ฮาโลวีน (halloween)

ฮาโลวีน (halloween)
ฮาโลวีน (halloween)

วันฮาโลวีนเป็นงานฉลองในคืนวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปี ประเทศทางตะวันตก เด็กจะแต่งกายเป็นภูตผีปีศาจพากันชักชวนเพื่อนฝูงออกไปงานฉลอง มีการประดับประดาแสงไฟ ที่สำคัญคือแกะสลักฟักทองเป็นโคมไฟ เรียกว่า แจ๊ก-โอ’-แลนเทิร์น (jack-o’-lantern)
วันที่ 31 ต.ค. เป็นวันที่ชาว เคลต์ (Celt) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งในไอร์แลนด์ ถือกันว่า เป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และวันต่อมา คือ วันที่ 1 พ.ย. เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งในวันที่ 31 ต.ค. นี่เองที่ชาวเคลต์เชื่อว่า เป็นวันที่มิติคนตาย และคนเป็นจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในปีที่ผ่านมาจะเที่ยวหาร่างของคนเป็นเพื่อสิงสู่ เพื่อที่จะได้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เดือดร้อนถึงคนเป็น ต้องหาทุกวิถีทางที่จะไม่ให้วิญญาณมาสิงสู่ร่างตน ชาวเคลต์จึงปิดไฟทุกดวงในบ้าน ให้อากาศหนาวเย็น และไม่เป็นที่พึงปรารถนาของบรรดาผีร้าย นอกจากนี้ยังพยายามแต่งกายให้แปลกประหลาด ปลอมตัวเป็นผีร้าย และส่งเสียงดังอึกทึก เพื่อให้ผีตัวจริงตกใจหนีหายสาบสูญไป
บางตำนานยังเล่าถึงขนาดว่า มีการเผา “คนที่คิดว่าถูกผีร้ายสิง” เป็นการเชือดไก่ให้ผีกลัวอีกต่างหาก แต่นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนคริสตกาล ที่ความคิดเรื่องผีสางยังฝังรากลึกในจิตใจมนุษย์ ต่อมาในศตวรรษแรกแห่งคริสตกาล ชาวโรมันรับประเพณีฮาโลวีนมาจากชาวเคลต์แต่ได้ตัดการเผาร่างคนที่ถูกผีสิงออก เปลี่ยนเป็นการเผาหุ่นแทน กาลเวลาผ่านไป ความเชื่อเรื่องผีจะสิงสูร่างมนุษย์เสื่อมถอยลงตามลำดับ ฮาโลวีนกลายเป็นเพียงพิธีการ การแต่งตัวเป็นผี แม่มด สัตว์ประหลาดตามแต่จะสร้างสรรค์กันไป ประเพณีฮาโลวีนเดินทางมาถึงอเมริกาในทศวรรษที่ 1840 โดยชาวไอริชที่อพยพมายังอเมริกา สำหรับประเพณี ทริกออร์ทรีต (Trick or Treat แปลว่า หลอกหรือเลี้ยง) นั้น เริ่มขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยชาวยุโรป ซึ่งถือว่า วันที่ 2 พ.ย. เป็นวัน ‘All Souls’ พวกเขาจะเดินร้องขอ ‘ขนมสำหรับวิญญาณ‘ (soul cake) จากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง โดยเชื่อว่า ยิ่งให้ขนมเค้กมากเท่าไร วิญญาณของญาติผู้บริจาคก็ได้รับผลบุญ ทำให้มีโอกาสขึ้นสวรรค์ได้มากเท่านั้น
ส่วนตำนานที่เกี่ยวกับฟักทองนั้น เป็นตำนานพื้นบ้านของชาวไอริช ที่กล่าวถึง แจ๊คจอมตืด ซึ่งเป็นนักเล่นกลจอมขี้เมา วันหนึ่งเขาหลอกล่อปีศาจขึ้นไปบนต้นไม้ และเขียนกากบาทไว้ที่โคนต้นไม้ ทำให้ปีศาจลงมาไม่ได้ จากนั้นเขาได้ทำข้อตกลงกับปีศาจ ‘ห้ามนำสิ่งไม่ดีมาหลอกล่อเขาอีก’ แล้วเขาจะปล่อยปีศาจลงจากต้นไม้ เมื่อแจ็คตายลง เขาปฏิเสธที่จะขึ้นสวรรค์ ขณะเดียวกันปฏิเสธที่จะลงนรก ปีศาจจึงให้ถ่านที่กำลังคุแก่เขา เพื่อเอาไว้ปัดเป่าความหนาวเย็นท่ามกลางความมืดมิด และแจ็คได้นำถ่านนี้ใส่ไว้ในหัวผักกาดเทอนิพที่ถูกเจาะให้กลวง เพื่อให้ไฟลุกโชติช่วงได้นานขึ้น ชาวไอริชจึงแกะสลักหัวผักกาดเทอนิพ และใส่ไฟไว้ด้านใน อันเป็นอีกสัญลักษณ์ของวันฮาโลวีน เพื่อระลึกถึง ‘การหยุดยั้งความชั่ว‘ Trick or Treat เพื่อส่งผลบุญให้กับญาติผู้ล่วงลับ และพิธีทางศาสนาเพื่อทำบุญวันปีใหม่ แต่เมื่อมีการฉลองฮาโลวีนในสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกาพบว่า ฟักทองหาง่ายกว่าหัวผักกาดมาก จึงเปลี่ยนมาใช้ฟักทองแทน หัวผักกาดจึงกลายเป็นฟักทองด้วยเหตุผลนี้
ประเพณีทริกออร์ทรีต ในสหรัฐอเมริกาคือการละเล่นอย่างหนึ่งที่เด็ก ๆ เฝ้ารอคอย ในวันฮาโลวีนตามบ้านเรือนจะตกแต่งด้วยโคมไฟฟักทองและตุ๊กตาหุ่นฟางที่เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลประเพณีเก็บเกี่ยว (Harvest Season) ในช่วงเดียวกันนั้น แต่ละบ้านจะเตรียมขนมหวานที่ทำเป็นรูปเม็ดข้าวโพดสีขาวเหลืองส้มในเม็ดเดียวกัน เรียกว่า Corn Candy และขนมอื่นๆไว้เตรียมคอยท่า ส่วนเด็กๆ ในละแวกบ้านก็จะแต่งตัวแฟนซีเป็นภูตผีมาเคาะตามประตูบ้าน โดยเน้นบ้านที่มีโคมไฟฟักทองประดับ พร้อมกับถามว่า “Trick or treat?” เจ้าของบ้านมีสิทธิที่จะตอบ treat ด้วยการยอมแพ้ มอบขนมหวานให้ภูตผี(เด็ก)เหล่านั้น ราวกับว่าช่างน่ากลัวเหลือเกิน หรือเลือกตอบ trick เพื่อท้าทายให้ภูตผีเหล่านั้นอาละวาด ซึ่งก็อาจเป็นอะไรได้ ตั้งแต่แลบลิ้นปลิ้นตาหลอกหลอน ไปจนถึงขั้นทำลายข้าวของเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วอาจจบลงด้วยการ treat เด็ก ๆ ได้ขนมในที่สุด
วันฮาโลวีน นิยมจัดเพื่อความสนุกสนาน ในสหรัฐอเมริกา ไอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร แคนาดา และยังมีในออสเตรเลีย กับนิวซีแลนด์ด้วย รวมถึงประเทศอื่นในทวีปยุโรป

http://th.wikipedia.org/wiki/

รวมแหล่งเพลง เหนือฟ้าคือฟ้า

เหนือฟ้าคือฟ้า
เหนือฟ้าคือฟ้า

รวมแหล่งเพลง “เหนือฟ้าคือฟ้า
เพลงประจำมหาวิทยาลัยเนชั่น มิถุนายน 2555

เพลง “เหนือฟ้าคือฟ้า
เพลงประจำสถาบัน มหาวิทยาลัยเนชั่น
คำร้อง ทำนอง อ.สุพจ สุขกลัด

ฟ้าสดใส  โลกสวยงาม
ฝันยังทอประกายฉายส่อง
ด้วยพลังเปี่ยมหวังเรืองรอง
เราถักทอสัมพันธ์ร่วมใจ

แม้เขตฟ้า จะสูงชัน
เราผู้กล้าฝ่าฟันไม่หวั่นไหว
ที่เหนือฟ้าเราคือฟ้า มีสัญญายิ่งใหญ่
คือร้อยดวงใจแล้วไปด้วยกัน

ด้วยศรัทธา สร้างปัญญาก้าวไกล มหาวิทยาลัยเนชั่น
กายต่างกายแต่ดวงใจเดียวกัน รักในการสร้างสรรค์สุดใจ

ฟ้ากว้างไกลสุดสายตา  โอบล้อมให้เราชาวฟ้ามั่นใจ
ก้าวสู่ฝัน สู่คืนวัน ชีวิตอันสดใส
มหาวิทยาลัยเนชั่น




http://www.youtube.com/watch?v=np-XRxCvQJI

http://soundcloud.com/thaiall/9gakdv08gfbk

http://soundcloud.com/thaiall/midi

http://www.4shared.com/mp3/ofX_Yjj0/ntu_song_2555_midi.html

http://www.4shared.com/mp3/dZHqjy9z/ntu_song_2555.html

http://thaiabc.com/lampangnet/admin/435/

ถูกไล่ออกเพราะไม่คิดก่อนโพส

ถูกไล่ออกเพราะไม่คิดก่อนโพส
ถูกไล่ออกเพราะไม่คิดก่อนโพส
สมัยผมเป็นเด็ก ได้ยินคำพูดว่า “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล” เป็นคติพจน์ที่น่าสนใจ ผมจึงคัดลอกบันทึกเรื่องหนึ่งจาก โครงการรณรงค์คิดก่อนโพส (Think-before-you-post Campaign) มาเผยแพร่ต่อ ดังนี้
หญิง: OMG (Oh My God) ฉันเกลียดงานตัวเอง! เจ้านายฉันเป็นพวกน่ารำคาญ จุกจิก ชอบสั่งให้ทำโน่นทำนี่ ชอบกวนโมโห น่ารังเกียจ Wanker!
(ปล. คำว่า wanker เป็นคำด่าแสลง หยาบคายพอสมควร สามารถเอาไว้ใช้เรียกพวกจิตวิปริต ที่ชอบแก้ผ้าสำเร็จความใคร่ในที่สาธารณะได้ สามารถใช้หมายถึงคนที่น่ารังเกียจได้)
ชาย: สวัสดี ญ. เธอคงลืมไปแล้วมั้งว่าเธอ add ฉันไว้ใน Facebook
ประเด็นแรกสุด ฉันขอบอกเลยนะที่รัก ว่าอย่าหลงตัวเองให้มาก
ประเด็นที่สอง เธอทำงานมาได้ 5 เดือน เธอไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นเกย์ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้ลอยไปลอยมาเป็น Queen แต่ก็ไม่ได้เป็นความลับอะไร เธอน่าจะดูออก
ประเด็นที่สาม ไอ้ที่เธอบอกว่าถูกสั่งให้ “ทำโน่นทำนี่” น่ะ คนทั่วไปเขาเรียกกันว่า “ทำงาน” เขาจ้างเธอมาทำงาน แต่ก็เอาเหอะ ฉันเข้าใจดี เพราะขนาดงานง่ายๆ เธอยังทำไม่ได้เลย ประสาอะไรกับงานอื่นๆ
ประเด็นสุดท้าย เธอคงลืมไปว่ายังเหลืออีก 2 สัปดาห์ถึงจะหมดระยะเวลาพ้นโปร 6 เดือน ก็เอาเป็นว่า พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ เดี๋ยวฉันจะเขียนใบประเมินทิ้งไว้ในตู้เอกสารของเธอ แล้วก็มาเก็บของกลับบ้านไปด้วย
“ฉันไม่ได้พูดเล่น”
ปล. ขอขอบคุณ http://www.passiveaggressivenotes.com/ สำหรับรูปภาพและข้อมูล

ค่าของเวลาของเราไม่เท่ากัน

time
time
มีนักศึกษาถามว่า เปิดเรียนวันไหน
ผมก็เข้าไปดูที่ http://it.nation.ac.th/std
ที่โฮมเพจสำหรับนักศึกษา พบปฏิทินการศึกษา และตารางเรียน และข้อมูลอื่น ๆ อีกเพียบ หากนึกถึงเรื่องเวลา ก็พบว่า มหาวิทยาลัยเนชั่นมีอีเมลที่ใช้บริการจาก gmail.com ภายใต้โดเมน @nation.ac.th ของนักศึกษาก็จะเป็น @std.nation.ac.th และมีระบบ google calendar ให้ใช้
บริการระบบ google calendar มีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการจัดสรรเวลา ทรัพยากรใดที่เรามีเหลือเฟือ ก็ไม่รู้สึกจำเป็นต้องจัดสรร เหมือนอากาศที่หายใจ ที่มีเหลือเฟือก็คงไม่ต้องนับว่าหายใจไปกี่ครั้งในหนึ่งนาที และได้เวลาหยุดหายใจ หรือเริ่มหายใจได้แล้ว (Lock-Out Movie 2012)
แต่อะไรที่มีจำกัดก็ต้องมีการจัดสรร เหมือนกับเวลา ท่านที่มีเวลาไม่พอ ทำอะไรก็รัดตัวไปหมด จำเป็นต้องมีปฏิทิน หรือตารางนัดหมายเข้ามาช่วย ซึ่งระบบ google calendar ช่วยได้มาก แต่ท่านใดมีเวลาเหลือเฟือ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ระบบ เพราะมีเวลามากพอ ทำให้รู้สึกไปว่า “ค่าของเวลาของเราไม่เท่ากัน
ปฏิทินการศึกษา ภาคเรียนที่ 2/2555
– เปิดเรียน 29 ตุลาคม 2555
– สอบกลางภาค 24 ธันวาคม 2555 – 4 มกราคม 2556
– วันสุดท้ายของการเรียนการสอน 15 กุมภาพันธ์ 2556
– สอบปลายภาค 18 กุมภาพันธ์ – 27 กุมภาพันธ์ 2556
– ประกาศผลการเรียน 15 มีนาคม 2556

โหนกระแส 3G สร้างนิยามใหม่ (itinlife366)

3g
3g

27 ต.ค.55 ข่าว 3G ที่เป็นเทคโนโลยีการสื่อสารที่ประเทศเพื่อนบ้านใช้มาหลายปี แต่เรายังไปไม่ถึงนั้น ระยะนี้มีข่าวออกมาค่อนข้างบ่อย และส่อไปในแนวว่าการประมูลที่จัดโดย กสทช. อาจถูกยกเลิกด้วยเหตุผลนานาประการ บริษัทที่ได้ไปประกอบด้วย เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ เรามารู้จัก 3G ในแบบของผมดีกว่า โดยเกาะกระแสคำว่า KM (Knowledge Management) คือการจัดการความรู้ ซึ่ง 3G ในที่นี้มาจากอักษรนำ 3 ตัวที่ขึ้นต้นด้วยตัว G ประกอบด้วย Gallery, Garbage และ Gross ซึ่งรวมกันให้ความหมายในเชิงให้คำแนะนำถึงประเด็นสำคัญในรูปของกระบวนการที่คอยย้ำเตือนว่าอย่าลืมสิ่งสำคัญเหล่านี้ หากลืมไปก็อาจมีความเสียหายตามมาได้

คำแรก Gallery คือ การสะสม เพราะมนุษย์เราทุกคนเกิดมาต้องมีการสะสม ร้อยละ 99 ก็จะสะสมเงินทอง ในอดีตเราจะสะสมอาหาร คนมีฐานะก็สะสมเสื้อผ้า รองเท้า เพชร งานศิลปะ เครื่องลายคราม หรือวัตถุโบราณ นักเรียนสะสมความรู้ นักศึกษาสะสมประสบการณ์ก่อนออกไปทำงาน คนทำงานก็จะสมผลงาน ในรูปของพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio) การมีของสะสมมากมักถูกมองว่าเป็นคนมีฐานะ เพราะมองเห็นเป็นที่ประจักษ์ว่ามีอะไรให้ชม อาทิ สะสมรถยุโรป สะสมภาพเขียน สะสมของโบราณ ผู้บริหารที่มีประสบการณ์ก็จะสะสมความรู้ ยิ่งรู้มากก็ยิ่งตัดสินใจอะไรได้ดี ถูกต้อง และมีคุณภาพ แล้วคนเหล่านี้ก็มักถูกบริษัทขนาดใหญ่ซื้อตัว แย่งชิงผู้บริหารไปบริหารบริษัทของตน อาทิ Steve Jobs หรือ John Sculley เป็นต้น

คำที่สอง Garbage คือ ขยะ เพราะหลังสะสมไประยะหนึ่ง ก็ต้องมีการจัดหมวดหมู่ วิเคราะห์ คัดกรอง แยกประเภท นำไปใช้ แล้วก็จะพบกับสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่สามารถใช้ประโยชน์ แล้วก็ต้องจำหน่ายขยะเหล่านั้นออกไป หากเข้าใจเรื่องนี้เหมือนร้านรับซื้อของเก่า ก็อาจทำธุรกิจใหม่ หรือสร้างมูลค่าจากขยะขึ้นมาได้ อาทิ การแปลงขี้ช้างไปเป็นกระดาษขี้ช้างเป็นต้น เรียกว่าเห็นขยะมีมูลค่าขึ้นมา คำที่สาม Gross คือ การสรุปผล หรือหาผลรวม ที่ต้องเข้าใจจังหวะเวลา รอบคอบ และความเหมาะสม เพราะมีคำเตือนจากสุภาษิตว่า สงครามยังไม่จบอย่าพึ่งนับศพ หรือ เกมยังไม่จบ อย่าพึ่งนับเงิน หมายถึง การปิดกิจกรรม/โครงการอย่างรอบคอบรัดกุม และประเมินผลทั้งหมดรอบด้านแล้ว ถ้าทำกิจกรรมใดแล้วห่วงหน้าพะวงหลัง คอยประเมินผลตลอดเวลาโดยใช้ข้อมูลไม่ครบ ก็อาจเป็นผลเสียมากกว่าผลดี

อึ้งผลสำรวจเด็กไทยพร้อมลอกข้อสอบ ขี้โกงถ้ามีโอกาส


มีโอกาสไปโรงเรียนสอนพิเศษของครู alex เห็นนิตยสารดาราสาวสวยวางบนโต๊ะ ระหว่างรอ 5 นาที พลิกอ่านไปมาจนจบพอดี ก็เลยมาค้นจาก net เพราะเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ทำให้ทราบสาเหตุของการสอบตกของเด็กไทย โบราณว่า “เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า”

เด็กไทยลอกข้อสอบ ขี้โกงถ้ามีโอกาส

วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 19:06 น. ข่าวสดออนไลน์
น.พ.วิชัย เอกพลากร คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี นักวิจัยโครงการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย เครือข่ายการวิจัยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข(สวรส.) เปิดเผยผลการสำรวจสุขภาพประชาชนไทย ครั้งที่ 4 พ.ศ.2551–2552 ในส่วนของพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ สังคมและจริยธรรม(อีคิว) ของเด็กไทย ว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างอายุ 1-14 ปี จำนวน 9,035 คน ใน 20 จังหวัด ด้วยการใช้แบบทดสอบพ่อแม่ และเด็ก โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มอายุ คือ อายุ 1-5 ปี  6-9 ปีและ 10-14 ปี เนื่องจากเด็กแต่ละช่วงวัยมีพัฒนาการต่างกัน เปรียบเทียบเมื่อปี 2544 พบว่า กลุ่มเด็กอายุ 6-9 ปี สำรวจ 8 ด้าน คือ วินัย สติ-สมาธิ เมตตา อดทน ซื่อสัตย์ ประหยัด การควบคุมอารมณ์และพัฒนาสังคม พบว่า ผลการทดสอบพัฒนาการด้านสังคม ได้คะแนนสูงกว่าด้านอื่นๆ ส่วนด้านที่ได้คะแนนต่ำ คือ ความมีวินัย ความมีสติ-สมาธิ ความอดทนและความประหยัด โดยพัฒนาการด้านที่เด็กได้คะแนนน้อยซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ได้แก่ พัฒนาการด้านความมีวินัยในเด็กชาย การมีสมาธิในเด็กหญิง ด้านความเมตตาและการควบคุมอารมณ์ทั้งเด็กชายและหญิง
ด้านกลุ่มเด็กอายุ 10-14 ปี สำรวจ 14 ด้าน ได้แก่ ความตระหนักรู้ในตน ความภาคภูมิใจในตนเอง ความเห็นใจผู้อื่น ความรับผิดชอบต่อสังคม การจัดการกับอารมณ์ การจัดการกับความเครียด การสื่อสาร สัมพันธภาพระหว่างบุคคล ความคิดสร้างสรรค์ค์ ความคิดวิเคราะห์วิจารณ์ การตัดสินใจ การแก้ปัญหา การควบคุมอารมณ์และคุณธรรมจริยธรรม พบว่า ในภาพรวมแม้ว่าเด็กจะมีคะแนนดีขึ้น แต่มีหลายด้านที่พบว่าคะแนนการสำรวจยังไม่ดีขึ้นกว่าปี 2544 ได้แก่ ด้านความคิดสร้างสรรค์ ความคิดวิเคราะห์วิจารณ์ การแก้ปัญหา และการควบคุมอารมณ์ ซึ่งเป็นจุดที่ได้คะแนนค่อนข้างต่ำ เมื่อแยกย่อยในส่วนของด้านจริยธรรม เด็กกลุ่มนี้ เห็นว่า “การเล่นขี้โกงเมื่อมีโอกาส” และ “การลอกข้อสอบถ้าจำเป็น เป็นพฤติกรรมที่เด็กยอมรับได้มากขึ้น
“ปัจจัยที่ส่งผลให้เด็กมีปัญหาจริยธรรม พบว่า ตัวแปรสำคัญคือระดับการศึกษาของพ่อแม่ และผู้เลี้ยงดู พ่อแม่ที่มีการศึกษาสูงขึ้น เด็กจะมีจริยธรรมและพฤติกรรมในทางที่ดีมากขึ้น อาจเป็นเพราะพ่อแม่ที่มีการศึกษาสูงมีโอกาสสัมผัสและเรียนรู้ว่าควรจะเลี้ยงลูกอย่างไร ทั้งนี้ สิ่งที่ควรพัฒนาในเด็กอายุ 1-5 ปี คือ การทำตามระเบียบกติกา ในเด็ก 6-9 ปี ในเด็กชายและเด็กหญิงควรพัฒนาด้านความเมตตาและการควบคุมอารมณ์ และสำหรับเด็กอายุ 10-14 ปี ควรฝึกการควบคุมและจัดการกับอารมณ์ รวมทั้งการคิดวิเคราะห์วิจารณ์”  รศ.นพ.วิชัย กล่าว

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeE5qWXdOamcwTkE9PQ

http://picpost.mthai.com/view/17043

เด็กไทยลอกข้อสอบ ขี้โกง ถ้ามีโอกาส
เด็กไทยลอกข้อสอบ ขี้โกง ถ้ามีโอกาส

การแปลงภาพเป็น e-book


สาธิตการแปลงแฟ้มภาพเป็น e-book
โดยต้นเหตุเกิดจากการ scan หนังสือทั้งเล่มเป็นแฟ้มภาพ (.jpg) จำนวน 200 หน้า ด้วยเครื่อง scan แบบฝาปิดเปิด แล้วต้องการทำเป็น e-book ด้วยการรวมภาพทั้งหมดเป็นแฟัม .pdf แล้วผมก็เลือกโปรแกรม pdf creator ทำหน้าที่จำลอง printer ขึ้นมา เมื่อ print ภาพทั้งหมดผ่านโปรแกรม photo printing wizard ก็จะส่งผลลัพธ์ทั้งหมดไปให้กับเครื่องพิมพ์เสมือนจริงชื่อ pdf creator ทำหน้าที่แปลงเป็น e-book หรือแฟ้ม .pdf ตามต้องการ ซึ่งขนาดแฟ้ม pdf ก็พอ ๆ กับขนาดจากการรวมภาพทั้งหมดครับ

acrobat reader to read e-book
acrobat reader to read e-book

สาธิตการสแกนหนังสือ เป็น pdf ผ่าน multi-function printer

เหตุเกิดเพราะ กำลังจะเปิดภาคเรียนใหม่ หนังสือหลายเล่มที่ต้องใช้ประกอบการเรียนการสอนเป็นหนังสือหายาก สำหรับผมแล้วรู้สึกว่ามีเล่มเดียวในโลก (พิมพ์เมื่อ 15 ปีก่อน) จะให้นักศึกษาในห้องยืมอ่านพร้อมกันก็ไม่ได้ จึง scan หนังสือเล่มหนึ่งเก็บไว้อ่านคนเดียวที่บ้าน ที่บ้านมี printer แบบฝาเปิดปิด แล้ว scan หนังสือจำนวน 200 หน้า ผมใช้เวลาครึ่งวันในวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2555 คิดว่าถ้ารับจ้างสแกนหน้าละ 10 บาทด้วยวิธีนี้คงไม่รุ่งแน่ ก็นึกขึ้นได้ว่าที่มหาวิทยาลัยมีเครื่อง printer แบบ multi-function และมีระบบ auto-feed หากเราเอาหนังสือไปจ้างร้านถ่ายเอกสารทำเป็นแผ่น แล้วนำทั้งหมดเข้า auto-feed ก็จะได้แฟ้ม pdf มาใช้งานด้านการศึกษาได้โดยง่าย
26 ต.ค.55 สาธิตการสแกนหนังสือ เป็น pdf ผ่านระบบ auto feed ของ canon multi-function printer โดยแสดง 2 รูปแบบ คือ 1) ส่งผลงานไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์ 2) ส่งผลงานเข้าเครื่อง printer แต่การสแกนหนังสือผมแนะนำว่าให้จ้างร้านถ่ายเอกสารสแกนเป็นแผ่นก่อน แล้วค่อยนำมาเข้าเครื่องนี้ แล้วอาจนับได้ว่านี่คือการทำ e-book อีกวิธีหนึ่ง ที่ง่ายเพียงคลิ๊ป หากมี scanner ที่มี auto feed
multi-function printer
multi-function printer
หากชมคลิ๊ปนี้แล้ว และรับ scan หนังสือหน้าละ 10 บาท ทำ e-book ผมว่าสบายเลย  มีขั้นตอนคือไปจ้างร้านถ่ายเอกสารทำเป็นเอกสารหน้าละ 40 สตางค์ แล้วหา scanner แบบ auto-feed กดปุ่มเดียวบนเครื่อง scan ก็จะได้เล่มทันที แล้วนำไปทำ e-book ด้วยโปรแกรมอื่นได้อีกมากมาย อาทิ Flash Page Flip, Flip Album หรือ Kvisoft FlipBook Maker
เล่าสู่อาจารย์ .. เหตุเกิดที่ห้องทำงานของอาจารย์คณะบริหารธุรกิจ ม.เนชั่น

สรยุทธ 2553

สรยุทธ สุทัศนะจินดา
จิตอาสา ของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา
สรยุทธ สุทัศนะจินดา จากสื่อ 2553 ทำให้ผมรู้สึกว่า
เขาเป็นผู้มี จิตอาสาเป็นเลิศ ได้รับการโจษจันทั่วทุกแคว้น
———————
24 ธ.ค.53 สรยุทธ สุทัศนะจินดา (Sorayuth Suthatsanajinda) วัย 44 ปี  คือ นักเล่าข่าว  (News Talk) ที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการ จากรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ คุยคุ้ยข่าว และ ถึงลูกถึงคน  กล่าวกันว่า ชั่วโมงนี้ ไม่มี พิธีกรนักเล่าข่าวคนใดในวงการที่ทรงอิทธิพลเท่า “เฮียสอ
จุดเด่นของ “สรยุทธ” ที่ไม่มีใครทาบติด คือ
ลีลาแบบดุ เผ็ด เด็ด มัน
แต่นักวารสารศาสตร์ ยกให้เขาเป็น “สื่อดราม่า” ตัวพ่อ
ดร.มานะ ตรีรยาภิวัฒน์”  อาจารย์วารสารศาสตร์ ม.หอการค้า   อธิบาย ปรากฏการณ์นักข่าว “ดราม่า”   หรือ Emo-Journalism  (Emotion Journalism)  ว่าหมายถึง วารสารศาสตร์ที่ขับเน้นแต่อารมณ์ ความรู้สึกของผู้เสพข่าวสารเป็นหลัก
บทบาทของนักข่าวในแนวของ Emo-Journalism ผิดแผกแตกต่างจากนักข่าวในแบบเดิมที่ได้รับการสั่งสอน บ่มเพาะให้นำเสนอข่าวด้วยความเป็นกลาง เที่ยงตรง เป็นธรรม พยายามดึงตัวเองออกจากเรื่องราวข่าวสารที่กำลังนำเสนอ
ที่สำคัญ คือ นักข่าวรวมทั้งผู้ประกาศข่าวต้องไม่แสดงอารมณ์รัก ชอบ เกลียด โกรธ ผ่านออกมาทางการรายงานข่าว
แต่นักข่าว หรือผู้รายงานข่าวในแนว Emo-Journalism ไม่เพียงแต่แสดงอารมณ์ความรู้สึกผ่านการรายงานข่าวเท่านั้น หากแต่ยังกระโดดเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในตัวละครข่าว
พูดง่ายๆว่า ข่าวกลายเป็นเรื่อง “ดราม่า” มากๆ โดยมีนักข่าวเป็นตัวละครเอกคนหนึ่งในข่าว
ปี 2553  Emo-Journalism ถูกปรุงรสลงตัวที่สุด ในตัว เจ้าพ่อนักเล่าข่าวที่ชื่อ “สรยุทธ”
ถ้านึกภาพไม่ออกขอให้ย้อนไปดูวีรกรรมของเขาในช่วงวิกฤตน้ำท่วมทั่วไทย   ชาวบ้านตาดำๆ  ลอยคออยู่ในน้ำ บ้านเรือนจมหาย  หมดเนื้อหมดตัว  แล้วจู่ๆ  เฮียสอ ตัวเป็นๆ ก็ลุยน้ำออกมา  ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับชาวบ้านในหลายพื้นๆที่จากภาคอีสานถึงหาดใหญ่
ภาพที่ชาวบ้านร้องไห้ กอดคอ “สรยุทธ” เป็นภาพที่ถูกนำไปเปรียบเทียบกับนายกรัฐมนตรี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่ออกไปเยี่ยมเยือนชาวบ้านที่กำลังจมน้ำ  แต่นายกฯอยู่บนรถบรรทุกทหารจีเอ็มซี    พร้อมบริวารมากมาย หรือ ภาพผู้นำตัวแห้งบนเรือที่ถูกลากโดยข้าราชการที่เปียกน้ำ
ผมว่ายน้ำไม่เป็น แต่ผมอยากมาช่วยเหลือพี่น้อง”  คำพูดเพียงแค่นี้ของ “สรยุทธ”  ก็ได้ใจคนทั้งประเทศ
ขณะที่น้ำท่วมใหญ่ที่หาดใหญ่   ชั่วโมงแรก ๆ ไม่มีใครรู้นายกรัฐมนตรี อยู่ที่ไหน  แต่ในจอทีวีช่อง 3  “สรยุทธ” เข้าไปถึงพื้นที่ที่วิกฤตที่สุด พร้อมความช่วยเหลือ หญิงชาวบ้านที่เดือดร้อนสาหัส  กอดเฮียสอ …ร้องไห้โฮ !!!   นี่มันยิ่งกว่า ดราม่า เสียอีก
บนความหายนะของชาวบ้าน  ใครจะเชื่อว่า สรยุทธ และช่อง 3 ระดมความช่วยเหลือเพื่อเยียวยาความเสียหายจากน้ำท่วม ได้อย่างรวดเร็วและทันเวลา   ไม่ว่า “สรยุทธ” ขออะไร ภาคธุรกิจก็ตอบสนองให้ในทันทีในรายการเล่าข่าว  ขณะที่ความช่วยเหลือจากภาครัฐ เป็นไปอย่างเชื่องช้า ตามระบบราชการ
ในบทบาทของฮีโร่ “สรยุทธ” สอบได้คะแนนเต็ม แต่ในบทบาท “แมลงวัน” ที่ตอมกลิ่นฉาวในวงการบันเทิง   “สรยุทธ” ก็เล่นกับข่าว “ฟิล์มและแอนนี่” ได้อย่างถึงพริกถึงขิง กล่าวกันว่า ในช่วงที่สรยุทธ์ เอา “แอนนี่” มาแฉ ฟิล์ม กลางจอช่อง 3 วันนั้น ถนนกลางกรุงเทพว่าง ไม่มีรถวิ่ง  ราวกับวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์
“ฟิล์มกับแอนนี่” ในการกำกับของเฮียสอ กระชากเรตติ้งของช่อง 3 ที่ดีอยู่แล้ว ให้พุ่งกระฉูด จนทีวีช่องอื่นๆ ง่วงเหงาหาวนอน
แต่เมื่อ กระแสสังคมตีกลับ วิจารณ์สื่อที่ไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของดารามากเกินไป   “สรยุทธ” กลับตัวได้เร็วกว่าใครเพื่อน
นี่คือความเป็นสุดยอดของ “นักเล่าข่าว” ที่หาตัวจับได้ยากยิ่ง เพราะเขารู้ว่า เมื่อใด ควรรุก เมื่อใด ควรถอยและหยุด และในวันที่ “คนรักบอล” กำลังเซ็งเป็ดกับ “ทีมฟุตบอลไทย” ที่ฟอร์มตก จนต้องลุกขึ้นมา ประท้วงขับไล่ “วรวีร์ มะกูดี” ให้ ลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ  จุดรวมตัวที่ดีที่สุดคือ ช่อง 3  และหนังสือขับไล่นายกสมาคมฯ ก็ถูกยื่นใส่มือ “สรยุทธ”
เหตุก็เพราะในสายตาชาวบ้าน “สรยุทธ”เป็นมากกว่าสื่อ   เพราะหมอนี่ (มัน) พึ่งได้ทุกเรื่อง !
“สรยุทธ” เคยเผยเทคนิคการสร้างความใกล้ชิดกับคนดู ว่า  “ต้องมี Contact อะไรบางอย่าง ต้องสื่อสารกับคนดูเหมือนเขานั่งอยู่กับเรา  สมัยก่อนบางวันผมทำรายการแล้วรู้สึกไม่สนุก เพราะรู้สึกว่า Contact เขาไม่ถึง ถ้าวันไหนสนุก ก็ Contact ถึง”
หลักในการ Contact ให้ถึงผู้ชมของ สรยุทธ คือ
1. มีพื้นฐานข่าว มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งต้องใช้เวลา ต้องสร้าง และมันไม่มีทางลัด ทำให้การเล่าข่าวมาจากความเข้าใจ เนื้อหาอยู่ในหัว
2. มีความเป็นมนุษย์ พิธีกรข่าวไม่ใช่ผู้วิเศษ ผิดพลาดได้ เก่งและไม่รู้ได้ แต่ให้เป็นธรรมชาติ ไม่โอเวอร์ แต่ก็ต้องไม่จืด
เทคนิคของ “สรยุทธ” สอดคล้องกับผลสำรวจของ AC Nielsen Media Research ที่ว่า   เหตุผลหลักๆ ในการเลือกรับชมข่าวคือ “พิธีกร” ส่วนปัจจัยด้านความรวดเร็ว การเกาะติดทันเหตุการณ์นั้น รองลงมา ขณะที่คุณภาพของข่าวด้านความน่าเชื่อถือ การวิเคราะห์ข่าวนั้นเป็นปัจจัยลำดับท้าย ๆ
สำหรับสังคมไทยแล้ว “สรยุทธ” ยังอยู่ได้อีกนาน บางทีอาจยาวนานกว่า “ลาร์รี่ คิง” เพราะคนไทยส่วนใหญ่ เสพข่าวผ่านโทรทัศน์ มากที่สุด
หากพิจารณาผ่าน “เม็ดเงิน” ผ่านสื่อกระแสหลัก ในช่วงมกราคม – พฤศจิกายน 2553  ที่สำรวจโดย  NIELSEN  พบว่า เม็ดเงินโฆษณาทั้งตลาด 9 หมื่นกว่าล้าน  เป็นส่วนแบ่งของทีวี กว่า 55,435 ล้านบาทหรือ คิดเป็น 60.43 %  รองลงมาคือ หนังสือพิมพ์ 13,522 ล้านบาท   อันดับสามคือ วิทยุ 5,559 ล้านบาท ส่วนสื่อใหม่อย่างอินเทอร์เนต ได้ส่วนแบ่งแค่ 264 ล้านคิดเป็น 0.29  %
กล่าวได้ว่า “เฮียสอ” คือ ยอดคลื่นของสื่อทีวีที่ทรงอิทธิพลและมั่งคั่งที่สุดแห่งปี 2553
ใครหลายคน พูดทีเล่นทีจริงว่า ถ้าพรรคเพื่อไทย ได้หัวหน้าพรรคชื่อ สรยุทธ สุทัศนะจินดา  อาจกลับมาเป็นรัฐบาล อีกครั้ง !!!

แรงเงา 2544 กับ 2555

แรงเงา (rangngao)
แรงเงา (rangngao)

http://www.youtube.com/playlist?list=PL8B0D2D32F36B95D4

ละคร แรงเงา เมื่อปี 2001 (พ.ศ.2544) มี 25 ตอน
นำแสดง : แอน ทองประสม และ ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์
บทประพันธ์โดย : นันทนา วีระชน
บทโทรทัศน์โดย : วิสุทธิชัย บุณยะกาญจน
กำกับการแสดงโดย : ชูศักดิ์ สุธีรธรรม

ผลิตโดย : บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ออกอากาศ ทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.20 น. ไทยทีวีสีช่อง 3

เรื่องนี้ผมดูประมาณ 3 ตอน ตอนแรก ตอนกลาง และตอนจบ
เพราะมีคนมาเปิดข้าง ๆ ตอนนั่งทำงานที่บ้าน
แล้วผมก็ถาม คนที่นั่งดูอยู่ว่า ดูเรื่องนี้แล้ว ผู้ดูเรียนรู้อะไร

ตอนที่ 25 .. นี่คือตอนที่ผมดู

http://www.manager.co.th/drama/ViewNews.aspx?NewsID=9550000116055

กำกับการแสดง : ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ผลิต : บ.บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด โดย อรุโณชา ภาณุพันธ์
วันเวลาออกอากาศ : จันทร์ – อังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 เริ่ม จันทร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เรื่องย่อ

มุตตา และ มุนินทร์ เป็นฝาแฝดเหมือนที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว อันเป็นผลจากการเลี้ยงดูและชะตากรรมของสองพี่น้อง

ในวัยเยาว์มุตตาเป็นลูกรักของ นายแปลก นางพิณ เจ้าของร้านกาแฟในเมืองเพชรบูรณ์ มุตตาเป็นเด็กเลี้ยงง่าย สะสวย อ่อนหวาน ในขณะที่มุนินทร์เป็นลูกชัง เพราะเป็นเด็กดื้อ เลี้ยงยาก มอมแมม เป็นโรคผิวหนัง มุนินทร์อิจฉามุตตาคอยกลั่นแกล้ง มุตตาเองก็เป็นเด็กช่างฟ้อง ทำให้ทั้งสองเกลียดชังกันมากขึ้น
เมื่อเด็กทั้งสองเติบโตขึ้น มุตตาเป็นเด็กสาวแสนสวย ผมยาว มารยาทงดงาม เก่งการบ้านการเรือน แต่มุตตากลับหัวไม่ดี เรียนช้ากว่ามุนินทร์ถึง 2 ปี ส่วนมุนินทร์มอมแมม เก้งก้าง เป็นนักกีฬาของโรงเรียน เป็นเด็กเรียนดีที่ถูกตีรายวัน มุนินทร์พบว่าเธอมีอาวุธคือความฉลาด และจะใช้การศึกษาเป็นบันได มุนินทร์ยังมีปมอยากรวย กลายเป็นเด็กขี้เหนียว เก็บหอมรอมริบมาตั้งแต่เด็ก
และจุดเปลี่ยนสำคัญก็มาถึง เกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ร้านกาแฟ นางพิณโทษว่าเป็นความผิดของมุตตา มุนินทร์เอาเงินเก็บ 70,000 บาทออกมาให้พ่อแม่ซ่อมบ้าน และคือจุดเริ่มต้นที่มุนินทร์เริ่มกลายเป็นลูกรักบ้าง
มุนินทร์เข้าเรียนวิศวคอมพิวเตอร์ในมหาวิทยาลัยชื่อดัง เธอเป็นนักเรียนทุน มีเพื่อนรักเป็นสาวไฮโซชื่อ ลูกศร ที่คอยเกื้อหนุน มุนินทร์ทำงานพิเศษจนส่งมุตตาเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน และคอยตอกย้ำมุตตาทุกวัน มุนินทร์เรียนจบและได้ทุนไปเรียนต่อปริญญาโทที่สหรัฐอเมริกาพร้อมกับลูกศร ลูกศรเป็นอเมริกันซิติเซ่นทำให้มุนินทร์ยิ่งมีโอกาสต่างๆ มากขึ้น ระหว่างเรียนมุนินทร์ได้ฝึกงานบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่และมีผลงานยอดเยี่ยม
มุนินทร์หาเงินทองได้มากมาย และส่งเงินมาให้พ่อแม่ทำไร่ดอกไม้ขนาดใหญ่จนมีฐานะดี มุตตาเรียนจบก็มาช่วยพ่อแม่ดูแลไร่ และรองรับความเจ้าอารมณ์ของนางพิณ ทำให้มุตตากลายเป็นสาวช่างฝัน โรแมนติก และฝันที่จะออกไปจากไร่และเงาของมุนินทร์
มุนินทร์เรียนจบปริญญาโทและทำงานกับบริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ที่อเมริกา มุตตาที่สอบ ก.พ.ไว้ถูกเรียกตัวบรรจุเข้าเป็นข้าราชการในกองบริหารจัดการของกรมๆ หนึ่ง มุตตาย้ายไปกรุงเทพฯ พักอยู่หอพักหญิง มี พร สาวใหญ่เจนโลกเป็นเพื่อน
มุตตามาทำงานที่กอง มีเพื่อนร่วมงานชื่อ อรพิม และ ทิพอาภา เธอได้รู้จักชายหนุ่มนิสัยดีที่ทำงานในกองเดียวกันชื่อ วีกิจ วีกิจสนใจมุตตา ทั้งสองสนิทสนมกัน วีกิจชอบมุตตาอยากขอเป็นคนรัก แต่มุตตากลับเห็นว่าวีกิจเด็กไป ในขณะที่ ปริม ซึ่งหลงรักวีกิจเห็นมุตตาเป็นศัตรูหัวใจ นอกจากนี้ยังมีแกงค์กะเทยกอสซิปคอยนินทาทุกเรื่องทั้งจริงทั้งเท็จเป็นลูกคู่ของปริม
มุตตาได้พบ เจนภพ ผู้อำนวยการกองหัวหน้าของเธอ มุตตาประทับใจเจนภพมาก เจนภพเป็นอาแท้ๆ ของวีกิจ และอยู่บ้านร่วมรั้วเดียวกัน เจนภพเองก็หลงใหลมุตตาตั้งแต่แรกเห็น และพยายามชนะใจมุตตาอยู่เงียบๆ
เจนภพมีภรรยาชื่อ นพนภา นักธุรกิจบ้านที่ดินเศรษฐีนีร้อยล้าน นพนภาทำให้อาชีพการงานเจนภพก้าวหน้า นพนภาและเจนภพแม้รักกันมาก แต่ก็มีเรื่องกระทบกระทั่งกันอยู่เรื่อยๆ จากความเจ้าชู้ของเจนภพ กับความหลงตัวเองและข่มสามีของนพนภา
เจนภพและนพนภามีลูก 3 คนคือ ต้อง สาวน้อยวัย 17 ปี ที่โตเกินวัยและเป็นสาวซ่า ต้องเป็นลูกรักของเจนภพแต่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับนพนภา ในขณะที่ ต่อ ลูกชายคนรองวัย 16 ปีเป็นลูกรักของแม่ นพนภาคอยปรับทุกข์ด่าว่าเจนภพให้ลูกชายฟัง โดยไม่รู้ว่าทำให้ต่อดูแคลนพ่อและเริ่มเบี่ยงเบนทางเพศ เจนภพ นพนภายังมีลูกหลงอีก 1 คนชื่อ ต้อม เป็นเด็กสมาธิสั้น เจ้าอารมณ์ พูดจาหยาบคาย เพราะได้ยินตัวอย่างมาจากแม่และ ยายนภางค์ ที่จงชังเจนภพ
เจนภพเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์มีสาวๆ มาติดพันเสมอ เจนภพเองก็ชอบคบกับสาวๆ ที่เห็นเขาเป็นผู้นำและยกย่องเขา เจนภพจึงคบผู้หญิงเหล่านี้แบบเมียน้อยเสมอ เจนภพแม้จะปิดเป็นความลับ แต่นพนภาก็จะสืบรู้และตามอาละวาดด่าทอตบตีจนแตกกระเจิงไปทุกราย
เจนภพคอยสืบข้อมูลจากวีกิจและทำตัวเป็นชายในฝันของมุตตาทุกอย่าง เจนภพลวงให้มุตตาเข้าใจว่าเขากับนพนภาไม่ได้รักกันและกำลังต่างคนต่างอยู่ใกล้จะหย่าขาด มุตตาหลงรักเจนภพและหวังจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาในอนาคต
แจงจิต เลขาสาวใหญ่ของเจนภพเห็นท่าทีของทั้งสองก็เป็นห่วงมาก จึงติดต่อ เนตรนภิศ น้องสาวนพนภาให้ปรามเจนภพ เนตรนภิศเกลียดชังนพนภาจึงไม่ยอมบอก
วันเกิด 25 ปีของมุตตา วีกิจขอเป็นแฟนมุตตา มุตตาปฏิเสธ เจนภพมารู้เข้าทีหลังจึงจัดงานวันเกิดย้อนหลังให้ เจนภพให้สร้อยไข่มุกที่ขโมยจากนพนภาบอกว่าเป็นสัญญารัก เจนภพมอมมุตตาด้วยคำลวง ของขวัญ และไวน์ เขาพามุตตาเข้าม่านรูด มุตตาตกเป็นของเจนภพและคิดเพียงแต่ว่าไม่นานเจนภพจะหย่าขาดกับนพนภา
เนตรนภิศได้รู้จักเด็กสาวชื่อ รัชนก ที่เข้ามาเป็นลูกจ้างชั่วคราวของกอง เนตรนภิศใช้รัชนกสืบความเป็นไปของมุตตาและเจนภพ รัชนกทำใสซื่อสนิทสนมกับมุตตาและคอยยุยงมุตตาให้ยิ่งถลำลึกกับเจนภพ
ประสิทธิ์ชัย เพื่อนวีกิจเป็นจอมเจ้าชู้หลอกผู้หญิงมามากมายหลงใหลรัชนก รัชนกทำตัวไร้เดียงสายั่วประสิทธิ์ชัย เมื่อรู้ว่าประสิทธิ์ชัยมีฐานะร่ำรวยเธอจึงยอมคบเป็นแฟน

เจนภพหลอกนพนภาว่ามุตตาเป็นแฟนวีกิจ นพนภาจึงมาทำสนิทสนมกับมุตตา ทำให้มุตตายิ่งขมขื่นและสงสัยว่านพนภายังคงรักเจนภพ แต่เจนภพก็ยังล่อหลอกมุตตาได้ต่อไป เริ่มมีคนในกองระแคะระคายความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ปริมยิ่งปล่อยข่าวซ้ำ แต่ไม่มีใครเชื่อ
นพนภาไปทำธุรกิจต่างประเทศ เจนภพพามุตตาไปสมุยบอกว่าเป็นฮันนีมูน มุตตาตัดสินใจปล่อยตัวเองให้ท้อง โดยไม่รู้ว่าเนตรนภิศ รัชนก และ ศักดิ์ชาย พี่ชายของรัชนกตามไปแอบถ่ายคลิปของทั้งสอง
คลิปเบลอๆ ของเจนภพกับมุตตาถูกเผยแพร่ไปทั้งกอง มุตตาช็อค แต่เจนภพให้ปฏิเสธและทำตัวปกติ จนทุกคนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ปริมส่งคลิปไปให้นพนภา นพนภาเต้นแต่เจนภพก็ยังแก้ตัวเอาตัวรอดไปได้
วีกิจรู้ว่าเจนภพจะเก็บมุตตาเป็นเมียน้อย เขาสงสารเธอโดยพยายามเป็นเพื่อนและเตือนเธอเป็นนัยๆ ให้เธอเลิกกับเจนภพ มุตตาอายจนพาลโกรธวีกิจ มุตตายังคงบอกตัวเองว่าเธอไม่ผิด
นพนภาไปรู้จักกับ ประพงส์ นายบ่อนมาเฟียหนุ่ม เธอใช้คนของประพงส์จัดการกับลูกหนี้ที่ดื้อแพ่งจนเป็นข่าวอื้อฉาว ในขณะที่ต้องถูกจับในงานปาร์ตี้ยาเสพติดกับ แจ๊ค เพื่อนขี้ยา เนตรนภิศเห็นเป็นโอกาสดี ให้รัชนกปล่อยคลิปที่ 2 ที่ชัดเจนของเจนภพ มุตตา และบอกนพนภา
มุตตาแน่ใจว่าตัวเองตั้งท้อง และคิดว่าคราวนี้เจนภพคงหย่าขาดกับนพนภาได้เสียที ในวันที่เธอฝันหวานเรื่องบอกข่าวกับเจนภพ นพนภาโผล่มาด่าประจานตบตีมุตตาหน้ากระทรวงต่อหน้าทุกคน เธอกระชากสร้อยไข่มุกขาดกระจาย มุตตารู้ว่าเจนภพหลอกเรื่องจะหย่ากับนพนภา เธอเซซังหนีไป
พรยุยงมุตตาให้สู้ พรด่านพนภาจนนพนภาโกรธจัด เธอส่งมือปืนคนของประพงส์มาชิงทรัพย์มุตตา จากนั้นก็ส่งคนเดิมมาข่มขืน แต่มุตตาก็รอดมาได้
มุตตาติดต่อวีกิจให้นัดเจนภพ เธอนัดเจนภพที่กอง นพนภาไม่ไว้ใจเธอตามมาคุม เจนภพพยายามพูดให้นพนภากลับไปโดยยืนยันว่ามุตตาใจง่าย ไม่เคยรักมุตตา นพนภาคือคนเดียวที่เขารัก มุตตามาได้ยินเข้า เธอหมดสิ้นทุกอย่าง เธอคิดจะทำแท้งแต่ทำไม่ได้ จึงเดินทางกลับไปเพชรบูรณ์
มุตตาพบว่ามุนินทร์กำลังจะกลับมาทำงานตำแหน่งสูงในเมืองไทย เธอยิ่งน้อยเนื้อต่ำใจ ขณะนั้นชาวบ้านร่ำลือถึง วรินดา เพื่อนของเธอขายตัวและติดเอดส์กลับมาบ้านพร้อมกับลูกในท้อง นางพิณด่าว่าวรินดาบอกว่าตายเสียดีกว่า นั้นเป็นฟางเส้นสุดท้ายทำให้มุตตาตัดสินใจ เธอขออโหสิกรรมกับทุกคนในชีวิตและผูกคอตาย
มุนินทร์กลับมาบ้านเจอภาพมุตตาผูกคอตาย เธอตกใจเสียใจมากที่ไม่เคยทำดีกับน้องสาวเลย เธอคิดจะสืบหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้น เธอกลับมายังหอพักสวมรอยว่าคือมุตตา เพียงไม่นานเธอก็ปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ และตัดสินใจจะแก้แค้นให้มุตตา
วีกิจมาหามุตตา มุนินทร์พบว่าวีกิจดีกับมุตตาด้วยใจจริง ทำให้เธอชอบวีกิจมาก ในขณะที่วีกิจพบว่ามุตตาคนใหม่เข้มแข็ง ชาญฉลาด มีเสน่ห์ดึงดูดต่อเขามากกว่ามุตตาคนเดิม
มุนินทร์กลับมาทำงาน รู้เรื่องปริมว่าคอยสร้างเรื่องทำลายมุตตา เธอหาเรื่องตบตีปริมที่พริ้นเตอร์จนปริมเลอะไปทั้งตัว เธอรู้ว่าแกงค์กะเทยเป็นคนปล่อยคลิปนพนภาตบตีมุตตาลงยูทูป เธอแฮ็คเข้าคอมพ์ของกลุ่มกะเทยเอารูปลับเฉพาะน่าอับอายของทั้งสามมาประจาน และกระชากหน้ากากรัชนกเปิดโปงว่าเธอเป็นนกสองหัว
เจนภพเริ่มหึงหวงวีกิจ มุนินทร์เองก็คิดจะใช้วีกิจให้เจนภพหึง เจนภพพยายามทำเจ้าชู้กับมุนินทร์เลยถูกเธอกลั่นแกล้งให้อายคนทั้งกอง เธอพาลหาเรื่องปริม รัชนก ท้าทายให้ไปฟ้องนพนภา
นพนภารู้เข้าก็บุกไปกองด่าทอมุนินทร์ แต่ถูกมุนินทร์ด่าสวนตบจนตกบันไดเข้าโรงพยาบาล บรรดาพลพรรครักปริมช็อค คนเชียร์มุตตาดีใจกัน วีกิจตกใจแต่ก็พอใจกับมุตตาที่สู้คน นพนภาโวยวายให้เจนภพไล่มุตตาออก เจนภพขอให้มุนินทร์ไปขอโทษนพนภา เธอบอกว่าจะไปตบซ้ำอีก 10 ครั้ง แล้วประกาศลาออกขนของมุตตากลับไป วีกิจขนของไปส่งและบอกจะอยู่ข้างเธอ
มุนินทร์คิดเลิกรากับนพนภา แต่เธอกลับไปล้างแค้นเสี่ยที่ลวนลามมุตตา วีกิจติดต่อมุนินทร์ ทั้งคู่ไปทะเลด้วยกันและยิ่งรู้สึกดีๆ ต่อกันมากขึ้น
ขณะเดียวกันประสิทธิ์ชัยวางแผนเคลมรัชนก โดยไม่รู้ว่าถูกรัชนกซ้อนแผนทำเป็นสาวบริสุทธิ์ ประสิทธิ์ชัยหลงใหลเธอยิ่งขึ้น
นพนภาติดประพงส์ให้ส่งมือปืนคนเดิมไปจัดการมุตตา ต้องกลับเริ่มหลงเสน่ห์ประพงส์
มุนินทร์กลับไปทำงานที่บริษัทคอมพิวเตอร์กับลูกศร เธอซื้อคอนโดหรู รถใหม่ วีกิจเจอลูกศรแปลกใจที่ลูกศรเรียกเธอว่า “นิน” มุนินทร์ย้ายออกจากหอพักและทิ้งโทรศัพท์มุตตาเพื่อตัดการติดต่อกับชีวิตเก่าของมุตตา แต่กลับคิดถึงแต่วีกิจอยู่
พรย้ายมาอยู่ห้องมุตตาโดนมือปืนทำร้าย มุนินทร์รู้ข่าวแน่ใจว่าเป็นฝีมือนพนภาจึงแค้นขึ้นมาใหม่ เธอติดต่อเจนภพไปกินข้าว แล้วโทรตามนพนภาให้มาแล้วหลบไป นพนภาอาละวาดและกลับต้องมาจ่ายเงินค่าอาหาร วีกิจรู้เรื่องเขาเริ่มหวงมุตตา สร้อยคำ เตือนให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับเธอ
มุนินทร์คิดถึงวีกิจ ลูกศรจึงเป็นแม่สื่อให้ทั้งสองติดต่อกันอีก วีกิจขอให้เธอเลิกรากับเจนภพนพนภา แต่มุนินทร์กลับรู้สึกผิดต่อมุตตา เธอล้างแค้นต่อ เธอนัดเจนภพไปหา มอมเหล้าเขาจนหมดสติแล้วพาเจนภพไปส่งที่บ้าน ต่อปากกับนพนภา นพนภาแค้นมาก วีกิจเสียใจที่มุตตาเป็นไปได้ขนาดนี้
เจนภพยิ่งลุ่มหลงมุตตาคนใหม่ที่เซ็กซี่ยั่วยวน มุนินทร์ยื่นข้อเสนอให้เขาหย่านพนภา แล้วโทรไปเยาะเย้ย เจนภพนพนภาทะเลาะเบาะแว้งถึงขั้นลงไม้ลงมือ
มุนินทร์ถูกมือปืนทำร้าย เธอใช้ที่ช็อตไฟฟ้าจัดการจนมันบาดเจ็บ มือปืนเคียดแค้นเธอจนกลายเป็นความแค้นส่วนตัว
มุนินทร์พาเจนภพเข้าม่านรูด จับเจนภพมัดไว้คล้ายเล่นเกมเซ็กหฤโหด และโทรไปให้นพนภาตามมา นพนภามาอาละวาดตบตีเจนภพ เผารถเบนซ์จนไฟเกือบไหม้ม่านรูด ช่างภาพที่มุนินทร์จ้างมาถ่ายวิดีโอไว้ทุกระยะ กลายเป็นคลิปยอดฮิตในโลกไซเบอร์
ต้องเริ่มติดยา เธอไปเสพยาที่คอนโดแจ๊คจนเกือบถูกรุมข่มขืน ประพงส์ผ่านมาช่วยไว้ ต้องยิ่งประทับใจประพงส์ เจนภพนพนภายิ่งหมางเมินกันเพราะเรื่องลูก บ้านเริ่มร้อนรุ่ม
เจนภพต้องใช้รถเก่า ไปเจอมุนินทร์กับเจ้านายและหึงหวงเธอ วีกิจยิ่งระแวงมุตตากับผู้ชายทุกคน วีกิจต่อว่ามุตตาขอให้เลิก เธอปฏิเสธ วีกิจยิ่งผิดหวัง
วีกิจแอบสะกดรอยตามมุนินทร์ไปถึงคอนโดของเธอ มือปืนแค้นมาดักทำร้ายเธอพอดี วีกิจช่วยเธอไว้จนบาดเจ็บ มุนินทร์พยาบาลเขา ทั้งคู่ยิ่งผูกพันมากขึ้น วีกิจขอเป็นแฟนอีกครั้ง มุนินทร์ตกใจเธอขอคิดดูก่อน
ประสิทธิ์ชัยไม่รู้ตัวว่าโดนรัชนกปอกลอก แม่ประสิทธิ์ชัยจับประสิทธิ์ชัยหมั้นหมายกับสาวไฮโซ ประสิทธิ์ชัยหวังว่ารัชนกจะยอมเป็นเมียน้อย รัชนกทำเป็นโกรธแค้น และกลับหลอกถ่ายวิดีโอเซ็กวิปริตกับประสิทธิ์ชัยไว้ แล้วเริ่มใส่ความประสิทธิ์ชัยว่าลวนลามเธอ และขอย้ายไปอยู่หน้าห้องเจนภพ เพื่อทั้งใกล้ชิดเจนภพและตีสนิทวีกิจ
รัชนกส่งวิดีโอแบล็คเมล์ประสิทธิ์ชัย แล้วเปิดเผยตัวจริง ประสิทธิ์ชัยยอมจ่ายเงินปิดปาก แล้วลาออกจากงานไปเรียนต่ออเมริกา
นพนภาร่วมกับประพงส์เปิดเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์เพื่อสูบเงินเด็กนักศึกษา ส่งต้องไปดูแลกิจการ ต้องยั่วยวนประพงส์จนกลายเป็นเมียเก็บของประพงส์
เจนภพบอกนพนภาว่าตอนนี้มุตตาหันไปหาวีกิจแล้ว นพนภาใจชื้นคืนดีกับเจนภพ ธุรกิจรุ่งเรือง ต่อได้เป็นเยาวชนดีเด่น เธอซื้อรถเบนซ์ใหม่เอี่ยมให้เจนภพ
วีกิจกับมุนินทร์ยิ่งใกล้ชิดกัน วีกิจหึงหวงมุตตาไปหมดทุกเรื่อง มุนินทร์รู้แต่ก็สุขใจ สร้อยคำไม่พอใจเริ่มมีเรื่องกับวีกิจ วีกิจเองลำบากใจ มุนินทร์เลิกคิดเรื่องแก้แค้นเจนภพนพนภา
วันเกิดวีกิจใกล้มาถึง วีกิจเตรียมงานเลี้ยงใหญ่เพื่อเปิดตัวมุตตากับเพื่อนทุกคน มือปืนยังแค้นมุนินทร์ มันบุกมาที่คอนโดจะฆ่าข่มขืน มุนินทร์ป้องกันตัวจนมันตกตึกลงไปตาย มุนินทร์คิดว่าเป็นฝีมือนพนภาจึงแค้นขึ้นมาใหม่ เธอโทรไปหานพนภาแต่นพนภาไม่อยู่ เนตรนภิศรีบบอกว่านพนภาพาครอบครัวไปที่ไหน
ในงานวันเกิด มุนินทร์ส่งของขวัญตัดสัมพันธ์วีกิจ วีกิจเสียใจมากคิดว่ามุตตากลับไปมีเยื่อใยกับเจนภพ วีกิจเมา รัชนกรีบทำตัวเป็นมุตตาล่อลวงวีกิจเข้าโรงแรม แต่วีกิจได้สติจึงรอดมาได้
มุนินทร์ตามเจนภพนพนภาไปยังโรงแรมหรูชายทะเล เธอยั่วยวนเจนภพ เจนภพพยายามสับคิวมาหามุตตา ในงานปาร์ตี้มุนินทร์จูบเจนภพเย้ยนพนภา แต่งเรื่องว่าเจนภพกำลังวางแผนฆ่า นพนภาช็อค วีกิจแอบตามมาประกาศตัดขาดและขอจองล้างเธอ มุนินทร์เสียใจแต่ทำไม่แยแส นพนภาป่วยหนักเข้าโรงพยาบาล
มุนินทร์เอาพวงหรีดไปเยี่ยมนพนภา แต่เมื่อเห็นสภาพนพนภาก็เปลี่ยนใจเอาพวงหรีดทิ้งไป แต่เนตรนภิศเห็นเข้ารีบเอาพวงหรีดมาวางใหม่ นพนภาเห็นเข้าอาการยิ่งทรุดลงไปอีก
มุนินทร์มีธุระเข้าโรงแรมกับเจ้านาย วีกิจสะกดรอยตามยิ่งเข้าใจผิด จากนั้นก็เห็นมุนินทร์กับอินทีเรียดีไซน์เนอร์เก๊กแมนจึงยิ่งเข้าใจผิดเข้าไปต่อว่า มุนินทร์โกรธกลับรับสมอ้าง วีกิจเข้าลวนลามเธอ เกิดการตบจูบ ด้วยความรักที่ทั้งคู่มีต่อกัน ทำให้ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน
วีกิจแน่ใจว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่มุตตา ในขณะที่มุนินทร์ก็ขมขื่นเพราะนึกว่าวีกิจรักเพียงมุตตา ไม่มีใครรักมุนินทร์ เธอบอกวีกิจว่านี่คือวันไนท์แสตนด์ และขอตัดขาดเขาตลอดไป
วีกิจสืบความกับ กริบ เพื่อนสนิท กริบได้ข้อมูลมุนินทร์และแน่ใจว่าคือฝาแฝดของมุตตา เขาพยายามบอกเจนภพและสร้อยคำ แต่ไม่มีใครเชื่อ
นพนภาออกจากโรงพยาบาล ทุกอย่างดูสงบดี ต้องเริ่มมีอาการคลื่นไส้เวลาเช้า ต่อไปรู้จักสนิทสนมกับ ก้อง ไฮโซเจ้าของนิตยสารดัง ไม่รู้ว่าไฮโซก้องหวังหลอกเคลม ประพงส์ใช้ผับของนพนภาเป็นแหล่งระบายยาเสพติดใหญ่ ตำรวจบุกเข้าทะลาย ประพงส์หนีไป นพนภาพบว่าประพงส์โกงเงินไปนับสิบล้าน ต้องตกเลือดแท้ง ความแตก นพนภาและเจนภพต่างโทษกัน
ต่อถูกก้องเคลม ต่อเอาตัวรอดมาได้และทำร้ายก้องบาดเจ็บสาหัสเกิดคดีใหญ่โต เจนภพอับอายทุบตีต่อ ต้องออกมาปกป้องน้องชาย เจนภพนพนภาคิดจะหย่า ต้อมหวาดกลัวมาก ต้องต่อเริ่มได้สติ เริ่มคืนดีเกื้อกูลกัน
เนตรนภิศผิดหวังที่เจนภพมุตตาเลิกรากันจริงๆ เธอลอบไปเอารูปนพนภา เจนภพ วีกิจ มุนินทร์ มาให้รัชนกทำเป็นภาพชุดเจนภพมุตตาแนวเวดดิ้งสตูดิโอส่งมาให้นพนภา วีกิจคิดว่าเขาเองที่ก่อกรรมกับมุนินทร์ทำให้เธอแก้แค้นไม่สิ้นสุด เขาไปหาเธอ แต่มุนินทร์ไม่ยอมพบ ลูกศรเล่าเรื่องมือปืนบุกทำร้ายมุนินทร์จนตัวตาย วีกิจจึงได้รู้ว่าทำไมมุนินทร์ถึงได้ก่อเรื่องไม่ยอมจบ
รัชนกยั่วยวนเจนภพ ทำผมแต่งตัวเป็นมุตตาพาเจนภพเข้าโรงแรมและถ่ายคลิปไว้
มุนินทร์นัดพบเจนภพเพื่อคืนสร้อยไข่มุก เนตรนภิศไปหานพนภาเอาคลิปปลอมให้ดู นพนภาคั่งแค้น เนตรนภิศส่งปืนให้ ขับรถพานพนภาไปจุดนัดพบ มุนินทร์อโหสิกรรมเจนภพ นพนภาโผล่มาจะยิงมุนินทร์ เจนภพขัดขวาง นพนภาตกบันไดลงมา มุกขาดกระจาย นพนภากลายเป็นอัมพาต
บริษัทคอมพิวเตอร์มาวางระบบที่กอง มุนินทร์มาแสดงตัว เจนภพจึงได้รู้ว่ามุนินทร์ไม่ใช่มุตตา ทุกคนงุนงง
เนตรนภิศสะใจ เธอเปิดเผยตัวพูดจาเยาะเย้ยนพนภา บอกเรื่องทั้งหมดว่าเป็นแผนการเธออย่างไร นพนภากลับเย็นลงที่รู้ว่าเจนภพไม่ได้ทรยศและเริ่มสำนึกกรรม เธอกดอินเตอร์คอมให้เนตรนภิศพูดออกอากาศ นภางค์เจนภพได้ยิน นภางค์ตัดขาดเนตรนภิศ
มุนินทร์ลางานกลับเพชรบูรณ์ วีกิจตามไปพยายามหาบ้านเธอ เจอ หมอบี หมอบีพาวีกิจไปเจอมุนินทร์ มุนินทร์พาวีกิจไปยังหลุมศพมุตตา วีกิจสะเทือนใจสุดขีด
วีกิจส่งข่าวมาหาเจนภพ เจนภพเสียใจมาก เขาไปบอกนพนภาเล่าเรื่องทั้งหมด เรื่องมุตตาท้อง ฆ่าตัวตาย การแก้แค้นของมุนินทร์ นพนภาได้สติขออโหสิกรรม
ทุกคนเดินทางไปงานศพ ขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน วีกิจบอกรักมุนินทร์ขอคืนดี แต่มุนินทร์คิดว่าเป็นแค่ความรับผิดชอบเธอปฏิเสธ
มุนินทร์เจอจดหมายขออโหสิกรรมของมุตตาต่อเธอ มุนินทร์ร้องไห้ เพราะมุตตาผู้โง่เขลากลับรู้จักคำนี้ก่อนเธอนานนัก
รัชนกมาขอเงินเนตรนภิศ ถูกเนตรนภิศขับไล่ รัชนกจึงเปิดโปงว่า อมร สามีแสนดีของเธอกับ พงศกร เพื่อนสนิทคือคู่เกย์ เนตรนภิศกลับบ้านเห็นภาพตำตาหัวใจสลาย สูญสิ้นทุกสิ่ง
เวลาผ่านไปมุนินทร์ยังคงคิดถึงวีกิจ คืนหนึ่งเธอฝันถึงมุตตา โดยมุตตามาขอให้เธอให้อภัยวีกิจ ลูกศรวางแผนกับวีกิจให้มาคุกเข่าขอโทษเธออีกครั้งหนึ่ง คราวนี้มุนินทร์ยอมรับ
วีกิจบอกว่าสำหรับมุตตาเขามีแค่ความเป็นเพื่อน แต่กับมุนินทร์เขาหลงรักเธอแต่แรกเห็น ตั้งแต่ยังไม่รู้ว่ามีมุนินทร์อยู่ในโลกนี้ด้วยซ้ำ .. จบบริบูรณ์

นักแสดง แรงเงา (rangngao star)
นักแสดง แรงเงา (rangngao star)