จาง จินยอง (Jang Jin Young) คือ ดาราสาวชาวเกาหลีใต้ สิ้นใจแล้วด้วย โรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร ประมาณ 16.04 น. ของวันอังคารที่ 1 ก.ย.52 ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโซล ที่โรงพยาบาลโซลเซนต์ แมรี่ (Seoul St.Mary’s Hospital) ในกรุงโซล
จาง จินยอง 1)ได้รับฉายาว่าเป็นเจ้าแม่แห่งละครทีวีเกาหลีใต้ มีผลงานมากมาย อาทิ The Lobbyist, Modest Lover, Should Have A Good Heart และ The Angel Within 2)มีผลงานภาพยนตร์ อาทิ Between Love and Hate, Blue Swallow, Singles และ Scent of Love 3)เป็น 1 ใน 2 นักแสดงที่คว้ารางวัลดารานำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยม (บลู ดรากอน ฟิล์ม อวอร์ด) ถึง 2 ครั้ง ในปี 2544 และ 2546 4)เธอหยุดรับงานแสดงตั้งแต่ 22 ก.ย.51 หลังแพทย์แจ้งว่าเธอป่วยด้วยโรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร จึงเดินทางไปรักษาตัวที่สหรัฐอเมริกา ก่อนจะเสียชีวิตด้วยวัย 35 ปี 5)จางจินยอง เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นนางแบบ และพลิกผันมารับงานแสดงในปี 2541 นับตั้งแต่เธอก้าวเข้าสู่วงการนักแสดงเธอก็ได้รับรางวัลและคำชมจากนักวิจารณ์เป็นจำนวนมาก จาง เคยได้รับรางวัล Blue Dragon Film Award ในสาขา นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากบทโรคจิตเขย่าขวัญในเรื่อง Sorum เมื่อปี 2001 รวมถึงภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมมาดี้อย่าง Singles ในปี 2546 6)จางเป็นนักแสดงหญิงคนที่สองที่คว้ารางวัล Blue Dragon Film Awards ในสาขานักแสดงนำหญิงถึงสองครั้งด้วยกัน การปรากฏตัวของเธอล่าสุดที่ผ่านมา เป็นผลงานละครโทรทัศน์เมื่อปี 2550 ในเรื่อง Lobbyist ทางช่อง SBS ซึ่งนับเป็นละครฟอร์มยักษ์ที่ใช้เม็ดเงินลงทุนกว่า 400 ล้านบาทเลยทีเดียว 7)เกิด 14 มิ.ย.17 สูง 169ซม น้ำหนัก 49 กก. กรุ๊ปโอ
แหล่งอ้างอิง
+ http://www.ryt9.com/s/iqry/641110/
+ http://women.kapook.com/view3941.html
+ http://koreastory.org/jang-jin-young/
+ http://www.thairath.co.th/content/ent/30332
+ http://www.gossipza.com/?p=2029
+ http://en.wikipedia.org/wiki/Jang_Jin-young
+ http://www.yedang.co.kr/jangjinyoung/
+ http://www.imdb.com/name/nm0417532/
ขอไว้อาลัยแก่ผู้ล่วงลับด้วยความเคารพ
Author: บุรินทร์ รุจจนพันธุ์
โครงการค่ายเรียนรู้คุณธรรมนำชีวิตพอเพียง 2552
7 ก.ย.52 วันนี้ 18.00 -20.00 น. ณ ห้อง 1203 และวันเสาร์ที่หมู่บ้าน ตัวแทนคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วม โครงการค่ายเรียนรู้คุณธรรมนำชีวิตพอเพียง ปี 2552 โดยบูรณาการร่วมกับ โครงการพัฒนาหมู่บ้านอยู่ดีมีสุขตามแนวทางของมหาวิทยาลัยโยนก (จากมติของคณะกรรมการโครงการฯ มีผลให้ตัดสินใจเลือกหมู่บ้านท่ากลาง-ท่าใต้ ตำบลบ้านกิ่ว อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง เป็นพื้นที่เป้าหมาย ตามรายงานการประชุมการลงพื้นที่หมู่บ้านโครงการพัฒนาหมู่บ้านฯ ครั้งที่ 3/2552)
ตามที่ได้รับมอบหมายให้เป็นอาจารย์นิเทศกรอบการเรียนรู้ที่ 1 คือ วัฒนธรรมหรือแบบแผนการใช้ชีวิต จากทั้งหมด 7 กรอบได้แก่ 1)วัฒนธรรมหรือแบบแผนการใช้ชีวิต 2)เศรษฐกิจชุมชนอย่างพึ่งตนเอง 3)การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนของชุมชน 4)วิถีประชาธิปไตยในชุมชน 5)การสร้างความสมานฉันท์ในชุมชน 6)การสร้างภูมิคุ้มกันของชุมชน 7)ปราชญ์ชาวบ้านในชุมชน ก็ด้วยการแนะนำ ควบคุมดูแลกิจกรรมอย่างเป็นระบบ โดย อ.ธวัชชัย แสนชมพู และ อ.อัศนีย์ ณ น่าน ทำให้ผมมีโอกาสทำงานนี้ และลงพื้นที่ในวันและเวลาดังกล่าว
การให้คำแนะนำนักศึกษา มีโอกาสใช้หลักการจากเวทีฯ ที่ อ.ศศิวิมล แรงสิงห์ จัดเวทีให้มีการวิพากษ์รายงานการประเมินตนเองระดับมหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 1-2 ก.ย.52 โดยมีผู้นำวิพากษ์คือ ผศ.ดร.จินดา งามสุทธิ ซึ่งท่านแสดงทัศนะด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมานานบนความเข้าใจ ใช้หลักการวิพากษ์ที่ตั้งบนความสมเหตุสมผล ตามหลักฐาน ถูกต้องตามหลักวิชา และชี้แจงให้เห็นประเด็นได้อย่างกระจ่างชัดยิ่ง ผมจึงนำหลักการวิพากษ์ไปใช้กับนักศึกษาโครงการดังกล่าว .. เป็นครั้งแรกของผม
ป.4 เขียนโปรแกรม
7 ก.ย.52 ถ้ามีคนพูดว่านักเรียน ป.4 เขียนโปรแกรมเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน หลายคนก็คงบอกว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ที่โรงเรียนอนุบาลลำปาง (เขลางค์รัตน์อนุสรณ์) เริ่มสอนนักเรียนวาดรูปด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ชั้น ป.1 เมื่อมีพื้นฐานการใช้แป้นพิมพ์ เมาส์ การใช้เมนูบาร์ ไฟล์เมเนเจอร์ การสืบค้นข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต การคัดลอกข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาทำรายงานส่งครู การวาดรูปด้วยไมโครซอฟท์เพนท์ แล้วก็สอนการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาโลโก้ (Logo Writer) ในชั้น ป.4
การเขียนโปรแกรมนั้นเปรียบเสมือนการเขียนขั้นตอนหรือระบบหรือกระบวนการ ซึ่งพบว่าสอดคล้องกับงานประกันคุณภาพการศึกษาที่ อาจารย์ศศิวิมล แรงสิงห์ มหาวิทยาลัยโยนก จัดให้มีการวิพากษ์รายงานการประเมินตนเองทั้งในระดับคณะวิชาและระดับมหาวิทยาลัย โดยผู้เกี่ยวข้องมาร่วมพิจารณาความสมเหตุสมผลของหลักฐานประกอบเกณฑ์มาตรฐานในตัวบ่งชี้แต่ละข้อ และพบว่าสิ่งแรกที่ต้องทำในหลายตัวบ่งชี้คือการมีระบบ ดังนั้นการปูพื้นฐานการคิดของนักเรียนอย่างเป็นระบบและมีขั้นตอนตั้งแต่ระดับประถม จะทำให้เยาวชนของชาติมีคุณภาพและเข้าใจหลักข้อแรกของการทำงานเมื่อโตขึ้น ไม่เว้นแม้แต่ระบบประกันคุณภาพการศึกษาที่จัดให้มีขึ้นในสถาบันการศึกษาทุกระดับดังเช่นตัวอย่างข้างต้น ที่ต้องเริ่มต้นการทำงานด้วยการเขียนระบบหรือขั้นตอนการทำงานเป็นลายลักษณ์อักษรและเผยแพร่ให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน
เนื้อหาการเรียนการเขียนโปรแกรมของนักเรียน ป.4 เริ่มต้นจาก 1)การสอนให้พวกเขาอ่านโจทย์ให้เข้าใจ แล้ววางแผนแก้ปัญหาจากโจทย์หรือตัวบ่งชี้ความสำเร็จที่กำหนดอย่างเป็นระบบและเป็นขั้นตอน ถ้านักเรียนคนใดอ่านโจทย์แล้วไม่เข้าใจไม่สามารถกำหนดขั้นตอนการทำงานได้ก็คงล้มเหลวที่จะทำตัวบ่งชี้นั้นสำเร็จลงได้ ถ้าวางแผนได้อย่างเป็นระบบก็จะ 2)เข้าสู่ขั้นตอนการลงมือปฏิบัติ 3)พร้อมการตรวจสอบและแก้ไขในทันที เมื่อพบข้อผิดพลาด 4)หากทำได้แล้วก็จะเรียนรู้ประเด็นปัญหาใหม่ วางแผนแก้ปัญหาใหม่ ดำเนินการและแก้ไข อย่างนี้เรื่อยไป ตามวงจร PDCA (Plan Do Check Action) เมื่อเรียนต่อไปในชั้นประถม 5 และ 6 ต้องเรียนไมโครซอฟท์เวิร์ด เอ็กเซล เขียนเว็บเพจ ตัดต่อวีดีโอหรือจัดทำสื่อมัลติมีเดียจากกรณีศึกษาในชุมชน เป็นต้น นี่เป็นภาพที่ผู้ปกครองของนักเรียนคนหนึ่งมองเห็น กิจกรรมการเรียนการสอนที่เกิดขึ้นในโรงเรียนนี้
+ http://www.thaiall.com/logo/logowr.zip
+ http://www.dosbox.com
อุปสรรคของการพัฒนาคณาจารย์สถาบันอุดมศึกษาเอกชน
3 ก.ย.52 นางขนิษฐา ทรงจักรแก้ว ส่งแบบสอบถามชุดที่ 1 เรื่อง แนวความคิดต่อสาเหตุที่เป็นอุปสรรคของการพัฒนา คณาจารย์สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ท่านเป็นนิสิตดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาอุดมศึกษา ภาควิชา นโยบาย การจัดการและความเป็นผู้นำทางการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในแบบสอบถามชุดนี้ถามถึง แนวคิด ทัศนะ หรือมโนทัศน์เกี่ยวกับ สาเหตุที่เป็นอุปสรรค์ต่อการพัฒนาคณาจารย์ ที่เกิดจากตัวอาจารย์ และสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ผมก็ให้ทัศนะตามคำถามนำเรื่องอุปสรรค์ต่อการพัฒนาคณาจารย์ ไปว่า 1)ค่านิยมที่ไม่มีความทะเยอทะยานของมนุษย์ในการไม่วางแผน บั้นปลายของชีวิตให้ชัดเจน ยังกิน ยังดื่ม ยังเสพ อย่างไม่สมเหตุ สมผล 2)ค่านิยมที่ต้องการสิ่งจูงใจสูงมากกว่าการกระทำ ด้วยพื้นฐานของ กิเลสที่เรียกว่าความโลภ และความไม่รู้จักพอประมาณ ทำให้มนุษย์ มองประโยชน์ส่วนตนมาก่อนประโยชน์ส่วนรวม 3)ค่านิยมขาดอุดมการณ์ในสายอาชีพ หรือขาดศรัทธาในการทำดีตามสายอาชีพอย่างมุ่งมั่น 4)สถาบันอุดมศึกษาเอกชนต้องหาเลี้ยงตนเอง ไม่มีเงินอุดหนุนรายหัว จึงต้องใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า ตามแผน และวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน 5)สถาบันอุดมศึกษาเอกชนต้องใช้จ่ายอย่างสมเหตุสมผลตามบริบทของการเป็นเอกชน
เอกสารแนบของท่านให้คำนิยามศัพท์มา 6 คำ คือ 1)การพัฒนาคณาจารย์ หมายถึง การดำเนินการหรือการสนับสนุน ของสถาบันอุดมศึกษาเอกชนในด้านการกำหนดเป้าหมาย แผนงาน นโยบาย ระบบและกลไกการบริหารจัดการ การบริหารทรัพยากร บุคคล การพัฒนาสภาพแวดล้อมอุดมศึกษา หรือกิจกรรมใด ๆ ทั้งที่ เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ที่จะเอื้ออำนวยหรือสร้างเสริมให้ คณาจารย์มีการเปลี่ยนแปลงด้านแนวคิด ค่านิยม พฤติกรรม ใน การพัฒนาศักยภาพตนเอง การพัฒนาการเรียนการสอน การพัฒนาผลผลิตบัณฑิต การพัฒนาผลผลิตงานวิจัย และการพัฒนาผลผลิตงานวิชาการ ให้ไปสู่ความมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานระดับประเทศในระบบการประกันคุณภาพทางการศึกษา 2)การพัฒนาศักยภาพตนเองของคณาจารย์ หมายถึง ผลของการพัฒนาคณาจารย์ของสถาบัน ซึ่งส่งผลให้คณาจารย์มีความประสงค์ และมุ่งหน้าดำเนินการศึกษาต่อในระดับคุณวุฒิที่สูงขึ้น รวมทั้งการสร้างผลงานทางวิชาการที่สามารถทำให้คณาจารย์ได้รับตำแหน่งทางวิชาการที่สูงขึ้นเป็นลำดับ 3)การพัฒนาการเรียนการสอน หมายถึง ผลของการพัฒนาคณาจารย์ของสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ซึ่งส่งผลให้คณาจารย์พัฒนาความสามารถจัดการเรียนการสอนที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เน้นกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจของผู้เรียน โดยใช้เทคนิคการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และอุปกรณ์การสอนหลากหลายมีการประเมินผลการเรียนการสอนตามสภาพจริง และใช้ผลการประเมินในการพัฒนาผู้เรียน 4)การพัฒนาผลผลิตบัณฑิต หมายถึง ผลการพัฒนาคณาจารย์ของสถาบันฯ ซึ่งส่งผลให้คณาจารย์พัฒนาความสามารถในการผลิตบัณฑิตที่มีความสามารถในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น มีทักษะและภูมิปัญญาในงานอาชีพ มีจิตสำนึก และภูมิธรรมในฐานะพลเมืองดีของสังคมไทย และสังคมโลก 5)การพัฒนาผลงานวิจัย หมายถึง ผลของการพัฒนาคณาจารย์ของสถาบันฯ ซึ่งส่งผลให้คณาจารย์พัฒนาความสามารถในการผลิตงาน วิจัย และงานสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพสูง ได้รับทุนวิจัย สามารถตีพิมพ์เผยแพร่ หรือนำไปใช้ประโยชน์ทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ 6)การพัฒนาผลงานบริการวิชาการ หมายถึง ผลของการพัฒนาคณาจารย์ของสถาบันฯ ซึ่งส่งผลให้คณาจารย์พัฒนาความสามารถในการผลิตงานบริการวิชาการและวิชาชีพที่เป็นประโยชน์เป็นที่พึ่งและเป็นแหล่งอ้างอิงทางวิชาการและวิชาชีพ เสริมสร้างความมั่นคงและความเข้มแข็งของสังคม ชุมชน ประเทศชาติ และนานาชาติ
+ เป็นเรื่องดี ๆ ที่ผ่านมาในชีวิต จึงบันทึกไว้ครับ
การแข่งขันสารานุกรมไทย
31 ส.ค.52 เพื่อนในมหาวิทยาลัย ร่วมจัดสอบ โครงการสารานุกรมไทยสำหรับ เยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ สโมสรไลออนส์สากล ภาค 310-เอ 1 ประเทศไทย ดำเนินการร่วม กับหลายหน่วยงาน เป็นการจัดให้มีการแข่งขันตอบคำถาม ในหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ครั้งที่ 15 กลุ่มภาคเหนือ ลำปาง-ตาก-กำแพงเพชร มีคำถาม 100 ข้อ ให้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง ในวันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม 2552 โดยมีหัวเรือใหญ่ของโครงการ คือ ไลออนเบญจมาศ พาณิชพันธ์ ประธานการแข่งขันสารานุกรมไทยฯ ภาคเหนือ จังหวัดลำปาง-ตาก-กำแพงเพชร
เพื่อน ที่ร่วมเป็นคณะกรรมการดำเนินงานและควบคุมเวลาการแข่ง ขัน ประกอบด้วย อ.ใหญ่ อ.แหม่ม อ.แนน อ.กิ๊ก อ.สันติ อ.บอย อ.โก อ.เอก อ.วราภรณ์(แนน) อ.อ้อม และ อ.วันชาติ
+ kanchanapisek.or.th
การเขียนซีดีที่ป้องกันการคัดลอก
30 ส.ค.52 ทดสอบสร้างแผ่น CD ที่ป้องกันการคัดลอกด้วยการเพิ่มขนาดแฟ้มให้ใหญ่เกินจริง โดยมีขั้นตอนดังนี้ 1)โปรแกรม Nero แล้วเลือก ทำ CD ข้อมูล, Add แฟ้มที่ต้องการ 2)สั่ง Burn ผ่าน Image Recorder เช่น myfile.iso 3)โปรแกรม TZ Copy Protection รุ่น 1.54 (comdlg32.ocx) 4)คลิ๊ก Viewer เลือกเปิดแฟ้ม myfile.iso 5)คลิ๊กแฟ้มที่ต้องการปรับขนาดหลอกเครื่องอ่านซีดี เช่น แฟ้ม clip.jpg หรือแฟ้มอื่น แล้วคลิ๊ก Step 3 บนเมนูบาร์ มีผลให้ขนาดแฟ้มที่เลือกเป็น 2 GB หรือ 2147483647 Byte 6)เสร็จสิ้นการปรับแต่งแล้ว คลิ๊กปุ่ม Make Cue บนเมนูบาร์ จะได้แฟ้ม myfile.cue 69 Byte และแฟ้ม myfile.iso ได้ถูกปรับไปแล้ว 7)ใช้ Ultraiso เปิดแฟ้ม myfile.iso พบว่าขนาดของแฟ้มถูกเปลี่ยนไปแล้ว 8)ใช้ Nero Express สั่งเขียน CD จาก image file พบว่าซีดีที่ได้มีแฟ้มที่ถูกปรับขนาด เช่น clip.jpg มีขนาด 2 GB 9)ใช้ Nero สั่งคัดลอก CD ที่ได้ลงใน Image Recorder จะได้ image file ชื่อ image.nrg 10)แฟ้ม .nrg ที่ได้แม้มีขนาดไม่กี่ MB แต่ไม่อาจเขียนลง CD ขนาด 700 MB ซึ่งเป็นผลจากการใช้โปรแกรม TZ Copy Protection หลอกให้เครื่องเขียนซีดี มองแฟ้มที่ถูกปรับขนาด ว่ามีขนาดใหญ่เกินจะเขียนลงซีดีได้
แหล่งอ้างอิง
+ http://xirbit.com/html/articles/protectcd.html
+ http://wave.prohosting.com/tzcp/files.html
+ http://tzcopyprotection.tk/
+ http://my.opera.com/abysscross/blog/show.dml/517165
+ http://www.afreeocx.com/ocx/info/comdlg32_ocx.html
คัดลอกซีดีที่ป้องกันการคัดลอก
30 ส.ค.52 สมมติว่าเพื่อนร่วมงานท่านหนึ่งทำแผ่นซีดีข้อมูลที่ป้องกันการคัดลอกซีดี แล้วเพื่อนท่านนั้นก็จากไปก่อนวัยทำงานอันควร แต่หน่วยงานต้องการนำแผ่นข้อมูลต้นฉบับไปคัดลอก เพื่อสำรองหรือใช้หลายเครื่อง จะใช้ Nero หรือ CloneCD ก็คัดลอกแผ่นไม่สำเร็จ เนื่องจาก พยายามคัดลอกแล้ว พบว่า 1) แผ่นซีดีที่ได้มานั้นเป็นแผ่นที่ว่างเปล่า 2) อีกกรณีคือเขียนแผ่นซีดีที่ป้องกันการคัดลอกไปเป็น .nrg หรือ .iso แล้วใช้ ImageDrive ของ nero หรือ Daemon-Tools อ่านในแบบ Virtual CD Drive ก็ไม่สำเร็จ ผลที่ได้คือมองเห็น Drive นั้นว่างเปล่าเช่นเดิม เหมือนกับอ่านจากแผ่นคัดลอก จากการค้นข้อมูลจากเน็ต พบวิธีแก้ไข 2 ขั้นตอน ด้วยโปรแกรม Ultraiso คือ 1) Make CD/DVD Image 2) Burn CD/DVD Image
การแก้ปัญหาและนำไปใช้ทำได้ 2 กรณี 1)ใช้ Make CD/DVD Image ของ Ultraiso เพื่ออ่านซีดีแล้วเขียน image เป็นแฟ้ม .iso จากนั้น ก็ใช้โปรแกรม ImageDrive อ่านแฟ้มที่ได้เป็น Virtual CD ได้ตามปกติ ทำให้ผมคัดลอกซีดีที่ป้องกันการคัดลอก มาเป็น image file แล้วเรียกใช้ได้ในภายหลังโดยไม่ต้องใส่แผ่นซีดีทุกครั้ง 2)ใช้ Burn CD/DVD Image ของ Ultraiso เพื่อเขียนซีดีจากแฟ้ม image ที่ได้จากวิธีข้างต้น ทำให้ได้แผ่นซีดีที่ป้องกันการคัดลอกเพิ่มขึ้น นำไปใช้กับเครื่องใดก็ได้ โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมประเภท Virtual CD
สิ่งที่พบในซีดีที่ป้องกันการคัดลอก คือ ขนาดแฟ้มบางแฟ้มที่อาจถูกใช้ หรือไม่ถูกใช้งานมีขนาดใหญ่เกินจริง ทำให้โปรแกรมอ่านเขียนซีดีทั่วไปไม่สามารถดำเนินการกับแผ่นเหล่านั้นได้ มีแผ่นข้อมูลแผ่นหนึ่งพบขนาดรวมทั้งแผ่น อ่านด้วยโปรแกรม UltraISO มี 4 GB แต่มี 2 แฟ้มที่มีขนาดแฟ้มละ 2 GB เมื่อลบทั้ง 2 แฟ้มขนาดโดยรวมจะเหลือเพียง 70 MB เมื่อเขียนแฟ้ม .iso ที่ลบแฟ้มหลอกทั้ง 2 แฟ้มลงไปในแผ่น CD ก็พบว่านำแผ่นที่ได้ไปใช้งานได้ตามปกติ ในกรณีที่ทั้ง 2 แฟ้มนั้นไม่ถูกเรียกใช้งานโดยโปรแกรมใดใด
ร่วมเรียนรู้พุทธศิลป์ วัดปงสนุก ลำปาง
29 ส.ค.52 ดร.สุจิรา หาผล คณบดีคณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยโยนก จัดทำโครงการบูรณาการนำนักศึกษา อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และครอบครัวบุคลากรในสถาบัน มีตัวแทนจากทุกคณะเข้าร่วม อาทิ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี คณะนิเทศศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ ไปเรียนรู้การทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม พุทธศิลป์ และโบราณสถาน ณ วัดปงสนุกเหนือ จังหวัดลำปาง ในวันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2552 ช่วงเช้า นายธงชัย กุลรูป เป็นตัวแทนนักศึกษากล่าวนำไหว้พระ และ อ.สุภาพ ขุนจุมพล เป็นผู้ดำเนินรายการ ส่วนวิทยากรภาควิชาการ คือ อ.อนุกูล ศิริพันธ์ ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำวิทยาลัยอินเตอร์เทคลำปาง ทำหน้าที่บรรยายให้ความรู้ กระบวนการ และพัฒนาการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีการยิงคำถามให้วิทยากร และถามตอบตลอดการบรรยายอย่างมีชีวิตชีวา วิทยากรถึงกับเอ่ยปากชมว่าไม่มีใครแอบงีบเลย ไม่เหมือนเด็กเล็กจากโรงเรียนใกล้เคียงที่มีอาการวูบเป็นหย่อมหย่อม ช่วงบ่ายทุกคนร่วมกิจกรรมบูรณะวัดร่วมกัน เป็นงานบุญที่ทุกคนแช่มชื่น สังเกตได้จากสีหน้าของผู้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ได้ครับ และคาดว่างานกฐินคราวหน้าจะมีศรัทธาจากมหาวิทยาลัยของเราไปร่วมทำบุญที่วัดนี้
ประเมินคุณภาพ กับระบบและกลไก
28 ส.ค.52 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รับการประเมินคุณภาพการศึกษา การดำเนินงานในปีการศึกษา 2551 เมื่อวัน 19 และ 20 สิงหาคม 2552 กรรมการประเมินนำโดย รศ.ปราโมทย์ ทิพย์ดวงตา อ.คนึงสุข นันทชมภู และ คุณอังคณา เนตรรัศมี มีข้อเสนอแนะมากมาย โดยเฉพาะเรื่องระบบและกลไก ที่กรรมการให้ข้อเสนอแนะว่าต้องเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร ต้องมีแผน ความหมายของ ระบบ คือ ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ที่มีการกำหนดอย่างชัดเจนว่าต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้ได้ผลออกมาตามที่ต้องการ ส่วนกลไก คือ สิ่งที่ทำให้ระบบมีการขับเคลื่อน หรือดำเนินอยู่ได้ โดยมีการจัดสรรทรัพยากร มีการจัดองค์กร หน่วยงาน หรือกลุ่มบุคคลให้เป็นผู้ดำเนินงาน สรุปผลการประเมินในปีนี้ต่างกับปี 2551 ที่เกิดการจัดกการความรู้ในการนำเสนอผลการประเมินอย่างไม่เป็นทางการ โดยมีท่านอธิการเป็นประธานรับฟังผลการประเมินร่วมกับคณะ และมีหลายคณะวิชาเข้าร่วมรับฟัง เพื่อให้เกิดบทเรียนในการทำงาน และนำไปสู่การพัฒนาเป็นลำดับต่อไป
ขอเล่าประสบการณ์ ก่อนรับการประเมิน เรื่องระบบและกลไก ที่ผมมีโอกาสประชุมกับทีมพัฒนาหลักสูตร เมื่อวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม 2552 เป็นหลักสูตรร่วมของโยนกกับ Kington Business School, Pattaya โดยตัวแทนของ KBS คือ ดร.นิมิตร ใคร้วานิช ก่อนการประชุม ผมได้รับมอบหมายให้เขียน ระบบการลงทะเบียนออนไลน์ โดยมีโจทย์ว่า “นักเรียนต้องผ่าน KBS เรียบร้อยแล้ว จึงจะลงทะเบียนออนไลน์ได้” แม้จะขัดกับความรู้สึกและทฤษฏี แต่ผมก็ยกร่างระบบหรือกระบวนการไว้ดังนี้ 1)นักเรียนสมัครเรียนกับ KBS แล้วได้เอกสาร ข้อมูลจนครบ 2)นักเรียนเปิดเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยโยนกแล้วกรอกข้อมูล 3)นักเรียนได้ข้อมูลจากเว็บไซต์ เกี่ยวกับวิชา ตารางเรียน ยอดเงิน วิธีการชำระเงิน และขั้นตอนอีกครั้ง 4)นักเรียนไปชำระเงิน อาจเป็นตู้เอทีเอ็ม หรือโอนเงินผ่านธนาคาร หรือวิธีอื่นใด 5)นำหลักฐานการโอนเงินมาส่งข้อมูลเข้าอินเทอร์เน็ตให้สถาบันรับทราบ 6)สถาบันส่งข้อมูลกลับไปให้นักเรียนทางอีเมล หรือนักเรียนกลับมาตรวจสอบสถานะอีกครั้ง 7)นักเรียนเข้าเรียนตามวิชาที่กำหนดในตารางเรียน
เมื่อมีการประชุมพิจารณายกร่างระบบดังกล่าว คุณเรณู อินทะวงศ์ ได้ชวนแลกเปลี่ยนว่า ในศูนย์ต่าง ๆ ของเราใช้ระบบ one stop service คือ มีระบบที่จบภายในศูนย์ สะดวก รวดเร็ว ควบคุมได้ ผ่านกลไกของผู้ดูแล และระบบเอกสารที่มีขั้นตอนชัดเจนตรวจสอบได้ ซึ่ง ดร.นิมิตร ก็เห็นด้วย และเลือกแบบ one stop service แทนการเพิ่มไอทีมาเป็นภาระแก่นักศึกษา เมื่อผ่านขั้นตอนการลงทะเบียนและชำระเงินเรียบร้อยก็ส่งเอกสาร และโอนเงินเข้าสถาบัน เพื่อตรวจสอบตามระบบและกลไกที่มีในสำนักทะเบียน สำนักวิชาการ และสำนักการเงิน ในการดำเนินการ .. ต่อจากนี้ก็คาดว่า จะมีคนยกร่างระบบและกลไกที่เหมาะสมเป็นลายลักษณ์อักษร แต่หากจะให้ผมช่วยยกร่างให้ก็ยินดี เพียงแต่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องกำหนดให้ผมว่าอะไรเป็นอะไรในรายละเอียดทั้งหมดเท่านั้นเอง
ตรวจการติด Black List หลังพบปัญหา
27 ส.ค.52 วันนี้ตรวจสอบ queue ของ smtp server พบว่ามี mail ค้างกว่าหมื่นฉบับ ตรวจพบว่าผู้ส่งคือสมาชิกในองค์กรของเรา แต่เขาไม่น่าจะเป็นผู้ส่งเมลขนาดนี้ เมื่อตรวจในรายละเอียดก็พบว่าส่งจาก squirrelmail ซึ่งเป็น webbased mail และก็พบว่าการส่งนั้นมาจาก webbased mail ที่ถูก hack แม้จะใช้ ssl กรองด่านแรกแล้ว แต่ spam bot ก็ยังเจาะตรงเข้าไปได้ พบว่ามี user หลายคนมีพฤติกรรมเช่นนี้ สิ่งที่เหมือนกันของผู้เป็นเหยื่อ spam bot คือกำหนดรหัสผ่านที่เหมือนกับรหัสผู้ใช้ ซึ่งเป็นข้อบกพร่องที่ผมปล่อยให้เกิดขึ้นมาหลายปี และไม่ได้กำชับให้ทุกฝ่ายเข้าใจ คาดว่า spam bot มุ่งเจาะเข้าจุดอ่อนใน squirrelmail และการกำหนดรหัสของผู้ใช้ที่หละหลวม จึงทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
เมื่อเกิดปัญหาแล้ว ก็ตามไปดูว่า ผลของปัญหาดังกล่าวมีปฏิกิริยาลูกโซ่สู่ภายนอกหรือไม่ ด้วยการตรวจว่า smtp server ตัวใหม่ของเราติด black list อีกแล้วหรือไม่ 1)ตรวจกับ spamhaus.org พบว่ามี 7 IP ที่ติดในบริการของ cat.net.th แต่เราไม่ติดในบัญชีดำชุดนี้ 2)ตรวจกับ find-ip-address.org แล้วพบว่าเราไม่ติด 3)ตรวจกับ mxtoolbox.com ซึ่งส่ง ip ไปตรวจใน 111 เครื่องบริการ พบว่า smtp ทั้งสองเครื่องติดใน 5 เครื่องบริการคือ 3.1)sorbs.net/lookup.shtml (ขอ delist) 3.2)barracudacentral.org/rbl (remove request) 3.3)spamrats.com (Removal) 3.4)wpbl.info (Remove Record) 3.5)uceprotect.net (?)
วิธีแก้ไข ที่ดำเนินการคือ 1)หยุดการส่ง spam จากเครื่องของเรา และตรวจสอบอยู่เสมอ 2)ขอแก้ไขกับผู้ให้บริการขึ้นบัญชี black list ทีละราย ซึ่งทำไปกับ 4 รายแล้ว 3)เปลี่ยนเครื่องบริการ smtp และต้องดูแลไม่ให้เกิดขึ้นอีก
แหล่งอ้างอิง
+ http://www.blacklistalert.org
+ http://mxtoolbox.com/blacklists.aspx
+ http://www.find-ip-address.org
+ http://www.spamhaus.org/sbl/index.lasso
+ http://whatismyipaddress.com