หุ่นจะฉลาดกว่มนุษย์ในปี 2029

Robots smarter than humans by 2029 (26th February, 2014)

นักวิทยาศาสตร์พูดว่าหุ่นยนต์จะฉลาดกว่ามนุษย์ในปี 2029

A scientist said robots will be more intelligent than humans by 2029.

นักวิทยาศาสตร์ผู้ทำนายคือ เรย์ เคิซเวล

The scientist’s name is Ray Kurzweil.

เขาทำงานเป็นผู้อำนวยการแผนกวิศวกรรมที่กูเกิ้ล

He works for Google as Director of Engineering.

เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของโลกด้านปัญญาประดิษฐ์

He is one of the world’s leading experts on artificial intelligence (A.I.) .

นายเคิซเวลเชื่อว่าคอมพิวเตอร์จะสามารถเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ได้เช่นเดียวกับมนุษย์

Mr Kurzweil believes computers will be able to learn from experiences, just like humans.

เขาคิดว่า หุ่นยนต์จะพูดตลก และเล่าเรื่องได้ หรือแม้แต่เกี้ยวพาราสี

He also thinks they will be able to tell jokes and stories, and even flirt.

การทำนายนี้ มีผู้คนมากมายเชื่อว่ากำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้า

Kurzweil’s 2029 prediction is a lot sooner than many people thought.

ปี 1999 ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์พูดว่าคงอีกหลายร้อยปีก่อนที่คอมพิวเตอร์จะฉลาดกว่ามนุษย์

The scientist said that in 1999, many A.I. experts said it would be hundreds of years before a computer was more intelligent than a human.

เขาว่า เป็นการพูดที่เกิดขึ้นไม่นาน ก่อนที่เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำงานได้ถึงพันล้านเท่าของสมองมนุษย์

He said that it would not be long before computer intelligence is one billion times more powerful than the human brain.

เขาพูดตลกว่า หลายปีมาแล้ว ผู้คนคิดว่าเขาเริ่มบ้าแล้ว ที่ไปทำนายว่าคอมพิวเตอร์ฉลาดได้เท่ามนุษย์

Mr.Kurzweil joked that many years ago, people thought he was a little crazy for predicting computers would be as intelligent as humans.

การคิดของเขายังคงเหมือนเดิม แต่ทุกคนเปลี่ยนความคิดของพวกเขาเอง

His thinking has stayed the same but everyone else has changed the way they think.

เขาว่า มุมมองของฉันไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด

He said: “My views are not radical any more.

ฉันยังมีความคิดมั่นคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

I’ve actually stayed consistent.

ส่วนอื่นของโลกกำลังเปลี่ยนมุมมองไป

It’s the rest of the world that’s changing its view.”

เขาย้ำตัวอย่างสิ่งที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูง ว่าเราต่างก็ใช้ เห็น หรืออ่านสิ่งเหล่านั้นอยู่ทุกวัน

He highlighted examples of high-tech things we use, see or read about every day.

สิ่งเหล่านั้นทำให้เราเชื่อว่าคอมพิวเตอร์มีปัญญา

These things make us believe that computers have intelligence.

เขาว่า เดี๋ยวนี้ทุกคนคิดต่าง เพราะเห็นสิ่งที่เรียกว่า สิริ ซึ่งคอมพิวเตอร์พูดได้ เห็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองของกูเกิ้ล

He said people think differently now: “Because the public has seen things like Siri [the iPhone’s voice-recognition technology] where you talk to a computer; they’ve seen the Google self-driving cars.”

Google assistant = ระบบผู้ช่วยกูเกิ้ล

http://www.breakingnewsenglish.com/1402/140226-artificial-intelligence.html
http://www.breakingnewsenglish.com/1402/140226-artificial-intelligence.mp3
http://www.breakingnewsenglish.com/technology.html

: 1 : 2 : 3 : 4 : 5 : 6 : 7 : 8 : 9 : 10 : 11 : 12 : 13 : 14 : 15 : 16 :
http://www.thaiall.com/quiz/terms.php

อียูโหวตให้มีการใช้ที่ชาร์ตโทรศัพท์แบบมาตรฐาน


EU votes for universal phone charger   (18th March, 2014)

คุณเคยประหลาดใจบ้างไหม ทำไมทุกบริษัทสมาร์ทโฟนต้องทำที่ชาร์ตต่างกันในแต่ละรุ่น ซึ่งต่างไปจากตัวเดิมก่อนหน้านั้น

Have you ever wondered why every smartphone manufacturer makes a charger for its phone that is different from the rest?

ฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปได้ไตร่ตรองเรื่องลึกลับเหมือน ๆ กัน

Lawmakers at the European Union have also been pondering the same mystery.

ผู้บริโภคควรยินดี และที่จะโหวตให้กับความคิดริเริ่มของนักการเมืองยุโรป

Consumers should welcome a new, common-sense initiative voted for by European politicians.

อียูตัดสินใจว่าบริษัทผู้ผลิตต้องทำที่ชาร์ตที่ใช้กับอุปกรณ์ทั้งหมดแบบมาตรฐาน

The EU has decided that all smartphone companies will soon have to make the plug adaptor that connects to the electricity supply the same.

พวกเขาจะไม่เห็นชอบให้กับปลายสายแบบอื่น ส่วนที่เชื่อมต่อของอุปกรณ์ต้องเหมือนกัน

They did not vote on making the other end of the cable, the part that connects to the phone itself, the same.

เรื่องนี้ปลดปล่อยผู้บริโภคจากความสับสน

This will leave many consumers feeling somewhat perplexed.

พวกเขารู้สึกดีเมื่อกฎหมายถูกยกร่างมาได้ครึ่งทางแล้ว

They may well view the upcoming law as a half measure.

นั่นจะเรียกว่ามาตรฐานการเชื่อมต่อสำหรับโทรศัพท์

There were calls to also standardize the connector that fits into the phone.

ความแตกต่างที่น่าเวียนหัวในการออกแบบตัวเชื่อมต่อหรือตัวแปลงที่หลากหลายเป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อม

The dizzying variety in designs of current adaptors is detrimental to the environment.

ทุกครั้งที่ผู้บริโภคซื้อโทรศัพท์ใหม่ พวกเขาต้องทิ้งที่ชาร์ตเก่าไป และจ่ายให้กับที่ชาร์ตสำหรับอุปกรณ์ใหม่

Every time someone buys a new phone, they usually end up throwing away their old charger and paying for another one that fits their new device.

บาบาร่า ไวเลอร์ นักการเมืองอียู กล่าวว่า กฎหมายใหม่จะช่วยสภาพแวดล้อม และลดการก่อขยะอิเล็กทรอนิกส์

EU politician Barbara Weiler said the new law would help the environment by cutting down on electronic waste.

เธอบอกผู้รายงานข่าวว่า  มันถึงจุดสิ้นสุดของขยะกลุ่มที่ชาร์ตและขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 51000 ตันต่อปี

She told reporters: “It will put an end to charger clutter and 51,000 tons of electronic waste annually.”

หล่อนเพิ่มเติมว่า ความไม่เข้ากันของที่ชาร์ตในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นฝันร้าย และความไม่สะดวกสบายของผู้ใช้จริง ๆ

She added: “The current incompatibility of chargers for mobile phones, smart phones, tablets, digital cameras and music players is a nightmare and a real inconvenience for consumers.”

ผู้ผลิตจะเปลี่ยนอุปกรณ์ไปใช้ที่ชาร์ตใหม่ตามมาตรฐานในปีพ.ศ.2560

Manufacturers have until 2017 to comply with the new directive.

http://www.breakingnewsenglish.com/1403/140318-phone-charger.html
http://www.breakingnewsenglish.com/1403/140318-phone-charger.mp3
http://www.breakingnewsenglish.com/technology.html

: 1 : 2 : 3 : 4 : 5 : 6 : 7 : 8 : 9 : 10 : 11 : 12 : 13 : 14 : 15 : 16 :
http://www.thaiall.com/quiz/terms.php

กูเกิ้ลออกอุปกรณ์ตรวจสอบสุขภาพแบบสวมใส่

Google to launch wearable health monitor   (18th June, 2014)

กูเกิ้ลกำลังเล่น ไล่ตาม แอ็บเปิ้ล และซัมซุง ในการแข่งขันการเป็นผู้นำในซอฟท์แวร์สำหรับอุปกรณ์สวมใส่เพื่อดูแลสุขภาพ

Google is playing catch-up to Apple and Samsung in the race to be market leader in wearable health software.

ยักใหญ่ด้านเทคโนโลยีทำงานกับอุปกรณ์ที่เรียกกูเกิ้ลฟิตเพื่อแข่งกับเฮลท์คิดของแอปเปิ้ล และซัมซุงกาแลกซี่เกียร์ 2  และกาแลกซี่เกียร์ฟิต

The tech giant is working on a device called Google Fit to rival Apple’s HealthKit and Samsung’s Galaxy Gear 2 and the Galaxy Gear Fit.

แหล่งข่าวกล่าวว่า บริษัทกำลังรีบเร่งทำเวลาเพื่อออกสินค้า ดังนั้นจะไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

Sources say the company is working overtime to launch its product so it is not left behind.

กูเกิ้ลหวังเป็นบริษัทแรกที่จะทำให้อุปกรณ์ใช้งานกับระบบปฏิบัติการแอนดรอย

Google is hoping to be the first company to provide a device using the Android operating system.

นี่เป็นการโจมตีตลาดอีกครั้งของกูเกิ้ลในตลาดนี้

This is Google’s second foray into this market.

ตัวแรกเรียกว่า กูเกิ้ลเฮลท์ ซึ่งไม่มีแรงฉุดลูกค้าให้อยู่กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งมันไม่ให้ข้อมูลสำหรับผู้ชื่นชอบการออกกำลัง หรือรักในสุขภาพในภายหลังการออกกำลังกาย

The first product was called Google Health, which did not gain traction with consumers as it did not offer the kind of information fitness enthusiasts and health buffs were after.

คนในอุตสาหกรรมนี้เปิดเผยว่า กูเกิ้ลฟิตก็เหมือนกัน

An industry insider revealed what Google Fit might look like.

พวกเขาว่ามันเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่วัดข้อมูลสุขภาพ จำนวนก้าวเดิน วิ่ง หรือการเต้นของหัวใจ

They said it would be a wearable device that measures bio-rhythmic data like the number of steps someone walks or runs, or heart rate.

สารสนเทศเหล่านี้จะเชื่อมกับบริการในกูเกิ้ลคลาวด์

This information will be linked with Google’s cloud-based services.

บริษัทพยายามจะเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จที่บรรจุหีบห่อพร้อมส่ง

The company is trying to keep further details of the final product under wraps.

เว็บเท็คครัช เขียนว่า จากการได้ยิน กูเกิ้ลฟิตจะเก็บรายละเอียดข้อมูลสุขภาพ เช่น น้ำหนัก การเต้นของหัวใจ เวลาวิ่ง สถานะร่างกาย และอีกหลายอย่าง

The TechCrunch website wrote: “From what we’re hearing, Google Fit will track all sorts of health data, such as weight, heart rate, run times, body-building stats and more.”

ผู้ใช้จะสามารถประสานถ่ายโอนข้อมูลของเขากับกูเกิ้ลไอดี ทำให้ข้อมูลถูกพกพาไปใช้ได้ง่ายไม่ผูกกับแอพหรืออุปกรณ์ที่ใช้

It added: “End users will be able to sync their Google Fit profiles to their Google IDs, which will make their data portable no matter what app or device they’re using.”

http://www.breakingnewsenglish.com/1406/140618-wearable-health-device.html
http://www.breakingnewsenglish.com/1406/140618-wearable-health-device.mp3

http://www.breakingnewsenglish.com/technology.html

: 1 : 2 : 3 : 4 : 5 : 6 : 7 : 8 : 9 : 10 : 11 : 12 : 13 : 14 : 15 : 16 :
http://www.thaiall.com/quiz/terms.php

ยิ่งใช้เทคโนโลยีมาก ยิ่งหลับน้อยลง

หัวข้อข่าวว่า “ยิ่งใช้เทคโนโลยีมาก ยิ่งหลับน้อยลง
ประเด็นที่น่าสนใจคือ

ศูนย์วิจัย พบว่าชาวอังกฤษใช้เทคโนโลยีมากกว่านอนหลับไป 20 นาที
เพราะใช้เวลากับเทคโนโลยีไป 8 ชั่วโมง 41 นาที
แต่ใช้เวลานอนเฉลี่ย 8 ชั่วโมง 21 นาที
แล้วเขายังพบอีกว่า เด็กหกขวบ รู้ว่าจะใช้เทคโนโลยีอย่างไรในระดับเดียวกับผู้ใหญ่วัย 45 ขวบ
แล้วยังพบว่าใช้เทคโนโลยีมากสุดตอนอายุ 14 – 15 ขวบ

People use technology more, sleep less   (9th August, 2014)

ผู้คนในอังกฤษเดี๋ยวนี้ใช้เวลาในการดูทีวี เล่นเกม และสมาร์ทโฟน และเครื่องคอมพิวเตอร์มากกว่านอนหลับซะอีก

People in Britain now spend more time watching TV, gaming, and using their mobile phones and computers than sleeping.

ผลวิจัยโดยบริษัทออฟคอม พบว่า ชาวอังกฤษใช้เทคโนโลยี มากกว่านอนหลับ 20 นาที

Research by the British communications agency Ofcom found that Britons use technology for 20 minutes longer than they spend sleeping.

เฉลี่ยแล้ว ผู้ใหญ่ใช้เทคโนโลยี 8 ชั่วโมง 41 นาทีในแต่ละวัน

The average U.K. adult uses technology for eight hours and 41 minutes a day.

พวกเขาหลับประมาณ 8 ชั่วโมง 21 นาที

They sleep for an average of eight hours and 21 minutes.

เหตุผลหนึ่งที่ใหญ่ที่สุด คือ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และใช้ไวไฟ

One of the biggest reasons for this is broadband and wi-fi.

ผู้คนสามารถได้รับการเชื่อมต่อเกือบทุกที่ ดังนั้นจึงใช้เวลาเชื่อมต่อออนไลน์ยิ่งขึ้น

People can get online almost anywhere, so they spend more time online.

คนจำนวนมากใช้โทรศัพท์ หรือท่องเว็บ ขณะกำลังนั่งดูทีวี

Many people make telephone calls or surf the web while watching television.

ดูทีวีเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมที่สุด

Television was the most popular activity.

ผู้ใหญ่ดูทีวีราว 3 ชั่วโมงในแต่ละวัน

Adults watched an average of three hours a day.

ผลการศึกษาพบว่าการใช้เทคโนโลยีแตกต่างไปตามกลุ่มอายุ

The study looked at technology and different age groups.

เด็ก 6 ขวบจะเข้าใจวิธีใช้เทคโนโลยีใกล้เคียงกับคนอายุ 45 ปี

It found that six-year-olds understand how to use technology at the same level as 45-year-olds.

การค้นพบอีกอย่าง คือ คนที่เข้าใจเทคโนโลยีดิจิทัลที่สุดคือ 14 หรือ 15 ปี

Another finding was that people understand digital technology most when they are 14 or 15.

หมอพูดว่าเทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนวิธีในการติดต่อสื่อสารกัน

A doctor said technology is changing the way people communicate with each other.

ดอกเตอร์อาร์เทอร์เตือนว่า เรากำลังต่อต้านสังคมมากขึ้นและมากขึ้น

Dr.Arthur Cassidy warned that we are becoming more and more anti-social.

เขาว่า เรากำลังถอยห่างจากการสื่อสารแบบเผชิญหน้าเพราะเทคโนโลยี

He said we are moving away from face-to-face conversations because of technology.

เขาเพิ่มเติมว่า ผู้คนกำลังเสพติดสมาร์ทโฟนของพวกเขา

He added that people are becoming addicted to their smart phones.

เทคโนโลยีทำให้ผู้คนทำงานที่บ้านหลังจากพวกเขากลับจากที่ทำงาน

Technology also means people are working at home after they get home from work.

http://www.breakingnewsenglish.com/1408/140809-sleeping.html
http://www.breakingnewsenglish.com/1408/140809-sleeping.mp3

http://www.breakingnewsenglish.com/technology.html

: 1 : 2 : 3 : 4 : 5 : 6 : 7 : 8 : 9 : 10 : 11 : 12 : 13 : 14 : 15 : 16 :
http://www.thaiall.com/quiz/terms.php