บล็อกที่มีเนื้อหาเน้นทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
25 ก.ค.53 ได้ไวรัสตัวใหม่มาอีก 1 ตัวจาก memory ของกล้อง เข้าใจว่าติดมาจากที่เครื่องคอมพิวเตอร์ในห้องปฏิบัติการ เพราะ mem ตัวนี้ เสียบเข้าไปในหลายเครื่อง แล้ววันนี้เสียบเข้าไปในเครื่องที่บ้าน ซึ่งมี Antivir ก็มี popup เป็นไวรัสชื่อ TR/PWS Magania.dmox ส่วนอีกเครื่องที่ลง NOD ไม่ฟ้องอะไร แสดงว่าไวรัสตัวนี้อยู่ร่วมกับ NOD ที่ไม่ได้ update signature อย่างมีความสุข ถ้าต้องการไวรัสตัวนี้ผม zip และติดรหัสผ่านไว้ รหัสผ่านสำหรับเปิดให้ไวรัสทำงานคือ virus
+ http://bit.ly/cRRia2
25 ก.ค.53 รู้สึกว่าโลกเรากลมและแคบลงมาก เมื่อวานไปดูงาน “SME ไทยเข้มแข็ง 2010” ที่โรงแรมเวียงทอง ลำปาง พบ คุณปุ้ย พิมลวรรณ ศุภยางค์ เป็นผู้ประกอบการรับเชิญในฐานะผู้ขายแฟรนไชส์ นักเก็ตไก่ (Chicken Nuggets By Pui franchise) แล้วก็ยิ้มทักภรรยา กับลูกว่าซื้อไก่ไหมค่ะ แต่มาวันนี้ผมพบคุณปุ้ยในทีวีสสท. เป็นข่าวว่าได้ทรัพย์สินคืน จากการที่ร้านถูกขโมยย่องเข้าไปขนอุปกรณ์หลายรายการ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ .. แล้วภรรยายังบ่นว่าตัวจริงของคุณปุ้ยสวยกว่าเธอ ผมก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง (ปลอบใจภรรยา) .. สมัยนี้การเดินทางคงสะดวกขึ้นครับทำให้เราพบผู้คนได้มากหน้าหลายตาขึ้น
24 ก.ค.53 สิ่งที่ยากที่สุดในการสืบข้อมูลของศิษย์โยนก มาทำฐานข้อมูลว่าใครหน้าตาอย่างไร รุ่นใด มีใครเป็นเพื่อนบ้าง คือ ตัวศิษย์เก่าไม่ยอมเปิดเผยตัว หลายคนใช้ชื่อเกาหลี ชื่อญี่ปุ่น ชื่อฝรั่ง ชื่ออิอิ ภาพปลอม หรือขู่ไม่ให้มีการเปิดเผย แต่มาวันนี้พยายามจนได้ข้อมูลมากึ่งหนึ่งของบัญชีภาพที่พบ และเชื่อมบัญชีผู้ใช้ของ facebook.com เข้ากับรหัสของนักศึกษาแล้ว ทำให้แยกข้อมูลตามรหัสนักศึกษาได้ ซึ่งวันนี้มีข้อมูลศิษย์โยนกแล้ว 118 คน จึงใช้เป็นฐานข้อมูลสำหรับแยกคณะ และหลักสูตรได้ ถ้าพรุ่งนี้มาถึงก็คงหาเพิ่มเติมได้อีก ท่านสามารถหาข้อมูลจาก google.com โดยค้นคำว่า ศิษย์โยนก ก็จะพบข้อมูลที่ผมนำเสนอไว้ข้างต้น ซึ่งให้ความสำคัญกับการเชื่อมกระดานข่าว 3 แหล่ง ดังนี้
+ http://www.yonok.ac.th/webboard
+ http://www.thaiall.com/blog
+ http://www.facebook.com/pages/yonok-alumni/119920918018135
มีคำถามให้ลองคิดว่า มหาวิทยาลัยโยนก เปิดปีพ.ศ.2531 ดังนั้น นักศึกษาคนแรกมีรหัสอะไร และชื่อของเขาคืออะไร ใบให้ว่าค้นหาคำว่า ศิษย์โยนก ก็จะมีคำตอบ
20 ก.ค.53 ชี้แจงเรื่องวีดีโอของนักศึกษาว่าทำไม วันนี้เผยแพร่ใน fb เพียงไม่กี่เรื่อง ต้องออกตัวว่าผมยึดหลักจรรยาบรรณทางวิชาชีพ .. ผมมีอยู่ในมือประมาณ 10 เรื่องจากที่ควรมี 20 เรื่อง แต่ไม่เทหมดหน้าตัก เพราะมีแนวคิดว่า ของดีต้องค่อย ๆ โชว์ ค่อย ๆ แง้ม แก้ให้ดูจนหมดเปลือกตั้งแต่คราวแรก .. ผมว่าเป็นเรื่องผิดวิสัยของการขายสินค้า ซึ่ง อ.นงลักษณ์ สาขาการตลาด เพื่อนรุ่นเดียวกับผมก็คงคิดเช่นนั้น
อีกหลักหนึ่ง คือ ผมยังได้มาไม่เต็มหน้าตัก มีบางกลุ่มยังไม่นำเสนอ (Present) ทำให้ผมใช้หลัก FIFO (First In,First Out) ที่เรียนมาจากวิชาโครงสร้างข้อมูล และพบว่าหนังบางเรื่องทำผิดเกณฑ์ที่ผมกำหนดคือวีดีโอยาว 2 เท่าจากที่ตกลงกัน ผมต้องนำมาตัดต่อเองที่บ้าน และ up เข้า youtube.com ทำให้ออกฉายช้ากว่าเรื่องอื่น .. นั้นเป็นเหตุปีนเกลียว ที่หลายคนอาจสงสัย ส่วนบางเรื่องผมไม่ได้เผยแพร่ใน profile ของผม เพราะส่งไปเผยแพร่ใน profile ของ Yonok YoSo ถ้าไม่มีใครเข้าไปชมเรื่องเหล่านั้น ก็จะนำกลับมาเผยแพร่ใน profile ของผมอีกครั้ง .. เข้าหลัก 1 ใน 4p ที่ต้องพิจารณา
วันนี้ นางสาวสงกรานต์ สมทิพย์ แนะนำให้ผมใช้โปรแกรม format factory เมื่อศึกษาแล้วก็พบว่าเป็น shareware ที่ใช้งานได้ฟรี และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง น่าจะเป็นทางเลือกแทน totalvideoconverter ที่มีลิขสิทธิ์ และพบปัญหาการติดตั้งจนขั้นสุดท้ายใน Windows 7 แต่วันนี้ผมก็ยังไม่ได้ใช้ FF เพราะใช้ tvc ทำการ merge multi file จึงไม่ต้องเข้าไปรวมไฟล์หนังใน windows movie maker .. ครับ
17 ก.ค.53 ค้นคำว่าศูนย์ศิษย์โยนก พบข้อมูลศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยโยนก เป็นแบบรู้หน้าไม่รู้ใจ งานนี้เป็นการต่อยอดงานที่ทำไว้เมื่อก.ค.52 วันนี้เริ่มเก็บที่อยู่ภาพ และที่อยู่เว็บเพจของศิษย์เก่าใน fb ของแต่ละคนเข้าฐานข้อมูล Microsoft Access แต่ยังไม่เชื่อมรหัสนักศึกษาเข้ากับข้อมูลลิงค์ของ Facebook ปัญหาใหญ่คือ 1) เจ้าของ profile ไม่ใช้ชื่อจริง ไม่ใช้รูปจริง และมากกว่าครึ่งเป็นสมาชิกที่เคลื่อนไหวน้อย 2) รู้สึกไม่มั่นใจในนโยบายของเฟรซบุ๊ค เกรงว่าจะปิดการลิงค์ภาพออกมาจากเฟรซบุ๊ค ถ้าเป็นเช่นนั้นระบบของผมคงแน่ แต่แผนสองคือคัดลอกภาพทั้งหมดไว้ก่อน แต่ถ้าคัดลอกตามรหัสนักศึกษาได้ก็จะปลอดภัยที่สุด .. ดังนั้นการรู้รหัสให้เข้ากับใบหน้า จึงเป็นงานที่ผมอาจทำไม่สำเร็จในเวลาที่รวดเร็ว เพราะบางคนแค่คุ้น ๆ เท่านั้นเอง และอีกไม่น้อยที่ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นศิษย์เก่า จึงสังหรใจว่างานนี้ทำคนเดียวไม่สำเร็จเป็นแน
17 ก.ค.53 เข้าอบรมการวาดเพื่อการสื่อสาร และ การเขียนแผนที่มโนทัศน์ (CMAP = Concept mapping) ณ ห้องประชุม 2 กศน.ภาคเหนือ จัดโดยสถาบันนวัตกรรมกระบวนการเรียนรู้ชุมชน (Community Learning Process Innovation Institute)ในวันนี้มีหลายกิจกรรมเกิดขึ้นที่พอสรุปได้มีดังนี้ 1) เป้าหมายสี่ส่วน 2) เรียงคำย้อนกลับ 3) สี่วงกลมเป็นภาพ 4) การวาดตัวแทน อารมณ์ แขนขา สถานที่ และเส้น 5)วาดภาพนิยาย 6) แผนที่มโนทัศน์
คุณภัทรา มาน้อย ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลักสูตรการวาดเพื่อการสื่อสาร มีองค์ประกอบของหลักสูตรประกอบไป ด้วย 1) กิจกรรมการสร้างจินตนาการ : โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการทำ งานของสมองซีกขวา โดยการดึงจินตนาการจากจิตใต้สำ นึกผ่านกิจกรรมการวาดวงกลม 4 วงให้สัมพันธ์กันและการฟังเพล งสื่อความหมาย ทั้งนี้ให้ผู้เข้าร่วมอบรมมีความมั่นใจในการใช้จินตนาการของตนเอง 2) กิจกรรมการฝึกทักษะ/เทคนิค/วิธี การวาดรูป: โดยมีเป้าหมายให้ผู้เข้าร่วมนำ เทคนิคที่ได้เรียนรู้ไปผนวก กับจินตนาการที่มี ผ่านการเติมทักษะการวาดรูปร่าง หน้าตา อารมณ์ สถานที่ อาชีพ และการใช้เส้น ลูกศร 3) กิจกรรมการฝึกทักษะการสื่อสาร : โดยเน้นหลักการฟัง จับใจความ และการวาดเพื่อการสื่อสาร ผ่านกิจกรรม นิทานสร้างภาพ 4) กิจกรรมการนำแนวคิดการวาดเพื่อ การสื่อสารไปปรับ : โดยเติมเต็มแนวคิดการทำ CMAP (Conceptual Mapping) เช่น แบบใยแมงมุมหรือดาวกระจาย แบบช่วงชั้นของความคิด แบบ Flow ของงานก่อนหลัง แบบเชิงระบบหรือเชื่อมโยง แบบแผนภาพ และ แบบสามมิติ
การวาดแผนที่มโนทัศน์มีรูปแบบการวาด 6 แบบ ดังนี้ 1) แบบใยแมงมุมหรือดาวกระจาย (Spider Concept Map) คล้ายแผนที่ความคิด 2) แบบช่วงชั้นของความคิด ( Hierarchy Concept Map) คล้ายแผนผังองค์กร 3) แบบโฟลของงานก่อนหลัง (Flowchart Concept Map) คล้ายวงจรพีดีซีเอ หรือขั้นตอน 4) แบบเชิงระบบหรือเชื่อมโยง (System Concept Map) คล้ายกระบวนการแบบ PDCA เป็นวงจร 5) แบบแผ่นภาพ (Picture Landscape Concept Map) คล้ายแผ่นภาพมาเชื่อมโยงกัน 6) แบบสามมิติ (Multidimensional / 3-D Concept Map) เป็นภาพที่มีมิติทั้ง กว้าง ยาว สูง
และมีภาพในการอบรมของทีมงานเผยแพร่จำนวน 125 ภาพ
+ http://www.thaiall.com/research/manoi530717/
แผนที่มโนทัศน์ (Concept Mapping)
พัฒนาโดย Prof. Joseph D. Novack of Cornell University (1983)
http://www.prachasan.com/cmap/
http://www.prachasan.com/cmap/formcmap.html
การเขียนแผนที่มโนทัศน์เป็นเครื่องมือที่จัดอยู่ในกลุ่มของ
การสร้างภาพความคิด (Visualize Thinking)
ที่ได้รับความนิยม และนำไปใช้ในห้องเรียนต่างประเทศ
มีคำที่คล้ายกันคือ Mind Mapping ซึ่งเป็นการเขียนแผนที่ความคิด
ทั้งสองคำมีสิ่งที่เกี่ยวข้องกัน คือ ต่างก็เป็นการถ่ายทอดภาพในใจ (Mental Model)
ออกมาสู่ภาพที่มองเห็น หรือจับต้อง หรือจัดการได้ (Visualize Thinking)
หรือในแง่ของการจัดการความรู้ (Knowledge Management – KM)
คือ การแปลงความรู้ที่เป็น Tacit Knowledge เป็น Explicit Knowledge
กระบวนการเขียนแผนที่มโนทัศน์ มี 6 ขั้นตอน
1. ขั้นของการเตรียมการ (Preparation Step) รวบรวมคนที่คิดเห็นคล้ายกัน
2. ขั้นของการสร้างความคิด (Generation Step) ผ่านการระดมสมองและข้อมูล
3. ขั้นการจัดโครงสร้างความคิด (Structure Step) จัดกลุ่ม และลำดับความคิด ได้โครงสร้างหลัก
4. ขั้นสร้างภาพตัวแทนความคิด (Representation Step) นำเสนอภาพแทนความคิดที่ผ่านการประมวลร่วมกัน
5. ขั้นแปลความหมาย (Interpretation Step) นำภาพที่ได้มาแปลผล และสื่อสารให้เข้าใจ
6. ขั้นการใช้ประโยชน์ (Utilization Step) นำไปใช้ประโยชน์ตามลักษณะงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
http://www.thaiall.com/freemind/
16 ก.ค.53 คุณอรรถชัย เตชะสาย งานเทคโนโลยีสารสนเทศ และคุณเรณู อินทะวงค์ งานมาตรฐานหลักสูตร และการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยโยนก ทำงานร่วมกันเชิงบูรณาการเพื่อจัดทำคู่มือการศึกษาให้ นักศึกษา Creative ได้ใช้เป็นคัมภีร์ในการวางแผนการเรียนของตนเองตลอด 4 ปี เป็นเสมือนแผนที่นำทางให้นักศึกษาได้ใช้วางแผนการเรียนร่วมกับหัวหน้าสาขา และถ้ามี เหตุให้ผลการเรียนสะดุด จนแผนการเรียนต้องเปลี่ยน อาจารย์ที่ปรึกษาก็จะช่วยเหลือใน การวางแผนการเรียนให้นักศึกษาแต่ละคนอย่างเหมาะสม .. คู่มือนี้จึงเสมือนเข็มทิศ ของนักศึกษา Creative ยามต้องออกทะเลไปหาปลาตัวโตเพื่อประทังชีวิต สรุปว่าดาวน์โหลดได้แล้วในรูป PDF + http://www.yonok.ac.th/intranet
13 ก.ค.53 วันนี้ผมต้องหยุดพิมพ์งาน พังผืดขึ้นมือขวา ทีแรกจะแนะนำ CAM Studio สำหรับบันทึก PPS คงทำไม่ได้แล้ว แต่แนะนำให้ download ได้ที่ http://www.thaiall.com/media หรือ http://www.thaiall.com/download ก็ได้แรงบันดาลใจจาก คุณอนุชิต กับคุณธรณินทร์ กับ อ.ทนงศักดิ์ ถึงทำให้หาเวลาเรียนรู้การใช้ CAM Studio และนำมาใช้ได้สำเร็จในวิชา COMP 100 แล้วส่งเผยแพร่ใน youtube.com
วิธีการใช้ CAMStudio ซึ่งเป็น Opensource ที่รับ donate
1. ดาวน์โหลด และติดตั้งโปรแกรม CAMStudio
2. เปิดโปรแกรม CAMStudio
3. เปิดแฟ้มงานที่ต้องการบันทึกจากโปรแกรม Powerpoint
4. กดปุ่ม F8 เริ่มบันทึกด้วย CAMStudio
5. กดปุ่ม Shift + F5 ใน PPT เพื่อสั่งให้ Slide ทำงาน
6. กดปุ่ม F9 หยุดบันทึกและจัดเก็บเป็นแฟ้ม .AVI
แนะนำเว็บ
http://www.youtube.com/watch?v=xIZ0BI1R43k
http://www.thaiabc.com/download/camstudio20.zip
http://www.thaiall.com/media
12 ก.ค.53 วันนี้ภาพยนต์เรื่อง Unthinkable ทำให้ได้คิดว่า มนุษย์ส่วนใหญ่กว่า 90% เป็นคนที่ไม่สมเหตุสมผล .. ความที่คาดหวังในความสมเหตุสมผลของมนุษย์ทำให้เกิดความทุกข์ เมื่อผู้หญิงอกหักแล้ววิ่งหาธรรมะ ก็มักจะมีคำสอนว่าให้ตั้งสติและยึดหลักฐานคิดเป็นที่ตั้ง แล้วก็เล่าว่ามนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีฐานคิดโดยธรรมชาติ ต้องอาศัยการอบรมสั่งสอนและวิกฤติมาทำให้ต้องขวนขวายหาฐานคิดเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ก็จะเข้าพฤติกรรมส่วนใหญ่ของมนุษย์ว่าเป็นแบบ Unthinkable .. ซึ่งชายในเรื่องไม่ใช่คนเลว แต่ผมเรียกว่ามนุษย์แบบนี้ว่ามนุษย์ Unthinkable และมีกันเต็มบ้านเต็มเมือง
ปัจจุบันเริ่มเข้าใจว่า คนเฒ่าคนแก่ในอดีต เขาไม่มีการศึกษา ไม่มีประสบการณ์กับสังคมใหญ่ ไม่มีหลักในการดำรงชีวิตที่ชัดเจน จึงมิได้มุ่งอบรมสั่งสอนบุตรหลายโดยวางฐานคิดอย่างเป็นระบบ แม้ผู้ปกครองในปัจจุบันจำนวนไม่น้อย ก็ไม่มีฐานคิดในการดำรงชีวิต จึงไม่สอนลูกหลาน ดังนั้นลูกหลานในปัจจุบันจึงเป็นประเภทที่พ่อแม่ไม่สั่งสอนเป็นส่วนใหญ่ เพราะพ่อแม่เองก็ยังไม่ใส่ใจกับคำว่าฐานคิด .. แล้วดื่มสุรา ดูดวง เล่นการพนัน โกงบ้านโกงเมือง นอกใจภรรยา เผาเรือนตนเอง และอีกสารพัด .. ก็เพียงแต่บ่นหลังดูภาพยนต์เรื่อง Unthinkable ซึ่งเป็นภาพยนต์ที่ทำให้ผมเห็นความจริงในตัวมนุษย์ที่อยู่ในสังคมทุกวันนี้ .. และคงต้องเลิกฝันว่ามนุษย์จะมีความสมเหตุสมผลเป็นฐานคิดซะที่ .. จะได้ทำใจได้