ต่อไฟจาก adapter เข้า k-touch สำเร็จ [6/6]

ต่อไฟจาก adapter เข้า k-touch สำเร็จ
ต่อไฟจาก adapter เข้า k-touch สำเร็จ
เห็นหน้าจอนี้แล้วดีใจ
ไม่มี mem ไม่มี sim
แต่ทำงานผ่าน wifi ที่ติดตั้งไว้แล้ว
เปิดมาก็ทำงานต่อได้เลย
ถ้าจะเปิดบริการ Palapa webserver
หรือ FTP server ต้องหาแทนวางให้เหมาะ
และไม่เคลื่อนย้ายแบบ smart phone
ถือเป็นการใช้ smart phone แบบ desktop
บนจอมี message ส่งเข้า facebook
มี alert เข้ามาตลอดเลยครับ
ตั้งไว้ 5 นาทีแล้วยังไม่ดับ
ก็คิดว่าน่าจะพอใช้งานได้

 

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10154221914118895&set=a.10153180889298895.1073741856.814248894

ต่อสายไฟเข้าด้านหลัง K-Touch [5/6]

ต่อสายไฟเข้าด้านหลัง K-Touch
ต่อสายไฟเข้าด้านหลัง K-Touch

ต่อไฟฟ้าเข้าเครื่อง K-Touch
บริษัทปิดไปแล้ว ตัวแทนขายก็ไม่มีของ
พยายามหาแบตรุ่นอื่นใส่แทนก็ไม่ได้
ใคร ๆ ก็หาแบตโทรศัพท์ยี่ห้อนี้
เพราะอาการเหมือนกันเยอะ คือ แบตบวม
คำแนะนำของทุกคนคือ ต้องทิ้ง เพราะอันตราย
แต่ผมเสียดายจึงลองต่อไฟฟ้าดู
ก็ใช้ตัวหนีบเข้าขั้วบวกขั้วลบ
แล้ววางตั้ง เอา Power bank หนุนไว้
ไฟฟ้าใช้ adapter ที่ต่อจากไฟบ้านส่ง 5V เข้าไป

ต่อไฟจาก adapter เข้า k-touch สำเร็จ [6/6]

ต่อไฟจาก power bank ไม่ได้ ไฟไม่พอ [4/6]

ต่อไฟจาก power bank ไม่ได้ ไฟไม่พอ
ต่อไฟจาก power bank ไม่ได้ ไฟไม่พอ

ภาพนี้ไม่สามารถทำได้จริง
เพราะ smartphone ต้องการไฟฟ้า 5V
แต่ไฟฟ้าจาก Power bank จ่ายไป เปิดไม่ขึ้นครับ
เปิดไม่ขึ้นครับ
เครื่อง True ได้ทดสอบมาจากที่ร้านแล้ว
เค้าบอกว่าบอร์ดพัง ผมจึงเปิดไม่ขึ้น
เห็นคำว่า True ครั้งแรกตอนจ่ายใช้ไฟ 5V
และก็เห็นครั้งเดียว ผมจึงถอดใจ
เพราะเครื่องนี้เอาเครื่องเก่าไปแลกไม่เสียตัง
ที่หนีบก็หนีบมุมซ้ายกับขวาให้ตรงขั้วครับ
ไม่มีปัญหาเรื่องไฟฟ้าช็อต เพราะไม่แรงพอ
สรุปว่าดูให้ถูกขั้ว และถูกด้านด้วยนะครับ

ต่อสายไฟเข้าด้านหลัง K-Touch [5/6]

ทดสอบสาย USB ใช้ไฟฟ้าผ่าน Adapter [3/6]

ทดสอบสาย USB ใช้ไฟฟ้าผ่าน Adapter
ทดสอบสาย USB ใช้ไฟฟ้าผ่าน Adapter

ต่อสาย USB เข้ากับ USB Adapter
ที่ต่อจากปลั๊กไฟฟ้าในบ้านโดยตรง
พบว่าไฟ้ฟ้าน่าจะมา 5V
เพราะหลอด LED สว่างจ้าเลย
นี่ถ้ามีตัววัดไฟฟ้าแบบ อ.เกียรติ ก็คงรู้ว่าไฟฟ้าจริงมากันกี่ volt
จากภาพเซตนี้มั่นใจว่าไม่มีอะไรระเบิดแน่
เพราะที่เห็นก็มีเพียง
1. ปลั๊กแปลงไฟฟ้า
2. สายไฟฟ้า
3. หลอด LED
และต่อถูกขั้วแล้ว
สรุปว่าขั้นตอนนี้ ได้ไฟฟ้าที่เสถียรที่จะส่งไปให้กับตัวหนีบ
ต่อจากตัวหนีบก็เป็นอุปกรณ์อื่น ๆ ต่อไป

ต่อไฟจาก power bank ไม่ได้ ไฟไม่พอ [4/6]

ทดสอบสาย USB ว่ามีไฟฟ้าไหลผ่าน [2/6]

ทดสอบว่ามีไฟฟ้าไหลผ่านสาย USB
ทดสอบว่ามีไฟฟ้าไหลผ่านสาย USB

ต่อตัวหนีบเข้ากับปลายสายเส้นแดงกับดำ
จะได้ไปหนีบอะไรได้ง่าย
จากที่เคยเห็น อ.เกียรติ จะใช้ Power กับ IoT
แล้ววันนี้ผมก็ต้องการไฟจากช่อง USB
ที่ออกมาจาก Power bank ประมาณ 5V
จึงทดสอบกับหลอด LED ก่อน
พบว่า Power bank มีตัวตัดไฟอัตโนมัติ
เคยทดสอบกับอุปกรณ์อื่นมาแล้ว พบปัญหาเดียวกัน
จึงรู้ว่าจะใช้แหล่งจ่ายไฟฟ้าจาก Power bank
ในกรณีนี้ไม่ได้ หลอด LED สว่างแป๊ปหนึ่ง แล้วก็ดับไป
อันที่จริงตัวหนีบนี้ ผมเห็นที่ร้านซ่อมมือถือ
ทดสอบกับ Smart phone ของ True ที่ไฟฟ้าไม่เข้าบอร์ด
แล้วเค้าก็บอกผมว่า Main board เสีย อย่าซ่อมเลย
จึงมั่นใจว่าไม่ต้องมี Power bank โทรศัพท์ก็ทำงานได้
หากใช้ไฟฟ้าที่มีความแรงผ่านสาย USB ประมาณ 5V
ปล. สายUSBเก่า ตัวหนีบ กับ LED มีหลายอันไม่ค่อยได้ใช้

ทดสอบสาย USB ใช้ไฟฟ้าผ่าน Adapter [3/6]

 

ตัดสาย USB ต้องการไฟฟ้าจากขั้วบวกลบ [1/6]

สาย USB มี 4 ขั้ว
สาย USB มี 4 ขั้ว

คุณเปรม อุ่นเรือน เคยต่อลำโพงให้ผมใช้ที่ห้องทำงาน
โดยใช้ไฟฟ้าจากสาย USB เก่า
เท่าที่ดูคงใช้สายไฟฟ้าที่มีขั้ว + กับ –
วันนี้มีปัญหาเรื่องอุปกรณ์ และอยากได้ไฟฟ้าจากสาย USB
ลองปอกสายไฟดูก็พบว่ามี 4 เส้น
เหมือนสายไฟฟ้าทั่วไป แต่สายนี้มี 4 เส้น
ค้นดูก็พบว่าเส้นแดงเป็นเส้นไฟฟ้า หรือขั้วบวก
ส่วนเส้นดำเป็น Ground หรือขั้วลบ
1. เส้นแดง Power +5V
2. เส้นขาว Data –
3. เส้นเขียว Data +
4. เส้นดำ Ground

ทดสอบสาย USB ว่ามีไฟฟ้าไหลผ่าน [2/6]

 

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10154221913983895&set=a.10153180889298895.1073741856.814248894

แบตเตอรี่บวมต้องเปลี่ยนทันที

แบตเตอรี่บวม (Battery got fat)
แบตเตอรี่บวม (Battery got fat)
แบตเตอรี่บวม (Battery got fat)
แบตเตอรี่บวม (Battery got fat)
แบตเตอรี่บวม (Battery got fat)
แบตเตอรี่บวม (Battery got fat)
แบตเตอรี่บวม (Battery got fat)
แบตเตอรี่บวม (Battery got fat)

มีข่าวโทรศัพท์ระเบิด อันที่จริงตัวโทรศัพท์มีองค์ประกอบหลายอย่าง
สิ่งที่ทำให้โทรศัพท์ระเบิด คือ แบตเตอรี่
การระเบิดก็มี 3 สาเหตุที่เห็นตามข่าว
1. ร้อนจัด ระเบิดขณะชาร์ต เพราะอุณหภูมิขึ้น
2. ร้อนจัด ระเบิดขณะใช้งาน ถ้าใช้งานก็จะมีความร้อนเพิ่มขึ้น
3. เสื่อมเอง ระเบิดเพราะเสื่อมตามสภาพ แบตบวมจนถึงจุดที่ระเบิดเองได้

เกี่ยวกับ K-Touch Battery
ผมก็มีแบตเตอรี่อยู่ก้อนหนึ่ง ปกติโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยได้เปลี่ยนแบต
ถ้าไม่มีอาการอะไร แต่โทรศัพท์ของ K-Touch ซึ่งปัจจุบันปิดไปแล้ว
แบตเตอรี่บวมขึ้นมา ทำให้ปิดฝาโทรศัพท์ได้ไม่สนิท
พยายามหาซื้อ แต่หาไม่ได้ เพราะขนาดไม่ได้มาตรฐาน
บริษัทก็ปิดไปแล้วติดต่อไม่ได้
ในเฟสของบริษัทก็มีลูกค้าเข้าไปถามเรื่องแบตกันมาก
ทิ้งไว้ในตู้สักพัก กลับมาดูพบว่าแบตบวมกว่าเดิมมาก
ไม่ได้เสียบไฟ ไม่ได้ใช้งาน สุดท้ายก็ต้องทิ้ง เพราะอันตราย
http://www.siamphone.com/spec/ktouch/season.htm
http://www.siamphone.com/spec/ktouch/
https://www.facebook.com/ktouchm/

แบตเตอรี่แบบลิเธียม ไอออน (Lithium-ion)
คือ แบตเตอรี่ที่นิยมใช้กันมาก สามารถ Rechargeable
มีน้ำหนักเบา สะสมพลังงานได้หนาแน่น
เนื่องจากวัตถุดิบในการผลิตมีส่วนผสมของ โคบอลต์ออกไซด์
เมื่อแบตเตอรี่โดนความร้อนสูงระดับหนึ่งจะเกิดปฏิกิริยาเร่งความร้อนอัตโนมัติ
ส่งผลให้แบตเตอรี่ไหม้ หรือระเบิดได้
http://variety.teenee.com/foodforbrain/12135.html

ข้อคิดก่อนทำแบตเตอรี่ระเบิด
1. ชาร์ตต่อเนื่อง ลืมถอดเมื่อเต็ม
2. เปลี่ยนแบตเมื่อพบว่าผิดปกติ
3. อย่าลืมมือถือไว้หน้ารถ เพราะร้อนจัด ทำระเบิดได้
http://www.manager.co.th/CBizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9560000085465

ไฟไหม้โทรศัพท์ Samsung Galaxy S4
ของเด็กผู้หญิงที่เก็บไว้ใต้หมอน และแบตเตอรี่เป็นของปลอม
ทำให้เกิดความร้อนสะสมจนเกิดไฟไหม้

http://www.techmoblog.com/Samsung-Galaxy-S4-catches-fire-under-the-pillow/

มีอะไรต้องเก็บงำไว้ facebook.com เขามีบริการ save link หรือ post ไว้กลับมาอ่านได้

save หรือ unsave ก็ทำได้
save หรือ unsave ก็ทำได้

เวลามีลิงค์ดี ๆ ที่อยาก save ไว้ หรือโพสต์ที่เพื่อนขาเดฟ
เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันทางสายวิชาชีพ
ถ้าชอบก็จะจัดเก็บไว้ มี 2 วิธีที่ผมทำประจำ และด่วนด้วย
1. ปกติแล้วผมจะแชร์เข้า private message
อาจเป็นของตนเอง หรือของเพื่อนสนิทสักคน
หรืออีกบัญชีหนึ่งที่สมัครไว้ใช้งาน
ทำโดย กด share แล้วเลือกชื่อคนที่จะแชร์ไป ผมมักทำเมื่อใช้อุปกรณ์
ปล. มีครั้งหนึ่งแชร์พลาด ส่งไปให้ อ.เกียรติ เพราะลำดับในรายการเปลี่ยน human error เลย

เข้า activity log ดูรายการที่ save ไว้
เข้า activity log ดูรายการที่ save ไว้

Kawin กับ Sun ชวนแลกเปลี่ยนเรื่อง responsive กับ bootstrap
เก็บไว้ครับ  https://www.facebook.com/ajburin/posts/10154188440133895

2. การ save ด้วยคุณสมบัติของ facebook เหมาะกับบน PC
ทำโดย คลิ๊กสามเหลี่ยมที่มุมบนขวาของโพสต์แล้วเลือก save post
หลังจาก save ไว้แล้ว ถ้าอยากดูที่ save ไว้ ทำตามนี้
– เข้า profile ของเรา
– เลือก view activity log ที่อยู่บนภาพปก
– มีหัวข้อ Filters ทางเมนูซ้าย คลิ๊กคำว่า More ใต้ Comments
– ก็จะพบคำว่า Saved ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ 26 ใต้หัวข้อ Filters
– จะพบโพสต์ที่ saved แยกตามเดือน ไม่เก็บไว้ก็เลือก Delete ได้

ท่านใดชอบเก็บอะไรในเฟสบุ๊คไว้อ่านภายหลัง
ก็จะได้ประโยชน์กับบริการตัวนี้ครับ

ความแตกต่างของ id และ class

CSS : Cascading Style Sheets กลายเป็นข้อควรรู้ที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
CSS : Cascading Style Sheets กลายเป็นข้อควรรู้ที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

วันนี้ 11 มิ.ย.59 ว่าจะจัดการเรื่อง float:left ใน web2 ให้เรียบร้อย แต่มาใช้เวลากับการนั่งทดสอบ Developer tools ของ chrome นานไปหน่อย ติดใจเลย
ทำให้ได้เรียนรู้ว่า chrome ช่วยให้การปรับแต่งเว็บไซต์ง่ายกว่าใช้ editor ธรรมดาอย่าง editplus มาก
http://www.thaiall.com/web2

เรื่อง CSS : Cascading Style Sheets กลายเป็นข้อควรรู้ที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัจจุบัน CSS มีถึงรุ่น 3 แล้ว ในการใช้งานจริงมักสร้าง CSS แบบ External style sheet เพราะแฟ้มอื่นเรียกใช้ได้ ส่วน Internal style sheet ก็จะเรียกใช้ได้เฉพาะในแฟ้มนั้น ส่วน Inline style ก็จะพิมพ์คำว่า style ต่อท้าย tag นั้นไปเลย ซึ่งตัวแปรหลัก 2 แบบที่กำหนดเองใน CSS มี 2 แบบคือ id กับ class

การกำหนด และการเรียกใช้ต่างกันไป
ถ้าเป็น id จะขึ้นต้นด้วย # แต่เป็น class จะขึ้นต้นด้วย . ถ้าเรียกใช้ id จะใช้ properties name ว่า id ส่วนเรียกใช้ class จะใช้ properties name ว่า class

สิ่งที่แตกต่างกัน คือ id จะเรียกใช้ครั้งเดียว แต่ class เรียกใช้ได้หลายครั้ง ถ้าวางแผนอย่างใจเย็นก็จะใช้ประโยชน์จาก css ได้อย่างเต็มที่ มีตัวอย่างที่ css_sample.htm หากจะทดสอบการปรับแต่ง css ทำได้ที่ w3schools.com

 

<html><head><style type=”text/css”>
#header {background:yellow;font-size:20px;}
.title-text {color:red;}
p.big { font-size:40px; }
span.small { font-size:10px; }
table, th, td { border: 1px solid black; }
.burin1 {color:red;border: 2px}
.burin2 {font-size:20px;float:left;}
.burin3 {color:blue;font-size:30px;float:left;}
</style><body id=”header” class=”title-text”>
<span style=”color:green;”>hello</span><p class=”big”>my</p>
<span class=”small”>friend</span><span class=”small”>is tom.</span>
<table class=”burin1″><tr><td>one</td></tr></table>
<table class=”burin2″><tr><td>two</td></tr></table>
<table class=”burin3″><tr><td>three</td></tr></table>
http://www.w3schools.com/css/css_table.asp
</body></html>

หาข้อมูลขนาดจอภาพที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

ความละเอียดของจอคอมพิวเตอร์
ความละเอียดของจอคอมพิวเตอร์

ในอดีต สมัยหนุ่ม นั่งดูความละเอียดของจอภาพ (Resolution)
ก็มีอยู่ไม่กี่แบบ ที่จำได้ก็มี 1024*768 กับ 800*600 และ 640*480
ส่วนจอ 1280*1024 สมัยนั้นไกลฝันมาก ได้แต่มอง ๆ
หลัง ๆ มาเค้าใช้จอกันหลายแบบ หัวหน้ายังชวนใช้ตระกูลไออยู่พักหนึ่ง
ต่อมาหัวหน้าและผองเพื่อน ก็เปลี่ยนเป็นตระกูลซัมกันหมดแล้ว

ข้อมูล resolution ของ gotoknow.org แสดงใน truehits.net
ข้อมูล resolution ของ gotoknow.org แสดงใน truehits.net

วันนี้ 5 มิ.ย.59 หาข้อมูลความละเอียดว่าชาวโลกเค้าไปถึงไหน
ก็เข้าไปดูระบบรายงานพบว่า ชาวบ้านชาวช่องเข้าใช้จอแบบไหน
เวลาออกแบบเว็บเพจทั้งความกว้าง และความสูง ก็จะได้เข้ากับเค้าได้
สถิติเดือนพฤษภาคม 2559 ของ gotoknow.org ใน truehits.net
ที่เก็บไว้นั้น น่าจะแสดงเพียง 60 แบบ เห็นข้อมูลแล้วก็ต้องพิจารณาตัวเลข
ผู้ออกแบบเว็บเพจจะออกแบบให้จอภาพเหมาะกับทั้ง 60 แบบ นั่นก็เกินไป
ที่สนใจมี 3 แบบ คือ
กว้าง 360*640 (Galaxy S5)
กว้าง 320*568 (iphone5)
กว้าง 375*667(iphone6)

ส่วนที่เกิน 375 หรือ 411*731(Nexus 5X)
หรืออย่าง ipad ที่กว้าง 768*1024 ผมจัดไปอยู่ในกลุ่ม desktop หมดครับ
http://www.truehits.net/module/stats.php?G_CODET=r0028004&t=2&y=2016&m=05&d=&code=4&Web=gotoknow.org
#webdeveloper #responsive #viewport #pagespeed