10. ตรวจองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งเครือข่าย และระบบปฏิบัติการ
ส่งอีเมลไม่ไปจะทำอย่างไร
10. ตรวจองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งเครือข่าย และระบบปฏิบัติการ
บล็อกที่มีเนื้อหาเน้นทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
เคยฟัง คุณภัทรา มาน้อย ที่มาพูดเมื่อศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2559
ตามคำเชิญของ อ.วิเชพ ใจบุญ ให้มาพูดคุยกับนักศึกษาที่ห้อง 1203
เน้นเรื่องการคิดเชิงวิเคราะห์ โดยใช้เครื่องมือต่าง ๆ ช่วยจัดการความคิด
และเล่าเพิ่มเติมว่า ทักษะการคิดที่สำคัญมี 4 การคิด (Thinking)
1. การคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical thinking)
2. การคิดเชิงสังเคราะห์ (Synthesis thinking)
3. การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical thinking)
4. การคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative thinking)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10153971781483895&set=a.10153889333078895.1073741891.814248894
—
การปฏิเสธการเรียนรู้เกิดขึ้นได้กับเด็ก ๆ
การแก้ไขนั้น คุณหมอสินดีแนะนำให้ดูว่าเขามีอาการอย่างไร
แล้วแก้ไขไปตามอาการ ถ้ามีความอยากเรียนรู้เกิดขึ้นแล้ว
ค่อยชวนเด็ก ๆ คิดกันต่อไป
ส่วนจะคิดแบบใด คงต้องวางแผนให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
—
เมื่อไปค้นผ่าน google.com หานิยามศัพท์ของการคิดก็พบว่า
1. การคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical thinking)
หมายถึง ความตั้งใจแยกแยะ เพื่อหาองค์ประกอบย่อยของเหตุการณ์ เรื่องราว เนื้อหาหรือประเด็น
หาความสัมพันธ์เชิงเหตุผล หรือหาสภาพความเป็นจริงของสิ่งนั้น
อ้างอิงจาก http://tishafan-analysisthinking.blogspot.com/
—
2 การคิดเชิงสังเคราะห์ (Synthesis thinking)
หมายถึง ความตั้งใจดึงองค์ประกอบต่าง ๆ มาหลอมรวมหรือถักทอภายใต้โครงร่างใหม่
อย่างเหมาะสมตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ เป็นมิติการคิดที่ต้องออกแรง
ทั้งในด้านการค้นคว้า รวมรวมข้อมูล อาจมีจำนวนมาก และกระจัดกระจาย
โดยคัดเฉพาะส่วนที่เกี่ยวโยงกับเรื่องที่คิด แล้วนำเข้าเตาหลอมรวมแนวคิด
ให้อยู่ภายใต้ตัวแบบโครงร่างเดียวกันที่กำหนดขึ้น เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์
อ้างอิงจาก http://www.novabizz.com/NovaAce/Intelligence/synthesis-thinking.htm
—
3. การคิดเชิงวิพากษ์ (Critical thinking)
หมายถึง ความตั้งใจพิจารณาตัดสินเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
โดยไม่เห็นคล้อยตามข้อเสนอ ไม่ด่วนสรุปการเห็นคล้อยตาม
เป็นการตั้งคำถามท้าทาย หรือโต้แย้งสมมติฐานที่อยู่เบื้องหลัง
พยายามเปิดกว้างทางความคิดออกสู่ความแตกต่างในด้านต่าง ๆ มากขึ้น
ให้ได้ประโยชน์มากกว่าเดิม
อ้างอิงจาก https://www.gotoknow.org/posts/386825
—
4. การคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative thinking)
หมายถึง ความตั้งใจมองหาความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ ที่ขยายขอบเขตความคิด
ออกไปจากกรอบความคิดเดิมที่มีอยู่สู่ความคิดใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
เพื่อค้นหาคําตอบที่ดีที่สุดให้กับปัญหาที่เกิดขึ้น และแตกต่างไปจากเดิม
เป็นความคิดที่ไม่เคยมีมาก่อน (New Original)
ใช้การได้ (Workable) และมีความเหมาะสม (Appropriate)
ที่เรียกว่า “นวัตกรรม” (Innovation)
อ้างอิงจาก http://www.novabizz.com/NovaAce/Intelligence/Creative_Thinking.htm
—
การเรียนรู้ (Learning)
หมายถึง กระบวนการที่เนื่องมาจากประสบการณ์ตรงและประสบการณ์อ้อม
กระทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมค่อนข้างถาวร
อ้างอิงจาก https://sites.google.com/site/giftindependent/hlak-kar/hlak-kar-reiyn-ru
—
กรณีไม่อยากเรียนรู้
คุณหมอสินดีแนะนำในทำนองว่า ให้สังเกตอาการว่ามีปัญหาอะไร ก็ต้องแก้ไขไปตามอาการ
อ้างอิงจาก http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9550000002935
—
คุณภัทรา มาน้อย ยังได้จัดกิจกรรมฝึกปฏิบัติการให้นักศึกษา
ได้ใช้ สมองสองซีก และอธิบายความแตกต่างของชายหญิง
ว่าการคิดถือเป็นการใช้สมองของมนุษย์ทั้งซีกขวา และซีกซ้ายได้อย่างสมดุล
ซีกขวา – เน้นจินตนาการ ศิลปะ และดนตรี
ซีกซ้าย – เน้นการมีเหตุผล และการคำนวณ
อ้างอิงจาก http://www.kiddeetumdee.net/book/book_19.html
หลักการในการขอโทษลูกน้อง
จากหนังสือ The Worst Case Scenario Business Survival Guide
หัวข้อ How to apologize to anyone
http://www.nuttaputch.com/7-principles-of-saying-sorry-for-manager/
1. นึกถึงสิ่งที่ผู้ฟังอยากฟัง = ก่อนขอโทษ ต้องเตรียมคำตอบโดนสวนกลับด้วย
เช่น รู้ว่าผิดแล้วหัวหน้าทำ ๆ ไม อะไรทำนองนี้
(Determine what your listener wants to hear)
2. ทบทวนว่าเขารู้สึกแบบนี้มาเท่าไรแล้ว = จะเร็วจะช้า ไปขอโทษไว้ก่อนน่าจะดีกว่า แต่ถ้าลืมไปแล้วล่ะ หรือนานเกินไปล่ะ
(Determine how long they have felt this way)
3. ดูว่ามีทางแก้ไขอื่นนอกจากขอโทษหรือไม่ = ลูกน้องอาจต้องการซองหนา ๆ หรือกุหลาบสีขาวสักช่อ จัดเลย
(Determine if a correction avobe and beyond the apology is required)
4. กล่าวขอโทษด้วยตัวเอง = อีเมล หรือจดหมายน้อย ไม่ดีเท่าขอโทษด้วยตนเอง
(Apologize in person)
5. ขอโทษอย่างเรียบง่ายและจริงใจ = ไม่ต้องมีพานพุ่มหรือขนมเค๊กไอศครีมก็ได้ จริงใจกว่า
แต่ถ้าคาดว่าไปขอโทษแล้วจะเติมเชื้อเพลิง ก็ให้ “เฉย ๆ ไปเลยดีกว่า” .. เหมือนในเพลง
(Apologize simply and sincerely)
6. รับฟัง = อยากฟังลูกน้องให้เริ่มต้นด้วยคำว่าขอโทษ แล้วเค้าจะพูดกับหัวหน้า
(Listen)
7. ขอโทษอีกครั้ง = ขอโทษหลาย ๆ ครั้ง ลูกน้องชอบฟัง
(Apologize again)
https://books.google.co.th/books?id=h11juvL9UlsC&pg=PT92&lpg=PT92&dq=The+Worst+Case+Scenario+Business+Survival+Guide+apology&source=bl&ots=COlu9nbLPn
—
สิ่งที่ต้องคำนึงให้มาก คือ ต้องแน่ใจว่าไม่ได้เอาน้ำมันไปราดกองไฟ
บทบาทครู ที่ต้องพัฒนาทักษะนักเรียน
มีตัวอย่างให้เห็นใน Social Media
แล้วผมก็ชอบติดตาม อ.อดิศักดิ์ จำปาทอง
เพราะท่านมักจะแชร์ประเด็นความรู้
ให้ข้อคิดที่มีประโยชน์
ได้รู้จักท่านแล้วรู้สึกดี ท่านมองอะไรเป็นบวก
ทำให้รู้สึกดี ช่วยกระตุ้มต่อมคิดบวกของผมเสมอ
ครั้งนี้ท่านแชร์มาในกลุ่มของมหาวิทยาลัย เรื่อง
“16 ทักษะที่นักเรียนจำต้องเรียนรู้วันที่เพื่อเติบโตในวันหน้า”
จึงได้นำไปเล่าให้นักศึกษาฟังครับ .. ว่าพวกเขาควรมีทักษะอะไรบ้าง
http://www.weforum.org/agenda/2016/03/21st-century-skills-future-jobs-students
[การรู้พื้นฐาน Foundational Literacies]
1. การอ่านออกเขียนได้ (Literacy)
2. การรู้คิดคำนวณ (Numeracy
3. การรู้วิทยาศาสตร์ (Scientific literacy)
4. การรู้ไอซีที (ICT literacy)
5. การรู้การเงิน (Financial literacy)
6. การรู้วัฒนธรรม และพลเมือง (Cultural and civic literacy)
[สมรรถนะ Competencies]
7. การคิดเชิงวิพากษ์ และแก้ปัญหา (Critical thinking/problem-solving)
8. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
https://www.facebook.com/wiriyah
9. การสื่อสาร (Communication)
10. การร่วมมือ (Collaboration)
[ลักษณะนิสัย Character Qualities]
11. อยากรู้อยากเห็น (Curious)
12. ริเริ่ม (Initiative)
13. มุ่งมั่น/อดทน (Persistence/grit)
14. ปรับตัวได้ (Adaptability)
15. ผู้นำ (Leadership)
16. เข้าสังคมและตระหนักในวัฒนธรรม (Social and Cultural awareness)
ปัจจุบันข้อมูลข่าวสารในโลกไซเบอร์แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว บางคนก็รับข้อมูลข่าวสารโดยไม่มีการกลั่นกรอง รับข่าวทุกแหล่งและปักใจเชื่อทุกเรื่องราว บางคนอยู่ในโลกไซเบอร์แต่ไม่รับข้อมูลข่าวสารเลยก็มี บางคนรับข้อมูลมาแต่ไม่ได้กลั่นกรองเก็บเป็นความรู้ฝังลึก บางคนทำตัวเป็นผู้พิพากษาตัดสินผู้คนว่าผิดถูกด้วยข้อมูลอันน้อยนิด กระแสแจกทองผ่านการส่งเลขใต้ฝาขวดเครื่องดื่มเพื่อชิงโชค ทำให้มีผู้คนไม่น้อยร่วมกิจกรรม แล้วมิจฉาชีพก็อาศัยกระแสนี้สร้างแฟนเพจปลอมในเฟสบุ๊คในชื่อเดียวกันจนมีคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนเพจของจริงที่จะแจกทอง เข้าไปร่วมกดไลค์ กดแชร์ และกดคอมเมนท์กันอย่างสนุกสนาน
เมื่อ 12 มีนาคม 2559 มีข่าวว่ามิจฉาชีพสร้างบัญชีปลอมในเฟสบุ๊ค แล้วหลอกสาวอายุ 39 ปีว่าเป็นผู้โชคดีที่ได้เงิน 10 ล้านกับรถเบนซ์ 1 คัน แต่แลกกับการส่งบัตรเติมเงินทรูมันนี่ 2000 บาท เป็นการลงทุนที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับลาภก้อนโตที่กำลังจะได้ สาวพิจารณาแล้ว แม้รู้ว่าเสี่ยงแต่ก็ยอมและส่งภาพบัตรเติมเงินของทรูมันนี่พร้อมรหัสไปให้ เมื่อส่งไปและเงินในบัตรถูกโอนออกไปแล้ว พบว่าเฟสบุ๊คของมิจฉาชีพได้ปิดตัวหนีไป จึงรู้ตัวว่าถูกหลอกและเข้าแจ้งความ ปัญหาทำนองนี้ไม่ใช่ครั้งแรก และไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เชื่อว่ามีการหลอกลวงแบบนี้เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ที่เราทราบและปรากฏมาเป็นข่าวมีเพียงส่วนน้อย เพราะส่วนหนึ่งไม่แจ้งความ และที่แจ้งความก็อาจไม่มีนักข่าวนำมาเขียนข่าว
ความโลภที่อยากได้มากแต่ลงทุนน้อยเป็นกันได้ทุกคน มิจฉาชีพอาศัยความโลภในใจของมนุษย์ดำเนินการในลักษณะที่เรียกว่า ตกทอง โดยใช้สิ่งมีค่ามากมาล่อหลอก แลกกับค่าใช้จ่ายหรือทรัพย์สินที่มีค่าน้อยกว่า เมื่อเห็นว่าตนเองจะได้ประโยชน์มากกว่าก็ยอมแลก กว่าจะรู้ก็พบว่าถูกหลอกและไม่ได้ลาภก้อนโตดังที่คาดไว้ ที่เป็นเช่นนี้ก็อาจเป็นเพราะไม่ติดตามข่าวสารที่ปรากฏตามสื่อ ไม่ตระหนักข้อมูลจากข่าวตกทองที่ปรากฏให้เห็นบ่อยครั้ง ด้วยวิธีการที่หลากหลายแปลกใหม่ อาทิ หลอกให้ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม หลอกว่าจะโอนเงินหลายสิบล้านขอให้โอนค่าใช้จ่ายไปให้ก่อน หลอกว่าเป็นหนุ่มหล่อการงานดีจะแต่งงานด้วยแต่ต้องใช้เงิน หลอกโอนเงินค่ารับพัสดุที่ส่งมาจากต่างประเทศ หลอกให้ส่งบัตรทรูมันนี่พร้อมรหัสไปให้ จะมีเทคนิคใดที่แปลกใหม่กว่าที่กล่าวไว้ข้างต้น คงต้องติดตามในสื่อกันต่อไป เพราะเชื่อได้ว่าข่าวนี้จะไม่ใช่ข่าวสุดท้าย ยังมีผู้คนอีกมากไม่ได้อ่านข่าวเหล่านี้ หรืออ่านแล้วไม่ได้เก็บมาใส่ใจ แล้วนำมาเป็นข้อมูลเตือนตนเองเมื่อต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจว่าจะลงทุนยอมเสี่ยงแลกลาภก้อนโตหรือไม่
ดราม่าไปตามที่นักข่าวเขียนเล่า .. บอกซ้ายก็ซ้าย บอกขวาก็ขวา เขาบอกว่าอย่าเชื่อข่าว
มีข้อมูลมาแชร์ครับ
ข้อมูลที่ 1 ขโมยมะพร้าว 3 ลูกไปให้เมียท้อง เจ้าของเรียกค่าเสียหาย 5 หมื่น ไม่จ่ายต้องเข้าคุก
https://www.facebook.com/dailynewsonlinefan/posts/1084607568249415
http://www.thairath.co.th/content/586573
ข้อมูลที่ 2 ชาวเน็ตแห่เห็นใจหนุ่มรักเมีย บอกว่าเจ้าของมะพร้าวแร้งน้ำใจ
ดราม่ากันยกใหญ่
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1457237211
ข้อมูลที่ 3 เจ้าของบอก เข้ามาขโมยของนับสิบ จนต้องติดกล้องแล้วถึงจับได้นี่หละ
และรู้สึกสังคมไม่ให้ความเป็นธรรมกับเจ้าของมะพร้าว
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1457252214
ข้อมูลที่ 4 คุณบุ๋มไปสืบมาแล้ว ประวัติผู้ขโมยไม่ธรรมดา
พึ่งพ้นโทษเสพยา และมีเพื่อนร่วมด้วย ออกหมายจับอยู่
ใครที่ดราม่าไปก็คงไม่แปลก
นักข่าวเค้าเลือกให้ข่าวครึ่งเดียว สื่อมาอย่างนั้น เขียนให้ดูว่าคนร้ายน่าเห็นใจ
แต่ใครนำไปใส่สีตีไข่ ป้าบอกว่าจะฟ้องตาม พรบ.คอมด้วยครับ
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1457194546
http://news.mthai.com/hot-news/general-news/482081.html
อินเทอร์เน็ตไร้สายในเครือข่ายท้องถิ่นจะบริการได้ประมาณ 100 เมตรในที่โล่ง ส่วนองค์กรใดที่เช่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่าน Leased Line หรือ ADSL หรือ 3G ก็จะปล่อยสัญญาณวายฟาย (Wi-Fi) ให้บริการแก่สมาชิก อุปกรณ์ฝั่งผู้ให้บริการเรียกว่า Access Point ส่วนฝั่งผู้ใช้เรียกว่า Adapter หลายครั้งได้รับทราบปัญหาว่าสัญญาณวายฟายไม่เร็วแรงดั่งใจหมาย บางครั้งผู้เขียนก็พบด้วยตนเองเมื่อไปใช้สัญญาณในห้างสรรพสินค้า จึงได้ร่วมกับอาจารย์อนุชิต ยอดใจยา ทดสอบว่าสภาพแวดล้อมแบบใดที่มีผลต่อการใช้บริการบ้าง
ทดสอบวาง Access Point ไว้คนละชั้นกับอุปกรณ์ของผู้ใช้ ในสภาพแวดล้อมแรกอยู่ห่าง 10 เมตร พบว่าใช้งานได้ปกติจะดาวน์โหลดหรือเปิดคลิ๊ปก็ทำได้ แล้วย้ายไปสภาพแวดล้อมที่สองอยู่ห่าง 30 เมตรคนละชั้น และผ่านกำแพงหนึ่งชั้น ใช้อุปกรณ์ 3 ตัวพบว่าตัวแรกไม่สามารถเข้าเกาะสัญญาณได้ ตัวที่สองเกาะสัญญาณได้แต่การตอบสนองได้ไม่ดี ตัวที่สามพบว่าผลการ ping มี Request time out บางครั้ง แต่สามารถเปิดคลิ๊ปจาก youtube.com ได้ จึงสรุปในเบื้องต้นว่าคุณภาพอุปกรณ์เป็นปัจจัยหนึ่งในการเข้าใช้บริการวายฟาย หากจะแก้ปัญหาก็ต้องดูเป็นรายอุปกรณ์ แล้วย้ายไปในสภาพแวดล้อมที่สามได้ขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม ห่างประมาณ 20 เมตร พบว่า ถ้าเครื่องที่ขยับเข้าไปเกาะสัญญาณได้และใช้เน็ตอยู่ เครื่องที่อยู่ไกล 30 เมตรจะมีปัญหาขึ้นมา ต้องขอให้เครื่องที่อยู่ใกล้หยุดก่อน เพื่อให้ Access Point กลับมาให้บริการเครื่องที่อยู่ไกลเพิ่มขึ้น
ณ จุดทดสอบนี้ ได้นำเครื่องต่างประเภทมาวางเรียงกัน 4 เครื่องทั้งเครื่องตั้งโต๊ะ สมาร์ทโฟน และโน๊ตบุ๊ค แต่มีเครื่องหนึ่งอยู่ใกล้กว่าเครื่องอื่นราว 1 เมตร ถ้าเครื่องที่อยู่ใกล้ดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ พร้อมเปิดคลิ๊ปจะทำให้อีก 3 เครื่องที่เหลือดูคลิ๊ปแล้วกระตุก จากนั้นได้เพิ่มการทดสอบยืนบังคลื่นก็จะพบว่าสัญญาณอ่อนลงในทันทีคลิ๊ปที่เคยดูได้ไหลลื่นจะกระตุก สำหรับการตรวจสอบค่าความแรงของสัญญาณวายฟาย ด้วยค่า dBm ที่มีค่าติดลบ ยิ่งติดลบน้อยยิ่งดี แต่ถ้าติดลบเกิน -70 ก็ไม่เหมาะสมที่จะใช้งานแล้ว การตรวจบนเครื่องผู้ใช้ทำได้ด้วยโปรแกรม Xirrus หรือ inSSIDer เพื่อหาค่าความแรงของสัญญาณ ซึ่งอุปกรณ์ Access Point ก็สามารถรายงานค่าสัญญาณนี้ได้เช่นกัน และค่าที่ได้ก็ไม่แตกต่างกันนัก สรุปว่าจำนวนอุปกรณ์เพียง 4 ตัวก็สามารถทำให้ Access Point แบบ 802.11b/g เครื่องนี้ให้บริการได้จำกัดสำหรับสภาพแวดล้อมที่สามที่จำลองเพื่อการทดสอบครั้งนี้แล้ว
http://inssider.en.softonic.com/
บุญประเสริญ สุรักษ์รัตนสกุล และบุญช่วยชาติทอง (2556) ได้เขียนบทความทางวิชาการเรื่อง เทคนิคการค้นหาและเก็บเกี่ยวความต้องการทางด้านซอฟท์แวร์ โดยสนใจเรื่องกระบวนการทางวิศวกรรมความต้องการ พบว่าขั้นตอนการเก็บเกี่ยวความต้องการทางด้านซอฟท์แวร์ มีดังนี้ 1) การกำหนดและค้นหาแหล่งที่มาของปัญหา 2) การวางแผนเตรียมพร้อมรับปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการค้นหาและการเก็บเกี่ยว 3) การระบุหลักการและเทคนิคต่าง ๆ ที่ใช้ในการเก็บเกี่ยวความต้องการให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายด้วยวิธีการที่เหมาะสม 4) การตรวทานความต้องการที่ได้เก็บเกี่ยวมาโดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง แล้วทำการะบุเป็นความต้องการที่นำไปพัฒนาจริง
โดยหัวข้อรูปแบบการดำเนินงานเมื่อมีการเก็บเกี่ยวความต้องการ ซึ่งวิธีการเก็บเกี่ยวนี้ผู้วิจัยได้เสนอได้ใช้วงรอบคล้ายก้นหอย (Spiral Model) เพื่อให้เกิดความเข้าใจหรือการยอมรับระหว่างกัน จึงมีการเก็บข้อมูลความต้องการ และปรับปรุงข้อมูลตลอดเวลาจนกระทั่งได้ข้อตกลงร่วมกันระหว่างผู้ว่าจ้าง ผู้ใช้งานและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในโครงการพัฒนาระบบซอฟท์แวร์
อ้างอิงจาก
http://journal.hcu.ac.th/pdffile/jn1632/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%2012.pdf
ในวารสาร มฉก.วิชาการ หน้า 169
ปีที่ 16 ฉบับที่ 32 มกราคม – มิถุนายน 2556
https://www.facebook.com/groups/thaiebook/590923841058438/
นอกจากนี้ในบทความอ้างอิง
โปรแกรม Caliber ของ Borland ที่ใช้ในการรวบรวมความต้องการของผู้ว่าจ้าง
เพื่อทำให้การทำโปรเจค (Project) ประสบความสำเร็จ
และมีความมั่นใจก่อนดำเนินการ (มีคลิ๊ป)
Manage Agile requirements through visualization and collaboration.
http://www.borland.com/en-GB/Products/Requirements-Management/Caliber