การรวมศูนย์กับกระจายศูนย์ในปัจจุบัน (itinlife 358)

eniac 1946
eniac 1946

31 ส.ค.55 คอมพิวเตอร์เครื่องแรกมีชื่อว่า ENIAC พัฒนาในปีค.ศ.1946 แล้วอีกหลายสิบปีต่อมา จึงเริ่มมีเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ในช่วงแรกนั้นระบบคอมพิวเตอร์ถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดของการรวมศูนย์ เพราะง่ายต่อการควบคุม ดูแล และแก้ปัญหา เหตุที่ต้องรวมศูนย์เพราะอุปกรณ์ยังไม่มีมาตรฐาน ผลิตได้น้อย ราคาจึงสูง ยังใช้ไม่แพร่หลาย ผู้เกี่ยวข้องทั้งผู้บริการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ดูแล และผู้ใช้ยังมีน้อย ทำให้การเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายมีขั้นตอนที่ซับซ้อน นำมาใช้งานน้อย ดังนั้นการรวมศูนย์จึงกลายเป็นทางเลือกที่จะทำให้การเชื่อมโยงระบบทั้งหมดเกิดขึ้นได้ในทางปฏิบัติ และใช้ได้อย่างเป็นรูปธรรม

เมื่อการพัฒนาด้านเทคโนโลยีดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เกิดแนวคิดเรื่องการกระจายศูนย์ และถูกนำไปใช้ในองค์กรเอกชนเพิ่มขึ้น ประกอบกับสามารถลดขนาดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ให้เล็กลง และราคาถูกลดลง  จึงนำไปสู่การสร้างเครือข่ายในองค์กร เกิดการแบ่งปันเครื่องพิมพ์ และหน่วยเก็บข้อมูล ในปีค.ศ.1969 เริ่มโครงการเชื่อมระหว่างมหาวิทยาลัยจำนวน 4 แห่ง แล้วขยายสู่การเชื่อมกับภาคธุรกิจ จนขยายที่เชื่อมโยงทั้งโลกเข้าเป็นเครือข่ายเดียวกัน  แล้วใช้ชื่อว่าเครือข่ายอินเทอร์เน็ต (Internet)

เมื่อโลกได้กำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์จนเป็นที่ยอมรับ ก็เริ่มคิดใหม่ว่าแนวคิดแบบกระจายอาจเหมาะกับองค์กรที่ต้องการความคล่องตัว แต่ปัญหาที่ตามมาคือการขาดประสิทธิภาพในการควบคุม และใช้ทรัพยากรอย่างไม่คุ้มค่า อาทิ องค์กรที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับเครื่องพิมพ์ ซึ่งทุกคนมีคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หากจะจัดหาเครื่องพิมพ์พร้อมหมึกให้รองรับทุกคนได้ จะมีประเด็นเรื่องความคุ้มค่า หากเลือกการเช่าเครื่องพิมพ์แบบมัลติฟังก์ชันก็จะแบ่งปันและควบคุมให้การใช้งานมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันพบคำว่า Convergent แปลว่า ซึ่งมาบรรจบกัน ถูกใช้ขยายคำนามหลายคำ เมื่อนำมาใช้ในภาคธุรกิจจะหมายถึงการมาบรรจบของหน่วยงานที่เคยกระจัดกระจาย สามารถพิจารณาว่าทรัพยากรใดใช้ร่วมกันได้ ทำให้เกิดการควบคุม ตัดลด และแบ่งปันทรัพยากรให้เกิดการใช้ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วเหลือทรัพยากรส่วนเกินที่จะนำไปใช้ประโยชน์ได้อีก

Astrophytum asterias .. convergent evolution
Astrophytum asterias .. convergent evolution

คนแก่ชอบเล่าเรื่องเก่า

code compare
code compare

คนแก่ ก็ชอบพูดเรื่องเก่า .. วันนี้นั่งย้อนอดีตวัยเด็ก เห็นมนุษย์จำนวนไม่น้อยไปห้างสรรพสินค้า แล้วก็เดินไปที่ตู้หยอดเหรียญ ใช้นิ้วจิ้มไปที่ตู้ หน้าตาก็ดูอิ่มเอิบ ครุ่นคริด หงุดหงิด บางทีก็ทำท่าควักกระเป๋าหาเหรียญเพื่อหยอดลงไปใหม่ สุดท้ายก็มักจบด้วยการเดินคอตก ผละออกจากตู้ไปยังที่ชอบ ที่ชอบของเขาต่อไป

# พอปลอดคน ผมก็เดินไปดูที่ตู้ ถึงรู้ว่าเป็นตู้เกมจับผิดภาพ มีตัวอย่างให้ดู ผมก็ยืนดูตัวอย่างอยู่พักหนึ่ง ถึงรู้ว่าคนเมื่อครู่คงมีความสุขกับเกมจับผิดภาพ ว่าต่างกันอย่างไร อาจเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ก็ได้ ที่มีความสุขกับการจับผิดภาพ พอรู้ว่าผิดตรงไหนก็มีความสุข เมื่อด่านแรกผ่านไป นาฬิกาก็หมุนเร็วขึ้น สุดท้ายก็หมดเวลา ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายตามเกณฑ์ที่แต่ละด่านตั้งขึ้นมา
??? มีคำถาม 2 คำถาม ที่คาใจตั้งแต่เด็กถึงปัจจุบัน
1. เล่นไปแล้วได้อะไร มากกว่าจิตที่ไม่สงบ ดีใจ เสียใจ ไปตามเกม
2. เล่นไปแล้วเสียอะไร นอกจากจิตที่มีแต่เศร้าหมองหลังแพ้เกม
>> เข้าเรื่องเลยครับ .. ว่าจะสอนนักศึกษาจับผิด source code เพราะปรับโปรแกรมระหว่างรุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ แล้วคุยกันว่าการเปลี่ยนรุ่นนั้น หรือการแก้โปรแกรมในแต่ละจุดมีเหตุผลอะไรที่ต้องเปลี่ยน

>> แล้วบรรลุตามตัวบ่งชี้ของการพัฒนาโปรแกรม ที่ตั้งไว้หรือไม่
แต่ก่อนอื่นต้องถามว่ากำหนดตัวบ่งชี้ กับเกณฑ์การให้คะแนนไว้อย่างไร

new version : http://dl.dropbox.com/u/50010673/source/a1-7.zip

อิทธิพลของการกดไลค์

press like by NineBU

การกดไลค์ หมายถึง การแสดงความชื่นชอบ หรือตอบว่าใช่ ต่อเนื้อหาที่ปรากฎ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของข้อความ รูปภาพ หรือคลิ๊ปวีดีโอ การกดไลค์เป็นที่แพร่หลายพร้อมกับความนิยมที่มีต่อเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่เพิ่มขึ้น แล้วส่งผลถึงการนำไปใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนการประชาสัมพันธ์กิจกรรม ยี่ห้อ องค์กร หรือสินค้า จนปรากฎภาพสัญลักษณ์ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นให้เห็นในสื่ออย่างหลากหลาย รวมถึงการนำผลกา
รกดไลค์ไปใช้ประกอบการตัดสินความนิยมในการแข่งขันมากมาย อาทิ ประกวดภาพเดี่ยว ภาพครอบครัว หนังสั้น หรือเพลง

การปรากฎในสื่อ พบว่า มีการใช้คำว่า กดไลค์ มาเป็นชื่อภาพยนตร์ คือ “ชอบกดไลค์ใช่กดเลิฟ” เป็นชื่อภาพยนตร์ มีนักแสดงนำคือ มอส ปฏิภาณ และ ออม สุชาร์ และ อัทธ์ อังค์กูณฑ์ หรือเพลงที่ชื่อ กดเลิฟ ของ so cool ที่มีเนื้อเพลงเกี่ยวกับ status หรือ comment มีข้อความในเนื้อเพลงท่อนหนึ่งว่า “ได้แต่คอยกด like อีกเมื่อไรไม่รู้จะได้กด love เธอ” ก็ล้วนมีอิทธิพลมาจาก social media ซึ่งแสดงในมุมของคนที่มีความรักให้กันฉันท์ชู้สาว แต่การกดไลค์ในชีวิตจริงมีวัตถุประสงค์กว้างกว่านั้น เพราะการกดไลค์เริ่มต้นจากการมีความรู้สึกดี ชื่นชอบ หรืออยากบอกต่อ อาจพบปุ่มกดไลค์ในเว็บไซต์ด้านข่าว หรือร้านค้าออนไลน์ หรือเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการ ที่เชื่อมโยงกับบัญชีผู้ใช้ใน social media ก็ได้

อิทธิพลของการกดไลค์
เป็นเครื่องแสดงจุดยืนว่าเรายืนอยู่ที่ใด ชอบหรือไม่ชอบอะไร แต่ถ้าไม่กด หมายถึง การไม่แสดงความเห็น หรือ เฉย ๆ หรือเจตนาละเว้น หากสนใจประสิทธิผลการกระจายข่าวสารพบว่าจำนวนการกดไลค์ หรือแสดงความเห็น มีผลต่อค่าสถิติการบอกต่อ (Viral) บางเรื่องที่ถูกกดไลค์ หรือแสดงความเห็นเป็นจำนวนมากก็จะมีค่า viral ที่สูง ซึ่งค่า Virality คือ เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้สร้างเนื้อหาเพิ่มหลังมองเห็นต่อจำนวนผู้มองเห็นเนื้อหา แล้วค่านี้มีผลต่ออันดับการนำเนื้อหาไปแสดงในเพจของเพื่อนในเครือข่ายสังคม เกิดจำนวนการรับรู้ต่อข่าวสารนั้นสูง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายของผู้ส่งข่าวสารนั้น

นี่เป็น post แรก ที่ทดสอบใช้ภาพจาก fb page

คิดมากจนไม่ได้ทำ

คิดมากจนไม่ได้ทำ กับ ทำมากจนไม่ได้คิด
คิดมากจนไม่ได้ทำ กับ ทำมากจนไม่ได้คิด

คิดมากจนไม่ได้ทำ โดย ดร.บวร ปภัสราทร

งานจะสำเร็จได้นั้นว่ากันว่าต้องมีการวางแผนที่ดีเป็นเบื้องต้น แต่มีแผนที่ดีไม่ได้หมายความว่างานทุกงานจะประสบความสำเร็จ

งานจะสำเร็จได้ ต้องมีคนลงมือทำงานนั้น ไม่ว่างานเล็กงานใหญ่ก็ต้องลงมือทำเสียก่อนงานจึงจะเสร็จได้ หลายงานที่ว่ากันว่ามีการวางแผนมาเป็นอย่างดีนั้นกลายเป็นวิมานในอากาศคือมีแต่แผนสวยหรู แต่งานจริงไม่เกิดขึ้น ยิ่งในยามที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน จะทำอะไรสักอย่างก็ต้องมีขั้นตอนการวางแผนที่พิสดารเกินกว่าที่บ้านอื่นเมืองอื่นเขาทำกัน เกาหลีมีแผนไอทีไม่กี่หน้ากระดาษ แต่สร้างงานจริงได้อย่างมหาศาลจนเปลี่ยนให้เกาหลีเป็นเจ้าตลาดผลิตภัณฑ์ไอทีหลากหลายชนิดได้อย่างน่ามหัศจรรย์ บ้านเรามีแผนไอทีสองสามแผน แต่ละฉบับหนานับร้อยหน้า แผนก็ดีจริงๆ ด้วย แต่วันนี้บ้านเราก็ยังห่างไกลจากเกาหลีอย่างมากมาย แผนไอทีไม่กี่หน้าเอาชนะแผนไอทีหนานับร้อยหน้าได้อย่างสบายเพราะเกาหลีมีแผนแล้วมีคนลงมือทำตามแผนอย่างจริงจังจนกระทั่งบรรลุผล
อะไร ทำให้คนมัวแต่คิดแผน หรือคิดว่าจะทำตามแผนได้อย่างไร จนกระทั่งรีรอไม่ลงมือทำงาน คิดเรื่องแผนว่าดีไม่ดีอย่างไรจนไม่มีใครลงมือทำตามแผนนั้น แผนดีมีอยู่จริง แต่งานดีไม่มีสักเรื่องที่เกิดขึ้น เหตุที่คนมัวแต่ถกเถียงกันเรื่องแผนนั้นมาจากการที่ไม่ได้ตกลงกันให้ชัดเจนก่อนว่าคำว่าประสบความสำเร็จนั้นคือเกิดอะไรขึ้นบ้าง ถ้ายังมองไม่ชัดว่าแค่ไหนเรียกว่าประสบความสำเร็จในงานนั้น ต่างคนต่างก็นิยามความสำเร็จของตนเองขึ้นมาแล้วอนุมานไปเองว่าคนอื่นก็ใช้นิยามของความสำเร็จของงานนั้นเหมือนกับที่ตนเองเชื่อ การถกเถียงจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่ว่าจะเริ่มงานกันอย่างไร เพราะปลายทางของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การเริ่มต้นลงมือทำงานจะเกิดขึ้นได้เร็วช้าขึ้นกับว่าเราตกลงความหมายของคำว่างานสำเร็จได้เร็วเพียงใด การตกลงเรื่องความสำเร็จนี้ ขอเพียงแค่ทุกคนยอมรับว่าคำว่าความสำเร็จของแต่ละหน่วยงานนั้นแตกต่างกันไปตามอายุงานและขีดความสามารถของแต่ละหน่วยงาน ผลงานอย่างหนึ่งที่เรียกว่าประสบความสำเร็จในหน่วยงานหนึ่งอาจหมายถึงผลงานที่ล้มเหลวในอีกหน่วยงานหนึ่งก็ได้
เริ่มทำงานมาแค่สองสามปี คงไม่สามารถนิยามความสำเร็จของงานได้เหมือนกับหน่วยงานที่ทำงานมาเกือบร้อยปี มีคนแค่สามสี่คนคงไม่อาจใช้นิยามความสำเร็จของงานได้เหมือนกับหน่วยงานที่มีคนนับร้อยนับพัน ยอมรับและรู้จักขีดความสามารถของกลุ่มของตนได้มากเท่าใด เวลาที่ใช้ในการตกลงนิยามของความสำเร็จก็เร็วขึ้นเท่านั้น

หลายครั้ง ที่มีประเด็นที่มาถกเถียงกันจนไม่ได้ลงมือทำงานกันสักที นั้นมาจากข่าวลือบ้าง มาจากคำติเตียนอย่างไม่สร้างสรรค์บ้าง มาจากคำแนะนำของบางคนที่ดูเหมือนว่าจะหวังดีแต่จริงๆ แล้วเจตนาร้ายคือไม่ต้องการให้งานเดินหน้าได้บ้าง โบราณกล่าวไว้ว่าจิ้งจกทักให้รับฟังก็จริง แต่ถ้าไม่ยอมออกจากบ้านไปไหน เพราะมัวแต่กังวลกับจิ้งจก การงานคงไม่อาจเดินหน้าไปได้ ทั้งนี้ ต้องยอมรับความจริงไว้ด้วยว่าหลายคนรักษาหน้าที่การงานของตนไว้ได้ด้วยการคอยติเตียนงานของคนอื่นว่าเป็นไปไม่ได้บ้าง ว่าวางแผนไม่ดีพอบ้าง ทั้งๆ ที่พอย้อนถามกลับว่าที่ต้องทำเพิ่มเติมนั้น ต้องทำอะไรบ้าง คนเหล่านี้ก็ตอบไม่ได้ ดังนั้น หากไม่อยากกังวลกับสารพัดเรื่องจนรีรอไม่กล้าลงมือทำงานกันอย่างจริงจัง ต้องรู้จักเอาหูไปนา เอาตาไปไร่กับคำนินทาหรือคำเล่าลือต่างๆ เกี่ยวกับงานนั้นเสียบ้าง ถ้าตกลงกันเรื่องนิยามของความสำเร็จของงานนั้นได้แล้วให้ลงมือทำทันที อย่ากลัวคำนินทา อย่ารีรอกับสารพัดคำแนะนำเสนอแนะต่างๆ มากจนเกินไปเพราะลงมือทำงานแล้วงานจะดีเลวอย่างไรก็ยังบอกได้ว่างานได้เกิดขึ้นแล้ว

ถ้าทีมงาน มีคนที่ชิงดีชิงเด่นกันมาร่วมทำงานกัน ปรากฏมามากต่อมากแล้วว่างานจะเริ่มต้นได้ช้ามาก เพราะหมดเวลาไปกับการที่ต่างฝ่ายต่างหาทางกีดกันอีกฝ่ายหนึ่งให้ห่างไกลจากความสำเร็จของงาน ถ้าไม่ใช่งานที่ฉันได้ประโยชน์แล้ว ฉันไม่ยอมให้ใครได้หน้าได้ตาจากความสำเร็จของงานที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าอยากเริ่มลงมือทำงานตามแผนได้เร็ว ต้องขอให้ทุกคนที่มาทำงานด้วยกันแยกแยะเรื่องส่วนตัวออกไปก่อน ขอให้ลงมือทำงานก่อนแล้วค่อยมาชิงดีชิงเด่นกันทีหลัง หรือถ้าทำได้ขออย่าได้เลือกทีมงานที่มัวแต่ชิงดีชิงเด่นกัน เลือกคนไม่เก่งแต่ไม่เกี่ยงงานดีกว่าเลือกคนเก่งที่อิจฉาตาร้อนไปหมดทุกเรื่อง การชิงดีชิงเด่นกันนั้นดีสำหรับงานที่ต่างคนต่างทำ ชิงดีชิงเด่นในงานเดียวกันไม่เคยทำให้งานนั้นสำเร็จได้

ความกังวล ที่มากเกินไปกับการที่ผลงานที่ได้อาจไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่คาดหวังไว้ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่หลายงานจบลงที่ว่าได้คิดงานนั้น แต่ไม่ได้ทำงานนั้น ถ้าคาดหวังว่างานนั้นต้องสมบูรณ์แบบมากเกินไป ก่อนลงมือทำงานก็เลยต้องคิดมากหน่อย คิดมากไปจนกระทั่งต้องมาคบคิดเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ไม่ถึงหนึ่งในล้าน วันเวลาผ่านไปก็ยิ่งสนุกกับการคิดประเด็นที่สมมุติขึ้นมาว่าถ้าเกิดเช่นนี้ ต้องทำอะไร จนหมดสนุกที่จะลงมือทำงานอย่างจริงจัง ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่ายักษ์ใหญ่ในวงการไอทีไม่เคยรีรอที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มาพร้อมกับความบกพร่อง ออกตัวมาก่อนแล้วค่อยตามแก้ไขภายหลัง ทุกวันนี้ เราจึงได้ใช้งานผลิตภัณฑ์ไอทีที่ออกตัวเร็วแต่มีการตามแก้ไขสารพัดเรื่องอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น อย่ากังวลกับความสมบูรณ์แบบของผลงานมากเกินไป แต่ให้เร่งลงมือทำไปก่อน ผิดพลาดประการใดก็น่าจะมีเวลาแก้ไขให้ถูกต้องได้ ลงมือทำงานด้วยกันดีกว่าลงแรงวิตกสารพัดเรื่องร่วมกัน

มีหลายงาน ที่ผู้บริหารบอกให้ทำเพื่อให้ดูเหมือนว่าได้ทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ได้ผลงานอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งที่จริงแล้วผู้บริหารไม่ได้อยากให้เกิดผลงานอย่างที่บอกไว้ แค่มีงานไว้ใช้บอกกล่าวเป็นการแก้ตัวว่ากำลังอยู่ระหว่างดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง งานแบบนี้ลงมือทำได้ยากเพราะมีความไม่แน่นอนว่าจะให้ทำอะไรกันแน่ ดังนั้น ถ้าเห็นว่างานใดผู้บริหารสรรหามาให้ทำเพียงเพื่อใช้แก้ตัวในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ก็อย่าตกอกตกใจที่งานไม่เดินหน้าเสียที แค่แกล้งทำท่าทำทางว่ากำลังจะลงมือทำก็เป็นที่พอใจของผู้บริหารแล้ว เคล็ดลับคือถ้าต้องทำงานภายใต้การบริหารของใคร ให้สร้างทักษะในการแยกแยะระหว่างงานที่ผู้บริหารหวังว่าจะให้เกิดขึ้นจริง กับงานที่มีไว้ใช้แก้ตัวในบางเรื่อง ถ้าแยกแยะไม่ได้ให้ระวังให้ดีว่าเราจะไปสร้างความสำเร็จกับงานที่ผู้บริหารไม่ตั้งใจจะให้เสร็จโดยไม่รู้ตัว งานสำเร็จแต่คราวนี้ตัวเราก็เสร็จตามไปด้วย

โดย ดร.บวร ปภัสราทร
ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ประจำคอลัมน์ “ก้าวไกล วิสัยทัศน์

http://www.bangkokbiznews.com

ปล. ผมพบเรื่องนี้ เพราะ อ.อุดม ไพรเกษร ได้ share link มาให้อ่าน เมื่อวันที่ 30 ก.ค.55
แต่กว่าผมจะเข้ามาเก็บประเด็นได้ ก็21 ส.ค.55 แล้วครับ

น้องผึ้ง อาร์สยาม (เด็กหญิงภูริชญา ยิ้มพงศ์)

น้องผึ้ง อาร์สยาม (เด็กหญิงภูริชญา ยิ้มพงศ์)
น้องผึ้ง อาร์สยาม (เด็กหญิงภูริชญา ยิ้มพงศ์)

น้องผึ้ง อาร์สยาม (เด็กหญิงภูริชญา ยิ้มพงศ์)

ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนลำปางกัลยาณี

ผลงาน
– ชนะเลิศการประกวดร้องเพลงในรายการตีสิบ
– ประกวดร้องเพลงลุกทุ่งในรายการอาทิตย์ลุกทุ่งของเจนภพ จบกระบวนวรรณ
– ชนะเลิศการประกวดร้องเพลงไทยสากลระดับชาติที่เมืองทองธานี ปี 2553-2554
– รางวัลอื่นๆอีกมากมาย
* ปัจจุบันเซ็นสัญญากับค่ายอาร์สยาม เครืออาร์เอส โปรโมชั่น
* รับเชิญร่วมเวที “ดาวรุ่งลูกทุ่งเนชั่น” ณ ห้าแยกหอนาฬิกา ข่วงนคร วันที่ 4 เมษายน 2555
* วันที่ 12 สิงหาคม 2555 พบน้องผึ้งร้องเพลงที่หน้าห้างเสรี สรรพสินค้า

คลิ๊ป ธรรมะเดลิเวอรี่จูเนียร์สัญจร ณ ห้างบิ๊กชี จ.ลำปาง

มินิคอนเสิร์ตธรรมะคละเพลงสร้างสรรค์ บันดาลใจใฝ่ธรรมะ

http://www.youtube.com/watch?v=U_R2o5xo-RI

ดาวรุ่งลูกทุ่งเนชั่น

open book and open quipment sample

ติ้งต่างว่า นี่คือ ตัวอย่างข้อสอบแบบ open อุปกรณ์
สามารถนำ samsung galaxy tab 10.1
ที่มหาวิทยาลัยจัดหาให้กับนักศึกษาใช้ประกอบการเรียนการสอน
1. จากหนังสือ “หนังสือสตีฟ จ็อบส์ โดยวอลเตอร์ ไอแซคสัน
ที่ได้ฟังบรรยายจากคุณสุทธิชัย หยุ่น และสามารถดาวน์โหลดบทความที่เกี่ยวข้องได้จากระบบอีเลินนิ่งนั้น
คำว่า สนามความจริงที่ถูกบิดเบือน (reality distortion field)
ที่ปรากฎในบทที่ 11 จงตอบคำถาม 2 ข้อ คือให้เหตุผลว่าความคิด หรือพฤติกรรมข้างต้นเกี่ยวข้องอย่างไรกับสตีฟ จ็อบส์
และคนรอบตัวเขามีความคิดอย่างไร ให้ยกตัวอย่างชื่อบุคคล พร้อมคำกล่าวของคนเหล่านั้นมาพอสังเขป
2. จงบอกชื่อ app บน android และนำเสนอประสบการณ์การใช้งาน
ในประเด็นได้ประโยชน์จากการใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งมี 4 ด้าน
และ capture screen ที่มีชื่อของท่านใน apps
ส่งไปตามอีเมลที่ระบุในข้อสอบ ในระหว่างการสอบ

เรยา เดอะมิวสิคัล (Reya the musical)

ผมนี่ก็ได้ชื่อว่า แฟนพันธุ์แท้ เรยาคนหนึ่งเลยครับ
เห็นน้องเขาแสดงละครเวที ก็ชื่นชม .. ชุดนี้ของน้องเขาก็เข้มดีครับ ดูดีมาก

Reya the musical เรยา เดอะมิวสิคัล
Reya the musical เรยา เดอะมิวสิคัล

ละครเพลง เรยา เดอะมิวสิคัล
จากบทประพันธ์ ดอกส้มสีทอง ของ ถ่ายเถา สุจริตกุล
คำร้องภาษาอังกฤษ เอส.พี.สมเถา
กำกับการแสดงโดย เกรียงศักดิ์ ศิลากอง
ประพันธ์ดนตรี สมเถา สุจริตกุล
เรียบเรียงและกำกับดนตรี ทฤษฎี ณ พัทลุง
กำกับการร้อง สุรุจ ทิพากรเสนี

นำแสดง
– อารยา เอ ฮาร์เก็ต
– กรกันต์ สุทธิโกเศศ
– ภควัต วงศ์ไทย
– สุรุจ ทิพากรเสนี
– สุดาทิพพ์ โพธิภักดี
– อุทัยศรี ศรีณรงค์
– พิมพ์ลักษณ์ เวสสวัสดิ์
– มณีภัสสร มอลลอย

เปิดแสดง 20 รอบ
14 กันยายน – 7 ตุลาคม 2555
ศุกร์ เวลา 19.30น. เสาร์-อาทิตย์ 14.00น.และ 19.30น.
ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์
บัตรราคา 3,000/2,500/1,500/1,000 จองบัตรที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์
http://www.thaiticketmajor.com
http://www.facebook.com/reyathemusical
http://www.reyathemusical.com

เพื่ออะไร (for what)

มีกฎเกณฑ์มากมาย ที่มนุษย์นำมาเรียกว่า ความรู้ (Knowledge)
ที่มาใช้กำกับเป็นแนวทางในการดำรงชีพ ..
.. บางกฎก็สอดรับกัน บางกฎก็ขัดแย้งกัน ต้องเลือก
* เฉพาะช่วงปีนี้ (2555) ผมมี e-mail ของ outlook.com
เป็น account ที่ 4 แล้ว .. นี่ยังไม่ต้องนับของเดิมที่ต้องใช้อีกนะครับ
* เคยมีน้อง 2 คน ตั้งคำถามว่า “เพื่ออะไร” ตอบยากเลยนะครับนี่
ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดิน ก็จะตอบว่า “ชอบ” หรือ “เคลื่อนไปตามการเปลี่ยนแปลง”

มอบเพลงนี้ให้น้อง 2 คน ที่เคยถามว่า “เพื่ออะไร”

เพลง รักเพื่ออะไร ของ ปาล์ม(palm)

สิ่งที่ฉันถาม ๆ ใจตัวเองทุกที
อยากที่จะมีความรักเพื่ออะไร
ก็ทุ่มเทให้เค้า ให้ไปหมดทั้งหัวใจ
แต่มันก็คล้ายๆ ว่าเค้าก็ไม่เคยเห็น

ไม่เคยแคร์ให้ความสำคัญ
ยิ่งผ่านพ้นวันก็ยิ่งชัดเจน
เธอคงมองรักฉันว่าเป็นแค่เรื่องธรรมดา

ใจมันสับสนที่ต้องทนให้รักกับคนที่
คิดว่ารักของฉันนั้นไม่เคยมีค่า
ไม่เคยมีความหมาย อยากจะลืมเค้าไป
สักทีแต่รู้ดีว่าทำไม่ได้ ความรักที่ใคร
พูดกันว่าดี แต่รักที่ใจฉันมีฉันทำเพื่อใคร

ถ้าใจไม่รักเค้าแค่เราตัดใจสักที
ก็อาจที่จะมีชีวิตที่สดใส
แต่มีเพียงแค่เค้าไม่เคยแบ่งใจให้ใคร
แต่มันก็คล้าย ๆ ว่าเค้าไม่เคยเห็น

ไม่เคยแคร์ให้ความสำคัญ
ยิ่งผ่านพ้นวันก็ยิ่งชัดเจน
เธอคงมองรักฉันว่าเป็นแค่เรื่องธรรมดา

ใจมันสับสนที่ต้องทนให้รักกับคนที่
คิดว่ารักของฉันนั้นไม่เคยมีค่า
ไม่เคยมีความหมาย อยากจะลืมเค้าไป
สักทีแต่รู้ดีว่าทำไม่ได้ ความรักที่ใคร
พูดกันว่าดี แต่รักที่ใจฉันมีฉันทำเพื่อใคร

ใจมันสับสนที่ต้องทนให้รักกับคนที่
คิดว่ารักของฉันนั้นไม่เคยมีค่า
ไม่เคยมีความหมาย อยากจะลืมเค้าไป
สักทีแต่รู้ดีว่าทำไม่ได้ ความรักที่ใคร
พูดกันว่าดี แต่รักที่ใจฉันมีฉันทำเพื่อใคร

หรือ ชวนดูหนังใหม่ เรื่อง “อาบรักทะลุมิติ (Mural)
ชื่อหนังติด rate แต่เนื้อหาต่ำกว่า 18 ก็ดูได้ครับ .. ผมว่าดูดีด้วย
http://www.adintrend.com/show_admovie.php?id=6760