เกรดเท่าไร เป็นเงินเท่าไร แต่ แม่ไม่คิดเงิน

เกรดเฉลี่ย 3.0 เท่ากับคันเนี้ย
เกรดเฉลี่ย 3.0 เท่ากับคันเนี้ย

เห็น อ.เกียรติ แชร์เรื่อง “เกรดเฉลี่ยเทอมแรก” น่าสนใจ
ทีแรกว่าจะไม่คลิ๊กอ่านล่ะ
แต่เห็นว่าได้ 2.5 แล้วคิดเท่ากับเงินหมื่น จากภาพเห็นถึง 3.0
ก็เอะใจ ขึ้นมาตะหงิด ๆ สงสัยใครรู้ขึ้นมา
ว่า ถ้าได้เกรดเฉลี่ยสูงไปถึง 3.25 หรือ 4.0 แล้ว
น้องเค้าจะคิดว่าเท่ากับอะไรที่สูงกว่า MSX 1 คันนะ
พอดีข้อมูลที่ให้มาหยุดที่ 3.0 (CGPA : Cumulative Grade Point Average)

อันที่จริงเรื่องนี้นึกถึงเรื่อง “แม่ไม่คิดเงิน
สรุปคือ เด็กชายคิดค่าตัดหญ้า ค่าทำความสะอาดบ้าน เท่านั้น เท่านี้
แต่แม่หยิบปากกามาเขียนด้านหลังว่า
เก้าเดือนอุ้มทองไม่คิด และไม่คิดอีกเยอะแยะ
สุดท้าย ลูกก็บอกว่าไม่คิดตังล่ะ
http://www.kalyanamitra.org/th/article_detail.php?i=5028
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=137222
http://www.2jfk.com/son_salary.htm

เกรดเฉลี่ยเทอมแรก
2.5 = 10,000
2.7 = 15,000
2.9 = ไอโฟน 7
3.0 = MSX 1 คัน
http://hilight.kapook.com/view/142303

มีบุญต้องทดแทน

มีบุญต้องทดแทน
มีบุญต้องทดแทน

เคยดูละครทีวีเรื่อง เพลิงนรี กับ พิษสวาท ที่นางเองมีอะไรอยู่ในใจ
ด้วยสิ่งนั้นก็ดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ จนจบ
ดูกันมานาน มาหลายปีตั้งแต่เกินกันเลยทีเดียว

แล้วทำให้นึกถึง ข่าวที่บริษัทของฝรั่ง
เคยรับซื้อยางจากไทยอยู่ดี ๆ มาระยะหนึ่ง
เพื่อนชาวอีสานเห็นว่า
ถ้าเติมอะไรเข้าไปก็จะมีรายได้สูงขึ้น พอบางคนเติมเข้าไป
แล้วบริษัทของฝรั่งตรวจพบ
ก็หาว่าภาคอีสานไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้
แล้วไม่รับซื้อ จะให้ไปขายให้คนอื่น ซึ่งไม่ยุติธรรม และไม่ถูกต้อง
เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ถูกต้อง
จึงประกาศบอยคอตไม่ซื้อยางจากบริษัทต่างชาติเหล่านั้น

เพลิงนรี
http://drama.kapook.com/view140154.html
พิษสวาท
http://drama.kapook.com/view133281.html
อีสานบอยคอตเลิกซื้อ ยางล้อมิชลิน-บริดจสโตน
http://www.posttoday.com/local/northeast/452073

ตู้อาหารหยอดเหรียญ สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

foodied ตู้อาหารหยอดเหรียญ สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย
foodied ตู้อาหารหยอดเหรียญ สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบาย

ตู้อาหารหยอดเหรียญ มาสนองความต้องการของมนุษย์เหมือนตู้อื่นอีกมากมาย
อยากทานอะไรก็ไปเลือกตามรายการที่ตู้
ใส่เงินเข้าไป กดปุ่ม แล้วอาหารก็ออกมาให้เราทานจนอิ่ม
สนองความต้องการที่เป็นปัจจัย 4 ของมนุษย์
หลักก็คล้ายกับตู้เอทีเอ็ม ตู้จำหน่ายตั๋วรถ ตู้น้ำอัดลม ตู้น้ำดื่ม ตู้จ่ายค่าสาธารณูปโภค
มีตู้หยอดเหรียญจำหน่ายอื่น ๆ ที่ http://www.lionvending.com/

พบคลิ๊ปประชาสัมพันธ์มิติใหม่ของอาหารกล่องแช่แข็ง CP ผ่านตู้หยอดเหรียญ Foodie:D
เริ่มจำหน่ายในอาคารสำนักงาน และในมหาวิทยาลัย เพราะมีความต้องการสูง
http://hilight.kapook.com/view/141555

ในยุคดิจิทัล ตามแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่เห็นชอบเมื่อ 5 เม.ย.59
http://www.thaiall.com/digitalcommunity

ที่เป็นปัจจัยสำคัญนำพาประเทศไปสู่ Thailand 4.0 ได้อย่างรวดเร็ว
ที่ผ่านมา ประเทศไทย 1.0 เน้นภาคการเกษตร
ประเทศไทย 2.0 เน้นอุตสาหกรรมเบา
ประเทศไทย 3.0 เน้นอุตสาหกรรมหนัก
แล้ว ประเทศไทย 4.0 เราจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ
ไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
https://www.facebook.com/DigitalNativeLive/posts/578087365695391

สำหรับผมแล้ว
คิดว่าเราจะได้เห็นการพัฒนามากมายที่มี 2 หัวหอกทะลวงฟัน
เปิดทางให้เศรษฐกิจใหม่ 4.0 เข้าไปแทนที่เศรษฐกิจแบบดั่งเดิมทั้งหมด
คือ Startup และ IoT (Internet of Things)
http://www.thaiall.com/mis/startup.htm
http://www.thaiall.com/iot/

พบตัวการที่ทำให้หนังสือพิมพ์เข้าสู่วิกฤตแล้ว ไม่ใช่ใครอื่นเลย

รู้สึกว่า ผมถูกพาดพิงเยอะเลย
เพราะ “ผมเป็นกลุ่มคนที่ชอบของฟรี และ กินป่าเป็นอาหาร

วิกฤตหนังสือพิมพ์
วิกฤตหนังสือพิมพ์

หนึ่งใน Super friend ของผม คือ time ท่านแบ่งปันเรื่องสื่อ เรื่องสารตลอด มีการกลั่นกรอง วิเคราะห์ สังเคราะห์ ใส่ข้อคิดเข้าไปเยอะเลย ทำให้ได้เห็นพฤติกรรมของผู้คนชัดเจนขึ้น แล้วผมก็ได้อ่านบทความที่ท่านแบ่งปันเรื่อง วิกฤตหนังสือพิมพ์ ที่กองบรรณาธิการเว็บ จุลสารราชดำเนิน – จุลสารราชดำเนิน ฉบับที่ 31-2559 ชะตากรรมหนังสือพิมพ์ เมื่อวันพุธที่ 10 ส.ค.59 เวลา 17:38 น. นำเสนอว่า สื่อส่วนกลางแต่ละค่ายพบปัญหา หรือปรับตัวกันอย่างไร ประกอบด้วย เครือโพสต์ เครือเนชั่น เครือมติชน นสพ.ไทยรัฐ นสพ.เดลินิวส์ นสพ.บ้านเมือง นสพ.สยามรัฐ และ นสพ.แนวหน้า
อีกข่าวหนึ่ง 9 ส.ค.59 จอห์น โอลิเวอร์ ย้ำว่าวงการข่าวหนังสือพิมพ์กำลังพัง และตัวการก็คือ “เรา” นี่เอง เพราะ “เรา” ที่ไม่เต็มใจที่จะจ่ายเงินเพื่อเสพงานที่นักวารสารศาสตร์ผลิตออกมา เราก็ต่างเติบโตขึ้นมากับความคุ้นเคยที่จะได้ อ่านข่าวฟรี ยิ่งนานเท่าไรที่เราได้ของฟรี มันก็ยิ่งทำให้เราไม่อยากจะจ่ายเงินให้กับสิ่งนั้นมากขึ้น เรื่องนี้ ทำให้นึกถึงคำที่นักข่าวบอกว่า “คนไทยกินป่าเป็นอาหาร” ก็แปลได้ตรงตัวว่า เมื่อไรมนุษย์ส่วนใหญ่ เลิกกินป่าเป็นอาหาร .. ป่าก็จะกลับมาเป็นป่าเหมือนเดิม ดั่งเช่นในอดีต
http://www.thaiall.com/communication/news.htm
http://www.tja.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id=4071:2016-08-10-10-42-50&catid=158:-31-2559-
https://bnnpost.com/2016/1211
https://www.facebook.com/time.chuastapanasiri

สามัญชนคนไทย : คนไทยกินป่าเป็นอาหาร (30 พ.ค. 58)

ข่าวถูกโอนเงิน 9 แสน เป็นของผู้ขายเครื่องประดับยนต์ทางเฟซบุ๊ค

ข่าวถูกโอนเงิน 9 แสน เป็นของผู้ขายเครื่องประดับยนต์ทางเฟซบุ๊ค
ข่าวถูกโอนเงิน 9 แสน เป็นของผู้ขายเครื่องประดับยนต์ทางเฟซบุ๊ค

ขั้นตอนที่ต้องระวังในการทำธุรกรรมบนไซเบอร์
1. ตกลงขายสินค้าให้ลูกค้ารายหนึ่งเรียบร้อยแล้ว
2. ให้เลขบัญชี เพื่อลูกค้าจะได้โอนจ่ายค่าสินค้า
3. ลูกค้าอ้างว่ากลัวโดนหลอก ขอดูบัตรประชาชนของผู้ขาย
จึงส่งให้ โดยปิดเลข 13 หลักไว้แล้ว เพื่อความปลอดภัย
4. ลูกค้าอ้างว่าไม่สะดวก อยากให้ผู้ขายใช้ Bank-Cyber ของธนาคารแห่งหนึ่ง
ก็ไปสมัคร เพราะต่อไปน่าจะสะดวกขึ้น ในการทำธุรกรรมออนไลน์
5. แล้วลูกค้าก็เงียบหายไป
6. ต่อมาโทรศัพท์ที่ใช้กับค่ายหนึ่ง โดนตัดสัญญาณ
ไปถามเค้าบอกว่ามีคนมาขอซิมใหม่แต่เบอร์เดิมที่ศูนย์ในห้างที่เมกะบางนา
7. ศูนย์บอกว่า คนร้ายอ้างว่าทำเป๋าเงินและโทรศัพท์หาย
พร้อมแสดงสำเนาบัตรประชาชน ที่ถูกดัดแปลงเอาหน้าผู้ร้ายใส่เข้าไป
8. ไปตรวจเงินในบัญชี พบว่าเงินหายไปเยอะ
9. โทรถาม call center ของธนาคารแห่งหนึ่ง
ก็ได้ทราบว่ามีคนโทรของเปลี่ยนรหัส Bank-Cyber
10. ตรวจสอบพบว่ามีการกดเงินไป 20 ครั้งจากหลายห้าง
11. ทวงถามกับธนาคาร และศูนย์บริการของค่ายมือถือ
ก็ไม่คืบหน้าจึงไปแจ้งความ
12. พบเลขบัญชีปลายทางที่เงินถูกโอนไป ก็ต้องไปติดตามว่าบัญชีจริงหรือไม่
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1470741983

https://www.youtube.com/watch?v=vBy3PYQTeTk

ในหนังเรื่อง CSI Cyber สะท้อนอาชญากรรมออนไลน์ได้อย่างชัดเจน

วันนี้เมื่อปีที่แล้ว (Today in the past)

on this day in facebook.com
on this day in facebook.com

มีเพื่อนถามว่าในความทรงจำ (Memory) ของ facebook.com
มักขึ้นรูปมาแบบ see first คอยสะกิดใจสำหรับคนมีอดีต (ที่ดี ๆ นะ)
วันนี้เมื่อปีที่ หรือปีก่อน ๆ เกิดอะไรขึ้น
เพื่อนบางคนเห็นแล้วชอบ แต่คลิ๊กไม่ทัน
เผลอไปคลิ๊กเรื่องอื่น กลับมาอีกทีก็หายแล้ว
สรุปว่า ถ้าเข้าไปดูอีกครั้งให้หาคำว่า “On This Day” ในกลุ่ม APPS
ก็จะพบภาพเก่า ๆ สำหรับคนที่มีอดีตในวันนี้เมื่อปีที่แล้ว
ย้อนหลับไปได้หลาย ๆ ปีเลยครับ
หรือกดลิงค์นี้เป็นอันเรียบร้อย
https://www.facebook.com/onthisday/
เรียกว่า “back to the past” ก็ว่าได้

happy birth day to my boss
happy birth day to my boss

นักศึกษาหนุ่มสาว ชมรมนักลงทุนรุ่นเยาว์ ทำจิตอาสา ณ ศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย

นักศึกษาชมรม Junior Investor มหาวิทยาลัยเนชั่น
นักศึกษาชมรม Junior Investor มหาวิทยาลัยเนชั่น

26 มิถุนายน 2559 นักศึกษาชมรม Junior Investor มหาวิทยาลัยเนชั่น ไปร่วมกันทำกิจกรรมจิตอาสา ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย  เนื่องจากตอนนี้มีภาวะการขาดแคลนโลหิต ทำให้ประชาชนมาร่วมบริจาคโลหิตกันมาก จึงสมัครเป็น อาสากาชาด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริจาคโลหิต และเชิญชวนให้ร่วมลงทะเบียนบริจาค Stem Cell เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย และจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับผู้มาบริจาคโลหิต
ข้อมูลจาก https://www.facebook.com/1514208178898223/photos/?tab=album&album_id=1643416375977402

กิจกรรมของนักศึกษาชมรม Junior Investor
กิจกรรมของนักศึกษาชมรม Junior Investor

มีข้อมูลเพิ่มเติมว่า หากท่านใดสนใจพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่อง
การบริจาคโลหิต อวัยวะ และร่างกาย
เชิญร่วมกลุ่มที่ https://www.facebook.com/groups/blooddonationlampang/
น่าจะเป็นกิจกรรมจิตอาสา ที่น่าสนใจ เพื่อคนไทยด้วยกัน

14 มิ.ย.57 เหล่ากาชาดจังหวัดลำปาง ร่วมกับโรงพยาบาลลำปาง จัดงานวันผู้บริจาคโลหิตโลก ประจำปี 2557  ตามสโลแกน “Save blood for saving mothers” (สละโลหิตพลิกวิกฤตช่วยชีวิตแม่และลูก) และประกวด Young Blood Donor Lampang 2014 โดยมีมหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง เป็นผู้ดำเนินการประกวด ณ ห้องประชุมอาคารบุญชู ตรีทอง
https://www.facebook.com/NationUNews/posts/650403568370065

การบริจาคโลหิตเพื่อต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์
การบริจาคโลหิตเพื่อต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์

24 ก.พ.2555 มหาวิทยาลัยเนชั่น สนับสนุนงานของสภากาชาดไทย
จัดโครงการบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติ “เพื่อพ่อขอทำดี ใต้ร่มพระบารมี 84 พรรษา”


วันผู้บริจาคโลหิตโลก 2556 ที่โรงพยาบาลลำปาง
http://thaiabc.com/lampangnet/admin/886/

น.ศ.สาวเนชั่น อยู่แม่ฮ่องสอนมาเรียนลำปาง ต้องเปิดร้านขายน้ำส้มคั้นส่งตัวเองเรียน

น้องแอน โชติชนิต สนธิ นักศึกษาปี 3 คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ
น้องแอน โชติชนิต สนธิ นักศึกษาปี 3
คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ

ในกลุ่ม Lampang City มีการวิจารณ์กันมาก ว่าน้ำส้มอร่อย
ที่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเนชั่น ไปทำงานขายน้ำส้มคั้นหาเงินเรียนหนังสือ
มีการกดไลค์ภาพน้องแอน โชติชนิต สนธิ นักศึกษาปี 3
คณะวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง
ใน 12 ชั่วโมงไปพันกว่าครั้ง วิพากษ์กันไป 30 กว่าเม้นท์
https://www.facebook.com/groups/243126115797740/permalink/943272402449771/

พบข้อความประกอบภาพว่า
พบเด็กเรียนดี ขยันทำกิน ต้องส่งเสริม
เป็นกำลังใจให้น้องแอน นักศึกษาสาวปี 3 กำลังเรียนด้านสุขภาพ
เด็กเรียนดีจากแม่ฮ่องสอน มาเรียนที่ลำปาง
ทำงานพิเศษส่งตัวเองเรียน ใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียน
ด้วยการเปิดร้านขายน้ำส้มคั้นสด มีแพกเกจสวยงาม
อยู่ข้าง 7-11 ตรงข้ามประตูเข้าอาคารบุญชูตรีทอง ลำปาง
อีก 1 ปีก็จะสำเร็จการศึกษาแล้ว สู่ต่อไป สาวแม่ฮ่องสอน

ระบบและกลไก การกินป่าของคนไทย คนหนึ่งปีหนึ่งเฉลี่ยกินพื้นที่ปลูก 20 ตารางเมตร

ระบบข้าวโพด
ระบบข้าวโพด

เคยดูรายการ สามัญชนคนไทย
ตอน คนไทยกินป่าเป็นอาหาร

แล้วสนใจระบบและกลไกการกินป่าของคนไทย
ในรายการแจงไว้ชัดเจนว่ากลไกการสนับสนุนให้คนไทยกินป่ามี 5 กลุ่ม
1. กลุ่มชาวบ้าน
2. กลุ่มนายทุน/แปรรูป
3. กลุ่มเงินกู้/กองทุนทุกประเภท
4. กระบวนการส่งเสริม/นักส่งเสริมการเกษตร/นักวิจัย
5. นโยบายส่งเสริมจำนำ/ประกันราคา

หลังมีข่าว ก็มีการออกมาเคลื่อนไหวด้วยวิธีต่าง ๆ
ตามความสามารถของแต่ละบุคคล ผู้ว่าก็ทำอย่าง
นายกก็ทำอย่าง ทหารก็ทำอย่าง กรมป่าไม้ก็ทำอย่าง
ดาราก็ทำอย่าง โรงเรียนก็ทำอย่าง นักเลงคีย์บอร์ดก็ทำอย่าง
มีผลในแต่ละอย่างก็เพื่อช่วยป่า ช่วยเขา ไม่ให้โล้นไปกว่านี้

http://www.thaiall.com/blog/burin/7482/

หากมองระบบที่ทำให้เขาหัวโล้น ลองมามองภาพดู
ว่ามีขั้นตอนอย่างไร จะมองจากปัญหาไปต้นเหตุ หรือต้นเหตุไปปัญหาก็ได้
1. คนไทย ซื้อสัตว์มากินเป็นอาหาร
2. ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ซื้ออาหารสัตว์สำเร็จรูป
3. โรงงานอาหารสัตว์ ซื้อข้าวโพดและถั่วเหลือง
4. คนปลูกข้าวโพด ซื้อที่ดินไว้ปลูก โค่นต้นไม้ใหญ่
5. ที่ดินไม่พอ ต้องไปบุกรุกพื้นที่ป่า

คนกินป่าเป็นอาหาร
คนกินป่าเป็นอาหาร

ต.ย.โครงการนาแลกป่า
เพื่อให้ได้พื้นที่ป่าคืนมา หลังได้มาแล้วก็ต้องดูแลให้ต้นไม้เติบโตเป็นป่า
ข้อมูลในปี 2556 พบว่าพื้นที่ป่าสงวนถูกนำไปปลูกพืชไร่สูงถึง 1.5 ล้านไร่ หรือคิดเป็น 24% ของพื้นที่ป่าทั้งหมดในจังหวัดน่าน
โครงการนาแลกป่า ในปี 2558 สามารถคืนผืนป่ามาสู่การจัดการอย่างยั่งยืนได้ถึง 315.25 ไร่
1. กลยุทธ์นาแลกป่า เมื่อเกษตรกรคืนพื้นที่ป่า 4 ไร่ โครงการจะขุดนาให้ 1 ไร่
โดยขุดร่องน้ำ ปรับหน้าดิน เตรียมการจัดการน้ำ เพื่อให้ชาวบ้านปลูกข้าวหรือทำเกษตรแบบประณีต
2. กลยุทธ์ระบบน้ำแลกป่า เน้นการพัฒนาระบบบริหารจัดการน้ำ
เพื่อการเกษตรให้กับกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อแลกกับพื้นที่ที่นำไปปลูกข้าวโพด
เนื่องจากมีน้ำไม่เพียงพอต่อการปลูกข้าวหรือพืชอื่นๆ
ซึ่งการมีน้ำพอใช้สำหรับการเกษตรก็ทำให้ได้ผลผลิตที่ดีขึ้นด้วยพื้นที่ที่น้อยลง
ปี 2558  โครงการขอคืนผืนป่าได้ทั้งหมด 108 ไร่
3. กลยุทธ์อาชีพทางเลือกแลกป่า เกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดส่วนใหญ่ก็อยากจะเลิกปลูกข้าวโพด
และมีอาชีพใหม่ทดแทน ทางโครงการจึงได้จัดหาอาชีพทางเลือก
ได้แก่ อาชีพปลูกพืชหลังนา เกษตรผสมผสาน
และการชดเชยเป็นค่าตอบแทนสำหรับเกษตรกรสูงอายุที่ไม่สามารถทำอาชีพทางเลือกอื่น ๆ ได้
ปี 2558  โครงการได้สร้างอาชีพทางเลือกและขอคืนผืนป่าได้ทั้งหมด 108 ไร่
http://www.schoolofchangemakers.com/home/knowledge?knowledge_id=389

ต.ย. ดารา ยอมควักเงินส่วนตัว ร่วมปลูกป่าน่าน
เฉพาะพื้นที่ที่เคยเป็นไร่ข้าวโพด เป็นจิตอาสาที่อยากรักษาป่าต้นน้ำ
http://www.nationtv.tv/main/content/social/378498989/

ต.ย. กิจกรรมพิทักษ์ป่า
Nation TV – เว็บไซต์สถานีข่าวอันดับ 1 ของเมืองไทย
“ร่วมโพสต์ท่าต้นไม้ ติด hashtag ‪#‎ปลูกเลย‬ แสดงพลัง!”ฟื้นฟูป่าให้ลูกหลาน
http://www.nationtv.tv/main/content/social/378503463/
https://www.facebook.com/cartooneggcat/photos/a.136226233446771.1073741828.136187606783967/173673336368727/

ต.ย. อธิบายเรื่องข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ทำให้ผืนป่าที่หายไป ใครควรต้องรับผิดชอบบ้าง
สรุปว่า “คนไทย ที่บริโภคเนื้อไก่ขาวจากฟาร์มในระบบปิด
ซึ่งเลี้ยงด้วยอาหารที่มีส่วนผสมของข้าวโพด มีส่วนสนับสนุนการทำลายป่าจากการบริโภคเนื้อไก่ เฉลี่ยคนละประมาณ 20 ตารางเมตร
http://landjustice4thai.org/news.php?id=252

ต.ย. ลอยแพชาวบ้าน เมื่อทุนใหญ่ต้องการภาพลักษณ์ที่งามสง่า
มีหนังสือว่าต่อไปบริษัทจะรับซื้อข้าวโพดมีเงื่อนไขคือ
ต้องปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อย่างในพื้นที่ที่มีเอกสิทธิ์ถูกต้อง
หรือพื้นที่ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานราชการ
http://www.landjustice4thai.org/news.php?id=278

รู้ล่ะ ป่าเมืองน่านหายไปไหน ที่แท้มีไอ้ตัวร้ายทำลายป่าเมืองน่านอยู่นี่เอง

รู้ล่ะ ใครคือไอ้ตัวร้าย ทำลายป่าเมืองน่าน
รู้ล่ะ ใครคือไอ้ตัวร้าย ทำลายป่าเมืองน่าน

ดูสารคดี ThaiPBS รายการสามัญชนไทย ของ มาโนช พุฒตาล
เค้าชวนคิด เผื่อว่าจะทำให้เมืองไทยดีขึ้น กับปัญหาทำลายป่าต้นน้ำ
มีคำถามว่าป่าเมืองน่าน หายไปไหน
ขึ้นไปที่ความสูง 9500 ฟุต น่านฟ้า จังหวัดน่าน
นาทีที่ 2.23 เค้าบอกว่า “มีการลุกล้ำเปลี่ยนป่าต้นน้ำ เป็นภูเขาแห่งทุ่งข้าวโพด”
ซึ่งเป็นอาหารของไก่ แล้วเราก็ได้ปีกไก่บนมาเข้าไมโครเวฟในนาทีที่ 2.41
เค้าว่าคนไทยทุกคนกลายเป็นห่วงโซ่แห่งการทำลายล้าง
คุณมาโนช พุฒตาลบอกว่า “คนไทยกินป่าเป็นอาหาร”

การฟื้นฟูสภาพป่ามีหลายวิธี
คนกลุ่มหนึ่งใช้วิธีสร้างจิตสำนึก ตั้งวงดนตรี แต่งเพลง เล่นเพลง
ชื่อเพลง “รักป่านาน”
เห็นภาพภูเขาแล้ว เหมือนภูเขาหัวโล้นกำลังร้องไห้ ยามฝนตก
สิ่งที่เค้าต้องการจากการถางป่าคือข้าวโพด ปลูกได้ปีละ 4 เดือน
ตอนนี้เห็นหัวโล้น อีก 2 เดือนเค้ามาปลูกก็จะเขียว
ที่นี่คือป่าสงวนแห่งชาติ ไม่มีสิทธิตัดไม้ปลูกข้าวโพด
แต่พื้นที่นี้ยังบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ ชาวบ้านและชาวเขายังบุกรุกผืนป่ากันทุกปี
นาที 7.39 “ชาวบ้านก็บอกว่า อยากจับก็จับนายทุนสิ นายทุนจ้างเรามาทำ”
เราไม่สามารถสาวไปถึงนายทุน แต่ท่านปลัดรู้ และรู้กันทุกคน ทั้งประเทศ
นาที 8.44 “ข้าวโพดบุกรุกป่ารึเปล่านี่ ไม่ใช่นะ คนบุกรุก โทษข้าวโพดไม่ได้หรอก”
ข้าวโพดรุกคืบเข้ามาเรื่อย ๆ ด้วยเทคนิควางยาสลบต้นไม้
นาที 11.37 พื้นที่บุกรุกมีทั่วทั้งจังหวัด พื้นที่ป่าลดลง 7หมื่น – แสนไร่ต่อไป
นาที 12.55 ผืนป่าที่ลดลง สัมพันธ์กับ พื้นที่ปลูกข้าวโพด
ผลการศึกษา ทำวิจัยพบว่าพื้นที่ข้าวโพด 60% เคยเป็นพื้นที่ป่า
และเข้าไปทำไร่ข้าวโพดในพื้นที่ป่ามากขึ้น
นาที 14.05 พื้นที่ปลูกข้าวโพดของน่าน มาเป็นอันดับ 5 ของประเทศ
รวมข้าวโพดที่ได้กว่า 4 แสนตันต่อไป
นาที 14.13 พื้นที่ปลูกข้าวโพด
อันดับ 1 เพชรบูรณ์ 1,075,536 ไร่
อันดับ 2 นครราชสีมา 816,805 ไร่
อันดับ 3 จังหวัดเลย 825,735 ไร่
อันดับ 4 จังหวัดตาก 686,013 ไร่
อันดับ 5 น่าน
รวมพื้นที่ทั้งหมด 7,366,996 ไร่
ที่มา สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ปี 2555
นาที 14.30 การวิจัยพบว่า 90% ของข้าวโพด นำไปทำเป็นอาหารสัตว์ทั้งนั้นเลย
ไปให้สัตว์ในฟาร์มกิน ทั้งไก่ ทั้งไข่ ก็เลี้ยงไว้ให้พวกคนไทยนั่นหละครับกิน
นาที 14.50 มาดูความคุ้มค่า ความยั่งยืน ถ้าเราเอาข้าวโพด ไปแลกกับผืนป่า
แสดงว่ากำลังเอาอาหารและความมั่นคงของมนุษย์ และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ
ไปแลกกับการปลูกข้าวโพดเท่านั้น
นาที 15.44 ผลสำรวจ คนไทยกินไก่ เฉลี่ย 15 กิโลกรัมต่อปี
คิดเป็นไก่ประมาณ 10 ตัว คนไทย 70 ล้านก็กินไก่ประมาณ 700 ล้านตัว
จำเป็นต้องมีอาหารมาป้อนไก่ ใช้ข้าวโพดประมาณ 53% เป็นวัตถุดิบ
ทำให้เราต้องผลิตข้าวโพดถึง 6.2 ล้านตัน ก็ต้องปลูกบนผืนดิน
นาที 16.43 คนไทยกินไก่ ไก่กินข้าวโพด ไปกระทบผืนป่าภาคเหนือ
เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะเมืองไทย เช่น อเมริกา เขาไปจ้างบราซิลถางป่าอเมซอล
เพื่อปลูกข้าวโพดมาให้วัวอเมริกากิน
นาที 17.31 พูดถึงเพลง “เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว” ของวงเฉลียง
เค้าว่า กินแฮมเบอเกอร์ 1 ชิ้น สะเทือนถึงผืนป่าอเมซอลในบราซิล
เช่นเดียวกับการกินไส้กรอก 1 ชิ้น สะเทือนถึงผืนป่าจังหวัดน่าน
นาที 18.30 อยากจะกินไก่ กลายเป็นทำร้ายป่า
นาที 30.40 ชาวบ้านยิ่งทำงานหนัก ยิ่งรายได้น้อย ยิ่งขาดทุน ชีวิตลำบากกว่าเดิม
นายทุนที่เอาข้าวโพดไปทำอาหารสัตว์ กลับรวยขึ้น
นาที 35.01 มี 5 พลังร่วมแห่งการทำลาย
1. กลุ่มชาวบ้าน
2. กลุ่มนายทุน/แปรรูป
3. กลุ่มเงินกู้/กองทุนทุกประเภท
4. กระบวนการส่งเสริม/นักส่งเสริมการเกษตร/นักวิจัย
5. นโยบายส่งเสริมจำนำ/ประกันราคา
นาที 38.43 นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย บอกว่า ส่งเสริมให้ปลูกข้าวโพด
แต่ไม่ส่งเสริมให้ทำลายป่า ไม่มีใครทำอย่างนั้น
เราต้องไปแก้ที่การจัดการ มีมูลค่าทั้งระบบอย่างน้อย 1 ล้านล้าน
นาที 40.01 พูดอีกล่ะ คนไทยกินป่าน่านเป็นอาหาร
นาที 40.45 โรงเรียนมีแนวคิดอนุรักษ์ป่าด้วยการทำโครงการ 1 คน 1 ต้น 1 ปี รวมครูด้วย
นาที 41.58 ถ้าอยากได้ป่าตรงที่โล้นคืน ชาวบ้านก็ยอมคืน แล้วคุณต้องมีที่นาคืนให้เขาทำกิน
มีคนยอมร่วมโครงการป่าแลกนา คือได้นา 1 ไร่ แลกพื้นที่ป่า 3 ไร่
ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากใครคนใดคนหนึ่ง เกิดจากทุกภาพส่วน
โดยเฉพาะ “ตัวเรา สามัญชนคนไทย ที่ต้องกินต้องอยู่”
นาที 45.30 เซ็งเป็ด หรือเซ็งไก่ดี จะไปซื้อไก่กิน เราเป็นไอ้ตัวร้ายทำลายป่าเมืองน่าน
เราต้องกิน ต้องใช้ ต้องบริโภค แต่ไม่มีวิธีกินให้ยั่งยืนหรือ ต้องรู้ต้นกำเนิด ไม่กินทิ้งกินขว้าง