มองก้าว การจัดการความรู้คณะบริหารธุรกิจ ม.โยนก

เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พ.ย.52 คณะบริหารฯ ดำเนินการตามแผนการจัดการความรู้ เห็นในขั้นตอนที่ 1 “การบ่งชี้ความรู้” เป็นที่ประจักษ์ คือ การระบุประเด็นความรู้ รูปแบบ และผู้รู้ที่สอดรับกับนโยบาย ขอบเขตและเป้าหมายขององค์กร โดยกำหนดเรื่องของ KM ว่า “การบริหารจัดการยุคใหม่” ตามนโยบายของท่านอธิการที่จะมี KM คณะละเรื่อง ซึ่งคณะบริหาร มีองค์ความรู้ มีความเข้าใจ มีความชำนาญ และผู้ที่ชำนาญในเรื่องที่กำหนดขึ้นก็มีอยู่หลายท่าน ก็ต้องเอาใจช่วยใน 2 เรื่อง คือ 1)กำหนดเป้าหมายที่จะวัดให้ชัดเจน (Desired State) 2)หน่วยที่วัดผลได้เป็นรูปธรรม เพราะการวัดผลสมัยนี้เป็นไปในแนวนี้ทั้งสิ้น ก็เอาใจช่วยและหวังจะเห็นคณะบริหารฯ เป็น good practice ขององค์กร เนื่องจากเริ่มต้นอย่างมีกระบวนการและเรื่องที่ชัดเจน ผ่านบทบาทของ อาจารย์บอย และ อาจารย์นิยม ในระดับคณะเป็นคณะแรกของมหาวิทยาลัย
     จากการชวน อ.บอย แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง แผนการจัดการความรู้ ซึ่งมี 7 ขั้นตอน ตามแนว กพร. และ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ที่ได้จัดทำคู่มืออบรมไว้โดยละเอียด พบว่า การดำเนินการตามแผนที่ได้รับการยอมรับในแวดวงประกันคุณภาพ น่าจะเป็นแนวทางที่น่าสนใจ ซึ่งผมมอบแผน KM ที่ อาจารย์อติชาต หาญชาญชัย ท่านเขียนใช้ในคณะวิทย์ฯ ให้แก่อาจารย์บอยได้ศึกษาประยุกต์ ซึ่งอาจเป็นแนวทางให้มหาวิทยาลัยใช้แนวนี้ก็ได้
+ http://www.thaiall.com/km/indexo.html
+ http://www.yonok.ac.th/business/showword.php
+ http://www.thaiall.com/km/handbook_2549.doc

ส่งข่าวบริการวิชาการ อบต.ทุ่งกว๋าว ลงนสพ.

thungkaow17 พ.ย.52 อาจารย์เกศริน  อินเพลา หัวหน้าสาขาวิชาระบบสารสนเทศคอมพิวเตอร์ และอาจารย์ทนงศักดิ์ เมืองฝั้น หัวหน้าสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยโยนก ได้เป็นวิทยากรให้บริการวิชาการในโครงการความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และโครงการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย แก่บุคลากรอบต.ทุ่งกว๋าว อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ณ ที่ทำการอบต.ทุ่งกว๋าว ห่างจากเมืองลำปาง 32 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2552 โดย นายทวีศักดิ์ นพคุณ ปลัดอบต. และ นายธีระ  สุดประเสริฐ ให้การต้อนรับ มีบุคลากรทุ่งกว๋าวเข้ารับการอบรมรวม 21 คน เป็นข่าวการแสดงบทบาทของนักวิชาการที่ออกไปรับใช้สังคม จึงส่งภาพข่าวไปยังหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในลำปาง
+ http://www.thungkaow.org (http://www.mkportal.it)
+ http://www.thaiall.com/yonok/52_service_thungkaow.zip (5MB)

สองจอภาพสองโปรแกรมจากหนึ่ง notebook

2 จอภาพ กับ 2 โอเอสในเครื่องเสมือนจริง
2 จอภาพ กับ 2 โอเอสในเครื่องเสมือนจริง

15 พ.ย.52 การต่อ 2 จอภาพออกจาก notebook ก็ใช้หลักเดียวกับการต่อ notebook กับเครื่องฉาย projector คือ ต่อผ่าน vga port แล้ว ก็เห็นทั้งจอ projector และ จอ notebook เหมือนกัน ถ้าต้องการเห็นต่างกัน คือ ออก 2 จอแล้วแสดงผล 2 โปรแกรมที่ต่างกัน ก็ทำได้ไม่ยากเลยด้วย 4 ขั้นตอน
     มีขั้นตอนดังนี้ 1)กดปุ่ม fn + f8 สั่งให้แสดงผลทั้งทางจอ projector และจอ notebook ซึ่งให้ผลเหมือนกัน ได้ทดสอบกับ ASUS Notebook แล้วใช้ได้ แต่ยี่ห้ออื่นอาจใช้ fn + f5 2)right click บน desktop เลือก Properties, Settings จะพบจอที่มีเลข 1 ขนาดใหญ่ทางซ้าย และจอที่มีเลข 2 ขนาดเล็กกว่าทางขวา 3)click บนจอเลข 2 และ click checkbox หน้าคำว่า Extend my Windows desktop onto this monitor และกดปุ่ม Apply แล้วกดปุ่ม Identity จะพบเลข 1 บนจอ Notebook และพบเลข 2 บนจอ Projector 4)การทดสอบใช้จอเลข 2 ของจอ Projector ซึ่งอยู่ทางขวา คือ เปิดโปรแกรม Internet Explorer แบบย้ายได้ แล้วก็ย้าย (move) ด้วยการใช้ mouse กด title bar แล้วย้ายให้เลยขอบออกไปด้านขวา ผลคือโปรแกรม Internet Explorer จะไปแสดงผลในจอ Projector ซึ่งการใช้งานก็เสมือนกับจอ 2 จอนี้ติดกันอยู่ แล้วใช้ mouse เลื่อนไปมาระหว่าง 2 จอได้โดยอิสระ สิ่งที่ต่างกันชัดเจนคือจอเลข 2 ไม่มี taskbar เป็นของตัวเอง
     พบเรื่องนี้ เพราะซื้อสาย VGA M/M เส้นละ 150 ในงาน motorshow 2009 มาต่อ notebook ออกแอลซีดีทีวี เพื่อทดสอบการใช้โปรแกรม Virtual Box ที่ติดตั้ง Windows 2003 บน Windows XP ทำให้ผลการทดสอบครั้งนี้ได้ 2 ระบบปฏิบัติการที่ประมวลผลพร้อมกันออกได้ 2 จอภาพ จากคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว .. จะได้แนะนำใครต่อใครว่าเวลาฉายออก projector ไม่ต้องใช้ปุ่ม freeze projector เพราะวิธีนี้ทำให้สามารถทำงาน 2 อย่างในเวลาเดียวกันได้เลย

แก้ปัญหาส่งเมลจากโยนกเข้า hotmail,gmail แล้ว

15 พ.ย.52 ในช่วงเวลาที่ผ่านมาพยายามปรับระบบให้ส่งอีเมลถึง hotmail.com หรือ gmail.com โดยไม่ถูก block กลางทาง วันนี้พบและแก้ไขอีก 2 ปัญหา คือ 1)ผู้ใช้ในระบบ 2 ท่านถูก hack รหัสผ่านด้วยไวรัส ทำให้ไวรัสใช้รหัสของบุคลากร แอบส่งอีเมลนาทีละ 1 ฉบับออกไปตลอดเวลา 2)กล่องจดหมายทุกคนจำกัด 50 MB ผมได้ขยายเป็น 500 MB เพราะบางท่านไม่เปิดกล่องอีเมลทำให้กล่องอีเมลเต็ม แล้วผมเปลี่ยนเครื่องส่งอีเมลชี้ไปภายนอกที่น่าเชื่อถือ ทำให้เกิดผล 2 ประการ คือ 1)ส่งแต่ละฉบับช้าเล็กน้อย 2)ส่งธรรมดา หรือมี attach ไปถึง hotmail.com ได้ปกติแล้ว

กระบวนการจัดการความรู้

กระบวนการจัดการความรู้
กระบวนการจัดการความรู้

14 พ.ย.52 การจัดการความรู้หรือเคเอ็ม (KM = Knowledge Management) คือ การรวบรวมองค์ความรู้ที่มีอยู่ในองค์กร ซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในตัวบุคคลหรือเอกสารมาพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงความรู้ และพัฒนาตนเองให้เป็นผู้รู้ รวมทั้งปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้องค์กรมีความสามารถในเชิงแข่งขันสูงสุด โดย นพ.วิจารณ์ พานิช ได้ระบุว่าการจัดการความรู้สามารถใช้เป็นเครื่องมือเพื่อการบรรลุเป้าหมายอย่างน้อย 4 ประการ ได้แก่ 1) บรรลุเป้าหมายของงาน 2) บรรลุเป้าหมายการพัฒนาคน 3) บรรลุเป้าหมายการพัฒนาองค์กรไปเป็นองค์กรเรียนรู้ 4) บรรลุความเป็นชุมชน เป็นหมู่คณะ ความเอื้ออาทรระหว่างกันในที่ทำงาน
     การจัดการความรู้เป็นเรื่องใหม่ที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ อาจฝืนธรรมชาติของมนุษย์บางท่าน แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่จะสนับสนุนให้มนุษย์มีความเอื้ออาทรเพิ่มขึ้นในจิตใจ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน และเห็นเป้าหมายขององค์กรเป็นที่ตั้ง ซึ่งมี กระบวนการที่ยอมรับทั่วไป 7 ขั้นตอน ประกอบด้วย 1) การบ่งชี้ความรู้ คือ การระบุประเด็นความรู้ รูปแบบ และผู้รู้ที่สอดรับกับนโยบาย ขอบเขตและเป้าหมายขององค์กร 2) การสร้างและแสวงหาความรู้ คือ การรวบรวมความรู้ใหม่ รักษาความรู้เดิม และกรองความรู้ที่ไม่ใช้ออกจากแหล่งรวบรวม 3) การจัดความรู้ให้เป็นระบบ คือ การวิเคราะห์และคัดแยกความรู้เป็นกลุ่มประเด็นให้ง่ายต่อการเข้าถึงอย่างมีขั้นตอน 4) การประมวลและกลั่นกรองความรู้ คือ การปรับปรุงให้ความรู้มีรูปแบบมาตรฐาน ไม่ซ้ำซ้อน มีความสมบูรณ์ มีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ 5) การเข้าถึงความรู้ คือ การสร้างแหล่งเผยแพร่ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
      หลังเผยแพร่ความรู้ที่รวบรวมได้ก็เข้าสู่ขั้นตอนที่ 6) การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ คือ การนำความรู้เข้าสู่เวทีแลกเปลี่ยนที่มีฐานความรู้หรือฐานข้อมูลรองรับให้ง่ายต่อการเข้าถึงและสืบค้น 7) การเรียนรู้ คือ การใช้ความรู้เป็นส่วนหนึ่งของงาน เป็นวงจรความรู้ที่มีการเรียนรู้และพัฒนาให้เกิดประสบการณ์ใหม่อยู่เสมอ การจัดการความรู้เป็นงานบูรณาการที่จะสำเร็จได้ต้องอาศัยความเข้ากันได้ของขอบเขต เป้าหมาย เครื่องมือ ผู้รู้ ผู้เรียนรู้ และผู้บริหารที่เห็นชอบร่วมกันทั้งองค์กร
+ http://www.thaiall.com/km/handbook_2549.doc

แก้ปัญหาในเครื่องบริการส่งอีเมล3กรณี

14 พ.ย.52 เข้าไปตรวจเครื่องพบ 3 กรณี คือ 1)ใช้คำสั่ง cat maillog|grep pop3 แล้วพบการส่งอีเมลออกผิดปกติของคุณอรุณ คุณคนึง จึงเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นไทยเอ็ก เพื่อป้องกันไวรัสเข้ามาใช้เครื่องบริการส่งอีเมลทุกนาทีเป็น spam ออกไปอีก 2)เมื่อตรวจขนาดกล่องจดหมายของสมาชิก ก็พบสมาชิกที่ไม่ตรวจเมลเลยของคุณศรี คุณวิ คุณสุรต คุณสันสท คุณอลัม ทำให้เต็มโควตา จึงไม่สามารถรับจดหมายใหม่ ผมต้องลบออกก่อน เพื่อให้สมาชิกรับอีเมลใหม่ได้ 3) ขยายทั้ง mailbox_size_limit และ message_size_limit เป็น 50 MB ใน main.cf

ระบบและกลไก ประเมินระบบฐานข้อมูล 3 ด้าน

14 พ.ย.52 คำว่าระบบในความหมายด้านการประกันคุณภาพ ได้รับคำอธิบายอย่างมุ่งมั่นตั้งใจอยู่บ่อยครั้งจาก อ.ศศิวิมล แรงสิงห์ ผอ.สำนักประกันคุณภาพ พบว่ามีตัวบ่งชี้หนึ่งที่ต้องมีการประเมินอย่างน้อย 3 ด้าน ผมจึงใช้ความรู้ที่ได้มาจากท่าน มายกร่างระบบสำหรับงานนี้ ซึ่งมีอยู่ 9 ข้อ และมี กลไกแรก คือคณะกรรมการพัฒนาระบบฐานข้อมูล กลไกที่สอง คือตัวแทนอาจารย์คณะวิทย์ฯ ได้แก่ อ.วิเชพ ใจบุญ อ.เกศริน  อินเพลา อ.ทนงศักดิ์ เมืองฝั้น มาเป็นผู้เชี่ยวชาญ กลไกที่สาม คือผู้พัฒนาได้แก่ นายอนุชิต ยอดใจยา และนายธรณินทร์ สุรินทร์ปันยศ และ กระบวนการจัดตั้งคณะกรรมการ มีอีก 4 ขั้นตอน คือ 1)หนังสือขอตัวแทนจากหน่วยงาน 2)ทบทวนรายชื่อคณะกรรมการ 3)ขออนุมัติท่านอธิการ 4)ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการ
     ระบบการประเมินฯ มีขั้นตอนดังนี้ 1)ขออนุมัติโครงการ “ประเมินประสิทธิภาพ ความปลอดภัยของระบบฐานข้อมูล และความพึงพอใจของผู้ใช้ฐานข้อมูล2)มีกระบวนการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่มาจากเกี่ยว ข้องทุกด้าน 3)ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบฐานข้อมูลมหาวิทยาลัยโยนก 4)แจ้งให้กับเจ้าของระบบฐานข้อมูลทราบและเตรียมรับการประเมินใน ๓ ด้าน 5)ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อพิจารณาแบบประเมิน และกำหนดสายการประเมิน 6)ดำเนินการประเมินทั้ง ๓ ด้าน 7)รายงานผลการประเมินต่อเจ้าของระบบฐานข้อมูลและเปิดให้มีการส่งหลักฐานเพิ่มเติม 8)ประชุมพิจารณาผลการประเมินโดยคณะกรรมการพัฒนาระบบฐานข้อมูลร่วมและเจ้าของระบบฐานข้อมูล เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาต่อไป 9)จัดทำรายงานสรุปผล ซึ่งระบบฯนี้ได้ส่งให้เจ้าของระบบฐานข้อมูลทราบตามขั้นตอนที่ 4 แล้ว ส่วนคณะกรรมการจะทำงานหลังประกาศฯ ถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการ .. บางขั้นตอนยังไม่เรียบร้อย แต่งานต้องเดินต่อไป

ชื่นชม คณะบริหารฯ จากงานถวายผ้าฯ

ยอดชาย คณะบริหารธุรกิจ
ยอดชาย คณะบริหารธุรกิจ

6 พ.ย.52 ได้พบว่าสุดยอดอาจารย์ของคณะบริหารฯ มีหลายท่านจากการร่วมทำโครงการถวายผ้าจำนำพรรษา ท่านแรกคือ อาจารย์แดน กุลรูป ซึ่งทำงานในฐานะหัวหน้าฝ่ายพิธีการ ท่านใช้ระบบและกลไกได้อย่างเข้าใจ จัดทำกำหนดการส่วนพิธีกรรมที่วัด กำหนดผู้ทำพิธีทางศาสนาได้อย่างเหมาะสม กำกับให้กลไกภายในวัดเป็นไปอย่างราบรื่น ยอดอาจารย์ท่านที่สองคือ อาจารย์วีระพันธ์ แก้วรัตน์ หรืออาจารย์แม็ก ที่ชาวลำปางรู้จักในฐานะยอดวิทยากรกระบวนการ ท่านทำหน้าที่เป็นผู้นำประกอบพิธีทางศาสนาของโครงการฯ ที่วัดบรรพตสถิต ส่วนยอดอาจารย์ท่านที่สามคือ อาจารย์คงศักดิ์ ตุ้ยสืบ หรืออาจารย์บอย ได้ฉายความสามารถด้วยการเป็นผู้ให้เสียงประกอบขบวนสะเปารถใหญ่ โดยสื่อให้กับชาวลำปางระหว่างเคลื่อนขบวนไปตามถนนได้เข้าใจ ได้ถ่ายทอดภาพลักษณ์และแผนงานในช่วงการพัฒนาคุณภาพมหาวิทยาลัยครั้งสำคัญได้อย่างเข้าใจ
     ถ้ามีคนถามผมว่า ยอดอาจารย์ของโยนก ที่มีทักษะเป็นเลิศด้านการสื่อสาร ผมคงยกให้ อาจารย์แม็กกับอาจารย์บอย ถือครองอันดับที่ 1 ร่วมกันไปแล้ว ส่วนผู้ที่เอาจริงเอาจังกับการทำงาน แสดงให้เห็นถึงระบบและกลไกในหัวใจ ก็ต้องยกให้อาจารย์แดน เพราะเพื่อนร่วมงานของผมก็ยืนยันอย่างนั้น สำหรับจำนวนนักศึกษาคณะบริหารที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้เป็นอันดับ 1 มีจำนวนถึง 38 คนจาก 139 คน และสรุปมูลค่ารวมทั้งโครงการสำหรับคณะบริหารฯ คือ  7,579 บาท

วันวุ่นกับการยกร่างโครงการ

6 พ.ย.52 วันนี้ตั้งใจว่าจะเขียนชื่นชมเพื่อนร่วมงานหลายท่าน แทนการขอบคุณ สรุปว่างเขียนของอาจารย์อ้อมได้ท่านเดียว จากกลุ่มอาจารย์ที่ร่วมจัดกิจกรรมถวายผ้าจำนำพรรษาเชิงบูรณาการจนสำเร็จลุล่วง เนื่องจากติดภารกิจที่ อาจารย์วิเชพ ใจบุญ มอบหมายให้ยกร่างโครงการตามชื่อโครงการ และงบ ที่คณะกำหนดในแผนพัฒนาคุณภาพฯ แต่ก่อนสิ้นวันก็ดีใจที่ได้จัดทำหนังสือออก ถึง นายกอบต.ทุ่งกว๋าว สำเร็จ เพื่อขอไปให้บริการวิชาการ 2 โครงการ ในวันพฤหัสหน้า ตามที่ประสานงานกันไว้ สรุปว่าวันนี้ยกร่าง หรือปรับแก้โครงการไป 17 โครงการ ประกอบด้วย 1)โครงการจัดทำระบบฐานข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ 3 ด้าน 2)โครงการส่งเสริมพัฒนาการจัดกิจกรรมนักศึกษาแบบบูรณาการ 3)โครงการสนับสนุนการเป็นกรรมการวิชาการและวิชาชีพนอกสถาบัน 4)โครงการส่งเสริมและสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าร่วมอบรมการพัฒนาความรู้และทักษะวิชาชีพทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ 5)โครงการส่งเสริมและสนับสนุนให้อาจารย์เข้าร่วมนำเสนอผลงานวิชาการในระดับชาติและระดับนานาชาติ 6)โครงการส่งเสริมนักศึกษาด้านวิชาการ วิชาชีพ คุณธรรมระดับชาติ 7)โครงการเชื่อมโยงงานบริการวิชาการกับการเรียนการสอน 8)โครงการการรวบรวมข้อมูลการใช้ทรัพยากรภายใน และภายนอกไว้เป็นฐานข้อมูล 9)โครงการการส่งเสริมและจัดทำฐานข้อมูลสื่ออิเล็กทรอนิคประกอบการเรียนการสอนบนระบบ e-Learning 10)โครงการประชุมทางวิชาการระดับชาติด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ 11)โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ พัฒนาศักยภาพว่าที่บัณฑิตด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 12)โครงการประเมินประสิทธิภาพ ความปลอดภัยของระบบฐานข้อมูล และความพึงพอใจของผู้ใช้ฐานข้อมูล 13)โครงการถวายผ้าจำนำพรรษา 14)โครงการอบรมการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย 15)โครงการความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 16)โครงการวิจัยแนวทางการผลิตสื่อวีดีทัศน์เพื่อขยายผลองค์ความรู้เรื่องการจัดการงานศพบ้านไหล่หิน ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง 17)โครงการวิจัยพัฒนาระบบฐานข้อมูลการประเมินตนเอง ปี 2551 ก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่ยกร่างใหม่ มีกว่าครึ่งที่มีโครงการอยู่แล้ว และนำมาปรับแก้ .. ก็ทั้งวันครับสำหรับการปรับและยกร่างโครงการ

ชื่นชม อ.สุภาพ ขุนจุมพล จากงานถวายผ้าฯ

6 พ.ย.52 ผมเขียนรายงานโครงการถวายผ้าจำนำพรรษา 2552 เป็นโครงการบูรณาการ และ อ.สุภาพ ขุนจุมพล หรือที่เพื่อนร่วมงานเรียกเธอจนติดปากว่า อ.อ้อม โดยท่านรับผิดชอบเป็นหัวหน้าฝ่ายรับบริจาคจตุปัจจัยร่วมทำบุญ มาจาก คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ พบว่า อาจารย์ทำงานได้น่าประทับใจ โดยวางแผนการทำงาน และประสานกับผู้เกี่ยวข้องเชิงบูรณาการ จัดทำเอกสารสรุปงานได้เป็นระเบียบและชัดเจน ผมสามารถนำมาทำรายงานสรุปผลโครงการได้ง่าย สามารถคำนวณเป็นยอดเงินบริจาคในรูปมูลค่าแยกตามคณะได้อย่างชัดเจน แม้อยู่ในภาวะวิกฤตของงานบุญที่มีหลายงานซ้อนทับเข้ามา แต่ก็ไม่พบอุปสรรคร้ายแรง จึงได้ยอดเงินบริจาคโดยรวมเป็น ๕,๘๒๙ บาท โดยคณะสังคมฯ มียอดบริจาครวมเป็นอันดับสอง และมีมูลค่ารวมอย่างไม่เป็นทางการทั้งโครงการสำหรับคณะสังคมฯ คือ ๘,๒๒๒.๖๖๕๔ บาท