ความแตกต่างของ id และ class

CSS : Cascading Style Sheets กลายเป็นข้อควรรู้ที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
CSS : Cascading Style Sheets กลายเป็นข้อควรรู้ที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

วันนี้ 11 มิ.ย.59 ว่าจะจัดการเรื่อง float:left ใน web2 ให้เรียบร้อย แต่มาใช้เวลากับการนั่งทดสอบ Developer tools ของ chrome นานไปหน่อย ติดใจเลย
ทำให้ได้เรียนรู้ว่า chrome ช่วยให้การปรับแต่งเว็บไซต์ง่ายกว่าใช้ editor ธรรมดาอย่าง editplus มาก
http://www.thaiall.com/web2

เรื่อง CSS : Cascading Style Sheets กลายเป็นข้อควรรู้ที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัจจุบัน CSS มีถึงรุ่น 3 แล้ว ในการใช้งานจริงมักสร้าง CSS แบบ External style sheet เพราะแฟ้มอื่นเรียกใช้ได้ ส่วน Internal style sheet ก็จะเรียกใช้ได้เฉพาะในแฟ้มนั้น ส่วน Inline style ก็จะพิมพ์คำว่า style ต่อท้าย tag นั้นไปเลย ซึ่งตัวแปรหลัก 2 แบบที่กำหนดเองใน CSS มี 2 แบบคือ id กับ class

การกำหนด และการเรียกใช้ต่างกันไป
ถ้าเป็น id จะขึ้นต้นด้วย # แต่เป็น class จะขึ้นต้นด้วย . ถ้าเรียกใช้ id จะใช้ properties name ว่า id ส่วนเรียกใช้ class จะใช้ properties name ว่า class

สิ่งที่แตกต่างกัน คือ id จะเรียกใช้ครั้งเดียว แต่ class เรียกใช้ได้หลายครั้ง ถ้าวางแผนอย่างใจเย็นก็จะใช้ประโยชน์จาก css ได้อย่างเต็มที่ มีตัวอย่างที่ css_sample.htm หากจะทดสอบการปรับแต่ง css ทำได้ที่ w3schools.com

 

<html><head><style type=”text/css”>
#header {background:yellow;font-size:20px;}
.title-text {color:red;}
p.big { font-size:40px; }
span.small { font-size:10px; }
table, th, td { border: 1px solid black; }
.burin1 {color:red;border: 2px}
.burin2 {font-size:20px;float:left;}
.burin3 {color:blue;font-size:30px;float:left;}
</style><body id=”header” class=”title-text”>
<span style=”color:green;”>hello</span><p class=”big”>my</p>
<span class=”small”>friend</span><span class=”small”>is tom.</span>
<table class=”burin1″><tr><td>one</td></tr></table>
<table class=”burin2″><tr><td>two</td></tr></table>
<table class=”burin3″><tr><td>three</td></tr></table>
http://www.w3schools.com/css/css_table.asp
</body></html>

น.ศ.สาวเนชั่น อยู่แม่ฮ่องสอนมาเรียนลำปาง ต้องเปิดร้านขายน้ำส้มคั้นส่งตัวเองเรียน

น้องแอน โชติชนิต สนธิ นักศึกษาปี 3 คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ
น้องแอน โชติชนิต สนธิ นักศึกษาปี 3
คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ

ในกลุ่ม Lampang City มีการวิจารณ์กันมาก ว่าน้ำส้มอร่อย
ที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเนชั่น ไปทำงานขายน้ำส้มคั้นหาเงินเรียนหนังสือ
มีการกดไลค์ภาพน้องแอน โชติชนิต สนธิ นักศึกษาปี 3
คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง
ใน 12 ชั่วโมงไปพันกว่าครั้ง วิพากษ์กันไป 30 กว่าเม้นท์
https://www.facebook.com/groups/243126115797740/permalink/943272402449771/

พบข้อความประกอบภาพว่า
พบเด็กเรียนดี ขยันทำกิน ต้องส่งเสริม
เป็นกำลังใจให้น้องแอน นักศึกษาสาวปี 3 กำลังเรียนด้านสุขภาพ
เด็กเรียนดีจากแม่ฮ่องสอน มาเรียนที่ลำปาง
ทำงานพิเศษส่งตัวเองเรียน ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียน
ด้วยการเปิดร้านขายน้ำส้มคั้นสด มีแพกเกจสวยงาม
อยู่ข้าง 7-11 ตรงข้ามประตูเข้าอาคารบุญชูตรีทอง ลำปาง
อีก 1 ปีก็จะสำเร็จการศึกษาแล้ว สู่ต่อไป สาวแม่ฮ่องสอน

วิชาที่ใช้สำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั้งสอบตรงและแอดมิชชั่น

เรียนอะไร จะได้มีอาชีพใน asean
เรียนอะไร จะได้มีอาชีพใน asean

การสอบเข้ามหาวิทยาลัย นักเรียนทุกคน
ต้องสอบวิชาสามัญ และวิชาเฉพาะสาย
สัดส่วนของสองกลุ่มนี้จะต่างกันไปในแต่ละหลักสูตร
หลายมหาวิทยาลัยจัดรับตรง คือใช้ข้อสอบของตนเอง
ก็จะกำหนดวิชาที่สอบแตกต่างไปบ้างกับสอบแอดมิชชั่น

1. วิชาสำหรับสอบเข้าเรียนแพทย์โดยทั่วไป
ต้องสอบ 7 วิชา 1)ฟิสิกส์ 2)เคมี 3)ชีวะ 4)คณิต1 5)ไทย 6)อังกฤษ 7)สังคม
และวิชาเฉพาะ (ความถนัดทางวิทยาศาสตร์)

2. การสอบตรงนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์
ต้องสอบวิชาของธรรมศาสตร์ ใน 100% มีดังนี้
1) ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกฎหมาย  10%
2) ความสามารถในการใช้กฎหมาย  30%
3) เรียงความ  10%
4) ย่อความ  10%
5) ภาษาอังกฤษ  20%
6) ความถนัดเชิงวิชาการ (SAT)  20%

3. สัดส่วนที่ใช้คำนวณคะแนน
GAT (General Aptitude Test) ความถนัดทั่วไป
PAT (Professional Aptitude Test) ความถนัดทางด้านวิชาชีพและวิชาการ
– ผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPAX)
– ผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET)
– ผลการทดสอบความถนัดทั่วไป (GAT)
– ผลการทดสอบความถนัดทางวิชาชีพและวิชาการ (PAT)

4. GAT กับ PAT ต่างกันชัดเจน
GAT = ความถนัดทั่วไป
PAT1 = ความถนัดทางคณิตศาสตร์
PAT2 = ความถนัดทางวิทยาศาสตร์
PAT3 = ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์
PAT4 = ความถนัดทางสถาปัตยกรรมศาสตร์
PAT5 = ความถนัดทางวิชาชีพครู
PAT6 = ความถนัดทางศิลปกรรมศาสตร์
PAT7.1 = ความถนัดทางภาษาฝรั่งเศส
PAT7.2 = ความถนัดทางภาษาเยอรมัน
PAT7.3 = ความถนัดทางภาษาญี่ปุ่น
PAT7.4 = ความถนัดทางภาษาจีน
PAT7.5 = ความถนัดทางภาษาอาหรับ
PAT7.6 = ความถนัดทางภาษาบาลี

5. สัดส่วนการใช้คะแนน GAT PAT ของคณะต่าง ๆ
http://www.tlcthai.com/education/gat-pat/48432.html
http://www.dek-d.com/admission/33015/
กลุ่มที่ 1 คณะสัตวแพทยฯ , คณะสหเวชศาสตร์ , คณะพยาบาลศาสตร์
คณะสาธารณสุขฯ, คณะเทคนิคการแพทย์ , คณะวิทยาศาสตร์กีฬา
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 20% และ PAT 2 30%

กลุ่มที่ 2 คณะทันตแพทยศาสตร์
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 20%, PAT 1 10% และ PAT 2 20%

กลุ่มที่ 3 คณะเภสัชศาสตร์
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% และ PAT 2 40%

กลุ่มที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์ , คณะทรัพยากรธรรมชาติ
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% , PAT 1 10% และ PAT 2 30%

กลุ่มที่ 5 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% , PAT 1 20% และ PAT 2 20%

กลุ่มที่ 6 คณะวิศวกรรมศาสตร์
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 15% , PAT 2 15% และ PAT 3 20%
* รับตรงคณะกลุ่มนี้บางมหาวิทยาลัย กำหนดให้สอบ PAT1
เช่น คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ และ ม.เกษตรศาสตร์

กลุ่มที่ 7 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% และ PAT 4 40%

กลุ่มที่ 8 คณะเกษตรศาสตร์ , คณะวนศาสตร์ คณะอุตสาหกรรมเกษตร
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% , PAT 1 10% และ PAT 2 30%

กลุ่มที่ 9 คณะบริหารธุรกิจ , คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี , คณะเศรษฐศาสตร์
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 30% และ PAT 1 20%
* รับตรงคณะกลุ่มนี้บางมหาวิทยาลัย กำหนดให้สอบ PAT2
เช่น คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ

กลุ่มที่ 10 คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม
รูปแบบที่ 1 GPAX 20% , O-NET 30% และ GAT 50%
รูปแบบที่ 2 GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 40%
และ PAT 7 (เลือก 1 วิชา) 10%

กลุ่มที่ 11 คณะครุศาสตร์ , คณะศึกษาศาสตร์
รูปแบบที่ 1 GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 20% และ PAT 5 30%
รูปแบบที่ 2 GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% , PAT 5 20%
และ PAT 1/2/3/4/6/7 (เลือก 1 วิชา) 20%

กลุ่มที่ 12 คณะศิลปกรรมศาสตร์ , คณะวิจิตรศิลป์ , คณะดุริยางฯ , คณะศิลปการออกแบบ
GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 10% และ PAT 4/6 (เลือก 1 วิชา) 40%

กลุ่มที่ 13 คณะนิเทศศาสตร์, คณะอักษรศาสตร์, คณะศิลปศาสตร์, คณะมนุษยศาสตร์
คณะรัฐศาสตร์ , คณะนิติศาสตร์ , คณะสังคมวิทยา , คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์
รูปแบบที่ 1 GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 30% และ PAT 1 20%
รูปแบบที่ 2 GPAX 20% , O-NET 30% และ GAT 50%
รูปแบบที่ 3 GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 30% และ PAT 7 20%

มีข่าวว่า
อันดับหนึ่งของประเทศสอบได้วารสารศาสตร์

ปี 2559 และ 2558 ผลสอบแอดมิชชั่น 6 อันดับแรกเลือกสายสังคมศาสตร์ทั้งหมด

ปี 2559 และ 2558 ผลสอบแอดมิชชั่น 6 อันดับแรกเลือกสายสังคมศาสตร์ทั้งหมด

นั่งดูข้อมูลเด็ก ๆ ทั้ง 12 คน พบว่า
ปี 2559 จุฬา 4 ธรรมศาสตร์ 2 ปี 2558 จุฬา 4 ธรรมศาสตร์ 1 เชียงใหม่ 1
แสดงว่า เด็กในประเทศไทยที่เก่งเลือกเรียนจุฬากับธรรมศาสตร์เป็นส่วนใหญ่
เด็กทั้ง 12 คน เป็นเด็กต่างจังหวัด 6 คน กรุงเทพฯ 6 คน
แสดงว่า เด็กเก่งทั้ง 76 จังหวัดมีจำนวนเท่ากับเด็กเก่งที่กรุงเทพฯ จังหวัดเดียว
เด็กทั้ง 12 คน มาจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา 3 คน ปรินส์ 2 คน สาธิตปทุมวัน 2
แสดงว่า โรงเรียนที่มีเด็กเก่งเข้าเรียนคงหนีไม่พ้น 3 โรงเรียนนี้ และโรงเรียนที่เหลือ

ศึกษานารี สายวิทย์ สอบติดยกห้อง
ศึกษานารี สายวิทย์ สอบติดยกห้อง

ก็อยากสรุปเหมือนกันนะครับ ว่า เดี๋ยวนี้เด็กเก่งเลือกเรียนสายสังคมมากกว่าสายวิทย์
แต่หลังผลสอบออก ข่าวโรงเรียนศึกษานารี ห้อง 6/3 จะดังกลบข่าวอื่นซะหมด
เด็กห้องนี้ 29 สายวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ สอบติดยกห้อง
ส่วนห้องอื่นก็สอบได้มหาวิทยาลัยของรัฐทั้งสอบตรง และแอดมิชชั่น เฉลี่ย 95%
http://www.thairath.co.th/content/633720

จากข้อมูลที่มีการเผยแพร่โดย ทปอ. ปี 2559
ถึงผลสอบนักเรียน ม.6 เข้ามหาวิทยาลัย มีผู้สมัครแอดมิชชั่นส์ทั้งสิ้น 105,046 คน
มีผู้ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์และตรวจร่างกาย จำนวน 85,834 คน
จากจำนวนรับทั้งสิ้น 156,216 คน
พบว่าคนที่สอบได้คะแนนสูง 6 อันดับแรก เลือกสายสังคมศาสตร์ มีดังนี้
ที่หนึ่ง เลือก คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ธรรมศาสตร์
จาก เตรียมอุดมศึกษา (สมัครรอบ 2)
ที่สอง เลือก คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก ปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่
ที่สาม เลือก คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ธรรมศาสตร์
จาก สุรนารีวิทยา นครราชสีมา
ที่สี่ เลือก คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก สาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ที่ห้า เลือก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก เตรียมอุดมศึกษา
ที่หก เลือก คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก อัสสัมชัญสมุทรปราการ
http://www.komchadluek.net/news/detail/229003
http://www.tlcthai.com/education/admission/111928.html
http://www.thairath.co.th/content/632708

สอดคล้องกับ ปี 2558 ที่ผลสอบแอดมิชชั่นได้คะแนนสูง
ที่หนึ่ง เลือก คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์-โฆษณา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน กรุงเทพฯ
http://www.thairath.co.th/content/504739
ที่สอง เลือก คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย เชียงใหม่
ที่สาม เลือก คณะรัฐศาสตร์ สาขาวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก สาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน กรุงเทพฯ
ที่สี่ เลือก คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ธรรมศาสตร์
จาก โรงเรียนสตรีวิทยา กรุงเทพฯ
ที่ห้า เลือก คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จาก โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ
ที่หก เลือก คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
จาก โรงเรียนผดุงปัญญา ตาก
http://teen.mthai.com/education/94484.html

หาข้อมูลขนาดจอภาพที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

ความละเอียดของจอคอมพิวเตอร์
ความละเอียดของจอคอมพิวเตอร์

ในอดีต สมัยหนุ่ม นั่งดูความละเอียดของจอภาพ (Resolution)
ก็มีอยู่ไม่กี่แบบ ที่จำได้ก็มี 1024*768 กับ 800*600 และ 640*480
ส่วนจอ 1280*1024 สมัยนั้นไกลฝันมาก ได้แต่มอง ๆ
หลัง ๆ มาเค้าใช้จอกันหลายแบบ หัวหน้ายังชวนใช้ตระกูลไออยู่พักหนึ่ง
ต่อมาหัวหน้าและผองเพื่อน ก็เปลี่ยนเป็นตระกูลซัมกันหมดแล้ว

ข้อมูล resolution ของ gotoknow.org แสดงใน truehits.net
ข้อมูล resolution ของ gotoknow.org แสดงใน truehits.net

วันนี้ 5 มิ.ย.59 หาข้อมูลความละเอียดว่าชาวโลกเค้าไปถึงไหน
ก็เข้าไปดูระบบรายงานพบว่า ชาวบ้านชาวช่องเข้าใช้จอแบบไหน
เวลาออกแบบเว็บเพจทั้งความกว้าง และความสูง ก็จะได้เข้ากับเค้าได้
สถิติเดือนพฤษภาคม 2559 ของ gotoknow.org ใน truehits.net
ที่เก็บไว้นั้น น่าจะแสดงเพียง 60 แบบ เห็นข้อมูลแล้วก็ต้องพิจารณาตัวเลข
ผู้ออกแบบเว็บเพจจะออกแบบให้จอภาพเหมาะกับทั้ง 60 แบบ นั่นก็เกินไป
ที่สนใจมี 3 แบบ คือ
กว้าง 360*640 (Galaxy S5)
กว้าง 320*568 (iphone5)
กว้าง 375*667(iphone6)

ส่วนที่เกิน 375 หรือ 411*731(Nexus 5X)
หรืออย่าง ipad ที่กว้าง 768*1024 ผมจัดไปอยู่ในกลุ่ม desktop หมดครับ
http://www.truehits.net/module/stats.php?G_CODET=r0028004&t=2&y=2016&m=05&d=&code=4&Web=gotoknow.org
#webdeveloper #responsive #viewport #pagespeed

ระบบและกลไก การกินป่าของคนไทย คนหนึ่งปีหนึ่งเฉลี่ยกินพื้นที่ปลูก 20 ตารางเมตร

ระบบข้าวโพด
ระบบข้าวโพด

เคยดูรายการ สามัญชนคนไทย
ตอน คนไทยกินป่าเป็นอาหาร

แล้วสนใจระบบและกลไกการกินป่าของคนไทย
ในรายการแจงไว้ชัดเจนว่ากลไกการสนับสนุนให้คนไทยกินป่ามี 5 กลุ่ม
1. กลุ่มชาวบ้าน
2. กลุ่มนายทุน/แปรรูป
3. กลุ่มเงินกู้/กองทุนทุกประเภท
4. กระบวนการส่งเสริม/นักส่งเสริมการเกษตร/นักวิจัย
5. นโยบายส่งเสริมจำนำ/ประกันราคา

หลังมีข่าว ก็มีการออกมาเคลื่อนไหวด้วยวิธีต่าง ๆ
ตามความสามารถของแต่ละบุคคล ผู้ว่าก็ทำอย่าง
นายกก็ทำอย่าง ทหารก็ทำอย่าง กรมป่าไม้ก็ทำอย่าง
ดาราก็ทำอย่าง โรงเรียนก็ทำอย่าง นักเลงคีย์บอร์ดก็ทำอย่าง
มีผลในแต่ละอย่างก็เพื่อช่วยป่า ช่วยเขา ไม่ให้โล้นไปกว่านี้

http://www.thaiall.com/blog/burin/7482/

หากมองระบบที่ทำให้เขาหัวโล้น ลองมามองภาพดู
ว่ามีขั้นตอนอย่างไร จะมองจากปัญหาไปต้นเหตุ หรือต้นเหตุไปปัญหาก็ได้
1. คนไทย ซื้อสัตว์มากินเป็นอาหาร
2. ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ซื้ออาหารสัตว์สำเร็จรูป
3. โรงงานอาหารสัตว์ ซื้อข้าวโพดและถั่วเหลือง
4. คนปลูกข้าวโพด ซื้อที่ดินไว้ปลูก โค่นต้นไม้ใหญ่
5. ที่ดินไม่พอ ต้องไปบุกรุกพื้นที่ป่า

คนกินป่าเป็นอาหาร
คนกินป่าเป็นอาหาร

ต.ย.โครงการนาแลกป่า
เพื่อให้ได้พื้นที่ป่าคืนมา หลังได้มาแล้วก็ต้องดูแลให้ต้นไม้เติบโตเป็นป่า
ข้อมูลในปี 2556 พบว่าพื้นที่ป่าสงวนถูกนำไปปลูกพืชไร่สูงถึง 1.5 ล้านไร่ หรือคิดเป็น 24% ของพื้นที่ป่าทั้งหมดในจังหวัดน่าน
โครงการนาแลกป่า ในปี 2558 สามารถคืนผืนป่ามาสู่การจัดการอย่างยั่งยืนได้ถึง 315.25 ไร่
1. กลยุทธ์นาแลกป่า เมื่อเกษตรกรคืนพื้นที่ป่า 4 ไร่ โครงการจะขุดนาให้ 1 ไร่
โดยขุดร่องน้ำ ปรับหน้าดิน เตรียมการจัดการน้ำ เพื่อให้ชาวบ้านปลูกข้าวหรือทำเกษตรแบบประณีต
2. กลยุทธ์ระบบน้ำแลกป่า เน้นการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำ
เพื่อการเกษตรให้กับกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อแลกกับพื้นที่ที่นำไปปลูกข้าวโพด
เนื่องจากมีน้ำไม่เพียงพอต่อการปลูกข้าวหรือพืชอื่นๆ
ซึ่งการมีน้ำพอใช้สำหรับการเกษตรก็ทำให้ได้ผลผลิตที่ดีขึ้นด้วยพื้นที่ที่น้อยลง
ปี 2558  โครงการขอคืนผืนป่าได้ทั้งหมด 108 ไร่
3. กลยุทธ์อาชีพทางเลือกแลกป่า เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดส่วนใหญ่ก็อยากจะเลิกปลูกข้าวโพด
และมีอาชีพใหม่ทดแทน ทางโครงการจึงได้จัดหาอาชีพทางเลือก
ได้แก่ อาชีพปลูกพืชหลังนา เกษตรผสมผสาน
และการชดเชยเป็นค่าตอบแทนสำหรับเกษตรกรสูงอายุที่ไม่สามารถทำอาชีพทางเลือกอื่น ๆ ได้
ปี 2558  โครงการได้สร้างอาชีพทางเลือกและขอคืนผืนป่าได้ทั้งหมด 108 ไร่
http://www.schoolofchangemakers.com/home/knowledge?knowledge_id=389

ต.ย. ดารา ยอมควักเงินส่วนตัว ร่วมปลูกป่าน่าน
เฉพาะพื้นที่ที่เคยเป็นไร่ข้าวโพด เป็นจิตอาสาที่อยากรักษาป่าต้นน้ำ
http://www.nationtv.tv/main/content/social/378498989/

ต.ย. กิจกรรมพิทักษ์ป่า
Nation TV – เว็บไซต์สถานีข่าวอันดับ 1 ของเมืองไทย
“ร่วมโพสต์ท่าต้นไม้ ติด hashtag ‪#‎ปลูกเลย‬ แสดงพลัง!”ฟื้นฟูป่าให้ลูกหลาน
http://www.nationtv.tv/main/content/social/378503463/
https://www.facebook.com/cartooneggcat/photos/a.136226233446771.1073741828.136187606783967/173673336368727/

ต.ย. อธิบายเรื่องข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ทำให้ผืนป่าที่หายไป ใครควรต้องรับผิดชอบบ้าง
สรุปว่า “คนไทย ที่บริโภคเนื้อไก่ขาวจากฟาร์มในระบบปิด
ซึ่งเลี้ยงด้วยอาหารที่มีส่วนผสมของข้าวโพด มีส่วนสนับสนุนการทำลายป่าจากการบริโภคเนื้อไก่ เฉลี่ยคนละประมาณ 20 ตารางเมตร
http://landjustice4thai.org/news.php?id=252

ต.ย. ลอยแพชาวบ้าน เมื่อทุนใหญ่ต้องการภาพลักษณ์ที่งามสง่า
มีหนังสือว่าต่อไปบริษัทจะรับซื้อข้าวโพดมีเงื่อนไขคือ
ต้องปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อย่างในพื้นที่ที่มีเอกสิทธิ์ถูกต้อง
หรือพื้นที่ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ
http://www.landjustice4thai.org/news.php?id=278

รู้ล่ะ ป่าเมืองน่านหายไปไหน ที่แท้มีไอ้ตัวร้ายทำลายป่าเมืองน่านอยู่นี่เอง

รู้ล่ะ ใครคือไอ้ตัวร้าย ทำลายป่าเมืองน่าน
รู้ล่ะ ใครคือไอ้ตัวร้าย ทำลายป่าเมืองน่าน

ดูสารคดี ThaiPBS รายการสามัญชนไทย ของ มาโนช พุฒตาล
เค้าชวนคิด เผื่อว่าจะทำให้เมืองไทยดีขึ้น กับปัญหาทำลายป่าต้นน้ำ
มีคำถามว่าป่าเมืองน่าน หายไปไหน
ขึ้นไปที่ความสูง 9500 ฟุต น่านฟ้า จังหวัดน่าน
นาทีที่ 2.23 เค้าบอกว่า “มีการลุกล้ำเปลี่ยนป่าต้นน้ำ เป็นภูเขาแห่งทุ่งข้าวโพด”
ซึ่งเป็นอาหารของไก่ แล้วเราก็ได้ปีกไก่บนมาเข้าไมโครเวฟในนาทีที่ 2.41
เค้าว่าคนไทยทุกคนกลายเป็นห่วงโซ่แห่งการทำลายล้าง
คุณมาโนช พุฒตาลบอกว่า “คนไทยกินป่าเป็นอาหาร”

การฟื้นฟูสภาพป่ามีหลายวิธี
คนกลุ่มหนึ่งใช้วิธีสร้างจิตสำนึก ตั้งวงดนตรี แต่งเพลง เล่นเพลง
ชื่อเพลง “รักป่านาน”
เห็นภาพภูเขาแล้ว เหมือนภูเขาหัวโล้นกำลังร้องไห้ ยามฝนตก
สิ่งที่เค้าต้องการจากการถางป่าคือข้าวโพด ปลูกได้ปีละ 4 เดือน
ตอนนี้เห็นหัวโล้น อีก 2 เดือนเค้ามาปลูกก็จะเขียว
ที่นี่คือป่าสงวนแห่งชาติ ไม่มีสิทธิตัดไม้ปลูกข้าวโพด
แต่พื้นที่นี้ยังบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ ชาวบ้านและชาวเขายังบุกรุกผืนป่ากันทุกปี
นาที 7.39 “ชาวบ้านก็บอกว่า อยากจับก็จับนายทุนสิ นายทุนจ้างเรามาทำ”
เราไม่สามารถสาวไปถึงนายทุน แต่ท่านปลัดรู้ และรู้กันทุกคน ทั้งประเทศ
นาที 8.44 “ข้าวโพดบุกรุกป่ารึเปล่านี่ ไม่ใช่นะ คนบุกรุก โทษข้าวโพดไม่ได้หรอก”
ข้าวโพดรุกคืบเข้ามาเรื่อย ๆ ด้วยเทคนิควางยาสลบต้นไม้
นาที 11.37 พื้นที่บุกรุกมีทั่วทั้งจังหวัด พื้นที่ป่าลดลง 7หมื่น – แสนไร่ต่อไป
นาที 12.55 ผืนป่าที่ลดลง สัมพันธ์กับ พื้นที่ปลูกข้าวโพด
ผลการศึกษา ทำวิจัยพบว่าพื้นที่ข้าวโพด 60% เคยเป็นพื้นที่ป่า
และเข้าไปทำไร่ข้าวโพดในพื้นที่ป่ามากขึ้น
นาที 14.05 พื้นที่ปลูกข้าวโพดของน่าน มาเป็นอันดับ 5 ของประเทศ
รวมข้าวโพดที่ได้กว่า 4 แสนตันต่อไป
นาที 14.13 พื้นที่ปลูกข้าวโพด
อันดับ 1 เพชรบูรณ์ 1,075,536 ไร่
อันดับ 2 นครราชสีมา 816,805 ไร่
อันดับ 3 จังหวัดเลย 825,735 ไร่
อันดับ 4 จังหวัดตาก 686,013 ไร่
อันดับ 5 น่าน
รวมพื้นที่ทั้งหมด 7,366,996 ไร่
ที่มา สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ปี 2555
นาที 14.30 การวิจัยพบว่า 90% ของข้าวโพด นำไปทำเป็นอาหารสัตว์ทั้งนั้นเลย
ไปให้สัตว์ในฟาร์มกิน ทั้งไก่ ทั้งไข่ ก็เลี้ยงไว้ให้พวกคนไทยนั่นหละครับกิน
นาที 14.50 มาดูความคุ้มค่า ความยั่งยืน ถ้าเราเอาข้าวโพด ไปแลกกับผืนป่า
แสดงว่ากำลังเอาอาหารและความมั่นคงของมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ
ไปแลกกับการปลูกข้าวโพดเท่านั้น
นาที 15.44 ผลสำรวจ คนไทยกินไก่ เฉลี่ย 15 กิโลกรัมต่อปี
คิดเป็นไก่ประมาณ 10 ตัว คนไทย 70 ล้านก็กินไก่ประมาณ 700 ล้านตัว
จำเป็นต้องมีอาหารมาป้อนไก่ ใช้ข้าวโพดประมาณ 53% เป็นวัตถุดิบ
ทำให้เราต้องผลิตข้าวโพดถึง 6.2 ล้านตัน ก็ต้องปลูกบนผืนดิน
นาที 16.43 คนไทยกินไก่ ไก่กินข้าวโพด ไปกระทบผืนป่าภาคเหนือ
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเมืองไทย เช่น อเมริกา เขาไปจ้างบราซิลถางป่าอเมซอล
เพื่อปลูกข้าวโพดมาให้วัวอเมริกากิน
นาที 17.31 พูดถึงเพลง “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” ของวงเฉลียง
เค้าว่า กินแฮมเบอเกอร์ 1 ชิ้น สะเทือนถึงผืนป่าอเมซอลในบราซิล
เช่นเดียวกับการกินไส้กรอก 1 ชิ้น สะเทือนถึงผืนป่าจังหวัดน่าน
นาที 18.30 อยากจะกินไก่ กลายเป็นทำร้ายป่า
นาที 30.40 ชาวบ้านยิ่งทำงานหนัก ยิ่งรายได้น้อย ยิ่งขาดทุน ชีวิตลำบากกว่าเดิม
นายทุนที่เอาข้าวโพดไปทำอาหารสัตว์ กลับรวยขึ้น
นาที 35.01 มี 5 พลังร่วมแห่งการทำลาย
1. กลุ่มชาวบ้าน
2. กลุ่มนายทุน/แปรรูป
3. กลุ่มเงินกู้/กองทุนทุกประเภท
4. กระบวนการส่งเสริม/นักส่งเสริมการเกษตร/นักวิจัย
5. นโยบายส่งเสริมจำนำ/ประกันราคา
นาที 38.43 นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย บอกว่า ส่งเสริมให้ปลูกข้าวโพด
แต่ไม่ส่งเสริมให้ทำลายป่า ไม่มีใครทำอย่างนั้น
เราต้องไปแก้ที่การจัดการ มีมูลค่าทั้งระบบอย่างน้อย 1 ล้านล้าน
นาที 40.01 พูดอีกล่ะ คนไทยกินป่าน่านเป็นอาหาร
นาที 40.45 โรงเรียนมีแนวคิดอนุรักษ์ป่าด้วยการทำโครงการ 1 คน 1 ต้น 1 ปี รวมครูด้วย
นาที 41.58 ถ้าอยากได้ป่าตรงที่โล้นคืน ชาวบ้านก็ยอมคืน แล้วคุณต้องมีที่นาคืนให้เขาทำกิน
มีคนยอมร่วมโครงการป่าแลกนา คือได้นา 1 ไร่ แลกพื้นที่ป่า 3 ไร่
ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากใครคนใดคนหนึ่ง เกิดจากทุกภาพส่วน
โดยเฉพาะ “ตัวเรา สามัญชนคนไทย ที่ต้องกินต้องอยู่”
นาที 45.30 เซ็งเป็ด หรือเซ็งไก่ดี จะไปซื้อไก่กิน เราเป็นไอ้ตัวร้ายทำลายป่าเมืองน่าน
เราต้องกิน ต้องใช้ ต้องบริโภค แต่ไม่มีวิธีกินให้ยั่งยืนหรือ ต้องรู้ต้นกำเนิด ไม่กินทิ้งกินขว้าง

รายชื่อสถาบันการศึกษาที่เปิดรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อเพื่อเป็นพยาบาล

beautiful nurse
beautiful nurse

จากคำถามที่ว่ามีสถาบันการศึกษาใดบ้าง
เปิดรับนักเรียน ม.6 เข้าเรียนพยาบาลเป็นเวลาประมาณ 4 ปี
ค้นดูก็พบว่ามีอยู่หลายสถาบันที่เปิดรับ มีดังนี้

  1. มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
  2. มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  3. มหาวิทยาลัยชินวัตร
  4. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  5. มหาวิทยาลัยนครพนม
  6. มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์
  7. มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
  8. มหาวิทยาลัยนเรศวร
  9. มหาวิทยาลัยบูรพา
  10. มหาวิทยาลัยพะเยา
  11. มหาวิทยาลัยพายัพ
  12. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  13. มหาวิทยาลัยมหิดล
  14. มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ
  15. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
  16. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
  17. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
  18. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
  19. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
  20. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
  21. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  22. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
  23. มหาวิทยาลัยสยาม
  24. มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
  25. มหาวิทยาลัยหัวเฉียว
  26. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
  27. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  28. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
  29. มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  30. วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก
  31. วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ
  32. วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ
  33. วิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ
  34. วิทยาลัยสภากาชาดไทย
  35. วิทยาลัยเซนต์หลุย
  36. สถาบันพระบรมราชชนก
  37. สภาการพยาบาล
พยาบาล 2559
พยาบาล 2559

http://www.unigang.com/Article/36390
http://www.enttrong.com/tag/73

หนังสือรับรองการศึกษาและใบรายงานผลการศึกษา

ใบแสดงผลการศึกษา
ใบแสดงผลการศึกษาแ

ถึง ศิษย์เก่าโยนก ศิษย์เก่าเนชั่น และบัณฑิตใหม่เนชั่นที่กำลังจะสำเร็จการศึกษา
ว่าท่านใดต้องการ หนังสือรับรองการศึกษา (Certification) หรือ ใบรายงานผลการศึกษา (Transcript)
สามารถติดต่อขอเอกสารได้ที่งานทะเบียนและประมวลผล มหาวิทยาลัยเนชั่น
ขั้นตอนการขอหนังสือรับรองการศึกษา หรือ ใบรายงานผลการศึกษา
1. โทรสอบถามรายละเอียด
โทร. 054265170 ต่อ 130 หรือ 131
2. ไปถ่ายภาพที่ร้านยิ้มหวาน หรือร้านเลเซอร์ติดโรงเรียนอรุโณทัย
มีชุดครุยของมหาวิทยาลัยเนชั่น ให้ยืม เพื่อนำรูปมาติดเอกสาร
– หนังสือรับรองการศึกษา ใช้รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว ต่อเอกสาร 1 ฉบับ
– ใบรายงานผลการศึกษา ใช้รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว ต่อเอกสาร 1 ฉบับ
3. มาทำยื่นคำร้องของเอกสารที่มหาวิทยาลัย หรือส่งเอกสารทางไปรษณีย์
ค่าธรรมเนียบฉบับละ 100 บาท
เท่ากันทั้งหนังสือรับรองการศึกษา และ ใบรายงานผลการศึกษา
4. รอเจ้าหน้าที่ดำเนินการ 3 วัน
5. ติดต่อรับเอกสารด้วยตนเอง หรือประสานส่งทางไปรษณีย์

สมาร์ทโฟนของไมโครซอฟท์ อย่าง Lumia ไม่น่าจะตายได้ แต่ปี 2559 ก็ต้องออกตลาดไป

ที่มาของคำว่า Lumia ที่ชวนให้ชาวสเปนนึกถึง แสง และ สไตล์
ส่วนในฟินแลนด์ หมายถึง หิมะ
http://news.siamphone.com/news-06958.html

หลายปีก่อนหน้านี้ Nokia พ่ายแพ้ในตลาดโทรศัพท์ที่เปลี่ยนไปเป็นสมาร์ทโฟน
จนต้องขายกิจการ เพื่อพยุงกิจการให้อยู่ต่อไป
เมื่อ Microsoft ตกลงซื้อกิจการ Nokia มูลค่า 7.2 พันล้านเหรียญ เมื่อปี 2556
สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้น ตามที่ Microsoft คาด
http://apptube.blogspot.com/2013/09/microsoft-nokia-72.html

ในสงครามสมาร์ทโฟน ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
มีการเปลี่ยนชื่อจาก Nokia Lumia เป็น Microsoft Lumia
แต่ก็ไม่ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น พบว่า พฤษภาคม 2559
วินโดวส์ โฟน มีส่วนแบ่งตลาดในตลาดโลกไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ และลดลงต่อเนื่อง
จึงมีนโยบาย (Policy) “ลดขนาดธุรกิจสมาร์ทโฟน” ด้วยการให้พนักงาน 1850 ตำแหน่งออกงาน
ส่วนใหญ่เป็นอดีตพนักงานของโนเกียในฟินแลนด์
http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000052692

smartphone os in Q4 of 2015
smartphone os in Q4 of 2015

ข้อมูล Market Share ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2015 โดยประมาณ
1. Android 80.7%
2. iOS 17.7%
3. Windows 1.1%
4. Blackberry 0.2%
5. Other 0.2%
http://www.macthai.com/2016/02/19/ios-android-market-share-q4-15-gartner/