25 พ.ย.52 ในคณะวิทย์ใครต่อใครต่างรู้จัก น้องอิทธิพล หรือที่ผมเรียกว่าลูกศิษย์ เพราะ ร.คณบดีก็พูดถึง อาจารย์ผู้สอบหัวข้อก็พูดถึง ส่วนผมรับช่วงเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่ ก็ต้องดูแลศิษย์คนนี้ให้เต็มที่หน่อย ก็ต้องบอกว่าตอนนี้ลงทะเบียนเรียนเรียบร้อยแล้ว จึงมีเวลาทำงานอีกหลายเดือน แต่เขาก็จะเร่งให้เสร็จในวันนี้วันพรุ่ง ผมก็เอาใจช่วย เพราะเขาว่างเฉพาะตอนเย็น 1)การเข้าพบที่จริงจังนับได้ว่าวันนี้วันพุธเป็นครั้งที่ 2 โดยดูเพียงเอกสารก็ถือว่าเอกสารผ่านไปแล้วกว่า 80% 2)โดยครั้งแรกวันจันทร์ดูทั้งโปรแกรมและเอกสาร ซึ่งถ้าประเมินความสมบูรณ์ให้ได้เพียง 70% เพื่อนที่มาด้วยก็ยังชมเลยว่า ถ้าเมื่อก่อนมาพบอาจารย์ใต้บรรไดบ้านอย่างนี้บ่อย ๆ ป่านนี้จบไปแล้ว ผมก็เชื่อว่าถ้ามีเพื่อนคุมอย่างนี้ น่าจะสำเร็จการศึกษาได้ในไม่ช้า เพราะเขามีศักยภาพเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว .. ดูจากภาพแล้วเขาก็ช่างพูดอยู่ไม่น้อยนะครับ
Category: การทำงานและอาชีพ
รวมเรื่องเล่าจากการทำงาน
เล่าเรื่องเสนอแผน KM ที่เกือบถูกล้ม
25 พ.ย.52 ในการประชุมวันนี้ อ.บุ๋มและผม ได้ร่วมกันยกร่างแผน KM ของคณะ มีการกำหนดเป้าหมาย และหน่วยที่วัดผลได้เป็นรูปธรรม ซึ่งใช้เป็นต้นแบบประกอบการประชุม ประกอบด้วย 1)แผนการจัดการความรู้ 2)แบบฟอร์มกรอกประเด็นความรู้ในหัวข้อต่าง ๆ สำหรับการบ่งชี้ความรู้ เช่น หลักธรรม วิธีการ เครื่องมือ และประสบการณ์ 3)ความหมายของการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญในคู่มือประกันคุณภาพ 4)รายงานการประชุมที่มีการดำเนินการตามกิจกรรมที่ 1 มาแล้ว
หลังจากเริ่มประชุมเพียง 5 นาทีแรก ผมก็เกือบล้มแผน KM ตามแนวทางในแผนซึ่ง ก.พ.ร. และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ กำหนดแนวทางไว้ นี่นับเป็นอีกครั้งที่ผมเกือบจะยอมแพ้ต่อโชคชะตา ซึ่งมติที่ประชุมจะหันไปมุมการทำแผนแก้ปัญหา หรือแผนปรับการเรียนการสอน เฉพาะวิชาหนึ่งของคณะ ในเป้าหมายเรื่อง “การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ” ซึ่งไม่ใช่แผนการจัดการความรู้ในแบบที่มีการปฏิบัติกันทั่วไป แต่งานนี้ อ.บุ๋ม ท่านไม่ยอมให้แผนถูกล้มหรือผลิกเป็นแผนอะไรก็ไม่รู้ เพราะท่านเข้าใจอย่างถ่องแท้ และรู้ว่าถ้าพลิกแผนจะตอบคำถาม อย่างที่เคยถูก อ.ทัน เคยเคี่ยวในเวทีประเมินมาแล้วได้ลำบากขึ้น ท่านจึงเปิดเวทีแลกเปลี่ยนใช้เวลาทำความเข้าใจมากกว่าหนึ่งชั่วโมงให้ทุกคนได้เข้าใจ ว่าขั้นตอนเหล่านี้มีรายละเอียดอย่างไร จะพลิกแผนเป็นแผนอื่นก็จะผิดไปจากที่ควร .. สรุปว่าแผนครั้งนี้ไม่ถูกล้ม ยังคงเป็นแผนตามมาตรฐานการจัดการความรู้เช่นเดิม .. แต่ผมขู่ อ.บุ๋ม ไปว่า ถ้าครั้งต่อไปอาจารย์ไม่ร่วมประชุมล่ะก็มีหวังผมล้มแผน KM ในที่ประชุมเป็นแน่ .. ขอเอาใจช่วยให้แผน KM ยังคงเป็นแผน KM ไม่ถูกปรับแก้ไปตามความเข้าใจเดิมเดิม
งานนี้สรุปได้อย่างหนึ่งว่า ถ้าแผน KM ไม่มีชื่อผมก็คงจะไม่มีการเสนอล้มแผน KM เป็นแผนอื่น เพราะผมเป็นพวกเคยชินกับความล้มเหลว ใครกำหนดอะไรมาแปลกผมเป็นต้องร้องทักไปแต่ถ้าการทำตัวเป็นจิ้งจกร้องทักของผมทำแล้วไม่เกิดผล ผมก็จะทำใจยอมรับกับชะตานั้น คงเพราะผมเคยชินกับการเขียนโปรแกรมแล้ว compile ไม่ผ่านมามาก เคยชินกับการเขียนโปรแกรมแล้วไม่มีคนใช้ ก็เลยชินครับ .. สรุปว่าผมเขียนเล่าเรื่องวิบากกรรมที่ผมกับอ.บุ๋ม พบในวันนี้ ก็เท่านั้นเอง
+ http://www.thaiall.com/km/indexo.html
+ http://www.thaiall.com/km/handbook_2549.doc
บริการวิชาการ 2 โครงการที่บ้านดง
18 พ.ย.52 อาจารย์ทนงศักดิ์ เมืองฝั้น หัวหน้าสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ และ อาจารย์เกศริน อินเพลา หัวหน้าสาขาวิชาระบบสารสนเทศคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยโยนก เป็นวิทยากรให้บริการวิชาการใน โครงการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย และ โครงการความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แก่บุคลากรอบต.บ้านดง อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ณ ที่ทำการอบต.บ้านดง เมื่อวันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 โดย นายศุกร์ ไทยธนสุกานต์ นายกอบต.บ้านดง และ นางสาวณภัทร หวันแก้ว ปลัดอบต.บ้านดง ให้การต้อนรับ มีบุคลากรร่วมรับการอบรมจำนวน 21 คน
+ http://www.bandongmaemoh.ob.tc/council.html
+ http://www.thaiall.com/yonok/52_service_bandong.zip
การเลื่อนตำแหน่งของภรรยาแบบวาปมิใช่ก้าวกระโดด
21 พ.ย.52 ช่วงนี้มีใครหลายคน แซวและชวนภรรยาของผมไปเลี้ยงฉลองตำแหน่งใหม่ หรืออาจได้รับตำแหน่งใหม่ในเร็ววันนี้ ผมได้แต่ดีใจด้วย ด้วยทัศนคติส่วนตัวคิดว่าเธอ เลื่อนตำแหน่งแบบวาร์ปไป (warp) มิใช่ก้าวกระโดด (jump) มีหลายประเด็นให้ได้พิจารณาคือ 1)ทำงานมา 10 กว่าปี เปลี่ยนหัวหน้ามา 11 คนในองค์กรเดียว เปลี่ยนหน่วยงานมา 4 หน่วย มีประสบการณ์มากในการเป็นเลขาฯ 2)สำเร็จการศึกษา ป.ตรี ด้านการจัดการ จากราชภัฏ ทำงาน เป็น เจ้าหน้าที่ในสำนักรับนักศึกษา เลขานุการในฝ่ายวิชาการ เลขานุการในสถาบันวิจัย เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์และธุรการในสำนักประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่ในสำนักรับนักศึกษา แล้วกำลังจะวาร์ปไปเป็น หัวหน้างานประชาสัมพันธ์และรับนักศึกษา ซึ่งมีภาระรับผิดชอบงานที่ชี้ชะตาองค์กร ตามผลการวิเคราะห์ risk โดยกลุ่มผู้บริหาร แสดงว่าเธอเป็นตัวเลือกเดียวที่ดีที่สุดเป็นแน่ 3)หลายท่านให้กำลังใจว่าไม่ต้องเป็นกังวลเพราะเราทำงานในรูปคณะกรรมการ บูรณาการ ทุกคนช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัย มีผู้เชี่ยวชาญทั้ง ด้านการตลาด (marketing) ด้านประชาสัมพันธ์ (public relation) ด้านการออกแบบ (design) ที่พร้อมให้คำแนะนำอยู่ใกล้ชิด อย่างอบอุ่น 4)ใจของเธอในฐานะปุถุชนยังกังวลในการได้รับความไว้วางใจในครั้งนี้ ว่าจะภูมิใจภาระใหม่ที่ไหลมาตามกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลง หรือหนักใจที่ได้รับภาระในภาวะวิกฤต ซึ่งเคยปราบทุกเซียนมาแล้ว ก็ดูว่าเธอจะใช้อะไรมาต่อสู้กับสถานการณ์ที่เป็นอีกหนึ่งวิกฤตขององค์กร .. งานนี้มีแต่ต้องเอาใจช่วย เพราะเป็นงานใหม่ที่ท้าทายอีกงานหนึ่ง
เวทีวิจัยจากทุน CBPUS เกี่ยวกับสื่อขยายองค์ความรู้งานศพ
คืนวันศุกร์ที่ 20 พ.ย.52 นักศึกษามหาวิทยาลัยโยนก ได้แก่ นายกร ศิริพันธุ์ และ น.ส.อรพรรณ สงเคราะห์ธรรม และ ผศ.บุรินทร์ รุจจนพันธุ์ ตามทุนวิจัยโครงการ “แนวทางการผลิตสื่อวีดีทัศน์เพื่อขยายผลองค์ความรู้เรื่องการจัดการงานศพบ้านไหล่หิน ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง” ได้จัดเวทีวิจัย ณ ศาลาหมู่ 2 บ้านไหล่หิน มีตัวแทนชาวบ้านที่จะเป็นผู้แสดงและเคยเป็นนักวิจัยในโครงการ “รูปแบบการจัดการงานศพโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง บ้านไหล่หิน ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง” จากทุน CBR มาพิจารณาวิเคราะห์ความสอดคล้องของโครงวีดีโอ และสคริปต์ร่วมกัน ก่อนดำเนินการถ่ายทำและตัดต่ออย่างเป็นระบบ ที่เป็นกิจกรรมที่ 5 ของโครงการจากทั้งหมด 8 กิจกรรมหลัก และเตรียมสำหรับการนำเสนอความก้าวหน้าต่อผู้ให้ทุน ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2552 ณ สกว.ศูนย์ลำปาง
วาระในเวทีประกอบด้วย 1)ทบทวนวัตถุประสงค์ และกิจกรรมโครงการ 2)นำเสนอการดำเนินการที่ผ่านมาของนักศึกษากับชุมชน 3)นำเสนอโครงวีดีโอ 2 เรื่องคือ “ประเด็นปัญหา การแก้ไข และผลที่ได้” และ “กระบวนการวิจัย” 4)พิจารณาปรับปรุงโครงวีดีโอ บทวิเคราะห์โครง สคริปต์บทพูด 5)นัดหมายเพื่อถ่ายทำวีดีโอแต่ละท่านตามแผนในสคริปต์บทพูด
กว่าจะถึงวันนี้ นักศึกษาทำงานไปแล้วตามขั้นตอน ดังนี้ 1)เข้าไปศึกษาชุมชน เดินสำรวจหมู่บ้าน สำรวจแหล่งทุนชุมชน นอนวัด นอนบ้าน เข้าพบ ผู้นำชุมชน และพระสงฆ์ 2)ศึกษาวรรณกรรมจากเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่นประวัติชุมชน กระบวนการวิจัย และการจัดงานศพ 3)เข้าเรียนรู้งานศพในบ้านไหล่หิน 2 งาน 4)เข้าสัมภาษณ์และบันทึกวีดีโอการนำเสนอองค์ความรู้จากนักวิจัยโครงการ CBR 5)ฝึกตัดต่อวีดีโอต้นแบบที่บันทึกมาแล้ว 6)ยกร่างโครงวีดีโอทั้ง 2 เรื่อง คือ “ประเด็นปัญหา การแก้ไข และผลที่ได้” และ “กระบวนการวิจัย” 7)ยกร่างสคริปต์บทพูด 8)จัดทำบทวิเคราะห์ และปรับแก้ทั้งความสัมพันธ์ของบท จัดวางพระเอกนางเอกให้เหมาะ กับบทพูด จัดลำดับ แก้ไขประเด็นคำพูด 9)นำสคริปต์บทพูดเข้าเวทีพิจารณาอีกครั้ง 10)เรียบเรียงทั้งหมดเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ www.webprodee.com/research
+ ตากล้องวันนี้คือ นายสุทัศน์ หรือบอย เพื่อนของกรกับปรางที่รับอาสาบันทึกภาพ
บ่นเรื่องลูกศิษย์ให้เขาฟังทางโทรศัพท์
19 พ.ย.52 เรื่องเล่าว่า ผมนัดลูกศิษย์ชายมาคุยงานวิชาโครงงานคอมพิวเตอร์ที่บ้านครั้งที่ 3 แต่ล้มเหลวอีกแล้ว ลูกศิษย์ลงทะเบียนมาแล้ว 3 ภาคเรียนในวิชาโครงงานฯ ที่ผ่านมาลงแล้วก็หายไปเป็นภาคเรียน แต่มีข่าวว่าเขาติดเกม ผู้ปกครองจึงเปิดร้านเกมให้ที่บ้านก็น่าจะเป็นการส่งเสริมให้ใช้ความสนใจ ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองได้ในระดับหนึ่ง นัดไปที่มหาวิทยาลัยก็ไม่สะดวก เพราะต้องดูแลร้านในเวลากลางวัน ตกเย็นต้องรอคุณพ่อคุณแม่มาดูร้านต่อ จะสะดวกก็ค่ำแล้ว
มีเล่าต่อว่า ครั้งแรก เป็นวันสุดสัปดาห์ที่นัดลูกศิษย์มาคุย แต่เขามาไม่ได้เพราะฝนตกเดินทางไม่สะดวก ซึ่งเป็นวันที่ผมต้องเลื่อนนัดครอบครัวไปทานข้าวนอกบ้าน ครั้งที่สอง เป็นวันจันทร์ซึ่งผมเลื่อนนักลูกศิษย์อีก 2 คนออกไป เพราะลูกศิษย์คนนี้ต้องมาก่อนเนื่องจากมีปัญหาชัดเจน แต่เขาก็ไม่สะดวกที่จะมาพบ ครั้งที่สาม คือวันนี้ได้นัดไว้หลายวันแล้วและย้ำอีกครั้งเมื่อตอนกลางวันว่าพบกันเย็นนี้ แล้วผมก็ต้องเลื่อนไปส่งคุณแม่ที่ต่างอำเภอ เพราะไม่กล้าเลื่อนลูกศิษย์คนนี้ที่นัดไว้หลายวัน แต่สุดท้ายผมก็ต้องโทรไปถามว่าดึกแล้วทำไมยังมาไม่ถึง ก็พบคำตอบที่ไม่ประทับใจว่าวันนี้ไม่สะดวกขอเป็นพรุ่งนี้ .. ทำให้ผมต้องอธิบายเรื่องความผิดหวังต่อตัวเขาในฐานะเยาวชนของชาติที่ผมพยายามจะช่วยให้เขาสามารถสำเร็จการศึกษาและออกไปรับใช้ชาติของผมตามระบบและกลไกที่มหาวิทยาลัยได้วางไว้ แต่ผมก็ล้มเหลวเนื่องจากองค์ประกอบของความสำเร็จมีเขาเป็นปัจจัยสำคัญ .. ก็บ่นไปตามประสาของมนุษย์ผู้ยังมีหวังต่ออะไรอะไรอีกมากมาย
มองก้าว การจัดการความรู้คณะบริหารธุรกิจ ม.โยนก
เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พ.ย.52 คณะบริหารฯ ดำเนินการตามแผนการจัดการความรู้ เห็นในขั้นตอนที่ 1 “การบ่งชี้ความรู้” เป็นที่ประจักษ์ คือ การระบุประเด็นความรู้ รูปแบบ และผู้รู้ที่สอดรับกับนโยบาย ขอบเขตและเป้าหมายขององค์กร โดยกำหนดเรื่องของ KM ว่า “การบริหารจัดการยุคใหม่” ตามนโยบายของท่านอธิการที่จะมี KM คณะละเรื่อง ซึ่งคณะบริหาร มีองค์ความรู้ มีความเข้าใจ มีความชำนาญ และผู้ที่ชำนาญในเรื่องที่กำหนดขึ้นก็มีอยู่หลายท่าน ก็ต้องเอาใจช่วยใน 2 เรื่อง คือ 1)กำหนดเป้าหมายที่จะวัดให้ชัดเจน (Desired State) 2)หน่วยที่วัดผลได้เป็นรูปธรรม เพราะการวัดผลสมัยนี้เป็นไปในแนวนี้ทั้งสิ้น ก็เอาใจช่วยและหวังจะเห็นคณะบริหารฯ เป็น good practice ขององค์กร เนื่องจากเริ่มต้นอย่างมีกระบวนการและเรื่องที่ชัดเจน ผ่านบทบาทของ อาจารย์บอย และ อาจารย์นิยม ในระดับคณะเป็นคณะแรกของมหาวิทยาลัย
จากการชวน อ.บอย แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง แผนการจัดการความรู้ ซึ่งมี 7 ขั้นตอน ตามแนว กพร. และ สถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ที่ได้จัดทำคู่มืออบรมไว้โดยละเอียด พบว่า การดำเนินการตามแผนที่ได้รับการยอมรับในแวดวงประกันคุณภาพ น่าจะเป็นแนวทางที่น่าสนใจ ซึ่งผมมอบแผน KM ที่ อาจารย์อติชาต หาญชาญชัย ท่านเขียนใช้ในคณะวิทย์ฯ ให้แก่อาจารย์บอยได้ศึกษาประยุกต์ ซึ่งอาจเป็นแนวทางให้มหาวิทยาลัยใช้แนวนี้ก็ได้
+ http://www.thaiall.com/km/indexo.html
+ http://www.yonok.ac.th/business/showword.php
+ http://www.thaiall.com/km/handbook_2549.doc
ระบบและกลไก ประเมินระบบฐานข้อมูล 3 ด้าน
14 พ.ย.52 คำว่าระบบในความหมายด้านการประกันคุณภาพ ได้รับคำอธิบายอย่างมุ่งมั่นตั้งใจอยู่บ่อยครั้งจาก อ.ศศิวิมล แรงสิงห์ ผอ.สำนักประกันคุณภาพ พบว่ามีตัวบ่งชี้หนึ่งที่ต้องมีการประเมินอย่างน้อย 3 ด้าน ผมจึงใช้ความรู้ที่ได้มาจากท่าน มายกร่างระบบสำหรับงานนี้ ซึ่งมีอยู่ 9 ข้อ และมี กลไกแรก คือคณะกรรมการพัฒนาระบบฐานข้อมูล กลไกที่สอง คือตัวแทนอาจารย์คณะวิทย์ฯ ได้แก่ อ.วิเชพ ใจบุญ อ.เกศริน อินเพลา อ.ทนงศักดิ์ เมืองฝั้น มาเป็นผู้เชี่ยวชาญ กลไกที่สาม คือผู้พัฒนาได้แก่ นายอนุชิต ยอดใจยา และนายธรณินทร์ สุรินทร์ปันยศ และ กระบวนการจัดตั้งคณะกรรมการ มีอีก 4 ขั้นตอน คือ 1)หนังสือขอตัวแทนจากหน่วยงาน 2)ทบทวนรายชื่อคณะกรรมการ 3)ขออนุมัติท่านอธิการ 4)ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการ
ระบบการประเมินฯ มีขั้นตอนดังนี้ 1)ขออนุมัติโครงการ “ประเมินประสิทธิภาพ ความปลอดภัยของระบบฐานข้อมูล และความพึงพอใจของผู้ใช้ฐานข้อมูล” 2)มีกระบวนการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่มาจากเกี่ยว ข้องทุกด้าน 3)ประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบฐานข้อมูลมหาวิทยาลัยโยนก 4)แจ้งให้กับเจ้าของระบบฐานข้อมูลทราบและเตรียมรับการประเมินใน ๓ ด้าน 5)ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อพิจารณาแบบประเมิน และกำหนดสายการประเมิน 6)ดำเนินการประเมินทั้ง ๓ ด้าน 7)รายงานผลการประเมินต่อเจ้าของระบบฐานข้อมูลและเปิดให้มีการส่งหลักฐานเพิ่มเติม 8)ประชุมพิจารณาผลการประเมินโดยคณะกรรมการพัฒนาระบบฐานข้อมูลร่วมและเจ้าของระบบฐานข้อมูล เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาต่อไป 9)จัดทำรายงานสรุปผล ซึ่งระบบฯนี้ได้ส่งให้เจ้าของระบบฐานข้อมูลทราบตามขั้นตอนที่ 4 แล้ว ส่วนคณะกรรมการจะทำงานหลังประกาศฯ ถูกเผยแพร่อย่างเป็นทางการ .. บางขั้นตอนยังไม่เรียบร้อย แต่งานต้องเดินต่อไป
วันวุ่นกับการยกร่างโครงการ
6 พ.ย.52 วันนี้ตั้งใจว่าจะเขียนชื่นชมเพื่อนร่วมงานหลายท่าน แทนการขอบคุณ สรุปว่างเขียนของอาจารย์อ้อมได้ท่านเดียว จากกลุ่มอาจารย์ที่ร่วมจัดกิจกรรมถวายผ้าจำนำพรรษาเชิงบูรณาการจนสำเร็จลุล่วง เนื่องจากติดภารกิจที่ อาจารย์วิเชพ ใจบุญ มอบหมายให้ยกร่างโครงการตามชื่อโครงการ และงบ ที่คณะกำหนดในแผนพัฒนาคุณภาพฯ แต่ก่อนสิ้นวันก็ดีใจที่ได้จัดทำหนังสือออก ถึง นายกอบต.ทุ่งกว๋าว สำเร็จ เพื่อขอไปให้บริการวิชาการ 2 โครงการ ในวันพฤหัสหน้า ตามที่ประสานงานกันไว้ สรุปว่าวันนี้ยกร่าง หรือปรับแก้โครงการไป 17 โครงการ ประกอบด้วย 1)โครงการจัดทำระบบฐานข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ 3 ด้าน 2)โครงการส่งเสริมพัฒนาการจัดกิจกรรมนักศึกษาแบบบูรณาการ 3)โครงการสนับสนุนการเป็นกรรมการวิชาการและวิชาชีพนอกสถาบัน 4)โครงการส่งเสริมและสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ได้เข้าร่วมอบรมการพัฒนาความรู้และทักษะวิชาชีพทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ 5)โครงการส่งเสริมและสนับสนุนให้อาจารย์เข้าร่วมนำเสนอผลงานวิชาการในระดับชาติและระดับนานาชาติ 6)โครงการส่งเสริมนักศึกษาด้านวิชาการ วิชาชีพ คุณธรรมระดับชาติ 7)โครงการเชื่อมโยงงานบริการวิชาการกับการเรียนการสอน 8)โครงการการรวบรวมข้อมูลการใช้ทรัพยากรภายใน และภายนอกไว้เป็นฐานข้อมูล 9)โครงการการส่งเสริมและจัดทำฐานข้อมูลสื่ออิเล็กทรอนิคประกอบการเรียนการสอนบนระบบ e-Learning 10)โครงการประชุมทางวิชาการระดับชาติด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ 11)โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ พัฒนาศักยภาพว่าที่บัณฑิตด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ 12)โครงการประเมินประสิทธิภาพ ความปลอดภัยของระบบฐานข้อมูล และความพึงพอใจของผู้ใช้ฐานข้อมูล 13)โครงการถวายผ้าจำนำพรรษา 14)โครงการอบรมการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย 15)โครงการความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 16)โครงการวิจัยแนวทางการผลิตสื่อวีดีทัศน์เพื่อขยายผลองค์ความรู้เรื่องการจัดการงานศพบ้านไหล่หิน ต.ไหล่หิน อ.เกาะคา จ.ลำปาง 17)โครงการวิจัยพัฒนาระบบฐานข้อมูลการประเมินตนเอง ปี 2551 ก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่ยกร่างใหม่ มีกว่าครึ่งที่มีโครงการอยู่แล้ว และนำมาปรับแก้ .. ก็ทั้งวันครับสำหรับการปรับและยกร่างโครงการ
ผลประเมินโครงการวิพากษ์ระบบฐานข้อมูล
26 ต.ค.52 โครงการนี้มีตัวบ่งชี้ 2 ตัว คือ จำนวนคน กับ ความพึงพอใจ พบว่าผลประเมินความพึงพอใจตกครับ อันที่จริงมีประเด็นให้วิเคราะห์กันต่อได้ และมีวิธีปรับแบบสอบถามที่สมเหตุสมผลกว่านี้ได้ แต่ตั้งตัวบ่งชี้ไว้ 3.5 ของภาพรวม แล้วผลได้เพียง 3.04 ส่วนจำนวนคนไม่มีปัญหา เพราะตั้งไว้ 30 คนแต่เข้ามา 40 กว่าครับ โดยสรุปคือตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการ มี 2 ข้อ ได้แก่ 1)มีผู้เข้าร่วมอบรมอย่างน้อย 80% ของเป้าหมาย 2) ความพึงพอใจโดยรวมไม่ต่ำกว่า 3.5 จากคะแนน 5 ระดับ ซึ่งโครงการบรรลุตามตัวบ่งชี้ของโครงการเพียง 1 ตัวบ่งชี้
ประเมินความพึงพอใจของผู้เข้ารับการอบรม พบว่า ห้องอบรมมีความพึงพอใจในระดับปานกลาง (X=2.64, S.D=0.93) วิทยากร มีความพึงพอใจในระดับมาก (X= 3.2, S.D= 0.63) หัวข้อที่บรรยาย มีความพึงพอใจในระดับมาก (X= 3, S.D= 0.69) ช่วงเวลาในการจัดกิจกรรม มีความพึงพอใจในระดับมาก(X= 3.08, S.D= 0.79) สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ มีความพึงพอใจในระดับมาก (X= 3.2, S.D= 0.8) ภาพรวมของโครงการ มีความพึงพอใจในระดับมาก (X= 3.04, S.D= 0.66)
ส่วนประเมินความเข้าใจ พบว่า ความเข้าใจหลังวิพากษ์สูงกว่าก่อนเข้าโครงการมีร้อยละ 64 มีความเข้าใจเท่าเดิมร้อยละ 32 และมีความเข้าใจลดลงร้อยละ 4