เราคุยกับสมาร์ทโฟนรู้เรื่อง (itinlife323)

โทรศัพท์ธรรมดาที่เคยใช้เพื่อการโทรออก และรับสายเข้าถูกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีการพัฒนาสมาร์ทโฟน (Smart Phone) ที่เป็นได้มากกว่าโทรศัพท์ธรรมดา ยุคสมัยหนึ่งนิยมเรียกสมาร์ทโฟนว่าคอมพิวเตอร์มือถือ เพราะนอกจากจะดูหนัง ฟังเพลง ถ่ายภาพได้แล้ว ยังสามารถเปิดอ่านเอกสาร ตารางข้อมูล ตารางนัดหมาย ภาพถ่าย คลิ๊ปวีดีโอ หรือแฟ้มอื่นอย่างหลากหลาย ปัจจุบันรุ่นของสมาร์ทโฟนที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด คือ IPhone 4S ของบริษัทแอ็บเปิ้ล มีความสามารถใกล้เคียงกับเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างมาก รองรับโปรแกรมจากผู้พัฒนาทั่วโลก และส่วนใหญ่ดาวน์โหลดมาใช้ได้ฟรี

ในบรรดาโปรแกรมเสริม หรือแอพพลิเคชั่น (Application) ที่สามารถดาวน์โหลด หรือซื้อหามาติดตั้งนั้น มีแอพที่ชื่อว่า สิริ (SIRI) คือ ซอฟท์แวร์รับคำสั่งด้วยเสียง สามารถตอบคำถาม หรือสั่งงานอุปกรณ์ได้อย่างน่าทึ่ง เสมือนพูดคุยกับมนุษย์ตามหลักปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) โปรแกรมสิริเริ่มพัฒนาตั้งแต่ปีพ.ศ.2550 มีนักทำนายด้านเทคโนโลยีคาดการณ์ว่า การรับคำสั่งด้วยเสียง และนำไปพัฒนาโปรแกรมต่าง ๆ จะเป็นเทคโนโลยีแบบก้าวกระโดดในพ.ศ.2555 นี้ แม้อุปสรรคสำคัญของการรับคำสั่งด้วยเสียงคือภาษาและเสียงของมนุษย์ แต่จากการทดสอบ และมีผู้นำเสนอผลการทดสอบไว้ใน youtube.com ทำให้รู้สึกมั่นใจขึ้นว่าอุปกรณ์กลุ่มสมาร์ทโฟนจะมีการพัฒนาไปในแนวของการรับคำสั่งด้วยเสียง หลังจากความสำเร็จจากการรับคำสั่งทางจอภาพ (Touch Screen) กลายเป็นที่ยอมรับไปแล้ว

ตัวอย่างประโยชน์ของการรับคำสั่งด้วยเสียง อาทิ บอกเวลา สั่งตั้งนาฬิกาปลุก สั่งเปิดเพลง สั่งเปิดเว็บไซต์ ตอบคำถามทั่วไป ตอบเรื่องการพยากรณ์อากาศ เวลา หรือสถานที่ ตอบได้ว่าผลบวก ลบ คูณ หารของจำนวนเป็นเท่าใด ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการประยุกต์ใช้สิริในสมาร์ทโฟน สำหรับโปรแกรมที่มีความสามารถคล้ายกับสิริ อาทิ Dragon Go หรือ Vlingo หรือ Tellme ความพยายามต่อยอดในการพัฒนาสิริพบได้อีกมายมาย อาทิ การสนับสนุนการใช้งานของผู้พิการ (Disability) การสั่งงานด้วยคลื่นสมอง (Brain Waves)

เด็กชายปลาบู่

คลิปวิดีโอ เด็กชายปลาบู่ คำพยากรณ์ภัยพิบัติ ค.ศ.2012 เมื่อ 38 ปีที่แล้ว คำทำนายอนาคตของเด็กชายปลาบู่ ลูกชายเพียงคนเดียวของ นายทอง ใบคำสี ชาวจังหวัดจันทบุรี ตามคำบอกเล่าของนายทอง เด็กชายปลาบู่ ได้ไถ่ถามตนในเรื่องราวต่าง ๆ ของอนาคต และเล่าถึง คำทำนายที่เด็กชายปลาบู่รู้เห็นด้วยญาณทิพย์ เป็นคำพยากรณ์ภัยพิบัติ 2012 ทั้งในเรื่องที่เกี่ยวกับ สึนามิในญี่ปุ่น น้ำท่วมครั้งใหญ่ของไทย รวมถึง สงครามโลกครั้งที่ 3 แต่ละเรื่องน่ากลัวมาก .. โปรดใช้วิจารณญานในการรับชมด้วย

หัวเลี้ยวหัวต่อของแฟลช (itinlife322)

skyfire
skyfire2


26 ธ.ค.54 เว็บไซต์ คือ แหล่งข้อมูลที่บรรจุด้วยตัวอักษร ภาพ เสียง วีดีโอ และสื่อผสมแบบโต้ตอบ ในยุคแรกมีการพัฒนาสื่อผสมหลายรูปแบบ แล้วหลายปีที่ผ่านมารูปแบบของสื่อผสมที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และได้รับความนิยมสูงสุด คือ อะโดบีแฟลช (Adobe Flash) (ในชื่อเดิม ช็อกเวฟ แฟลช – Shockwave Flash และ แมโครมีเดียแฟลช – Macromedia Flash) การใช้งานสื่อประเภทนี้จำเป็นต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติม หรือเรียกว่าโปรแกรมเสริม บางเครื่องอาจติดตั้งมาพร้อมโปรแกรมบราวเซอร์ หรือติดตั้งมาพร้อมระบบปฏิบัติการ  จนผู้ใช้หลายท่านอาจไม่ทราบว่าสิ่งที่ใช้งานอยู่เรียกว่าอะไร เป็นของบริษัทใด แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดคิดว่า อุปกรณ์ที่กำลังมาแรงในกลุ่มอุปกรณ์พกพาของบริษัทแอปเปิล ทั้ง IPhone, IPod และ IPad กลับไม่ติดตั้งตัวประมวลผลแฟ้มประเภทแฟลชมาพร้อมเครื่อง

          เมื่อสืบค้นหาคำตอบว่า ทำไมอุปกรณ์ของบริษัทแอปเปิลที่บริหารงานโดยสตีฟ จอบส์ ไม่สนับสนุนอะโดบีแฟลช ก็มีคำอธิบายว่า การใช้อะโดบีแฟลชทำให้สิ้นเปลืองแบตเตอรี่ เนื่องจากอุปกรณ์แบบพกพาจำเป็นต้องมีน้ำหนักเบา ดังนั้นแหล่งจ่ายพลังงานต้องมีขนาดเล็ก และการประมวลผลต้องถูกออกแบบให้ใช้พลังงานต่ำที่สุด การไม่บริการแฟ้มประเภทแฟลชก็เพื่อให้อุปกรณ์มีอายุการใช้งานนานขึ้น ซึ่งทางเลือกใหม่ในการแสดงผลที่คล้ายแฟลช คือ HTML5 ซึ่งคาดว่าจะมาแทนที่อะโดบีแฟลชในอนาคตอันใกล้ แต่อุปกรณ์พกพาที่เป็นคู่แข่งของบริษัทแอบเปิลหลายรายกลับยังให้การสนับสนุนแฟลช ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม ถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของแฟลชที่ต้องจับตา

          ปัญหาการไม่สนับสนุนแฟลชอาจกระทบผู้ใช้หลายกลุ่ม อาทิ ผู้ที่นิยมเล่นเกมที่ใช้แฟลช หรือเว็บไซต์ที่มีแฟลชเป็นองค์ประกอบ แล้วยังมีอีกหลายเว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหาทั้งหมดด้วยแฟลช ในขณะนี้มาตรฐาน HTML5 ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาและทดสอบ ก็อาจต้องติดตามว่าอะไรจะเกิดขึ้นระหว่าง HTML5 กับแฟลช แล้วนโยบายของการไม่บริการแฟลชของบริษัทแอปเปิลกับ Tablet PC ของคู่แข่ง ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้พัฒนาเว็บไซต์ต้องลุ้นระทึก ตัดสินใจ วางแผนในการกำหนดทิศทาง และปรับปรุง เพื่อให้สามารถก้าวต่อไปในตลาดการแข่งขันยุคที่วิวัฒนาการของเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

http://apptube.exteen.com/20101105/skyfire-2-flash-iphone

อีเมลของสมาชิกในองค์กร

ปัจจุบันสังเกตได้ว่า ผู้คนมักใช้อีเมลของ hotmail.com หรือ gmail.com มากกว่าขององค์กรด้วยเหตุกระแส social media

เช่น

ใช้ google doc ก็ต้องมีอีเมลของ gmail.com
จะใช้ skydrive ก็ต้องมีของ hotmail.com
จะใช้ youtube ก็ต้องมีของ gmail.com
จะใช้อีเมลระดับองค์กรที่ gmail.com ให้บริการก็ไม่ได้

แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้อีเมลขององค์กร ก็ต้องมาดูความแตกต่างใน 2 กลุ่มหลัก
1. พนักงานบริษัท
มักใช้ name@company.com
เช่น sombat.somboon@apple.com
เพราะ ชื่อบุคลากรเป็นการแสดงตัวตน เป็นการให้เกียรติผู้รับ
และมักใช้งาน เพื่อสื่อสารกับบุคคลภายนอกอย่างเป็นทางการ
การใช้ชื่อสกุล ทำให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพ

2. นักเรียน/นักศึกษา
มักใช้ id@school.com
เช่น u54011001@lampang.ac.th
เพราะ รหัสนักศึกษา เป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนผ่านรหัส
อาจารย์และนักเรียน ใช้เป็นคำสำคัญในการสื่อสาร
การติดต่อในแต่ละหน่วยงาน มักใช้รหัสนักศึกษาเป็น key อย่างเป็นทางการ
การใช้ key เดียวกัน ทำให้ระบบต่าง ๆ สื่อสารไปในทางเดียวกัน
หลังสำเร็จการศึกษา หรือพ้นสภาพ จะไม่มีสิทธิใช้อีเมลเดิมต่อไป

DSI บุกรวบหนุ่มไทยหลอกตั้งแชร์ลูกโซ่ iPhone 5

iphone4s & iphone4
iphone4s & iphone4

iPhone 5 (4S) – มิจฉาชีพอาศัยกระแสความต้องการ iPhone 5 (ก่อนที่จะกลายร่างมาเป็น iPhone 4S ในเวลาต่อมา) มาหลอกลวงและเอาเปรียบผู้ที่ไม่รู้เรื่องราวโดยทั่วไป หลังจากมีรายงานข่าวบนเว็บไซต์ Matichon ระบุว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายแชร์ลูกโซ่ iPhone 5 เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้สำหรับยอดค่าความเสียหายของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากกรณีแชร์ลูกโซ่ iPhone 5 ดังกล่าวมีรวมกันถึงเกือบ 300 ล้านบาทเลยทีเดียว!

เห็นแล้วก็นึกถึงกรณี ไอโฟนห่า ที่ก็เป็นกระทู้ยอดฮิตประจำปีในเว็บไซต์ Drama-Addict อยู่ไม่น้อยเหมือนกันกับความเสียหายของเหยื่อหลายรายที่ต้องหมดเงินจำนวนมาก ไปกับ iPhone 5 ที่แม้แต่ Steve Jobs ยังไม่เคยเห็นหน้าตาเลยด้วยซ้ำมั้ง!  ดีเอสไอจับหนุ่มหลอกตั้งแชร์ลูกโซ่ iPhone 5 เหยื่อเสียหายรวมมูลค่ากว่า 300 ล้าน (ที่มา: matichon)
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษกล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องร้องเรียนจาก น.ส.ศุภางค์ ตรงกมลธรรม กับผู้เสียหายรวม 22 คน ซึ่งตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ กล่าวคือ ระหว่างเดือน มิ.ย.53 ถึง ต.ค.54 นายพฤติ จารุโภคกุล ได้ชักชวนหลอกลวง น.ส.ศุภางค์ ตรงกมลธรรม กับผู้เสียหายรวม 22 คน ว่าประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายโทรศัพท์มือถือ iPhone 4, iPhone iOS และ BlackBerry Bold 9900 รวมทั้งประมูลคอมพิวเตอร์ทางอินเตอร์เน็ตจากแหล่งรับซื้อขายโทรศัพท์ที่ต่าง ประเทศ ในลักษณะเก็งกำไร โดยมีร้านขายโทรศัพท์มือถือที่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครองชื่อหมูแซตเทิลไลท์ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นริชชี่ ชั้น 4 ฝั่งโซนคิว

นายพฤติ ได้เสนอผลประโยชน์ตอบแทนให้กับผู้ให้กู้ยืมเป็นเงินในอัตรา ร้อยละ 10-40 ของเงินลงทุนต่อรอบการลงทุนประมาณ 25-34 วัน ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ ทำให้ น.ส.ศุภางค์กับพวกหลงเชื่อว่าเป็นความจริง จึงร่วมลงทุนและมอบเงินให้นายพฤติไป ซึ่งนายพฤติก็ได้ให้ผลประโยชน์ตอบแทนตามที่ตกลงเอาไว้มาโดยตลอด แต่ต่อมาประมาณเดือนมิถุนายน นายพฤติได้ส่งข้อความว่า จะซื้อ iPhone 5 มาขาย โดยอ้างว่าจะสั่งซื้อสินค้ากับบริษัทแอปเปิ้ล (Apple Computer Inc.) โดยตรงและจะเป็นผู้นำสินค้าไปขายให้กับกลุ่มลูกค้า หากสนใจร่วมลงทุนให้แจ้งความประสงค์ และโอนเงินเข้าบัญชี โดยจะให้กำไรถึงร้อยละ 10-42 ของเงินลงทุนต่อรอบการลงทุน 25-34 วัน ทำให้ น.ส.ศุภางค์กับพวกหลงเชื่อและโอนเงินให้ซึ่งก็ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเรื่อย มา กระทั่งในวันที่ 5 ตุลาคม บริษัท Apple ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย iPhone 5 ได้แถลงข่าวเลื่อนการเปิดตัว iPhone 5 เข้าสู่ตลาดออกไปก่อน ทำให้ น.ส.ศุภางค์กับพวกสงสัยและพยายามติดต่อกับนายพฤติ แต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปและไม่จ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้กับผู้เสียหายที่ร่วม ลงทุนตามที่ตกลง รวมเงินที่นายพฤติหลอกลวงไปจากผู้เสียหายทั้งหมดจำนวน 301,329,977 บาท

พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สอบปากคำผู้เสียหาย พบว่า ผู้เสียหายไม่เคยได้รับสินค้า เพราะนายพฤฒิจะเป็นผู้นำไปขายให้เองโดยอ้างว่ามีกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่าง ประเทศรับซื้ออยู่แล้ว จึงสืบสวนหาร้านขายโทรศัพท์มือถือที่ห้างสรรพสินค้ามาบุญครองตามที่นายพฤฒิ กล่าวอ้าง แต่ไม่ปรากฏว่ามีชื่อร้านดังกล่าวตั้งอยู่ หรือเคยทำสัญญาเช่าสถานที่กับห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง แต่อย่างใด นอกจากนี้ จากการสืบสวนหาข้อมูลจากกรมศุลกากร กรณีการประมูลโทรศัพท์มือถือจากต่างประเทศ และการนำเข้าโทรศัพท์มือถือในเบื้องต้นทราบว่า ไม่มีข้อมูลการได้รับใบอนุญาตนำเข้า และใบอนุญาตจากการกรมทรัพย์สินทางปัญญา กรณีสินค้าลิขสิทธิ์ และจากการตรวจสอบเอกสารทางการเงินพบว่ามีการโอนระหว่างนายพฤฒิกับผู้เสียหาย ผ่านธนาคารต่างๆ จริง คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับนายพฤฒิและสามารถติดตามตัวจับกุมมาได้ใน ที่สุด รวมทั้งได้ทำการบุกค้นบ้านพักในย่านห้วยขวาง พร้อมกับทำการตรวจยึดเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องจำนวน 7 รายการไว้ทำการตรวจสอบต่อไป

บทความโดย: ekk TechXcite
ที่มา: matichon

http://hitech.sanook.com/944406/dsi-%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%88-iphone-5-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88/

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sitcom&month=08-12-2011&group=9&gblog=232

http://www.techxcite.com/content.php/10/7721/iPhone+5%3A+DSI+%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B9%88+iPhone+5+%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2+300+%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97!/

http://www.n1t2asuz.com/iphone-4s

คลิ๊ปแนะนำการติดตั้ง Flash Player ใน iphone 4

เสกโลโซ กับเฟซบุ๊ค และยาเสพติด

http://www.youtube.com/watch?v=fCv0pZqYJzg
เสก โลโซ เจอพิษยาเสพติด เป็นเหตุให้มีข้อพิพาทกับตำรวจ ค่ายเพลงแกรมมี่ เพื่อนร่วมอาชีพ ในปลายปี 2554 .. เพราะมีประโยคปัญหาคือ “เป็นศิลปิน แม้ว่าจะใช้ยา ก็สามารถควบคุมตัวเองได้”
http://video.mthai.com/player.php?id=6M1324335940M0
http://www.thairath.co.th/content/ent/225297
http://women.kapook.com/view35364.html

ช่วงนี้มี 2 เรื้่องที่สนใจ เรื่องเสกโลโซ น่าสนใจเพราะ อ.เมธา เกรียงปริญญากิจ (Mehtaxz) เล่าให้ฟังตอนเรียน social media

ส่วนอีกเรื่องเป็นนักเรียนหญิงของโรงเรียนในจังหวัดลำปาง ที่ผมต้องขับรถไปจอดหน้าโรงเรียนทุกวัน ว่าถูกหนุ่มผู้ประสงค์ทรัพย์ทำร้ายร่างกายหลังกลับจากอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และข่าวว่าอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จะพิจารณาเรื่องนี้หลังจากนักเรียนถูกทำร้ายและไปสอบไม่ทัน .. แต่ผมไม่ได้ติดตามต่อ หลังเพื่อนเล่ารายละเอียดให้ฟังเพิ่มเติม

อากงเอสเอ็มเอส 20 ปี (itinlife320)

http://www.youtube.com/watch?v=QLzsUebKuZc

นอกจากข่าวน้ำท่วมปลายปี 2554 ที่เป็นมหาอุทกภัยครั้งประวัติศาสตร์รุนแรงที่สุดของไทยในช่วงชีวิตของเรา แต่ไม่มีใครรับประกันได้ว่าปีถัดไป หรืออีกสิบปีข้างหน้าจะหนักกว่าเดิมหรือไม่ ยังมีข่าวความขัดแย้งของคนตามแนวถุงทรายยัก หรือที่เรียกว่าบิ๊กแบ็ค ที่ได้รับผลกระทบชัดเจน คนเหนือถุงทรายต้องอยู่กับน้ำท่วมยาวกว่าคนอยู่ใต้ถุงทราย ดังนั้นถุงทรายคือเส้นแบ่งระหว่างคนสองกลุ่มอย่างชัดเจน แต่อีกข่าวที่น่าติดตามว่าจะเกิดอะไรต่อไป คือ ข่าวอากงที่ส่ง SMS เข้าข่ายผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 112 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่กระทำผิดไว้ระหว่าง 9 – 22 พฤษภาคม 2553

เทคโนโลยีในปัจจุบันไม่ได้จำกัดที่อายุ เพศ วัย หรืออาชีพอีกต่อไป จากข่าวอากงวัย 61 ปี มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 เครื่อง และมี 2 ซิม ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ส่งข้อความไปถึงผู้คนกว่า 60 คน โดยส่งจำนวน 4 ข้อความ ซึ่งข้อกล่าวหาข้างต้น ศาลได้ตัดสินไปแล้ว และระบุโทษจำคุกถึง 20 ปี ถ้าอากงกระทำการดังข้อกล่าวหาจริงก็ต้องบอกว่าเก่ง และมีความมุ่งมั่นเชิงลบสูง เพราะตั้งแต่ผู้เขียนใช้โทรศัพท์มือถือมาร่วม 20 ปียังส่ง SMS ไม่ถึง 10 ข้อความเลย ถ้าเขียนแต่ละครั้งก็เพียงคำว่า Happy New Year เท่านั้น

สำหรับคลิ๊ปใน youtube.com ประเด็น “อาคง sms” พบหลายสิบคลิ๊ป ทั้งที่เห็นด้วยและเห็นต่าง ประเด็นที่สื่อให้ความสนใจ คือ อากงบอกว่าส่ง SMS ไม่เป็น อากงรับโทษ 20 ปีจากการส่ง 4 ข้อความ อากงจำร้านที่นำโทรศัพท์ไปซ่อมไม่ได้ ถ้าองกงทำจริงมีใครอยู่เบื้องหลัง มีการเสนอให้ทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทุกประเด็นล้วนมีทางออกที่เป็นไปได้ แต่การดำเนินการเพื่อไปให้ถึงทางออกนั้นมีปัจจัยแวดล้อมมากมาย ขึ้นอยู่กับบุคคลที่เกี่ยวข้อง และความจริงที่ถูกซ่อนบ่ม สำหรับกรณีทางออกของอากงมีการเสนอว่า ถ้าอากงสำนึกผิด และขอพระราชทานอภัยโทษ เชื่อว่า พระมหากรุณาธิคุณนั้น ไม่มีที่สิ้นสุด อากงอาจได้กลับคืนสู่ครอบครัวอันเป็นที่รักได้ในไม่ช้า

ข่าวยุบรวมมหาวิทยาลัยก็เพื่อคุณภาพ .. อีกแล้ว

ploy 11
ploy 11

8 ธ.ค.54 ยุบรวมมหา’ลัยผุด ‘ม.กาฬสินธุ์’ แห่งแรกระบุ สกอ.ไม่มีอำนาจ-จัดตามคำขอท้องถิ่น
“พินิติ” ยัน สกอ.ไม่มีอำนาจสั่งยุบรวมมหา’ลัย แต่จะดำเนินการตามคำร้องขอจากจังหวัด หรือท้องถิ่นที่เสนอเข้ามาขอยุบหรือหลอมรวม โดยทุกแห่งต้องผ่านกระบวนการตามแนวทางที่ ครม.ให้ความเห็นชอบ ระบุนอกจาก 6 จว.ยังไม่มีที่ใดขอมาเพิ่มเติม และในจำนวนนี้คาดว่า มหา’ลัยกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ จะตั้งขึ้นก่อนเพราะตรงตามคอนเซ็ปต์
รศ.ดร.พินิติ รตะนานุกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (รองเลขาธิการ กกอ.) กล่าวว่า ตามที่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบหลักการร่างข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและแนวทางการจัดตั้ง มหาวิทยาลัยของรัฐโดยการยุบรวมสถาบันอุดมศึกษาตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นั้นว่า วัตถุประสงค์ของการ เสนอเรื่องดังกล่าวเพื่อสร้างความเข้มแข็งในการจัดการ ศึกษาของประเทศให้มีคุณภาพตอบสนองความต้องการท้องถิ่นและสังคม ซึ่งไม่ได้หมายความว่าสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จะไปมีอำนาจสั่งการยุบรวมมหาวิทยาลัยใดได้ เพียงแต่ที่ผ่านมา สกอ.ได้รับเรื่องร้องขอจากทางจังหวัดหรือท้องถิ่นเพื่อขอจัดตั้งมหาวิทยาลัย ใหม่ รวมถึงการขอยุบหรือหลอมรวมหน่วยงานสถานศึกษาเข้าด้วยกันซึ่งมีทั้งเสนอขอรวม มหาวิทยาลัยกับสถานศึกษาของอาชีวศึกษา หรือยุบรวมวิทยาเขตที่อ่อนแอเข้าด้วยกัน เป็นต้น
แต่เนื่องจากในหลักการไม่ต้องการให้มีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยรัฐขึ้น ใหม่ เพราะจำนวนมหาวิทยาลัยที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นเพียงพอต่อการรองรับนักศึกษา ได้ อีกทั้งนโยบายของรัฐบาลสนับสนุนให้เพิ่มสัดส่วนผู้เรียนในสายอาชีวศึกษา เพิ่มขึ้น ที่สำคัญในอนาคตจำนวนประชากรจะมีจำนวนลดลง เพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องลงทุนเพื่อสร้างมหาวิทยาลัยใหม่ แต่ควรใช้วิธีการหลอมรวมหรือยุบรวมมากกว่า ดังนั้น คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) จึงได้ตั้งคณะทำงานศึกษาหลักเกณฑ์และกำหนดหลักเกณฑ์ซึ่งขณะนี้เมื่อหลัก เกณฑ์เรียบร้อยตามขั้นตอนจึงต้องเสนอให้ที่ประชุม ครม.มีมติรับรองเพื่อใช้เป็นแนวปฏิบัติต่อไป
รศ.ดร.พินิติกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม การจะพิจารณายุบรวมมหาวิทยาลัยใดนั้นจะต้องพิจารณาจากองค์ประกอบต่างๆ ทั้งการศึกษาความเป็นไปได้ในการหลอมรวม ยุบรวม ที่สำคัญต้องได้สถาบันนั้นต้องยินยอมที่จะรวมด้วยเพราะในบางครั้งผู้เสนอขอ รวมอาจจะไม่ใช้สถาบันการศึกษาเองแต่เป็นนักการเมือง ชุมชน เป็นต้น ขณะเดียวกันต้องมีการวางแผนบริหารจัดการทั้งระบบ มีการวางแผนเพื่อพัฒนากำลังในท้องถิ่นเพื่อไม่ให้เกิดการแรงงานย้ายถิ่น ที่สำคัญต้องมีการร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชน อุตสาหกรรมในชุมชนในการพัฒนามหาวิทยาลัยด้วยเพื่อให้มหาวิทยาลัยมีงบประมาณ ส่วนอื่น ๆ มาสนับสนุนนอกเหนือจากที่ได้รับจากรัฐ
“ขณะนี้มีเพียง 6 จังหวัด คือ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ตาก กาฬสินธุ์ ระยอง และกระบี่ ที่เสนอเรื่องเพื่อขอยุบรวม ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่ได้หมายความจะยุบรวมได้เลยในขณะนี้ยังต้องผ่านขั้นตอน ตามองค์ประกอบที่ระบุไว้ ซึ่งผมคิดว่าจังหวัดที่มีความเป็นไปได้ที่จะดำเนินการได้ก่อน คือ มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ เพราะเป็นการยุบรวมมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ ซึ่งเมื่อยุบรวมแล้วไม่เป็นการเพิ่มจำนวนมหาวิทยาลัย อีกทั้งได้มีการประชุมร่วมกันและได้รับการสนับสนุนจากนักการเมืองท้องถิ่น เป็นอย่างดี และคาดว่านางบุญรื่น ศรีธเรศ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.จะเร่งเสนอร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ เข้าสู่การพิจารณาโดยเร็ว”
http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9540000156376

6 ธ.ค.54 มติครม. เห็นชอบยุบรวมมหาวิทยาลัยรัฐ-เชื่ออีก 30 ปีคนเรียนน้อยลง
วันที่ 6 ธ.ค. ผู้สื่อข่าว “ข่าวสด” รายงานว่า นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบหลักการข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และแนวทางการจัดตั้งมหาวิทยาลัยของรัฐด้วยการยุบรวมสถาบันอุดมศึกษาตามแนว ทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดยคาดการณ์ว่าจากนี้ไป 30 ปี จำนวนผู้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยของรัฐจะลดน้อยลง ฉะนั้นหัวใจจึงไม่ได้อยู่ที่การเปิดสถาบันการศึกษาหรือจัดตั้งมหาวิทยาลัย แต่อยู่ที่ประสิทธิภาพของการเรียนการสอนมากกว่า ดังนั้นจึงเตรียมเสนอให้ยุบรวมสถาบันอุดมศึกษา และเนื่องจากศธ. โดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ได้รับมอบหมายให้พิจารณาข้อเสนอจัดตั้งมหาวิทยาลัยของรัฐโดยการหลอมรวม ทั้งจากจังหวัด และนักการเมือง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการศึกษาระดับอุดมศึกษาของประเทศ ให้มีคุณภาพมีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อความต้องการของท้องถิ่น และสังคมอย่างแท้จริง
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า หากจังหวัดหนึ่งมีสถาบันการศึกษาหลายแห่งกระจัดกระจายอยู่ ก็จะยุบรวมเป็นหนึ่งแห่ง เช่น
1.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยที่จ.ชุมพร เสนอโดยจ.ชุมพร โดยยุบรวม ม.แม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) วิทยาเขตชุมพร เข้าด้วยกันเป็น 1 มหาวิทยาลัย
2.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยภาคใต้ตอนบน ที่จ.สุราษฎร์ธานี เสนอโดย จ.สุราษฎร์ธานี เป็นการยุบรวมม.ราชภัฏ (มรภ.) สุราษฎร์ธานี กับม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี เมื่อยุบรวมแล้วไม่เพิ่มจำนวนมหาวิทยาลัย
3.การจัดตั้ง ม.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เสนอโดย จ.ตาก เป็นการยุบรวม ม.เทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ล้านนา วิทยาเขตตาก กับมรภ.กำแพงเพชร ศูนย์อุดมศึกษาแม่สอด ซึ่งในปัจจุบันได้มีการขอเปลี่ยนเป็นการยกฐานะของมรภ.ล้านนา วิทยาเขตตาก ขึ้นเป็นมหาวิทยาลัย เมื่อจัดตั้งแล้วจะเกิดมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้น 1 แห่ง
รองโฆษกฯ กล่าวอีกว่า 4.การจัดตั้ง ม.กาฬสินธุ์ เสนอโดย จ.กาฬสินธุ์ เป็นการยุบรวม มรภ.กาฬสินธุ์ กับ มทร.อีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ เมื่อยุบรวมแล้วจะไม่เพิ่มจำนวนมหาวิทยาลัย 5.การจัดตั้ง ม.ระยอง เสนอโดยจ.ระยอง โดยยุบรวม ม.เทคนิคบ้านค่าย และวิทยาลัยเทคนิคมาบตาพุด เข้าด้วยกันเป็น 1 มหาวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันรูปแบบการจัดตั้งเปลี่ยนเป็นการจัดตั้งวิทยาเขตของมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) 6.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยของฝั่งทะเลอันดามัน เสนอโดย จ.กระบี่ เป็นการหลอมรวม ม.เกษตรศาสตร์ (มก.) ศูนย์วิทยบริการกระบี่ กับสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตกระบี่ และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกระบี่ ซึ่งปัจจุบันขอจัดตั้งมหาวิทยาลัยของฝั่งทะเลอันดามัน โดยไม่ใช้รูปแบบการหลอมรวม ยุบรวม อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งจะทำให้เกิดมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้น 1 แห่ง
“วัตถุประสงค์ ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ เมื่อร่างนโยบายประกาศใช้ ศธ. จะได้ใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาการขอจัดตั้งมหาวิทยาลัยของรัฐใหม่ต่อไป” นายอนุสรณ์ กล่าว
ต่อมาเวลา 18.30 น. นายพินิติ รตะนานุกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ให้สัมภาษณ์ว่า แนวทางการยุบรวมดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ไม่ใช่ผู้สั่งยุบรวม แต่มหาวิทยาลัยเป็นผู้เสนอเอง โดยทำเรื่องมาที่สกอ. จากนั้นสกอ. จึงตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อทำหลักเกณฑ์การยุบรวมดังกล่าว ทั้งนี้เพราะหลักเกณฑ์การตั้งมหาวิทยาลัยใหม่ ได้เปิดให้มหาวิทยาลัยต่างๆ ที่มีวิทยาเขตอ่อนแอในจังหวัดนั้นๆ ได้รวมกันเป็น 1 มหาวิทยาลัย ฉะนั้นถ้าจะยุบรวมได้นั้น ต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ อาทิ การศึกษาความเป็นไปได้ ความพร้อมของหลักสูตรที่จะไปเปิดใหม่ หรือหลักสูตรต้องสอดคล้องกับตลาดแรงงานในภูมิภาคท้องถิ่น เป็นต้น
“อย่างกรณีการยุบรวม ม.แม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร กับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) วิทยาเขตชุมพร เข้าด้วยกันเป็น 1 มหาวิทยาลัยก็เป็นข้อเสนอของมหาวิทยาลัยเอง ซึ่งสกอ. ต้องศึกษาก่อนว่าจะเกิดผลดีผลเสียอย่างไร และก็ทำประชาพิจารณ์ต่อด้วย ส่วนประเด็นยุบรวมเพราะมหาวิทยาลัยไปเปิดศูนย์นอกที่ตั้งโดยไม่มีคุณภาพถือ เป็นคนละเรื่องกัน เพราะศูนย์นอกที่ตั้งหากไม่มีคุณภาพก็ต้องปิดตัวไป หรือหากตรวจสอบว่าไม่มีคุณภาพก็สั่งยุบได้”  รองเลขาธิการ กกอ. กล่าว
http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K11426487/K11426487.html
http://nationunews.blogspot.com/2011/12/blog-post.html

6 ธ.ค.54 ครม.ยุบรวม 6 มหา’ลัย 7 จว. อ้างอีก 30ปีคนวัยเรียนลด เข้าเรียนน้อยลง คาดเพิ่มคุณภาพ-สนองท้องถิ่น จี้ห้ามขอเปิดมหา’ลัยเพิ่มอีก
โดย เหมือนแพร ศรีสุวรรณ ศูนย์ข่าว TCIJ
ครม.สั่งยุบรวมมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ นำร่อง 6 แห่ง ใน 7 จังหวัด ‘ชุมพร-สุราษฎร์ฯ-ตาก-ระยอง-กระบี่-กาฬสินธุ์’ อ้างอีก 30 ปีข้างหน้าจำนวนประชากรลดลง คาดคนเรียนมหาวิทยาลัยรัฐน้อยลง และเพิ่มความเข้มแข็งให้สถาบันอุดมศึกษา ให้มีคุณภาพ-ประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของท้องถิ่น
เวลา 13.30 น. วันที่ 6 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอต่อที่ประชุมครม. เพื่อพิจารณาเห็นชอบร่างข้อเสนอเชิงนโยบายและแนวทางการจัดตั้งมหาวิทยาลัย ของรัฐ โดยการหลอมรวม ยุบรวม สถาบันอุดมศึกษา ซึ่งครม. มีมติเห็นชอบอนุมัติให้ดำเนินการ
นายอนุสรณ์กล่าวว่า ตามที่กระทรวงศึกษาธิการประชุมครั้งที่ 3 /2554มีการประเมินลักษณะประชากรไทยในอนาคต ตั้งแต่ พ.ศ.2548 อีก 30 ปีข้างหน้า พ.ศ.2578  พบว่า ประชากรไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆจนอิ่มตัวแล้วลดลง ทำให้ภาวะการเจริญพันธุ์ลดต่ำลง คนไทยมีชีวิตยืนยาวขึ้น ทำให้จำนวนผู้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยของรัฐลดน้อยลง จึงมีการเตรียมการให้มีการหลวมรวม ยุบรวมสถาบันการศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งทางสถาบันอุดมศึกษาของประเทศให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพ  และตอบสนองความต้องการของท้องถิ่นอย่างแท้จริง
นายอนุสรณ์กล่าวต่อว่า ความหมายของการยุบรวม หลอมรวมสถาบันการศึกษาหมายความว่า ในพื้นที่หนึ่งๆ หรือจังหวัดหนึ่งๆ จะมีสถาบันการศึกษาหลายแห่งกระจัดกระจายกันอยู่ จึงยึดรวมเพียงหนึ่งแห่ง  ตัวอย่างการยึดรวม หรือหลอมรวมสถาบันการศึกษา เช่น การจัดตั้งมหาวิทยาลัยที่จ.ชุมพร เป็นการยึดรวมระหว่างมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร รวมกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพร  เมื่อยุบรวมกันแล้วจะเกิดมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้น  1 แห่ง หรือการจัดตั้งมหาวิทยาลัยภาคใต้ตอนบน ที่จ.สุราษฎร์ธานี  เสนอโดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นการยุบรวมระหว่าง มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้การยุบรวมหรือหลอมรวม  เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพ  ประสิทธิภาพการเรียนการสอน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อสังเกตว่า ในกรณีที่บางจังหวัดไม่ได้มีสถาบันการศึกษาหลายๆแห่ง แต่กลับยุบรวมกันหรือหลอมรวมกัน  คือ ไม่เคยมีมาก่อน แต่กลับจัดตั้งใหม่  ทางรัฐบาลจะตั้งข้อสังเกตเป็นพิเศษ
นายอนุสรณ์กล่าวว่า นอกจากนี้มหาวิทยาลัยชั้นนำที่เปิดเป็นวิทยาเขต ก็ต้องไปสอบถามว่าจะหลอมรวมด้วยหรือไม่  ถ้าทางจังหวัดเห็นด้วย ส.ส.หรือภาคีเครือข่ายภาคประชาชนเห็นด้วย ก็สามารถดำเนินการได้ แต่ต้องเป็นการยุบรวม  ความหมายคือ การยุบสองที่ให้เหลือที่เดียวให้เกิดความเข้มแข็ง แต่ไม่ได้หมายถึงการยุบตึกมารวมกัน อาจจะมีการจัดการเรียนการสอนที่ผนวกกัน ส่วนชื่อของมหาวิทยาลัยก็อาจให้ทั้งสองสถาบันไปตกลงกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไม่มีใครยอมกัน ในกรณีนี้อาจจะตั้งชื่อขึ้นมาใหม่ก็ได้ แต่ต้องเป็นการยุบรวม ไม่ใช่การฉกฉวยจังหวะแอบมั่วไปเปิดสถานศึกษาใหม่
รายงานข่าวจากที่ประชุมครม.ระบุว่า นายชุมพล ศิลปะอาชา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การท่องเที่ยวและกีฬา  ให้ความเห็นด้วยต่อที่ประชุมครม.ว่าเห็นด้วยกับหลักการนี้  เพราะเนื่องจากปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยห้องแถวเปิดขึ้นใหม่จำนวนมาก บางสถาบันการศึกษาเปิดขึ้นบริเวณใต้ทางด่วนก็มี และอีก 30 ปีข้างหน้ามหาวิทยาลัยก็จะไม่มีคุณภาพ ซึ่งอนาคตจะทำให้คนที่จบออกมาจากมหาวิทยาลัยเหล่านั้นไม่มีคุณภาพด้วยเช่น กัน  พร้อมกันนี้ขอเสนอต่อที่ประชุมระบุว่า “ครม.จะไม่พิจารณาอนุมัติการจัดตั้งมหาวิทยาลัยใหม่โดยเด็ดขาด”
ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี โต้แย้งว่า ไม่ควรจะใช้คำว่า  “โดยเด็ดขาด” เนื่องจากเป็นคำที่มีความหมายในทางลบ  ทั้งนี้นายอัชพร จารุจินดา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ความเห็นว่า การจะใช้คำว่า “โดยเด็ดขาด”ไม่ได้ เพราะจะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 80  บัญญัติว่า “รัฐต้องดำเนินการตามแนวนโยบายด้านสังคม การสาธารณสุข การศึกษา และวัฒนธรรม…”  ทั้งนี้ให้เป็นไปตามพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา  21 ,มาตรา 34 วรรคสาม, มาตรา 35 วรรคหนึ่ง และมาตรา 36  ซึ่งข้อสรุปในประเด็นนี้ คือ ถ้าจะมีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นมาใหม่รัฐบาลจะพิจารณาโดยละเอียดเป็นกรณี พิเศษ
สำหรับมหาวิทยาลัย 6 แห่ง ใน 7 จังหวัดที่จะมีการยุบรวมกันคือ
1.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยที่จ.ชุมพร  เป็นการยุบรวมมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตชุมพร กับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพร เมื่อยุบรวมแล้วเกิดมหาวิทยาลัย 1 แห่ง
2.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยภาคใต้ตอนบน จ.สุราษฎร์ธานี เสนอโดยจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นการยุบรวมมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี  เมื่อยุบรวมแล้วไม่เพิ่มจำนวนมหาวิทยาลัย
3.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เสนอโดยจังหวัดตาก เป็นการยุบรวมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตตาก กับมหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ศูนย์อุดมศึกษาแม่สอด (ปัจจุบันยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา) เมื่อยุบรวมแล้วจะเกิดมหาวิทยาลัย 1 แห่ง
4.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ เสนอโดย จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นการยุบรวมระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏกาฬสินธุ์ กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ เมื่อยุบรวมแล้วจะไม่เพิ่มจำนวนมหาวิทยาลัย
5.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยระยอง เสนอโดยจังหวัดระยอง เป็นการยุบรวมมหาวิทยาลัยเทคนิคบ้านค่าย และวิทยาลัยเทคนิคมาบตาพุด เมื่อยุบรวมแล้วจะเกิดมหาวิทยาลัยอีก 1 แห่ง  ซึ่งปัจจุบันแปรรูปเป็นการจัดตั้งวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระ จอมเกล้าพระนครเหนือ
6.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยของฝั่งทะเลอันดามัน เสนอโดยจังหวัดกระบี่ เป็นการหลอมรวมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิทยบริการกระบี่ กับสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตกระบี่  และวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกระบี่  (ปัจจุบันขอจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยของฝั่งทะเลอันดามัน ไม่ใช่รูปแบบหลอมรวม ยุบรวม แต่เป็นการจัดตั้งทำให้เกิดมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง
สำหรับสาระสำคัญของร่างข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และแนวทางการจัดตั้งมหาวิทยาลัยของรัฐโดยการหลอมรวม ยุบรวม สถาบันอุดมศึกษา คือ จากการรายงานของกระทรวงศึกษาธิการพบว่า การขยายตัวด้านจำนวนของสถาบันการอุดมศึกษาทำให้เกิดปัญหาการไร้ทิศทาง ความซ้ำซ้อน การขาดคุณภาพ การขาดประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดการกระจายตัวของสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งรวมถึงวิทยาเขตที่เป็นทางการของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ สถาบันอุดมศึกษาของเอกชน และสถาบันอุดมศึกษาที่สังกัดกระทรวงอื่นๆ เช่น สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม) สถาบันการพลศึกษา (สังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  วิทยาลัยพยาบาลและวิทยาลัยการสาธารณสุข (สังกัดกระทรวงสาธารณสุข) วิทยาการทหาร (สังกัดกระทรวงกลาโหม) เป็นต้น ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 303 แห่ง อยู่ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศ
ทั้งนี้คณะอนุกรรมการการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย และแนวทางการจัดตั้งมหาวิทยาลัยโดยการหลอมรวม ยุบรวมและยกเลิกสถาบันการอุดมศึกษา  ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานที่จัดตั้ง 4 แห่ง ประกอบด้วย 1.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยฝั่งอันดามัน จ.กระบี่ 2.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ 3.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จ.ตาก  และ 4.การจัดตั้งมหาวิทยาลัยระยอง จ.ระยอง  พร้อมทั้งศึกษาแนวโน้มที่เกี่ยวข้อง อาทิ แนวโน้มจำนวนประชากร จำนวนนักเรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษานอกระบบ อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา อีกทั้งข้อมูลด้านความต้องการแรงงาน
ซึ่งมีข้อสรุปว่า “โดยหลักการไม่ควรมีการจัดตั้ง มหาวิทยาลัยของรัฐใหม่ เนื่องจากสถาบันการอุดมศึกษาของรัฐ ที่มีอยู่สามารถรองรับนักศึกษาได้ในปัจจุบัน ประกอบกันแนวโน้มในอนาคตนักศึกษาจะลดลง แต่ควรใช้วิธีการหลอมรวม ยุบรวมสถาบันอุดมศึกษา และรัฐควรสนับสนุนการสร้างความเข้มแข็งให้กับมหาวิทยาลัยที่มีอยู่แล้วโดย เฉพาะมหาวิทยาลัยใหม่ และวิทยาเขตต่างๆเพื่อให้เป็นสถาบันที่มีคุณภาพ มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการทั้งการบริหารทั่วไปและการบริหารวิชาการ”
ทั้งนี้จากการศึกษาของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ประชากรไทยในอนาคตเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ จนอิ่มตัวแล้วลดลง ซึ่งเป็นผลเนื่องจากภาวะเจริญพันธุ์ที่ลดต่ำลงและคนไทยมีชีวิตยืนยาวขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้โครงสร้างอายุของประชากรเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด เด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีในช่วงปี พ.ศ.2548-2578ลดลงถึง 14 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 23 ของจำนวนประชากรทั้งหมด  เหลือ 9 ล้านคนเศษ คิดเป็นร้อยละ 14  ส่วนวัยแรงงาน อายุ 15-59 ปี จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจาก 41 ล้านคน เป็น 43 ล้านคน จากนั้นจะเหลือ 38 ล้านคนในปี 2578 ซึ่งประชากรวัยเด็ก(วัยเรียน) จะลดลงอย่างต่อเนื่อง (อายุ 6-21 ปี) ลดลงจาก 16 ล้านคนในปี 2548 เหลือเพียง 11 ล้านในปี 2578
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลรายงานประจำปีของการศึกษาขั้นพื้นฐานตั้งแต่ระดับ ก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในช่วงปี  2546-2552 ปริมาณนักเรียนลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี  2547 เป็นต้นมาซึ่งส่งผลต่อระดับการศึกษาระดับอุดมศึกษา ส่วนนักเรียนระดับอาชีวะศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ระดับ ปวช.มีแนวโน้มลดลงตั้งแต่ปี 2551
หากพิจารณาข้อมูลในอดีตจะพบว่า รัฐบาลได้จัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาโดยหลอมรวมสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่จังหวัด เดียวกัน 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์  มาจากการหลอมรวมวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จ.นราธิวาสและวิทยาลัยการอาชีพตากใบ อีกแห่งคือ มหาวิทยาลัยนครพนม มาจากการหลอมรวมมหาวิทยาลัยราชภัฏนครพนม กับวิทยาเขตนครพนมของ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ซึ่งทั้ง 2 แห่งนี้แม้จะมีความก้าวหน้าแต่ก็ประสบปัญหาด้านการบริหารและงานด้านบุคลากร เนื่องจากเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่อยู่ต่างสังกัดและต่างกระทรวงทำให้ไม่ สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
http://www.tcijthai.com/investigative-story/1043

แย่งหน้าที่พนักงานทำความสะอาด

วันหนึ่งที่สวนสาธารณะ
ไปแย่งหน้าที่ของพนักงานรักษาความสะอาด อีกแล้ว
ทุกวันเวลา 8.00 น. จะมีพนักงานรักษาความสะอาด
มาเก็บขยะในสวนสาธารณะ

ถ้าเหตุการณ์ปกติ ก็จะมีพนักงานรักษาความสะอาด
คอยดูแลสวนให้สวยงาม สะอาด และไม่มีขยะ
แต่พนักงานมักมองข้ามความสะอาดไป

วันหนึ่ง แขกบ้านมาเยือน แขกเมืองมาเยี่ยม
ขยะที่เคยเห็นวางอยู่กลางถนนมา 3 วัน ก็ยังวางที่เดิม
รู้สึกละอาย ในฐานะเจ้าบ้าน
พนักงานก็ยังไม่ได้เก็บ แล้วผมก็ต้องเดินไปเก็บ
ไปแย่งหน้าที่ของพนักงานรักษาความสะอาด

เคยพูดกับตนเอง ว่าจะไม่แย่งหน้าที่ใคร
รู้สึกว่าตนเอง ตะบัดสัดอีกแล้ว

เกมร้ายเกมรัก

ณเดชน์ คูกิมิยะ กับ ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ มาประชันบทบาทกันอีกครั้ง
ผู้จัดคนเก่ง ดา หทัยรัตน์ อมตวณิชย์ บริษัทละครไท จำกัด เร่ง ถ่ายทำละครเรื่องเกมร้ายเกมรัก  โดยมีพระเอกนางเอกคู่ขวัญ ณเดชน์ คูกิมิยะ, ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์ และ มิ้นท์ ณัฐวรา วงศ์วาสนา มาประชันบทบาทกัน ร่วมด้วย  โบว์ เอเอฟ, แจ็ค เอเอฟ,บอย เอเอฟ, โป๊ป ธนวรรธ์ วรรธนะภูติ  ซึ่งหลังจากถ่ายทำฉากที่ ทะเล กันมาพักใหญ่ ตอนนี้ก็เร่งถ่ายทำฉากในเมืองกรุง  ซึ่งแน่นอนว่าโลเกชั่นหลักๆ ก็คือออฟฟิศ ของพระเอกและนางเอกค่ะ วันนี้เค้ายกกองมาถ่ายทำกันที่ชั้น 40 ตึกเนชั่น ทาวเวอร์บางนา มาถึงที่ขนาดนี้กระแตเลยขอขึ้นไปหาณเดชน์ เอ้ย ไป เก็บภาพบรรยากาศสนุกๆมาฝากแฟนๆ กระแตเข้ากองค่ะ โดยคนแรกที่เราเจอก็คือ  หนุ่มร่างท้วมขวัญใจสาวเบนซ์ พรชิตา ที่มาสร้างสีสัน และ เสียงหัวเราะให้กับละครเรื่องนี้ได้มากเลยทีเดียว
ซึ่งฉากในวันนี้ ฉากแรกเป็นการประชุมเพื่อขายงานให้กับบริษัท เซเว่น ซีส์ ของพระเอกค่ะ โดยมิกซ์ และ ญาญ่า มาในนามของบริษัทโฆษนา ที่จะมาเสนอโปรเจค แต่พระเอกของเราก็อยากให้นางเอกเป็นนางแบบให้ เพราะมีความหลังฝังใจกันมาก่อน
ต่อด้วยฉากประทะคารมกันระหว่างพระเอกและนางเอก เมื่อณเดชน์ ประกาศหมั้นกับ มินท์ ซึ่งรับบทเป็นพี่สาวของญาญ่า เลยทำให้เธอทนไม่ใหว เข้ามาเปิดเผยความลับว่าพระเอก เคยข่มขืนเธอ เมื่อครั้งติดเกาะด้วยกัน
เห็นสนุกสนานกันแบบนี้ จริงๆแล้วพวกเค้าก็มีมุมเครียดต้องหลบไปนั่งอ่านบททำสมาธิกันก่อนเข้าฉากเพราะ เป็นการเชือดเฉือนคารม และ ปะทะ คารมกัน ซึ่งกว่าจะแสดงได้สมจริงสมจัง เป็นที่ถูกใจผู้กำกับ แบบไร้ข้อผิดพลาด ก็เดินเข้าเดินออกกันอยู่หลายเทค
โดยผู้กำกับสาวเก่ง ที่มานั่งแท่นควบคุมความสนุกของเกมร้ายเกมรักก็ไม่ใช่ใครที่ใหน นั่นคือ พี่แอ้ว-อําไพพร จิตต์ไม่งง ที่เคยฝากผลงานประทับใจคุณผู้ชมมาแล้วหลายต่อหลายเรื่องทั้ง อุ้มรัก,รักนี้หัวใจเราจอง, สวรรค์เบี่ยง, ใจร้าว, สูตรเสน่หา และ 365 วันแห่งรัก ซึ่งพี่แอ้ว ก็ได้พูดถึง ความสามารถ และแววการเป็นคู่ขวัญคู่ใหม่ของช่อง 3   ของ 2 พระนาง ณเดชน์ และ ญาญ่า ว่าอนาคตไกลแน่นอน
http://www.mangotv.tv/home/program/mango-garden/20110822/3092/%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81/
http://www.baanseries.com/thai/detail.asp?param_id=2096