แปลงเลขอารบิกเป็นเลขไทย

การแปลงเลขอารบิกเป็นเลขไทยด้วย macro

10 ก.พ.53 เรื่องนี้ควรเขียนเมื่อหลายเดือนก่อนหน้านี้ เพราะ ผศ.ดร.จินดา งามสุทธิ ท่านอธิการบดี รณรงค์ให้ใช้เลขไทยในบันทึกข้อความ แต่ความไม่ชินและความมักง่าย ทำให้ผมเลือกใช้วิธีแปลงเลขอารบิกด้วยการ replace ถึง 10 ครั้ง เพื่อเปลี่ยนตัวเลขทีละตัว แต่ถ้าให้อัตโนมัติก็จะเข้าไปกำหนดใน autocorrect สำหรับแต่ละตัวเลข แต่ใช้ได้กับเลขหลักเดียว ก็ช่วยได้เพียงระดับหนึ่ง (วันนี้ผมเคลียร์งานเขียนแผน km ของมหาวิทยาลัยล้อกับโครงการอบรมประกันฯของ อ.ศศิวิมล แรงสิงห์ เสร็จเร็วกว่าที่คาด) จึงคิดว่าถึงเวลาที่ไม่ควรผลัดวันประกันพรุ่งอีกต่อไป เมื่อศึกษาวิธีการแทนที่ตัวเลขด้วย macro ที่เขียนแบบใช้ใน word กับ excel เผยแพร่ใน thaiall.com/vb เพราะ macro ใช้ visual basic script ใน module สำหรับการประมวลผล
แหล่งเก็บ macro มี 2 แบบคือ ใน normal หรือ ใน document ถ้าเป็นแบบใน document เมื่อสร้างเอกสารก็จะติดเอกสารไป เปิดเอกสารใหม่จะไม่พบ macro เดิม แต่ถ้าเป็นแบบใน normal จะมี macro ติดอยู่ใน template ของ word ทำให้เปิด word แล้วเรียกใช้ macro ได้ทุกครั้ง สำหรับวิธีสร้างและใช้ macro นั้นเริ่มต้นด้วยการคัดลอกโค้ดไปใส่ใน module ของ macro แล้วสั่ง run ใน macro เมื่อต้องการเปลี่ยนตัวเลขทั้งหมดเป็นเลขไทย ซึ่งโค้ดได้สั่งแทนที่ทั้ง 10 ตัวอักษรเป็นเลขไทยอัตโนมัติ การนำไปใช้สำหรับ word กับ excel ต่างกันเล็กน้อย ถ้านำไปใส่ไม่ได้ โปรดติดต่อช่างเทคนิคใกล้บ้าน เพราะส่งเข้า word ครั้งเดียว แต่ใช้งานได้ตลอดไป .. ต่อไปผมก็จะเริ่มใช้แล้ว เพราะ replace 10 ครั้ง ไม่ดีแน่

source code : macro of word

Sub arabictothai()
For i = 0 To 9
With Selection.Find
.Text = Chr(48 + i)
.Replacement.Text = Chr(240 + i)
.Wrap = wdFindContinue
End With
Selection.Find.Execute Replace:=wdReplaceAll
Next
End Sub

source code : macro of excel

Sub arabictothai()
For i = 0 To 9
Cells.Replace What:=Chr(48 + i), Replacement:=Chr(240 + i)
Next
End Sub

การแปลงเลขใน excel

1. ถ้าเป็น excel ไม่ต้องใช้ function ให้กด Ctrl-A แล้วกำหนด format ของ cell ใน Number,  Custom เป็น [$-D07041E]0 ก็จะทำให้ข้อมูลที่เป็นตัวเลขทั้งหมดเป็นเลขไทย
2. ถ้าต้องการมี , กั้นหลักพันก็ใช้ [$-D07041E]#,###,##0 อะไรทำนองนี้ ok ไหมครับ

สาธิต : http://www.youtube.com/watch?v=JNy15bLnt9k
ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.thaiall.com/blog/burin/1496/

ร่ำเปิงเรื่องเวทีของสุนัข

เรื่องของสุนัข

9 ก.พ.53 ร่ำเปิง คือรำพึงหรือระลึก เมื่อผมอายุมากขึ้นก็จะมีเรื่องให้นึกถึงมากมาย เรื่องหนึ่งคือบทเรียนจากการอ่านการ์ตูนเรื่องสุนัขกัดกัน ต่อสู้กันในเวทีที่มีคนจัดให้ แล้วคนก็ไปมุงดู เสียเงินดูและพนันขันต่อว่าตัวไหนจะชนะ ไปเชียร์ด้วยความเมามันส์ ไม่นึกกันเลยว่าสุนัขก็มีชีวิต ไหนไหนก็เกิดมาในยุคเดียวกันแล้ว ถ้าเราไม่กินเขาเป็นอาหารก็ไม่ควรเอาความทุกข์ของเขามาเป็นความสุขของเรา ปัจจุบันมีมนุษย์บางกลุ่มชอบเห็นเผ่าพันธุ์ของตนต่อสู้ฮั่มหั่นกันและชื่นชอบกับการเฝ้าดูฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งล้มกันไปข้างหนึ่ง .. น่าแปลกที่เสี้ยวเวลาน้อยนิดที่เรามาใช้เวลาร่วมกัน กลับไม่มุ่งมั่นที่จะใช้เวลาที่เหลืออย่างมีคุณค่าที่สุด

มนุษย์ผู้ไม่ใช้สารสนเทศ

7 ก.พ.53 แล้วผมก็ได้ตระหนักว่า มนุษย์บางคนขาดความสามารถในการใช้ประโยชน์จากสารสนเทศ เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ใช้ความเชื่อ และความรู้สึกเป็นฐานคิด แม้แต่ผมเองก็ยังใช้ความเชื่อและความรู้สึกเช่นกัน ทำให้ทราบว่าเผ่าพันธุ์เดียวกับผมมีคิดไปแนวใด ตัวอย่างแรกที่เห็นชัด คือ สุรา แม้ในทีวีจะออกมาบอกว่าดื่มสุราขณะขับรถนั้นอันตราย ก็ยังมีคนตายกันหลายร้อยคนปีละ 2 เทศกาล แสดงว่าพวกเขาขาดความตระหนักในโทษของสุรา ไม่เชื่อฟังในคำสอนทางศาสนา และไม่รักชีวิตเหนือสิ่งอื่นใด ตัวอย่างที่สอง คือ เรารู้ว่าอาหารมัน กินไหม้ กินดิบ กินรสจัด กินอาหารขยะ กินไม่เป็นเวล่ำเวลา กินเกินกว่าที่ร่างกายต้องการนั้นเป็นภัยต่อสุขภาพ เคยได้ยินหลายคนบอกว่าก็ชอบนี่ .. แล้วสารสนเทศที่เรารับมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยไม่ซึมเข้าไปในสายเลือดเลยหรือว่ากินอย่างไรให้คุ้มค่า
     ตัวอย่างที่สาม คือ การพนัน (การที่รัฐบาลจำหน่ายฉลากกินแบ่งนั้นผมถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดถึง ) เรารู้กันดีว่า หวยใต้ดินเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ตำรวจจับถ้าไปซื้อก็คือผิดกฎหมายและไม่ใช่สิ่งจำเป็น ถึงซื้อถูกก็ได้ไม่กี่บาท ก็รู้กันอยู่ว่าได้ไม่คุ้มเสีย มีสารสนเทศว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม และส่งเสริมกิเลสในใจเรา ทำให้ใจไม่สงบ แล้วเมื่อไรจะลดกิเลสให้เบาบางลงได้ ตัวอย่างที่สี่ คือ ใส่เกียร์ว่างในการทำงาน คอรัปชั่น ทุจริต ปล่อยให้องค์กรหรือท้องถิ่นของตนเสียหาย ก็จะทำให้ที่พึ่งพิงของตนบกพร่อง มีสารสนเทศมากมายว่า การไม่วางระบบเป็นขั้นตอนย่อมไม่มีแนวปฏิบัติให้ดำเนินการ การคอรัปชั่นย่อมเสี่ยงต่อการถูกจับ แต่ก็ต้องทำใจเพราะมนุษย์มีความมักง่าย ไม่รู้จักวางแผน เห็นแก่ประโยชน์เฉพาะหน้า และมีความโลภเป็นที่ตั้ง เหมือนมีคนถามว่าเมื่อใดเมืองไทยจะไม่ซื้อเสียง  สรุปได้ว่ามนุษย์ไม่ตระหนักในผลข้างเคียงของกิจกรรมที่ทำในวันนี้ ไม่พะวงถึงสิ่งที่ทำวันนี้ว่าจะมีผลต่อวันพรุ่งนี้ เพราะไม่เชื่อในอนาคต แล้วคุณล่ะเชื่อในอนาคตหรือไม่ .. ผมพูดกับเพื่อนหลายท่านว่ามนุษย์บางคน “กินบนเรือนขี้บนหลังคา”  ซึ่งผมดีใจที่คิดคำเปรียบเปรยนี้ออก เพราะเป็นคำพูดที่ให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ของผม มากกว่าคำอื่นที่ผมคิดก่อนหน้านี้
+ http://www.thaiall.com/mis/mis02.htm

รง.ประชุม KM กิจกรรมที่ 2 บ่งชี้ความรู้

ผู้ร่วมกิจกรรมที่ 2 ตามขั้นตอน km ของ กพร.

7 ก.พ.53 ได้รับมอบหมายจาก อ.อติชาต หาญชาญชัย และ อ.วิเชพ ใจบุญ ให้ร่วมกับคุณพัชรินทร์ สันสุวรรณ จัดทำรายงานการประชุม “โครงการสนับสนุนการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ” กิจกรรมที่ 2 ตามแผนการจัดการความรู้ ปีการศึกษา 2552 ห้อง 1204 วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553  เวลา  15.00 – 17.00 น. ซึ่งจะเป็นหลักฐานแสดงร่องรอยการจัดการความรู้ของคณวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างร่างรายงานในส่วนของแจ้งเพื่อทราบแบ่งเป็น 3 เรื่องคือ ที่มา กิจกรรมตามแผน แนวทางที่เป็นความรู้จากคู่มือของสกอ.
     สำหรับประเด็นบ่งชี้ความรู้จากแต่ละบุคคล ถูกแบ่งเป็น 5 เรื่อง คือ 1) การบ่งชี้เรื่องความเป็นมา และเป้าประสงค์ของวิชา 2) การบ่งชี้เรื่องประเด็นมาตรฐานหรือแนวทางของโครงงาน 3) การบ่งชี้เรื่องประเด็นมาตรฐานการให้คะแนนสำหรับแต่ละแนวทาง 4) การบ่งชี้เรื่องประเด็นสารสนเทศที่ควรตกลงร่วมกัน 5) การบ่งชี้เรื่องประเด็นปัญหาอยากหาทางแก้ไข แล้วปิดรายงานด้วยสรุปผลการบ่งชี้ความรู้ที่จะนำไปใช้ต่อในกิจกรรมต่อไป
     ในรายงานการประชุมกิจกรรมที่ 2 นี้มีแผนทำรายงานที่มีหัวข้อย่อยแบ่งไปตามการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากแต่ละท่าน อาทิ หัวข้อที่หนึ่งมีตอนหนึ่ง อ.วิเชพ ใจบุญ ชวนให้ในเวทีแลกเปลี่ยนเรื่องเป้าประสงค์ของวิชา แล้ว อ.ศศิวิมล  แรงสิงห์ เสนอว่า “เพื่อให้นักศึกษาทำงานเป็น และประกอบอาชีพได้ เมื่อสำเร็จการศึกษา” อ.ทนงศักดิ์ เมืองฝั้น เสนอว่า “เพื่อให้นักศึกษาสามารถนำองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมาไปประยุกต์ใช้กับการทำงานจริง” หรือ อ.ศิรดา ชัยบุตร โดยคำถามเข้าในเวทีว่าวิชานี้ทำกันอย่างไร มีความเป็นมาอย่างไร ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยน และมีหลายเรื่องที่ผมไม่เคยทราบก็ได้รับความรู้มากมายจาก อ.วิเชพ ใจบุญ และอ.ศศิวิมล แรงสิงห์ หลังจากการประชุมครั้งนี้แล้ว ก็มีแผนจัดกิจกรรมที่ 3 คือการรวบรวมความรู้ และกิจกรรมที่ 4 คือคัดแยกความรู้

ไปร่วมงานศพคุณพ่อของอ.วีระพันธ์ แก้วรัตน์

ไปร่วมพิธีจัดงานศพคุณพ่อของ อ.วีระพันธ์ แก้วรัตน์

7 ก.พ.53 ทราบข่าวจากพี่ปุ๊ก งานบุคคล ในเช้าวันศุกร์ที่ 5 ว่าคุณพ่อของ อ.แม็ก เสียแล้ว ตั้งศพที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ และบุคลากรกว่ายี่สิบคนมีแผนเดินทางไปร่วมพิธีในเย็นวันจันทร์ที่ 8 ซึ่งรถของมหาวิทยาลัยว่างเพียงหนึ่งคัน โดยมีกำหนดฌาปนกิจในบ่ายวันที่ 9 ก.พ.53 ซึ่งอ.แม็ก เสมือนน้องชายที่ผมเคารพนับถือในหลายเรื่องทั้งความสามารถ และวินัยในการดำเนินชีวิต หลังปรึกษาภรรยาก็พบว่าเช้าวันที่ 6 เราทั้งครอบครัวพร้อมทั้งเวลา แผนการเดินทาง และข้อมูลเส้นทาง โดยโทรถามเส้นทางจาก อ.มงคล ใจสุข ซึ่งให้รายละเอียดชัดเจนมาก และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเดินทางในครั้งนี้ เราออกจากลำปางไปเชียงใหม่เกือบเที่ยวันของวันที่ 6 แล้วไปผ่านอ.แม่ริม ผ่านอ.แม่แตง แล้วหลงไปปางช้างแม่ตะมาน ก่อนยูเทอร์นประมาณ 3 กิโลเมตรมาเลี้ยวซ้ายเข้าเขื่อนแม่งัด ซึ่งบ้านงานศพที่เป็นบ้านของคุณพ่อที่ลวงลับอยู่ติดวัดบ้านใหม่ และเป็นหมู่บ้านติดเขื่อนแม่งัด หลังออกจากบ้านงานศพเราไปแวะเก็บข้อมูลเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวที่เขื่อนแม่งัดก่อนกลับ
     มีเรื่องให้นั่งคุยกับอาจารย์แม็ก และน้องผกามาศมากมายในหนึ่งชั่วโมงที่บ้านศพ ที่จำได้คือ 1) ประสบการณ์การบวชเรียนของท่านที่เป็นที่มาของความเข้าใจในพระธรรม 2) การร่วมต่อสู้กับคุณพ่อที่ป่วยด้วยโรงมะเร็งตับตั้งแต่เดือนกันยายน52 3) การทำพิธีศพตามแบบของหมู่บ้านที่พบว่าต่างกับที่เคยพบในหมู่บ้านอื่น 4) เสน่ห์ของเขื่อนแม่งัดแห่งท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักอนุรักษ์ไพร 5) เรื่องวีดีโอกีฬา 9 สถาบัน ซึ่งผมกลับมาทดสอบอีก 2 เมนท์แล้วก็เพิ่มได้ครับ เพราะท่านแจ้งว่าเพิ่มไม่เข้า
+ http://www.weerapun.com
+ http://www.youtube.com/watch?v=-bu34waZZsI

เปิดอบรมครูสมาธิรุ่นที่ 226 ของพระเทพเจติยาจารย์..ฟรี

7 ก.พ.53 มหาวิทยาลัยโยนก ได้รับเมตตาจาก พระเทพเจติยาจารย์ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร) ให้เปิดสอนหลักสูตรครูสมาธิ ตามแนวทางของสถาบันพลังจิตตานุภาพ นครธรรม วัดธรรมมงคล สุขุมวิท 101 กรุงเทพฯ ให้ทำการจัดฝึกอบรมหลักสูตรครูสมาธิรุ่นที่ 26 ระหว่าง 15 กุมภาพันธ์ – กรกฎาคม 2553 พร้อมกัน 2 สาขาคือ สาขา 7 มหาวิทยาลัยโยนก จังหวัดลำปาง เรียน จันทร์-ศุกร์ 18.00-20.30น. และสาขา 22 วัดเชตวัน จังหวัดลำปาง เรียน เสาร์-อาทิตย์ 9.00 – 16.30น.สอบถามได้ที่ คุณวิสุทธิ์  แดงดีมาก คุณวรเชษฐ์ ศรีวงศ์พันธุ์ คุณสมศักดิ์ ขันธิกุล คุณสุรีย์พร  ชื่นพันธุ์ ดร.ศรีศุกร์ นิลกรรณ์

ที่มาของหลักสูตร
     คือ หลวงปู่มั่นแนะนำเรื่องการสอนสมาธิ ในระหว่างที่ผู้เขียนอยู่ใกล้ชิดหลวงปู่มั่น ได้ทราบข้อเท็จจริงมาก ทั้งสมาธิตื้น สมาธิลึก ตลอดถึงวิปัสสนา ซึ่งเมื่อเข้าใจทุกประการแล้วผู้เขียนมีความรักและหวงแหนในหลักการต่าง ๆ อย่างยิ่ง ไม่อยากที่จะให้หลักการเหล่านั้นต้องสลายไป เพราะท่านมีวิธีทั้งขั้นพื้นฐานและขั้นสูงสุด ผู้เขียนถามท่านว่า “ต่อไปกระผมจะเขียนเป็นหลักสูตรการทำสมาธิให้ชาวโลกเขาทำกันจะได้ไหม” ท่านตอบว่า “ได้ แต่ต้องเอาแบบขั้นพื้นฐานสำหรับเป็นประโยชน์แก่มหาชน สำหรับขั้นสูงให้มีน้อย โอกาสที่เธอจะทำนั้นมีอยู่ แต่ต้องทำขั้นพื้นฐานเพื่อคนส่วนมากในโลกจะได้สงบ และเธอจะต้องไปอยู่กรุงเทพฯ เพราะคนกรุงเทพฯ ที่มีวาสนาบารมี มีอยู่ไม่น้อย”
     ปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าวมานี้ เป็นแรงสนับสนุนในใจของผู้เขียนอยู่ตลอดเวลาจน พ.ศ. 2528 ถึง พ.ศ. 2534 ผู้เขียนได้มีโอกาสไปพักผ่อนที่วิทยาลัยสงฆ์น้ำตกแม่กลอง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ อันเป็นบริเวณป่าไม้ เชิงเขาดอยอินทนนท์ ทำให้ได้ทบทวนหลักการต่าง ๆ ที่เคยได้ไต่ถามอัตถปัญหาสมาธิ พร้อมทั้งคำแนะนำจากหลวงปู่มั่น จึงได้เขียนเป็นตำราสมาธิขึ้นจนเต็มรูปแบบสามารถใช้ในการเรียนการสอนวิชาสมาธิได้ รวมการทบทวนและรวบรวมการเขียนตำรานั้นใช้เวลา 5 ปีจึงสำเร็จ เพื่อให้ได้เนื้อหาสาระที่สำคัญ จึงจัดทำเป็นรูปเล่ม ตั้งแต่ ขั้นพื้นฐาน ขั้นกลาง และขั้นสูง รวม 3 เล่ม เหมาะแก่การศึกษาและปฏิบัติสมาธิยิ่งนัก
+ http://www.yonok.ac.th/samati/

เคลียร์งานวิจัยเพื่อท้องถิ่นที่เว็บโปรซอฟท์

เว็บโปรซอฟท์ (webprosoft.net)
เว็บโปรซอฟท์ (webprosoft.net)

5 ก.พ.53 หกโมงเย็นถึงสามทุ่มไปคุยเรื่องการเขียนรายงานวิจัย และการนำเสนอโครงการวิจัยเพื่อท้องถิ่น ที่กรกับปรางรับทุน CBPUS และอยู่ในช่วงสุดท้ายของโครงการ มีกำหนดพบผู้ประสานงานวันที่ 16 ก.พ. และ 21 ก.พ.53 เพื่อส่งรายงานแล้วประชุมเตรียมพร้อมที่ศูนย์ฯ และนำเสนอที่ ณ ห้องประชุมอาคารอาลัมพาง มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ซึ่งนักศึกษาได้ประสานกับ อ.เกศริน อินเพลา และ อ.วิเชพ ใจบุญ ที่เป็นอาจารย์ผู้สอบโครงการไปร่วมกิจกรรมในเวทีนำเสนอผลการวิจัยแล้ว โดยประเด็นที่พูดคุยกันที่ร้านเว็บโปรซอฟท์กับนักศึกษา คือ การเขียนสรุปผล การเขียนบทคัดย่อ ปัญหาและข้อเสนอแนะ การเชื่อมโยงกับทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง แล้วเตรียมนำเสนอด้วย social map, mind map, การเผยแพร่วีดีโอ และการนำเสนอด้วยเว็บไซต์ เพื่อให้เห็นกระบวนการ กิจกรรม บทเรียน และผลการวิจัย
     สถานที่เคลียร์งานวิจัย คือบ้านกร ซึ่งเปิดเป็นร้านรับพัฒนาโปรแกรม มีชื่อร้านว่า เว็บโปรซอฟท์ (webprosoft.net และ goto69.com) ช่วงนี้ยังไม่เปิดเป็นทางการ เป็นร้านที่ดำเนินการกัน 2 คน แต่คิดว่าญาติของทั้งคู่คงช่วยเหลืออะไรได้ไม่น้อย เท่าที่ได้แลกเปลี่ยนกันก็พบว่านักศึกษามีพื้นฐานความพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาแหล่งจำหน่ายคอมพิวเตอร์ราคาส่ง การเป็น domain reseller หรือการพัฒนาโปรแกรม ที่มีพื้นฐานที่ดีมาก ก็ต้องเป็นกำลังใจให้กับกิจการใหม่ที่จะก้าวหน้าต่อไป

สถิติเข้า wap ของผมเดือนธันวาคม52

สถิติทำให้เห็นรายการที่ผู้ใช้เข้าถึงระบบ wap

4 ก.พ.53 สถิติการเข้าเว็บไซต์มีอยู่หลายระบบ แต่ที่บริการโดยผู้ให้บริการเช่าเครื่องมีความละเอียดสูงมาก จากการตรวจสอบในปลายเดือนธันวาคม52 พบว่า thaiall.com/wap มี hits ของเว็บเพจสอบศัพท์อย่างง่ายสูงมาก เป็นศัพท์ 4 คำถึง 2หมื่นกว่า และศัพท์ 3 คำอีกหมื่นกว่าจาก 9383 แฟ้ม วันนี้จึงเข้าไปปรับให้ศัพท์ 4 คำมีความถูกต้อง และเพิ่มศัพท์อีกร้อยหนึ่ง รวมเป็นศัพท์ในข้อสอบสุ่มชุดนี้ประมาณสามร้อยกว่าคำ แต่ผมไม่ได้ใส่ adsense หรือ truehits เพราะต้องการให้ load ได้เร็วแม้จากโทรศัพท์เคลื่อนที่และ code ถูกออกแบบให้เปิดได้ทั้ง web browser และ wap browser
+ http://tagtag.com wap browser simulator

ติดตั้งสาย fiber optic จากหอพักไปสระว่ายน้ำและสนามกอล์ฟ

แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับทีมผู้เชี่ยวชาญการติดตั้ง fiber optic

3 ก.พ.53 นายอนุชิต ยอดใจยา ให้ความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่บริษัท Com-Link ในการติดตั้งสาย Fiber Optic โดยลากสายจากหอพักหญิงไปตามเสาไฟฟ้าในมหาวิทยาลัยจนถึงสระว่ายน้ำ และสนามกอล์ฟ โดยเป็นทีมที่ประจำอยู่ จังหวัดลำปางและพิษณุโลก รวมทั้งหมด 5 คนมาติดตั้งรวม 2 วันระหว่าง 3-4 ก.พ.53 โดยมีนายธรณินทร์ สุรินทร์ปันยศ และนายวศิลป์ สินพูลทรัพย์ เข้าร่วมเรียนรู้ แลกเปลี่ยนกับช่างมืออาชีพ และเก็บภาพประทับใจบริเวณไซท์งานร่วมกัน กิจกรรมต่อไปคือการติดตั้งอุปกรณ์กระจายสัญญาณ (Access Point) ที่สระว่ายน้ำ และสนามกอล์ฟ ส่วนอาคารนิเทศจะติดตั้งเพิ่ม 1 จุด เพื่อให้บริการคลุมพื้นที่สนามฟุตบอล โดยมีพี่สมศักดิ์ นำทีมจากกรุงเทพฯ มาติดตั้งในวันจันทร์ที่ 8 ก.พ.53 ซึ่งมีนายอนุชิต ยอดใจยาให้การต้อนรับและประสานงานเช่นเดิม
+ http://thaiabc.hi5.com
+ http://www.thaiall.com/mis/mis05.htm

พระปลัดบรรยายธรรมวันแห่งความรัก

วันวาเลนไทน์

3 ก.พ.53 อ.อ้อม คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ร่วมกับทุกคณะวิชา อาทิ อ.บอย คณะบริหารเป็นพิธีกร อ.น้ำผึ้ง คณะนิเทศรับลงทะเบียน อ.แต คณะวิทย์เก็บแบบสอบถาม จัดโครงการธรรมะเพื่อชีวิต นิมนต์พระครูปลัดอนันต์ ญาณสํวโร มาเทศให้ข้อคิดเตือนสติเตือนใจหลายเรื่อง อาทิ ไม่โหดร้าย ไม่มือไว ไม่ใจเร็ว ไม่พูดปด ไม่หมดสติ หรือ วัยพึ่ง วัยพบ วัยเพียร วัยพัก และวัยพราก ก่อนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เพื่อปรามมนุษย์เยาวชนให้ใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท มีนักศึกษาจากทุกคณะ ผู้บริหาร อาจารย์และเจ้าหน้าที่ สนใจเข้าฟังพร้อมเพียงกัน และมีประเด็นเล่าให้ฟังมากมาย เรื่องหนึ่งคือประวัติวันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) ซึ่งพอสรุปได้ว่า เทศกาลวาเลนไทน์ เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีถูกจัดให้เป็นวันหยุด เพื่อเป็นเกียรติแต่เทพเจ้าจูโนผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศและการแต่งงานและในวันที่ 15 กุมภาพันธ์เป็นวันเริ่มต้น เทศกาลเฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย
     ในรัชสมัยของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีใจคอโหดร้าย นิยมการทำสงคราม ทรงตระหนักว่าชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วมกองทัพ เนื่องจากไม่อยากพรากจากคู่รักและครอบครัวไป จึงมีพระราชโองการห้ามมิให้มีการจัดพิธีหมั้นหรือแต่งงานในโรม ทำให้ประชาชนทุกข์ใจยิ่งและขณะนั้นมีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า เซนต์วาเลนไทน์หรือวาเลนตินัส ร่วมมือกับเซนต์มาริอัสจัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ ทำให้วาเลนไทน์ถูกจับ ระหว่างเป็นนักโทษเชื่อกันว่าวาเลนไทน์ได้ตกหลุมรักหญิงสาวที่เป็นลูกสาวของผู้คุมที่ชื่อจูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนก่อนที่วาเลนไทน์จะถูกตัดศีรษะ เขาส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจูเลียโดยลงท้ายว่า “From Your Valentine” และวาเลนไทน์ก็ถูกประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270
     หลังจากนั้นศพของเขาถูกเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรืออัลมอลต์สีชมพูไว้ใกล้หลุมศพของวาเลนตินัส โดยต้นอามันต์สีชมพูเป็นตัวแทนแห่งรักนิรันดร์และมิตรภาพอันสวยงาม ต่อมาพระในนิกายโรมันคาทอลิกเลือกให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความรักและดูเหมือนว่ายังคงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือกหญิงสาวที่ตนพอใจในวันวาเลนไทน์จนถึงทุกวันนี้

+ กุหลาบแดง (Red Rose) : แทนประโยคว่า “ฉันรักเธอ”
+ กุหลาบขาว (White Rose) : แทนความหมายแห่งความรักอันบริสุทธิ์
+ กุหลาบชมพู (Pink Rose) : แทนความรักแบบโรแมนติก
+ กุหลาบเหลือง (Yellow Rose) : แทนความรักแบบเพื่อน เป็นสีแห่งความสดใส