เป็นเรื่องปกติที่เราจะเห็นต้นไม้กับสายไฟฟ้าอยู่ร่วมกันใกล้ชิด เคยมีข่าวว่าเถาฟักไปออกลูกบนเสาไฟ ต้นไม้ตามถนนหนทางเกาะเกี่ยวสายไฟจนมองไม่ออก เพราะสายไฟผ่านเข้าด้านหนึ่ง และออกมาอีกด้านหนึ่งของต้นไม้ เป็นที่รู้กันว่าสายไฟฟ้ามีสัญญาณไฟฟ้าไหลอยู่ หากรั่วขึ้นมาแล้วมนุษย์ไปสัมผัสก็จะเป็นอันตรายถึงชีวิต การที่ต้นไม้เติบโตขึ้นเองใกล้กับเสาไฟฟ้าถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ การตั้งใจปลูกต้นไม้ใต้สายไฟฟ้า ซึ่งพบเห็นได้เป็นปกติในประเทศไทย
เมื่อฝนตกแล้วไฟฟ้าดับ เชื่อว่าคนไทยนอกเมืองหลวงเคยพบกันมาแล้วทุกคน สาเหตุหนึ่งมาจากต้นไม้ทั้งประเภทที่ขึ้นใต้สายไฟฟ้า หรือขึ้นขนานกับสายไฟฟ้า ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะมีมาตรการป้องกันและแก้ไขโดยการลิดรอนตัดไม้และกิ่งไม้อยู่เสมอ แต่ถ้าป้องกันปัญหาแต่แรกด้วยการหยุดปลูกต้นไม้ใต้สายไฟฟ้าตามถนนหนทาง ก็เชื่อได้ว่าปัญหาจะลดลง ไม่ต้องเสียงบประมาณหาต้นไม้มาปลูก และต้องหาคนมาตัดกิ่งไม้ และต้องหาคนมาคอยแก้ปัญหาสายไฟฟ้าพันกับกิ่งไม้ สายโทรศัพท์พันกับกิ่งไม้ การที่อินเทอร์เน็ตในบางบ้านมีปัญหา ก็เชื่อได้ว่าสายโทรศัพท์อาจผูกพันธ์กับกิ่งไม้มากไปจนสัญญาณอาจสูญหายไปบ้าง
เคยอ่านผลการวิจัยเรื่อง วิเคราะห์สาเหตุกระแสไฟฟ้าขัดข้องของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยคุณวสันต์ เรืองศรี ศึกษาข้อมูลระหว่างปี 2548 – 2552 พบว่าสาเหตุที่ทำให้ไฟฟ้าขัดข้องเกิดจากต้นไม้เป็นอันดับ 4 เกิดขึ้นมากถึง 186 ครั้ง ในพื้นที่อื่นที่ปลูกต้นไม้ใต้สายไฟฟ้ากันมากก็อาจมีสถิติของปัญหามากกว่าที่ปทุมธานีก็ได้ สรุปสาเหตุเกี่ยวกับต้นไม้ที่ส่งผลให้ไฟฟ้าดับ คือ การตัดต้นไม้ใกล้แนวสายไฟฟ้า การเผาวัชพืชใกล้สายไฟฟ้า ต้นไม้ล้มทับสายไฟฟ้า กิ่งไม้พาดสายไฟทำให้ไฟฟ้ารั่วลงดิน นอกจากสายไฟฟ้าจะได้รับผลกระทบแล้ว ก็ยังมีสายโทรศัพท์ สายเคเบิ้ลทีวี ส่วนต้นไม้ก็ได้รับผลกระทบเพราะเคยเห็นต้นไม้กำลังโต แต่ก็ต้องมาถูกตัด เพื่อไม่ให้ไปพันสายไฟ ถ้าใช้งบประมาณส่วนนี้ไปปลูกต้นไม้ที่อื่นแล้วปล่อยให้เติบใหญ่งอกงามเป็นเครื่องฟอกอากาศตามธรรมชาติอย่างยั่งยืนก็จะดีไม่น้อย สรุปว่าเสียดายต้นไม้ที่ต้องถูกตัดไม่ให้สูงไปกว่าสายไฟฟ้า