จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่ ฉบับที่ 2 มองไปนอกหน้าต่างรถไฟ

สวัสดีค่ะ พ่อเก๋ แม่ขวัญ

สู้ สู้ นะเรา” เป็นคำพูดที่หนูบอกตัวเอง
เมื่อมองออกไปที่นอกหน้าต่างรถไฟ
เห็นคุณตา คุณย่า พ่อเก๋ แม่ขวัญ และน้อง ๆ
ยืนส่งยิ้มมาที่หนู หนูก็ยิ้มนะ แต่ในใจสะอื้นเลยหละ
เหมือนใจดีสู้เสือเลย

ตอนนั้นรถไฟยังจอดสงบนิ่งอยู่ที่ชานชาลาสถานีลำปาง
แล้วก็ค่อย ๆ เคลื่อนออกไป กระชึก กระชัก กระชึก กระชัก

วันนั้น เป็นครั้งแรก
ที่หนูนึกถึงคำว่า change ที่ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวไว้
เพราะกำลังจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับหนูเยอะเลย

เปลี่ยนจาก อยู่ในรั้วโรงเรียน ไปอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย
เปลี่ยนจาก แม่ทำข้าวให้ทาน ไปซื้อทานเอง
เปลี่ยนจาก นอนกับน้อง ไปนอนกับเพื่อนใหม่
เปลี่ยนจาก นอนบ้าน ไปนอนหอพัก
เปลี่ยนจาก นักเรียน ไปเป็นนักศึกษา
เปลี่ยนจาก พ่อแม่ไปส่ง ไปไหนก็ต้องไปคนเดียวโด่เด่
เปลี่ยนจาก ขอตังพ่อแม่ใช้ ไปใช้เงิน กยศ.
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนเดิม คือ ต้องตั้งใจเรียนหนังสือ

เรื่องที่หนูหวั่นใจที่สุด
คือ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่ต้องขึ้นรถไฟคนเดียว
เดินทางไปไกลหลายร้อยกิโลเมตรจากบ้าน
และอีกหลายเดือนจะได้กลับบ้าน
นึกทีไรก็อยากร้องไห้นะ กลัวเป็นโฮมซิกจังเลย

คืนนั้น เป็นคืนเดือนหงาย
คืน 15 ค่ำ ข้างนอกดูสว่างนะ ถ้าเมฆไม่บังจันทร์
หนูนอนเตียงล่าง นอนก็ไม่หลับผิดที่
เตียงบนยังว่าง คืนนั้นมีหลายเตียงว่างอยู่
แล้วตู้นี้ชาวต่างชาติเยอะมาก ไม่พูดอังกฤษด้วย
จึงไม่ได้ทักใคร แล้วก็ไม่มีใครมาทักหนู
ยกเว้นตำรวจรถไฟที่มาเดินตรวจตั๋ว
หนูแอบมองไปข้างนอก ที่นอกหน้าต่างรถไฟ
มีอะไรน่าสนใจเยอะเลย คงเพราะไกลบ้าน
เห็นถนนที่ตัดผ่านรถไฟ บางเส้นก็มีที่กั้น บางเส้นไม่มี
เห็นภูเขาที่มีต้นไม้เต็มไปหมด
เห็นบึงน้ำกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา
เห็นถ้ำ แต่ก็เห็นไม่ชันนะคะ เพราะมืดไปหมด
เห็นสถานีรถไฟ หน้าตาเหมือนกันทุกสถานี หนูนั่งนับด้วยนะ
.. หนึ่ง สอง สาม .. ถึงเท่าไรไม่รู้ เพราะงีบหลับไป

หนูหลับ ๆ ตื่น ๆ มองนอกหน้าต่างรถไฟบ่อย ๆ
และแล้วก็ถึงรุ่งสาง พระอาทิตย์มาเลย
เข้าบางกอกแล้ว รถยนต์เยอะมาก
ปลายทางที่หนูจะลง คือ หัวลำโพง
หนูพกกระเป๋าไป 3 ใบ
สะพายหลัง ลากใบใหญ่ และหิ้วอีกใบหนึ่ง
ส่วนกระเป๋าตังหนูใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ

ครั้งล่าสุด
ยังจำได้เลย พ่อเก๋ แม่ขวัญ มาด้วยไง
พวกเราไปจองหอพัก เลือกอยู่นาน มีหลายแบบน่ะ
และสอนให้หนูเดินทางเอง ทั้งรถไฟ และรถทัวร์
แต่ไม่ได้สอนว่าไปกลับเครื่องบินต้องทำอย่างไร
ครั้งนี้
หนูมาเอง พอลงรถไฟ ก็เดินไปที่คิวรถตู้ อยู่ไม่ไกลนัก
เพราะนั่งรถแท็กซี่ไปมหาวิทยาลัยจะไกลมาก ๆ
นั่งรถตู้สะดวก ไม่แพงเกินไปนัก
บอกคนขับรถตู้ว่าลงหน้ามอ เค้าก็จอดให้เลย
หนูแอบงีบระหว่างนั่งรถตู้ด้วย เพราะแอร์เย็น
หนูสะดุ้งตื่น เพราะผู้โดยสารเกือบทั้งคันลงที่ตลาด
แต่มหาวิทยาลัยอยู่เลยตลาดไปอีกไม่กี่กิโล
พอถึงหน้ามอ เค้าก็จอดให้ มีเพื่อนลงด้วยสองคน

ไปถึงมหาวิทยาลัยก็เช้าล่ะ
เพราะรถไฟเสียเวลา ไปถึงเลยเวลาที่เค้าแจ้งไว้
ครั้งต่อไปหนูคงไป-กลับรถทัวร์เอา
เพราะใช้เวลาน้อยกว่า รถทัวร์แวะทานข้าวต้มรอบดึกด้วย
หนูชอบข้าวต้มดึก มีกุงเชียง มีผัดผักบุ้ง มีปลาทอด
และได้แวะเข้าห้องน้ำที่กำแพงเพชร

ตอนนี้ถึงห้องพักแล้ว
ที่นี่เป็นหอพักหญิงที่อยู่ในมหาวิทยาลัย
เดินจากหน้ามหาวิทยาลัยเข้าไปประมาณ 300 เมตร
ห้องหนูนอนกัน 3 คน เป็นเตียงเดี่ยว ห้องน้ำในตัว
เพื่อนอีก 2 คนยังมาไม่ถึง หนูมาคนแรก
สงสัยเค้าไม่ได้มาจากภาคเหนือแบบหนู
ไม่งั้นคงถึงพร้อม ๆ กัน
หนูขอนอนเอาแรงก่อนนะคะ
เมื่อคืนตื่นเต้นเกิน เลยไม่ค่อยได้หลับ
ฉบับหน้า จะหาเรื่องสนุก ๆ มาเล่าให้ฟังนะค่ะ

ลากกระเป๋า ระหว่างเดินทาง
ลากกระเป๋า ระหว่างเดินทาง

Bye Bye จ้า .. รักทุกคนนะ จุ๊บ จุ๊บ
จาก พี่เอของน้อง ๆ และลูกที่น่ารักของพ่อเก๋ แม่ขวัญ
มีอะไรทักแชทได้เหมือนเดิมน้า

จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่ ฉบับที่ 1 จะกดละนะ

สวัสดีค่ะ พ่อเก๋ แม่ขวัญ

ในต้นฤดูหนาว วันหนึ่ง
จะกดละนะ จะกดละนะ” หนูพูดกับตัวเองน่ะ
วันนี้ประกาศผลเอ็นเล็กแล้วค่ะ
แล้วกำลังจะดูผลสอบในเน็ตด้วย ตื่นเต้นนะขอบอก
แล้วปีนี้เป็นปีสุดท้าย ที่ ม.ช. จัดสอบแยก
ปีต่อไป รุ่นน้องของหนู
จะใช้คะแนน GAT/PAT กับ 9 วิชาสามัญ
จากการสอบหลังเรียนจบมัธยมปลายค่ะ

จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่
จดหมายจากลูกถึงพ่อแม่

เย้ เย้ เย้” นั่นเป็นอีกคำพูด หลังจากที่หนูรู้ผลสอบ
เป็นข่าวดี .. หนูสอบติดแล้วนะคะ พ่อเก๋ แม่ขวัญ
สอบติดอันดับ 3 ที่ได้เลือกไว้ค่ะ
ต่อไปต้องไปเรียนถึงบางกอกนู่นละ

นี่เป็นจดหมายฉบับแรก
ก็อยากเขียนน่ะค่ะ ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือเล่มหนึ่ง
จำได้ว่า พ่อเก๋ เคยซื้อหนังสือ “Long Leg Daddy” ของ se-ed ให้อ่าน
หนูชอบที่จูดี้เขียนถึงคุณพ่อขายาวของเธอ ซ่อนรักไว้ด้วย
หนูก็อยากจะเขียนบ้าง
ตั้งใจว่ามีเค้าโครงเป็นเรื่อง “เอบีซีรักในแคมปัส” ล่ะกัน
หรือ Love in campus by ABC จะดีไหมนะ 555

แล้วปีหน้า ถ้าน้องไปเรียนต่อ
ก็ได้เวลาที่ต้องกระพือปีกด้วยตนเอง เหมือนหนูล่ะ
ที่ต้องออกจากรังแล้ว ไปไล่ตามความฝันของเรา
เวลาน้องไปอยู่ในแคมปัสไหน ๆ (ที่ไหนก็ไม่รู้)
ก็อยากให้ น้องบี กับน้องซี เขียนจดหมายด้วย
เราจะได้แชร์กันอ่านในครอบครัวไง
เหมือนที่พ่อเก๋เขียน “จดหมายจากสามีถึงภรรยา
หรือ “สามลูกสาว” หรือ “แม่ล้ม ผมก็ล้ม
หนูกลับไปอ่านบ้างเหมือนกัน
อ่านเสร็จ ก็อยากเขียนบ้างจังเลย
นี่มีฉบับแรกล่ะนะ

ฉบับแรกนี้ พี่เอ ฝากข้อความให้น้องแฝดด้วยน้า
ว่า “ตั้งใจเรียน อ่านหนังสือ เพื่อจะได้เรียนอะไร ที่อยากเรียน
ขอให้น้อง ๆ สมหวังน้า
เพราะเราพยายาม ก็เพื่อตนเอง เพื่ออนาคตของเราอยู่
แล้วพี่จะคอยเอาใจช่วยเสมอ ๆ
ไม่แน่นะ ปีหน้าเราอาจได้มาเรียนด้วยกันที่บางกอกก็ได้
ใครจะไปรู้อนาคต ชิมิ

 

Bye Bye จ้า .. รักทุกคนนะ จุ๊บ จุ๊บ
จาก พี่เอของน้อง ๆ และลูกที่น่ารักของพ่อเก๋ แม่ขวัญ
มีอะไรทักแชทได้เหมือนเดิมน้า

FB Group : ผู้บริจาคโลหิต อวัยวะ และร่างกาย

long leg daddy คือ แรงบันดาลใจ
long leg daddy คือ แรงบันดาลใจ

ภาพถ่ายจาก https://www.facebook.com

มติที่ประชุม ส.ค.ศ.ท. ขอเปิด-ปิดภาคเรียนเวลาเดิม ไม่เปิด-ปิดภาคเรียนตามอาเซียน

มติที่ประชุม ส.ค.ศ.ท. ขอเปิด-ปิดภาคเรียนเวลาเดิม เนื่องจากการเปิด-ปิดภาคเรียนตามอาเซียน ส่งผลกระทบทำให้ไม่มีโรงเรียนให้ครูฝึกประสบการณ์สอน อีกทั้งทำให้ค่าน้ำ-ค่าไฟพุ่ง เตรียมเสนอที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย-รมว.ศธ.พิจารณา

รศ.ดร.ประพันธ์ศิริ สุเสารัจ คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร วิโรฒ (มศว) ในฐานะประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์และศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย(ส.ค.ศ.ท.) เปิดเผยว่า จากการประชุม ส.ค.ศ.ท.เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ เสนอให้ปรับการเปิด-ปิดภาคเรียนของสถาบันการศึกษาในประเทศไทยให้เหมาะสม เนื่องจากเห็นว่าการเปิด-ปิดภาคเรียนตามอาเซียน ไม่สอดคล้องกับการเปิด-ปิดภาคเรียนของสถานศึกษา ที่เป็นสถานที่ฝึกประสบการณ์วิชาชีพของนิสิต นักศึกษาครู โดยเฉพาะโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เนื่องจากเปิด-ปิดภาคเรียนไม่ตรงกัน ทำให้ไม่มีสถานศึกษาให้ผู้เรียนครูฝึกประสบการณ์วิชาชีพ และไม่มีครูพี่เลี้ยงช่วยฝึกประสบการณ์การสอนให้

นอกจากนี้ เดือนเมษายน ที่เดิมเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ ก็เป็นฤดูร้อนและเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร เมื่อเปิด-ปิดภาคเรียนตามอาเซียน จึงส่งผลให้ผู้เรียนไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาไปช่วยครอบครัวทำงานเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรได้ อีกทั้งอากาศยังร้อนจัดทำให้สิ้นเปลืองค่าสาธารณูปโภค มีการใช้น้ำ-ไฟในปริมาณที่เพิ่มขึ้น เป็นภาระทั้งตัวผู้เรียน สถาบันการศึกษาและงบประมาณแผ่นดิน

ทั้งนี้ ส.ค.ศ.ท.จะนำมตินี้เสนอที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) และ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อพิจารณาต่อไป” รศ.ดร.ประพันธ์ศิริ กล่าว

———————–ขอบขอบคุณข้อมูลจาก  : เดลินิวส์ 

และ http://news.voicetv.co.th/thailand/496153.html

กยศ. พร้อมจ้างเอกชนทวงเงิน ลูกหนี้ กรอ. ที่ไม่ยอมจ่ายคืน

กยศ. เตรียมจ้างเอกชนมาทวงหนี้ ลูกหนี้ กรอ. ที่ไม่คืนเงินจนถูกดำเนินคดี ชี้ตอนนี้มีลูกหนี้ถูกฟ้องแล้วกว่า 9 แสนราย !!

วันที่ 12 มีนาคม 2560 มีรายงานว่า กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้เตรียมจัดจ้างผู้ติดตามหนี้ เพื่อทวงหนี้จากผู้ที่รับเงินกู้กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ที่ถูกดำเนินคดีในปี 2559

สำหรับบริษัทที่สนใจรับจ้างติดตามหนี้ สามารถยื่นซองได้จนถึงวันที่ 14 มีนาคมนี้ โดยจะต้องมีคุณสมบัติ  คือ เป็นนิติบุคคลไทยที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการติดตามทวงถามหนี้ มีทุนจดทะเบียนไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท และมีพนักงานทวงถามหนี้ประจำสำนักงานไม่น้อยกว่า 30 คน ส่วนทรัพย์สินที่ติดตามทวงถามมาได้ จะนำไปบังคับคดีขายทอดตลาด และนำเงินมาชำระหนี้ให้กองทุน ซึ่งทางเอกชนจะได้ค่าตามหนี้ร้อยละ 7 ของเงินที่ตามได้ โดยไม่รวมค่าธรรมเนียมอื่นที่ธนาคารเรียกเก็บจากลูกหนี้

ทั้งนี้ในปัจจุบัน มีลูกหนี้กู้ยืมเงิน กยศ. จำนวน 8 ล้านคน ครบกำหนดต้องชำระคืน 3.2 ล้านคน และมีลูกหนี้ที่ถูกฟ้องแล้วกว่า 9 แสนราย มีหนี้สินรวมกว่า 9 หมื่นล้านบาท และเฉพาะปี 2559 มีลูกหนี้ที่ถูกฟ้องแล้ว 1.7 แสนราย โดยประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีการยื่นฟ้องศาลอีกรอบหนึ่ง

สำหรับส่วนลูกหนี้ที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว อยู่ในชั้นการบังคับคดียึดทรัพย์ ล่าสุดมีประมาณ 5 หมื่นราย คิดเป็นมูลค่าหนี้กว่า 263 ล้านบาท

อนึ่ง ผู้รับจ้างติดตามเร่งรัดหนี้จะต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายการทวงถามหนี้อย่างเป็นธรรม โดยมีหน้าที่ติดตามทวงถามหนี้กับลูกหนี้ที่ถูกดำเนินคดีในปี 2559 ต้องรายงานความคืบหน้าการติดตามหนี้ทุกวันที่ 10 ของเดือน โดยสัญญาว่าจ้างมีกำหนดติดตามเร่งรัดหนี้จนถึงเดือนกันยายน ปี 2561

ภาพจาก studentloan.or.th

ศธ. ยกเลิกนโยบายซื้อหนังสือเรียนฟรี หลังหมดงบซื้อซ้ำกว่า 5,000 ล้าน

กระทรวงศึกษาธิการ ยกเลิกนโยบายซื้อหนังสือเรียนฟรีรายบุคคล เปลี่ยนเป็นให้ยืมเรียนแทน หลังเสียงบประมาณซ้ำปีละ 5,000 ล้านบาท เริ่มใช้ปีการศึกษา 2560

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2560  นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดำเนินปรับรูปแบบการซื้อหนังสือเรียนฟรีใหม่ จากที่ซื้อให้นักเรียนเป็นรายบุคคล ต้องเสียงบประมาณซื้อซ้ำปีละ 5,000 ล้านบาท   เป็นการซื้อเข้าสถานศึกษาและให้นักเรียนยืมเรียน    ยกเว้นแบบฝึกหัดที่ต้องซื้อแจกรายบุคคล

สำหรับนโยบายดังกล่าว จะเริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา 2560   และจะใช้ในวิชาเรียนที่ไม่เปลี่ยนแปลงเนื้อหาบ่อย ๆ

เกณฑ์ กยศ.ใหม่ เพิ่มดอกเบี้ย-เผยข้อมูลผู้กู้-ให้ที่ทำงานหักเงินเดือนจ่ายหนี้

พ.ร.บ. กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาฉบับใหม่ ที่คาดว่าจะมีผลบังคับใช้กลางปีหน้า ปรับการติดตามหนี้จากผู้กู้หลังจบการศึกษา ขยับเพดานอัตราดอกเบี้ยเป็นไม่เกิน 7.5% ให้สถานประกอบการหรือนายจ้างหักเงินจากลูกจ้างที่เป็นลูกหนี้ ส่งคืนให้กองทุนฯ

Photo of human hands holding pencil and marking numbers in documents

นายปรีชา บูชางกูร รองผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า พ.ร.บ. กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาหรือ กยศ.ฉบับใหม่ มีการปรับปรุงให้กองทุนฯ มีการบริหารจัดการที่คล่องตัวมากขึ้น มีประสิทธิภาพในการติดตามหนี้ โดย หนึ่งในมาตรการที่นำมาใช้ คือ การเปิดเผยข้อมูลผู้กู้กับสถานประกอบการ โดยกองทุนจะแจ้งสถานประกอบทั้งภาครัฐ และเอกชนให้เป็นตัวกลางในการหักเงินจากลูกจ้างซึ่งเป็นลูกหนี้ กยศ.และนำเงินส่งโดยตรงกับกรมสรรพากร หากสถานประกอบการละเลยหรือไม่ปฎิบัติ ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย และต้องรับผิดชอบในการชดใช้หนี้งวดที่ลูกหนี้ผิดนัดค้างชำระพร้อมเบี้ยปรับ

สำหรับการเปิดเผยข้อมูลผู้กู้ รองผู้จัดการกองทุน กยศ. ระบุว่าข้อมูลที่เปิดเผยจะเป็นไปเพื่อการติดตามหนี้เพื่อให้รู้หลักแหล่งที่ทำงาน ส่วนการที่สถานประกอบต้องหักเงินนำส่งสรรพากรนั้น ถือเป็นหน้าที่ที่ระบุไว้ในกฎหมาย แต่ไม่มีบทลงโทษต่อผู้กู้ มีเพียงบทลงโทษนายจ้างเท่านั้น

“กฎหมายใหม่กำหนดว่า ผู้กู้ทำงานที่ไหนมีหน้าที่แจ้งนายจ้างว่าเป็นหนี้ กยศ.และยินยอมให้หักเงินเดือนนำส่งสรรพากรเพื่อชำระหนี้กับกองทุน หลักการใหม่จะเป็นอย่างนี้”   นายปรีชา กล่าว

ส่วนอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นในกฎหมายระบุไว้ไม่เกินร้อยละ 7.5 ซึ่งอัตรานี้ มีการเพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยเดิมที่อยู่ร้อยละ 1 ซึ่งการเพิ่มอัตรดอกเบี้ย ก็เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้ผู้กู้ไม่ผิดค้างชำระ ซึ่งตัวเลขนี้ จะมีการกำหนดก่อนมีการทำสัญญาระหว่างกู้ในแต่ละปี โดยจะยึดตามสภาวการณ์ หรือการพิจารณาร่วมกันของบอร์ดกรรมกองทุนฯ )

ด้านโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชนหรือไอลอว์ เปิดเผยว่า ร่างกฎหมายใหม่นี้ผ่านความเห็นชอบประกาศใช้เป็นกฎหมายจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไปตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา เหลือเพียงขั้นตอนการประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น

———–ขอบคุณข้อมูลจาก http://news.thaipbs.or.th/content/259012

การแสดงของทีม AFS (At First Sight) เต้นประกอบเพลง Right Now ใน Abum : Rihanna

เต้นประกอบเพลงในงานแนะแนวนักเรียน
เต้นประกอบเพลงในงานแนะแนวนักเรียน (ภาพโดยนิเวศน์ อินติ๊บ)

การแสดงของทีม AFS (At First Sight)
เต้นประกอบเพลง Right Now ใน Abum : Rihanna
ในโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาพื้นฐานของครูและนักเรียนผ่านแนวทางค้นหาตัวตน
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2559 ณ มหาวิทยาลัยเนชั่น ลำปาง


Smartphone :  i-mobile iq big 2
Price : 3990
Back Camera : 12 Megapixels
Song : Right now
Singer : Rihanna
Lyric :

https://www.youtube.com/watch?v=fh2M9j4nfN8

Tomorrow’s way too far away
And we can’t get back yesterday
But we young right now
We got right now
So get up right now
‘Cause all we got is right now

Tomorrow’s way too far away
And we can’t get back yesterday
But we young right now
We got right now
So get up right now
‘Cause all we got is right now

Baby tonight I need you
And I feel it when I see you
Wherever you wanna go
Whenever baby I’m yours

Tomorrow’s way too far away
And we can’t get back yesterday
But we young right now
We got right now
So get up right now
‘Cause all we got is right now

Tomorrow’s way too far away
And we can’t get back yesterday
But we young right now
We got right now
So get up right now
‘Cause all we got is right now

So close I can taste you
Ain’t scared I can take you
Can’t fight the feeling
Can you feel me?
You got me feel it

Something you wanted to do all your life
There’s no more waiting ‒ tonight is the night
And we can’t be wrong, not if it feels this right
Turn it up, scream it loud, yeah.

Tomorrow’s way too far away
And we can’t get back yesterday
But we young right now
We got right now
So get up right now
‘Cause all we got is right now

Tomorrow’s way too far away
And we can’t get back yesterday
But we young right now
We got right now
So get up right now
‘Cause all we got is right now

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=976023865877719&set=oa.1241182539280947&type=3&theater

เด็กเรียนวิทย์ต้องรู้ 10 อาชีพที่ไทยยังขาดแคลน

C261A

ส่วนใหญ่ยังเข้าใจแบบเดิมๆ ว่าการที่เรียนวิชาวิทย์-คณิตนั้นก็เพื่อจบมาจะต้องเป็นหมอ พยาบาล แต่รู้หรือไม่ว่า สาขาอื่นๆ ของวิทยาศาสตร์ที่คุณอาจไม่คุ้นหูนั้น สามารถจบมาเป็นนักวิจัย ทดลอง และพัฒนาสิ่งต่างๆ ในประเทศให้ดีอีกมากมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละ ที่บ้านเรายังขาดแคลนอยู่จำนวนมากจนต้องนำบุคลากรจากต่างประเทศเข้ามาแทน

องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ระบุว่า 10 อาชีพเหล่านั้นประกอบด้วย

  1.  นักคิดค้นยา หรือนักเคมีปรุงยา 

2.  นักธรณีวิทยาปิโตเลียม 

3.  นักวิทยาศาสตร์ด้านอาหาร

4.  นักวิทยาศาสตร์ด้านเครื่องสำอาง

5.  นักนิติวิทยาศาสตร์

6.  นักปรับปรุงพันธุ์พืช

7.  นักออกแบบผลิตภัณฑ์

8.  นักวิศวกรชีวการแพทย์

9.  นักพัฒนาซอฟต์แวร์

10.  นักออกแบบและสร้างภาพเคลื่อนไหว

ข้อมูลจาก matichon

10 อาชีพที่น่าแนะนำเยาวชนว่าเรียนแล้วมีอนาคตสดใส

10 อาชีพที่น่าจะรายได้ดี และมีโอกาสได้งานทำสูง
ในยุคอินดัสทรี (Industry) 4.0

ธนวรรธน์ พลวิชัย” ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ให้ข้อมูลอาชีพในอนาคต ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างสูงในไทย 10 อันดับ ได้แก่

1. อาชีพเขียนโปรแกรมเมอร์  (Programmer)
ผู้ที่คิดค้นแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ตามเทรนด์สังคมโลกเปลี่ยนผ่าน
จาก analog สู่ digital จากกดปุ่มเป็นจอสัมผัส
และไปสู่อินดัสทรี 4.0 ที่มีดิจิตอลเป็นหัวใจ

2.อาชีพที่เกี่ยวข้องกับความสวย ความงาม (Beauty)
ผู้รับทำให้ผู้คนสวยงาม ได้แก่ แพทย์ศัลยกรรม แพทย์ผิวหนัง ทันตแพทย์ เภสัชกร พนักงานขายสินค้าด้านความงาม ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับหญิงและชาย ซึ่งในไทยเป็นที่นิยมอย่างมาก

3.อาชีพดูแลด้านสุขภาพ (Health)
ครอบคลุมตั้งแต่เด็กถึงวัยชรา เทรนด์นี้ทั้งโลกให้ความสำคัญ โดยเฉพาะไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ อยากมีอายุยืนยาวขึ้น ยอมจ่ายเเพื่อตรวจสุขภาพประจำปีกับโรงพยาบาล รับประทานอาหารที่เน้นดูแลตัวเอง และธุรกิจฟิตเนส เทรนเนอร์ จะได้รับความนิยม

4.อาชีพที่เรียนด้านวิทยาศาสตร์เคมี ชีวเคมี  (Science)
ผู้ที่เรียนทางวิทยาศาสตร์ ปัจจุบันมีการใช้สารเคมีที่มาจากธรรมชาติ จากพืช อาทิ การใช้พลาสติกจากชานอ้อย บริษัทที่ผลิตสินค้าที่ผลิตจากพืชจะได้รับความนิยม เพราะโลกจะให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม

5.อาชีพที่เกี่ยวข้องกับพลังงาน (Energy)
ผู้ที่มีความรู้เรื่องพลังงาน พลังงานทดแทน การดูแลสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะพลังงานไฟฟ้ามีบทบาทในชีวิตประจำวัน

พลังงานทดแทน
พลังงานทดแทน

6.อาชีพที่มีความชำนาญด้านเครื่องกลขั้นสูง (Mechanical specialist)
ผู้ที่จะเป็นกลไกสำคัญพาประเทศปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม

7.อาชีพที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษา (Language)
ผู้ที่มีความรู้ในภาษา มีทักษะทั้งการพูด การเขียน การคิดสโลแกน ถ้อยคำ ภาษาสำคัญ คือ อังกฤษและจีน ที่ใช้ทั่วโลก และภาษาอารบิกสำหรับชาวมุสลิมที่กระจายอยู่ทั่วโลก รวมถึงภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น

8.อาชีพนักกฎหมายธุรกิจ (Law)
นักกฎหมายที่มีความรู้เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ

9.อาชีพที่ดูแลสิ่งแวดล้อม (Environment)
ผู้มีความรู้เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการฟื้นฟูธรรมชาติ

10.  อาชีพที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง (Pet)
อาชีพสัตวแพทย์ ผู้ผลิตวัคซีนสำหรับสัตว์เลี้ยง ร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง แฟชั่นสัตว์เลี้ยง และการผลิตอาหารสัตว์

อาชีพทั้งหมดนี้ประเมินจากโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่มุ่งสู่อุตสาหกรรม 4.0 ที่มีระบบดิจิตอลเป็นหัวใจสำคัญ ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงจากโรบอติก เชื่อมโยงโลก ต้องการแรงงานทักษะ แต่ลดการใช้แรงงานทั่วไป การเปลี่ยนของโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศที่เกิดขึ้น “อรรชกา สีบุญเรือง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แสดงความเห็นว่า ต่อไปประเทศไทยต้องก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ใช้เทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำมากขึ้น ทำให้ความต้องการแรงงานทั่วไปลดลง แต่ต้องการแรงงานที่มีทักษะสูง โดยขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม รวมทั้งภาคเอกชน ได้หารือร่วมกัน เพื่อปรับหลักเกณฑ์การเรียนการสอนให้นักศึกษาใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการแรงงานของภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวยังมั่นใจว่า ภายใน 5 ปีข้างหน้าจะเห็นภาพการเปลี่ยนแปลง คือ ความต้องการแรงงานที่ต้องใช้ทักษะอาชีพที่มีความเชี่ยวชาญขึ้น แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบจนเลิกจ้างงาน หรืออัตราการว่างงานเพิ่มมากขึ้น เพราะตอนนี้แรงงานในภาคบริการยังขาดอยู่มาก อาทิ ภาคท่องเที่ยว ซึ่งอัตราการขยายตัวของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาจมีการโยกแรงงานจากอุตสาหกรรมการผลิต เข้าสู่อุตสาหกรรมภาคบริการเพิ่มขึ้น แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมจะเตือนให้รับมืออนาคต แต่ที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน คือนโยบายลดพนักงานลงแบบสมัครใจออก ของบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ที่จัดโครงการ “จากกันด้วยใจ” โดยเป็นพนักงานในส่วนของการรับเหมาค่าแรง (ซับคอนแทร็กต์) ที่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1,000 คน สาเหตุที่โตโยต้าปรับลดพนักงาน บริษัทให้ข้อมูลว่า เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศยังคงชะลอตัว ประกอบกับความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีผลต่อการส่งออก ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ต้องปรับลดกำลังการผลิตลง และมีพนักงานเกินความจำเป็นในการผลิต แต่ยืนยันว่าหากกำลังผลิตกลับมาปกติจะกลับมาจ้างงานกลุ่มที่ลาออกแน่นอน แม้จะเป็นการจากลาแบบ “สมยอม” แต่ลึกๆ ในกลุ่มแรงงานเองต่างหวาดหวั่นกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งหวาดหวั่นกับสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวจนบริษัทใหญ่ต้องลดพนักงาน เกิดการตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่า จริงๆ แล้วเศรษฐกิจไทยกำลังดี หรือชะลอตัว เพราะในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน หัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาล “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกรัฐมนตรี เพิ่งประกาศกับนักลงทุนญี่ปุ่นภายในการประชุมแบงค็อก นิกเกอิ ฟอรั่ม 2559 จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตดี โดยเฉพาะไตรมาส 2 มากกว่า 3% อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลบ่งชี้สถานการณ์การจ้างงานของไทย เปิดเผยโดยกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ตัวเลขการว่างงานของไทยช่วง 3 เดือนของปีนี้ พบว่าเดือนเมษายน มีตัวเลขผู้ว่างงาน 1% เดือนพฤษภาคม 1.2% และเดือนมิถุนายน 1% โดยกระทรวงแรงงานยืนยันว่าตัวเลขดังกล่าวอยู่ในภาวะปกติ แต่หลายคนก็มองว่าตัวเลขการว่างงานดังกล่าวดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องปกตินักเพราะสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เอง ก็กำลังจับตาการจ้าง 5 เดือนแรกของปีนี้ ระหว่างเดือนมกราคม-พฤษภาคม พบว่า มีอัตราการว่างงานเฉลี่ยอยู่ที่ 385,682 คน จากกำลังแรงงานทั้งหมด 38.5 ล้านคน หรือคิดเป็น 1.07% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ระดับ 0.93% นอกจากนี้ สำนักเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ยังให้ข้อมูลว่าแนวโน้มการจ้างงานในปี 2559 จะมีบัณฑิตจบใหม่ 100,000 คน และ 1 ใน 4 อาจไม่มีงานทำ แม้สถานการณ์จ้างงานจะไม่สู้ดีนัก แต่ถ้ารู้จักรับมือและมองเทรนด์โลกให้ออก เชื่อว่าไม่มีคำว่า “ตกงาน” แน่นอน

 

ที่มา คอลัมน์ เศรษฐกิจ
มติชนสุดสัปดาห์ หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์
วันที่: 23 ก.ค. 59 เวลา: 07:46 น.

 

อ้างอิง http://www.matichon.co.th/news/220863
อ้างอิง  http://www.kroobannok.com/article-79488-10-อาชีพในอนาคต-ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างสูงในไทย.html
ข้อมูลเพิ่มเติม

แรงงานเชี่ยวชาญ

             การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 9 เมื่อ 7 ตุลาคม 2546 ที่บาหลี อินโดนีเซีย ได้กำหนดจัดทำข้อตกลงร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangements : MRAs) เกี่ยวกับคุณสมบัติของวิชาชีพหลัก แรงงานเชี่ยวชาญ หรือผู้มีความสามารถพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรี โดยจะเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2558

ในเบื้องต้นได้ทำข้อตกลงร่วมกันแล้ว 7 สาขา

    1. วิศวกรรม (Engineering Services)
    2. พยาบาล (Nursing Services)
    3. สถาปัตยกรรม (Architectural Services)
    4. การสำรวจ (Surveying Qualifications)
    5. แพทย์ (Medical Practitioners)
    6. ทันตแพทย์ (Dental Practitioners)
    7. บัญชี (Accountancy Services)
แรงงานเชี่ยวชาญ
แรงงานเชี่ยวชาญ

http://www.thaiall.com/asean/

ณธิดา ขลุ่ยภิรมย์รัตน์ เข้ารอบนางสาวไทย 2559

ณธิดา ขลุ่ยภิรมย์รัตน์ เข้ารอบนางสาวไทย 2559
ณธิดา ขลุ่ยภิรมย์รัตน์ เข้ารอบนางสาวไทย 2559

https://www.facebook.com/nathida.kluiphiromrat
ทุก ๆ  ปีจะมีการประกวดนางสาวไทย ในประเทศไทย
http://www.missthailandofficial.com/
แล้วปีนี้นักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเนชั่น
ที่ได้เข้ารอบ 34 คนสุดท้าย คือ
น้องแตงกวา นางสาวณธิดา ขลุ่ยภิรมย์รัตน์ (Nathida Kluiphiromrat)
นักศึกษานิเทศศาสตร์ ชั้นปีที่ 2
มหาวิทยาลัยเนชั่น ศูนย์เนชั่นบางนา

เชิญชวนชาวเนชั่น ให้กำลังใจในการประกวดนางสาวไทยปีนี้


เมื่อมีนาคม 2015 น้องแตงกว่าเข้ารอบ 25 คนสุดท้าย
ของการประกวด Miss Motor Show Thailand
https://www.facebook.com/MissMotorshowThailand/photos/t.100000432666727/789338437782795/

ณธิดา ขลุ่ยภิรมย์รัตน์
ณธิดา ขลุ่ยภิรมย์รัตน์

เข้ารอบนางสาวไทย 34 คนสุดท้าย
การประกวด นางสาวไทย 2559
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1195076070516804&set=a.385463871478032.97213.100000432666727

Nathida Kluiphiromrat ใน Missthailand2016

Nathida Kluiphiromrat ใน Missthailand2016
Nathida Kluiphiromrat ใน Missthailand2016

https://www.facebook.com/missthailandofficial/photos/a.275202056163519.1073741846.255567001460358/275202216163503/