วางยาพิษในกาแฟ ต่อเนื่อง ชิงรถขาย 5 หมื่น

drug & car
drug & car

ตำรวจภูธรภาค 9 จับกุมเครือข่ายฆาตกรต่อเนื่อง วางยาพิษฆ่าชิงรถยนต์เพิ่มอีก 2 คน แต่เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ

21 เม.ย.55 นายเอื้อน หรือกำนันวงศ์ บุญพิชัย กำนันตำบลคลองหลา อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา และนางถวิล สมระหาร ถูกชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 จับกุมข้อหารับของโจร พร้อมของกลางรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ไม่มีกระบะท้าย และไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ส่วนเลขตัวถังมีรอยขูดลบออก หลังสืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นเครือข่ายของนายนิรุต แสนคำหาร ฆาตกรต่อเนื่องวางยาพิษเหยื่อเพื่อชิงรถยนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 6 คน และสามารถหนีรอดได้ 3 คน ขณะที่นายนิรุต ผูกคอตายภายในห้องขัง สถานีตำรวจภูธรคลองวาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา ส่วนนางถวิล เป็นอาของนายนิรุต และเป็นภรรยาของนายไพรัช ชาวะหา เพื่อนร่วมขบวนการ ซึ่งถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้

จากการสอบสวนนายเอื้อนทราบว่า นายไพรัช และนางถวิล นำรถกระบะมาให้ตนช่วยจำนำหรือขายต่อราคาคันละ 9,000-120,000 บาท ได้ค่านายหน้าคันละ 2,000-3,000 บาท โดยไม่ทราบว่าเป็นรถที่ถูกขโมยมา

ขณะที่นางถวิลให้การว่า นายนิรุตอ้างว่าเป็นรถของเพื่อนให้นำมาขาย ประกอบกับรถทุกคันมีเอกสารครบถ้วน จึงช่วยติดต่อนำรถไปขายให้แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าเจ้าของรถ

ด้าน พล.ต.ต.ธีรพล คุปตานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า จ.สงขลา มีรถที่ถูกชิงไปทั้งหมด 4 คัน ตามกลับมาได้แล้ว 1 คัน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างสืบสวนติดตามรถกลับคืน. – สำนักข่าวไทย

ฆาตกรต่อเนื่องชิงรถกระบะ 8 ราย ผูกคอตายคาห้องขังแล้ว

18 เม.ย.55 ฆาตกรต่อเนื่องวางยาฆ่าชิงรถกระบะ 8 ราย ผูกคอตายคาห้องขัง สภ.คลองวาฬ เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น เช้ามืดที่ผ่านมา

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้เข้าจับกุมตัว นายนิรุต หรือจำลอง สอนคำหาร อายุ 43 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 289/21 หมู่ 10 ต.ทุ่งตำเสา อ.เมือง จ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.238/2555 ลงวันที่ 16 เมษายน 2555 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และชิงทรัพย์รถยนต์ ที่ก่อเหตุวางยาฆ่าชิงรถกระบะรับจ้าง 8 ราย และได้นำตัวมาแถลงข่าวที่กองปราบปราม ก่อนที่จะควบคุมตัวส่งต่อไปยัง สภ.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดี และขยายผลหาตัวเหยื่อที่ยังสูญหายอีก 2 ราย และขยายผลจับกุมแก๊งโจรกรรมรถยนต์ในพื้นที่อ.หาดใหญ่ ล่าสุด วันที่ 18 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิรุต ได้ผูกคอตายคาห้องขัง สภ.คลองวาฬ เมื่อเวลาประมาณ 05.30 น เช้ามืดที่ผ่านมา

จากการสอบถามร.ต.ต.ชำนาญ โคมแก้ว ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองวาฬ ซึ่งเป็นผู้ที่เข้าเวรในช่วงเวลาที่นายนิรุตถูกคุมขังภายในช่วงเวลาดังกล่าว ว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหารายนี้ไม่มีท่าทีว่าจะฆ่าตัวตายแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้นำตัวมาส่งตอนเวลาประมาณ 21.00 น.วันที่ 17 เมษายน ผู้ต้องหาก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆทั้งสิ้น ซึ่งทางตำรวจได้ดูแลเป็นอย่างดี จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 05.30 น. เมื่อหันไปดูภายในห้องขังอีกครั้งพบว่า ผู้ต้องหาได้ใช้เสื้อยืดคอปก สีขาว แถบสีฟ้า ผูกคอตายกับราวเหล็กที่บริเวณด้านหลังห้องน้ำภายในห้องขัง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาพร้อมกับประสานทางเจ้าหน้าทีกองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ซึ่งหลังจากจะมีการนำศพส่งไปยังนิติเวช รพ.ประจวบฯ เพื่อชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16เมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่ตำรวจได้นำตัวมาควบคุมไว้ที่ห้องขัง บก.ป.นั้น นายนิรุตได้พยายามฆ่าตัวตายด้วยการนำสายไฟฟ้าจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของกลาง ที่เก็บไว้ห้องขังข้างๆมาผูกเข้ากับซี่ลูกกรงและแขวนคอตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย แต่สายไฟขาดทำให้ผู้ต้องหาหล่นลงมาหัวกระแทกพื้นแตกเล็กน้อยทำให้เจ้า หน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรดูแลห้องขังได้ยินเสียงผิดสังเกตจึงรีบเข้าไปตรวจสอบ เหตุการณ์

วางยาพิษในกาแฟ ต่อเนื่อง ชิงรถขาย 5 หมื่น

17 เม.ย.55 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล  พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี  พ.ต.อ.ชัชชม คล้ายคลึง รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วัชรพล ทองล้วน ผกก.5 บก.ป. แถลงข่าวจับกุมนายนิรุต หรือ จำลอง สอนคำหาร อายุ 43 ปี ชาวจ.สงขลา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.238/2555 ลงวันที่ 16 เม.ย.55 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อนและชิงทรัพย์รถยนต์ พร้อมของกลางเสื้อยืดคอปกแขนสั้น สีเขียวและสีขาวสลับเทาที่ใส่ในวันที่เกิดเหตุ 2 ตัว หมวกสีเทา 1 ใบ ใบเสร็จรับเงินร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมันในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เงินสด 17,600 บาท กระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และยาฆ่าแมลง 1 ขวด

โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 16 เม.ย.55 ที่ผ่านมา ภายในห้องพักเลขที่ 7 ชั้น 2 อพาร์ทเม้นต์ไม่มีชื่อ ต.อ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า บก.ป.ได้รับการประสานงานจากมูลนิธิกระจกเงาว่า มีญาติผู้เสียหายมาร้องเรียนว่านายวัชระ สืบเชื้อ และนายรอบ รอบแคว้น อาชีพขับรถกระบะรับจ้างทั่วไป ถูกคนร้ายหลอกว่าจ้างรถกระบะขนของไปที่ จ.ชุมพร แล้วทั้งสองคนหายตัวไปพร้อมรถ นอกจากนี้ยังมีคนขับรถกระบะรับจ้างอีกหลายรายซึ่งสูญหายไปในลักษณะเดียวกัน นี้ในพื้นที่ใกล้เคียงกันคือที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร

จากนั้น พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป. สั่งการให้ชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.ลงพื้นที่ทำการสืบสวนถึงตำหนิรูปพรรณและพฤติกรรมของคนร้าย รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามร้านสะดวกซื้อ เนื่องจากเหยื่อที่รอดชีวิตให้ข้อมูลว่าก่อนเกิดเหตุมีการชักชวนให้แวะจอดรถ เพื่อพักซื้อเครื่องดื่มตามร้านสะดวกซื้อ ภายในปั้มน้ำมันระหว่างเส้นใกล้กับ อ.ชะอำ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต้องสงสัย พบคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับคนร้ายที่ก่อคดีฆ่านายสมศักดิ์ ศรีจำปา คนขับรถกระบะรับจ้าง เมื่อวันที่ 9 เม.ย.55 บริเวณริมถนนเพชรเกษม หมู่ 7 ต.คอลงวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนพบภาพกล้องวงจรปิดยืนยันว่าคนร้ายขับขี่รถกระบะโต โยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน ตน 8513 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตายไป  ยืนยันว่าคนร้ายรายนี้ คือ นายนิรุต หรือ จำลอง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ในคดีฆ่านางยุพิน จอนเข็ม และชิงรถกระบะพร้อมทรัพย์สินมีค่าของผู้ตายไปโดยมีการบิดบังอำพรางศพ ด้วยการนำก้อนหินขนาดใหญ่ผูกเข้ากับศพโยนทิ้งน้ำ ในเขื่อนลำปาว อ.หนองกรุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเดือนม.ค.54

ต่อมาสืบทราบว่าผู้ต้องหาพักอยู่ที่ห้องพักเลขที่ 7 ชั้น 2 อพาร์ทเม้นต์ไม่มีชื่อดังกล่าวจึงนำกำลังเข้าทำการจับกุม สอบสวนเบื้องต้นนายนิรุต รับสารภาพว่า มีอาชีพขับรถรับจ้างส่งผลไม้จากทั่วประเทศมาส่งยังตลาดไท ได้รู้จักกับแก๊งโจรกรรมรถยนต์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งจะมีออร์เดอร์ส่งให้ตนจัดหารถตามที่ลูกค้าต้องการ ตนจึงวางแผนสวมรอยเป็นลูกค้าติดต่อรถกระบะรับจ้างทั่วไปให้ไปขนของในพื้นที่ ภาคใต้ เนื่องจากมีความชำนาญในเส้นทาง เมื่อคนขับรถกระบะรับจ้างหลงเชื่อก็จะนัดให้มารับ ก่อนจะทำทีแวะวื้อเครื่องดื่มตามร้านสะดวกซื้อแล้วแอบผสมยาฆ่าแมลงให้คนขับ กิน จนมีอาการมึนงง ก่อนจะเหยื่อไปทิ้ง แล้วนำรถกระบะไปขายให้แก๊งโจรกรรมรถยนต์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ราคาคันละ 5 หมื่น สาเหตุที่ทำไปเพราะต้องการเงิน แต่ไม่คิดว่าเหยื่อจะเสียชีวิต แต่คนขับบางรายดื่มกาแฟจนหมดแก้วจึงทำให้เสียชีวิต ซึ่งบางรายก็จำไม่ได้ว่านำไปทิ้งไว้จุดใดเพราะเป็นช่วงเวลากลางดึก

สำหรับเหยื่อที่ผู้ต้องหารายนี้ก่อเหตุนั้นมีทั้งหมด 9 คน เสียชีวิต 4 คน รอดมาได้ 3 คน ส่วนอีก 2 คนยังสูญหาย โดยคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมดประกอบด้วย
1. คดีฆ่านางยุพิน จอนเข็ม อายุ 67 ปี ที่ จ.กาฬสินธุ์ ถูกออกหมายจับแล้ว
2. คดีชิงทรัพย์รถยนต์กระบะของนายมนตรี กาลาม เมื่อเดือนมี.ค.54  พื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งนายมนตรีรอดชีวิตมาได้
3. คดีชิงทรัพย์รถกระบะโตโยต้า วีโก้ ของนายรอบ รอแคว้น โดยนำร่างนายรอบไปทิ้งไว้ในสวนปาล์ม ใกล้ป้อมตำรวจทางหลวง ถนนเส้นทางระหว่าง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และ อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัวนายรอบ
4. คดีชิงทรัพย์รถกระบะของนายวัชระ สืบเชื้อ เมื่อต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา แล้วนำตัวนายวัชระไปทิ้งไว้ข้างถนนเพชรเกษม บริเวณคอสะพานระหว่าง อ.หลังสวน และ อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ขณะนี้ยังไม่พบร่างนายวัชระ
5. คดีชิงทรัพย์รถกระบะของนายเจริญ ดาราน้อย เมื่อปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยถูกวางยานอนหลับแต่นายเจริญรู้ตัวว่าถูกวางยาจึงไล่ผู้ต้องหาลงรถแล้วรีบ ขับรถออกไปทำให้รอดชีวิตมาได้
6. คดีชิงทรัพย์รถกระบะของนายไพฑูรย์ ปัตตาลาโพธิ์ เมื่อปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมาโดยวางยาฆ่าแมลงก่อนนำร่างนายไพฑูรย์ไปทิ้งไร่ อ้อย อ.ชะอำ แต่โชคดีที่นายไพฑูรย์รอดชีวิตมาได้
7. คดีชิงทรัพย์รถกระบะของนายจุลศิล สลางสิงห์ โดยวางยาฆ่าแมลงจนนายจุลศิลเสียชีวิตโดยพบศพในพื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
8. คดีชิงทรัพย์รถกระบะนายจำนงค์ ศรีระชาติ โดยครั้งนี้ผู้ต้องหาพาภรรยาไปด้วย เมื่อวางยาแล้วนำตัวไปทิ้งไว้ใกล้แยกปฐมพร อ.เมือง จ.ชุมพร
9. คดีฆ่านายสมศักดิ์ ศรีจำปา ท้องที่ สภ.คลองวาฬที่มีการออกหมายจับไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังนายนิรุตถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 16 เม.ย.55 และตำรวจนำตัวมาควบคุมไว้ที่ห้องขัง บก.ป.นั้น ผู้ต้องหาได้พยายามฆ่าตัวตายด้วยการนำสายไฟฟ้าจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของกลาง ที่เก็บไว้ห้องขังข้างๆมาผูกเข้ากับซี่ลูกกรงและแขวนคอตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย แต่สายไฟขาดทำให้ผู้ต้องหาหล่นลงมาหัวกระแทกพื้นแตกเล็กน้อย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรดูแลห้องขังได้ยินเสียงผิดสังเกตจึงรีบเข้า ไปตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งผู้ที่ทราบเรื่องดังกล่าวต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าเกี่ยวกับอาถรรพ์ห้องขัง กองปราบที่มีผู้ต้องหาคดีล่วงละเมิดทางเพศซึ่งใส่เสื้อกร้ามสีแดงเคยผูกคอ ตายภายในห้องขัง และต่อมาก็มีผู้ต้องหาอีกรายหลายที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่ห้องขังแห่งนี้พยายาม ฆ่าตัวตายหรือถูกสิ่งเร้นลับรบกวน จากนั้นมาก็มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้

บุรุษพยาบาล วางยาคนไข้ 16 ศพ

19 มี.ค.55 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอนเตวิเดโอ ประเทศอุรุกวัยว่า คณะอัยการอุรุกวัยตั้งข้อหาฆาตกรรมกับบุรุษพยาบาล 2 คน วัย 39 และ 46 ปีตามลำดับ  จากหน่วยรักษาพยาบาลผู้ป่วยอาการหนัก (ไอซียู ) เกี่ยวกับระบบประสาทของโรงพยาบาล 2 แห่ง ในคดีวางยาพิษผู้ป่วยจนถึงแก่ความตาย 16 ศพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

นายโรแลนโด โวเมโร ผู้พิพากษาที่รับผิดชอบคดีนี้ กล่าวว่า บุรุษพยาบาลทั้ง 2 คนไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว และแม้ทางการยังไม่อาจสรุปตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แน่นอนได้ แต่ 1 ในผู้ต้องสงสัยสารภาพว่า ได้วางยาพิษผู้ป่วย 11 ราย ส่วนผู้ต้องสงสัยอีกรายให้การว่าวางยาพิษผู้ป่วยไป 5 ราย โดยทั้งคู่สั่งซื้อยาพิษมาจากประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังมีเพื่อนหญิงคนสนิทของผู้ต้องสงสัยรายหนึ่ง ถูกจับกุมในข้อหาปกปิดหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับรูปคดี

ขณะที่นางอิเนส มาสซิโอติ ทนายความของ 1 ในบุรุษพยาบาลให้สัมภาษณ์ว่า ลูกความของเธอจำเป็นต้องกระทำสิ่งนี้ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยเหล่านั้นพ้นทุกข์

ด้านกระทรวงสาธารณสุขของอุรุกวัยออกแถลงการณ์ แสดงความเป็นห่วงอย่างยิ่งต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น และพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีที่อาจกล่าวได้ ว่า เป็น “อาชญากรรมทางการแพทย์”

http://www.fanthai.com/lakorn/topic.php?id_news=32598

http://news.mthai.com/general-news/162129.html
http://www.dailynews.co.th/crime/22778
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9550000048017
http://www.mcot.net/cfcustom/cache_page/356018.html
http://77.nationchannel.com/video/215459/
http://www.ch7.com/news/news_thailand_detail.aspx?c=2&p=376&d=186072

ในประวัติศาสตร์

ภาพยนตร์เรื่อง สุริโยไท ท้าวศรีสุดาจันทร์ และ ขุนชินราช ได้สมคบคิดกัน ลอบวางยาพิษปลงพระชนม์พระไชยราชา

ในประวัติของคลีโอพัตรา มีการสันนิษฐานว่า “พระนางได้ลอบวางยาพิษ ปโตเลมีที่ 14 ผู้เป็นอนุชาของตนเอง

ในละครทีวี “ผู้ร้าย วางยาข่มขืน .. บ่อย ๆ ”

เริ่มเผยธาตุแท้ให้เห็นแล้วสำหรับ ”เอส” วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย ที่ในละคร ”พระจันทร์สีรุ้ง‘ ไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่นางเอก ”แอฟ” ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ คิดไว้ แถมยังวางแผนหวังทำมิดีมิร้ายอีกต่างหาก

แนน ชลิตา เฟื่องอารมณ์ ใน “สืบลับรหัสรัก” รับบทเป็นคนวางยาเพื่อมอมเมาเหล่าบรรดาสาวก ในลัทธิให้ตกเป็นทาสของยาเสพติด

http://www.ryt9.com/s/prg/284766

นักวางยาพิษในละครไทย

+ กลีบผกา แห่ง แรมพิศวาส วางยาเพื่ออยากได้สมบัติของสามี
+ บุหงา แห่ง ดงผู้ดี วางยาแม่สามีเพื่อสมบัติ
+ พิมพา แห่ง บริษัทบำบัดแค้น วางยาเพื่ออยากได้สมบัติของสะใภ้
+ ซูหลิง แห่ง หยกลายเมฆ วางยาเพื่ออยากได้สามีของเพื่อน และต้องการฆ่าลูกของเพื่อน
+ คุณระย้า แห่ง รอยรักรอยบาป วางยาเพื่อกำจัดลูกของเมียน้อย

http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2009/08/A8267329/A8267329.html


นายสุรชัย วิวัฒนชาติ อายุ 33 ปี อดีตสามีของรองนางสาวไทยอันดับสอง ปี 2537 วางยาข่มขืนพนักงานสาว

http://hilight.kapook.com/view/33345

สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ตั้งขึ้นอย่างผิดกฎหมาย

27 พ.ค.53 นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการจัดตั้งและเปิดสอนการศึกษาในระดับอุดมศึกษาโดย ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ว่า ด้วยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนทาง โทรศัพท์ให้ช่วยตรวจสอบการจัดการเรียนการสอนของสถาบันออกแบบราฟเฟิลส์ กรุงเทพฯ ว่าเป็นการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการตามพระราชบัญญัติสถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖ หรือไม่ สกอ.ได้ดำเนินการสืบข้อเท็จจริงจนพบว่า สถาบันออกแบบราฟเฟิลส์ กรุงเทพฯ หรือ Raffles Design Institute เป็นสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนระดับอุดมศึกษาในหลักสูตรวิชาชีพทั้งในระดับ ประกาศนียบัตร ปริญญาตรี และปริญญาโท ในสาขาวิชาต่างๆ จำนวน ๖ สาขา ได้แก่ (๑) สาขาวิชาการออกแบบแฟชั่น (๒) สาขาวิชาการออกแบบตกแต่งภายใน (๓) สาขาวิชาการออกแบบกราฟฟิก (๔) สาขาวิชาการออกแบบสื่อประสม (๕) สาขาวิชาการออกแบบผลิตภัณฑ์ และ (๖) สาขาวิชาการตลาดสินค้าแฟชั่น โดยมีระยะเวลาการศึกษาตามหลักสูตร ๓ ปี เปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษทุกวันตั้งแต่วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา ๐๙.๐๐ – ๒๒.๐๐ น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๘.๐๐ น. และเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะได้รับปริญญาจากวิทยาลัยการออกแบบและพาณิชยการ ราฟเฟิลส์ นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
“จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่าสถาบันดังกล่าวเปิดดำเนินการโดย บริษัท ราฟเฟิลส์ ดีไซด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งยังไม่เคยได้รับอนุญาตให้จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามพระราชบัญญัติ สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖ แต่อย่างใด ซึ่งในเมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ สกอ. ได้เชิญผู้บริหารของสถาบันมาพบเพื่อขอให้ยุติการจัดการศึกษาแล้ว แต่ไม่เป็นผล ดังนั้น สกอ.จึงได้มอบอำนาจให้นิติกรไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดทางอาญากับ บริษัทและผู้เกี่ยวข้องแล้วตั้งแต่วันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ และได้รับแจ้งผลของคดีจากพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลบางรัก เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ว่าพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา และกำลังส่งสำนวนการสอบสวนไปให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้องคดีต่อศาลอาญา กรุงเทพใต้ตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายต่อไป” เลขาธิการ กกอ. กล่าว
เลขาธิการ กกอ. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ สกอ. ยังได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ เพื่อเอาผิดทางอาญาแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งและเปิดการเรียนการสอน ของ สถาบัน Academia Italiana Fashion & Design Institute ซึ่งตั้งที่ซอยสุขุมวิท ๕๕ ด้วยเหตุผลเดียวกัน ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน
สำหรับกรณีมหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ศูนย์การศึกษาอำนาจเจริญ ที่มีการร้องเรียนผ่านหนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๕๓ ว่ามีการเปิดสอนหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาสาธารณสุขชุมชน โดยไม่ได้รับการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ ต่อมามหาวิทยาลัยได้สั่งให้ยุติการเรียนการสอนหลักสูตรดังกล่าว ส่งผลให้นักศึกษาที่สมัครเข้าศึกษาในหลักสูตรดังกล่าวได้รับความเดือนร้อน นั้น เลขาธิการ กกอ. ชี้แจงว่า สกอ.ได้ประชุมหารือกับอธิการบดีและคณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยร่วมกับนัก ศึกษาที่สมัครเรียนในหลักสูตรดังกล่าว เพื่อหาแนวทางเยียวยาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้รองศาสตราจารย์เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ อธิการบดี ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อสถานีตำรวจภูธรเมืองอำนาจเจริญ ให้ดำเนินคดีกับผู้ช่วยศาสตราจารย์พิชัย ละแมนชัย อดีตอธิการบดีกับพวก ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต กระทำการร่วมกันฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๓ มาตรา ๑๕๗ และมาตรา ๓๔๓ ซึ่งจากการสอบสวนของพนักงานสอบสวนเห็นว่า คดีดังกล่าวอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ จึงได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่ง ชาติ เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
“ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาแก่นักศึกษา โดยแบ่งนักศึกษาออกเป็น ๒ กลุ่ม คือ (๑) นักศึกษาที่ต้องการจะศึกษาในหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต โปรแกรมวิชาสาธารณสุขชุมชน หลักสูตร ๔ ปี โดยมีผู้แสดงความจำนงเข้าศึกษา จำนวน ๑๘ คน แบ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติสำเร็จการศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โครงสร้างวิทย์-คณิต จำนวน ๘ คน และผู้สำเร็จการศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ จำนวน ๑๐ คน ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ดำเนินการเสนอต่อสภามหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณา และสภามหาวิทยาลัยได้พิจารณาอนุมัติแล้ว และ (๒) นักศึกษาที่ไม่มีคุณสมบัติ และไม่ประสงค์จะโอนย้ายไปเรียนในโปรแกรมวิชาอื่น มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการคืนเงินให้ จำนวน ๖ ราย” เลขาธิการ กกอ. กล่าว
+ http://www.thaigoodview.com/node/63241