ไดชาร์จเสีย ตายกลางสี่แยกแต่ผมรอด

อาการไดชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้าเสีย
คือ ระบบควบคุมพวงมาลัยหยุดทำงาน
ไฟเตือนแจ้งสว่างหลายดวง เลี่ยวตามปกติไม่ได้ ไฟแบตเตอรี่ กับไฟเอบีเอสก็สว่าง ขณะมีอาการพารถเดินหน้า แต่เลี้ยวได้ยากมาก และพาไปรถไปจอดในจุดที่ปลอดภัยได้

เมื่อหยุดรถเข้าในที่ปลอดภัยแล้ว จะสตาร์ทในทันทีไม่ได้ เช็คน้ำและน้ำมันก็พบว่า อยู่ในระดับที่ไม่ขาด การสั่งสตาร์ทมีเสียงดังเหมือนไดชาร์จเสียในรถรุ่นเก่า กรณีของผมพักเครื่องสักครู่แล้วจะสตาร์ทติดขึ้นมาได้ (ซึ่งรถเก่าที่ผมเคยใช้จะสตาร์ทไม่ได้เลยหากมีอาการแบบนี้ ก็จะเป็นที่ไดสตาร์ท) หากโชคดีสตาร์ทติด แล้วขับต่อไปไม่เกิน 100 เมตร พบว่า มีอาการไฟพวงมาลัยติด ๆ ดับ ๆ คุมพวงมาลัยได้บ้าง ฝืดบ้าง อันตรายอย่างมาก

ไปถึงอู่ซ่อมรถในเช้าวันเสาร์ อู่เปิดเวลา  8.00น. นอนรอสักพัก ช่างก็ออกมาเปิดร้าน พอเล่าอาการปุ๊ป ช่างก็บอกว่าเป็นที่ไดชาร์จต้องหามาเปลี่ยน ตรงกับที่ค้นจากเน็ตมาเลย จึงฝากรถไว้ให้ช่างช่วยซ่อมให้หน่อย แล้วผมก็เดิกลับบ้าน ในใจคิดว่าเสียตังอีกล่ะ แต่โชคดีล่ะที่เสียในเวลา และสถานที่ที่สามารถจัดการรถได้ง่าย

– ของแท้ค้นจากเน็ต ทั้งลูก ราคา 11,500 บาท

– ของเชียงกงเชียงใหม่ (รับประกัน) อะไหล่บวกค่าแรง ราคา 2,800 บาท

ไดสตาร์ท หรือมอเตอร์สตาร์ท (Starter Motor) คือ ตัวเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานกล ซึ่งทำงานด้วยไฟฟ้ากระแสตรงแรงดันต่ำ เชื่อมต่อแบตเตอรี่และสวิตช์กุญแจ มีหน้าที่ฉุดเครื่องยนต์ให้ทำงาน หรือมีหน้าที่สตาร์ทเครื่องยนต์ ดังนั้นเมื่อสตาร์ทติดก็จะหมดหน้าที่ของไดสตาร์ท

ส่วนไดชาร์จ หรือเครื่องปั่นไฟ หรืออัลเทอร์เนเตอร์ (Alternator) คือ อุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อไปเลี้ยงระบบในรถยนต์  จะส่งไฟฟ้าไปเก็บในแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นแหล่งเก็บไฟฟ้าสำรอง เพื่อใช้ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ 

รถเสีย น่ะซ่อมได้
แต่คนเสีย บางทีก็ซ่อมไม่ได้
ป้องกันรถเสีย ด้วยการบำรุงรักษา
คนก็เช่นกัน อยู่ด้วยความไม่ประมาท

@thaiall

ทำให้นึกถึงเพื่อน
ที่เค้าซ่อมเก่งอยู่คนหนึ่ง
เราคุยกันเรื่อง
“น็อตใช้ถูกที่ถูกเวลาตัวละแสน”
เค้ามักมาเล่าประสบการณ์ในกลุ่มไลน์
เรื่องการซ่อมอยู่เสมอ

https://www.thaiall.com/blog/admin/10140/

บรรยากาศ ยามเช้า บนถนนในอำเถอ

อันดับเว็บไซต์ด้านการศึกษา ปี ค.ศ. 2003 – 2022

ว็บไซต์อันดับ 1 ด้านการศึกษา ตั้งแต่ปี 2003 ถึงปัจจุบัน มีผลการจัดอันดับในแต่ละปี ดังนี้ 1) ปี 2003 ru.ac.th มี UIP 3,228 ต่อวัน 2) ปี 2004 eduzones.com 3) ปี 2005 eduzones.com 4) ปี 2006 vcharkarn.com 5) ปี 2007 vcharkarn.com 6) ปี 2008 vcharkarn.com 7) ปี 2009 eduzones.com 8) ปี 2010 eduzones.com 9) ปี 2011 eduzones.com 10) ปี 2012 eduzones.com 11) ปี 2013 eduzones.com 12) ปี 2014 gotoknow.org 13) ปี 2015 gotoknow.org 14) ปี 2016 gotoknow.org 15) ปี 2017 gotoknow.org 16) ปี 2018 gotoknow.org 17) ปี 2019 trueplookpanya.com 18) ปี 2020 trueplookpanya.com 19) ปี 2021 trueplookpanya.com 20) ปี 2022 trueplookpanya.com มี UIP 97,965 ต่อวัน

ปัจจุบัน ทรูปลูกปัญญา คือ เว็บไซต์ด้านการศึกษา อันดับ 1 ของประเทศไทย มีกลุ่มเป้าหมาย คือ เยาวชนไทยยุคดิจิทัล เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด มีเนื้อหาที่ประกอบด้วย คลังบทเรียน คลังข้อสอบ สนามสอบเสมือนจริง คลิปการเรียน ระบบอัปสกิล ระบบจัดการห้องเรียนออนไลน์ และ คอร์สเรียนออนไลน์ มีแอปพลิเคชันทรูปลูกปัญญาทั้งบน Play store และ App store หรือชมผ่านทางช่องทรูปลูกปัญญา

https://thaiall.com/truehits/

การเพิ่มเว็บไซต์ที่ชอบ เป็น shortcut ไปวางบนโฮมสกรีน

การเพิ่มเว็บไซต์ที่ชอบ เป็น shortcut ไปวางบนโฮมสกรีน (home screen) เป็นบริการที่น่าสนใจ เมื่อใช้ใน browser ต่าง ๆ จะสร้าง shortcut ไปบนหน้าแรกของโทรศัพท์ (home screen) ทำให้เข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการทำ bookmark หรือ favorite กรณีแรก เมื่อใช้ Opera หรือ Firefox หรือ Samsung Browser สั่งเปิดดูเว็บไซต์ที่ชอบ และอยากเปิดดูซ้ำในภายหลัง เช่น เว็บไซต์ของส่วนราชการ สมาคม ชมรม หรือองค์กรที่ทำงานอยู่ ทำได้โดยเลือก Add a website shortcut to home screen หรือ เพิ่มลงในหน้าจอหลัก หรือ เพิ่มไปที่ หน้าจอแรก

https://www.thaiall.com/pwa/

ตัวอย่างโค้ด

กรณีที่สอง ใช้ Chrome browser ซึ่งจะรองรับโค้ด material.min.js และ manifest.json ที่ทำงานแบบ PWA (Progressive Web App) ที่ทำให้เว็บไซต์ที่ถูกเพิ่มผ่าน browser จะเป็น application ไปวางใน application listing และเปิดใช้งานได้ หากต้องการเพิ่มไปที่ home screen ก็สั่งเพิ่มไปที่หน้าจอหลักได้ ส่วน icon นั้น ถ้ามีรูปแบบเป็น image/png และมีขนาดของ icon เป็น 192px x 192px จะถูกนำไปแสดงเป็น icon บน smart phone

icon บน home screen

เว็บไซต์ ที่คาดหวังว่า ผู้สนใจเนื้อหาจะเปิดเว็บไซต์ซ้ำ ย่อมต้องพัฒนาให้รองรับการเพิ่ม website เป็น application บน smartphone เพื่อให้สะดวกในการเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว และเป็น icon หนึ่งให้สามารถบริหารจัดการให้เป็นระเบียบบนอุปกรณ์ ทั้งบน home screen และ application listing

การเพิ่มเว็บไซต์ที่ชอบ เป็น shortcut ไปวางบนโฮมสกรีน

การกระตุ้นความสนใจ วิธีหนึ่งคือมีรุ่นพี่ศิษย์เก่าดีเด่นผู้เป็นแรงบันดาลใจ มาเป็นวิทยากรที่เป็นการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน

พบงานวิจัยของ กนิษฐา พูลลาภ, ทรงศักดิ์ สองสนิท, และ ขจรพงษ์ ร่วมแก้ว ศึกษาเรื่อง การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน ร่วมกับการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน ในผลการวิจัย พบว่า ได้เสนอกิจกรรมทั้งหมด 5 ขั้น โดย ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ ในกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐาน ตามด้วย ขั้นที่ 2 ตั้งปัญหาและแบ่งกลุ่มตามความสนใจ ขั้นที่ 3 ค้นคว้าและคิด ขั้นที่ 4 นำเสนอ ขั้นที่ 5 ประเมินผล ถูกนำเสนอใน การประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัยระดับบัณฑิตศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 21 วันที่ 27 มีนาคม 2563 ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ซึ่งสถาบันการศึกษาทั้งระดับอุดมศึกษา มัธยมศึกษา และประถมศึกษา ต่างมีศิษย์เก่าเข้าไปสนับสนุนส่งเสริมการทำกิจกรรมในแต่ละสถาบัน เช่น โรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง มีการประกาศรายชื่อ ศิษย์เก่าดีเด่น และ ศิษย์เก่าทรงคุณค่า เพื่อให้นักเรียนได้มีตัวอย่างบุคคลที่จะเป็นแรงบันดาลใจ และคุณครูสามารถนำไปใช้ในการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน ด้วยการนำเสนอกรณีศึกษาความสำเร็จของศิษย์เก่าดีเด่น หรือเชิญมาเป็นวิทยากรเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้ตั้งใจเรียน และเรียนอย่างมีเป้าหมาย

เช่น กิจกรรม “พี่เล่า น้องเรียน” เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2565 ณ ลานกิจกรรม La Providence โรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง ที่ฝ่ายวิชาการ ร่วมกับสภานักเรียน ฝ่ายกิจการนักเรียน โดยมีศิษย์เก่าทรงคุณค่า ได้แก่ 1) คุณณรงค์ ปัทมะเสวี ประธานกรรมการมูลนิธินิยม ปัทมะเสวี 2) พลเอกกฤษณ์ดนัย อิทธิมณฑล ประธานชมรมศิษย์เก่าอัสสัมชัญลำปาง (กรุงเทพมหานคร) 3) คุณชัยวัฒน์ ทองคำคูณ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม และ 4) คุณนิรุฒน์ ตันอนุชิตติกุล ประธานบริษัท Major Advertising จำกัด มาเป็นผู้บอกเล่า ถ่ายทอดประสบการณ์ หนทางสู่ความสำเร็จในแวดวงต่าง ๆ แบ่งปันประสบการณ์และแนวคิดในการทำงาน เพื่อเปิดวิสัยทัศน์ สร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นความสนใจอยากเรียนรู้อย่างมีเป้าหมาย ให้รุ่นน้องได้เข้าถึงประสบการณ์จริงของรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จแล้ว เพื่อให้รุ่นน้องได้นำบทเรียนไปปรับใช้เป็นแบบอย่างสำหรับวางแผนชีวิตต่อไป

พี่เล่าน้องเรียน

https://web.facebook.com/ACL2501/posts/pfbid0dJeW3FXNaWTWy28qrbFEDY4k3AszDaa9oAiqvE7sGGnYxs4JZUXNdetzSEHfnJrhl

https://www.thaiall.com/education/indexo.html

หรือ ค้นจากกูเกิ้ลด้วยคำว่า “ศิษย์เก่าดีเด่น ประจำปี 2564” พบประวัติการทำงานของศิษย์เก่า 2 ท่าน ในสาขาปฐพีวิทยา คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่สะท้อนการบรรยายประวัติ Profile แบบ Who am i? แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติและการปฏิบัติตน
ที่สมควรแก่การได้รับการยกย่องให้เป็นศิษย์เก่าดีเด่น ด้วยผลงานที่โด่ดเด่นเป็นประจักษ์ ที่ส่งผลกระทบต่อสังคมที่เป็นรูปธรรม ที่มีเอกสารอธิบายตัวตนของศิษย์เก่าดีเด่นได้อย่างชัดเจนในแบบเอกสารแสดงผลงาน จำนวน 2 ท่าน ดังนี้ 1) ท่านแรก ดร.พิทยากร ลิ่มทอง มีผลงานวิจัยดีเด่นหลายเรื่องที่ได้รับจากกรมพัฒนาที่ดินถึง 3 ปี และเป็นผู้เผยแพร่องค์ความรู้ทางด้านปฐพีวิทยาอย่างเป็นระบบและเด่นชัด 2) ท่านที่สอง คุณรนัท ทรงเมรากฤตย์ เป็นผู้ปรับใช้องค์ความรู้ทางปฐพีวิทยามาผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ จนเป็นที่ยอมรับในวงการการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเกษตรอย่างกว้างขวาง ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทที่เป็นที่ปรึกษาเทคโนโลยีและเทคนิคการเกษตรในองค์กรต่าง ๆ แล้วยังเข้ามาช่วยบรรยายให้กับนิสิตรุ่นน้อง และเข้าร่วมงานวิจัยกับคณาจารย์ในภาควิชา

ซึ่งทุกสถาบันการศึกษาย่อมมีศิษย์เก่าดีเด่น และตัวอย่างทั้งสองท่านนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สมควรที่ครูอาจารย์จะนำประวัติและผลงานไปปรับใช้เป็นบทเรียนหนึ่งสำหรับการเล่าเรื่องให้นิสิตฟัง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้เห็นแนวทางการใช้ชีวิตของศิษย์รุ่นพี่ หรือส่งเอกสารอธิบายตัวตนของศิษย์เก่าดีเด่นให้รุ่นน้องได้เรียนรู้ แล้วได้นำไปปรับใช้เป็นแรงบันดาลใจหรือเป้าหมายชีวิตของตนต่อไป ที่สำคัญนักเรียนจะจำได้ว่าศิษย์เก่าดีเด่นที่เขาประทับใจคือใคร

ศิษย์เก่าดีเด่น ประจำปี 2564
ศิษย์เก่าดีเด่น ประจำปี 2564

https://dss.agr.ku.ac.th/news/%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2564-30

เวิร์ดเพรสจอดำ แก้ไขอย่างไร

ความเป็นมา .. มีอยู่วันหนึ่ง ในระหว่างเสนอผลการสำรวจคนไทยให้นิสิตของผมได้รู้ถึงสถานการณ์ ว่าทักษะที่แรงงานไทยขาดแคลนมากที่สุดคืออะไร จากข้อมูลที่เคยอ่านพบจากเอกสารในหัวข้อ Productivity and investment climate survey ซึ่ง Boonlert Theeratrakul บอกว่า คนทำงานไทยขาดทักษะสำคัญ 3 เรื่องคือ 1) ภาษาอังกฤษ 2) ทักษะด้านไอที และ 3) ทักษะเชิงตัวเลข จึงจะเปิดเอกสารที่เคยโพสต์ไว้ในบล็อก “IT Blog เทคโนโลยีสารสนเทศ” ซึ่งใช้ระบบ wordpress ให้บริการ Blog เมื่อคลิกเปิด post ตามลิงค์ที่แชร์ไว้ พบว่า จอดำ (Black Screen) บนทั้ง 2 Blog sites ที่เปิดให้บริการไว้

3 เรื่องที่คนไทยขาดแคลน

หลังการสืบค้น .. เข้าไปดูในระบบ administrator พบ fatal error จากโค้ด /legacy /class-jetpack-signature . php on line 218 และแจ้งว่า Call to undefined function ctype_digit() ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นกับ Blog site ทั้ง 2 ระบบบน server ตัวนี้ เมื่อนึกย้อนไปว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง พบว่า ผมได้ทำการ upgrade จากรุ่นของ php 7.3 เป็น 7.4 นั่นคือ 7.4 บนเครื่องบริการนี้ ไม่สนับสนุน ctype_digit จึงต้องหาวิธีแก้ไขต่อไป

วิธีแก้ปัญหาที่ 1
พบคำแนะนำให้ลบ folder jetpack ออกจาก plugins แล้วใช้ ftp upload เข้ามาใหม่ ซึ่งคำแนะนำนี้ใช้ได้กับ jetpack ที่หยุดการทำงาน แล้วไม่สามารถสั่ง Activate ขึ้นมาได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับ shared server ที่เป็น windows ตัวหนึ่งของผม ที่แก้ไขได้ด้วยการอัพโหลดผ่าน FTP แทนการติดตั้งผ่านระบบ admin ของ wordpress โดยตรง แต่กรณี ctype_digit นี้ ไม่สามารถแก้ไขด้วยการเปลี่ยนแฟ้มบนเครื่องบริการ

วิธีแก้ปัญหาที่ 2
พบคำแนะนำให้แก้ไข php.ini โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. เพิ่ม extension=ctype.so เข้า php.ini
  2. สั่ง Activate : jetpack ที่ติดตั้งอยู่ ถ้ามีปัญหา ให้ลบ folder แล้วอัพโหลดใหม่ หรือเปลี่ยนชื่อเป็นชื่ออื่น ซึ่งผมเลือกการเปลี่ยนชื่อ ทำให้เกิดการตรวจสอบในรายการ plugins ใหม่
  3. เมื่อใช้งาน jetpack ได้แล้ว อาจต้อง setup ใหม่ โดยเชื่อมกับ wordpress.com แล้วคลิก Approve
  4. บริการเบื้องต้น คือ Jetpack Stats ซึ่งยังไม่มีค่าใช้จ่าย

ปัญหานี้ เกิดจาก server ที่ให้บริการ webhosting ได้กำหนดค่า default ของ php 7.4 ว่า disabled ctype เป็นแบบ default ส่วนรุ่น 7.3 ไม่พบปัญหา เพราะ enabled เป็น default จึงต้องแก้ไขด้วยการเข้าไปแก้ไข php.ini เพื่อสั่งเรียก extension ที่ชื่อ ctype

ctype_digit function in php 7.4

เข้าไปหาลูกค้า กับ ลูกค้าเข้ามาหา

การค้าขายออนไลน์ หรือออฟไลน์ก็ตาม
หากมองในประเด็นเรื่อง การเข้าหา หรือ การได้มา (Acquirement)

ก็จะมีสองมุม คือ เข้าไปหา กับ เข้ามาหา

  1. การเดินเข้าไปหาลูกค้า (Walk out)
    ผู้ค้าจะต้องใช้ทรัพยากร โดยเฉพาะเวลาค่อนข้างมาก
    ต้องรู้ว่าลูกค้าคือใคร อยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ เข้าเมื่อไร
    เช่น เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนในเฟซบุ๊ก เพื่อนในไลน์ เพื่อนในไอจี เพื่อนในติ๊กต็อก
    แต่ผู้ค้าที่ไม่มีเพื่อนที่ติดตามเรา ย่อมไม่มีกลุ่มเป้าหมายให้เดินเข้าไปหา
    บางที การเดินเข้าไปหาลูกค้า อาจได้ order เป็น 0
    เพราะตัวแปรสำคัญ คือ ความสนใจต่อตัวสินค้าของกลุ่มเป้าหมาย
  2. การเข้ามาหาของลูกค้า (Advertising)
    ปัจจุบันสื่อสังคมทุกแพลตฟอร์ม มีบริการยิงแอด เพื่อโฆษณาสินค้า
    โดยเลือก Target group ได้ตามต้องการ เช่น เพศ วัย คำสำคัญ
    รายการเสนอขาย จะไปแสดงให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
    ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากได้เลือกในเวลาเดียวกันบนแพลตฟอร์มที่กำหนด
    ถ้าลูกค้าสนใจสินค้า ก็จะคลิกเข้าสั่งซื้อ เข้ามาหาผู้ค้า
    เพื่อสอบถาม ตกลงราคา เจรจาต่อรองได้ทันที
    บางที การยิงแอด อาจได้ order นับสิบ นับร้อย ในเวลาอันสั้น
    เพราะตัวแปรสำคัญ คือ ความน่าสนใจของตัวสินค้าที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย
    กรณีนี้มีตัวอย่างมากมายที่เล่าโดย Successful people ผ่านสื่อต่าง ๆ
  3. เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนเรียน เพื่อนบ้าน (Neighborhood)
    กลุ่มลูกค้าใกล้ตัว ที่อาจทราบว่าเราจำหน่ายสินค้าอะไร
    และมีความสนใจที่จะ order สินค้าของเรา
    เพื่อนก็จะติดต่อขอสั่งซื้อสินค้า แล้วเราก็ไปส่งสินค้าให้เพื่อนได้โดยง่าย

กรณี เพื่อนอาจารย์ (Neighborhood)
การสื่อสารทางการตลาดถึงเพื่อนอาจารย์

มี #เพื่อนอาจารย์ ที่ #คณะพยาบาลศาสตร์ #มหาวิทยาลัยเนชั่น ต้องการสินค้า #Premium เป็นของฝากเนื่องในโอกาส #สวัสดีปีใหม่ ท่านเลือกสินค้าจากแฟนเพจ #Mareemphouse แล้วโทรปรึกษาที่ร้าน เรื่อง #Packaging โทร.0841519133 พบว่า ท่านเลือกซื้อ #ผ้าขาวม้าทอมือ กับ #ผ้าพันคอทอมือ ท่านได้สั่งซื้อมาหลายกล่อง เตรียมเป็นของขวัญปีใหม่ ส่งไปให้เพื่อนที่ต่างจังหวัด ซึ่งผมก็เตรียมสินค้าไว้ในรถ ไปมอบให้ท่านกับมือพรุ่งนี้

ประกอบกับวันนี้ได้อ่านบทความวิจัยจากวารสารฯ เรื่อง การสื่อสารทางการตลาดฯ เกี่ยวกับสินค้าในชุมชนแห่งหนึ่ง ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ใน TCI-Thaijo.org กลุ่ม TCI1 มีผลการวิจัย หน้า 280 และเขียนผลตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 ว่า การสื่อสารประกอบด้วย 6 แนวทาง และชอบคำ 3 คำที่อธิบายตามภาพนี้ คือ 1) การให้ข่าว คือ รายงานว่ามีใครซื้อสินค้า ก็นำเรื่องมาแชร์ให้เพื่อนได้เห็นว่าวันนี้มีใครซื้อสินค้าอะไรของเรา 2) กลุ่มลูกค้า ปกติกลุ่มเป้าหมายจะมีหลายกลุ่ม ตามแพลตฟอร์มที่เราเลือกทำการตลาด ซึ่งคนในมหาวิทยาลัยเนชั่น คนในจังหวัดลำปาง เพื่อนเก่ามัธยม เพื่อนเก่ามหาวิทยาลัย ก็จะกลุ่มที่ผมสามารถนำสินค้าไปยื่นให้ถึงที่หน้าบ้านหรือหน้าห้องทำงานเลย ไม่ต้องใช้บริการ #delivery เพราะที่ลำปางผมไปส่งเองได้ 3) ประชาสัมพันธ์ เป็นการบอกเล่าในสื่อสาธารณะ เช่น ค้นคำว่า “ผ้าขาวม้า ผ้าพันคอ ผ้าถุง” ผ่าน google.com จะพบรายการสินค้า ข้อมูลการติดต่อ และพบโพสต์นี้ รวมถึงพบภาพ #บทความวิจัย ที่ผมได้ทำการทบทวนวรรณกรรมมาด้วย

ซึ่งแนวทางการสื่อสารทางการตลาดแบบบูรณาการของสินค้า OTOP ในบทความวิจัย มี 6 ข้อ ได้แก่ 1) การประชาสัมพันธ์ 2) การโฆษณา 3) การจัดกิจกรรมทางการตลาด 4) การส่งเสริมการขายโดยใช้พนักงาน 5) การตลาดทางตรง 6) การส่งเสริมการขาย

https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/247818

บทความ จาก ThaiJo อยู่ใน TCI กลุ่ม 1

ปรับสีพื้นเทมเพจรุ่น 9.0 ก่อนส่งเข้า pagespeed หวังได้ 100

เล่าเรื่องกำหนดสีพื้นใน .css ของเว็บไซต์ด้านการศึกษา

ทิสเซิล (Thistle) คือ ชื่อทั่วไปของไม้มีหนาม มีอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ โดย มิลค์ ทิสเซิล เป็นพืชสมุนไพรมีฤทธิ์ทางยาที่มีการนำมาสกัดเป็นแคปซูลจำหน่ายเป็นยาบำรุงร่างกาย มีสรรพคุณ เช่น ดีท็อกซ์ ตับ โดยสีของดอกทิสเซิลเป็นสีม่วง ค่าสี RGB ของ thistle คือ #D8BFD8 ในการกำหนดสีบนเว็บเพจสามารถใช้ชื่อสี thistle ได้เช่นเดียวกับ red, green, blue หรือ teal

Thistle is the common name of a group of flowering plants characterised by leaves with sharp prickles on the margins, mostly in the family Asteraceae.

ซึ่งเทมเพจรุ่น 9.0 ของ thaiall.com เปลี่ยนสีพื้นจาก teal สีเขียวนกเป็ดน้ำ เป็น thistle ม่วงอ่อน ก็ด้วยหวังว่าเว็บไซต์จะถูกพัฒนาไปถึงจุดที่มีประโยชน์ต่อการศึกษาของไทย เพราะการพัฒนาการศึกษาไม่ได้ขึ้นกับใครเพียงคนเดียว พบว่า มีผู้พัฒนาเว็บไซต์ด้านการศึกษาจำนวนมากในระบบของทรูฮิต รู้สึกว่ามีเพื่อนที่คิดเหมือนกันอยู่ในประเทศไทยไม่ใช่น้อย  ถ้านักพัฒนาท่านใดโชคดีก็จะมีผู้สนับสนุนที่ทำให้มีแรงกำลังพัฒนางานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่หายไปตามกาลเวลา

ขณะนี้กำลังปรับแต่งรุ่นทดสอบของเทมเพจ 9.0 ให้ผ่านเกณฑ์ประเมินตามมาตรฐานของ Pagespeed insight ของ google.com ทั้ง 4 กลุ่มเกณฑ์ เริ่มจาก
ประสิทธิภาพ (Performance) ตามด้วย การช่วยเหลือพิเศษ (Accessibility) แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) และ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งเงื่อนไขการประเมินเปลี่ยนตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เช่น ภาพที่เหมาะสมก็จะแนะนำให้ใช้ .webp เป็นต้น

แต่การปรับให้ได้ 100 ทุกเว็บเพจนั้น น่าจะทำได้ยาก แต่จะพยายามปรับแก้ให้ได้คะแนนสูงขึ้น เพราะเทมเพจหลักจำเป็นต้องใช้ทรัพยากรภายนอก (External Resources) เฟรมเวิร์ค (Framework) และไลบรารี่ (Library) ที่เราไม่ได้ควบคุมอีกหลายรายการ เช่น Truehits.net, Histats, Bootstrap หรือฝังโค้ดจาก Google drive  หรือ Youtube.com

https://www.thaiall.com/web2/

ชวนฟัง อ.kirk เล่าประวัติ เคยอยู่วิทยาลัยโยนก ในงาน Some one หนึ่งในหลาย

For A.Kirk at YONOK College (Nation University)

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 มีโอกาสเข้า กลุ่มไลน์เพื่อนโยนก พบว่า เพื่อน ๆ พูดคุยแลกเปลี่ยนกันเสมอ มีเรื่องน่าสนใจมากมาย เช่น เพื่อนบิวแชร์คลิปเมื่อหกปีก่อน ที่ อ. Kirk R. Person,Ph D. พูดเรื่อง MLE ที่ประเทศอินเดีย ส่วนเพื่อนภูเบศร์ ชวนฟัง TEDTalk ของ อ. Kirk ที่พูดในงานประชุมวิชาการวิชาการ หรืองานเปิดตัวสารคดี พบคลิปที่แชร์ผ่านเฟซบุ๊กเป็นเวลาหลายชั่วโมงถ่ายทอด Live จากแฟนเพจ “สารคดี Some one หนึ่งในหลาย” ของ มหาวิทยาลัยมหิดล

MLE = Multilingual Education

ในตอนต้นรายการ ได้ฟัง อ.Kirk เล่าประวัติ ตั้งแต่วัยเด็ก เติบโต มาพบรักที่วิทยาลัยโยนก ไปทำงานบนดอย จนแต่งงาน มีลูกที่น่ารักหลายคน มีลูกสาวได้ร้องเพลงในงานกีฬาสีที่กรุงเทพ ท่านศึกษาเรื่องภาษา พบว่า ประเทศไทยมีมากกว่า 70 ภาษา และในโลกเรามีมากถึง 7151 ภาษา และมีมากถึง 193 ประเทศในสหประชาชาติ ย้ำให้เห็นว่าประเทศไทย หรือคนไทย เราไม่ได้มีเพียงชาติเดียวในโลก

สรุปได้ว่า เราเป็นเพียงหนึ่งในหลายเชื้อชาติ หลายภาษา แตกต่างตามเส้นเขตแดน วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชุมชน และครอบครัว

Some one หนึ่งในหลาย

ท่านนำภาพหมู่ของนักศึกษาวิทยาลัยโยนก (มหาวิทยาลัยเนชั่น)
ขึ้นสไลด์ TEDTalk ซึ่งเป็นช่วงชีวิตอีกช่วงหนึ่งที่ท่านประทับใจ

ในช่วงหนึ่งของชีวิต ของ อ.Kirk ตอนที่ได้มาอยู่ประเทศไทยใหม่ ๆ นั้น ท่านได้ฉายภาพหมู่ของนักศึกษาโยนกปี 2 (ประมาณปี พ.ศ.2532) ที่หน้าอาคารเรียนรวมหลังแรก ของ วิทยาลัยโยนก (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น มหาวิทยาลัยเนชั่น ปีพ.ศ.2554 และย้ายไปวิทยาเขตใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533) ที่วิทยาเขตศรีปงชัย ต.ชมพู ลำปาง ซึ่งในภาพนั้นมีผมและเพื่อน ๆ รุ่นหนึ่ง ที่เพื่อนบิวได้ capture นำไปแชร์ในกลุ่ม เป็นภาพความทรงจำ ที่ อ.Kirk คิดถึงพวกเราเสมอ

ทุกความพยายามมีค่าเสมอ

ห้องเรียนแห่งอนาคต

เห็นความพยายามของนักเรียน
เห็นความพยายามของครู
เห็นความพยายามของผอ.
เห็นความพยายามของกระทรวง
ทุกความพยายามมีเหตุมีผล
มีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน
ตามฐานสมรรถนะ และบริบทของตนเอง
อาจเป็นผู้ทำ ผู้ถูกกระทำ ผู้สนับสนุน
ผู้รับผลบวกหรือผลลบ ผู้ชม ผู้ไม่เข้าใจ
ผู้ทำอย่างสุจริต และไม่สุจริต
ผู้เจตนาสร้างสรรค์ และไม่สร้างสรรค์
หรือผู้สะท้อนคิดอยู่ห่าง ๆ
บน timeline จุดใดจุดหนึ่ง

นักผจญฝัน

“ถ้าคุณคิดว่า การศึกษามีราคาแพง ก็ลองจ่ายราคา ของความไม่ฉลากดูสิ”
Derek Bok

If you think education is expensive,
try ignorance.

ทฤษฎีรักนิรันดร – ดูภาพยนตร์แล้วย้อนดูตน

ปกติผมมักเล่าเรื่องภาพยนตร์ให้นิสิตฟัง
หลายคนเคยดูภาพยนตร์ก็จะเข้าใจ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 62 ที่ผมเก็บไว้บอกเล่า

ทฤษฎีรักนิรันดร (the theory of everything) – “สตีเฟน ฮอว์คิง (Stephen Hawking) นักฟิสิกส์ทฤษฎี ชาวอังกฤษ มีความเชื่อว่าจักรวาลมีวิวัฒนาการตามกฎเกณฑ์ที่แน่นอนชุดหนึ่ง โดยกฎเกณฑ์ที่สมบูรณ์ชุดนี้สามารถให้คำตอบกับเราได้ในคำถามที่ว่า จักรวาลถือกำเนิดขึ้นอย่างไร กำลังจะไปในทิศทางไหน และจะมีจุดจบหรือไม่

The theory of everything

https://entertainment.trueid.net/synopsis/MGvAZbDmJppB

นอกจากนี้ ในผลงานร่วมกับนักคณิตศาสตร์ เซอร์ โรเจอร์ เพนโรส เขาแสดงให้เห็นว่า ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General relativity) ของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ บ่งชี้ว่า กาล-อวกาศมีจุดกำเนิดจาก “การระเบิดครั้งใหญ่” หรือ บิกแบง (Big Bang) และมีจุดจบในหลุมดำ (Black hole) ในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เป็นการดัดแปลงมาจากชีวิตจริงของ สตีเฟน ฮอว์คิง นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ ผู้มีชื่อเสียง และได้เสียชีวิตไปในวัย 76 ปี เมื่อปี พ.ศ.2561 ในวัย 22 ปี เขาถูกวินิจฉัยว่าป่วยด้วยโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อม จากในภาพยนตร์ เป็นการเล่าเรื่องชีวิตรักของเขาและภรรยา และอาการหนึ่งที่ปรากฎจากโรค คือ การล้ม ซึ่งเกิดจากการสั่งให้ขาก้าวไป แต่ขาไม่ได้ก้าวออกไปอย่างที่สั่งการ แล้วอาการก็เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จนช่วยเหลือตนเองไม่ได้ในที่สุด มีภาพยนตร์อีกหลายเรื่องสะท้อนชีวิตของผู้ป่วย การเจ็บป่วยทางร่างกาย ทำให้ได้เห็นถึงปัญหาสุขภาพ ความไม่แน่นอนของชีวิต และความแน่นอนว่ามนุษย์เราต้องเจ็บป่วย และตายในสักวันหนึ่ง”

https://www.thaiall.com/handbill/getapart.php?k=top-62