น้ำท่วมประเทศไทย

ได้ภาพจาก http://www.thaiflood.com หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก http://www.pm.go.th/flood/

น้ำท่วม
น้ำท่วม

สภ.สรุป 21 จว.ยับน้ำท่วม พื้นที่เกษตรเสียหายแล้ว 1.8 แสนไร่ 8 จังหวัดยังระทมทุกข์ ลุ้นหากฝนไม่ตกซ้ำสถานการณ์อาจเข้าสู่ภาวะปกติใน 2-3 วันนี้ เตือนอีก 6 จว.เสี่ยงท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม ธอส.ลดดอกเบี้ยช่วยเหยื่อ จัดโครงการลดภาระหนี้ ปลูกสร้าง และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ทั้งให้กู้ใหม่และกู้เพิ่ม

นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 กันยายน ว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 21 จังหวัด 102 อำเภอ 525 ตำบล 3,637 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 10 ราย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 272,612 ครัวเรือน คิดเป็น 714,719 คน มีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 8 หลัง เสียหายบางส่วน 1,887 หลัง สะพานเสียหาย 25 แห่ง ถนนชำรุด 659 สาย พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมประมาณ 188,835 ไร่ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 28,566,971 บาท พื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายลงแล้วมี 13 จังหวัด ได้แก่ จ.เพชรบูรณ์ นครราชสีมา ปราจีนบุรี ตาก นครสวรรค์ นครนายก เลย สุโขทัย ฉะเชิงเทรา ตราด ชลบุรี พิจิตร และแม่ฮ่องสอน ขณะที่ จ.พิษณุโลก ลพบุรี สระบุรี หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น อุบลราชธานี และจันทบุรี ยังมีสถานการณ์อุทกภัยอยู่ คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่ม สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 2-3 วันนี้ ยกเว้น จ.ลพบุรี ที่สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1-2 สัปดาห์ ซึ่งกรมได้ประสานจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ถือเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยให้ดำเนินการ ดังนี้ จังหวัดที่ประสบอุทกภัยให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนและทั่วถึง โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านปัจจัยสี่ อาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค แก่ผู้ประสบอุทกภัยที่อาศัยในพื้นที่ห่างไกลและเส้นทางคมนาคมถูกตัดขาด

สำหรับจังหวัดที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วนั้น ได้เร่งให้สำรวจความเสียหาย เพื่อเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง ซึ่งอยู่ในอำนาจอนุมัติของผู้ว่าราชการจังหวัด 50 ล้านบาท รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมที่ ชำรุดเสียหายให้สามารถกลับมาใช้การได้โดยเร็วที่สุด การดูแลสุขภาพอนามัยของผู้ประสบภัย ตลอดจนเร่งสำรวจความเสียหายของพื้นที่การเกษตร เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือต่อไป สำหรับจังหวัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยก็ให้จัดเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร แจ้งเตือนเหตุดินถล่ม อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และเตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ ยานพาหนะ และเครื่องจักรกล เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชน หากเกิดสถานการณ์ภัยให้รีบแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เตรียมการอพยพได้ทัน

นายอนุชากล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่าร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่าน ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตกกระจายและตกหนักบางแห่งใน ระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน ปภ.จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลาดเชิงเขาและที่ราบ ลุ่มริมแม่น้ำในบริเวณ 6 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ ติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศ และประกาศแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มซ้ำอีก

ขณะที่นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการ ผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธนาคารจัดทำ “โครงการเงินกู้เพื่อลดภาระหนี้ ปลูกสร้าง และซ่อมแซมที่อยู่อาศัยแก่ผู้ประสบอุทกภัยปี 2551” โดยลูกหนี้เดิมลดอัตราดอกเบี้ยใน 3 เดือนแรก เหลือเพียง 0% เดือนที่ 4-6 คิดอัตราดอกเบี้ย 1% และให้ผู้กู้ผ่อนชำระเงินงวดเฉพาะดอกเบี้ย ส่วนเดือนที่ 7-36 คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับเอ็มอาร์อาร์- 2.00% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์- 0.50% ต่อปี

ส่วนกรณีกู้เพิ่มเพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยที่ได้รับความเสียหาย ลดอัตราดอกเบี้ยให้โดยในปีแรก เดือนที่ 1-3 คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เดือนที่ 4-12 คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับเอ็มอาร์อาร์-3.00% ต่อปี ปีที่ 2-3 คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับเอ็มอาร์อาร์-2.00% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับเอ็มอาร์อาร์-0.50 % ต่อปี ตลอดอายุสัญญา สำหรับลูกค้ากู้ใหม่ธนาคารลดอัตราดอกเบี้ยให้ในปีแรกเท่ากับ เอ็มอาร์อาร์-3.00% ต่อปี ปีที่ 2-3 คิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์-2.00% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับเอ็มอาร์อาร์-0.50% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา โดยธนาคารให้กู้ได้สูงสุด 100% ของราคาประเมินค่าก่อสร้างหรือซ่อม แซมอาคารที่ได้รับความเสียหาย

นายขรรค์กล่าวว่า กรณีอาคารที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลัง ธนาคารจะลดภาระหนี้ในส่วนของอาคารให้ทั้งหมด โดยลูกค้าจะรับภาระในการชำระหนี้เงินกู้เฉพาะในส่วนของที่ดินเท่านั้น

นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสถานศึกษาที่เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม 176 โรงเรียน ใน 14 จังหวัด แบ่งเป็นโรงเรียนที่ต้องปิดเรียนทุกวัน 85 โรง และปิดวันเว้นวันเนื่องจากน้ำขึ้น-ลด 91 โรง จังหวัดที่มีสถานศึกษาได้รับความเสียหายมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ จ.ลพบุรี 73 โรง จ.ชัยภูมิ 24 โรง จ.พระนครศรีอยุธยา 19 โรง จ.ปราจีนบุรี 16 โรง สระบุรี และสุรินทร์ จังหวัดละ 11 โรง ประเมินความเสียหายเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท เบื้องต้นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มอบเงินช่วยเหลือเขตพื้นที่การศึกษาละ 3 แสนบาท พร้อมทั้งประสานกระทรวงที่เกี่ยวข้องในการจัดสิ่งของเครื่องใช้ให้กับ โรงเรียน และครอบครัวที่ประสบภัย นอกจากนี้ ยังได้แจ้งเขตพื้นที่ฯ ให้ย้ายนักเรียนไปเรียนในโรงเรียนใกล้เคียงที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ส่วนการสอบอาจจะช้ากว่าโรงเรียนทั่วไป 1-2 สัปดาห์ เพราะต้องรอให้โรงเรียนอื่นสอบเสร็จก่อน จึงจะขอใช้สถานที่ได้

สำหรับพื้นที่ต่างๆ ที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมนั้น ที่ จ.ปราจีนบุรี น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีทะลักเข้าเขตเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี ทั้ง 6 ชุมชน โดยระดับน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร นอกจากนี้ ที่หมู่บ้านปากแพรก หมู่ 3 ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี น้ำเอ่อท่วมสูงกว่า 2.50 เมตรเศษโดยชาวบ้านกว่า 300 ครอบครัว ได้รับผลกระทบ

ส่วนที่ จ.ลพบุรี นายจารุพงศ์ พลเดช ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี รับมอบส้วมลอยน้ำจากสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา จ.ลพบุรี จำนวน 40 หลัง เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ในพื้นที่ต่างๆ

พื้นที่ จ.พิจิตร เผชิญปัญหาน้ำท่วมเช่นกัน เมื่อน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ และผสมกับน้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบ้านเรือนกว่า 500 ครอบครัว บริเวณหมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 6 ต.บ้านบุ่ง อ.เมือง ไร่นารวมทั้งถนนถูกน้ำท่วมขังได้รับความเสียหาย ที่ อ.บางมูลนาก แม่น้ำน่านสมทบน้ำป่าจาก จ.เพชรบูรณ์ ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนหมู่ที่ ที่ 1 หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 9 ต.หอไกร กว่า 200 หลัง คาเรือน และไร่นาเสียหายกว่า 2 หมื่นไร่

ขณะที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ โปรดเกล้าฯให้ พล.อ.อ.ทรงศักดิ์ ตะวันแจ้ง ผู้อำนวยการกองงานพระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์ นำสิ่งของประทานมอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมที่ 4 ตำบล 49 หมู่บ้าน ที่บริเวณวัดมงคลทับคล้อ ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร จำนวน 1,500 ถุง โดยประทานให้กับครอบครัวราษฎรที่ประสบน้ำท่วมในอำเภอทับคล้อ 600 ถุง ในส่วนที่เหลือได้มอบให้กับ นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นำไปแจกแก่ราษฎรใน อ.บางมูล นาก และ อ.ตะพานหิน

คนแจวเรือที่เห็นผู้โดยสารถึงฝั่ง

28 ต.ค.53 รู้สึกว่าเป็นอาจารย์มานาน ปูทางอย่างเป็นระบบ จนบรรลุเป้าหมายอีกครั้ง เนื่องจากวันนี้ลูกศิษย์เข้ามาบอกว่าตัดสินใจอย่างไรกับงานที่ผมแนะนำ คำตอบนั้นทำให้ผมรู้ว่าได้ทำหน้าที่ครบตามเป้าหมายที่เคยตั้งไว้อีกข้อ  คือหางานให้ลูกศิษย์จากเจ้าของธุรกิจที่ติดต่อเข้ามาแบบ anonymous ทำงานที่ปอยเปต แล้วมีเงินเดือนสูงกว่าผมที่ทำงานมา 20 ปี (ก้นบึ้งก็แอบอิจฉาอยู่นะ แต่แข่งบุญแข่งวาสนากันไม่ได้ ผมก็ยังต้องแจงเรือต่อไป) เรียกว่าประสบความสำเร็จ ตามจรรณยาบรรณครู พ.ศ.2539 ซึ่งเป็นโชคของผมที่มีลูกศิษย์ที่ใช่อยู่คนหนึ่ง เพราะทั้งรุ่นมีคนพร้อมเพียงคนเดียวถือว่ามีลุ้นครับงานนี้  .. ถ้ามีโอกาสจะขยายความว่าปูทางจนมี anonymous ได้อย่างไร

จัดกลุ่มนักศึกษาเปิดภาคใหม่

moodle
moodle

26 ต.ค.53 แจ้งให้กับอาจารย์ที่สอนนักศึกษาด้วย e-learning ผ่าน moodle หรือ http://class.yonok.ac.th/ อย่าลืมเพิ่มกลุ่มเรียนสำหรับนักศึกษากลุ่มใหม่นะครับ โดยปรับวันที่ของวิชา ปรับตัวเลือก ก็จะทำให้นักศึกษาสื่อสารกันผ่านกลุ่มของตนเอง และการรายงานคะแนนสอบก็แยกกลุ่มชัดเจน ไม่สับสนครับ .. อันนี้ อ.แหม่มท่านใช้งาน เพื่อจัดสอบก่อนเข้าเรียนครับ

สังขารกับผลประเมินบริการวิชาการ

ผลประเมิน
ผลประเมิน

26 ต.ค.53 สังขารไม่ค่อยให้เลยครับ ทำงานไปต้องดูเวลาไป เพราะเจ็บร้าวมือไปทั้งแขน ทำงานเสร็จก็ต้องรีบไปประคบน้ำอุ่นวันละหลายรอบ ไม่รู้ว่าจะยึดอาชีพนักคอมพิวเตอร์ได้อีกนานแค่ไหน .. สรุปผลประเมินบริการวิชาการเสร็จ 2 พื้นที่ ก็จะไปประคบร้อนแล้วครับ จะได้มีแรงมือมาทำต่อ .. เพราะงานต่อไปต้องพิมพ์ชื่อเขตข้อมูลภาระงานอีก 8 ตารางกว่า 40 ตัว เข้า code อีกไม่ต่ำกว่า 200 ครั้ง .. คิดแล้วเครียดแทนมือ .. เรื่องกุ้งยิงอีก 5 ตุ่มนี่ทิ้งไว้ก่อน เพราะอยู่ในมือหมอ บางตุ่มหมอบอกว่ากลายเป็นซีดไปแล้ว ต้องทำใจ .. นาน ๆ บ่นเรื่องสังขารซะที

บันทึกกันลืมว่าพรุ่งนี้มี 4 ภารกิจในแผน

พรุ่งนี้มีเอกสาร 4 ฉบับกับ 1 เรื่องที่ต้องมีความก้าวหน้ากว่าเดิมแล้ว ไม่งั้นดินพอกหางหมูต่อไปแน่ คือ 1) คู่มือฝึกงานสำหรับ2553 ที่ทำร่วมกับอ.เกศริน 2) คู่มือโครงงานสำหรับ2553 ที่ทำร่วมกับอ.วิเชพ 3) รายงานสรุปผลโครงการวิจัยชั้นเรียนทำร่วมกับอ.ศรีเพชร 4) รายงานสรุปผลโครงการบริการวิชาการบูรณาการร่วมกับอ.วีระพันธ์ และอ.สุทธิ์พจน์ และ 5) สรุปว่าผลประเมินความพึงพอใจการสอนที่จะปล่อยให้ตกหรือทำให้ผ่านจากการตัดสินใจของผู้รับผิดชอบหลายฝ่าย

หัวข้อสำหรับเขียนรายงานสรุปผลโครงการ

24 ต.ค.53 การเขียนรายงานที่ได้รับคำแนะนำจาก อ.อัศนีย์ ณ น่าน .. เพราะระดับมหาวิทยาลัยยังไม่มีใครกำหนดชัดเจน หรือถือปฏิบัติเป็นวัฒนธรรม ส่วนที่คณะของผมก็มี อ.วิเชพ ใจบุญ เคยกำหนดแนวไว้ในระดับหนึ่งเช่นกัน ส่วนแนวที่ผมใช้ประจำเป็นแนวของ อ.อัศนีย์ ณ น่าน เพราะท่านเคย comment และให้ข้อเสนอแนะมาจึงต้องใช้ตามนั้น มีหัวข้อสำคัญดังนี้
1. ย่อหน้าแรกเป็นการเล่าวัตถุประสงค์ของการเขียนรายงานสรุปผลโครงการ
2. สรุปสาระสำคัญของโครงการ บอก วัตถุประสงค์ ตัวบ่งชี้ เป้าหมาย เวลา สถานที่ งบประมาณ ผู้รับผิดชอบ อะไรทำนองนี้
3. ผลการดำเนินงานตามโครงการ แยก 3 ประเด็น คือ (1) ขั้นเตรียมการ  (2) ขั้นดำเนินโครงการ (3) ขั้นติดตามและประเมินผลโครงการ
4. บทเรียนที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ แยก 4 ประเด็นคือ คือ (1) การวางแผน (2) การดำเนินการ (3) การประเมินผล และ (4) ข้อเสนอแนะสำหรับการทำโครงการในปีต่อไป
และส่วนหนึ่งของรายงานสรุปผลโครงการที่พยายามใช้แนวข้างต้น คือ
http://www.yonok.ac.th/doc/oit/report_it53_photoshop_v2.3.doc
http://www.yonok.ac.th/doc/oit/report_it531_trainfreshy_final_v9.doc
รายงานของผมส่วนใหญ่ได้คุณอรรถชัย เตชะสาย ช่วยจัดการให้

ผลประเมินความพึงพอใจ ทุกวิชาต้องมากกว่า 3.50

24 ต.ค.53 คุณเรณู อินทะวงค์ เล่าให้ฟังด้วยความห่วงถึงผลประเมิน ตบช.2.6 และชี้ให้ดูว่าในคู่มือประกันของสกอ.ปรับปรุง กรกฎาคม 2553 ซึ่ง download ได้จาก e-document ของสำนักประกันการศึกษาที่ดูแลโดย อ.อัศนีย์ ณ น่าน และได้มีการจัดบรรยายให้ความรู้โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิคือ อ.อุษณีย์ คำประกอบ ไปแล้วนั้น
http://www.yonok.ac.th/doc/handbooks/handbook_cheqa_2553.pdf หรือจาก http://www.yonok.ac.th/intranet หัวข้อคู่มืองานประกันคุณภาพการศึกษา พบว่า ในหน้า 56 ตัวบ่งชี้ที่ 2.6 เกณฑ์ที่ 6 “มีการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อคุณภาพการจัดการเรียนการสอนและสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ทุกรายวิชา ทุกภาคการศึกษา โดยผลการประเมินความพึงพอใจแต่ละรายวิชาต้องไม่ต่ำกว่า 3.51 จากคะแนนเต็ม 5” ถ้าจะได้ 5 คะแนนเต็มนั้น ข้อนี้จะต้องผ่านเกณฑ์ทั้ง 7 ข้อ .. คงต้องหยิบตัวเลขมาดูแล้วครับว่าต่ำกว่าสักหนึ่งวิชาหรือไม่ และวิชาในคณะใดไม่ผ่าน เพราะถ้ามีแค่วิชาเดียวไม่ผ่าน ก็หมายถึงมหาวิทยาลัยไม่ผ่าน .. ข้อมูลอยู่ในมือสำนักวิชาการครับ

กระแสข่าวเกาหลี

มนุษย์บางกลุ่มมีความพยายามฝืนกระแส พฤติกรรมตามธรรมชาติของมนุษย์ผมว่าปล่อยไปตามยถากรรมบ้างน่าจะดี (มิเช่นนั้นจะไปฝืนความคิดของคนกลุ่มใหญ่) เพราะส่วนใหญ่ไม่ใช้ประโยชน์จากการศึกษาในการดำเนินชีวิต และสื่อส่วนใหญ่ก็ให้สาระตรงข้ามศีลธรรมทำให้มนุษย์เสื่อมศรัทธาในศาสนา .. ที่ทำได้ก็คือทำใจ เพราะความจริงเป็นเช่นนั้น

กรณีที่น่าสนใจ
1) “เซเว่น-แทยาง-โซเตจิ” ถูกรัฐบาลเกาหลีแบน ฐานมีเนื้อหาพูดถึงเซ็กซ์-ยาเสพติดโดย กระทรวงการจัดการสาธารณะและความมั่นคง
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1286444964
2) ban ดาราเกาหลี .. ยังมีคนใช้การศึกษานำ ความรู้สึกอยู่ในสังคม ก็ต้องข่าวนี้ครับ
http://hilight.kapook.com/view/45294
3) ประเด็นนุ่งสั้น กับยุงกัด .. เรื่องนี้พูดไม่ออกเลยกับคนกลุ่มนี้
http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=142534.0
4) อ่านดูเรื่องรัฐบาลเกาหลีก็จริง .. เราชื่นชมของนอกมากไปหรือเปล่า
http://www.dek-d.com/board/view.php?id=964048
5) ค้นข่าวจากมติชน
http://www.matichon.co.th/news_search.php
ค้นข่าวไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/search

อันที่จริงหาข้อมูลรัฐบาลเกาหลีจำกัดอายุนักแสดง girl gang”เพิ่มจาก 12 เป็น 15″

สภาเกาหลีสั่งสอบ นักร้องเกาหลี เกิร์ลกรุ๊ปวัยใส แต่งกายยั่วยุ
http://www.kikuza.com/archives/760

วันนี้ (30 กันยายน 53) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรของเกาหลีใต้ ได้มีการหารือกันเกี่ยวกับศิลปินกลุ่มหญิงล้วน หรือเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี โดยให้คณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรม ดำเนินการตรวจสอบการแต่งกายของศิลปินกลุ่มหญิงเหล่านี้ หลังพบแต่งกายวาบหวิวยั่วยุส่อไปในทางเพศ
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการเรียกบริษัทต้นสังกัดศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป 3 แห่ง เข้าชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยทั้งหมดจะถูกสอบในประเด็นว่า ศิลปินถูกบังคับให้แต่งกายเปิดเผยร่างกาย และร้องเพลงที่มีเนื้อหายั่วยุทางเพศหรือไม่ เนื่องจากพบว่า ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปบางวงนั้น สมาชิกมีอายุเพียง 13 – 14 ปี และหากพบว่าพวกเธอทำตามนโยบายของบริษัทต้นสังกัด อาจเข้าข่ายถูกล่วงละเมิด อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการควบคุมกิจการคมนาคมสื่อสารของเกาหลีใต้ ได้มีการจัดระเบียบการแสดงของเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี โดยเตือนไปยังสถานีโทรทัศน์รายใหญ่ของประเทศ 3 แห่ง ให้จำกัดการแสดงของศิลปินที่มีอายุระหว่าง 12-15 ปี แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังพบเปิดตัวใหม่ของศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปอายุน้อย ที่สุด คือวง GP Basic มีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดในวงการ 15 ปี ประกอบไปด้วยสมาชิก ชั้น ป.6 จำนวน 1 คน และชั้น ม.2 จำนวน 5 คน รวมทั้งหมด 6 คนด้วยกัน

วันนี้ (30 กันยายน) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรของเกาหลีใต้ ได้มีการหารือกันเกี่ยวกับศิลปินกลุ่มหญิงล้วน หรือเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี โดยให้คณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรม ดำเนินการตรวจสอบการแต่งกายของศิลปินกลุ่มหญิงเหล่านี้ หลังพบแต่งกายวาบหวิวยั่วยุส่อไปในทางเพศ
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการเรียกบริษัทต้นสังกัดศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป 3 แห่ง เข้าชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยทั้งหมดจะถูกสอบในประเด็นว่า ศิลปินถูกบังคับให้แต่งกายเปิดเผยร่างกาย และร้องเพลงที่มีเนื้อหายั่วยุทางเพศหรือไม่ เนื่องจากพบว่า ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปบางวงนั้น สมาชิกมีอายุเพียง 13 – 14 ปี และหากพบว่าพวกเธอทำตามนโยบายของบริษัทต้นสังกัด อาจเข้าข่ายถูกล่วงละเมิด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการควบคุมกิจการคมนาคมสื่อสารของเกาหลีใต้ ได้มีการจัดระเบียบการแสดงของเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี โดยเตือนไปยังสถานีโทรทัศน์รายใหญ่ของประเทศ 3 แห่ง ให้จำกัดการแสดงของศิลปินที่มีอายุระหว่าง 12-15 ปี แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังพบเปิดตัวใหม่ของศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปอายุน้อย ที่สุด คือวง GP Basic มีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดในวงการ 15 ปี ประกอบไปด้วยสมาชิก ชั้น ป.6 จำนวน 1 คน และชั้น ม.2 จำนวน 5 คน รวมทั้งหมด 6 คนด้วยกัน

วันนี้ (30 กันยายน) สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรของเกาหลีใต้ ได้มีการหารือกันเกี่ยวกับศิลปินกลุ่มหญิงล้วน หรือเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี โดยให้คณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรม ดำเนินการตรวจสอบการแต่งกายของศิลปินกลุ่มหญิงเหล่านี้ หลังพบแต่งกายวาบหวิวยั่วยุส่อไปในทางเพศทั้งนี้ คณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการเรียกบริษัทต้นสังกัดศิลปินเกิร์ลกรุ๊ป 3 แห่ง เข้าชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยทั้งหมดจะถูกสอบในประเด็นว่า ศิลปินถูกบังคับให้แต่งกายเปิดเผยร่างกาย และร้องเพลงที่มีเนื้อหายั่วยุทางเพศหรือไม่ เนื่องจากพบว่า ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปบางวงนั้น สมาชิกมีอายุเพียง 13 – 14 ปี และหากพบว่าพวกเธอทำตามนโยบายของบริษัทต้นสังกัด อาจเข้าข่ายถูกล่วงละเมิดอย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการควบคุมกิจการคมนาคมสื่อสารของเกาหลีใต้ ได้มีการจัดระเบียบการแสดงของเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี โดยเตือนไปยังสถานีโทรทัศน์รายใหญ่ของประเทศ 3 แห่ง ให้จำกัดการแสดงของศิลปินที่มีอายุระหว่าง 12-15 ปี แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังพบเปิดตัวใหม่ของศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปอายุน้อย ที่สุด คือวง GP Basic มีอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดในวงการ 15 ปี ประกอบไปด้วยสมาชิก ชั้น ป.6 จำนวน 1 คน และชั้น ม.2 จำนวน 5 คน รวมทั้งหมด 6 คนด้วยกัน

ตัวอย่างโครงสร้างตาราง ระบบภาระงานคณาจารย์รุ่น 2

ข้อตกลงภาระงานคณาจารย์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2553
parakit (parakit_id v13,perid v10,pot v50,poa v50,poo v50,fac v50,maj v50,years_id v10)
1. ภาระการสอน
parakit_teacher(parakit_id v13, parakitt_id i13)
parakit_teacher_detail (parakitt_id v13,ids i13,parakitt_name v50,parakitt_student c3,parakitt_time v30,parakitt_total v4,parakitt_amount v4,parakitt_mark v200)
2. ภาระงานวิจัย
parakit_research (parakit_id v13,parakitr_id i13)
parakit_research_detail (parakitr_id v13,ids i13,parakitr_name v200,parakitr_type v100,parakitr_date v50,parakitr_amount v4,parakitr_mark v200)
3. ภาระงานอื่น
3.1 ภาระงานบริหาร
parakit_administrator(parakit_id v13,parakita_id i13)
parakit_administrator_detail(parakita_id v13,ids i13,parakita_name v50,parakita_amount v4,parakita_mark v200)
3.2 การผลิตผลงานทางวิชาการ
parakit_academic(parakit_id v13, parakitac_id i13)
parakit_academic_detail (parakitac_id i13,ids i13,parakitac_name v150parakitac_type v150parakitac_date v50parakitac_amount v4parakitac_mark v200)
3.3 การพัฒนานักศึกษา
parakit_development (parakit_id v13,parakitd_id i13)
parakit_development_detail (parakitd_id v13,ids i13,parakitd_name v150,parakitd_student c2,parakitd_time v4,parakitd_total v4,parakitd_amount v4,parakitd_mark v200)
3.4 การบริการวิชาการ
parakit_service (parakit_id v13,parakits_id i13)
parakit_service_detail (parakits_id v13,ids i13,parakits_name v150,parakits_date v50,parakits_total v4,parakits_amount v4,parakits_mark v200)
3.5 การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
parakit_art (parakit_id v13,parakitart_id i13)
parakit_art_detail (parakitart_id v13,ids i13parakitart_name v150parakitart_date v50parakitart_total v4parakitart_amount v4parakitart_mark v200)
3.6 การปฏิบัติงานมอบหมายอื่น
parakit_other (parakit_id v13,parakito_id i13)
parakit_other_detail (parakito_id v13,ids i13,parakito_name v150,parakito_date v50,parakito_amount v4,parakito_mark v200)

โลภ โกรธ หลงใน fb

คำว่า fb ย่อมาจาก facebook.com เป็นคำย่อที่นิยมใช้ในการเขียนข้อความเพื่อการสื่อสารในเว็บไซต์ หรือเว็บบอร์ดทั่วไป เว็บไซต์ facebook.com เป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในขณะนี้ ส่วนกิเลสที่มักใช้อธิบายพฤติกรรมของมนุษย์ คือ โลภ โกรธ และหลง ก็ถูกพบเห็นได้ในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมเช่นกัน ถ้าท่านเป็นสมาชิกของ fb ที่เข้าเครือข่ายเป็นประจำ และมีเพื่อนระดับหลักร้อยขึ้นไป จะเข้าใจในพฤติกรรมที่กำลังจะนำเสนอต่อไปนี้

ความโลภเป็นเครื่องชี้นำพฤติกรรมของมนุษย์ และพบเห็นได้จากการคืบคลานเข้าเว็บไซต์เครือข่ายสังคม โดยผู้มีความโลภจะหาภาพสวย หรือภาพการไปท่องเที่ยวต่างประเทศมานำเสนอ และเลือก tag ภาพดังกล่าวไปกับเพื่อนที่เคยขอเป็นเพื่อน หลายครั้งที่ผู้เขียนรู้สึกเห็นใจผู้มีความโลภเหล่านี้ เพราะพวกเขาคงคาดหวังว่าการกระทำดังกล่าวจะได้ผลลัพธ์เชิงบวก แต่ผลที่ได้อาจไม่เป็นไปตามที่หวัง เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายอาจไม่สนใจ และใช้เวลาดำเนินการมากกว่าเทคนิคการทำธุรกิจลักษณะนี้ด้วยเครื่องมืออื่น อาทิ เว็บบอร์ด อีเมล หรือโฆษณาตรงกับสื่อทั่วไป นอกจากระดับบุคคลที่เข้ามาใช้ fb เป็นเครื่องมือทำธุรกิจแล้ว ยังพบผู้ใช้ระดับองค์กรมากมายเข้ามาใช้ fb เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์ แต่ข้อจำกัดสำคัญคือ fb มีเพื่อการสื่อสารระหว่างเพื่อนนั้นเป็นอุปสรรคที่อาจทำให้ไม่บรรลุเป้าหมาย ที่ตั้งไว้

โกรธ และหลงอาจเกิดขึ้นกับหลายคนโดยไม่ทันตั้งตัว ปัจจุบันมีการใช้ fb เป็นเครื่องมือในการสื่อสารระหว่างคนที่รู้จักทั้งคนที่รักและไม่รัก บางครั้งได้เห็นการปะทะคารมเชิงลบของเพื่อน ถกเถียง ด่าทอ หรือถ่มน้ำลายขึ้นฟ้า ซึ่งมีเหตุมาจากความเครียด ความไม่พอใจ ความหลง บนความคิดเห็นที่แตกต่าง เช่น การเมือง การปกครอง ความเชื่อ กีฬา ดารา การทำงาน ความรัก แต่เท่าที่เห็นจะมีการปะทะที่ไม่รุนแรง ด้วยช่องว่างของเวลาทำให้อารมณ์ร้อนที่มีอยู่เย็นลงจนสามารถใช้เหตุผลเข้า ควบคุมอารมณ์ได้ทัน นั่นแสดงว่า fb คืออีกทางออกหนึ่งของมนุษย์ที่ต้องการระบายออก มีเพื่อนที่พร้อมรับฟัง และแสดงความเห็นอกเห็นใจต่อกันอย่างคนที่รู้ใจ