เลขเด็ดกับ sketchup

sketchup
sketchup

4 ม.ค.54 วันนี้ลองดูเลขตัวหนึ่งก็พบเลข 512 เป็นเลขสวยในกลุ่มสแตติกเว็บเพจของผมครับ เพราะวันนี้เพิ่มโฮมเพจ /sketchup เข้าไปอีก 1 เว็บเพจ (ได้แรงบันดาลใจมาจาก อ.หนุ่ย มืออาร์ทของมหาวิทยาลัย) และคิดว่าในชีวิตจำเลข 512 ที่คู่กับ sketchup น่าจะดี ที่สนใจก็เพราะ 512 มีค่าเท่ากับ 1 sector หรือครึ่งหนึ่งของ 1 KB นั่นเอง เป็นเลขที่เคยทำให้ผมต้องปิดเว็บไซต์ counterthai.com ด้วยนโยบาย static file ที่แยกแต่ละ page ตาม user และเครื่องที่เช่าไว้กำหนดขนาดของ cluster เท่ากับ 8 sectors นั่นหละครับ

+ http://www.thaiall.com/sketchup
+ http://sketchup.google.com/

+ http://www.thaiall.com/update.htm

ท่านสามารถตรวจจำนวน cluster ผ่าน computer management, defragmentation, report ได้ครับ

วันวุ่นที่ใจไม่ค่อยวุ่น กับหลายหน่วยงาน

ประกันคุณภาพ
ประกันคุณภาพ

4 ม.ค.54 วันนี้ทำโปรแกรมระบบฐานข้อมูลการประเมินตนเอง /sar เพิ่มอีกนิดหน่อย โดยจัดการส่วนแสดงการรวมเอกสารทั้งหมดจากบุคลากร (มีน้องสาว 3 หน่วยงานกับหัวหน้าหนุ่มมากวนใจ) เพื่อแสดงแบบรายการแยกตามเกณฑ์มาตรฐาน ที่ส่งเอกสารผ่านระบบ e-document มีประโยชน์กับฝ่ายประกันคุณภาพทั้งคณะวิชาและมหาวิทยาลัยได้แล้ว ในอนาคตอันใกล้คณะวิชา หรือมหาวิทยาลัยจะคัดกรองออกไปใช้ ก็จะเลือกคลิ๊กตามชื่อของเจ้าของแฟ้ม หรือชื่อคณะวิชา .. ซึ่งพัฒนาตามความต้องการของทีมวิจัยประกันคุณภาพการศึกษา แต่ยังขาดบูรณาการ เพราะอยู่ระหว่างพัฒนา Prototype

เทคนิคนี้เป็นการรวมก่อนแยก เพราะนี่เป็นรุ่น 2 ซึ่งรุ่นแรกทำแบบแยก และไม่เห็นรวม แต่มหาวิทยาลัยต้องการมองแบบรวม จึงทำแบบรวมเป็น default ไว้ก่อน น่าจะมีประโยชน์ในภาพรวม

ระบบนี้ยังสับสนเรื่อง account ของระบบ intranet กับ sar  เพราะปีที่ผ่านมาทำให้ใช้ได้ทั้งบัญชีของ intranet กับ sar ซึ่งยุ่งในการสร้างพื้นที่รองรับในส่วนของ sar เฉพาะแต่ละบุคคล แต่ปีนี้ตั้งใจจะยุบการรองรับ account ที่มาจาก sar ให้เหลือเฉพาะ intranet แต่สำหรับคณะวิชา และมหาวิทยาลัย ยังจำเป็นต้องมี account ของ sar เพื่อกำหนดพื้นที่เฉพาะสำหรับข้อมูลอื่น เช่น เป้าหมายและผลการประเมินตนเอง ซึ่งระดับบุคคลไม่มีส่วนนี้

วันนี้ทำงานกับคนที่อยากทำงาน รู้สึกใจสงบครับ

ปีจำกัดที่ 2010 ใน moodle

moodle 2010
moodle 2010

4 ม.ค.54 หัวหน้าที่ใช้งานระบบ e-learning แจ้งว่า พบปัญหาใน moodle 1.5.3 ที่มีปีให้เลือกถึงค.ศ.2010  การขยายปีออกไปทำได้โดยแก้ไขแฟ้ม lib/weblib.php หาคำสั่ง for ($i=2000; $i<=2010; $i++) แล้วก็เปลี่ยนจาก 2010 เป็นปีที่ต้องการ เท่านี้ก็ขยายปีออกไปได้แล้ว
http://kampol.htc.ac.th/km52/index.php?topic=64.0

ถ้าเป็นคำแนะนำอื่น จะบอกว่าให้ upgrade version ของ moodle.org

พระสงฆ์-สามเณร ฮิตเล่นบีบี มส.สั่งเจ้าอาวาสกวดขันการห้ามที่สาธารณะ

blackberry chat
blackberry chat

2 ม.ค.54 นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 1 มกราคมว่า ปี 2553 ที่ผ่านมา มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระสงฆ์ประมาณ 400 เรื่อง น้อยกว่าปี 2552 ที่มีกว่า 500 เรื่อง เรื่องที่มีการร้องเรียน อาทิ พระปลอมอาศัยผ้าเหลืองหากิน พระสงฆ์ออกมาบิณฑบาตไม่เหมาะสม เป็นต้น รวมทั้งปัญหาความไม่เหมาะสมในการใช้เทคโนโลยีของพระสงฆ์และสามเณร เช่น พบว่ามีพระสงฆ์บวชใหม่ (บวชระยะสั้น) และสามเณร นิยมเล่นบีบี (แบล็กเบอร์รี่) โทรศัพท์มือถือสุดฮิต ที่สื่อสารด้วยโปรแกรมแช็ตในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น สถานที่สาธารณะ เป็นต้น

“ผมมองว่าการใช้บีบีของวัยรุ่นยุคนี้ไม่เหมาะสม เพราะดูแล้วเกินความจำเป็น ส่วนกรณีพระสงฆ์และสามเณรนิยมใช้บีบีในสถานที่สาธารณะยิ่งไม่เหมาะสม ที่ผ่านมาสำนักเลขาธิการ มส.ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังเจ้าคณะผู้ปกครองระดับต่างๆ รวมทั้งเจ้าอาวาสที่อยู่ใกล้ชิดกับพระสงฆ์และสามเณรมากที่สุด ให้เข้มงวด และกวดขันดูแลเรื่องการใช้เทคโนโลยีของสามเณร โดยเฉพาะพระสงฆ์บวชใหม่ในปกครองให้มากขึ้น เพราะพบว่าปัจจุบันพระสงฆ์และสามเณรนิยมเล่นบีบีในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมมาก ขึ้น” นายอำนาจกล่าว

นายอำนาจกล่าวว่า “หากพระสงฆ์หรือสามเณรนำเทคโนโลยีไปใช้เป็นเครื่องมือเผยแผ่ธรรมะ ถือเป็นเรื่องดี และไม่น่าเสื่อมเสีย แต่หากนำไปใช้ในทางที่ผิด อาจเกิดความเสียหาย และถูกสังคมติติงว่าไม่เหมาะสมได้ ที่ผ่านมาปรากฏเป็นข่าวตลอดว่าพระสงฆ์บางรูปที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อาทิ พระสงฆ์ใช้เฟซบุ๊กพูดคุยกับผู้หญิง และใช้คำพูดไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ปัญหาการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสม ส่วนใหญ่จะเกิดกับพระสงฆ์ที่เพิ่งบวชใหม่และสามเณร เนื่องจากยังไม่ทราบกฎระเบียบชัดเจน และยังละทางโลกไม่ได้ จึงต้องให้เจ้าอาวาสเข้มงวดเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด”

ข่าว : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1293938410

เว็บมาสเตอร์ : ในความเห็นของผมแล้ว .. เห็นด้วยกับคุณอำนาจทุกประเด็น ปัญหาอยู่ที่พระบางรูป ยังไม่ทราบกฎระเบียบชัดเจน และยังละทางโลกไม่ได้ .. ถ้าละทางโลกได้ปัญหาการใช้ BB ในทางไม่ถูก ไม่ควร คงไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

BB มีบางประเทศเขาเลิกใช้กันแล้ว

แนวโน้มราคาลดลง
แนวโน้มราคาลดลง

2 ม.ค.53 ประเด็นที่ผม post ข่าวนี้ คือ BB เครื่องเป็นหมื่น ไม่ต้องประกาศเลิกใช้ ผมว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็คงไม่ซื้อมาใช้เป็นแน่ ถ้ารวยขนาดซื้อเป็นหมื่นยังมี apple iphone ที่เป็นทางเลือกที่ดูดีไปอีกแนว สำหรับผมรอให้โทรศัทพ์เสียก็จะซื้อเครื่องดูทีวีได้ราคาไม่เกิน 3000 บาทเท่านั้น .. โทรศัพท์ราคาเป็นหมื่นคงเกินฐานะผมเป็นแน่ ยกเว้นมีใครปาทิ้งเพื่อหาของใหม่อินเทรน แล้วผมเก็บได้ก็อีกเรื่องหนึ่งครับ

จ่อเลิกใช้ “บีบี” ในไทย “กทช.”ถาม “ไอซีที” กรณีแบล็คเบอร์รี่ (BlackBerry) มีระบบจัดส่งข้อมูลอัตโนมัติ หวั่นผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
เมื่อ เวลา 16.00 น. วันที่ 18 ส.ค.2553 พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด)ว่า กรณีที่องค์กรกำกับกิจการโทรคมนาคมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ระงับการให้บริการ รับส่งข้อความ และการเข้าถึงเว็บไซต์ผ่านเครื่องแบล็คเบอร์รี่ (บีบี) ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.53 โดยครอบคลุมนักท่องเที่ยว และนักธุรกิจที่เดินทางเข้าประเทศ โดยยูเออี ระบุว่า แบล็คเบอร์รี่ให้บริการเกินขอบเขตกฎหมายของประเทศ จนก่อให้เกิดความกังวลด้านสังคมและความมั่นคง โดยเฉพาะเรื่องการจัดเก็บข้อมูลที่แบล็คเบอร์รี่มีระบบจัดส่งข้อมูล อัตโนมัติจากผู้ใช้ไปยังผู้ให้บริการในต่างประเทศ หากมีการทำผิดกฎหมายจะส่งผลให้ทางการยูเออีไม่สามารถเอาผิดได้ ตนจึงนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุม

บอร์ด กทช.กล่าวต่อว่า จากการที่แบล็คเบอร์รี่มีระบบจัดส่งข้อมูลอัตโนมัติจากผู้ใช้ ไปยังผู้ให้บริการในต่างประเทศ ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถจัดการข้อมูลได้เมื่อต้องการใช้ข้อมูล และมีความกังวลใจว่าข้อมูลที่ส่งถึงกันระหว่างผู้ใช้งานจะเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 หรือไม่ ในส่วนของการเก็บข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ 90 วัน (ล็อกไฟล์) ซึ่งต้องสอบถามไปยังกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ผู้ดูแลและปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 โดยที่บอร์ด กทช. มีมติให้ทำหนังสือสอบถามให้เร็วที่สุด

“ในมุมมองของไทยไม่ได้มองว่าบีบีมีความละเอียดอ่อนต่อความมั่นคงของประเทศ เพราะข้อมูลที่อยู่ในเซิร์ฟเวอร์ของบีบี เป็นเพียงข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าเท่านั้น ซึ่งในประเทศไทยไม่มีหน่วยงานใดใช้บีบีในการติดต่อสื่อสารกัน เหมือนกับประเทศที่ออกมาให้เรียกร้องก่อนหน้านี้ที่ต้องใช้บีบีในการสื่อสาร ซึ่งไทยมีช่องทางในการสื่อสารที่หลากหลาย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ประเทศที่มีการเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้งานโปรแกรมบีบี ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์  อินเดีย ซาอุดิอาราเบีย สำหรับเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท รีเสิร์ช อินโมชั่น จำกัด หรือริม ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนแบล็คเบอร์รี่ ตั้งอยู่ที่ประเทศแคนาดา  อย่างไรก็ตามช่วงที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศไม่ให้ใช้โปรแกรมแชทของแบล็คเบอร์รี่  “ริม” ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ริมเคารพต่อกฎหมายของแต่ละประเทศ ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของผู้ใช้เป็นหลัก โดยยืนยันว่าข้อมูลขององค์กรธุรกิจที่รับส่งผ่านระบบแบล็คเบอร์รี่มีความปลอดภัยสูง ไม่มีใครสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ แม้แต่พนักงานของริม เพราะแบล็คเบอร์รี่ใช้โซลูชั่น แบล็คเบอร์รี่ เอนเตอร์ไพรส์ ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและเป็นจุดขายของแบล็คเบอร์รี่ในการทำตลาด ภาครัฐและลูกค้าธุรกิจ

ขอบคุณข่าวจาก เดลินิวส์
http://www.oknation.net/blog/motorcyrubjang/2010/08/19/entry-1
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=17006.0
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1293938410

ข้อมูลอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554

สถิติอุบัติเหตุ
สถิติอุบัติเหตุ

ข้อมูลอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2554 โดยเฉลี่ยแล้วต่ำกว่าปี 2553 ที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยมีสถิติวันละกว่า  3000 ครั้งตามข้อมูลจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)
http://service.niems.go.th/accident/acclogin.php?case_acc=7

ข่าว อุบัติเหตุรถตู้นักวิชาการ+น.ศ.มธ.เสียชีวิต

ข่าว อุบัติเหตุรถตู้นักวิชาการ และนักศึกษาธรรมศาสตร์เสียชีวิต
http://hilight.kapook.com/view/54775
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2553 เวลาประมาณ 21.45 น. เกิดอุบัติเหตุสยอง รถ ตู้โดยสารประจำทาง วิ่งจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต มุ่งหน้า บีทีเอสจตุจักร มีผู้โดยสารเต็มคันรถ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ช่วงทางด่วนโทลล์เวย์ฝั่ง ขาเข้า บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน จู่ ๆ รถเก๋งที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงเกิดพุ่งเข้าชนท้าย ทำให้รถตู้เสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบ แรง เหวี่ยงอย่างรุนแรงทำให้ประตูรถตู้เปิดออก และมีผู้โดยสารกระเด็นออกจากรถ ร่วงจากทางด่วนตกลงมาด้านล่าง ซึ่งเป็นถนนวิภาวดี เสียชีวิตรวม 8 ราย เป็นชาย 5 ศพ หญิง 3 ศพ และบาดเจ็บอีก 7 ราย เป็นผู้ชาย 4 ราย หญิงอีก 3 ราย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวิภาวดี

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ สภาพรถตู้พังเสียหายยับเยิน ทราบชื่อคนขับคือ นางนฤมล ปิตาทานัง อายุ 38 ปี เสียชีวิต ส่วนรถเก๋งคู่กรณีสภาพหน้ารถพังยับเยินเช่นกัน ขณะที่คนขับคือ น.ส.อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า คนขับรถเก๋ง น.ส.อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นน้องสาวต่างมารดาของดารานักแสดงหนุ่ม “ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา” ซึ่งหนุ่มณัฎฐ์ ยอมรับว่า เป็นน้องสาวต่างมารดาจริง ชื่อเล่นว่า แพรวา แต่หลังเกิดเหตุดังกล่าว ตนยังไม่ได้ไปเยี่ยม

ด้าน นางพจนี พลสิทธิ์ อายุ 68 ปี มารดาของ นายวิสรุต พลสิทธิ์ อายุ 35 ปี หนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่ลูกชายไม่เสียชีวิต บาดเจ็บน้อยกว่าคนอื่น ศีรษะแตก มีรอยกระแทกช้ำบวมที่แขนลำตัว สามารถพูดคุยได้ แต่ยังเบลออยู่นิดหน่อย เพราะศีรษะกระแทกเบาะรถ ซึ่งลูกชายบอกว่า ที่รอดชีวิตมาได้เพราะปาฏิหาริย์ นั่งอยู่แถวกลางของรถ จึงทำให้ไม่กระเด็นออกมานอกรถเหมือนคนอื่น หลังเกิดเหตุได้คลานออกมานอกรถ เมื่อออกจากรถได้ ก็โทรศัพท์บอกแม่ว่า รถคว่ำ ซึ่งลูกชายใช้บริการรถตู้เป็นประจำ ช่วงเกิดเหตุลูกชายบอกว่านั่งอยู่ในรถแบบหลับ ๆ ตื่น ๆ มารู้สึกตัวอีกที ตอนรถพลิกคว่ำหลายตลบแล้ว

ส่วน นางนฤมล นิลวรรณ ดาราสาวรุ่นใหญ่ ป้าของ น.ส.สุดาวดี นิลวรรณ นิสิตชั้นปี 3 คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดัวกล่าว กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ หลานสาวกำลังจะเดินทางไปสถานีขนส่งหมอชิต เพื่อกลับบ้านที่ จ.อุบลราชธานี ซึ่งพ่อแม่ที่บ้านได้เตรียมทำกับข้าว เพื่อต้อนรับลูกสาวที่มาเรียนในกรุงเทพฯ โดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องร้ายเช่นนี้

อย่างไรก็ตาม มีผู้โดยสารรถตู้ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ ได้เล่าเหตุการณ์นาทีระทึกให้เพื่อนฟัง และได้เผยแพร่ผ่านทวิตเตอร์ @Jariyayahyahh โดยผู้รอดชีวิตเล่าว่า ได้โดยสารรถตู้คันเกิดเหตุโดยนั่งข้างหน้ากับคนขับ และมีอีกคนนั่งคั่นกลางคนขับอยู่ ช่วงเกิดเหตุรถตู้ขับอยู่เลนกลางด้วยความเร็วปกติ แต่รถเก๋งซึ่งอยู่เลนขวาพยายามจะปาดเข้ามาเลนซ้ายสุด แต่หักหลบรถตู้ที่อยู่เลนกลางไม่พ้น จึงชนท้ายรถตู้เข้าอย่างจัง ทำให้รถตู้หมุนหลายตลบ จนประตูรถฝั่งผู้ โดยสารไปฟาดกับราวกั้นทางด่วนอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้ผู้โดยสารกระเด็นออกนอกรถ ข้าวของทรัพย์สินลอยขึ้นสูงกระจายไปหมด แต่ผู้รอดชีวิตยังโชคดีที่คนนั่งข้าง ๆ พยายามดึงตัวไว้ไม่ให้กระเด็นออกนอกรถ จึงรอดตายมาอย่างหวุดหวิด ส่วนผู้โดยสารที่นั่ง 2 แถวหลังของรถตู้กระเด็นออกนอกรถทั้งหมด จึงเสียชีวิตพร้อมกับคนขับ

การวาง url ใน status ของ facebook.com

url on facebook : cards case study
url on facebook : cards case study

28 ธ.ค.53 นั่งทำระบบ e-cards อยู่ 2 วัน พัฒนาเป็นระบบส่ง parameter ผ่าน url หรือที่เรียกว่าการกำหนด  action method แบบ get เหมือนที่ google.com ใช้ แต่พบปัญหา 2 ประการ คือ ภาพไม่ปรากฎใน ie8 และภาพไม่ปรากฎอัตโนมัติในเฟสบุ๊คเพื่อแสดง thumb nail

สรุปปัญหาแรก คือ การกำหนดความกว้างของภาพเป็น % เป็นผลให้ไม่สามารถแสดงผลใน ie8 ภาพหายไปเฉย ๆ แต่ไม่พบปัญหาใน browser ตัวอื่น แม้แต่ ie6 ก็ไม่พบปัญหา แก้ไขโดยกำหนดเป็น pixel ตามปกติ ก็ใช้ได้กับ brower ทุกตัวที่เข้ามาทดสอบ ปัญหาที่สอง คือ เขียน card.php ตัวเดียว แล้วใช้วิธีส่งค่าแทนการสร้างสคริ๊ปขึ้นใหม่สำหรับแต่ละภาพ พบว่า การวาง url ใน  status ของ fb จะไม่มีการเรียก url ผ่าน parameter เพื่อดึงภาพจากเว็บเพจมาทำเป็น thumb เช่น ส่ง card.php?x=1 ผลที่ fb อ่านคือ card.php เท่านั้น  แก้ไขโดยกำหนดค่า default สำหรับการเรียก card.php ขึ้นมา เพื่อให้ fb ได้ภาพที่ต้องการสำหรับแสดง thumb nail มิเช่นนั้นจะว่างเปล่า

สมมติฐานที่ทีแรกสงสัยว่าภาพไม่ปรากฎใน fb จากกการวาง url คือ การเขียน html tag ไม่เป็นมาตรฐาน หรือการเขียน table หลายชั้น แต่ความจริงเป็นเพราะ fb ไม่รับ parameter ในการเลือกภาพมาแสดงเป็น thumb nail ของ status และปัญหาจากรุ่นของ browser เข้ามาผสมโรงในตอนท้ายของการทดสอบ
http://www.yonok.ac.th/cards

ขายปริญญาปลอมผ่านเว็บ

ขายปริญญา
ขายปริญญา http://www.khanpak.com/news/2919/

ขายปริญญาปลอมผ่านเว็บ

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=486622
กรณีสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.)ได้รับการร้องเรียนการซื้อขาย ปริญญาบัตรผ่านเว็บไซด์ โดยนำปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยรัฐและเอกชนชื่อดังมาโฆษณาหน้าเว็บ พร้อมอวดอ้างสรรพคุณว่า ตรวจสอบจะพบรายชื่อผู้สั่งซื้อปริญญาบัตรในฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัย
รศ.ดร.วุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์(มก.) กล่าวว่า มก.เฝ้าระวังเเรื่องแอบอ้างขายปริญญาบัตรที่โฆษณาหลอกลวงผ่านเว็บไซต์ มาเป็นเวลา 1 เดือนแล้วเมื่อได้ข้อมูลชัดเจนจึงได้ให้สำนักกฎหมาย มก.ประสานให้กระทรวงไอซีทีจัดการ ทั้งนี้ ยืนยันได้ว่าเป็นการแอบอ้างโดยที่คนในมก.ไม่เกี่ยวข้อง แต่มก.คงไปห้ามหรือป้องกันได้ยากเพราะระหว่างคนที่จ้องทำผิดกับคนเฝ้าระวัง ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็คงป้องกันได้ยาก อีกทั้งปริญญาของมก.ก็เป็นใบปริญญาธรรมดา ดังนั้น ถ้าหน่วยงานใดสงสัย ก็สามารถประสานขอให้มก.ตรวจสอบได้ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ง่ายและใช้เวลาไม่นาน ที่ผ่านมามีหน่วยงานราชการขอให้ตรวจสอบปริญญาอยู่บ้าง และยังไม่เคยเจอปริญญาปลอม
ศ.นพ. ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ในส่วนของจุฬาฯ ยังไม่เคยถูกนำไปโฆษณาชวนเชื่อทางเว็บไซต์และยังไม่เคยเจอปริญญาปลอม โดยที่ผ่านมามีหน่วยงานต่างๆ ขอให้จุฬาฯช่วยตรวจสอบปริญญาอยู่บ้าง ซึ่งยังไม่เคยเจอปริญญาปลอม ทุกใบเป็นของจริง เชื่อว่าเพราะจุฬาฯวางระบบป้องกันดีโดยปริญญาของจุฬาฯ พัฒนาโดยสำนักทะเบียนที่ไม่สามารถปลอมได้ง่ายๆ อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบได้เร็วด้วยว่าเป็นปริญญาของจุฬาฯจริงหรือไม่

เว็บขายปริญญาโชว์หลาของมธ.
http://www.thairath.co.th/today/view/136988
สกอ.เต้น พบเว็บไซต์ ซื้อขายปริญญาบัตรโจ๋งครึ่มถึงกับโชว์ใบปริญญา ม.ธรรมศาสตร์ พร้อมอวดสรรพคุณตรวจสอบพบชื่อได้ในฐานข้อมูลมหาวิทยาลัย “ไชยยศ” สั่งมหาวิทยาลัยรัฐหาระบบป้องกันฐานข้อมูลหวั่นถูกเจาะ ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบ ด้านอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ อ้างรู้เรื่องแล้ว แต่ขอดูหลักฐานก่อนแจ้งความ วอนผู้ประกอบการตรวจสอบปริญญาบัตรกับมหาวิทยาลัยต้นสังกัดก่อนรับคนเข้าทำ งาน

จากที่เริ่มมีการตั้งข้อสังเกตถึงปริมาณนักศึกษาที่จบออกมาแต่ละ ปียังสวนทางกับคุณภาพ และล่าสุดยังมีการลงประกาศซื้อขายปริญญาบัตรผ่านเว็บไซต์ได้ด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ซึ่งมีการประชุมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย และได้รับการเปิดเผยจากนายไชยยศ จิรเมธากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ว่าตนขอเข้าร่วมประชุม ทปอ. เพื่อขอความร่วมมือจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยช่วยควบคุมดูแลคุณภาพการผลิต บัณฑิต เนื่องจากขณะนี้พบว่ามหาวิทยาลัยหลายแห่งมีการผลิตบัณฑิตเพื่อการค้าและ เพื่อแสวงหาผลกำไร โดยเปิดรับสมัครนักศึกษาจำนวนมาก และเชิญชวนในลักษณะจ่ายครบจบแน่ บางแห่งเพียงแค่ให้นักศึกษาจ่ายเงินลงทะเบียนเท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องมาเรียน เมื่อถึงเวลาก็จบได้ตามหลักสูตร ซึ่งบัณฑิตที่ได้จะเป็นคนที่ไม่มีความรู้ ส่งผลกระทบอย่างมากต่อระบบการศึกษาของชาติ ตนจึงขอให้ ทปอ.ช่วยควบคุมเรื่องคุณภาพการผลิตบัณฑิต เพราะตนไม่อยากที่จะต้องออกกฎหมายมาควบคุม

ขณะที่นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ก็กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า พบเห็นการโฆษณาซื้อขายปริญญาบัตรผ่านทางเว็บไซต์แห่งหนึ่ง โดยเว็บไซต์ดังกล่าวระบุว่าสามารถจัดหาปริญญาบัตรตามที่ผู้สั่งซื้อต้องการ ทุกสาขาวิชา ทุกคณะ และตามเกรดที่ต้องการ โดยนำตัวอย่างปริญญาบัตรของคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาโชว์บนเว็บไซต์ ทั้งระบุด้วยว่า หากมีการตรวจสอบรายชื่อก็จะรับรองว่า ตรวจพบรายชื่อของผู้สั่งซื้อในฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัย ที่แสดงให้เห็นว่าจบจากมหาวิทยาลัยนั้นจริง รวมทั้งยังเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรได้ด้วย ตนจึงรายงานต่อนายไชยยศ จิรเมธากร รมช.ศึกษาธิการ ซึ่งได้สั่งการให้ สกอ.ประสานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง และทำการปิดเว็บไซต์ดังกล่าว พร้อมทั้งตรวจสอบว่าได้มีการปลอมปริญญาไปแล้วหรือไม่ ซึ่งถือว่ามีความผิดเกี่ยวกับปลอมแปลงเอกสารทางราชการ นอกจากนี้ ยังได้ส่งหนังสือเวียนถึงมหาวิทยาลัยทุกแห่งให้ตรวจสอบฐานข้อมูลตนเอง วางระบบป้องกันไม่ให้ถูกเจาะ และจะนำเข้าหารือในที่ประชุม กกอ.วันที่ 6 ม.ค.นี้ เพื่อวางมาตรการป้องกันในภาพรวม

ด้านนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยรับทราบเกี่ยวกับกรณีเว็บไซต์ที่ขึ้นหน้าเว็บด้วยปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยแล้วตั้งแต่ในสมัยนายสุรพล นิติไกรพจน์ เป็นอธิการบดี ส่วนตนเพิ่งมารับตำแหน่งใหม่ ก็จะติดตามเรื่อง ทั้งนี้ การปลอมแปลงปริญญาบัตรนั้นสามารถทำขึ้นได้ทุกมหาวิทยาลัยตามแต่ลูกค้าจะสั่ง ซึ่งตนจะขอดูหลักฐานก่อน หากทำให้มหาวิทยาลัยเสื่อมเสียชื่อเสียงก็จะร่วมกับ สกอ. แจ้งความดำเนินคดีต่อไป อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ทุกภาคส่วนทั้งหน่วยราชการ บริษัทเอกชนที่รับสมัครบุคคล เมื่อมีการนำปริญญาบัตรมาแสดงตน ก็ขอให้ตรวจสอบกลับไปยังมหาวิทยาลัยนั้นๆ เพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ส่วนเรื่องการป้องกันฐานข้อมูลนั้น ยอมรับว่ามหาวิทยาลัยยังไม่มีระบบป้องกันที่ดีพอ แต่ก็จะเข้าดูแลป้องกันไม่ให้เรื่องนี้เกิดขึ้น

ขายปริญญา ราคาวุฒิการศึกษาปลอม

ขายปริญญา ราคาวุฒิการศึกษาปลอม
ระดับประถมศึกษา 5,000-8,000 บาท
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 12,000 – 20,000 บาท
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 15,000 – 22,000 บาท
ระดับ ปวช. 20,000 – 32,000 บาท
ระดับ ปวส. 25,000 – 40,000 บาท
ระดับปริญญาตรี 37,000 – 90,000 บาท (เข้ารับปริญญาได้)
ระดับปริญญาโท 120,000 – 280,000 บาท (เข้ารับปริญญาได้)

คมชัดลึก : แฉ! มือดีเปิดเว็บไซต์ขายปริญญามหาวิทยาลัยชื่อดังปลอม มธ.มีด้วยใบละกว่า 1 แสนบาท แค่มีเงินจ่ายไม่ต้องเข้าเรียนได้วุฒิง่ายๆ เลขาฯ กกอ.ประสานตำรวจตรวจจับ อธิการบดี มธ.จ้องฟ้องฐานทำมหาวิทยาลัยเสียชื่อ

ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า ตนและ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้รับเรื่องหนังสือร้องเรียนเมื่อเร็วๆ นี้ว่า มีเว็บไซต์หลอก ลวงขายปริญญาบัตรโดยอ้างว่าเป็นปริญญาที่ถูกต้องของมหาวิทยาลัยต่างๆ และมีการโฆษณาชวนเชื่อว่ามีปริญญาของทุกมหาวิทยาลัย ที่มีการออกเกรด ให้ทรานสคริปต์ ถึงขนาดผู้ซื้อจะมีชื่ออยู่ในรายชื่อผู้สำเร็จการศึกษาของมหาวิทยาลัยและ สามารถเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรได้ด้วย

“ในเว็บไซต์ดัง กล่าวมีการโชว์ใบปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยชื่อดังไว้หลายแห่ง และหนึ่งในนั้นคือมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ซึ่งเบื้องต้นสำนักงานคณะกรรมการการอดุมศึกษา (สกอ.) ได้ขอความร่วมมือไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อช่วยสอดส่องเรื่องดังกล่าว และได้ทำหนังสือเวียนแจ้งไปยังมหาวิทยาลัยที่ได้รับการแอบอ้างแล้ว” ดร.สุเมธ ระบุ

เลขาธิการ กกอ. กล่าวอีกว่า สำหรับรูปแบบการโฆษณาซื้อขายปริญญาผ่านเว็บไซต์นั้น จะใช้วิธีการโฆษณาชวนเชื่อโดยโชว์โลโก้ของมหาวิทยาลัยที่อ้างว่าสามารถทำการปลอมแปลงปริญญาบัตรได้ และให้เบอร์โทรติดต่อกลับผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งพบว่าการโฆษณาดังกล่าวมีอยู่ในเว็บไซต์จำนวนมาก

“ผมเพิ่งจะเคยเห็นการซื้อขายปริญญารูปแบบนี้ ซึ่งเดิมปัญหาเรื่องเรียนง่าย จ่ายครบ จบแน่ ก็ถือว่าแย่แล้ว แต่อันนี้จบแบบไม่ต้องเรียนแค่จ่ายค่าใบปริญญาก็สามารถจบได้โดยที่ไม่ต้อง เรียน ราคาอยู่ที่ประมาณ 1 แสนบาทขึ้นไป แต่มีข้อแม้ว่าหากต้องการเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรก็จะต้องเสียเงินเพิ่ม ขึ้นอีก” ดร.สุเมธกล่าวอย่างท้อใจ

ดร.สุเมธกล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ สกอ.กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบเรื่องดังกล่าวอยู่ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่ามีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารทางราชการ โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับที่ประชุม กกอ.เพื่อหาทางแก้ไขในวันที่ 6 มกราคมนี้

ด้านนายไชยยศ จิรเมธากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า จากนี้ไปตนจะให้สำนักงานคณะกรรมการการอดุมศึกษา ทำหนังสือเวียนเตือนไปยังมหาวิทยาลัยให้ดูแลเรื่องระบบการป้องกันฐานข้อมูล ต่างๆ ของมหาวิทยาลัยให้เป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาผู้ไม่หวังดีลักลอบเข้าไปแก้ไขข้อมูล และจะต้องตรวจสอบด้วยว่ามหาวิทยาลัยที่มีรายชี่อโฆษณาอยู่ในเว็บไซต์มีส่วนรู้เห็นหรือไม่

“ปัญหาการซื้อขายปริญญาผ่านเว็บไซต์ยัง ไม่น่ากลัวเท่ากรณีมหาวิทยาลัยเปิดหลักสูตรไม่ได้มาตรฐานที่พบกันมาก จนเป็นการผลิตบัณฑิตเพื่อธุรกิจทางการศึกษา ทั้งการศึกษานอกที่ตั้งและการไปเปิดหลักสูตรภาคพิเศษจำนวนมาก และตัวอธิการบดีก็มีรายได้หลายแสนบาทต่อเดือนจากการเปิดหลักสูตรภาคพิเศษจน ทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งภายในเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์” นายไชยยศ กล่าว

ส่วน ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดี มธ. กล่าวว่า เพิ่งทราบเรื่องดังกล่าว และจะต้องทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าสร้างความเสียหายให้แก่ มธ.ก็จะดำเนินการฟ้องร้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเว็บไซต์ http.//wwwxxxxxx พบว่ามีการประกาศรับทำวุฒิการศึกษาและปริญญาตรีและโท  โดยข้อความระบุว่า รับทำวุฒิการศึกษา ม.3 ม.6 ปวช. ปวส. ปริญญาตรี ปริญญาโท ของจริง หากคุณมีปัญหาด้านวุฒิการศึกษา เช่น เรียนไม่จบ, เรียนไม่ตรงสายงาน, ปัญหาการสมัครเรียนต่อ, ต้องการนำวุฒิการศึกษาไปสมัครงานเพื่อให้ตรงกับสายงาน หรือเพื่อปรับขึ้นเงินเดือน ฯลฯ

เว็บไซต์ดัง กล่าวอ้างอีกว่า ได้ดำเนินการมากว่า 7 ปี โดยไม่มีปัญหาสักครั้ง สามารถตรวจสอบได้จากกระทรวง และมีชื่อในโรงเรียนอยู่จริง รับแก้ไขปัญหาเรียนไม่จบทุกกรณี ผ่านกระทรวง โดยสามารถใช้ไปสมัครงาน/ศึกษาต่อทั้งในและต่างประเทศ สามารถตรวจสอบได้ มีชื่อในฐานข้อมูลของโรงเรียนจริงรับประกันผลงานตรวจสอบได้จริง โดยไม่มีข้อกังขา จะใช้สมัครงานหรือเรียนต่อก็สบายใจ ของจริงแน่นอน เรามีรหัสนักศึกษาให้ตรวจสอบกับฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยได้

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ ระดับปฐมศึกษา 5,000-8,000 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 1.2-2 หมื่นบาท ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 1.5-2.2 หมื่นบาท ระดับ ปวช. 2-3.2 หมื่นบาท ระดับ ปวส. 2.5-4 หมื่นบาท ระดับปริญญาตรี 3.7-9 หมื่นบาท (เข้ารับปริญญาได้) ระดับปริญญาโท 1.2-2.8 แสนบาท (เข้ารับปริญญาได้)

เนื้อหาเว็บไซต์ระบุ ด้วยว่า ไม่สามารถเลือกสถาบันได้ แต่สามารถเลือกคณะ และสาขาได้ การดำเนินการทุกขั้นตอน ข้อมูลของลูกค้าจะถูกปกปิดเป็นความลับ เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.5 แต่จะต้องเก็บค่าใช้จ่ายล่วงหน้า 50% เพราะต้องนำไปใช้จ่ายในการดำเนินการในการเรียนจริงๆ จะต้องมีค่าหน่วยกิต ค่าเทอม อันนี้ก็เช่นกันครับเพียงแต่คุณไม่ต้องเข้าห้องเรียนเท่านั้นเอง ขอย้ำ !! เป็นวุฒิแท้ ออกโดยสถาบัน 100% ถูกกฎหมายแน่นอน (ไม่รับทำวุฒิการศึกษาปลอม เพราะผิดกฎหมาย และนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้)

สิ่งที่จะได้รับ 1.ใบปริญญาบัตร 2.ใบทรานสคริปต์ 3.ใบรางวัลการศึกษาดีเด่น 4.ใบรับรองการเป็นนักศึกษา 5.บัตรประจำตัวนักศึกษา 6.ใบเซอร์ทิฟิเคท ด้านที่เราจบการศึกษา เอกสารที่ใช้ประกอบ 1.สำเนาทะเบียนบ้าน (ของตนเอง) 2.สำเนาบัตรประชาชน (ของตนเอง) 3.สำเนาวุฒิการศึกษาของโรงเรียนเดิมที่จบมา 4.รูปถ่าย จำนวน 3 รูป (1 นิ้ว/1.5 นิ้ว/2 นิ้ว) ระยะเวลาดำเนินการโดยประมาณ 1-2 เดือน และะระบุให้ ติดต่ออาจารย์วัฒนา อีเมลxxxxx
http://www.oknation.net/blog/nun2504/2010/12/27/entry-4
http://news.mthai.com/general-news/98328.html
http://www.thairath.co.th/today/view/136988
http://www.komchadluek.net/detail/20101226/83972/%E0%B9%81%E0%B8%89%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8D%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%87.html