นี่ถ้าไม่นึกถึง ranking นะครับ
แต่ถ้าสนใจความเป็นเครือข่ายเพื่อน และจำนวนผู้ฟัง
ก็คงต้องแนะนำให้ไป youtube.com
เพราะคนเยอะที่สุด เทียบกับ social media ด้วยกัน
สรุปว่าชอบกระบวนการด้านเสียงครับ
—
ข้อมูลเรื่อง youtube.com อันดับหนึ่ง http://www.digitalthailand.in.th/news-detail-16
– อันดับ 1 Social Media ที่นิยมสูงสุดคือ Youtube ถูกใช้ในอัตรา 97.3%
– อันดับ 2 Social Media ที่นิยมใช้คือ Facebook ถูกใช้ในอัตรา 94.8%
– อันดับ 3 Social Media ที่นิยมใช้คือ LINE ถูกใช้ในอัตรา 94.6%
– อันดับ 4 Social Media ที่นิยมใช้คือ Instagram ถูกใช้ในอัตรา 57.6%
– อันดับ 5 Social Media ที่นิยมใช้คือ Twitter ถูกใช้ในอัตรา 35.5%
– อันดับ 6 Social Media ที่นิยมใช้คือ Whatsapp ถูกใช้ในอัตรา 13.7%
– อันดับ 7 Social Media ที่นิยมใช้คือ Linkedin ถูกใช้ในอัตรา 11.4%
—
ภาพกิจกรรมคนหลังไมค์ในกลุ่มของมหาวิทยาลัย https://www.facebook.com/media/set/?set=oa.1275093215889879
เห็นคลิ๊ปเรื่อง I just sued the school system.
ผมล่ะคล้อยตามเลย ว่าโรงเรียนสอนให้เด็ก ๆ เหมือนกันทั้งประเทศ
ระบบการศึกษาของโรงเรียนสอนให้เด็ก ๆ เหมือนกันหมดทั้งประเทศ
ข้อที่ 5 “ให้สถาบันอุดมศึกษาพิจารณาจัดให้นิสิตนักศึกษาทุกคน ทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษตามแบบทดสอบมาตรฐานระดับอุดมศึกษา ที่สถาบันสร้างขึ้น หรือที่เห็นสมควรจะนำมาใช้วัดสมิทธิภาพทางภาษาอังกฤษ (English Proficiency) โดยสามารถเทียบเคียงผลกับ Common European Framework of Reference for Languages (CEFR) หรือมาตรฐานอื่น เพื่อให้ทราบระดับความสามารถของนิสิตนักศึกษาแต่ละคน และสถาบันอุดมศึกษาอาจพิจารณานำผลการทดสอบความรู้ทางภาษาอังกฤษบันทึกในใบรับรองผลการศึกษา หรือจัดทำเป็นประกาศนียบัตร โดยเริมตั้งแต่ปีการศึกษา 2559”