (Steve Wozniak) แบ่งหุ้นให้ค็อตเค และเพื่อนร่วมบริษัทอีกหลายคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ต่อมามี poster ของ United Way แล้วมีคนไปเขียนข้อความต่อท้ายล้อเรียน วอซเนียกว่าจะหมดตัวในปี 1990 .. ผมว่าวอซเนียก ต่างกับสตีฟครับ เป็นคุณลักษณะของผู้บริหารที่แตกต่างกัน

http://sjobs.900913.net/index1_split_034.html

p.124

p.134

p.136

p.137

p.140

p.155

p.161 ผมว่าเขาคือ กบฏขององค์กร (บทที่ 13 เริ่มหน้า 154)
jobs เห็นว่าในบริษัทที่เขาทำงานอยู่ มีผลิตภัณฑ์ชื่อ lisa แต่ถ้ายอดขายของ lisa สูง นั่นหลายถึงผลิตภัณฑ์ที่เขาดูแล คือ macintosh จะแพ้ .. การทำให้งานที่ตนไม่ได้ดูแลล้มเหลวจะเสริมให้งานที่ตนดูแลสำเร็จ จึงเป็นความจงใจในครั้งที่เขาได้รับหน้าที่แถลงข่าวเรื่องผลิตภัณฑ์ใหม่ จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวนั่น ล้มเหลวในการทำการตลาดในที่สุด แต่บางทีเขาอาจไม่รู้ก็ได้ว่าการให้ข่าวแบบนั้นจะเป็นผลลบต่อผลิตภัณฑ์
ดังนั้น steve jobs ในฐานะประธานกรรมการบริษัททำหน้าที่แถลงข่าว โดยแผนประชาสัมพันธ์กำหนดให้พูดเรื่อง lisa computer ไม่ต้องเอ่ยถึงเครื่อง macintosh ที่ยังพัฒนาไม่เสร็จ แต่หลังให้สัมภาษณ์ ปรากฎว่า
นิตยสาร fortune รายงานว่า “ปลายปีนี้ Apple จะวางตลาดคอมพิวเตอร์อีกรุ่นหนึ่ง ที่มีสมรรถนะน้อยกว่า ราคาถูกกว่า Lisa
นิตยสาร Business week รายงานว่า “ถ้า Mac วางตลาด รับรองว่ามันจะเป็นคอมพิวเตอร์ที่เหลือเชื่อที่สุดในโลก
สรุปว่า .. การเปิดตัว lisa คราวนั้นเหมือนเปิดประตูสู่นรกเลยจริง ๆ

lisa2
lisa2

ว่าง ๆ จะมาให้รายละเอียดเพิ่มเติม

p.173

p.175

p.177

p.185

p.242

p.205 จ๊อบส์บอกเกตส์ว่า “คุณโกงเรา
แต่เกตส์ตอบว่า “สตีฟ ผมว่ามันมีวิธีมองเรื่องนี้ได้หลายแบบนะ
เราทั้งคู่ต่างมีเพื่อนบ้านร่ำรวยชื่อ xerox
ผมงัดเข้าไปในบ้านหวังจะขโมยทีวี แต่กลับพบว่าคุณขโมยมันไปก่อนแล้ว

From folklore.org by Andy Hertzfeld
Well, Steve, I think there’s more than one way of looking at it. I think it’s more like we both had this rich neighbor named Xerox and I broke into his house to steal the TV set and found out that you had already stolen it.

http://www.folklore.org/StoryView.py?story=A_Rich_Neighbor_Named_Xerox.txt

p.214

p.243

p.334

p.339

p.340

p.378

p.418

p.577

p.620

p.622

p.661

p.667

รู้สึกว่า Steve jobs เป็น hero

http://www.comicmix.com/news/2008/01/17/justice-league-film-delayed-due-to-script-issues/

บ่นเรื่องความไม่ชินกับ tablet

เล่าสู่กันฟัง จากความไม่ชินใน tablet pc
เล่าสู่กันฟัง จากความไม่ชินใน tablet pc

ผมใช้ tablet แบบ two-way ไม่ใช่ readonly หรือ listen only หรือ watch only
จึงมองหาการส่งข้อมูล และแลกเปลี่ยนกับผู้คนใน social network พบปัญหากับอุปกรณ์ ดังนี้
1. กดอักษรมากขึ้น : กว่าจะพิมพ์เสร็จ 30 ตัวอักษร จิ้มไปซะ 60 ที จะซ้ายขวาบนล่างก็ต้องใจเย็นกันหน่อย
2. เบิ้นต้องรอ : ถ้าพิมพ์อักษรเบิ้นต้องรอสักครู่ เช่น “สรร” หรือ “มากกว่า” เพราะต่อเนื่องไม่ได้ หลายปุ่มมี 3 ตัวอักษร จะจิ้มอักษรบนต้องกด 3 ครั้ง ถ้ากด 2 ครั้งคือเปลี่ยนตัวไม่ได้ออกเบิ้น
3. แป้นใหม่ : ต้องเรียนรู้แป้นพิมพ์ใหม่ ปกติผมพิมพ์สัมผัส ตอนนี้ต้องจ้อง เพราะใช้สัมผัสไม่ได้ ต้องจำ
4. ของแถม : ปัญหาใหม่ พอพิมพ์เสร็จแล้วส่ง บางทีมีตัวอักษรแถมต่อท้ายเข้าไปใน fb เกิดหลายครั้ง เริ่มสงสัยว่าอุปกรณ์รับสัมผัสเร็วไปรึเปล่า
5. ท่านั่ง : ถ้าต้องค้นงาน แล้วพิมพ์งานติดต่อกัน 3 ชั่วโมง ยังไม่มีท่านั่งที่เหมาะสม
6. สายตายาว : เวลาใช้ tablet ต้องถอดแว่น เพราะจอเล็ก ตัวเล็ก แม้ซูมได้ ถ้าเปลี่ยนโปรแกรมขนาดก็กลับสุ่มาตรฐาน

มีความเชื่ออยู่ว่า ความเคยชิน ทำให้มนุษย์ลดการต่อต้านการเปลี่ยนแปลง
1. ถ้าชินกับ การเปิดพัดลมนอน ก็จะไม่ถามถึงแอร์
2. ถ้าชินกับ การดื่มน้ำบ่อ ก็จะไม่ถามถึงน้ำสิงห์
3. ถ้าชินกับ การดื่มเหล้าเป็นประจำ ก็จะไม่ถามถึงการรักษาศีล
สักวันหนึ่ง ผมอาจเคยชิน คิดว่า tablet ใช้ง่ายกว่า desktop .. ใครจะไปรู้
ที่รู้แน่ ๆ คือวันนี้ผมยังไม่ชินกับ tablet

Content is King : The New NMG

คลิ๊ปเรื่อง Content is King : The New NMG
ความยาว 3.32 บรรยายโดยคุณสุทธิชัย หยุ่น

สุทธิชัย หยุ่น ประธานเครือเนชั่น ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2555
ประธานกรรมการบริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ยืนยันต่อผู้ถือหุ้นว่า
จะยกระดับเครือเนชั่นสู่สถาบันสื่อไปทุกภูมิภาค ทั้งอาเซียน เอเชีย และทั่วโลก

C = ME 3

การประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำ ปี 2555
เครือเนชั่นจะขยายคอนเทนท์หรือเนื้อหาเป็นมัลติคอนเทนส์ (Multi-content)
ให้หลากหลายครอบคลุมผู้รับสื่อทุกกลุ่มทุกวัย
และจะมุ่งขยายด้านแพลทฟอร์มส่งผ่านเนื้อหาที่ดีที่สุดออกไปในทุกรูปแบบ
เป็นมัลติแพลทฟอร์ม (Multi-platform) ทั้งทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิวมีเดีย
นอกจากนี้จะยกระดับเครือเนชั่นสู่สถาบันสื่อในทุกภูมิภาค อาเซี่ยน เอเชียและทั่วโลก
หรือมัลติรีเจียน (Multi-Region)
โดยเชื่อว่าจากปัจจุบันที่มีผู้รับสื่อของเนชั่นทุกรูปแบบอยู่ 35 ล้านคน
แต่ในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือในปี 2015 จะมีผู้เข้าถึงสื่อเครือเนชั่น 70 ล้านคน

Term
– Education
– Entertainment
– E-Business
– Generation X : ผู้ใหญ่
– Generation Y : วัยรุ่นปัจจุบัน
– Generation C : วัย Click อย่างเดียว

http://www.oknation.net/blog/nationtv/2012/04/26/entry-1

โศกนาฏกรรมองค์กรหลงทิศ (Tragedy of Lost)

tragedy of lost
tragedy of lost

รศ.เศกสิน ศรีวัฒนานุกูลกิจ จาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาสอนหนังสือเพื่อนคนหนึ่ง ที่มหาวิทยาลัยเนชั่น แล้วเขาก็มาเล่าให้ฟังว่าอาจารย์ให้อ่านหนังสือชื่อ โศกนาฏกรรมองค์กรหลงทิศ (Tragedy of Lost) เขียนหนังสือโดย สุธี ปิงสุทธิวงศ์ สุรีพันธุ์ เสนานุช และยิ่งศักดิ์ นันทิวรรณกุล หนังสือเล่มนี้เขียนในลักษณะเรื่องเล่า เร้าพลัง หรือ Story Telling เหมาะกับนักศึกษาทางบริหารธุรกิจอย่างยิ่ง ผู้ประกอบการ หรือผู้บริหารทุกระดับ ผมว่าเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวก็อ่านดีครับ ที่สำคัญอ่านแล้ว อาจช่วยให้ขายดิบขายดีได้

ในหนังสือมีกรณีศึกษาที่ใช้แนวการเขียนแบบเล่าเรื่อง (Story Telling) แบ่งเป็น 9 บท ได้แก่  1) บริหารจัดการโดยไม่ใช้ข้อมูลจริง 21-26 2) ใช้ Management Tools โดยไม่เข้าใจ 37-42 3) กำหนดกลยุทธ์โดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยง  51-57 4) ไม่รู้ว่าลูกค้าคือใคร 65-70 5) ตอบสนองลูกค้าไม่ได้ 77-82 6) การปฏิบัติการล้มเหลว (Bad Operation) 93-98 7) พัฒนาบุคลากรโดยไร้ทิศทาง 109-113 8) รักษาบุคลากรที่ดีไว้ไม่ได้ 121-125 9) ภาวะผู้นำล้มเหลว 133-138

ทีแรกก็ไม่สนใจ เพราะผมเป็นคนอ่านหนังสือยาก .. แต่พออ่านไม่กี่หน้า ผมว่าหนังสือเล่มนี้สุดยอดจริง ๆ เหมือนเป็นตัวละครในหนังสือเลย .. อ่านแค่ชื่อบททั้ง 9 บท ผมก็ว่ายอดเยี่ยมแล้ว .. ชอบคำหนึ่งคือคำว่า “พูดเอง เออเอง” หน้า 71 ที่เล่าว่าเครื่องมือทางบริหารที่เรียกว่า inside-out กับ outside-in จะเลือกอย่างไร  หรือการอธิบายความต่างของ SWOT กับ Balanced Scorecard (BSC) หน้า 44 ว่า Swot นั้นเกิดจากสำนักคิดทางกลยุทธ์ที่เน้นสร้างกลยุทธ์จากความลงตัว แต่ BSC เน้นสร้างกลยุทธ์ให้เกิดความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันด้วยการวางตำแหน่ง (Positioning)

สำหรับเรื่องที่น่าสนใจที่สุดอีกเรื่อง อยู่หน้า 149 เป็นกราฟ “ความสัมพันธ์ของสาเหตุแห่งความล้มเหลวขององค์กร” ว่าอะไรที่วินิจฉัยง่าย กับอะไรที่กระทบต่อความอยู่รอดขององค์กร .. อ่านแล้วนึกถึง Steve Jobs ครับ

http://www.ryt9.com/s/prg/1139329
http://www.hrcenter.co.th/book_detail.php?book_id=1028
http://www.thairath.co.th/content/eco/182486
http://www.lib.ku.ac.th/index.php/2009-03-26-04-10-35/3878-tragedy-of-lost

J.Edgar Hoover

j.edgar Hoover
j.edgar Hoover

9 เม.ย.55 J.Edgar Hoover, powerful head of the FBI for nearly 50 years, looks back on his professional and personal life.

มีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่อง J.Edgar (2011) ทำให้นึกถึง Steve Jobs ว่าเขา 2 คนประสบความสำเร็จ และล้มเหลวพอกัน .. ในภาพยนตร์เรื่องนี้มีประวัติศาสตร์ผ่านเข้ามาไม่น้อย เพราะพยายามนำเสนออัตชีวประวัติของคน ๆ หนึ่ง ในตอนท้ายของเรื่องนั้น เพื่อนของพระเอกช่วยสรุปได้ค่อนข้างดี ว่าปัญหาของมนุษย์ ที่มีตำแหน่งหน้าที่ และประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น มีความบกพร่องไปตามประสามนุษย์ผู้มีกิเลส .. ผมว่าเป็นปกติครับ เพราะเขาโกหกตนเอง โกหกทุกคน เพื่อให้คนนับถือ ชื่นชม และได้มาซึ่งลาภยศสรรเสริญ ทำร้ายเพื่อนร่วมงาน เพื่อรักษาอำนาจของตน

ประวัติของเขาอย่างย่อ คือ เขาเป็นผู้ก่อตั้ง FBI ทำงานตั้งแต่จบมหาวิทยาลัย และทำงานถึง 48 ปี มีประธานาธิบดีเป็นหัวหน้าถึง 8 คน และคดีลินด์เบิร์ก (The Lindbergh Kidnepped File) เป็นหนึ่งในผลงานสำคัญที่ถูกกล่าวถึงในภาพยนตร์เรื่องนี้ มีชีวิตระหว่าง January 1, 1895 – May 2, 1972

J. Edgar Hoover was the head of the Federal Bureau of Investigation for nearly 50 years. Hoover was feared, admired, reviled and revered, a man who could distort the truth as easily as he upheld it. His methods were at once ruthless and heroic, with the admiration of the world his most coveted prize. But behind closed doors, he held secrets that would have destroyed his image, his career and his life.

Question .. Is he a developer?
About a year ago, the producers of a movie about J. Edgar Hoover contacted the Library of Congress to arrange to shoot a scene where Hoover talks about his contribution to the development of the Library’s card catalog. The script described Hoover working at the Library from 1913 to 1917 as a messenger, clerk and cataloger.  Could the Library verify the claim that Hoover helped to develop the card catalog? ..
Answer .. no
http://blogs.loc.gov/teachers/2012/03/j-edgar-hoover-the-crimebuster-and-the-catalogers/

http://www.imdb.com/title/tt1616195/
http://en.wikipedia.org/wiki/J._Edgar_Hoover

http://graphicnovelresources.blogspot.com/2012/01/j-edgar-hoover-graphic-biography.html

J.Edgar Hoover
J.Edgar Hoover

ความผิดพลาดของคนในทีมอาจพาผู้บริหารเข้าตาจน

http://www.youtube.com/watch?v=PYP1Tjgt1Ao

ปี 1984 คลิ๊ปเปิดตัว Macintosh แรงทะลุจักรวาล ประสบความสำเร็จ
แต่ภาพยนตร์เรื่อง Lemmings p.216 ที่เป็นหนังโฆษณาในเดือนมกราคม 1985
ที่ทำให้โลกต้องอึ้ง จนบริษัทวิจัยแห่งหนึ่งเขียนในนิตยสาร fortune
ว่า “โฆษณาดูหมิ่น ดูแคลนกลุ่มลูกค้าที่ Apple พยายามจะเข้าถึง
อาจสรุปได้ว่า agency พาทั้งจ็อบส์ และสคัลลีย์ หลงทางได้เหมือนกัน

แม้วิสัยทัศน์ของผู้บริหารของ apple จะเป็นอย่างหนึ่ง
แต่ถ้าผู้ที่นำไปปฏิบัติไปทำอีกอย่าง บนความเชื่อว่าตนถูกต้อง
นี่เป็นหนึ่งในบทเรียน จากบทเรียนมากมายที่สามารถหาอ่านได้ใน
หนังสือ steve jobs by walter isaacson

Animated History of the iPhone, dedicated to the memory of Steve Jobs – CNET

The iPhone
An animated journey through time

California
Population: 36,961,664

San Francisco
Area: 46.87 square miles
Population Density: 17,179/square mile

Moscone Center
Opened: 1981
Cost: US$157 Million
Area: 700,000 sq ft

Steve Jobs
Co-founder of Apple in 1976
Fired from Apple in 1985
Founded NeXT 1985
Buys Pixar from Lucasfilm 1986

Sells NeXT to Apple
and rejoins the Company as interim CEO 1996
Becomes full CEO 2000
Sells Pixar to Disney 2006
Resigns as CEO of Apple 2011
Died October 5,2011

iPhone
1. Mobile Phone
2. Mobile Media Player
3. Internet Communicator
4. Design
5. Software
6. Hardware

Mobile Phone
First Mobile Call 1973
between Dr.Martin Cooper (Motorola)
and Dr.Joel Engel (Bell Labs)

The mobile phone was a prototype Motorola Dynatac
Dynamic
Adaptive
Total
Area
Converage (การคลุม)

in 1983 Dynatac 8000x
cost $3995
Weight: 794 grams

First Portable 1979
Music Player
Sony TPS-L2
Cost: $200
20 Songs

Apple iPod
Released in 2001
Cost: $399
1000 Song
Multitouch

First Packet switched network
Launched in 1969
ARPANet
Advance
Research
Projects
Agency
Network

Four initial nodes in the network
University of California Los Angeles (UCLA)
The Standord Research Institute’s Augmentation Research Center
The University of Utah’s Computer Science Department
University of California Santa Barbara (UCSB)

Inventor of the World Wide Web
Tim Berners-Lee in 1990
Full Title: Sir Timothy John Berners-Lee
Born: 8 June 1955
Education: Queen’s College Oxford
1st Class Degree in Physics
Director of the world wide web consortium

NeXTcube
First ever website
(info.cern.ch) ran on a NeXTcube
running the NeXTSTEP OS
Introduced: 1990
Processor: 25MHz
Motorola 68040
Memory: 16MB
Hard drive: 400MB

The 10 Principles of Good design
according to Dieter Rams
Born: May 20,1932
1. is innovative
2. makes a product useful
3. is aesthetic (สุนทรียะ)
4. makes a product understandable
5. is unobtrusive (สงบเสงี่ยม)
6. is honest (เถนตรง)
7. is long-lasting (ยืน)
8. is thorough (ทั่วถึง) down to the last detail
9. is environmentally friendly
10. is as little design as possible

Good design is making something
intelligible (เข้าใจได้) and memorable.
Great design is making something
memorable and meaningful.

Dieter Rams design
1. Braun Atelier
2. Braun T1000
3. Braun T3
4. Calculator

Jony lve
Born: February 1967
Studied Industrial design at newcastle polytechnic
Senior Vice President of Industrial Design, Apple Inc.
Honorary Doctor of the Royal College of Art
Named “World’s Smartest Designer” by Fortune

Jony lve design
1. iMac
2. iPhone
3. PowerMac G5
4. iPod

Operating System
NeXTSTEP
Mac OS X
iOS
iTunes

Casady & Greene
C&G published SoundJam MP
a Mac OS audio player
year 2000

iTunes 1.0
year 2001
Apple buys soundjam from C&G
and turns it into iTunes 1.0

Motorola ROKR
First phone to run iTunes
Apple limited the device to a capacity of 100 songs
year 2005
Rokr 100 songs
iPod 5th gen 16000 songs

Apple App Store
Initial release: July 10,2008
download 300000 Million app

Original iPhone
capacity: 4,8 or 16 GB
Processor: 620 MHz
Memory: 128 MB
Released: June 29, 2007
Camera: 2MP

iPhone 3G
capacigy: 8 or 16 GB
Processor: 620 MHz
Memory: 128 MB
Camera 2MP
Released: July 11,2008

iPhone 3Gs
capacigy: 8,16 or 32 GB
Processor: 833 MHz
Memory: 256 MB
Camera 3MP + VGA Video
Released: June 19,2009

iPhone 4
capacigy: 16 or 32 GB
Processor: 1 GHz
Memory: 512 MB
Camera 5MP + 720p Video
Released: June 24,2010

1971 intel 4004
world’s first complete CPU on one chip
runs at 740 kHz
2,300 transistors

2011 apple A4
runs at 1,000,000 kHz
32,000,000,000 transistors

in memory of
Steve Jobs 1955 – 2011

Video made by Drew Stearne
Originally Released on Vimeo – http://vimeo.com/30195371
http://info.cern.ch/

http://www.youtube.com/watch?
v=hLfdcO327qc

เปลี่ยน background ของ km blog

background of blog
background of blog

4 มี.ค.55 เดิมใช้แนวภาพแบบวงกลม ให้ความรู้สึกที่ลื่นไหล ไร้เหลี่ยมให้ขัดใจ ไร้รอยต่อให้สะดุด (คิดแบบ steve jobs) แม้จะดูดี แต่ไม่มีความหมายชัดเจน หรือเล่าเรื่องต่อได้ยาก .. เมื่อนึกถึงภาพยนตร์เรื่อง rise of the planet of the apes ซึ่งนึกถึง 3 รอเรือ คือ รัก รุนแรง และเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของ blog จึงเปลี่ยนเป็นภาพพื้นหลัง แต่เนื้อหาที่คิดจะเขียนไม่ได้อยู่ใน thaiall.com/blog แต่เนื้อหาไปอยู่ใน thaiall.com/blogacla เพราะเป้าหมายของ /blog ออกแนววิชาการ แต่ผมตั้งใจเขียนเรื่องเกี่ยวกับภาพยนตร์ ซึ่งจะมี catagory ใน /blogacla ซึ่งมีอยู่แล้ว

ปัจจุบันมีเรื่องราวมากมายที่ผมไม่ได้คิดเอง
– ภาษาที่พูด/เขียน
– เสื้อผ้าที่ใส่
– ของใช้ก็ไม่เคยสร้างเอง
– อาหารที่รับประทาน ก็มีคนคิดมาก่อน
– ศาสนาที่เชื่อ ก็ตามคนรอบตัว
– แนวความคิดที่มีอยู่ ก็เกิดจากบทเรียน
– ความคิดก็โดนมนุษย์ยัดเข้ามาในหัวผมทั้งนั้น

ทุกอย่างล้วนคัดลอก หรือดัดแปลงของเขามาทั้งสิ้น
เรียกว่า เรียนรู้สิ่งที่คนอื่นออกแบบไว้
มาเป็นของตนเอง

http://www.thaiall.com/ppt/movie.pptx

ประเด็นชวนคิด
ถ้าคิดอย่างลิง ผมว่ามนุษย์ไม่ควรใช้อำนาจอย่างที่ใช้อยู่
ถ้าคิดอย่างคน ผมว่าลิงก็เป็นเพียงสัตว์ทดลอง อย่างไปใส่ใจอะไรเลย

เรื่องที่เขียนนี้มาจากคำว่า
เพราะมีการเรียนรู้ในอดีต จึงถูกใช้ในปัจจุบัน เพื่อกำหนดอนาคต
ถ้ารู้จักใช้อดีตสักนิด
ก็แสดงว่ามนุษย์ผู้นั้น
กำลัง .. ใช้การศึกษาให้เป็นประโยชน์

http://www.youtube.com/watch?v=f8D2NIGEJW8

คนที่โชคร้ายคือตัวลูกน้อย

ฟังเรื่องราวของเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน
เป็นเรื่องราวของลูกน้อยทั้ง 7 คน ในวัยยังไม่หย่านม
ซึ่งเป็นของสามีภรรยาคู่หนึ่ง .. ปกติยามรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน

แล้วนึกไปถึงเรื่องราวของ สตีฟ จ็อบส์ กับ จอห์น สคัลลีย์
ที่รักกันชื่นมื่นราว 2 ปี แล้วก็ต้องหย่าร้างกันไป (พ.ค.83 – 11 เม.ย.85)

กลับมามองความรักของสามีภรรยาคู่นี้ ที่มีลูกร่วมกัน 7 คน
แล้ววันหนึ่งก็เกิดอุบัติเหตุทางความรัก ทำให้ต้องแยกทางกัน
นึกถึงเพลงบาปบริสุทธิ์ ของ เล็ก คาราบาว
ดังประโยคที่ว่า “อันคนเราหญิงชายทั้งหลายแหล่ ต่างมีดีมีแย่อยู่พอ ๆ กัน
.. คนที่โชคร้ายคือตัวลูกน้อย

โบราณว่า “ทุกคนต่างไม่ผิด แต่ความคิดเราต่างกัน
มีหลักอยู่หลายข้อครับ ที่มนุษย์ยึดถือ แล้วสามีภรรยาคู่นี้
ก็คงมีหลักของตนเอง ทำให้ต้องแยกย้ายกันไป
แต่ถ้านึกถึง พรหมวิหาร 4 ข้อหนึ่ง
ลูกน้อยก็คงไม่โชคร้าย อย่างในเนื้อเพลง

steve jobs & animal farm

http://www.youtube.com/watch?v=6MKXgrF9IRc
อายุของ george orwell (25 June 1903 – 21 January 1950) กับ whitney houston (August 9, 1963 – February 11, 2012) ใกล้เคียงกัน คือ ราว 48 ปี ซึ่งน้อยกว่าสตีพที่อายุ 56 ปี ทั้งคู่เป็นคนมีชื่อเสียงในคนละด้าน

เมื่ออ่านหนังสือ steve jobs by walter isaacson หน้า 196 พบเรื่อง animal farm ซึ่งฟังมาจาก อ.จอห์น และเพื่อนที่โรงเรียนอรุโณทัย คุยกันว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการปกครองคน (ประจวบเหมาะกับข่าวการเสียชีวิตของ whitney ในช่วงที่ผมอ่านหนังสือ steve พอดี) ในหนังสือของสตีฟ มองหนังสืออีกเล่มของ george เรื่อง Nineteen Eighty-Four 1984 ซึ่งเป็นปีที่มีการเปิดตัวเครื่อง Mac

เคยมีคำถามจากบรรณาธิการ ว่า ปี 1984 เกิดอะไรขึ้น
เป็นคำถามที่ดีมากครับ