อียูโหวตให้มีการใช้ที่ชาร์ตโทรศัพท์แบบมาตรฐาน


EU votes for universal phone charger   (18th March, 2014)

คุณเคยประหลาดใจบ้างไหม ทำไมทุกบริษัทสมาร์ทโฟนต้องทำที่ชาร์ตต่างกันในแต่ละรุ่น ซึ่งต่างไปจากตัวเดิมก่อนหน้านั้น

Have you ever wondered why every smartphone manufacturer makes a charger for its phone that is different from the rest?

ฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปได้ไตร่ตรองเรื่องลึกลับเหมือน ๆ กัน

Lawmakers at the European Union have also been pondering the same mystery.

ผู้บริโภคควรยินดี และที่จะโหวตให้กับความคิดริเริ่มของนักการเมืองยุโรป

Consumers should welcome a new, common-sense initiative voted for by European politicians.

อียูตัดสินใจว่าบริษัทผู้ผลิตต้องทำที่ชาร์ตที่ใช้กับอุปกรณ์ทั้งหมดแบบมาตรฐาน

The EU has decided that all smartphone companies will soon have to make the plug adaptor that connects to the electricity supply the same.

พวกเขาจะไม่เห็นชอบให้กับปลายสายแบบอื่น ส่วนที่เชื่อมต่อของอุปกรณ์ต้องเหมือนกัน

They did not vote on making the other end of the cable, the part that connects to the phone itself, the same.

เรื่องนี้ปลดปล่อยผู้บริโภคจากความสับสน

This will leave many consumers feeling somewhat perplexed.

พวกเขารู้สึกดีเมื่อกฎหมายถูกยกร่างมาได้ครึ่งทางแล้ว

They may well view the upcoming law as a half measure.

นั่นจะเรียกว่ามาตรฐานการเชื่อมต่อสำหรับโทรศัพท์

There were calls to also standardize the connector that fits into the phone.

ความแตกต่างที่น่าเวียนหัวในการออกแบบตัวเชื่อมต่อหรือตัวแปลงที่หลากหลายเป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อม

The dizzying variety in designs of current adaptors is detrimental to the environment.

ทุกครั้งที่ผู้บริโภคซื้อโทรศัพท์ใหม่ พวกเขาต้องทิ้งที่ชาร์ตเก่าไป และจ่ายให้กับที่ชาร์ตสำหรับอุปกรณ์ใหม่

Every time someone buys a new phone, they usually end up throwing away their old charger and paying for another one that fits their new device.

บาบาร่า ไวเลอร์ นักการเมืองอียู กล่าวว่า กฎหมายใหม่จะช่วยสภาพแวดล้อม และลดการก่อขยะอิเล็กทรอนิกส์

EU politician Barbara Weiler said the new law would help the environment by cutting down on electronic waste.

เธอบอกผู้รายงานข่าวว่า  มันถึงจุดสิ้นสุดของขยะกลุ่มที่ชาร์ตและขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 51000 ตันต่อปี

She told reporters: “It will put an end to charger clutter and 51,000 tons of electronic waste annually.”

หล่อนเพิ่มเติมว่า ความไม่เข้ากันของที่ชาร์ตในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นฝันร้าย และความไม่สะดวกสบายของผู้ใช้จริง ๆ

She added: “The current incompatibility of chargers for mobile phones, smart phones, tablets, digital cameras and music players is a nightmare and a real inconvenience for consumers.”

ผู้ผลิตจะเปลี่ยนอุปกรณ์ไปใช้ที่ชาร์ตใหม่ตามมาตรฐานในปีพ.ศ.2560

Manufacturers have until 2017 to comply with the new directive.

http://www.breakingnewsenglish.com/1403/140318-phone-charger.html
http://www.breakingnewsenglish.com/1403/140318-phone-charger.mp3
http://www.breakingnewsenglish.com/technology.html

: 1 : 2 : 3 : 4 : 5 : 6 : 7 : 8 : 9 : 10 : 11 : 12 : 13 : 14 : 15 : 16 :
http://www.thaiall.com/quiz/terms.php

กูเกิ้ลออกอุปกรณ์ตรวจสอบสุขภาพแบบสวมใส่

Google to launch wearable health monitor   (18th June, 2014)

กูเกิ้ลกำลังเล่น ไล่ตาม แอ็บเปิ้ล และซัมซุง ในการแข่งขันการเป็นผู้นำในซอฟท์แวร์สำหรับอุปกรณ์สวมใส่เพื่อดูแลสุขภาพ

Google is playing catch-up to Apple and Samsung in the race to be market leader in wearable health software.

ยักใหญ่ด้านเทคโนโลยีทำงานกับอุปกรณ์ที่เรียกกูเกิ้ลฟิตเพื่อแข่งกับเฮลท์คิดของแอปเปิ้ล และซัมซุงกาแลกซี่เกียร์ 2  และกาแลกซี่เกียร์ฟิต

The tech giant is working on a device called Google Fit to rival Apple’s HealthKit and Samsung’s Galaxy Gear 2 and the Galaxy Gear Fit.

แหล่งข่าวกล่าวว่า บริษัทกำลังรีบเร่งทำเวลาเพื่อออกสินค้า ดังนั้นจะไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

Sources say the company is working overtime to launch its product so it is not left behind.

กูเกิ้ลหวังเป็นบริษัทแรกที่จะทำให้อุปกรณ์ใช้งานกับระบบปฏิบัติการแอนดรอย

Google is hoping to be the first company to provide a device using the Android operating system.

นี่เป็นการโจมตีตลาดอีกครั้งของกูเกิ้ลในตลาดนี้

This is Google’s second foray into this market.

ตัวแรกเรียกว่า กูเกิ้ลเฮลท์ ซึ่งไม่มีแรงฉุดลูกค้าให้อยู่กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งมันไม่ให้ข้อมูลสำหรับผู้ชื่นชอบการออกกำลัง หรือรักในสุขภาพในภายหลังการออกกำลังกาย

The first product was called Google Health, which did not gain traction with consumers as it did not offer the kind of information fitness enthusiasts and health buffs were after.

คนในอุตสาหกรรมนี้เปิดเผยว่า กูเกิ้ลฟิตก็เหมือนกัน

An industry insider revealed what Google Fit might look like.

พวกเขาว่ามันเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่วัดข้อมูลสุขภาพ จำนวนก้าวเดิน วิ่ง หรือการเต้นของหัวใจ

They said it would be a wearable device that measures bio-rhythmic data like the number of steps someone walks or runs, or heart rate.

สารสนเทศเหล่านี้จะเชื่อมกับบริการในกูเกิ้ลคลาวด์

This information will be linked with Google’s cloud-based services.

บริษัทพยายามจะเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จที่บรรจุหีบห่อพร้อมส่ง

The company is trying to keep further details of the final product under wraps.

เว็บเท็คครัช เขียนว่า จากการได้ยิน กูเกิ้ลฟิตจะเก็บรายละเอียดข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก การเต้นของหัวใจ เวลาวิ่ง สถานะร่างกาย และอีกหลายอย่าง

The TechCrunch website wrote: “From what we’re hearing, Google Fit will track all sorts of health data, such as weight, heart rate, run times, body-building stats and more.”

ผู้ใช้จะสามารถประสานถ่ายโอนข้อมูลของเขากับกูเกิ้ลไอดี ทำให้ข้อมูลถูกพกพาไปใช้ได้ง่ายไม่ผูกกับแอพหรืออุปกรณ์ที่ใช้

It added: “End users will be able to sync their Google Fit profiles to their Google IDs, which will make their data portable no matter what app or device they’re using.”

http://www.breakingnewsenglish.com/1406/140618-wearable-health-device.html
http://www.breakingnewsenglish.com/1406/140618-wearable-health-device.mp3

http://www.breakingnewsenglish.com/technology.html

: 1 : 2 : 3 : 4 : 5 : 6 : 7 : 8 : 9 : 10 : 11 : 12 : 13 : 14 : 15 : 16 :
http://www.thaiall.com/quiz/terms.php

ยิ่งใช้เทคโนโลยีมาก ยิ่งหลับน้อยลง

หัวข้อข่าวว่า “ยิ่งใช้เทคโนโลยีมาก ยิ่งหลับน้อยลง
ประเด็นที่น่าสนใจคือ

ศูนย์วิจัย พบว่าชาวอังกฤษใช้เทคโนโลยีมากกว่านอนหลับไป 20 นาที
เพราะใช้เวลากับเทคโนโลยีไป 8 ชั่วโมง 41 นาที
แต่ใช้เวลานอนเฉลี่ย 8 ชั่วโมง 21 นาที
แล้วเขายังพบอีกว่า เด็กหกขวบ รู้ว่าจะใช้เทคโนโลยีอย่างไรในระดับเดียวกับผู้ใหญ่วัย 45 ขวบ
แล้วยังพบว่าใช้เทคโนโลยีมากสุดตอนอายุ 14 – 15 ขวบ

People use technology more, sleep less   (9th August, 2014)

ผู้คนในอังกฤษเดี๋ยวนี้ใช้เวลาในการดูทีวี เล่นเกม และสมาร์ทโฟน และเครื่องคอมพิวเตอร์มากกว่านอนหลับซะอีก

People in Britain now spend more time watching TV, gaming, and using their mobile phones and computers than sleeping.

ผลวิจัยโดยบริษัทออฟคอม พบว่า ชาวอังกฤษใช้เทคโนโลยี มากกว่านอนหลับ 20 นาที

Research by the British communications agency Ofcom found that Britons use technology for 20 minutes longer than they spend sleeping.

เฉลี่ยแล้ว ผู้ใหญ่ใช้เทคโนโลยี 8 ชั่วโมง 41 นาทีในแต่ละวัน

The average U.K. adult uses technology for eight hours and 41 minutes a day.

พวกเขาหลับประมาณ 8 ชั่วโมง 21 นาที

They sleep for an average of eight hours and 21 minutes.

เหตุผลหนึ่งที่ใหญ่ที่สุด คือ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และใช้ไวไฟ

One of the biggest reasons for this is broadband and wi-fi.

ผู้คนสามารถได้รับการเชื่อมต่อเกือบทุกที่ ดังนั้นจึงใช้เวลาเชื่อมต่อออนไลน์ยิ่งขึ้น

People can get online almost anywhere, so they spend more time online.

คนจำนวนมากใช้โทรศัพท์ หรือท่องเว็บ ขณะกำลังนั่งดูทีวี

Many people make telephone calls or surf the web while watching television.

ดูทีวีเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมที่สุด

Television was the most popular activity.

ผู้ใหญ่ดูทีวีราว 3 ชั่วโมงในแต่ละวัน

Adults watched an average of three hours a day.

ผลการศึกษาพบว่าการใช้เทคโนโลยีแตกต่างไปตามกลุ่มอายุ

The study looked at technology and different age groups.

เด็ก 6 ขวบจะเข้าใจวิธีใช้เทคโนโลยีใกล้เคียงกับคนอายุ 45 ปี

It found that six-year-olds understand how to use technology at the same level as 45-year-olds.

การค้นพบอีกอย่าง คือ คนที่เข้าใจเทคโนโลยีดิจิทัลที่สุดคือ 14 หรือ 15 ปี

Another finding was that people understand digital technology most when they are 14 or 15.

หมอพูดว่าเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนวิธีในการติดต่อสื่อสารกัน

A doctor said technology is changing the way people communicate with each other.

ดอกเตอร์อาร์เทอร์เตือนว่า เรากำลังต่อต้านสังคมมากขึ้นและมากขึ้น

Dr.Arthur Cassidy warned that we are becoming more and more anti-social.

เขาว่า เรากำลังถอยห่างจากการสื่อสารแบบเผชิญหน้าเพราะเทคโนโลยี

He said we are moving away from face-to-face conversations because of technology.

เขาเพิ่มเติมว่า ผู้คนกำลังเสพติดสมาร์ทโฟนของพวกเขา

He added that people are becoming addicted to their smart phones.

เทคโนโลยีทำให้ผู้คนทำงานที่บ้านหลังจากพวกเขากลับจากที่ทำงาน

Technology also means people are working at home after they get home from work.

http://www.breakingnewsenglish.com/1408/140809-sleeping.html
http://www.breakingnewsenglish.com/1408/140809-sleeping.mp3

http://www.breakingnewsenglish.com/technology.html

: 1 : 2 : 3 : 4 : 5 : 6 : 7 : 8 : 9 : 10 : 11 : 12 : 13 : 14 : 15 : 16 :
http://www.thaiall.com/quiz/terms.php

ชี้แจงสาเหตุที่อีเมลล่าช้าเป็นประจำ (delay)

delay
delay
เล่าสู่กันฟังเรื่อง “อีเมลถึงผู้รับล่าช้าเป็นประจำ
ในองค์กรที่ผมทำงานอยู่ใช้บริการอีเมลของ gmail.com แล้วพบปัญหาว่า
บางฉบับส่งถึงทันที บางฉบับช้าไปเกือบ 2 วัน แบ่งหัวข้อชี้แจงดังนี้
1. ที่มา
มีเพื่อนร่วมงานหลายท่านโทรเข้ามาถามว่าทำไมส่งอีเมลไม่ถึงผู้รับทันที
และมีการสอบถามกับเจ้าหน้าที่ไอทีบ่อยครั้งว่าทำไมอีเมลส่งแล้วถึงช้า
เป็นผลให้ ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ
เมื่อได้รับมอบหมายงานจากหัวหน้าก็ไม่ได้ทำ เพราะไม่ได้รับเมลในกรอบเวลา
เช่น ส่งเอกสารการประชุม ก่อนเข้าประชุม 10 นาที ก็ไม่ได้นำเข้าประชุมด้วย
เพราะอีเมลถึงผู้รับช้าบ้าง เร็วบ้าง ไม่แน่นอน
แม้ส่งถึง mailgroup ผู้รับในกลุ่มก็จะได้รับไม่พร้อมกัน
2. ชี้แจงปัญหา
เรื่องอีเมลส่งถึงผู้รับล่าช้า (delay) เป็นกับระบบอีเมลฟรีระดับโลก
ทั้ง hotmail และ gmail ต่างก็เป็น และเขาก็ชี้แจงว่าเกิดขึ้นจริง
เพราะอีเมลหนึ่งฉบับต้องผ่าน server ของเขา 4 – 5 เครื่อง
อาจมีบางเครื่องเสีย แต่เจ้าหน้าที่ของเขาจะแก้ไขอย่างรวดเร็ว
ใน 100 ฉบับมีเพียง 2% ที่ช้าเกิน 2 ชั่วโมง
และมี 71% ที่จะถึงผู้รับเกือบทันที
ผมเคยตรวจฉบับหนึ่งที่รออยู่ พบว่าช้าไป 13 ชั่วโมง
ถ้าพบอีเมลใน inbox เข้าตอนตี 4 นั่นก็จะช้าไปกว่า 10 ชั่วโมง ตรวจสอบได้ครับ
บริการตรวจสอบว่าอีเมลล่าช้ากี่ไปชั่วโมง ตามลิงค์ด้านล่างนี้
3. คำอธิบายของ gmail.com
มีข้อมูลทางสถิติชี้แจงจาก gmail.com ว่า
ปัญหานี้จะเกิดแค่ 29% ส่วนอีก 71% ไม่พบปัญหา
แล้วมีประมาณ 1.5% ที่ล่าช้าเกิน 2 ชั่วโมง
อ่านเพิ่มเติมที่
4. คำแนะนำในการแก้ไข เพื่อลดความเสี่ยงของการ delay
– ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่เร่งด่วน ก็ใช้อีเมลตามปกติได้ครับ
เพราะเท่าที่ทราบ ช้าไม่เกิน 1 วัน และกว่า 70% ก็ถึงทันที
– แต่ถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก ขอให้ upload เอกสารเข้า e-document หรือ cloud storage
แล้วแจ้งทางโทรศัพท์ หรือทำทั้ง 2 ทาง หรือส่งอีเมลหลายครั้ง
เพราะระบบของ gmail.com ไม่รับประกันว่าฉบับใดจะช้าหรือเร็ว
ฉบับที่ส่งสุดท้ายอาจถึงก่อนฉบับแรกก็ได้

ความต่าง 5 เรื่องของ word 2013 และ 2010

ความต่าง 5 เรื่องของ word 2013 และ 2010

onedrive on word 2013
onedrive on word 2013

แน่นอนว่าโปรแกรมทั้ง 2 รุ่นห่างกัน 3 ปี (2013 – 2010)
ย่อมมีอะไรแตกต่างกันมากมาย เมื่อสำรวจในเบื้องต้น
พบว่าผลการเปรียบเทียบ microsoft word มีอย่างน้อย 5 เรื่องต่อไปนี้ที่ต่างกัน
1. ชื่อ TAB ใน ribbon menu เป็นพิมพ์ใหญ่ เห็นได้เด่นชัดขึ้น
2. ชื่อ TAB : Page Layout เดิมถูกแยกออกเป็น DESIGN กับ PAGE LAYOUT
3. เปลี่ยนรูปแบบของ icon ซึ่งทั้งหมดไม่เป็นแบบ rich surface
4. เปิดแฟ้ม pdf มาอ่าน หรือมาแก้ไขได้ แต่ยังมีปัญหากับภาษาไทย
5. เปิดหรือจัดเก็บแฟ้มใน onedrive (ชื่อเดิม skydrive) ได้

การปรับใช้ตัวแบบทูน่า (Tuna model) ในการพัฒนาระบบ

tuna model
tuna model

ตัวแบบทูน่า (Tuna model) โดย ดร.ประพนธ์ ผาสุขยืด (2550: 21-26)
เป็นตัวแบบหนึ่งของการจัดการความรู้
ที่ผมนำมาประยุกต์ และเพิ่มระบบย่อยเข้าไปในแต่ละส่วน ให้เป็นตัวแบบที่ใช้อธิบาย
การพัฒนาการบูรณาการระบบสารสนเทศบุคลากร โดยใช้ตัวแบบทูน่า
ซึ่งตัวแบบกำหนดเป็น 3 ส่วน
ส่วนแรก ส่วนกำหนดทิศทาง (Knowledge Vision)
1. วิสัยทัศน์/นโยบาย (Vision)
2. ตัวบ่งชี้ความสำเร็จ (Indicator)
3. แผนปฏิบัติการ (Plan)
4. จัดสรรทรัพยากร (Resource)
ส่วนที่สอง ส่วนแลกเปลี่ยน และแบ่งปัน (Knowledge Sharing)
1. กลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Group Discussion)
2. วิเคราะห์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง (Analysis)
3. ฝึกใช้ความรู้ที่เกี่ยวข้อง (Practice)
4. สังเคราะห์ แล้วแบ่งปัน (Synthesis)
ส่วนที่สาม ส่วนสะสม (Knowledge Asset)
1. รวบรวมความรู้เข้าคลัง (Collection)
2. จัดการความรู้ (Management)
3. ประเมินความรู้ (Evaluation)
4. เผยแพร่ความรู้ (Sharing)
และมีการไหลของวิสัยทัศน์จากหัวปลาไปหางปลา
ซึ่งผู้บริหารกำหนดวิสัยทัศน์ในแบบ (Top-Down Direction)
และมีการไหลของความรู้ขึ้นมาจากหางปลาไปสู่หัวปลา
ซึ่งความรู้ถูกเรียกใช้ขึ้นมาจากทุกระดับ (Bottom-up Direction)

โดยมีงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่ผมสนใจคือ
งานของ คุณณัฐพล สมบูรณ์ ทำการศึกษาวิจัยเรื่อง ระบบการจัดการความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ กรณีศึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อสร้างระบบถามตอบด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ในรูปแบบของเว็บแอพพลิเคชัน (Web Application) ขึ้นมาใช้งานภายในหน่วยงานสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อรองรับในส่วนของการบริหารจัดการข้อมูลสารสนเทศที่มีอยู่ให้อยู่ในรูปแบบเว็บไซต์เพื่อให้ง่ายในการช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานเพื่อศึกษาหาความรู้ หรือแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหา ข้อผิดพลาดเบื้องต้นด้วยตนเอง ทั้งยังเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
พบ paper นี้ใน thailis

http://aikik.blogspot.com/2011/01/model-knowledge-mangement.html

จาก blog ของ Aikik
นำเสนอว่า บุคคลที่ดำเนินการจัดการความรู้
บุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดการความรู้นั้น มีดังนี้

1.  ผู้บริหารสูงสุด (CEO)
องค์กรใดที่ผู้บริหารสูงสุดเห็นคุณค่า และความสำคัญของการจัดการความรู้ องค์กรนั้นจะประสบความสำเร็จในการจัดการความรู้อย่างแน่นอน
2. คุณเอื้อ (Chief Knowledge Officer, CKO) การริเริ่มการเรียนรู้ที่แท้จริงจะอยู่ที่คุณเอื้อ โดยคุณเอื้อต้องมีหน้าที่นำหัวปลาไปเสนอให้กับผู้บริหารสูงสุด จนยอมรับหลักการ หลังจากนั้นก็ดำเนินการร่วมกับบุคคลอื่น คอยเชื่อมโยงหัวปลา เข้ากับวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ขององค์กร ร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้ จัดสรรทรัพยากรที่ใช้ในกิจกรรมการเรียนรู้ พร้อมทั้งคอยเชื่อมโยงการจัดการความรู้เข้ากับกิจกรรมสร้างสรรค์อื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกองค์การ
3. คุณอำนวย (Knowkedge Facilitator, KF) เป็นผู้คอยอำนวยความสะดวกในการจัดการความรู้ เป็นคนจุดประกายความคิดและเป็นนักเชื่อมโยงระหว่างผู้ปฏิบัติ (คุณกิจ) กับผู้บริหาร (คุณเอื้อ), ผู้ปฏิบัติต่างกลุ่มในองค์กร และเชื่อมโยงการจัดความรู้ภายในกับภายนอกองค์กรอีกด้วย โดยอาจจัดออกมาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น จัดตลาดนัดความรู้, จัดการดูงาน, จัดพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความรู้ เป็นต้น
4. คุณกิจ (Knowledge Practitioner, KP) เป็นผู้ปฏิบัติงานและดำเนินกิจกรรมการจัดการความรู้ร้อยละ 90 – 95 และเป็นผู้ที่ต้องมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ใช้ หา สร้าง แปลง ความรู้เพื่อการปฏิบัติให้บรรลุ

เพื่อนบ่นเรื่องส่งจาก gmail.com มาถึง inbox ช้า

อยากรู้ไหมครับว่า อีเมลที่มาถึงเรา แวะเอ้อระเหยลอยชายบนท้องฟ้าอยู่กี่ชั่วโมง
ตรวจสอบได้นะครับ ไม่ต้องนับเองด้วย

google app delay
google app delay

ไปค้นดู ก็พบเพื่อน ๆ พบปัญหากันเพียบ
ที่องค์กรของผมก็พบปัญหากันเพียบ
วิธีตรวจสอบ
1. เปิดอีเมล คลิ๊ก สามเหลี่ยมมุมบนขวาของอีเมล
2. เลือก  show original ของอีเมลที่ส่งสัยว่า delay
3. คัดลอกส่วนบน ๆ ของ header
4. นำที่คัดลอกไปวางในช่องบริการของเว็บไซต์ข้างล่างนี้
https://toolbox.googleapps.com/apps/messageheader/

5. จะเห็นว่า email ของเรา วิ่งไปยัง smtp ตัวใด และตัวใดทำให้เกิด delay
แต่นี่เป็นระบบอัตโนมัติ ส่งเมลแต่ละครั้งเลือกเส้นทางไม่ได้นะครับ

นี่เป็นบริการวิเคราะห์ header ของ google.com เอง
พบว่าอีเมลตามภาพนี้ ช้าไป 13 ชั่วโมง สรุปว่าทำอะไรไม่ได้ครับ
แล้วแต่ดวงเลย เพราะทดสอบมาแล้วพบกรณี delay ดังนี้
1. ส่ง 3 ฉบับติดต่อกัน  ฉบับสุดท้ายอาจถึงก่อน ส่วนฉบับแรกอาจมาในวันรุ่งขึ้น
2. จะมี attach หรือไม่มีก็ไม่ใช่ประเด็น ช้าหรือเร็ว ไม่เกี่ยวกับ attach
3. ส่งเข้า mail group แต่ตอนไปถึงแต่ละคน ก็ถึงไม่พร้อมกัน
4. บางทีทดสอบ 10 ฉบับ ก็ไปถึง inbox ของเพื่อนในเวลา 3 นาที ทุกฉบับก็มี
สรุปว่าเป็นของฟรีที่คนใช้เยอะ และเราก็คุมไม่ได้ ที่ทำได้คือต้องทำใจครับ
อ้างอิงจาก
http://www.labnol.org/internet/email-delivery-delayed/25922/

google.com อธิบายเรื่องนี้ พร้อมให้ตัวเลขมาด้วยว่า
ปัญหานี้จะเกิดแค่ 29% อีก 71% ไม่พบปัญหา
เพราะพยายามกันเต็มที่แล้ว
เฉลี่ยแล้ว delay 2.6 วินาที
และมี 1.5% ที่ delay เกิน 2 ชั่วโมง
Posted: Tuesday, September 24, 2013
http://gmailblog.blogspot.com/2013/09/more-on-gmails-delivery-delays.html

อีกมุม จากเรื่องยอบรับได้ไหม ว่าเด็กจบวิทย์คอมตกงานเพราะอาจารย์ห่วย

แล้วคุณเลือกภาษาไทยกันหล่ะครับ
แล้วคุณเลือกภาษาไทยกันหล่ะครับ

ภาพนี้ได้จากโพสต์ในพันทิพย์
เรื่อง “ยอบรับได้ไหม ว่าเด็กจบวิทย์คอมตกงานเพราะอาจารย์ห่วย
ผู้เขียนชื่อ ทาสเทวี เขียนได้ดีมาก สะท้อนจากผู้เป็นอาจารย์ที่รู้ลึกรู้จริง
บอกว่าเคยพบเด็กพูดว่า
พี่ครับ จบไปผมก็ไม่ได้ใช้ ผมไม่ทำงาน นี้หรอก เหนื่อย
แต่ผมชอบภาพประกอบครับ เพราะถ้าคิดตามโพสต์แล้วเหนื่้อยใจ
http://pantip.com/topic/32323444
ภาพนี้ชวนให้ประเมินจุดแข็ง จุดอ่อนของแต่ละภาษา
บรรทัดแรกถามว่า “คุณจะเลือกใช้ภาษาไหน
คนแรกเสนอว่า perl ยืดหยุ่น ปรับได้ง่าย
คนที่สองเสนอว่า c++ เร็ว และทรงพลัง
คนที่สามเสนอว่า delphi ประณีต โครงสร้างสวยงาม
คนที่สี่เสนอว่า vb ใคร ๆ ก็เขียนได้
คนที่ห้าเสนอว่า c# จัดการง่าย และทันสมัย
ข้อโต้แย้ง
หนึ่ง – แต่อยู่นอกเหนือการควบคุมอย่างรวดเร็ว
สอง – แต่ขี้เหล่ และไม่ปลอดภัย
สาม – แต่ดีในอดีต ดูวันที่ขายด้วย
สี่ – แน่ใจนะว่าต้องการจริง ๆ
ห้า – แต่มาพร้อมราคานะ
บรรทัดสุดท้าย  “เลือกที่ใช่อันเดียวสำหรับงาน คือ ภาษาจาวา

การจัดทำข้อมูลตามมาตรฐานข้อมูลอุดมศึกษาปีการศึกษา 2557

ผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลด้านต่าง ๆ ของประเทศไทย
ผู้รับผิดชอบฐานข้อมูลด้านต่าง ๆ ของประเทศไทย

25 ก.ค.57 ร่วมประชุมการจัดทำข้อมูลตามมาตรฐานข้อมูลอุดมศึกษาปีการศึกษา 2557
ณ โรงแรม อมรินทร์ ลากูน จังหวัดพิษณุโลก
มีวัตถุประสงค์การประชุมดังนี้
1. เพื่อชี้แจงให้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชนมีความเข้าใจการจัดทำข้อมูลตามมาตรฐานข้อมูลอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2557 และนำเสนอระบบการนำส่งข้อมูลเข้าคลังข้อมูลอุดมศึกษา
2. เพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชนเกิดความร่วมมือ แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลอุดมศึกษา
3. เพื่อรับทราบปัญหาและอุปสรรค และข้อเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงการพัฒนาข้อมูลอุดมศึกษาให้สอดคล้องตามมาตรฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ

ได้รับฟังนโยบายการจัดทำข้อมูลตามมาตรฐานข้อมูลอุดมศึกษา โดย น.ส.นิติมา  จิตต์จำนง ผู้อำนวยการกลุ่มสารสนเทศอุดมศึกษา ที่เล่าถึงการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ โดยข้อมูลที่กลุ่มงานนี้ดูแลประกอบด้วย ข้อมูลรายบุคคลนักศึกษา ข้อมูลรายบุคคลบุคลากร ข้อมูลรายบุคคลผู้สำเร็จการศึกษา ข้อมูลหลักสูตร และข้อมูลการเงินอุดมศึกษา
ข้อมูลทั้งหมดเชื่อมโยงผ่านระบบอินเทอร์เน็ตให้บุคคลทั่วไปเข้าดูข้อมูลสรุปภาพรวมของประเทศ และมหาวิทยาลัยจะส่งข้อมูลแต่ละรอบเข้าสู่ระบบ มีโฮมเพจที่เกี่ยวข้องดังนี้
1. คลังข้อมูลอุดมศึกษา
http://www.data3.mua.go.th/dataS/
2. สารสนเทศสำหรับบุคคลทั่วไป
http://www.info.mua.go.th/information/
3. บริการสืบค้นข้อมูลสำหรับบุคคลทั่วไป
http://www.gotouni.mua.go.th/
4. บริการบันทึกข้อมูลสำหรับสถาบันการศึกษาในประเทศไทย
http://www.gotouni.mua.go.th/gotouniV2/
http://www.gotouni.mua.go.th/index_staff.php
5. เว็บไซต์ที่เผยแพร่รายงาน
http://www.data3.mua.go.th/dataS/web_reports.php

schedule
schedule

ผู้นำเสนอด้านต่าง ๆ ในกลุ่มสารสนเทศอุดมศึกษา
1. น.ส.นิติมา จิตต์จำนงค์ ผู้อำนวยการกลุ่มสารสนเทศอุดมศึกษา
2. น.ส.ธารีณี  พฤกษ์พนาเวศ ข้อมูลรายบุคคลนักศึกษา
3. นายขจรศักดิ์  จิตต์อารีย์เสถียร ข้อมูลรายบุคคลบุคลากร
4. น.ส.ภัทรกันย์ จันทร์หอมไกล ข้อมูลรายบุคคลผู้สำเร็จการศึกษา และภาวะการมีงานทำของบัณฑิต
5. ว่าที่ร้อยตรีหญิงประภาศรี พุดศรี ข้อมูลหลักสูตร
6. นางสุภาพรณ์ ดอกแก้วดี ข้อมูลการเงินอุดมศึกษา

รวมเอกสาร PDF ที่แจกในการประชุมชี้แจง
การจัดทำข้อมูลตามมาตรฐานข้อมูลอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2557
https://www.facebook.com/download/1460691054189550/doc_meeting_db_mua_570725.rar

ตารางข้อมูลอ้างอิง ระบบภาวะการมีงานทำ
ที่แจกในการประชุมชี้แจง
การจัดทำข้อมูลตามมาตรฐานข้อมูลอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2557
https://www.facebook.com/download/800929549927110/REF_UOC_questionnaire_570725.rar

ตารางข้อมูลอ้างอิง ระบบข้อมูลนักศึกษา บุคลากร การเงิน ผู้สำเร็จ
ที่แจกในการประชุมชี้แจง
การจัดทำข้อมูลตามมาตรฐานข้อมูลอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2557
https://www.facebook.com/download/329480910562626/REF_UOC_STD_STAFF_GRD_FINANCE_570725.rar

ภาพใน fb album
https://www.facebook.com/ajburin/media_set?set=a.10152541757908895.1073741843.814248894

คำสั่งเรียก guest ที่เป็น win7 บน win8

virtualbox has host and guest
virtualbox has host and guest

27 ก.ค.57 การใช้งาน virtual box เพื่อติดตั้งหลาย os
ถ้าติดตั้ง win8 เป็น host แล้วติดตั้งระบบปฏิบัติการต่าง ๆ เป็น guest
ทำให้เรียกใช้ระบบปฏิบัติการอะไรก็ได้ในเครื่อง ทั้ง windows, linux หรือ mac
กรณีตัวอย่างในภาพนี้ ติดตั้ง win7 เป็น guest
ก็ใช้คำสั่งข้างล่างนี้สร้างเป็น batch file แล้วนำไปวางใน startup
“C:\Program Files\Oracle\VirtualBox\VBoxManage” startvm “win7”

ขั้นตอนการวาง batch file ใน startup บน win8
1. windows+R
2. %appdata%
3. เข้าไปที่ microsoft\windows\start menu\programs\startup
4. นำ batch file ไปวางใน startup ได้แล้ว
ทุกครั้งที่เปิดเครื่องก็จะเรียก guest ขึ้นมาทำงานทันที ไม่ต้องไปคลิ๊กอีก
เพื่อเปิด guest เป็น webserver และเปิด network เป็น bridge
คราวหน้าจะเข้า folder นี้ให้ไวขึ้นก็ทำ pin ไว้ก็ได้ครับ