ความเป็นมาที่เริ่มวาดสติ๊กเกอร์ไลน์ 3 ชั่วโมง

หลายปีมานี้ มอบหมายงานใน วิชาสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ ให้นิสิตใช้ Powerpoint วาดภาพแบบ Vector ได้ผลงาน คือ ภาพตนเอง กับภาพการ์ตูน ส่วนวิชาโค้ดดิ้งหลายวิชาก็จะเขียนคำสั่งวาดภาพเรือ ภาพรถ หรือโดราเอมอน ทำให้นึกถึงภาพแบบ .svg ที่ save as ออกมาจาก .ppt ได้ ส่วนงานมอบหมาย infographic ในวิชาคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ก็มักต้องใช้การวาดภาพแบบ Vector ซึ่งเครื่องมือที่เป็นที่นิยมในกลุ่มมืออาชีพ คือ Adobe illustrator แต่การใช้ Powerpoint ซึ่งเป็นเครื่องมือประจำเครื่อง ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ประกอบกับพบภาพ Sticker มากมายที่เป็นแบบ Vector ที่นิสิตน่าจะต่อยอดบทเรียนไปวาดภาพตนเองเป็น Line Sticker ไว้ใช้งานใน Line ได้

เมื่อต้นมกราคม 2565 ได้คุยกับนิสิต M.Ed. มีงานมอบหมายเป็น Poster และ Brochure พบว่า มีนิสิตเลือกใช้ Adobe Illustrator และบางท่านก็มี Avatar เป็นภาพประจำตัว ทำให้กลับมามองภาพ Avatar ที่เคยทำไว้เมื่อหลายปีก่อน และคิดว่าน่าจะถึงเวลาอัพเกรดภาพ Avatar เข้าไปอยู่ใน Line Sticker จากการศึกษาการวาดภาพ Sticker พบว่า มีเครื่องมือมากมาย แต่สุดท้ายระบบของ Line ต้องการภาพแบบ Transparency ขนาดไม่ใหญ่นัก จำนวนภาพเริ่มต้นที่ 8 ภาพ จึงลองวาดภาพตัวอย่างง่าย ๆ ด้วย Powerpoint แล้วจัดการแปลงเป็น Transparency ด้วย Irfanview

ลงมือวาด ตั้งใจให้เสร็จใน 3 ชั่วโมง นับตั้งแต่เริ่มต้นเข้าระบบ ไปจบที่ส่งผลงานให้ Line จนถึงขั้นตอน “รอการพิจารณา” 1) เข้า creator.line.me เพื่อจะส่ง sticker ไปขาย โดยใช้ line account ที่ผูกกับอีเมลแล้ว ซึ่งขั้นตอนนี้ไม่ยาก กรอกข้อมูล และยืนยันไปตามปกติ 2) ต้องเลือกบัญชีที่จะรับเงินว่าจะใช้ Paypal หรือ Rabbit line pay ซึ่งผมเลือก Line pay ในขั้นตอนนี้จะตรวจสอบบัตรประชาชน ถ่ายรูปบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าจนกว่าจะตรงกัน คล้ายกับแอปเป๋าตัง หรือ Bitkub 3) ใช้ Powerpoint สร้างภาพจำนวน 8 รูปสติกเกอร์ + main คือ รูปภาพหลัก และ tab คือ รูปภาพแท็บห้องแชท รวมเป็น 10 ภาพ แล้วส่งออกเป็น .png แล้วไปปรับขนาดใน Irfanview รวมถึงลบพื้นหลังในขั้นตอนนี้ 4) อัพโหลดทีละภาพ หรือรวมภาพทั้งหมดเป็น .zip แล้วอัพโหลดครั้งเดียว

https://www.thaiall.com/linesticker/

วาดเอง ซื้อเอง ขายได้แล้ว

วุ่นรักทายาทพันล้าน the heirs

เล่าเรื่องทีวีซีรี่เกาหลี – วุ่นรักทายาทพันล้าน

วุ่นรักทายาทพันล้าน the heirs


ดูซีรี่เกาหลี แล้วพบว่า ดร.วิริยะ ฤาชัยพาณิชย์ พูดถึง การบูลลี่ที่เกิดขึ้นกับห้องเรียนในปัจจุบัน คอยเตือนสติ ชีแนะสังคม ให้คำแนะนำถึงวิธีการป้องกันด้วยการทำกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความมีน้ำใจ ไม่ว่าร้าย แต่ชื่นชม ยอมรับ และให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพื่อให้การบูลลี่เป็นเรื่องน่าละอายเกินกว่าจะพูดถึง เป็นสิ่งที่ต้องต่อต้านรังเกียรติอย่างที่สุด

https://www.imdb.com/title/tt3243098/

ทำให้นึกย้อนไปถึงทีวีซีรี่ปี 2003 เรื่อง The Heirs วุ่นรักทายาทพันล้าน ที่เล่าถึงชีวิตรักของหนุ่มรวย กับสาวจน ท่ามกลางการแข่งขัน การดูุถูกดูแคลนกันทางการศึกษา และปัญหาครอบครัว ภาพฉายเรื่องราวในโรงเรียนที่เกิดการบูลลี่อย่างชัดเจน ระบบการปกครองของนักเรียนในโรงเรียน ที่มีการแบ่งแยกชนชั้นของคนรวยกับคนจน คนรวยคิดจะส่งลูกไปเรียนสหรัฐ คนจนฝันที่จะถีบตัวเองไปให้ถึงสหรัฐ เหมือนพี่สาวของนางเอกตามบทละครในตอนต้นเรื่อง สรุปว่าการไปเรียนสหรัฐหรือโรงเรียนเอกชนที่มีค่าเรียนสุดแพง ที่ถือเป็นการยกระดับทางสังคมให้ดูดีมีฐานะ เพื่อจะได้เป็นฐานในการทำธุรกิจ หรือโอกาสได้เล่นการเมืองของผู้คนตามต้องเรื่อง”

http://www.thaiall.com/handbill/

ทิศทางการศึกษา กับอาชีพเด็กไทย

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง

ทิศทางการศึกษา กับอาชีพเด็กไทย ในยุค Disruptive technology เป็นประเด็นที่น่าสนใจที่ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง บรรยายเมื่อ 9 ธันวาคม 2562 ต่อไปเด็กไทยจะเริ่มประกอบอาชีพกันตอนอายุเท่าใด เป็นคำถามที่น่าสนใจ ปัจจุบันมีเด็กบางคนเริ่มค้าขาย (หัวเซงลี้ตามเพื่อน) กันตั้งแต่ประถม ในยุค Disruptive technology จะขายอะไร ขายที่ไหน ขายเมื่อไร ขายให้ใคร ขายอย่างไร ล้วนเป็นคำถามที่ไม่มีอุปสรรค์ด้านอายุ เพศ วุฒิการศึกษาอีกต่อไป มีตัวอย่างมากมาย เช่น รายการอายุน้อยร้อยล้าน เป็นต้น แล้วนักเรียน นิสิต นักศึกษา จะประกอบอาชีพจนมีเงินหลายล้านก่อนเข้าปี 1 หรือก่อนจบปี 4 จะไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป

บข่าวในเมืองไทย เรื่อง เด็กสาวอายุ 19 ปี หลอกขายโทรศัพท์มือ 2 โดยมิชอบ พบว่า มีเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้านบาท แต่เป็นธุรกิจที่ไม่สุจริต ตามข่าวเมื่อ 28 ก.ย.2564 พบว่าหญิงสาวเข้ามอบตัวที่เชียงใหม่ ทำให้นึกถึงการขายของออนไลน์ยุคนี้ ผ่าน instagram หรือ facebook หรือ line หรือ youtube ที่ต้องมีองค์ประกอบสำคัญ ที่จะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายได้ขนาดนั้น คือ ความประทับใจ (Impression) โปรโมชัน (Promotion) และสินค้าเป็นที่ต้องการ (Objectives) การขายสินค้าให้ได้ยอดขายที่สูงแบบก้าวกระโดด จำเป็นต้องมีทีม social media มีผู้สร้างอิทธิพล (influencer) เช่น นายแบบครีมย้อมผมดำ มาหนุนเสริม นักแสดงรับจ้างรีวิวสินค้า ทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักว่าดีจริง บวกกับการยิงโฆษณา เมื่อทำทุกอย่างให้เชื่อมโยงกันได้อย่างลงตัว ย่อมส่งผลถึงทำยอดขายให้เป็นตามเป้าหมายได้ พบเห็นตัวอย่างผู้ประสบความสำเร็จผ่านสื่ออยู่บ่อยครั้ง

https://www.thaiall.com/e-commerce/indexo.html

May be an image of ครูพี่ยอด ฐานศักดิ์ ศรีพงษ์ใหญ่ and text

จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่ ฉบับที่ 21[B] เข้าหอพัก ก้าวแรกสู่ครูเคมี

[เข้าหอ]

อังคารที่ 10 ก.ค. 61 เป็นวันอังคารที่ต้องเดินทาง
ไป ม.นเรศวร เพื่อไปเข้าหอ ออกจากบ้านประมาณ 6.45น.
(เพราะได้ครูคืนถิ่น ครูเคมี ปีการศึกษา 2561 ทุกคนเรียนที่่ ม. นี้)
ระหว่างเดินทาง ดีนะที่วันนี้ฝนไม่ตก ทั้งที่ ๆ ช่วงนี้มรสุมเข้าไทย
เราแวะทานข้าวเช้าที่เซเว่น
เดินทางมาถึงพิษณุโลกน่าจะสัก 11.00 น.
แล้วก็ตามหาร้านถ่ายรูป เจอที่ประตู 5 อยู่ 2 ร้าน
แต่คนเยอะมากกกกก ก็เลยขับไปขับมา
แล้วก็เจอร้านเล็กอยู่แถวประตู 4
ไม่มีคนเข้าร้านเลย 555
สงสัยร้านนี้จะใช้เวลาแต่งรูปนาน
ก็เลยไม่ค่อยมีคนเข้ามั้ง
แต่เราก็รอรูปสักพักได้รูป 1 นิ้ว 120 บาท
ต่อจากนั้นเราก็ไปจอดรถ ตามที่พี่คณะกำหนด
ลงรถปุ๊บ ก็เดินไปยื่นเอกสาร เพื่อรับกุญแจห้อง
ต้องผ่านการตรวจหลายโต๊ะเลยคร้าาา

[เข้าหอ]
พอได้กุญแจปุ๊บ ก็เดินไปที่จอดรถเพื่อขนของขึ้นหอ
มีพี่หารถเข็นให้ด้วยคร้า พี่ที่เข็นรถให้ชื่อพี่ติ้งคร้าาา
นิสัยดีนะ (เดี๋ยวเล่าทีหลังว่าดียังไง อิอิ)
พอมาถึงหอสองก็เจอพี่หอเลยคร้า ชื่อพี่แต๊ก
ทักกันนิดหน่อย มาถึงห้อง ซึ่งอยู่ชั้น 2
ก็เจอหมวย เป็นเมทจากขอนแก่นคร้าาา
หมวยเอาหนังสือมาอ่านเยอะมากกกก
ส่วนเมทอีกสองคนก็คงมาถึงกันแล้ว
เพราะเห็นข้าวของดูเข้าที่เข้าทางแล้ว
พอพี่ ๆ ที่ช่วยขนของวางสัมภาระต่าง ๆ แล้ว
เราก็จัดการขอบคุณยกใหญ่ 555
เมื่อพี่เขาออกจากห้องไป พวกเรา (พ่อ แม่ หยา ฉัน) ก็จัดของ
ฟัดไฟฟัดมาห้องก็ออกมาเรียบร้อย
น่าอยู่เลยทีเดียว
แต่ยังมีพวกรอยกาวบนผนัง
ว่าว่าง ๆ จะหาโปสเตอร์มาแปะติดสักหน่อย

[ออกหอ]
จากนั้นเราก็ออกไปหาซื้อตะกร้าใส่ของ
และหาข้าวเที่ยงกินในเวลาบ่ายสอง 555
ได้ตะกร้ามา 2 ใบ และกินก๋วยเตี๋ยวกะลาหลังม.
ที่ถือว่าเผ็ดจัด
เราก็เลยจัดขนมครกโบราณข้างรั้วมหา’ลัย อร้อยอร่อย
กะทิมันมว๊ากกก กินเสร็จก็ขับรถกลับเข้าหอ
แล้วก็ต้องอยู่คนเดียวซะแล้ว คิดถึงทุกคนจัง

[กลับหอ]
กลับขึ้นหอ ก็เจอหมวยและทีน เมดจากมุกดาหาร
ก็คุยนู้นนี้นิด ๆ หน่อย ๆ เพราะเพิร์ทไม่อยู่
รอเพิร์ทกลับมา แต่นี้ก็เกือบ 16.00 น. แล้ว
แต่ก็ยังไม่มาก็เลยคุยกัน
ว่าเราไปส่งเอกสารสำรวจครุภัณฑ์กันก่อนมั้ย
จะได้ให้เขามาซ่อมเร็ว ๆ พอเราลงหอก็ไปป้ะกับเพิร์ทกับแม่พอดี
ก็เลยรอแล้วค่อยไปยื่นเอกสารด้วยกัน
ยื่นเสร็จก็ไปซื้อของทำความสะอาด
พวกไม้กวาด ที่ตักผง ไม้ถูพื้น รองเท้า พรมเช็ดเท้า ตะกร้าถังขยะ
แปรงขัดห้องน้ำ หนูจ่ายไป 398 บาท แล้วเพื่อนก็ให้มาคนละร้อย
เพิร์ทก็ซื้อแพ็คน้ำขวด แล้วเราก็ขึ้นหอไปจัดของ
ตกลงแบ่งเวรทำความสะอาด

[ทานข้าวเย็น]
แล้วสัก 17.30น. ก็ลงไปหาข้าวกิน
ว่าจะไปหลัง ม. แต่ไม่มีรถกันสักคน
ก็เลยกินที่โรงอาหารไม่ค่อยมีร้านน่ากินสักเท่าไหร่
กินข้าวผัดหมู ร้านอาหารตามสั่ง ไม่อร่อยเลย หมูเหม็น
เสียไป 30 บาท ส่วนน้ำไปดื่มบนห้อง
แล้วก็ ลืมทานยากระเพาะ ก่อนอาหารตามเดิม 55
ก็เลยกินหลังอาหารละกัน
ก่อนขึ้นหอก็แวะเซเว่นซื้อสมุดทด 7 บาท
ขึ้นหอเสร็จเพิร์ทก็จัดของ ทำนู้นนี้นั่น ชั้นก็เช่นกัน

 

[วุ่นวายเล็กน้อย ก่อนเข้านอน]
แล้วก็มีความวุ่นวายเกิดขึ้นเล็กน้อย
คือ รอบแรก คิดว่าน้ำไม่ไหล แต่ที่ไหนได้ลืมเปิดวาล์วน้ำ
รอบสอง น้ำก็ไม่ไหล ทั้งที่เปิดวาล์วแล้ว
เมทเลยไปถามเพื่อนห้องข้าง ๆ
สรุปห้องอื่นไหลแรงมากกก
รอบสาม ฉันก็ลองไปเปิดวาล์วดู อ้าวสรุปน้ำห้องเราก็ไหลจร้าาาา
คือ แบบเปิดวาล์วไม่สุดกัน 555
ฉันน่าจะลองไปเปิดตั้งแต่แรก
เย้ คืนนี้ได้อาบน้ำแล้ว ไม่ต้องไปหาห้องอื่นอาบแล้ว 55
อ้อลืมบอกว่า ก็อกน้ำที่อ่างล้างหน้าแปรงฟันมันรั่ว
ก็เลยต้องเปิด ๆ ปิด ๆ อาบน้ำเสร็จซักผ้าเสร็จ
กำลังจะตากผ้า
พี่มิวสิคก็แวะเอาน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋มาฝาก พี่น่ารักคร้าาา
ไหว้พระ สวดมนต์ หลับประมาณ 21.50น.
แต่ไม่รู้ว่าหลับสนิทเมื่อไหร่นะ 555
พรุ่งนี้เช้าต้องตื่นตี 4 เพราะพี่นัดตี 5 ครึ่งหน้าอาคารขวัญเมือง
ฝันดีกันนะคะทุกคน คิดถึงทุกคนจังเลย

แม้ไม่ใช่ เวลา แต่งีบเดี๋ยว
พักแป๊ปเดียว แรงเรี่ยว เวลามี
หากได้พัก หลังตา ก็คงดี
เรียกพลังชี สุขขี สติสตังเต็ม

จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่ ฉบับที่ 13(B) หนูจะจบ ม.ปลาย ล่ะค่ะ

สวัสดีค่ะ พ่อเก๋ แม่ขวัญ

เย้ เย้ เย้” ดีใจจัง
หนูจะเรียนจบ ม.ปลายแล้วนะ ทุก ๆ คน

ขอแนะนำตัวก่อน
ครอบครัวเรามีพี่น้อง 3 คน
พี่ของเรา เกิดก่อนเราปีนึง
ไปเรียนกรุงเทพ แถว ๆ บางนา
ตัวหนู มีพี่น้องฝาแฝด และเป็นพี่แฝด
พี่ใหญ่ เรียกหนูว่า น้อง
น้องเล็ก เรียกหนูว่า พี่
ที่บ้านเรา เราคุยกันทาง messenger ค่ะ
จะกิน จะอยู่ จะนอน พี่เล่าหมด สงสัยเหงา
เห็นพี่เล่าผ่านการเขียนบล็อก และมีบันทึกในกลุ่มปิด
ทำให้หนูอยากเขียนอะไรเก็บไว้
เหมือนที่พี่เค้าเขียนน่ะคะ
บอกตรง ๆ ว่า ชอบ
ก็เขียนซะก่อนจบนี่เลยล่ะกัน
จะจบแล้วด้วยสิเรา

ใกล้จบแล้ว
ที่ห้องหนูเป็นกิฟแมท มีสมาชิก 17 คนค่ะ
ไม่เยอะ ทำให้คุณครูดูแลใกล้ชิดมาก
กราบขอบพระคุณ คุณครูประจำชั้นทั้งมี 2 ท่านค่ะ
– คุณครูนิทรา จิตราพิทักษ์กูล
– ครูปิยพงค์ จักรบุญมา
มีวันที่ประทับใจอีกวันหนึ่ง
วันนั้น เรากินเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่กัน

แลกของขวัญ กันด้วยเหมือนเช่นทุกปี
แต่ปีนี้เป็นครั้งสุดท้าย ในปีสุดท้าย ของ ม.6 แล้วค่ะ
สั่งพิซซ่ามาหลายถาด
ถ่ายภาพเก็บไว้เยอะเลยค่ะ

เดือนสุดท้าย
คุณครูมีงานให้แต่ง อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
คุณครูให้แต่งเพิ่ม 3 เรื่อง
เรื่องตัวเอง อนาคต และครอบครัว
เราคุยกัน ช่วยกันแต่งในครอบครัว
ยากตรงคำว่าเสียงสั้นนี่หละ หายากมาก
มาอ่านกันนะคะ หนูยก 3 บทสุดท้ายมา

ฉันเองระลึกแล้ว    มนแก้วอุทิศพลัน
พากเพียรมิเขวขวัน    สติมั่นประพฤติดี
พรุ่งนี้จะสดใส    บ่มิไกลบ่หน่ายหนี
มุ่งหน้าสิเปรมปรีดิ์    มุทะยานสมัครจิต
พ่อแม่มิกังวล    ระยะยลและสุขมิตร
รักท่านกตัญจิต    บุญคุณอนันต์กาล

อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

ช่วงปีใหม่ 2561
พี่กลับบ้านช่วงปิดภาคเรียนแรก ก่อนขึ้นภาคเรียนที่ 2
พวกเรา และคุณตา ไปทานข้าวเย็นแก้หนาวกัน
ชอบภาพนี้ค่ะ คุณตายิ้มน่ารักมาก

ทานข้าวเย็นกับคุณตา
ทานข้าวเย็นกับคุณตา

พอจะจบ ก็จะเริ่มสอบกันเลย
ปลายเดือนนี้ จะสอบ GAT/PAT
ต้นเดือนหน้าก็สอบ O-Net
ถ้านับ GAT/PAT เป็นสัปดาห์แรกของการสอบ
สัปดาห์แรก 24 – 27 กุมภาพันธ์ 2561 สอบ GAT/PAT
สัปดาห์ที่สอง 3 – 4 มีนาคม 2561 สอบ O-NET ม.6 ปีการศึกษา 2560
สัปดาห์ที่สี่ 17 – 18 มีนาคม 2561 สอบ 9 วิชาสามัญ ปีการศึกษา 2561
ประกาศผล GAT/PAT วันที่ 5 เมษายน 2561
ประกาศผล 9 วิชาสามัญ วันที่ 12 เมษายน 2561
พอรู้คะแนนสอบ
ก็จะเลือกหลักสูตร และที่เรียน ที่เค้าจะรับแล้วนะค่ะ
หลังสอบก็รอลุ้นกันหลายรอบเลย

รอบ 1 ยื่นพอร์ต หนูไม่ได้สมัคร ไม่ต้องรอค่ะ
รอบ 2 โควตา ประกาศผล 8 พฤษภาคม 2561 เลือกได้ 2
รอบ 3 รับตรง ประกาศผล 8 มิถุนายน 2561 เลือกได้ 4
รอบ 4 แอดมิชชั่นกลาง ประกาศผล 13 กรกฎาคม 2561 เลือกได้ 4 สาขา
รอบ 5 รับตรงอิสระ หรือรอบเก็บตก

 

timeline https://seniorswu.in.th/2017/tcas-admission/
timeline https://seniorswu.in.th/2017/tcas-admission/

https://seniorswu.in.th/2017/tcas-admission/

Bye Bye จ้า .. รักทุกคนนะ จุ๊บ จุ๊บ
จาก พี่พีของน้อง น้องพีของพี่ และลูกที่น่ารักของพ่อเก๋ แม่ขวัญ
มีอะไรทักแชทได้เหมือนเดิมน้า

หนูกับเพื่อน ๆ ค่ะ ม.6 ล่ะ
หนูกับเพื่อน ๆ ค่ะ ม.6 ล่ะ

จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่ ฉบับที่ 6 เหงาก็ช๊อปมุมดิสเค้าท์

สวัสดีค่ะ พ่อเก๋ แม่ขวัญ

ซื้อเลยไหม” คำถามในแชท
เวลาถามน้องบี น้องซี กับแม่
เมื่อเจอของถูกใจ ตอนไปเดินห้าง เดินตลาดสด

ช่วงแรกที่ไปอยู่หอ ในแคมปัส
ก็จะออกไปช็อปปิ้งกับเพื่อน ต้องมีเพื่อนไปด้วย
หลัง ๆ มานี่ บางทีหนูก็ไปคนเดียวได้ล่ะ ชำนาญ
เพราะตลาดอยู่รอบมหาวิทยาลัย
ออกหน้า ออกข้าง หรือนั่งรถเมย์สักต่อสองต่อ
ก็เจอห้าง เจอตลาด เจอของกิน ของใช้แล้ว

เวลาเจอเสื้อ หมวด กระเป๋า
สวย ๆ ถูก ๆ ก็จะถ่ายรูป แล้วส่งในแชท
ถามว่า “เอาไหม เอาลายไหน
ของสวย ราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับบ้านเรา
กลับลำปางทีไร หนูก็จะซื้อของไปฝากน้อง
ล่าสุดก็ได้หมวกสวย ไปฝากแม่ กับน้อง ๆ

ได้หมวกกไปฝากแม่ กับน้อง ๆ
ได้หมวกกไปฝากแม่ กับน้อง ๆ

ของกิน ตอนเช้าก็ไปที่โรงอาหาร
งบ 30 บาทนี่อิ่มสบายเลย
หนูชอบก๋วยเตี๋ยวหลอด ดีต่อสุขภาพค่ะ
ตอนบ่าย กับตอนเย็นหนูไม่หนักมาก หาผลไม้แทน

ก๋วยเตี๋ยวหลอดในแคมปัส
ก๋วยเตี๋ยวหลอดในแคมปัส

ช่วงนี้ลดอาหาร
ตอนบ่ายหนูจะกินผลไม้ ไม่เน้นข้าวค่ะ
ตอนเย็นก็จะหนักขึ้นมาหน่อย
มาอยู่ที่มหาวิทยาลัยรู้สึกตัวหนัก ๆ ล่ะ
ต้องลด ต้องลด ออกกำลังตอนเย็นด้วย
บางวันนะคะ ตอนที่มีเวลา มีเพื่อนไปวิ่งในแคมปัสกัน

เวลาลดอาหารหลัก ก็นึกถึงพ่อ
เพราะพ่อทานข้าวมื้อเดียวเอง
บ่าย กับเย็น เห็นดื่มแต่กาแฟดำ
เป็นห่วงนะคะ
เคยเห็นพ่อไม่ทานข้าวเที่ยงด้วยหละ
ให้ทานอะไรก็ไม่เอา
แต่เห็นแม่บอกว่า เวลาอยู่ที่ทำงานกับแม่
พ่อก็จะทานข้าวเที่ยงตามปกติ .. เนียรเลย
เดี๋ยวนี้พ่อผอมไปเยอะ เห็นแล้วเป็นห่วง
ป่วยมาจะลำบาก ตอนนี้ต้องดูแลย่าด้วยนะค่ะ

สลัดผลไม้
สลัดผลไม้

ไปห้าง เห็นของลด แล้วนึกถึงที่ลำปาง
จะมีมุมของลดราคา เมื่อถึงวันใกล้หมดอายุ
มีพวกของสด ขนม นม เจอบ่อย ๆ เลย
ลดครึ่งราคา หรือเหลือ 30% หนูก็จะไม่พลาด
แต่ต้องรีบทาน ช่วยกันทานกับเพื่อน ๆ
มุมนี้ คนแย่งซื้อเยอะหน่อยค่ะ
เวลาหนูเดิน ก็จะไปที่มุมลดราคาก่อนเลย
รู้สึกเป็นเจ้าประจำมุมนี้ไปซะแล้ว
หรือเวลาเดินตลาดสด
หนูจะซื้อชุดสลัดผลไม้ ได้ผักเยอะดี ทานผักเพื่อสุขภาพ
ไข่ที่ตลาดสด หนูก็ซื้อมาทีเป็นแผงเลย
ของหลายอย่าง จะซื้อเป็นแพ็ก เพราะถูกกว่า
มีรูมเมทพะเยา เชียงรายช่วยแชร์ ช่วยกิน ช่วยใช้
บางที พี่ข้างห้อง ก็มาแจมด้วย สนุกค่ะ

บันทึกรายการใช้จ่าย
บันทึกรายการใช้จ่าย

เวลาไปช็อป หนูจะทำบัญชีไว้ด้วย
เงินมีน้อย ใช้สอยประหยัดค่ะ
เพราะหนูต้องบริหารเงินที่พ่อแม่ให้มา
ให้ใช้ตังที่ได้มา ให้ได้นาน ๆ
ช็อป ก็จะช๊อป ให้ได้นาน ๆ ค่ะ
เดือนพฤศจิกายน หนูใช้ไป 3086 บาท เยอะเหมือนกันนะ

Bye Bye จ้า .. รักทุกคนนะ จุ๊บ จุ๊บ
จาก พี่เอของน้อง ๆ และลูกที่น่ารักของพ่อเก๋ แม่ขวัญ
มีอะไรทักแชทได้เหมือนเดิมน้า

 

จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่ ฉบับที่ 2 มองไปนอกหน้าต่างรถไฟ

สวัสดีค่ะ พ่อเก๋ แม่ขวัญ

สู้ สู้ นะเรา” เป็นคำพูดที่หนูบอกตัวเอง
เมื่อมองออกไปที่นอกหน้าต่างรถไฟ
เห็นคุณตา คุณย่า พ่อเก๋ แม่ขวัญ และน้อง ๆ
ยืนส่งยิ้มมาที่หนู หนูก็ยิ้มนะ แต่ในใจสะอื้นเลยหละ
เหมือนใจดีสู้เสือเลย

ตอนนั้นรถไฟยังจอดสงบนิ่งอยู่ที่ชานชาลาสถานีลำปาง
แล้วก็ค่อย ๆ เคลื่อนออกไป กระชึก กระชัก กระชึก กระชัก

วันนั้น เป็นครั้งแรก
ที่หนูนึกถึงคำว่า change ที่ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวไว้
เพราะกำลังจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับหนูเยอะเลย

เปลี่ยนจาก อยู่ในรั้วโรงเรียน ไปอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย
เปลี่ยนจาก แม่ทำข้าวให้ทาน ไปซื้อทานเอง
เปลี่ยนจาก นอนกับน้อง ไปนอนกับเพื่อนใหม่
เปลี่ยนจาก นอนบ้าน ไปนอนหอพัก
เปลี่ยนจาก นักเรียน ไปเป็นนักศึกษา
เปลี่ยนจาก พ่อแม่ไปส่ง ไปไหนก็ต้องไปคนเดียวโด่เด่
เปลี่ยนจาก ขอตังพ่อแม่ใช้ ไปใช้เงิน กยศ.
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนเดิม คือ ต้องตั้งใจเรียนหนังสือ

เรื่องที่หนูหวั่นใจที่สุด
คือ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่ต้องขึ้นรถไฟคนเดียว
เดินทางไปไกลหลายร้อยกิโลเมตรจากบ้าน
และอีกหลายเดือนจะได้กลับบ้าน
นึกทีไรก็อยากร้องไห้นะ กลัวเป็นโฮมซิกจังเลย

คืนนั้น เป็นคืนเดือนหงาย
คืน 15 ค่ำ ข้างนอกดูสว่างนะ ถ้าเมฆไม่บังจันทร์
หนูนอนเตียงล่าง นอนก็ไม่หลับผิดที่
เตียงบนยังว่าง คืนนั้นมีหลายเตียงว่างอยู่
แล้วตู้นี้ชาวต่างชาติเยอะมาก ไม่พูดอังกฤษด้วย
จึงไม่ได้ทักใคร แล้วก็ไม่มีใครมาทักหนู
ยกเว้นตำรวจรถไฟที่มาเดินตรวจตั๋ว
หนูแอบมองไปข้างนอก ที่นอกหน้าต่างรถไฟ
มีอะไรน่าสนใจเยอะเลย คงเพราะไกลบ้าน
เห็นถนนที่ตัดผ่านรถไฟ บางเส้นก็มีที่กั้น บางเส้นไม่มี
เห็นภูเขาที่มีต้นไม้เต็มไปหมด
เห็นบึงน้ำกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
เห็นถ้ำ แต่ก็เห็นไม่ชันนะคะ เพราะมืดไปหมด
เห็นสถานีรถไฟ หน้าตาเหมือนกันทุกสถานี หนูนั่งนับด้วยนะ
.. หนึ่ง สอง สาม .. ถึงเท่าไรไม่รู้ เพราะงีบหลับไป

หนูหลับ ๆ ตื่น ๆ มองนอกหน้าต่างรถไฟบ่อย ๆ
และแล้วก็ถึงรุ่งสาง พระอาทิตย์มาเลย
เข้าบางกอกแล้ว รถยนต์เยอะมาก
ปลายทางที่หนูจะลง คือ หัวลำโพง
หนูพกกระเป๋าไป 3 ใบ
สะพายหลัง ลากใบใหญ่ และหิ้วอีกใบหนึ่ง
ส่วนกระเป๋าตังหนูใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ

ครั้งล่าสุด
ยังจำได้เลย พ่อเก๋ แม่ขวัญ มาด้วยไง
พวกเราไปจองหอพัก เลือกอยู่นาน มีหลายแบบน่ะ
และสอนให้หนูเดินทางเอง ทั้งรถไฟ และรถทัวร์
แต่ไม่ได้สอนว่าไปกลับเครื่องบินต้องทำอย่างไร
ครั้งนี้
หนูมาเอง พอลงรถไฟ ก็เดินไปที่คิวรถตู้ อยู่ไม่ไกลนัก
เพราะนั่งรถแท็กซี่ไปมหาวิทยาลัยจะไกลมาก ๆ
นั่งรถตู้สะดวก ไม่แพงเกินไปนัก
บอกคนขับรถตู้ว่าลงหน้ามอ เค้าก็จอดให้เลย
หนูแอบงีบระหว่างนั่งรถตู้ด้วย เพราะแอร์เย็น
หนูสะดุ้งตื่น เพราะผู้โดยสารเกือบทั้งคันลงที่ตลาด
แต่มหาวิทยาลัยอยู่เลยตลาดไปอีกไม่กี่กิโล
พอถึงหน้ามอ เค้าก็จอดให้ มีเพื่อนลงด้วยสองคน

ไปถึงมหาวิทยาลัยก็เช้าล่ะ
เพราะรถไฟเสียเวลา ไปถึงเลยเวลาที่เค้าแจ้งไว้
ครั้งต่อไปหนูคงไป-กลับรถทัวร์เอา
เพราะใช้เวลาน้อยกว่า รถทัวร์แวะทานข้าวต้มรอบดึกด้วย
หนูชอบข้าวต้มดึก มีกุงเชียง มีผัดผักบุ้ง มีปลาทอด
และได้แวะเข้าห้องน้ำที่กำแพงเพชร

ตอนนี้ถึงห้องพักแล้ว
ที่นี่เป็นหอพักหญิงที่อยู่ในมหาวิทยาลัย
เดินจากหน้ามหาวิทยาลัยเข้าไปประมาณ 300 เมตร
ห้องหนูนอนกัน 3 คน เป็นเตียงเดี่ยว ห้องน้ำในตัว
เพื่อนอีก 2 คนยังมาไม่ถึง หนูมาคนแรก
สงสัยเค้าไม่ได้มาจากภาคเหนือแบบหนู
ไม่งั้นคงถึงพร้อม ๆ กัน
หนูขอนอนเอาแรงก่อนนะคะ
เมื่อคืนตื่นเต้นเกิน เลยไม่ค่อยได้หลับ
ฉบับหน้า จะหาเรื่องสนุก ๆ มาเล่าให้ฟังนะค่ะ

ลากกระเป๋า ระหว่างเดินทาง
ลากกระเป๋า ระหว่างเดินทาง

Bye Bye จ้า .. รักทุกคนนะ จุ๊บ จุ๊บ
จาก พี่เอของน้อง ๆ และลูกที่น่ารักของพ่อเก๋ แม่ขวัญ
มีอะไรทักแชทได้เหมือนเดิมน้า

10 อาชีพที่น่าแนะนำเยาวชนว่าเรียนแล้วมีอนาคตสดใส

10 อาชีพที่น่าจะรายได้ดี และมีโอกาสได้งานทำสูง
ในยุคอินดัสทรี (Industry) 4.0

ธนวรรธน์ พลวิชัย” ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ให้ข้อมูลอาชีพในอนาคต ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างสูงในไทย 10 อันดับ ได้แก่

1. อาชีพเขียนโปรแกรมเมอร์  (Programmer)
ผู้ที่คิดค้นแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ตามเทรนด์สังคมโลกเปลี่ยนผ่าน
จาก analog สู่ digital จากกดปุ่มเป็นจอสัมผัส
และไปสู่อินดัสทรี 4.0 ที่มีดิจิตอลเป็นหัวใจ

2.อาชีพที่เกี่ยวข้องกับความสวย ความงาม (Beauty)
ผู้รับทำให้ผู้คนสวยงาม ได้แก่ แพทย์ศัลยกรรม แพทย์ผิวหนัง ทันตแพทย์ เภสัชกร พนักงานขายสินค้าด้านความงาม ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับหญิงและชาย ซึ่งในไทยเป็นที่นิยมอย่างมาก

3.อาชีพดูแลด้านสุขภาพ (Health)
ครอบคลุมตั้งแต่เด็กถึงวัยชรา เทรนด์นี้ทั้งโลกให้ความสำคัญ โดยเฉพาะไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อยากมีอายุยืนยาวขึ้น ยอมจ่ายเเพื่อตรวจสุขภาพประจำปีกับโรงพยาบาล รับประทานอาหารที่เน้นดูแลตัวเอง และธุรกิจฟิตเนส เทรนเนอร์ จะได้รับความนิยม

4.อาชีพที่เรียนด้านวิทยาศาสตร์เคมี ชีวเคมี  (Science)
ผู้ที่เรียนทางวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันมีการใช้สารเคมีที่มาจากธรรมชาติ จากพืช อาทิ การใช้พลาสติกจากชานอ้อย บริษัทที่ผลิตสินค้าที่ผลิตจากพืชจะได้รับความนิยม เพราะโลกจะให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม

5.อาชีพที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน (Energy)
ผู้ที่มีความรู้เรื่องพลังงาน พลังงานทดแทน การดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้ามีบทบาทในชีวิตประจำวัน

พลังงานทดแทน
พลังงานทดแทน

6.อาชีพที่มีความชำนาญด้านเครื่องกลขั้นสูง (Mechanical specialist)
ผู้ที่จะเป็นกลไกสำคัญพาประเทศปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม

7.อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษา (Language)
ผู้ที่มีความรู้ในภาษา มีทักษะทั้งการพูด การเขียน การคิดสโลแกน ถ้อยคำ ภาษาสำคัญ คือ อังกฤษและจีน ที่ใช้ทั่วโลก และภาษาอารบิกสำหรับชาวมุสลิมที่กระจายอยู่ทั่วโลก รวมถึงภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น

8.อาชีพนักกฎหมายธุรกิจ (Law)
นักกฎหมายที่มีความรู้เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ

9.อาชีพที่ดูแลสิ่งแวดล้อม (Environment)
ผู้มีความรู้เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการฟื้นฟูธรรมชาติ

10.  อาชีพที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง (Pet)
อาชีพสัตวแพทย์ ผู้ผลิตวัคซีนสำหรับสัตว์เลี้ยง ร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง แฟชั่นสัตว์เลี้ยง และการผลิตอาหารสัตว์

อาชีพทั้งหมดนี้ประเมินจากโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่มุ่งสู่อุตสาหกรรม 4.0 ที่มีระบบดิจิตอลเป็นหัวใจสำคัญ ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงจากโรบอติก เชื่อมโยงโลก ต้องการแรงงานทักษะ แต่ลดการใช้แรงงานทั่วไป การเปลี่ยนของโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศที่เกิดขึ้น “อรรชกา สีบุญเรือง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แสดงความเห็นว่า ต่อไปประเทศไทยต้องก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ใช้เทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำมากขึ้น ทำให้ความต้องการแรงงานทั่วไปลดลง แต่ต้องการแรงงานที่มีทักษะสูง โดยขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งภาคเอกชน ได้หารือร่วมกัน เพื่อปรับหลักเกณฑ์การเรียนการสอนให้นักศึกษาใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการแรงงานของภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวยังมั่นใจว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้าจะเห็นภาพการเปลี่ยนแปลง คือ ความต้องการแรงงานที่ต้องใช้ทักษะอาชีพที่มีความเชี่ยวชาญขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบจนเลิกจ้างงาน หรืออัตราการว่างงานเพิ่มมากขึ้น เพราะตอนนี้แรงงานในภาคบริการยังขาดอยู่มาก อาทิ ภาคท่องเที่ยว ซึ่งอัตราการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาจมีการโยกแรงงานจากอุตสาหกรรมการผลิต เข้าสู่อุตสาหกรรมภาคบริการเพิ่มขึ้น แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจะเตือนให้รับมืออนาคต แต่ที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน คือนโยบายลดพนักงานลงแบบสมัครใจออก ของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ที่จัดโครงการ “จากกันด้วยใจ” โดยเป็นพนักงานในส่วนของการรับเหมาค่าแรง (ซับคอนแทร็กต์) ที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1,000 คน สาเหตุที่โตโยต้าปรับลดพนักงาน บริษัทให้ข้อมูลว่า เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงชะลอตัว ประกอบกับความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีผลต่อการส่งออก ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ต้องปรับลดกำลังการผลิตลง และมีพนักงานเกินความจำเป็นในการผลิต แต่ยืนยันว่าหากกำลังผลิตกลับมาปกติจะกลับมาจ้างงานกลุ่มที่ลาออกแน่นอน แม้จะเป็นการจากลาแบบ “สมยอม” แต่ลึกๆ ในกลุ่มแรงงานเองต่างหวาดหวั่นกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งหวาดหวั่นกับสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวจนบริษัทใหญ่ต้องลดพนักงาน เกิดการตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่า จริงๆ แล้วเศรษฐกิจไทยกำลังดี หรือชะลอตัว เพราะในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน หัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาล “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี เพิ่งประกาศกับนักลงทุนญี่ปุ่นภายในการประชุมแบงค็อก นิกเกอิ ฟอรั่ม 2559 จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตดี โดยเฉพาะไตรมาส 2 มากกว่า 3% อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลบ่งชี้สถานการณ์การจ้างงานของไทย เปิดเผยโดยกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ตัวเลขการว่างงานของไทยช่วง 3 เดือนของปีนี้ พบว่าเดือนเมษายน มีตัวเลขผู้ว่างงาน 1% เดือนพฤษภาคม 1.2% และเดือนมิถุนายน 1% โดยกระทรวงแรงงานยืนยันว่าตัวเลขดังกล่าวอยู่ในภาวะปกติ แต่หลายคนก็มองว่าตัวเลขการว่างงานดังกล่าวดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องปกตินักเพราะสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เอง ก็กำลังจับตาการจ้าง 5 เดือนแรกของปีนี้ ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม พบว่า มีอัตราการว่างงานเฉลี่ยอยู่ที่ 385,682 คน จากกำลังแรงงานทั้งหมด 38.5 ล้านคน หรือคิดเป็น 1.07% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ระดับ 0.93% นอกจากนี้ สำนักเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ยังให้ข้อมูลว่าแนวโน้มการจ้างงานในปี 2559 จะมีบัณฑิตจบใหม่ 100,000 คน และ 1 ใน 4 อาจไม่มีงานทำ แม้สถานการณ์จ้างงานจะไม่สู้ดีนัก แต่ถ้ารู้จักรับมือและมองเทรนด์โลกให้ออก เชื่อว่าไม่มีคำว่า “ตกงาน” แน่นอน

 

ที่มา คอลัมน์ เศรษฐกิจ
มติชนสุดสัปดาห์ หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์
วันที่: 23 ก.ค. 59 เวลา: 07:46 น.

 

อ้างอิง http://www.matichon.co.th/news/220863
อ้างอิง  http://www.kroobannok.com/article-79488-10-อาชีพในอนาคต-ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างสูงในไทย.html
ข้อมูลเพิ่มเติม

แรงงานเชี่ยวชาญ

             การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 9 เมื่อ 7 ตุลาคม 2546 ที่บาหลี อินโดนีเซีย ได้กำหนดจัดทำข้อตกลงร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangements : MRAs) เกี่ยวกับคุณสมบัติของวิชาชีพหลัก แรงงานเชี่ยวชาญ หรือผู้มีความสามารถพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรี โดยจะเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2558

ในเบื้องต้นได้ทำข้อตกลงร่วมกันแล้ว 7 สาขา

    1. วิศวกรรม (Engineering Services)
    2. พยาบาล (Nursing Services)
    3. สถาปัตยกรรม (Architectural Services)
    4. การสำรวจ (Surveying Qualifications)
    5. แพทย์ (Medical Practitioners)
    6. ทันตแพทย์ (Dental Practitioners)
    7. บัญชี (Accountancy Services)

แรงงานเชี่ยวชาญ
แรงงานเชี่ยวชาญ

http://www.thaiall.com/asean/

ค้นบันทึกเล่าสาเหตุการจากไปของดอกเตอร์ แล้วไปพบบันทึกของผู้ก่อเหตุจาก google.com

ในบันทึกก่อนสิ้นชีพ พบหลายหน้า
ท่านบอกว่ากระทำไปเพราะถูกหยามหมิ่น เบียดเบียน หมิ่นเกียรติศักดิ์ศรี
รายละเอียดเป็นการให้การฝ่ายเดียว
เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย การเผยแพร่เอกสารจึงไม่ควรเกิดขึ้น
http://news.mthai.com/hot-news/general-news/496243.html

เรื่องของเกียรติศักดิ์ศรี ทำให้นึกถึงเพลง “กูเป็นนักศึกษา”
เนื้อเพลง

ทุกวันทุกวัน เห็นเขารีบออกไป แต่งตัวทันสมัย ขับรถซิ่ง
อื้อหืออ้าหา เทวดาฟ้าดิน กุ๊กกิ๊กดุ๊กดิ๊ก สะดิ้งมาเต็มคัน
ชาวบ้านยืนมอง แล้วอดใจไม่ไหว เอ่ยถามขึ้นทันใด ว่าไอ้หนุ่มเอ๋ย
∗ ( มึงเป็นใคร ) กูเป็นนักศึกษา นักล่าปริญญา ใฝ่ฝันขึ้นไปเป็นใหญ่
( แล้วยังไง ) กูจะรวยน่ะสิวะ ความรู้กูแน่นหนา กูจะมาเป็นนายมึง
รำพึงรำพัน น้อยใจวาสนา ไม่มีการศึกษา อนาคตสั่นไหว
จับกังคนงาน ยังฝันหวานเกินไป น้อยอกน้อยใจ ไม่ได้เป็นนักศึกษา
เข้าเธคเข้าบาร์ ดึ๊บดั๊บกันเข้าไป ชาติจะเป็นยังไง ไม่ใช่เรื่องนักศึกษา
( ∗ )
ชาวบ้านถามว่า คุณจะทิ้งผมไปไหน ยากจนเข็ญใจ รอให้คุณนำพา
คุณขึ้นสวรรค์ ผมไม่เคยคิดอิจฉา ขอเถอะคุณจ๋า อย่าทิ้งผมไปไหน
( ∗ )
( มึงเป็นใคร ) กูเป็นนักศึกษา นักล่าปริญญา ใฝ่ฝันขึ้นไปเป็นใหญ่
( แล้วยังไง ) กูจะรวยนะสิวะ ความรู้กูเหนือกว่า กูจะมาเป็นนายมึง

คนชอบโชว์

design
design

คนชอบโชว์

เวลามีงานศิลปะที่ไหน ผมก็มักจะไปชม
เพราะเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความสุข
ที่ได้ชมสิ่งสวย ๆ งาม ๆ

เห็นตัวอย่างว่ามนุษย์ชอบชื่นงานศิลปะจากภาพยนตร์
ทั้งภาพวาด งานปั้น หรือภาพถ่าย
ผมก็ชอบครับ เพราะเป็นปุถุชนคนหนึ่ง
เห็นว่าเป็นภาพในที่ทำงาน จึงถ่ายเก็บไว้ชื่นชมภายหลัง

ถ่ายเมื่อวันที่ 5 มี.ค.57 ในชื่องาน “คนชอบโชว์”
ผลงานของนักศึกษา ระดับ senior มหาวิทยาลัยเนชั่น
กำกับดูแลโดย อ.อดิศักดิ์ จำปาทอง