8 มิ.ย.54 กกต. มีมติ 4:1 หลังการประชุมช่วงค่ำวันที่ 8 มิ.ย. ให้ “พรรคเพื่อฟ้าดิน” ปลดป้ายหาเสียง “อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” โดยให้เหตุผลว่าผิดกฎหมายเลือกตั้ง และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง
นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า อาจมีการพิจารณาเสนอให้ใบเหลืองหรือใบแดง หรืออาจถึงขั้นให้ยุบพรรคการเมืองที่จัดทำ ได้เพราะป้ายดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งอย่างชัดเจน เนื่องจากมีการระบุวันที่ 3 ก.ค. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง และมีการชักชวนให้โหวตโน
ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการจัดสถานที่ปิดประกาศและที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งในบริเวณสาธารณสถานซึ่งเป็นของรัฐ ข้อ 9. ระบุว่า กรณีพรรคการเมือง หรือผู้สมัครรับเลือกตั้งปิดประกาศหรือปิดแผ่นป้ายไม่ถูกต้องหรือเกินขอบเขตที่จัดไว้ให้ ให้หัวหน้าหน่วยงาน มีอำนาจสั่งพรรคการเมืองหรือผู้สมัครแล้วแต่กรณีให้แก้ไขให้ถูกต้องภายในกำหนด และหากไม่ดำเนินการแก้ไขภายในกำหนดเวลาดังกล่าวให้ดำเนินการรื้อถอน หรือปลดออกได้ ทั้งนี้ โดยไม่เป็นการลบล้างความผิดที่อาจเกิดขึ้นตามกฎหมาย
ขณะที่ พระราชบัญญัติ รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ตามมาตรา 10 ระบุว่า การโฆษณาด้วยการปิด ทิ้งหรือโปรย แผ่นประกาศหรือใบปลิวในที่สาธารณะ จะกระทำได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้หรือไม่อนุญาตได้ และมาตรา 11 ระบุว่า หากไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้สั่งเป็นหนังสือ ปลด รื้อ ถอน ขูด ลบหรือล้างข้อความหรือภาพนั้นภายในเวลาที่กำหนด
นายสมชัย กล่าวอีกว่า เมื่อพิจารณาแล้ว กกต.เห็นว่า กกต.กทม.ซึ่งเป็นผู้ดูแลในพื้นที่มีป้ายต้องไปดำเนินการทำหนังสือไปถึงพรรคการเมืองและผู้ว่า กทม.ในดำเนินการให้ปลดป้ายทุกขนาดออก แต่เมื่อปลดป้ายออกไปแล้วความผิดก็จะยังคงไม่ถูกลบล้างไปด้วย
พันธมิตรฯ โวย บอกยังไม่ได้คำสั่งไม่ต้องทำตาม
ด้านนายประพันธ์ คูณมี โฆษกคณะกรรมการป้องกันราชอาณาจักรไทย กล่าวปราศรัยว่า กกต. มีมติ 4 ต่อ 1 ให้ปลดป้ายรณรงค์โหวตโนของพันธมิตรฯ ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดข้อเท็จจริงที่ชัดเจน และยังไม่มีหนังสืออย่างเป็นทางการจากกกต.ถึงพรรคเพื่อฟ้าดิน ฉะนั้นวันนี้ในทางปฏิบัติก็คือยังไม่มีคำสั่งใดๆจากกกต.นั่นเอง จนกว่าหนังสือและคำสั่งนั้นจะมาถึงพรรคเพื่อฟ้าดินอย่างเป็นทางการเท่านั้น เราถึงจะวินิจฉัยเหตุผลได้ว่าท่านเอาเหตุผลอะไรมาวินิจฉัย ตราบใดที่ยังไม่ได้รับก็ไม่ต้องปฏิบัติ และถ้าได้รับแล้วก็ยังมีสิทธิคัดค้าน ร้องขอต่อศาลปกครอง หรือศาลฎีกาได้ ประเด็นนี้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวไว้ก่อน อย่าวิตกกังวล อย่าเดือดร้อน