background sound สำหรับ powerpoint

screen pptx 2010
screen pptx 2010

เราสามารถใช้ powerpoint สร้างคลิ๊ปวีดีโอง่าย ๆ แบบ stop motion ได้
โดยการนำภาพนิ่งไปวางเป็นแต่ละ slide แล้วก็ใส่ sound เป็น background sound
ซึ่งใช้งานใน powerpoint 2010 ได้ เพราะสามารถ save as เป็น .wmv
แต่ใน powerpoint 2007 ยังไม่สนับสนุนการ save as เป็นคลิ๊ปวีดีโอ
และตัวเลือกในการทำให้ “เล่นในภาพนิ่งทั้งหมด” ของ 2007 กับ 2010 ก็มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง
สรุปว่า powerpoint 2010
ช่วยให้การจัดทำคลิ๊ปวีดีโออย่างง่าย ทำได้ง่ายขึ้นมาก เสร็จในเวลาไม่กี่นาที
โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมพิเศษอีก

http://www.thaiall.com/blogacla/burin/4036/
แบบของ stop motion

https://dl.dropboxusercontent.com/u/50010673/stopmotion_slide57.rar
9 MB ตัวอย่าง slide

https://dl.dropboxusercontent.com/u/50010673/burin_blue.rar
32 MB ภาพใช้ประกอบการเรียน

https://dl.dropboxusercontent.com/u/50010673/song/yesisher.mp3

https://dl.dropboxusercontent.com/u/50010673/song/flower.mp3

sound pptx 2007
sound pptx 2007

รวมคลิ๊ปพิธีประสาทปริญญาบัตร (Commencement Ceremony) ครั้งที่ 21


จากการค้นเรื่อง “พิธีประสาทปริญญาบัตร
แล้วพบคลิ๊ปน่าสนใจ 11 คลิ๊ป เกี่ยวกับงานพิธีประสาทปริญญาบัตร ครั้งที่ 21
ของ มหาวิทยาลัยเนชั่น จังหวัดลำปาง เมื่อ 26 มกราคม 2558
ซึ่งตรงกับเป็นวันครบรอบการสถาปนามหาวิทยาลัยเป็นวันประสาทปริญญาบัตร
แล้วยังมีกิจกรรมเนชั่นชั่นชวนปั่น เมื่อ 25 มกราคม 2558

commencement ceremony
commencement ceremony

มีดังนี้
1. พิธีประสาทปริญญาบัตร ภาพโดนนาย วิสันต์ โพธิ์งาม ได้ครบทุกบรรยากาศ
https://www.youtube.com/watch?v=OU3ZleMugqo

2. ภาพระหว่างพิธี ใช้ถ่ายแบบเทคนิค Time lapse โดย True faster
https://www.youtube.com/watch?v=q4ky9j3ra_4

3. กิจกรรมบนเวทีตอนกลางคืน เลือกตั้งนายกสมาคมศิษย์เก่า คนที่ 6
https://www.youtube.com/watch?v=eAQYVVEeM5c
4. พิธีบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ ประจำปีในเช้าวันพิธี
https://www.youtube.com/watch?v=2esqhoqZGPs
5. รับปริญญาบัตรจากท่านองคมนตรี
https://www.youtube.com/watch?v=TuLyQXSSpv0
6. เดินเข้าพิธีประสาทปริญญาบัตร
https://www.youtube.com/watch?v=FXsfahP-yWg
7. ประสาทปริญญา ม.เนชั่น สุทธิชัย หยุ่น ยันทุกคนคือคนพันธุ์ N
https://www.youtube.com/watch?v=svmCUCtrIp4
https://www.youtube.com/watch?v=fqUVg6sjKBo
http://www.nationtv.tv/main/content/social/378441824/
8. ม.เนชั่น รับปริญญา ทาง Nation TV
http://www.nationtv.tv/main/program/khaokhon-morning/378441786/
9. กิจกรรมเนชั่นชวนปั่น Nation Bike Thailand 2015 เส้นทางที่ 2 จังหวัดลำปาง
https://www.facebook.com/video.php?v=1583544621861811
10. คลิ๊ปเนชั่นชวนปั่น ก่อนพิธี 1 วัน ตอนที่ 1/1
https://www.youtube.com/watch?v=7MmH6XI2OEg
11. คลิ๊ปเนชั่นชวนปั่น ก่อนพิธี 1 วัน ตอนที่ 2/2
https://www.youtube.com/watch?v=-90HYOi5MOk

ผลการค้นงานประชุมวิชาการระดับชาติในภาคเหนือ

เล่าสู่กันฟัง เรื่องหัวหน้าให้ค้นข้อมูล
ว่ามีงานประชุมวิชาการระดับชาติ ในช่วง พฤษภาคม-กรกฎาคม 2558
เฉพาะเขตภาคเหนือ สายมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
ผมตรวจสอบจาก
+ http://www.conferenceinthai.com/
+ http://www.grad.mahidol.ac.th/grad/event/conference2558_th.php
+ http://www.conferencealerts.com/country-listing?country=Thailand
+ http://www.google.com
ที่จะรองรับทั้ง M.P.A. และ M.ED. มีเบื้องต้นดังนี้

14 มกราคม 2558
การประชุมสังคมศาสตร์วิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 11
https://social.crru.ac.th/symposium/

13 กุมภาพันธ์ 2558
งานประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัย มหาวิทยาลัยพายัพ 2015
มีกลุ่มสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
http://www.payap.ac.th/symposium2015/

20-21 กุมภาพันธ์ 2558 ?
การประชุมวิชาการระดับชาติ “วิทยาการจัดการวิชาการ” 2015
เครือข่ายความร่วมมือคณะวิทยาการจัดการ กลุ่มภาคเหนือ 8 แห่ง
http://www.management.cmru.ac.th/conferences2015/

23 – 24 มีนาคม 2558
การประชุมทางวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย
มีกลุ่มสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
http://www.rccon2015.org/

23 พฤษภาคม 2557 ?
การประชุมวิชาการระดับชาติด้านวิทยาการและเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่
มีกลุ่มสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
http://conference.northcm.ac.th/

22-24 กรกฎาคม 2015
การประชุมวิชาการนเรศวรวิจัยครั้งที่ 11 เป็นการประชุมวิชาการระดับนานาชาติ
มีการศึกษา และสังคม และรัฐประศาสนศาสตร์
http://dra.research.nu.ac.th/nurc11/index.aspx
http://dra.research.nu.ac.th/nurc10/bregist.aspx

17-18 กันยายน 2015
The 1st International Conference on Interdisciplinary Development Research (IDR2015)
http://www.conferencealerts.com/country-listing?country=Thailand

8-9 ธันวาคม 2558 ?
การประชุมวิชาการ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
http://www.conference.mju.ac.th/

Unobtrusive Javascript เป็นพื้นฐานการออกแบบเว็บไซต์ยุคใหม่

responsive web design
responsive web design

Unobtrusive Javascript คือ หลักการที่จะแยก javascript ออกไปจาก html
เพื่อให้การพัฒนา Responsive web design ง่าย
สอดคล้องกับการแยก style ออกจาก html ไปไว้ใน CSS
ยุคต่อไปของการพัฒนาเว็บไซต์จะเป็น responsive web design
การแยก html ออกจาก script และ css เป็นหลักการพื้นฐานก่อนเริ่มออกแบบ
โดยยึดว่า basic design มองไม่ที่ mobile device ก่อน
คือการมองจาก screen ที่มีข้อจำกัดที่สุดก่อน
http://en.wikipedia.org/wiki/Unobtrusive_JavaScript
Unobtrusive JavaScript
http://www.siamhtml.com/%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B3-responsive-web-design/
http://8columns.com/articles/50009/1387278156096
http://web.stoms.co.th/2013/10/15/responsive-web-design/

ตัวอย่างแฟ้ม x1.htm
เขียน html แบบฝัง javascript ลงไปใน html tag
<body>
<input type=”text” name=”s1″ onchange=”window.status=’hello’;return true;” />
</body>

ตัวอย่างแฟ้ม x2.htm
เขียน html แบบเรียกใช้ javascript จาก html tag ซึ่งผูกเชื่อมกันชัดเจน
<head>
<script>
function s2(){ window.status = “hello”; }
</script>
</head>
<body>
<input type=”text” name=”s2″ onchange=”s2()” />
</body>

ตัวอย่างแฟ้ม x3.htm
เขียน html กับ javascript แยกกันเด็ดขาด แต่ฝากไว้ในแฟ้ม html เท่านั้น
<head>
<script>
window.onload = function() {
document.getElementById(“s3”).onchange = s3;
function s3(){ window.status = “hello”; }
}
</script>
</head>
<body bgcolor=yellow>
<input type=”text” name=”s3″ id=”s3″ />
</body>

ตัวอย่างแฟ้ม x4.htm
ทั้ง html กับ javascript และ css ต่างคนต่างอยู่ ใช้ include เข้ามา
<head>
<link href=”x.css” rel=”stylesheet” type=”text/css” />
<script type=”text/javascript” src=”x.js”></script>
</head>
<body>
<input type=”text” name=”s41″ id=”s41″ />
<input type=”text” id=”s42″ />
</body>

ตัวอย่างแฟ้ม x.js
window.onload = function() {
var s41 = document.getElementById(“s41”);
s41.onchange = function() {
window.status = “hello”;
};
document.getElementById(“s42”).onclick = s42;
function s42(){ alert(“hello”); }
};

ตัวอย่างแฟ้ม x.css
body {
background-color: #ffff00;
}

เบรคหาย ต้องซ่อมอะไร

ค่าซ่อมเบรค
ค่าซ่อมเบรค

คำถาม เบรคหาย ต้องเหยียบลึก ๆ รถถึงจะหยุด เป็นเพราะอะไร

คำตอบ
เกือบสัปดาห์ที่เสี่ยงไม่ได้เอารถไปซ่อม
เพราะ เหยียบเบรคแล้วหาย ต้องเหยียบลึก ๆ
บางทีเหยี่ยบแล้ว เสียงเบรคดังสนั่น ล้อหลังแทบจะปัด แต่ก็หยุดทันเวลา
ไปหาร้านเขาเรียกว่าเบรคหาย เพราะเหยียบเบา ๆ แล้วไม่หยุด

สรุปว่าแม่ปั้มเบรคเสีย ช่างมีให้ 2 ทางเลือก
1. ซ่อมน้อย เสีย 400 บาท แต่เขาบอกว่าไม่ work
2. เปลี่ยนแม่ปั้มเบรค หายแน่นอน อาการจะไม่กลับมาอีก
สรุปว่าเสียตังไป 2 พันกว่าบาท ได้เบรคกกลับคืนมา
ชีวิตรู้สึกปลอดภัยขึ้น

เรื่องรถยนตร์นี่ต้องทำใจ
วันนี้ย่าเล็กโทรมาเล่าว่าซ่อมแอร์ไป 6 พัน รู้สึกแพง
แต่ผมว่าไม่แพงนะ แต่ละปีผมเข้าอู่ ด้วยอาการหนักปีละราว 2 ครั้ง
ครั้งหนึ่งก็เป็นหมื่น ทำใจทุกครั้งที่ได้เข้าอู่
–!

แม่ปั้มเบรคเสีย
แม่ปั้มเบรคเสีย

แก้ปัญหาหลังคาโพลี่คาร์บอเนตรั่วแบบชั่วคราว ด้วยเสื่อน้ำมัน

เสื่อน้ำมันเมตรละ 40 บาทที่ร้าน 20 บาท
เสื่อน้ำมันเมตรละ 40 บาทที่ร้าน 20 บาท

คำถาม หลังคาโพลี่คาร์บอเนตรั่ว แก้ปัญหาชั่วคราว ต้องทำอย่างไร
คำตอบ

แผน 1
ถ้าแก้ปัญหาถาวร ก็ต้องเปลี่ยนวัสดุที่ใช้ทำหลังคา
ซึ่งมีให้เลือกหลายกหลาย จะอะคริลิค กระเบี้อง เมทัลชีด สังกะสีก็ได้
โดยจ้างช่างมาจัดการให้ทั้งหมด

แผน 2
ผมลองใช้เสื่อน้ำมัน ก็คล้ายกับการใช้ผ้าใบ แต่ราคาต่ำกว่า
ซื้อมาเมตรละ 40 บาท จากร้าน 20 บาท ไม่เกิน 500 บาท
สรุปว่าแก้ปัญหาชั่วคราวครั้งนี้เสียไปไม่ถึง 500 บาท
หลังคาโพลี่เดิมใช้งานมา 7 ปี ประมาณปีที่ 5 ก็ยังเห็นทนอยู่
พอเข้าปีที่ 6 เริ่มแตก  และแตกมากขึ้น แล้วยังมีแมวขึ้นไปโดดประจำครับ
ตอนนี้ก็จะดูว่าเสื่อน้ำมันจะอยู่ถึงปีหรือไม่ ถ้ายังรั่งอยู่ก็คงจะต้องเปลี่ยน
เป็นวัสดุแบบอื่น ในใจคิดว่าน่าจะเป็น เมทัลชีท เพราะไม่แตกร้าวแน่

ถ้าเสื้อน้ำมันตากแดดหมดสภาพจนน้ำรั่งเมื่อใด .. จะมาเล่าให้ฟัง

หลังคาบ้านหมดอายุ
หลังคาบ้านหมดอายุ

ทำเรื่องทุจริตในอดีต มีผลถึงอนาคต

village bus
village bus

บทความกรณีศึกษา .. ที่น่าสนใจ
บันทึกไว้เพื่อนำไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับนักศึกษาในชั้นเรียน
ประเด็นที่บทความนี้สนใจคือ “คุณธรรม จริยธรรม”
ถ้าอดีตเคยทำอะไรไม่ดี จะส่งผลถึงปัจจุบันและอนาคต
เห็นอ้างอิงว่าได้รับมาจาก Niwat Rungvicha

หญิงสาวผู้หนึ่ง ไปศึกษาต่อที่เมืองนอก
ในอดีต ได้อาศัยความเจ้าเล่ห์ ฉลาดแกมโกง
ในการนั่งรถโดยสาร ผลปรากฎว่า อนาคตถูกทำลายลงอย่างย่อยยับ
จาก http://www.bangkhunthianjoggingclub.com/webboard_ans.php?id=047648
จาก https://www.facebook.com/camerababy/posts/806688762712931
รถบัส http://www.buhaykorea.com/2009/11/14/the-village-bus/

เรื่องมีอยู่ว่า ..
สิบสองปีก่อน มีสาวน้อยผู้หนึ่ง พึ่งจบการศึกษาก็ไปที่ประเทศฝรั่งเศส
เริ่มชีวิตกึ่งเรียนกึ่งทำงาน ต่อ ๆ มา
เธอพบเห็นว่า ระบบการขายตั๋วของรถโดยสารสาธารณะ
เป็นระบบการช่วยเหลือตนเอง
ก็คือ .. เราคิดจะไปสถานที่ใด ก็ซื้อตั๋วด้วยตนเอง ไป ณ.จุดหมายปลายทาง
สถานีรถแทบจะเป็นระบบเปิดทั้งหมด ไม่มีจุดตรวจตั๋ว และไม่มีเจ้าหน้าที่ตรวจตั๋ว
อีกทั้งการตรวจแบบสุ่มก็น้อยครั้งมาก ๆ
เธอ .. พบเห็นช่องโหว่ของระบบการควบคุมนี้
หรืออาจจะเป็นการกล่าวว่าด้วยความนึกคิดส่วนตัวของเธอ เห็นว่าเป็นช่องโหว่
อาศัยความฉลาดนี้ เธอคำนวณด้วยความละเอียดถี่ถ้วน
ลงความเห็นว่า ฉ้อโกงค่าตั๋ว
โอกาสที่จะถูกตรวจพบมีเพียงประมาณ สามในหนึ่งหมื่น
กับการพบเห็นในสิ่งนี้ เธอดีใจกระดี้กระด้าภูมิใจอย่างยิ่ง
ตั้งแต่นั้นมา เธอมักจะโกงราคาค่าโดยสาร
อีกทั้งยังหาเหตุผลมาปลอบใจตนเอง
ว่า ตนยังเป็นนักศึกษาจนจน ประหยัดได้ก็ประหยัด
!
สี่ปีผ่านไป
เธอสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่โด่งดังมีชื่อเสียง
และผลการเรียนที่โดดเด่นยอดเยี่ยมของเธอ เธอมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
เธอเริ่มย่างก้าวเข้าประตูของบริษัท ฯ ต่างชาติในกรุงปารีส
โฆษณาตนเองอย่างไม่ลังเล
ทว่า..บริษัท ฯ เหล่านี้ แรกเริ่มล้วนกุลีกุจอกระตือรือร้น
แต่หลังจากผ่านไปหลายวัน ต่างก็ปฏิเสธด้วยความนุ่มนวล
ล้มเหลว ผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้เธอโมโหโกรธมาก
!
เธอมีความคิดเห็นในส่วนตัวว่า
บริษัทฯเหล่านี้ มีความลำเอียงแบ่งแยกเชื้อชาติ
ในครั้งสุดท้าย เธอบุกเข้าห้องผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล ของบริษัทฯ
หนึ่ง วิงวอนขอร้องผู้จัดการฯ ให้เหตุผลที่ไม่บรรจุเธอเข้าทำงาน
แต่แล้ว .. บทสรุปผลที่ปรากฎออกมานั้น เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน
“คุณสุภาพสตรี พวกเราใช่ว่ามีการลำเอียง หรือแบ่งแยก
อีกทั้งไม่ได้ดูแคลนในตัวเธอ กลับตรงกันข้าม
พวกเราให้ความสำคัญต่อเธอมาก
ตอนแรกเริ่มที่เธอมาสมัครงาน ภูมิหลังของสถานศึกษา และผลการศึกษาของเธอ
พวกเราสนใจเป็นอย่างยิ่ง พูดตรง ๆ ความสามารถในการปฏิบัติงาน
เธอคือผู้ที่พวกเราต้องการอย่างมาก”
“แล้วเพราะเหตุใด
ไม่บรรจุผู้ที่มีความสามารถอย่างฉัน เข้าทำงานในบริษัทล่ะ ?”
“เพราะพวกเราได้ตรวจสอบ เครดิตความน่าเชื่อถือของเธอ
พบเห็นว่า เธอเคยถูกบันทึก และถูกลงโทษ
ในการโกงค่าโดยสารสาธารณะสามครั้ง ”
“ฉันไม่ปฏิเสธ ว่ามีเรื่องนี้จริง ทว่าเพื่อเรื่องเพียงเล็กน้อยนี้
พวกท่านกลับละทิ้งผู้มีความสามารถพิเศษคนหนึ่ง
ที่วิทยานิพนธ์ได้รับการตีพิมพ์หลายครั้งลงในวารสารหรือ ?”
“เรื่องเล็กน้อย.. พวกเรากลับไม่คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย
พวกเราสังเกตพบเห็นว่า การโกงค่าโดยสารของเธอในครั้งแรก
เป็นเวลาที่เธอได้มาประเทศเราหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เชื่อในคำอธิบายของเธอ
เพราะเธอบอกว่า ตนเองยังไม่เข้าใจระบบการจำหน่ายตั๋ว แบบช่วยเหลือตนเอง
จึงเพียงให้เธอชดเชยตั๋วใหม่ แต่หลังจากนั้น เธอก็ยังโกงค่าโดยสารอีกสองครั้ง”
“เวลานั้น..ในกระเป๋าฉันไม่มีเงินปลีกพอดี ”
“ไม่..ไม่..ไม่..คุณสุภาพสตรี ผมไม่เห็นด้วยกับคำอธิบายของเธอ
เธอคงกำลังสงสัยไอคิวของผม ผมเชื่อว่า ก่อนที่จะถูกตรวจพบ
เธออาจจะมีการกระทำในการโกงค่าตั๋วโดยสารเป็นร้อย ๆ ครั้ง ”
” เช่นนั้น..โทษก็คงไม่ถึงตายหรอกน่ะ
ทำไมถึงต้องจริงจังเช่นนี้ ทีหลังแก้ไขไม่ได้หรือ ?
” ไม่..ไม่..คุณสุภาพสตรี เรื่องนี้ยืนยันและพิสูจน์ได้สองอย่าง
1. เธอไม่เคราพกฎระเบียบ เธอชำนาญในการพบเห็นช่องโหว่ของกฎระเบียบ
และนำไปใช้ในทางเลวร้าย
2. เธอไม่มีค่าพอที่จะได้รับความไว้วางใจ และบริษัทฯของพวกเรา
มีงานมากมาย ที่ต้องอาศัยความไว้วางใจในการปฏิบัติ
หากเธอต้องรับผิดชอบบุกเบิกตลาด ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง
บริษัทฯจะถ่ายโอนอำนาจให้เธอมากมาย
เพื่อประหยัดต้นทุน พวกเราไม่สามารถตั้งหน่วยงาน ตรวจสอบสอดส่องที่สับสนวุ่นวาย
เหมือนดั่งระบบขนส่งของประเทศเรา
ดังนั้น พวกเราจึงไม่สามารถว่าจ้างเธอได้ สามารถพูดอย่างเด็ดขาดและ
การันตีได้เลยว่า ในประเทศนี้ หรือแม้กระทั่งทั้งสหภาพยุโรป
เธออาจจะหาบริษัท ฯ ที่จะว่าจ้างเธอไม่ได้เลย ”
จวบจนกระทั่งตอนนี้ เธอจึงเหมือนดั่งตื่นจากความฝัน เสียใจอย่างแรง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เธอเกิดความรู้สึกว่า เป็นวลีที่น่าตกใจที่แท้จริง
กลับเป็นคำพูดสุดท้ายของฝ่ายตรงข้าม….
!

* บ่อยครั้ง..ที่คุณธรรม จริยธรรมสามารถชดเชยจุดบกพร่องของสติปัญญา
อย่างไรก็ตาม สติปัญญากลับไม่สามารถเติมเต็มคุณธรรม จริยธรรมที่ว่างเปล่าได้ ตลอดกาล
*

!
คุณธรรม จริยธรรมเป็นพื้นฐานคุณภาพของคนคนหนึ่ง ก็คือคุณค่าของคน
คนที่โดดเด่นยอดเยี่ยมเพียงใด หากคุณค่าในความเป็นคนมีปัญหา
ก็จะขาดความไว้วางใจและการสนับสนุนจากผู้อื่น
ในสถานที่ทำงาน บุคคลที่สูญสิ้นคุณค่าความเป็นคน ยิ่งน่ากลัว
เพื่อผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยที่อยู่ตรงหน้า แล้วกระทำซึ่งเสื่อมเสียถึงองค์กรส่วนรวม
ต้องเป็นสุสานในอาชีพของบุคคลนั้นอย่างแน่นอน
!

* ในสถานที่ที่ทำงาน ต้องอาศัยความสามารถและความจริงใจ
แพ้อะไรก็แพ้ได้ แต่อย่าแพ้คุณค่าในความเป็นคน
*

แว่นโฮโลแกรมที่กำลังจะมา (itinlife484)

โฮโลแกรม (Hologram) คือ ภาพชนิดหนึ่งซึ่งมีลักษณะ 3 มิติ หรือภาพที่เรามองเห็นเป็นสามมิติ ใช้หลักการสร้างภาพให้มีการแทรกสอดของแสง ถูกคิดค้นโดยเดนนิส กาบอร์ (Dennis Gabor) วิศวกรไฟฟ้าชาวฮังการีในปีค.ศ.1947 และเป็นผลงานที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปีค.ศ.1971 แล้วถูกพัฒนาเรื่อยมาจนเป็นโฮโลแกรม 3 มิติเคลื่อนไหวคล้ายกับมีชีวิตจริง ดังที่เห็นในเรื่อง Starwar ที่หุ่นอาร์ทูดีทูฉายภาพ 3 มิติของเจ้าหญิงเลอาที่มีการเคลื่อนไหวตามเวลาจริงแบบเรียลไทม์ (Realtime) แต่จินตนาการได้กลายเป็นจริงในปัจจุบัน ในชื่อเทคโนโลยี TelePresence ที่ภาพ 3 มิติออกมาอยู่นอกจอดูเสมือนจริง เมื่อ 2 พ.ย.57 มีงานคอนเสิร์ตคิดถึง D2B Live Concert 2014 ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี โดยการใช้เทคโนโลยีโฮโลแกรม จำลองภาพนักร้องขึ้นมา

ปี 2558 บริษัทไมโครซอฟท์ได้ออกคลิ๊ปแนะนำแว่นโฮโลแกรม (Microsoft Hololens) อุปกรณ์ ที่สาธิตว่าจะประยุกต์ใช้กล้องนี้อย่างไร หลังจากนวัตกรรมแว่นกูเกิลได้ประกาศยุติการจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ ปัจจุบันเรามีนวัตกรรมใหม่มาให้เลือกมากมาย หรือที่กำลังพัฒนา เช่น The Cicret Bracelet แต่ก็ต้องผ่านการประเมินจากผู้ใช้ว่าเป็นตัวจริงในตลาดเทคโนโลยีหรือไม่ เพราะแว่นกูเกิ้ลจะสวมเข้าไปในสถานที่ต้องห้ามไม่ได้ เช่น ห้างสรรพสินค้าบางแห่ง โรงภาพยนตร์ ห้องน้ำ ห้องทำงาน หรือห้องประชุม เป็นต้น เนื่องจากความสามารถของกล้องคือการบันทึกภาพและเสียง ซึ่งอาจะไปละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น หรือสถานที่ได้

แว่นโฮโลแกรมของไมโครซอฟต์สามารถสร้างแบบจำลองขึ้นมาเสมือนว่ามีของอยู่รอบตัวที่เข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ด้วยได้ หรือสร้างแบบจำลองในคอมพิวเตอร์ แต่เห็นออกมาโลดแล่นอยู่นอกคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติสร้างวัตถุออกมาก่อน ก็สามารถเห็นภาพนั้นเสมือนจริงอยู่ร่วมกับวัตถุอื่นตามแนวคิดของ Augmented Reality ได้ หรือใช้สร้างวัตถุเสมือนจริงขึ้นมาเหมือนใช้โปรแกรมโฟโต้ช็อปก็ทำได้ ถ้าแว่นนี้ออกมาจริง และได้รับการยอมรับจากตลาด อนาคตของอุปกรณ์ที่เชื่อมกับเครือข่ายสังคมอาจเปลี่ยนไป เราอาจไม่ได้เห็นเพียงตัวอักษร กับภาพโปรไฟร์เท่านั้น ภาพจำลองของตัวเราอาจเดินเพ่นพ่าน และทำมีทติ้งกันได้เลย อีกหน่อยจินตนาการในภาพยนตร์เรื่อง Surrogates อาจกำลังจะเป็นจริง ถ้าเทคโนโลยีหุ่นยนต์ทำงานร่วมกับแว่นนี้ได้อย่างลงตัว

motorcycle
motorcycle

http://www.kiitdoo.com/%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87-holograms/

http://www.thairath.co.th/content/461053

http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AE%E0%B8%AD%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B8%B5

ปี 2557 เครื่องบินตก 15 ครั้ง เป็นข่าวดังในภูมิภาคนี้ 3 ครั้ง

298 Crew And Passengers Perish On Flight MH17 After Suspected Missile Attack In Ukraine
298 Crew And Passengers Perish On Flight MH17 After Suspected Missile Attack In Ukraine

มีโอกาสอ่านข่าวจากเว็บ thaipost เล่าว่าปี 2557 มีเครื่องบินตก 15 ครั้ง
มาเลเซียแอร์ไลน์ ตก 2 ครั้ง คือสูญหาย และถูกยิงตก
1. 8 มี.ค.57 เครื่องโบอิ้ง 777 สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินเอ็มเอช 370 จากกัวลาลัมเปอร์มุ่งสู่ปักกิ่ง มีผู้โดยสาร 239 คน
2. 17 ก.ค.57 มาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินเอ็มเอช 17 ถูกยิงตกขณะอยู่เหนือน่านฟ้ายูเครน ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด 298 คน
3. 28 ต.ค.57 เครื่องบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินคิวแซด 8501 จากอินโดนีเซียไปสิงคโปร์ มีลูกเรือและผู้โดยสาร 162 คน


โดยมีเนื้อข่าวจาก http://www.thaipost.net/news/301214/101091 ว่า

ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่กลัวการขึ้นเครื่องบิน ปี 2557 ที่กำลังผ่านพ้นไปนี้อาจทำให้คุณรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาบ้าง เพราะมีเหตุการณ์เครื่องบินตกที่น่ากลัวอยู่หลายครั้ง แม้ว่าถ้าดูจากสถิติอุบัติเหตุทางเครื่องบินทั้งปีจะเป็นอีกหนึ่งปีที่มีความปลอดภัยในการเดินทางด้วยเครื่องบินมากที่สุด
มาเลเซียแอร์ไลน์เป็นสายการบินที่ต้องประสบเรื่องราวโศกนาฏกรรมมากที่สุด เนื่องจากความสูญเสียที่เกิดขึ้น 2 ครั้งกับสายการบินนี้ ทั้งจากการหายสาบสูญและถูกยิงตก ทำให้ทั่วโลกต้องหันมาทบทวนมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยในการบินเพื่อให้ผู้ใช้บริการเครื่องบินคลายความกังวลลงบ้าง
มารี เลอแฟบเวร์ นักธุรกิจชาวแคนาเดียนที่มาประกอบธุรกิจในกรุงเทพฯ เผยความรู้สึกว่า ปกติเป็นคนไม่ชอบขึ้นเครื่องบินอยู่แล้ว แต่ทุกวันนี้ยิ่งรู้สึกทรมานมากขึ้นถ้าจะต้องนั่งเครื่องบิน เพราะเวลาอยู่บนเครื่องบินถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ผู้โดยสารไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย และเหตุเครื่องบินตกในปีนี้ก็น่ากลัวมาก เธอบอกว่าบางครั้งถ้าจำเป็นต้องขึ้นเครื่องบินถึงกับต้องกินยาระงับประสาทไว้ก่อน
เหตุการณ์เครื่องบินตก ซึ่งเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเริ่มจากวันที่ 8 มีนาคม 2557 เมื่อเครื่องโบอิ้ง 777 สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินเอ็มเอช 370 จากกัวลาลัมเปอร์มุ่งสู่ปักกิ่ง มีผู้โดยสาร 239 คนหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากระบบสื่อสารบนเครื่องถูกปิดลง จนมีการคาดคะเนสาเหตุไปต่างๆ ได้แก่ เกิดการจี้เครื่องบิน, เป็นแผนการร้ายของนักบินเองหรือเกิดเหตุฉุกเฉินบนเครื่อง เช่น ไฟไหม้แบตเตอรี่โทรศัพท์

4 เดือนต่อมามาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบินเอ็มเอช 17 ถูกยิงตกขณะอยู่เหนือน่านฟ้ายูเครน ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด 298 คน หลังจากนั้นชาติตะวันตกกล่าวหาว่าเครื่องบินลำนี้โดนยิงร่วงด้วยมิสไซล์ของกลุ่มกบฏยูเครนที่รัสเซียเป็นผู้หนุนหลัง
เท่านั้นยังไม่พออีก 1 สัปดาห์ต่อมา เครื่องบินของทรานส์เอเชียสายการบินในประเทศไต้หวันเครื่องตก เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายและเครื่องบินแอร์แอลจีเรีย เที่ยวบินเอเอช 5017 ตกในมาลีโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้ง 2 เหตุการณ์มีผู้สูญเสียรวม 164 คน และล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เครื่องบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน 8501 จากอินโดนีเซียไปสิงคโปร์ มีลูกเรือและผู้โดยสาร 162 คน ขาดการติดต่อและยังค้นหาไม่พบ

แม้จะมีเหตุเครื่องบินตกที่ยังคงเป็นปริศนาอยู่หลายครั้ง แต่ถ้าดูจากข้อมูลของเครือข่ายความปลอดภัยทางการบินที่มีสำนักงานอยู่ที่เนเธอร์แลนด์พบว่า จากเที่ยวบินหลายล้านเที่ยวทั่วโลกและผู้โดยสารหลายพันล้านคนที่เดินทางกันทั้งปี ตัวเลขของเครื่องบินโดยสารเชิงพาณิชย์ที่ประสบอุบัติเหตุตกในปี 2557 อยู่ที่ 15 ครั้ง ขณะที่ตัวเลขเครื่องบินตกเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2489 อยู่ที่ 32 ครั้ง
เจอร์รี โซแจ็ตแมน ที่ปรึกษาด้านการบิน ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในกรุงจาการ์ตา บอกว่า เนื่องจากมีความปลอดภัยในการเดินทางโดยเครื่องบินมากขึ้น ทำให้เหตุเครื่องบินตกแต่ละครั้งมีสาเหตุที่ลึกลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพราะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่แทบจะไม่น่าเกิดได้อย่างเช่นในปี 2557
ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตกในปีนี้คือ 762 คน สูงที่สุดในรอบ 4 ปี แต่ถ้าไม่นับเหตุการณ์ที่เกิดกับมาเลเซียแอร์ไลน์ ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเป็น 225 คน ใกล้เคียงกับปี 2556 ที่มีผู้เสียชีวิตจากเครื่องบินตกน้อยที่สุดคือ 224 คน
แม้เครื่องบินตกจะเป็นข่าวดังไปทั่วโลก แต่จากการเปิดเผยของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไอเอทีเอ) ระบุว่า จำนวนผู้ใช้บริการเครื่องบินช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม ปี 2557 เพิ่มขึ้นถึง 5.8% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปี 2558
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ทำให้เกิดแนวคิดการเชื่อมต่อข้อมูลการบินระหว่างชาติเพื่อประสิทธิภาพในการเฝ้าติดตามเครื่องบินแต่ละเที่ยวบินอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริหารด้านการบินทั่วโลกใกล้จะประกาศมาตรการใหม่เพื่อใช้ติดตามเที่ยวบิน ได้แก่ กำหนดให้ถ้าเที่ยวบินนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางการบินกะทันหันจะต้องรายงานตำแหน่งของเครื่องบินทุก 5 นาที ส่วนถ้าเป็นเที่ยวบินตามปกติ ให้นักบินต้องรายงานตำแหน่งทุกครึ่งชั่วโมง การทำเช่นนี้จะช่วยได้มากเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเครื่องบินที่จะส่งหน่วยกู้ภัยออกไปค้นหาและช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ) กำลังทบทวนถึงพื้นที่ ซึ่งมีการสู้รบกันว่ามีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใดที่จะให้เครื่องบินผ่านเข้าไปในน่านฟ้า โดยเฉพาะในปัจจุบันมีหลายพื้นที่ในโลกที่อยู่ในการยึดครองของกลุ่มกบฏที่มีอาวุธร้ายแรง
เดวิด เลียร์เมาท์ แห่งนิตยสารไฟท์โกลบอล เห็นว่า แม้จะเกิดเหตุเครื่องบินตกที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับคนทั้งโลกอยู่หลายครั้งในปี 2557 แต่ไม่กระทบกับการใช้บริการเครื่องบินทั้งเพื่อไปติดต่อธุรกิจหรือไปเที่ยวพักผ่อนทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะตามสถิติแล้วการเดินทางด้วยเครื่องบินก็ยังมีความปลอดภัยมากที่สุด
ต่างจากทอม บันน์ ที่เปิดศูนย์เอสโอเออาร์ในสหรัฐช่วยให้คำปรึกษาผู้ที่กลัวการเดินทางโดยเครื่องบินที่เห็นว่าความคิดด้านลบกับการเดินทาง โดยเครื่องบินจะยังคงฝังลึกอยู่ในจิตใจของนักเดินทางไปอีกนาน “ความไม่ไว้วางใจการเดินทางโดยเครื่องบินเป็นเรื่องที่ฝังลึกมากและจะมีผลกระทบอยู่นานทีเดียว อย่างที่คนกลัวการขึ้นเครื่องบินพูดถึงหายนะที่เกิดขึ้นกับมาเลเซียแอร์ไลน์ทั้ง 2 ครั้งว่าเป็นฝันร้ายที่สุดของพวกเขาแล้ว”.

http://www.telegraph.co.uk/news/worldnews/europe/ukraine/10993482/MH17-what-we-know-so-far.html

เปรียบเทียบความแตกต่างของแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย QZ8501 กับมาเลเซีย แอร์ไลน์ส MH370

airplane_indonesia_malaysia
airplane_indonesia_malaysia

นั่งค้นข้อมูลว่าเครื่องบิน 2 ลำในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ตก
ในปี 2557 มีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร เพราะเป็นไปได้ว่า
ข้อสอบเข้า ม.3 วิชาสังคม อาจหยิบเหตุการณ์ในข่าวมาออกข้อสอบ
ก็ต้องหาข่าวมาอ่านกันหน่อยว่าตกที่ไหน เพราะอะไร
ทั้งที่ปี 2557 มีตกถึง 15 ครั้ง แล้ว 2 ครั้งนี้สำคัญอย่างไร
http://www.thaiall.com/blog/burin/6685/

เหตุเครื่องบิน QZ8501 ของสายการบินแอร์ เอเชีย ทำให้หลายคนย้อนนึกถึงเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่ MH 370 ซึ่งหายไปอย่างเป็นปริศนามาเป็นเวลานานถึง 10 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา และยังไม่พบร่องรอยจนถึงขณะนี้

จุดที่คล้ายกันระหว่างสองเหตุการณ์คือ เป็นเครื่องบินของสายการบินของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหายในลักษณะขาดการติดต่อ แต่ไมเคิล เพอร์สัน ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น เสนอมุมมองว่าเหตุการณ์และปฏิบัติการค้นหาของทั้ง 2 กรณีมีความแตกต่างกันด้วยเหตุผล 3 ประการคือ

หนึ่ง สมมุติฐานเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เครื่องขาดการติดต่อแตกต่างกัน ในกรณีของเอ็มเอช 370 มีข้อมูลชี้ว่า มีการปิดเครื่องส่งสัญญาณบนตัวเครื่องโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนที่เครื่องจะบินออกนอกเส้นทางกระทันหัน ทำให้มีความกังวลว่าการหายไปอย่างเป็นปริศนาของเครื่องบินเอ็มเอช 370 อาจเกี่ยวข้องกับการจี้เครื่องบินหรือการก่อการร้าย

ส่วนกรณีของเครื่องบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินคิวแซด 8501 แม้จะยังไม่มีข้อสรุปถึงสาเหตุที่เครื่องบินสัญญาณขาดหาย แต่นักวิเคราะห์ต่างพุ่งเป้าไปที่สภาพอากาศว่าเป็นปัจจัยสำคัญ ก่อนขาดการติดต่อ กัปตันได้ส่งสัญญาณระดับการบินจากความสูง 32,000 ฟุต เป็น 38,000 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล เพื่อหลบหลีกมวลกลุ่มเมฆที่จับตัวหนา

หตุผลประการที่2 คือ น่านน้ำที่ปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินทั้ง 2 ลำ มีความแตกต่างกันในแง่ภูมิศาสตร์ซึ่งอาจส่งผลต่อความยากง่าย และระยะเวลาในการค้นหา โดยกรณีเอ็มเอช 370 ซึ่งทางการมาเลเซียประกาศว่าตกลงไปในมหาสมุทรอินเดีย นอกชายฝั่งเมืองเพิร์ธของออสเตรเลีย การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากมหาสมุทรอินเดียมีความลึกมากกว่า 6 พันเมตร ทั้งยังไม่เคยมีการทำแผนที่อธิบายลักษณะของพื้นใต้ทะเลเอาไว้ ประกอบกับพื้นที่ค้นหานั้นห่างไกลจากจุดสุดท้ายที่ติดต่อเครื่องบินเอ็มเอช 370 ได้ ทำให้เป็นปัจจัยสำคัญที่การค้นหาต้องใช้เวลานาน ขณะที่ปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินคิวแซด8501 ในทะเลชวาอาจง่ายกว่าตรงที่ทะเลชวาตื้นกว่ามหาสมุทรอินเดีย โดยมีความลึกประมาณ 46 เมตร ทั้งยังเป็นเส้นทางเดินเรือพาณิชย์ ซึ่งอาจทำให้ปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินคิวแซด 8501 กินเวลาน้อยกว่าเครื่องบินเอ็มเอช 370

ขณะที่ข้อแตกต่างประการที่สาม ระหว่าง 2 เหตุการณ์ นั่นคือปฏิกิริยาตอบสนองของทั้ง 2 สายการบินและรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศต่อครอบครัวผู้โดยสารและลูกเรือที่แตกต่างกัน โดยภายหลังจากที่เครื่องบินเอ็มเอช 370 ขาดการติดต่อไป ข้อมูลทั้งจากสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สและรัฐบาลมาเลเซียมีความสับสนไม่ชัดเจน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ครอบครัวผู้สูญหายเป็นอย่างมาก

แต่เหตุการณ์คิวแซด 8501 นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง โดยทันทีที่ทราบว่าเครื่องบินขาดการติดต่อ นายโทนี่ เฟอร์นันเดส ผู้บริการสายการบินแอร์ เอเชีย ไม่รีรอที่จะทวีตข้อความสื่อสารว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ ความรู้สึกของครอบครัวผู้โดยสารและลูกเรือในช่วงเวลาเลวร้ายนี้ โดยสายการบินจะทำทุกวิถีทางในการให้ข้อมูลที่ชัดเจนและโปร่งใสต่อครอบครัวผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 162 คน

นอกจากนี้ นายเฟอร์นันเดสได้เดินทางไปยังเมืองสุราบายาทันทีในคืนวันเกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย แอร์เอเชีย และเข้าพบกับครอบครัวผู้ประสบเหตุเพื่อพูดคุยเป็นการส่วนตัวในวันรุ่งขึ้น ซึ่งวิธีการตอบสนองต่อเหตุการณ์และการให้ข้อมูลของนายเฟอร์นันเดซ ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการวิกฤตว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดต่อสถานการณ์เช่นนี้

ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินต่างเชื่อว่า อินโดนีเซียมีศักยภาพสูงในปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยอุบัติเหตุเรือล่มและเครื่องบินตกจากประสบการณ์หลายครั้ง รวมทั้งสภาพภูมิประเทศที่เป็นหมู่เกาะกว่า 18,000 แห่ง ก็น่าจะทำให้การรับมือกับวิกฤตครั้งนี้มีความคล่องตัวกว่า

แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การค้นหาเครื่องบินคิวแซด 8501 เป็นไปอย่างลำบาก น่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศที่เลวร้ายบริเวณพื้นที่ค้นหา เนื่องจากมรสุมประจำปีเหตุเครื่องบินQZ8501 ของสายการบินแอร์ เอเชีย ทำให้หลายคนย้อนนึกถึงเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เที่ยวบินที่MH 370 ซึ่งหายไปอย่างเป็นปริศนามาเป็นเวลานานถึง 10 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา และยังไม่พบร่องรอยจนถึงขณะนี้

จุดที่คล้ายกันระหว่างสองเหตุการณ์คือ เป็นเครื่องบินของสายการบินของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหายในลักษณะขาดการติดต่อ แต่ไมเคิล เพอร์สัน ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น เสนอมุมมองว่าเหตุการณ์และปฏิบัติการค้นหาของทั้ง 2 กรณีมีความแตกต่างกันด้วยเหตุผล 3 ประการคือ

หนึ่ง สมมุติฐานเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้เครื่องขาดการติดต่อแตกต่างกัน ในกรณีของเอ็มเอช 370 มีข้อมูลชี้ว่า มีการปิดเครื่องส่งสัญญาณบนตัวเครื่องโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนที่เครื่องจะบินออกนอกเส้นทางกระทันหัน ทำให้มีความกังวลว่าการหายไปอย่างเป็นปริศนาของเครื่องบินเอ็มเอช 370 อาจเกี่ยวข้องกับการจี้เครื่องบินหรือการก่อการร้าย

ส่วนกรณีของเครื่องบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินคิวแซด 8501 แม้จะยังไม่มีข้อสรุปถึงสาเหตุที่เครื่องบินสัญญาณขาดหาย แต่นักวิเคราะห์ต่างพุ่งเป้าไปที่สภาพอากาศว่าเป็นปัจจัยสำคัญ ก่อนขาดการติดต่อ กัปตันได้ส่งสัญญาณระดับการบินจากความสูง 32,000 ฟุต เป็น 38,000 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล เพื่อหลบหลีกมวลกลุ่มเมฆที่จับตัวหนา

เหตุผลประการที่2 คือ น่านน้ำที่ปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินทั้ง 2 ลำ มีความแตกต่างกันในแง่ภูมิศาสตร์ซึ่งอาจส่งผลต่อความยากง่าย และระยะเวลาในการค้นหา โดยกรณีเอ็มเอช 370 ซึ่งทางการมาเลเซียประกาศว่าตกลงไปในมหาสมุทรอินเดีย นอกชายฝั่งเมืองเพิร์ธของออสเตรเลีย การค้นหาเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากมหาสมุทรอินเดียมีความลึกมากกว่า 6 พันเมตร ทั้งยังไม่เคยมีการทำแผนที่อธิบายลักษณะของพื้นใต้ทะเลเอาไว้ ประกอบกับพื้นที่ค้นหานั้นห่างไกลจากจุดสุดท้ายที่ติดต่อเครื่องบินเอ็มเอช 370 ได้ ทำให้เป็นปัจจัยสำคัญที่การค้นหาต้องใช้เวลานาน ขณะที่ปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินคิวแซด8501 ในทะเลชวาอาจง่ายกว่าตรงที่ทะเลชวาตื้นกว่ามหาสมุทรอินเดีย โดยมีความลึกประมาณ 46 เมตร ทั้งยังเป็นเส้นทางเดินเรือพาณิชย์ ซึ่งอาจทำให้ปฏิบัติการค้นหาเครื่องบินคิวแซด 8501 กินเวลาน้อยกว่าเครื่องบินเอ็มเอช 370

ขณะที่ข้อแตกต่างประการที่สามระหว่าง 2 เหตุการณ์ นั่นคือปฏิกิริยาตอบสนองของทั้ง 2 สายการบินและรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศต่อครอบครัวผู้โดยสารและลูกเรือที่แตกต่างกัน โดยภายหลังจากที่เครื่องบินเอ็มเอช 370 ขาดการติดต่อไป ข้อมูลทั้งจากสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สและรัฐบาลมาเลเซียมีความสับสนไม่ชัดเจน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ครอบครัวผู้สูญหายเป็นอย่างมาก

แต่เหตุการณ์คิวแซด 8501 นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิง โดยทันทีที่ทราบว่าเครื่องบินขาดการติดต่อ นายโทนี่ เฟอร์นันเดส ผู้บริการสายการบินแอร์ เอเชีย ไม่รีรอที่จะทวีตข้อความสื่อสารว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ ความรู้สึกของครอบครัวผู้โดยสารและลูกเรือในช่วงเวลาเลวร้ายนี้ โดยสายการบินจะทำทุกวิถีทางในการให้ข้อมูลที่ชัดเจนและโปร่งใสต่อครอบครัวผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 162 คน

นอกจากนี้ นายเฟอร์นันเดสได้เดินทางไปยังเมืองสุราบายาทันทีในคืนวันเกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่อินโดนีเซีย แอร์เอเชีย และเข้าพบกับครอบครัวผู้ประสบเหตุเพื่อพูดคุยเป็นการส่วนตัวในวันรุ่งขึ้น ซึ่งวิธีการตอบสนองต่อเหตุการณ์และการให้ข้อมูลของนายเฟอร์นันเดซ ก็ได้รับเสียงชื่นชมจากผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการวิกฤตว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดต่อสถานการณ์เช่นนี้

ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินต่างเชื่อว่า อินโดนีเซียมีศักยภาพสูงในปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยอุบัติเหตุเรือล่มและเครื่องบินตกจากประสบการณ์หลายครั้ง รวมทั้งสภาพภูมิประเทศที่เป็นหมู่เกาะกว่า 18,000 แห่ง ก็น่าจะทำให้การรับมือกับวิกฤตครั้งนี้มีความคล่องตัวกว่า

แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การค้นหาเครื่องบินคิวแซด 8501 เป็นไปอย่างลำบาก น่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศที่เลวร้ายบริเวณพื้นที่ค้นหา เนื่องจากมรสุมประจำปี
http://news.sanook.com/1722913/
http://www.thairath.co.th/clip/10505